ครั้นอีกฝ่ายสายตาสะดุดกับเขาที่กำลังนั่งเป็นรูปปั้นตรงโซฟา ศรุตก็ตกใจตะโกนลั่น
“เฮ้ย! ไอ้รัช! แกมานั่งอยู่เมื่อไหร่เนี่ย?”
นิรัชตอบเสียงเรียบ “ก่อนแกเสร็จไม่นานหรอก”
คำว่าไม่นานของนิรัชก็คือได้เห็นหลายท่าของศรุต
เพื่อนกันก็อย่างนี้ เข้าใจกันถึงกระดูก
ทว่านอกจากไม่คิดจะเดินกลับห้องนอนเพื่อใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยอย่างคนควรอาย ศรุตยังถามอย่างสงสัย
“แล้วแกใส่ชุดนักศึกษาทำไมเนี่ย วันนี้ไม่มีเรียนนี่”
คนถูกถามเลิกคิ้ว “วันนี้ไม่มีเรียน แกก็เลยอนุญาตให้สาวขึ้นมาเอากับแกได้แต่เช้า?”
ศรุตยกมือเสยผมยุ่ง ๆ ให้เข้าที่ ยักคิ้วกวน ใบหน้าหล่อเข้มเผยแววตากรุ้มกริ่ม ก่อนเดินเข้าไปดื่มน้ำในครัวด้วยท่าทางสบายๆ ปราศจากอาการอับอาย แล้วเดินกลับไปในห้องนอน สวมเสื้อผ้าพลางคุยกับผู้หญิงในห้อง “น้องอร รีบไปเรียนก่อน ค่อยมาหาพี่ให้ช่วยคลายเหงาใหม่คราวหน้า วันนี้เพื่อนพี่เข้ามารอนานแล้ว”
“หา!”
คนนอนหงายตัวอ่อนระทดระทวยเมื่อครู่รีบดีดเด้งขึ้นมา ก่อนจะเร่งมือติดตะขอบราลูกไม้ กลัดกระดุมเสื้อ เอื้อมมือควานหาเกงเกงชั้นในสีดำที่ตกอยู่ริมเตียงอีกฝั่งมาสวมอย่างลนลาน
เธอเดินออกจากห้องนอนพลางบอกศรุตที่กำลังสวมเสื้อผ้า
“พี่รุต อรไปก่อนนะ แล้วเจอกันค่ะ”
“อืม...”
เสียงตอบรับอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่ดังไล่มาทางด้านหลัง แต่คนชื่ออรคล้ายไม่สนใจฟังและไม่สังเกตอะไร เพราะเธอกำลังสะดุดหยุดชะงักเมื่อเห็นใบหน้าหล่อร้ายของร่างสูงสมส่วนบนโซฟา
“อุ้ย! รุ่นพี่นิรัชเองเหรอคะ?”
แรกเริ่มสาวเจ้าดูตกใจ แต่แวบเดียวกลับทักทายพร้อมรอยยิ้มแพรวพราวประกายตายั่วยวน เหมือนจะให้ท่ากลาย ๆ
นิรัชหรี่ตามองอย่างไม่ชอบใจ
ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเสร็จพร้อมเจ้ารุตยังกล้าอ่อย?
คล้อยหลังฝ่ายหญิงและประตูห้องปิดลง ศรุตที่แต่งตัวด้วยชุดใหม่โดยไม่อาบน้ำก็มานั่งบนโซฟาเดียวกับนิรัชพลางถาม “แกรู้จักน้องอรเหรอ?”
คนถูกถามตอบเสียงเฉื่อยชา “เออ! เธอเป็นแฟนกับรุ่นน้องในชมรมเดียวกัน แค่เคยเห็น แต่ไม่รู้จัก เพิ่งรู้ว่าชื่ออร”
“อ่อ...มิน่า! ก็ว่าอยู่ ผู้หญิงรู้จักแกไม่แปลก แต่แปลกตรงที่แกก็รู้จักผู้หญิง ยังสงสัยว่าเป็นได้ไงวะที่แกจะรู้จักน้องอร”
ศรุตนั่งเอกเขนกด้วยท่าทางผ่อนคลายแลดูเกียจคร้าน “แต่เธอเป็นเด็กของพ่อฉันด้วยว่ะ ได้เงินใช้ไม่นานกลับถูกแม่จับได้ พวกท่านทะเลาะกันบ้านแทบแตก ฉันรำคาญจึงหนีมานอนคอนโด ส่วนเธอพ่อก็จะเลิกแหละ แต่ผู้หญิงยังตามอ้อน พ่อเหมือนติดใจ ยังแอบนัดเจอกันลับหลังแม่บางครั้ง สุดท้ายฉันเลยแกล้งจีบ เธอก็เลยตามมายั่วฉันถึงคอนโด คงคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องเธอกับพ่อ ตอนนี้คงคิดจะจับลูกชายอย่างฉันแทน มั่วได้ใจ”
นิรัชเลิกคิ้ว “แกก็มั่วเหมือนกัน อย่าดีแต่ว่าคนอื่น”
เมื่อโดนตอกหน้าหงาย ศรุตก็ไม่มีอะไรจะเถียง เขาเพียงประชดกลับ “ใครจะดีพร้อมเหมือนแกล่ะครับ พ่อศรีสยามแห่งชาติ ทำตัวรักสะอาด ไม่มีเรื่องคาวโลกีย์ ไม่มั่วผู้หญิงคนไหนเลยครับ”
คนถูกแซวด่าเสียงขรึม “พูดมาก!”
แต่คนถูกด่ายังไม่หยุดพล่าม “อยากเห็นหน้าแฟนในอนาคตของแกจริง ๆ ว่ะเพื่อน เธอจะรู้ตัวไหมว่าโชคดีขนาดไหน แต่จะว่าไป ถ้าแกเจอคนที่ถูกใจอย่าลืมพามาให้ฉันสแกนก่อนนะ”
นิรัชปรายตามองอย่างเย็นชา “สแกน?”
