ครั้นอีกฝ่ายสายตาสะดุดกับเขาที่กำลังนั่งเป็นรูปปั้นตรงโซฟา ศรุตก็ตกใจตะโกนลั่น
“เฮ้ย! ไอ้รัช! แกมานั่งอยู่เมื่อไหร่เนี่ย?”
นิรัชตอบเสียงเรียบ “ก่อนแกเสร็จไม่นานหรอก”
คำว่าไม่นานของนิรัชก็คือได้เห็นหลายท่าของศรุต
เพื่อนกันก็อย่างนี้ เข้าใจกันถึงกระดูก
ทว่านอกจากไม่คิดจะเดินกลับห้องนอนเพื่อใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยอย่างคนควรอาย ศรุตยังถามอย่างสงสัย
“แล้วแกใส่ชุดนักศึกษาทำไมเนี่ย วันนี้ไม่มีเรียนนี่”
คนถูกถามเลิกคิ้ว “วันนี้ไม่มีเรียน แกก็เลยอนุญาตให้สาวขึ้นมาเอากับแกได้แต่เช้า?”
ศรุตยกมือเสยผมยุ่ง ๆ ให้เข้าที่ ยักคิ้วกวน ใบหน้าหล่อเข้มเผยแววตากรุ้มกริ่ม ก่อนเดินเข้าไปดื่มน้ำในครัวด้วยท่าทางสบายๆ ปราศจากอาการอับอาย แล้วเดินกลับไปในห้องนอน สวมเสื้อผ้าพลางคุยกับผู้หญิงในห้อง “น้องอร รีบไปเรียนก่อน ค่อยมาหาพี่ให้ช่วยคลายเหงาใหม่คราวหน้า วันนี้เพื่อนพี่เข้ามารอนานแล้ว”
“หา!”
คนนอนหงายตัวอ่อนระทดระทวยเมื่อครู่รีบดีดเด้งขึ้นมา ก่อนจะเร่งมือติดตะขอบราลูกไม้ กลัดกระดุมเสื้อ เอื้อมมือควานหาเกงเกงชั้นในสีดำที่ตกอยู่ริมเตียงอีกฝั่งมาสวมอย่างลนลาน
เธอเดินออกจากห้องนอนพลางบอกศรุตที่กำลังสวมเสื้อผ้า
“พี่รุต อรไปก่อนนะ แล้วเจอกันค่ะ”
“อืม...”
เสียงตอบรับอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่ดังไล่มาทางด้านหลัง แต่คนชื่ออรคล้ายไม่สนใจฟังและไม่สังเกตอะไร เพราะเธอกำลังสะดุดหยุดชะงักเมื่อเห็นใบหน้าหล่อร้ายของร่างสูงสมส่วนบนโซฟา
“อุ้ย! รุ่นพี่นิรัชเองเหรอคะ?”
แรกเริ่มสาวเจ้าดูตกใจ แต่แวบเดียวกลับทักทายพร้อมรอยยิ้มแพรวพราวประกายตายั่วยวน เหมือนจะให้ท่ากลาย ๆ
นิรัชหรี่ตามองอย่างไม่ชอบใจ
ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเสร็จพร้อมเจ้ารุตยังกล้าอ่อย?
คล้อยหลังฝ่ายหญิงและประตูห้องปิดลง ศรุตที่แต่งตัวด้วยชุดใหม่โดยไม่อาบน้ำก็มานั่งบนโซฟาเดียวกับนิรัชพลางถาม “แกรู้จักน้องอรเหรอ?”