คนใกล้ถูกฆ่าให้ตายด้วยสายตาคมกริบรีบกระเถิบออกห่าง
“อย่าเข้าใจผิดนะเว้ย ฉันไม่ได้หมายความว่าจะพาขึ้นเตียงถวายตัวเองเพื่อตรวจสอบลีลาผู้หญิงของเพื่อนแน่นอน แค่พามาให้เห็นหน้าก็พอ จะได้บอกว่าประวัติเป็นไง เผื่อว่าเคยนอนกับฉัน แกก็รู้ว่าประสบการณ์ของฉันโชกโชนขนาดไหน แล้วผู้หญิงที่ฉันเลือกนอนด้วยทุกคนล้วนถูกคัดสรรมาอย่างดี ระดับพรีเมี่ยมทั้งนั้น ถ้าไม่ร่านสวาทมั่วผู้ชายไปทั่วจริง ๆ ไม่ได้ขึ้นเตียงกับฉันนะเว้ย”
ศรุตเขยิบกลับมา ทำหน้าจริงจัง พูดอย่างเคร่งเครียดอีกว่า
“ทุกอย่างที่ทำลงไป กระผมเพียรอุตส่าห์อุทิศตนเพื่อพิสูจน์ผู้หญิงทุกคนทั่วราชอาณาจักรให้คุณชายเพื่อนรักเลยนะครับ ไม่ต้องถึงขั้นรักษาพรหมจรรย์เอาไว้ได้จนถึงวันแต่งงานหรอก แค่ผู้หญิงคนนั้นไม่มั่วกับผู้ชายอย่างผมก็พอครับ”
นิรัชทำสีหน้าเรียบนิ่งขณะรับฟังความหวังดีบนตรรกะผิดเพี้ยนของเพื่อนพลางหยิบหนังสือรถแข่งบนโต๊ะกลางขึ้นมาอ่าน ปล่อยอีกคนได้พูดพล่ามยกหางตัวเองต่อไป
หลังเลิกเรียน ณภัทรยังไม่คิดกลับบ้าน เธอต้องการหางานพิเศษทำสักอย่างตามวิสัย แต่การนั่งรถเมล์ดูจะไม่สะดวกเท่าไหร่ จึงคิดเรียกวินมอร์เตอร์ไซค์เพื่อนั่งออกไปโบกแท็กซี่หน้าปากซอย จากนั้นค่อย ๆ ถามหางานทีละแห่งทว่าแค่เดินออกจากอาคารเรียนแต่ยังไม่ทันก้าวเท้าออกนอกอาณาเขตของคณะอักษรศาสตร์ รถยุโรปสีขาวก็มาจอดเทียบตรงทางเดินฟุตบาทณภัทรย่อมจำได้ว่าเป็นรถของใครหญิงสาวเห็นอีกฝ่ายลดกระจกลง ส่งสายตาออกคำสั่งว่าให้เข้าไปนั่งในรถแต่โดยดีคนอย่างณภัทรซึ่งเปลี่ยนใจไม่อยากเสียค่าแท็กซี่แล้วจึงรีบขึ้นรถทันทีไม่มีปฏิเสธ ทั้งยังไม่ลืมคาดเข็มขัดนิรภัยด้วยสาวน้อยแก้มใสยิ้มแฉ่งแข่งกับแสงตะวันอย่างพึงพอใจ “ดีจัง พี่รัชเลิกเรียนพร้อมภัทรเลย”นิรัชแอบยิ้มมุมปากนิดๆ แทบมองไม่เห็น ได้ยินอีกฝ่ายออกปากขอร้องพร้อมท่าทางออดอ้อนแบบลืมตัวว่า “ไปส่งภัทรสมัครงานพิเศษหน่อยได้มั้ยคะ”ชายหนุ่มไม่ตอบแต่ถามกลับขณะหมุนพวงมาลัยรถยนต์ “จะสมัครงานอะไร พนักงานร้านสะดวกซื้อหรือ?”อีกคนส่ายหน้า เธอไม่สะดวกทำงานเข้ากะกลางคืนแล้วนิรัชถามอีก “พนักงานฟาดฟู๊ดเหรอ ในห้างใกล้บ้านก็พอมี ไปดูที่นั่นก่อนไหม? เธอไม่ควรหางานไก
ทันทีที่วิชัยได้ฟังจากปากลูกชายว่าเขาจะทำงานพิเศษ ความรู้สึกตกใจก็ท่วมท้น“แกเนี่ยนะเจ้ารัช จะทำงานพิเศษ”คนถูกปรามาสกลางโต๊ะอาหารมื้อเย็นยังคงความนิ่งขรึมให้ค้างเติ่งบนใบหน้าหล่อเหลาเอาไว้ พลางตอบเสียงเรียบ “เทอมหน้าผมถึงจะได้ออกฝึกงาน เทอมนี้จึงทำงานพิเศษได้อยู่แล้วครับพ่อ”วิชัยดื่มน้ำเข้าไปอึกหนึ่งด้วยเกรงว่าตนจะสำลักกับข้าวที่เพิ่งเข้าปาก ก่อนขมวดคิ้วอย่างไม่อยากเชื่อ “ประเด็นไม่ใช่เรื่องนั้น แต่คุณชายรักสบายอย่างแกเนี่ยนะจะทำงานพิเศษ”นิรัชไม่ตอบอะไรอีก เพียงรับประทานอาหารเงียบๆบ้านของเสี่ยวิชัยทำธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ ฐานะค่อนข้างร่ำรวย เงินทองมีมากมาย นิรัชจึงไม่เคยขาดอะไร ความคิดที่จะทำงานหาเงินพิเศษด้วยตนเองจึงไม่เคยเกิดขึ้นแต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว วิชัยก็ไม่ได้คิดจะขัดขวางหรืออะไร เขาเพียงแค่รู้สึกตกใจเท่านั้น“พ่อไม่ห้ามแกทำงานหรอก แต่แน่ใจเหรอว่าจะทำงานนี้”งานนี้ที่ว่าก็คืองานแปลภาษาหนังสือวิชาการซึ่งคนอย่างนิรัชไม่ใช่พวกหนอนหนังสือและไม่ได้เรียนคณะอักษรศาสตร์เหมือนณภัทรแม้ว่าณภัทรจบมาจะทำงานด้านโรงแรมช่วยธุรกิจครอบครัวได้เช่นกัน แต่นิรัชเรียนคณะบริหารธุรกิจ ก