คนถูกถามตอบเสียงเฉื่อยชา “เออ! เธอเป็นแฟนกับรุ่นน้องในชมรมเดียวกัน แค่เคยเห็น แต่ไม่รู้จัก เพิ่งรู้ว่าชื่ออร”
“อ่อ...มิน่า! ก็ว่าอยู่ ผู้หญิงรู้จักแกไม่แปลก แต่แปลกตรงที่แกก็รู้จักผู้หญิง ยังสงสัยว่าเป็นได้ไงวะที่แกจะรู้จักน้องอร”
ศรุตนั่งเอกเขนกด้วยท่าทางผ่อนคลายแลดูเกียจคร้าน “แต่เธอเป็นเด็กของพ่อฉันด้วยว่ะ ได้เงินใช้ไม่นานกลับถูกแม่จับได้ พวกท่านทะเลาะกันบ้านแทบแตก ฉันรำคาญจึงหนีมานอนคอนโด ส่วนเธอพ่อก็จะเลิกแหละ แต่ผู้หญิงยังตามอ้อน พ่อเหมือนติดใจ ยังแอบนัดเจอกันลับหลังแม่บางครั้ง สุดท้ายฉันเลยแกล้งจีบ เธอก็เลยตามมายั่วฉันถึงคอนโด คงคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องเธอกับพ่อ ตอนนี้คงคิดจะจับลูกชายอย่างฉันแทน มั่วได้ใจ”
นิรัชเลิกคิ้ว “แกก็มั่วเหมือนกัน อย่าดีแต่ว่าคนอื่น”
เมื่อโดนตอกหน้าหงาย ศรุตก็ไม่มีอะไรจะเถียง เขาเพียงประชดกลับ “ใครจะดีพร้อมเหมือนแกล่ะครับ พ่อศรีสยามแห่งชาติ ทำตัวรักสะอาด ไม่มีเรื่องคาวโลกีย์ ไม่มั่วผู้หญิงคนไหนเลยครับ”
คนถูกแซวด่าเสียงขรึม “พูดมาก!”
แต่คนถูกด่ายังไม่หยุดพล่าม “อยากเห็นหน้าแฟนในอนาคตของแกจริง ๆ ว่ะเพื่อน เธอจะรู้ตัวไหมว่าโชคดีขนาดไหน แต่จะว่าไป ถ้าแกเจอคนที่ถูกใจอย่าลืมพามาให้ฉันสแกนก่อนนะ”
นิรัชปรายตามองอย่างเย็นชา “สแกน?”
คนใกล้ถูกฆ่าให้ตายด้วยสายตาคมกริบรีบกระเถิบออกห่าง
“อย่าเข้าใจผิดนะเว้ย ฉันไม่ได้หมายความว่าจะพาขึ้นเตียงถวายตัวเองเพื่อตรวจสอบลีลาผู้หญิงของเพื่อนแน่นอน แค่พามาให้เห็นหน้าก็พอ จะได้บอกว่าประวัติเป็นไง เผื่อว่าเคยนอนกับฉัน แกก็รู้ว่าประสบการณ์ของฉันโชกโชนขนาดไหน แล้วผู้หญิงที่ฉันเลือกนอนด้วยทุกคนล้วนถูกคัดสรรมาอย่างดี ระดับพรีเมี่ยมทั้งนั้น ถ้าไม่ร่านสวาทมั่วผู้ชายไปทั่วจริง ๆ ไม่ได้ขึ้นเตียงกับฉันนะเว้ย”
ศรุตเขยิบกลับมา ทำหน้าจริงจัง พูดอย่างเคร่งเครียดอีกว่า
“ทุกอย่างที่ทำลงไป กระผมเพียรอุตส่าห์อุทิศตนเพื่อพิสูจน์ผู้หญิงทุกคนทั่วราชอาณาจักรให้คุณชายเพื่อนรักเลยนะครับ ไม่ต้องถึงขั้นรักษาพรหมจรรย์เอาไว้ได้จนถึงวันแต่งงานหรอก แค่ผู้หญิงคนนั้นไม่มั่วกับผู้ชายอย่างผมก็พอครับ”
นิรัชทำสีหน้าเรียบนิ่งขณะรับฟังความหวังดีบนตรรกะผิดเพี้ยนของเพื่อนพลางหยิบหนังสือรถแข่งบนโต๊ะกลางขึ้นมาอ่าน ปล่อยอีกคนได้พูดพล่ามยกหางตัวเองต่อไป
หลังเลิกเรียน ณภัทรยังไม่คิดกลับบ้าน เธอต้องการหางานพิเศษทำสักอย่างตามวิสัย แต่การนั่งรถเมล์ดูจะไม่สะดวกเท่าไหร่ จึงคิดเรียกวินมอร์เตอร์ไซค์เพื่อนั่งออกไปโบกแท็กซี่หน้าปากซอย จากนั้นค่อย ๆ ถามหางานทีละแห่งทว่าแค่เดินออกจากอาคารเรียนแต่ยังไม่ทันก้าวเท้าออกนอกอาณาเขตของคณะอักษรศาสตร์ รถยุโรปสีขาวก็มาจอดเทียบตรงทางเดินฟุตบาทณภัทรย่อมจำได้ว่าเป็นรถของใครหญิงสาวเห็นอีกฝ่ายลดกระจกลง ส่งสายตาออกคำสั่งว่าให้เข้าไปนั่งในรถแต่โดยดีคนอย่างณภัทรซึ่งเปลี่ยนใจไม่อยากเสียค่าแท็กซี่แล้วจึงรีบขึ้นรถทันทีไม่มีปฏิเสธ ทั้งยังไม่ลืมคาดเข็มขัดนิรภัยด้วยสาวน้อยแก้มใสยิ้มแฉ่งแข่งกับแสงตะวันอย่างพึงพอใจ “ดีจัง พี่รัชเลิกเรียนพร้อมภัทรเลย”นิรัชแอบยิ้มมุมปากนิดๆ แทบมองไม่เห็น ได้ยินอีกฝ่ายออกปากขอร้องพร้อมท่าทางออดอ้อนแบบลืมตัวว่า “ไปส่งภัทรสมัครงานพิเศษหน่อยได้มั้ยคะ”ชายหนุ่มไม่ตอบแต่ถามกลับขณะหมุนพวงมาลัยรถยนต์ “จะสมัครงานอะไร พนักงานร้านสะดวกซื้อหรือ?”อีกคนส่ายหน้า เธอไม่สะดวกทำงานเข้ากะกลางคืนแล้วนิรัชถามอีก “พนักงานฟาดฟู๊ดเหรอ ในห้างใกล้บ้านก็พอมี ไปดูที่นั่นก่อนไหม? เธอไม่ควรหางานไก
ทันทีที่วิชัยได้ฟังจากปากลูกชายว่าเขาจะทำงานพิเศษ ความรู้สึกตกใจก็ท่วมท้น“แกเนี่ยนะเจ้ารัช จะทำงานพิเศษ”คนถูกปรามาสกลางโต๊ะอาหารมื้อเย็นยังคงความนิ่งขรึมให้ค้างเติ่งบนใบหน้าหล่อเหลาเอาไว้ พลางตอบเสียงเรียบ “เทอมหน้าผมถึงจะได้ออกฝึกงาน เทอมนี้จึงทำงานพิเศษได้อยู่แล้วครับพ่อ”วิชัยดื่มน้ำเข้าไปอึกหนึ่งด้วยเกรงว่าตนจะสำลักกับข้าวที่เพิ่งเข้าปาก ก่อนขมวดคิ้วอย่างไม่อยากเชื่อ “ประเด็นไม่ใช่เรื่องนั้น แต่คุณชายรักสบายอย่างแกเนี่ยนะจะทำงานพิเศษ”นิรัชไม่ตอบอะไรอีก เพียงรับประทานอาหารเงียบๆบ้านของเสี่ยวิชัยทำธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ ฐานะค่อนข้างร่ำรวย เงินทองมีมากมาย นิรัชจึงไม่เคยขาดอะไร ความคิดที่จะทำงานหาเงินพิเศษด้วยตนเองจึงไม่เคยเกิดขึ้นแต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว วิชัยก็ไม่ได้คิดจะขัดขวางหรืออะไร เขาเพียงแค่รู้สึกตกใจเท่านั้น“พ่อไม่ห้ามแกทำงานหรอก แต่แน่ใจเหรอว่าจะทำงานนี้”งานนี้ที่ว่าก็คืองานแปลภาษาหนังสือวิชาการซึ่งคนอย่างนิรัชไม่ใช่พวกหนอนหนังสือและไม่ได้เรียนคณะอักษรศาสตร์เหมือนณภัทรแม้ว่าณภัทรจบมาจะทำงานด้านโรงแรมช่วยธุรกิจครอบครัวได้เช่นกัน แต่นิรัชเรียนคณะบริหารธุรกิจ ก