ในขณะที่พี่ชายอย่างนิรัชกำลังออกหน้ารับทุกความสงสัยอย่างสงบนิ่งณภัทรที่ไม่คิดจะรับผิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุทั้งหมดก็ได้แต่กินข้าวจนแน่นจุกท้องไปหมดความจริงก็คือแม้เธอจะมีพื้นฐานทางด้านภาษาค่อนข้างดี ทั้งจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส เธอได้หมด แต่ความสามารถด้านการพิมพ์สัมผัสยังอยู่แค่เกณฑ์ธรรมดาเรียกได้ว่าพิมพ์เร็วในระดับพื้นฐานผ่านงานทั้งนี้เงื่อนไขคือเธอยังเพิ่งเข้าเรียนแค่ปีหนึ่งวันแรกเท่านั้น ความน่าเชื่อถือค่อนข้างน้อยมากๆ ทางสำนักงานจึงให้เธอรอรับการพิจารณาไปก่อนซึ่งนั่นหมายความว่าหากมีคนที่ดีกว่าก็พร้อมจะเขี่ยเธอทิ้งแม้เธอจะมีลิสต์งานพิเศษที่มาร์คไว้หลายที่หลายทางให้เลือกสรรและสำนักงานแห่งนี้ยังเป็นเพียงหน้าม้าเป็นนายหน้าจัดหานักแปลภาษาให้เอเจนซี่เท่านั้น ทว่าเธอก็ยังอยากได้งานนี้มากจริง ๆ เพราะสอบถามจนรู้มาว่าเขารับงานแปลให้เอเจนซี่ต่างประเทศด้วยและสามารถรับงานมาทำที่บ้านได้อย่างสบาย ๆ ไม่ต้องไปยืนขาแข็งและเสี่ยงอันตรายด้วยการกลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆที่สำคัญลักษณะงานค่อนข้างตรงกับวิชาที่เธอเลือกเรียน ช่วยเสริมประสบการณ์ได้อย่างดีเยี่ยมแต่เมื่อถูกปฏิเสธแบบอ้อมๆ เช่นนั้นเธ
หลังจากได้งานพิเศษทำทั้งสองคนพี่น้อง ในลักษณะรับเป็นโปรเจ็กต์มาทำที่บ้าน ส่งงานตามระยะเวลาที่กำหนดวิชัยจึงลงทุนจัดโซนบ้านใหม่ด้วยการเพิ่มสัดส่วนห้องทำงานที่โถงชั้นล่างแบบโล่งโปร่งสะดวกสบายให้พี่น้องชายหญิง ทั้งยังเพิ่มจำนวนมุมทำงาน เสริมบรรยากาศ เติมเครื่องอำนวยความสะดวกในการทำงานต่าง ๆ นานา ชนิดที่ไม่ต้องเรียกหาให้เสียเวลา ถึงขนาดสร้างมุมทำงานที่ส่วนหย่อมริมสระว่ายน้ำอีกด้วย“สีเขียวของต้นไม้ สีฟ้าของสระว่ายน้ำ และอากาศที่ถ่ายเทได้ดีตลอดทั้งวันจะเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน”วิชัยกล่าวยิ้ม ๆ กับนิรัชและณภัทร โดยมีลินดาพยักหน้าเห็นด้วยทุกอย่างอยู่ข้างๆภายในใจบิดามารดาของหนุ่มสาวทั้งสอง เหตุผลเหล่านี้เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีที่สุดในการทำงานสำหรับลูกๆ เพื่อผลงานที่ทำออกมาจะได้เปี่ยมคุณภาพ ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ว่าจ้างตำหนิเอาได้ผู้ใหญ่ทั้งสองของบ้านกำลังคิดการณ์รอบคอบอย่างที่สุด เพื่อรักษาสถาบันครอบครัวให้ดีตลอดไปวิชัยกับลินดาส่งยิ้มละไมให้นิรัชและณภัทร แล้วพากันเดินไปนั่งเล่นในห้องพักผ่อนอย่างสบายอกสบายใจที่ลูก ๆ อยู่ติดบ้านช่วงวันหยุด ไม่คิดไปเที่ยวเตร็ดเตร่ไกลหูไกลตาเหมือนลูกบ้านอื่นส