ในขณะที่พี่ชายอย่างนิรัชกำลังออกหน้ารับทุกความสงสัยอย่างสงบนิ่งณภัทรที่ไม่คิดจะรับผิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุทั้งหมดก็ได้แต่กินข้าวจนแน่นจุกท้องไปหมดความจริงก็คือแม้เธอจะมีพื้นฐานทางด้านภาษาค่อนข้างดี ทั้งจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส เธอได้หมด แต่ความสามารถด้านการพิมพ์สัมผัสยังอยู่แค่เกณฑ์ธรรมดาเรียกได้ว่าพิมพ์เร็วในระดับพื้นฐานผ่านงานทั้งนี้เงื่อนไขคือเธอยังเพิ่งเข้าเรียนแค่ปีหนึ่งวันแรกเท่านั้น ความน่าเชื่อถือค่อนข้างน้อยมากๆ ทางสำนักงานจึงให้เธอรอรับการพิจารณาไปก่อนซึ่งนั่นหมายความว่าหากมีคนที่ดีกว่าก็พร้อมจะเขี่ยเธอทิ้งแม้เธอจะมีลิสต์งานพิเศษที่มาร์คไว้หลายที่หลายทางให้เลือกสรรและสำนักงานแห่งนี้ยังเป็นเพียงหน้าม้าเป็นนายหน้าจัดหานักแปลภาษาให้เอเจนซี่เท่านั้น ทว่าเธอก็ยังอยากได้งานนี้มากจริง ๆ เพราะสอบถามจนรู้มาว่าเขารับงานแปลให้เอเจนซี่ต่างประเทศด้วยและสามารถรับงานมาทำที่บ้านได้อย่างสบาย ๆ ไม่ต้องไปยืนขาแข็งและเสี่ยงอันตรายด้วยการกลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆที่สำคัญลักษณะงานค่อนข้างตรงกับวิชาที่เธอเลือกเรียน ช่วยเสริมประสบการณ์ได้อย่างดีเยี่ยมแต่เมื่อถูกปฏิเสธแบบอ้อมๆ เช่นนั้นเธ
หลังจากได้งานพิเศษทำทั้งสองคนพี่น้อง ในลักษณะรับเป็นโปรเจ็กต์มาทำที่บ้าน ส่งงานตามระยะเวลาที่กำหนดวิชัยจึงลงทุนจัดโซนบ้านใหม่ด้วยการเพิ่มสัดส่วนห้องทำงานที่โถงชั้นล่างแบบโล่งโปร่งสะดวกสบายให้พี่น้องชายหญิง ทั้งยังเพิ่มจำนวนมุมทำงาน เสริมบรรยากาศ เติมเครื่องอำนวยความสะดวกในการทำงานต่าง ๆ นานา ชนิดที่ไม่ต้องเรียกหาให้เสียเวลา ถึงขนาดสร้างมุมทำงานที่ส่วนหย่อมริมสระว่ายน้ำอีกด้วย“สีเขียวของต้นไม้ สีฟ้าของสระว่ายน้ำ และอากาศที่ถ่ายเทได้ดีตลอดทั้งวันจะเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน”วิชัยกล่าวยิ้ม ๆ กับนิรัชและณภัทร โดยมีลินดาพยักหน้าเห็นด้วยทุกอย่างอยู่ข้างๆภายในใจบิดามารดาของหนุ่มสาวทั้งสอง เหตุผลเหล่านี้เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีที่สุดในการทำงานสำหรับลูกๆ เพื่อผลงานที่ทำออกมาจะได้เปี่ยมคุณภาพ ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ว่าจ้างตำหนิเอาได้ผู้ใหญ่ทั้งสองของบ้านกำลังคิดการณ์รอบคอบอย่างที่สุด เพื่อรักษาสถาบันครอบครัวให้ดีตลอดไปวิชัยกับลินดาส่งยิ้มละไมให้นิรัชและณภัทร แล้วพากันเดินไปนั่งเล่นในห้องพักผ่อนอย่างสบายอกสบายใจที่ลูก ๆ อยู่ติดบ้านช่วงวันหยุด ไม่คิดไปเที่ยวเตร็ดเตร่ไกลหูไกลตาเหมือนลูกบ้านอื่นส
งานแปลภาษาชิ้นหนึ่งถูกส่งมาวัดความสามารถแรกเริ่มของสองพี่น้องถึงสามเล่มหนาในบ่ายของวันต่อมา เป็นนวนิยายต่างประเทศจำนวนสามเล่มจบเพราะณภัทรติดเรียนช่วงบ่ายส่วนนิรัชมีเรียนแค่ช่วงเช้า คนที่ต้องขับรถไปรับงานย่อมต้องเป็นนิรัช ก่อนจะเวียนรถกลับมารับณภัทรที่มหาวิทยาลัยหลังเลิกเรียนเมื่อณภัทรได้เห็นงานในมือของนิรัชก็ไม่รอช้า เธอรีบรับมันมากอดไว้แนบอกเอียงคอเงยหน้ามองนิรัชตาแป๋วคนถูกมองด้วยสองตากลมใส รู้ความนัยที่สื่อออกมาชัดว่า ‘น้องอยากกลับบ้านเดี๋ยวนี้ พี่เข้าใจไหม?’เขาจึงรีบจับอีกฝ่ายยัดใส่รถหรูแล้วหมุนพวงมาลัยขับออกไปทันที แผนการที่คิดเอาไว้ว่าจะพาคนไปเดินเล่นหาอะไรกินสองต่อสองก็ต้องหยุดลงเมื่อกลับถึงบ้าน ณภัทรก็ไม่สนใจอะไรแล้ว เธอรีบหมกมุ่นกับนวนิยายโดยไม่เงยหน้า นั่งอ่านไปแปลไปอย่างมีความสุขสุดๆคนถูกลืมอย่างนิรัชจึงทำได้แค่นั่งมองอยู่ห่างๆ อย่างเงียบๆ แต่หงุดหงิดหนักมากชายหนุ่มยังคงจำได้ดีเมื่อครั้งแรกที่ได้เจอกับณภัทรวันนั้นเธอก็เอาแต่นั่งอ่านนิยายแล้วยังแอบหัวเราะคิกคักมีความสุขอยู่คนเดียวแบบนี้เช่นกัน ทั้งๆ ที่วันนั้นเธอควรจะทำให้เขาพึงพอใจเพื่อที่ว่าแม่ของเธอจะได้คบกับพ่อของ
ทว่าลินดากลับมีรูปลักษณ์เรียบง่าย ท่าทางเรียบร้อย แต่งตัวสมถะ และที่สำคัญเธอมีลูกติดมาด้วยหนึ่งคนซึ่งถือว่าแปลกมาก เพราะผู้หญิงของพ่อแต่ละคนโปรไฟล์ดีไม่มีรอยตำหนิ หรือต่อให้ใครมีลูกติดก็ไม่แน่ว่าเธอจะกล้าพามาด้วยในเดทแรกอย่างนี้เด็กหญิงคนนั้นมีดวงตากลมโต ผมหน้าม้าถักเปียผูกโบขาว ท่าทางสุภาพเรียบร้อย แต่งชุดนักเรียนมัธยมต้นมากับแม่ของเธอหลังจากกล่าวทักทายสวัสดีตามมารยาทและแนะนำตัว เธอก็ได้แต่เบิกตาคู่งามมองเขา สองแก้มขาวมีสีแดงเรื่อแตะแต้มตลอดเวลา