งานแปลภาษาชิ้นหนึ่งถูกส่งมาวัดความสามารถแรกเริ่มของสองพี่น้องถึงสามเล่มหนาในบ่ายของวันต่อมา เป็นนวนิยายต่างประเทศจำนวนสามเล่มจบเพราะณภัทรติดเรียนช่วงบ่ายส่วนนิรัชมีเรียนแค่ช่วงเช้า คนที่ต้องขับรถไปรับงานย่อมต้องเป็นนิรัช ก่อนจะเวียนรถกลับมารับณภัทรที่มหาวิทยาลัยหลังเลิกเรียนเมื่อณภัทรได้เห็นงานในมือของนิรัชก็ไม่รอช้า เธอรีบรับมันมากอดไว้แนบอกเอียงคอเงยหน้ามองนิรัชตาแป๋วคนถูกมองด้วยสองตากลมใส รู้ความนัยที่สื่อออกมาชัดว่า ‘น้องอยากกลับบ้านเดี๋ยวนี้ พี่เข้าใจไหม?’เขาจึงรีบจับอีกฝ่ายยัดใส่รถหรูแล้วหมุนพวงมาลัยขับออกไปทันที แผนการที่คิดเอาไว้ว่าจะพาคนไปเดินเล่นหาอะไรกินสองต่อสองก็ต้องหยุดลงเมื่อกลับถึงบ้าน ณภัทรก็ไม่สนใจอะไรแล้ว เธอรีบหมกมุ่นกับนวนิยายโดยไม่เงยหน้า นั่งอ่านไปแปลไปอย่างมีความสุขสุดๆคนถูกลืมอย่างนิรัชจึงทำได้แค่นั่งมองอยู่ห่างๆ อย่างเงียบๆ แต่หงุดหงิดหนักมากชายหนุ่มยังคงจำได้ดีเมื่อครั้งแรกที่ได้เจอกับณภัทรวันนั้นเธอก็เอาแต่นั่งอ่านนิยายแล้วยังแอบหัวเราะคิกคักมีความสุขอยู่คนเดียวแบบนี้เช่นกัน ทั้งๆ ที่วันนั้นเธอควรจะทำให้เขาพึงพอใจเพื่อที่ว่าแม่ของเธอจะได้คบกับพ่อของ
ทว่าลินดากลับมีรูปลักษณ์เรียบง่าย ท่าทางเรียบร้อย แต่งตัวสมถะ และที่สำคัญเธอมีลูกติดมาด้วยหนึ่งคนซึ่งถือว่าแปลกมาก เพราะผู้หญิงของพ่อแต่ละคนโปรไฟล์ดีไม่มีรอยตำหนิ หรือต่อให้ใครมีลูกติดก็ไม่แน่ว่าเธอจะกล้าพามาด้วยในเดทแรกอย่างนี้เด็กหญิงคนนั้นมีดวงตากลมโต ผมหน้าม้าถักเปียผูกโบขาว ท่าทางสุภาพเรียบร้อย แต่งชุดนักเรียนมัธยมต้นมากับแม่ของเธอหลังจากกล่าวทักทายสวัสดีตามมารยาทและแนะนำตัว เธอก็ได้แต่เบิกตาคู่งามมองเขา สองแก้มขาวมีสีแดงเรื่อแตะแต้มตลอดเวลา และเมื่อเธอยิ้มก็จะมีลักยิ้มน่ารักปรากฏขึ้นมาสาวน้อยวัยแรกแย้มที่มาพร้อมกับดวงตากระจ่างใสคนนั้น ทำให้ใครบางคนต้องจ้องมองอย่างกับไม่เคยเห็นคนคำว่ารักแรกพบคือเรื่องที่ไร้สาระ มันไม่เคยมีอยู่จริงในความคิดของเขา แต่กลับมีคนจำนวนไม่น้อยที่มักจะพาใจของตนให้ตกบ่วงเตลิดอยู่ในภาวะจำยอมกับคำว่าอยากมี puppy love ในช่วงเรียนมัธยมกับใครสักคนเขาเองก็ไม่เว้น...ในขณะที่พ่อบอกเขาให้พาน้องไปเดินเล่นที่สวนหย่อมเพื่อที่พ่อจะได้คุยกับว่าที่แม่เลี้ยงที่ชื่อลินดาได้สะดวกเขาพยักหน้ารับอย่างที่ไม่เคยทำแล้วพาเธอไปเดินเล่นตามคำสั่งของพ่อทว่าเมื่อเขาและเธอได้นั
โซนทำงานเฉพาะกิจของบ้านปัญจรักษ์ของเสี่ยวิชัยณภัทรนั่งอ่านแล้วแปลบทความก่อนเรียบเรียงประโยค เกลาสำนวนเสร็จก็ทวนอีกสามรอบเธอทำตามสเต็ปนี้ทีละบท เพื่อส่งต่อให้นิรัชพิมพ์ด้วยความเร็วสูงจะโทษที่นิรัชพิมพ์เร็วเกินไปก็ไม่ได้ เพราะเขาพิมพ์เสร็จบทแรกแล้วแต่ณภัทรยังอ่านบทที่สองไม่จบด้วยซ้ำดังนั้น ห้องทำงานที่ควรมีภาพของพี่น้องทั้งสองคนร่วมแรงร่วมใจทำงานด้วยกันอย่างสามัคคีปรองดองจึงไม่เกิดขึ้นเพราะนิรัชพิมพ์เสร็จแค่บทแรกก็ทิ้งณภัทรเอาไว้คนเดียว ส่วนตัวเขาเดินหายไปทางโซนห้องฟิตเนสส่วนตัวซึ่งอยู่ทางหลังบ้าน แล้วไม่ออกมาอีกเลยกระทั่งวิชัยกับลินดาที่ลอบมองอยู่ถึงกับขมวดคิ้วงุนงงเพราะมาดขณะทำงานของนิรัชดูคล้ายท่านประธานบริษัทที่ไม่เคยมีพนักงานสาวตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งอยู่ในสายตาทั้งห่างเหินและเย็นชาขนาดนั้นชั่วขณะหนึ่งผู้ใหญ่ทั้งสองคนก็ให้รู้สึกไม่ใคร่จะดีนักที่พี่น้องไม่ค่อยรักกันดั่งที่ควรจะเป็น“คุณคิดว่าพวกเขาควรปรองดองกันให้มากกว่านี้ดีกว่าไหม สายตาคมกริบของเจ้ารัชจะตัดคอยัยภัทรได้อยู่แล้ว”วิชัยเอ่ยขึ้นกับลินดาขณะนั่งจิบกาแฟดูทีวียามบ่าย แล้วแอบมองสองพี่น้องอยู่ตรงมุมพักผ่อนของโ
เมื่อรถหรูของพ่อแม่แล่นออกจากประตูใหญ่ของบ้านไป นาทีทองพลันบังเกิด“อ๊ะ! พี่รัช”เรือนร่างนุ่มนิ่มเนียนลื่นภายใต้ชุดนักศึกษาถูกฝ่ามือร้อนๆ ล้วงเข้าหาแล้วลูบไล้อย่างหยอกเย้า เมื่อเธอและเขาพากันย้ายงานเข้ามาทำในห้องส่วนตัวนิรัชยันแขนคร่อมทับกักตัวณภัทรไว้กลางเตียงกว้าง เขาโน้มใบหน้าลงต่ำเข้าใกล้พวงแก้มนวลเนียน นัยน์ตาคู่ดุสีดำเข้มซึ่งคาดเดาความคิดได้ยากสะกดตรึงเธอเอาไว้ไม่ให้ขยับไปทางใดทั้งสองเปลี่ยนสถานที่ทำงานแล้วอย่างสิ้นเชิงต้นความคิดคือนิรัชที่ถือวิสาสะหอบงานของณภัทรขึ้นมาข้างบน แต่เจ้าของห้องส่วนตัวแห่งนี้คือณภัทร เธอลากนิรัชเข้ามาในห้องตัวเองเพื่อความสะดวกในการเอาตัวรอด เพราะห้องของเธอมีตำแหน่งตรงกับโรงจอดรถพอดี หากพ่อแม่กลับมาจะมีแสงไฟจากหน้ารถยนต์ส่องสว่างขึ้นมาเป็นสัญญาณให้เห็นได้ทันที“เธอควรสนใจพี่มากกว่านี้”นิรัชถามอย่างเสียงเบาแหบห้วนอยู่ริมหูของณภัทรหลังจากก้มลงกดจูบเธออย่างหนักที่ริมฝีปากก่อนลากไล้ปลายลิ้นอุ่นชื้นมาถึงเนื้ออ่อนของติ่งหูที่กำลังขึ้นสีแดงก่ำ“ก็สนใจแล้วไง อ๊ะ!”จังหวะที่ณภัทรห่อไหล่อย่างเสียวสยิว นิรัชถอดชุดเธอออกอย่างรวดเร็ว...เร็วเสียจนต
“กอดพี่ไว้”นิรัชออกคำสั่งด้วยเส้นเสียงทุ้มนุ่มลุ่มลึกอย่างคนที่กำลังระงับอาการสั่นระริกของตนเองอย่างเต็มกำลัง“ขยับเอว”ณภัทรเอื้อมมือโอบบ่ากว้างขยุ้มเสื้อของอีกฝ่ายไว้แน่นขณะที่สะโพกเริ่มขยับตอบรับเป็นจังหวะลึกลับจากปลายนิ้วที่กำลังชักเข้าชักออกแบบเร็วขึ้นแรงขึ้นอยู่ในส่วนเร้นลับของตนสาวน้อยหลับตาแหงนหน้าแอ่นกายครางกระเส่าออกมาท่าทางไร้เดียงสาอ่อนประสบการณ์แต่เร่าร้อนและเรียกร้องอย่างนั้นทำชายหนุ่มผู้กำลังแบ่งปันความรู้แทบคลั่ง“อา...พี่รัช ...ภัทรเสียว”นิรัชก้มลงจูบกลีบปากอุ่นชื้นเพื่อดูดกลืนเสียงหวานล้ำเอาไว้ราวกับว่ามันคืออาหารอันโอชาเขาสอดลิ้นลากไล้เชยชิมไปทั่วโพรงปากอย่างเอร็ดอร่อย เบื้องล่างยังเร่งเร้าจนร่างนุ่มบิดตัวเร่าๆ อย่างทรมานระคนสุขสม จนผู้กระทำยังต้องครางกระหึ่มในลำคออย่างสุดจะกลั้นเสียงลมหายใจหอบกระเส่าดังคลอเคล้าอย่างเร่าร้อนอยู่อย่างนั้นนานครู่หนึ่งแผนการสอนถูกดำเนินต่อไปภายใต้เวลาเรียนรู้อันมีจำกัด ในที่สุดผู้ใฝ่เรียนซึ่งปรารถนาที่จะรู้ถึงอารมณ์สุดยอดในรถก็บรรลุถึงสวรรค์ชั้นฟ้าจนดวงดาวในดวงตาฉ่ำหวานหรี่ปรือทั้งคู่แตกกระจายสว่างวิบวับพร่างพรายเสียงสูดปากถู
ย้อนกลับไปตอนที่นิรัชกำลังขับรถพาณภัทรกลับบ้านสาวน้อยน่ารักผู้เมาแล้วหื่นยิ่งเลื้อยหนักมือขึ้นถึงขนาดปลดกระดุมเสื้อของนิรัชออกทุกเม็ด จากนั้นยังเปิดเสื้อออกกว้างจนเผยแผงอกเปลือยเปล่าทั้งๆ ที่เขากำลังขับรถอยู่เธอทั้งจูบทั้งเลียและขบกัดคล้ายมันเขี้ยวกันมาแรมปียุ่งกับด้านบนไม่พอยังลงมายุ่งกับด้านล่าง เธอแกะเข็มขัดออกอย่างเงอะงะครู่หนึ่งกระทั่งสำเร็จก็ล้วงมือเข้าไปสะกิดสะเกาหนอนยักษ์จนกลายเป็นมังกรผงาดกล้าพร้อมพ่นไฟความใหญ่โตของมันบ่งบอกได้ว่าเจ้าของกำลังรู้สึกอย่างไร นิรัชถึงขั้นสูดปากแล้วต้องรีบเปิดไฟเลี้ยวเพื่อหาที่จอดเหมาะๆชายหนุ่มจอดรถให้หยุดนิ่งตรงริมทางปลอดคน ห่างจากแสงสว่างของโคมไฟถนน แล้วปลดเข็มขัดนิรภัยออกก่อนเอื้อมมือจับสองไหล่มนของณภัทรให้ผละออกจากความพองตัวกรุ่นร้อนที่กำลังได้รับความสนใจจากมือและริมฝีปากของเธอใช่! จากริมฝีปากของเธอ...เพื่อถูกปิดกั้น หญิงสาวมุ่นคิ้ว “พี่รัชให้ภัทรลองดูหน่อยนะ เคยอ่านในนิยายแล้วก็เคยดูในซีรีย์ต่างชาติ เขาทำกันแบบนี้ในรถ ถึงขั้นบอกว่าสุดยอดมากๆ เลย”ได้เกิดอุบัติเหตุกันพอดี!นิรัชบ่นในใจก่อนกัดกรามบ่นเสียงแหบพร่า “พี่มีเวลาให้ภัทรได้เรียน
ณภัทรถอนใบหน้าเนียนนุ่มออกแล้วกดจูบเบาๆ อีกครั้ง จูบครั้งนี้หวานละมุนนุ่มลิ้นและอ้อยอิ่งเนิ่นนาน จากนั้นก็ผละออกแล้วบ่นพึมพำอย่างคนต้องการพร่างพรูความในใจ“ใบหน้าแบบนี้รู้รึเปล่าว่าสามารถกระชากใจใครต่อใครได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่พบเห็น ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพี่รัชต้องเกิดมาเพียบพร้อมขนาดนี้ หล่อ รวย หุ่นเท่ห์ ลีลาเด็ด อะไรจะเพอร์เฟค ดีเลิศเกินเบอร์ขนาดนั้น แล้วหยั่งงี้จะให้ภัทรไว้ใจพี่รัชได้ยังไง จะให้คบกันแบบเปิดเผยรึ? โนเวซ! ไม่มีทาง! ไม่ไหวหรอกนะจะบอกให้ ไม่ไหวจะเคลียร์ค่ะ อย่าคิดว่าภัทรจะทน!”นิรัชได้ฟังถึงกับขมวดคิ้วเริ่มไม่พอใจขึ้นมาสาวน้อยบ่นจบก็ถอนหายใจอย่างคนเอือมระอาเหลือเกิน เธอก้มหน้าซุกซบแผงอกหนา แต่มือไม้ยังคงเลื้อยไปมาอย่างซุกซนเอาแต่ใจหนักกว่าเดิมเธอปลดกระดุมเสื้อของเขาถึงห้าเม็ด อีกนิดเดียวก็หลุดร่วงแล้วเธอก็ล้วงมือเข้าไปลูบๆ คลำๆ บีบขยำอย่างย่ามใจตามประสาคนเมาแล้วหื่นซึ่งแน่นอนว่านิรัชรับได้ในข้อนี้ ณภัทรเมาแล้วหื่นจริงๆ และเขาก็ชอบมากคนเมาแล้วหื่นยังคงบ่นอุบอิบแบบไม่มีกั๊ก “ถ้าเป็นไปได้ ภัทรอยากให้พี่รัชขี้เหร่มากกว่านี้ จนกว่านี้ เรียนเก่งน้อยกว่านี้ ไม่ได้เรื่อง
นาฬิกาค่อยๆ เดินอย่างช้าๆ บอกเวลาใกล้สามทุ่มแล้ว คนเมาเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ก็เริ่มเลื้อยแล้วเช่นกัน“พี่อยากรู้จริงๆ ว่าเวลาที่สามีของเราไปนอนเอากับผู้หญิงอีกคนเขารู้สึกยังไง ทำไมถึงติดอกติดใจจนลืมภรรยาที่รออยู่บ้าน” หญิงสาวสวยจัดทำท่าพะอืดพะอมก่อนเรอเอากลิ่นเบียร์ที่ดื่มลงไปพ่นออกมา ความงดงามสุดแสนจะเซ็กซี่แทบหมดสิ้นในยามนี้ “เวลาที่พี่เจมส์กำลังก้มหน้าซุกซบ กดจูบขบกัด ขึ้นคร่อมขย่มกันแล้วครางลั่นห้อง เขาคงรู้สึกรักหลงมากสินะ จึงไม่นึกถึงพี่บ้างเลย”เอมี่ถามณภัทรเสียงเบา กระซิบกระซาบกันสองคน“ถ้าเขานึกถึงพี่มี่เขาคงไม่ทำและที่เขาทำแสดงว่าเขาไม่นึกถึงพี่มี่เลย” ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักชะงักเล็กน้อยเพราะอาการสะอึกก่อนพูดต่อ “ภัทรไม่รู้หรอกว่าผู้ชายรู้สึกยังไง แต่ที่แน่ๆ พี่นั่นแหละรู้สึกยังไง ทำไมต้องใส่ใจความรู้สึกคนอื่นขนาดนั้นด้วย”“ฮึก...พี่รู้สึกเจ็บ เจ็บมาก” เอมี่ยกมือลูบหน้าอกตนเองณภัทรผงกศีรษะเนือยๆ “แสดงว่าพี่เอมี่ชอบความรู้สึกนี้ มันคงรู้สึกดีละมัง พี่ถึงได้ทนทานนานปี ไม่ยอมเลิกกับเขาสักที”เอมี่หรี่ตามอง “หากเป็นสามีของภัทรล่ะ หากว่ารักมากๆ ภัทรยังจะเลิกได้ง่ายๆ เลยเหรอ”อีกคนปร
นิรัชที่นั่งดื่มน้ำเปล่าอยู่ที่โซฟาอีกฝั่งได้แต่ถอนหายใจ พลางหันมาคุยกับโทรศัพท์มือถือที่กำลังวีดีโอคอลกับเสี่ยวิชัยอยู่“พ่อเห็นหรือยัง? ยัยภัทรกำลังเป็นศิราณีให้ยัยเอมี่อยู่ ผมชวนกลับบ้านแล้วแต่เธอไม่ยอมกลับ จึงทำได้แค่นั่งเฝ้านี่แหละ”เสียงปลายสายตอบกลับมา “อืม...พอรู้ว่าอยู่กับแกแบบนี้ คุณดาเธอก็สบายใจแล้วล่ะ แต่ห้ามเกินสามทุ่มนะ แกห้ามดื่มด้วย ดูแลน้องดีๆ ขับรถพาน้องกลับบ้านในสภาพครบสามสิบสอง...”และคำบ่นอีกยาวเหยียดที่ฟังเหมือนว่านิรัชกับณภัทรยังเป็นแค่เด็กมัธยมต้นไม่ใช่นักศึกษาที่เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว“ครับๆ รู้แล้ว”สัญญาณวีดีโอคอลถูกตัดไป นิรัชเก็บมือถือเข้ากระเป๋า นั่งขมวดคิ้วดื่มน้ำเปล่าต่อเขาตระหนักอย่างลึกซึ้งเลยทีเดียวว่าแม่เลี้ยงห่วงและหวงณภัทรมากขนาดไหนทำเอาพ่อของเขาต้องเป็นคอยกังวลตามไปด้วยก็หลายครั้งแต่อย่างว่าล่ะ มีลูกสาวน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้แบบนี้ไม่หวงได้ไงเขายังหวงเลย…กับแกล้มที่เคยวางเรียงรายเต็มโต๊ะบัดนี้เกลี้ยงทุกจาน เครื่องดื่มที่เคยมีน้ำอยู่เต็มยังหมดไปหลายขวด ศรุตที่คอแข็งยังไม่เมาง่ายๆ เริ่มพูดจาเสียงขรึมแบบจริงจัง “
นิรัช ศรุตและเอมี่คือเพื่อนซี้ที่เรียนด้วยกันตั้งแต่มัธยมจนกระทั่งทุกคนเข้ามหาวิทยาลัย เรียกว่าเติบโตมาด้วยกันก็ได้เพียงแต่มีเอมี่แค่คนเดียวที่เข้าเรียนคณะนิเทศศาสตร์ไม่ใช่คณะบริหารธุรกิจ ต่อมาเอมี่ยังพบรักกับรุ่นพี่หนุ่มหล่อที่ชื่อเจมส์ ถึงขนาดอยู่คอนโดเดียวกัน พ่อแม่ที่ต่างประเทศก็ไม่ได้ว่าอะไร พวกเขาให้อิสระเอมี่ในการใช้ชีวิตเต็มที่ เอมี่จึงไม่ค่อยมีเวลามาสังสรรกับเพื่อนสนิทอย่างนิรัชกับศรุตได้บ่อย ๆ เหมือนเมื่อก่อน สาเหตุเป็นเพราะเจมส์ขี้หึง และนิรัชยังหล่อราวเทพบุตรขนาดนั้น ศรุตยังเจ้าชู้เป็นเสือผู้หญิงขนาดนี้ณภัทรเคยเจอศรุตที่งานแต่งของแม่ แต่ไม่เคยเจอเอมี่เพราะอีกฝ่ายติดภาระกิจติดตามแฟนไปถ่ายทำซีรี่ย์ที่ต่างจังหวัดแต่เมื่อวันนี้ได้มีโอกาสเจอกันแล้ว ณภัทรยอมรับว่ากำลังตกหลุมรักรุ่นพี่สาวสุดสวยคนนี้เข้าเต็มเปา คุยกันถูกคอสุดๆ“I’ll stand by you no matter what.”เพราะเอมี่ดื่มจนเริ่มเมาแล้วจึงพูดไทยบ้างอังกฤษบ้าง ณภัทรจึงจำเป็นต้องคุยตอบโต้ตามแต่อีกฝ่ายจะพูดอะไรใส่มาเธอบอกกับเอมี่ว่าจะอยู่เคียงข้างกันอย่างนี้ทำให้คนฟังถึงกับทำตาซึ้งดึงเธอเข้าไปกอดแล้วซบหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นเ
“ไอ้รุต!” เอมี่เริ่มโวยวาย “มึงก็ดีแต่ใส่ร้ายพี่เจมส์ของกู มึงก็รู้ว่าเขาต้องทำงาน ต้องทำทุกอย่างที่ถูกสั่ง ต้องมีคอนเนคชั่น”“แล้วมึงมานั่งร้องไห้ทำไม คอนเนคซั่มอ่ะดิไม่ว่า”“ที่กูมานั่งร้องไห้อยู่นี่ก็เพราะพี่เจมส์โกรธกูเรื่องที่กูแอบไปออดิชั่นคัดเลือกนางเอกเอ็มวี เขาไม่อยากให้กูเข้าวงการ”เมื่อฟังถึงตรงนี้ ศรุตถึงกับกลอกตาเอือมระอากับความโง่ของเพื่อน “กูคิดว่าเรื่องอะไร อย่างมึงเป็นนางเอกหนังยังได้ มันคงกลัวว่ามึงจะดังกว่ามันอ่ะดิ ถึงตอนนั้นคงมีคนที่ดีกว่ามันมาจีบมึง”“ก็นั่นไง กูถึงเครียดอยู่เนี่ย กูรักพี่เจมส์ ไม่เคยมีใครเลย แต่พี่เขาไม่เชื่อ แล้วเขาก็โกรธกูเรื่องที่กูไปออดิชั่นและถูกเลือกอีก เขาหายหน้าไปเลยอาทิตย์กว่า ๆ แล้ว ไม่รับโทรศัพท์ของกูเลยมึง กูไม่รู้จะทำไงดีแล้วเนี่ย”คราวนี้ศรุตถึงกับเงียบ เขาได้แต่มุ่นคิ้วเผยสีหน้าหงุดหงิด คล้ายอยากพูดอะไรแต่ก็ไม่กล้าพูด ดูอึดอัดคับอกคับใจณภัทรที่เริ่มจับต้นชนปลายได้แล้วจึงหายโกรธใครบางคน เธอส่งยิ้มสว่างสดใสให้นิรัช เหมือนไม่เคยเกิดเรื่องเข้าใจผิดขึ้น ประมาณว่าไม่ยอมรับว่าเผลอทำผิดไปนั่นแหละนิรัชที่ก้มหน้ามองอยู่ยิ่งขมวดคิ้วไม่เข้
ชั่วขณะที่ณภัทรทั้งหึงทั้งโกรธและโทษตัวเองไม่หยุดศรุตที่เดินมาทางนี้พอดีก็ก้มหน้าขมวดคิ้วมองณภัทรใกล้ๆ “น้องภัทร” เขาย่อมจำน้องสาวคนสวยของเพื่อนสนิทได้อยู่แล้ว “ทำไมมายืนปั้นหน้ายักษ์อยู่ตรงนี้ละครับ”คนถูกทักว่าปั้นหน้ายักษ์หันมายิ้มน้อย ๆ ตามมารยาท “ภัทรมาหาพี่รัชค่ะ แต่พี่รัชกำลังยุ่งก็เลยไม่กล้าเข้าไป”“ยุ่งอะไรเหรอ?” ศรุตทำหน้างง เขาชะเง้อคอมองไปอีกฝั่งจึงได้เห็นนิรัชนั่งแนบชิดกับผู้หญิงคนหนึ่ง ดวงตาชายหนุ่มเบิกกว้างดูเถอะ! ขนาดเพื่อนสนิทยังตกใจจนตาถลน ณภัทรมองสองคนที่เก้าอี้หินอ่อนอีกครั้งแบบโกรธมากกว่าเดิมจังหวะที่หันหน้าเดินหนีเพื่อไปเรียกแท็กซี่กลับบ้านเอง เสียงเรียกก็ดังขึ้นที่ด้านหลัง“ภัทร!”เจ้าของเสียงคือนิรัชณภัทรหันหน้าไปมองนิ่งๆ เม้มปากแน่นบรรยากาศรอบตัวที่ดูแปลกๆ ของผู้หญิงคนอื่น นิรัชอาจสัมผัสไม่ได้ แต่ไม่ใช่กับณภัทร และท่าทางงอนๆ สองแก้มป่องๆ ลำตัวเหมือนจะพองลมได้แบบนี้ นิรัชยังจำได้ดีเพราะเมื่อครั้งที่เขาเผลอพูดจาร้ายๆ ใส่แม่ของเธอตอนที่เจอกันในเดทแรกของพ่อ ณภัทรก็ทำท่าแง่งอนแบบนี้เธอโกรธจนหายหน้าไปเป็นปีๆ ไม่เคยมาเจอเขาอีกเลย ถึงขั้นที่พ่อย
เธอคนนี้ชื่อชัญญ่า นอกจากเป็นพี่รหัสของณภัทรแล้ว เธอยังเป็นลูกสาวของผู้ถือหุ้นโรงแรมรายหนึ่งของเสี่ยวิชัยเคยไปร่วมฉลองงานแต่งระหว่างเสี่ยวิชัยกับลินดา จึงเคยเห็นหน้าค่าตาปัญจรักษ์ทั้งครอบครัวและที่สำคัญเธอยังแอบชอบนิรัชมากๆ ผู้ชายอะไร ทั้งหล่อทั้งเท่ห์ เป็นทายาทคนเดียวของเสี่ยวิชัยที่ร่ำรวย สมบูรณ์แบบสุดๆ ถ้าได้คบถึงขั้นแต่งงานด้วยจะดีขนาดไหนแต่เพราะยังไม่ทันได้คบหาแค่ได้เห็นหน้าในมหาวิทยาลัยแบบไกลๆ ได้เจอกันแค่ตามงานเลี้ยงหุ้นส่วนเป็นบางครั้ง ได้ทักทายตามมารยาทแค่บางคราว ยังไม่เคยได้จีบยิ่งไม่ได้เป็นแฟนกลับถูกพวกชะนีบ่างค่างเกะกะรกสายตาเต็มไปหมดพวกหล่อนเหล่านี้คืออุปสรรคขัดขวางเส้นทางไปสู่ดวงดาวอันเจิดจรัสที่ยังมองไม่เห็นของเธอชัญญ่าจึงเอ่ยปากเตือนเหล่าสาวกปีหนึ่งที่ตามเครซี่รุ่นพี่กลุ่มนี้ว่า “พวกน้องๆ ใจเย็นกันหน่อยก็ดีนะคะ ขืนทำอะไรไม่ระวัง จนน้องสาวเขาไม่พอใจขึ้นมาแล้วกลับบ้านไปฟ้องพี่รัชเข้าจะแย่เอา นิรัชน่ะ นิสัยดุร้ายมากเลยนะ หากใครทำให้โกรธละก็ไม่แน่ว่าอาจจะยกพวกมาถล่ม ต่อให้เป็นผู้หญิงนุ่มนิ่มน่ารัก ผู้หญิงดูดี ผู้ชายดุดิบหรือชะนีป่าเถื่อน เขายังต่