และเมื่อเธอยิ้มก็จะมีลักยิ้มน่ารักปรากฏขึ้นมาสาวน้อยวัยแรกแย้มที่มาพร้อมกับดวงตากระจ่างใสคนนั้น ทำให้ใครบางคนต้องจ้องมองอย่างกับไม่เคยเห็นคนคำว่ารักแรกพบคือเรื่องที่ไร้สาระ มันไม่เคยมีอยู่จริงในความคิดของเขา แต่กลับมีคนจำนวนไม่น้อยที่มักจะพาใจของตนให้ตกบ่วงเตลิดอยู่ในภาวะจำยอมกับคำว่าอยากมี puppy love ในช่วงเรียนมัธยมกับใครสักคนเขาเองก็ไม่เว้น...ในขณะที่พ่อบอกเขาให้พาน้องไปเดินเล่นที่สวนหย่อมเพื่อที่พ่อจะได้คุยกับว่าที่แม่เลี้ยงที่ชื่อลินดาได้สะดวกเขาพยักหน้ารับอย่างที่ไม่เคยทำแล้วพาเธอไปเดินเล่นตามคำสั่งของพ่อทว่าเมื่อเขาและเธอได้นั
โซนทำงานเฉพาะกิจของบ้านปัญจรักษ์ของเสี่ยวิชัยณภัทรนั่งอ่านแล้วแปลบทความก่อนเรียบเรียงประโยค เกลาสำนวนเสร็จก็ทวนอีกสามรอบเธอทำตามสเต็ปนี้ทีละบท เพื่อส่งต่อให้นิรัชพิมพ์ด้วยความเร็วสูงจะโทษที่นิรัชพิมพ์เร็วเกินไปก็ไม่ได้ เพราะเขาพิมพ์เสร็จบทแรกแล้วแต่ณภัทรยังอ่านบทที่สองไม่จบด้วยซ้ำดังนั้น ห้องทำงานที่ควรมีภาพของพี่น้องทั้งสองคนร่วมแรงร่วมใจทำงานด้วยกันอย่างสามัคคีปรองดองจึงไม่เกิดขึ้นเพราะนิรัชพิมพ์เสร็จแค่บทแรกก็ทิ้งณภัทรเอาไว้คนเดียว ส่วนตัวเขาเดินหายไปทางโซนห้องฟิตเนสส่วนตัวซึ่งอยู่ทางหลังบ้าน แล้วไม่ออกมาอีกเลยกระทั่งวิชัยกับลินดาที่ลอบมองอยู่ถึงกับขมวดคิ้วงุนงงเพราะมาดขณะทำงานของนิรัชดูคล้ายท่านประธานบริษัทที่ไม่เคยมีพนักงานสาวตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งอยู่ในสายตาทั้งห่างเหินและเย็นชาขนาดนั้นชั่วขณะหนึ่งผู้ใหญ่ทั้งสองคนก็ให้รู้สึกไม่ใคร่จะดีนักที่พี่น้องไม่ค่อยรักกันดั่งที่ควรจะเป็น“คุณคิดว่าพวกเขาควรปรองดองกันให้มากกว่านี้ดีกว่าไหม สายตาคมกริบของเจ้ารัชจะตัดคอยัยภัทรได้อยู่แล้ว”วิชัยเอ่ยขึ้นกับลินดาขณะนั่งจิบกาแฟดูทีวียามบ่าย แล้วแอบมองสองพี่น้องอยู่ตรงมุมพักผ่อนของโ
เมื่อรถหรูของพ่อแม่แล่นออกจากประตูใหญ่ของบ้านไป นาทีทองพลันบังเกิด“อ๊ะ! พี่รัช”เรือนร่างนุ่มนิ่มเนียนลื่นภายใต้ชุดนักศึกษาถูกฝ่ามือร้อนๆ ล้วงเข้าหาแล้วลูบไล้อย่างหยอกเย้า เมื่อเธอและเขาพากันย้ายงานเข้ามาทำในห้องส่วนตัวนิรัชยันแขนคร่อมทับกักตัวณภัทรไว้กลางเตียงกว้าง เขาโน้มใบหน้าลงต่ำเข้าใกล้พวงแก้มนวลเนียน นัยน์ตาคู่ดุสีดำเข้มซึ่งคาดเดาความคิดได้ยากสะกดตรึงเธอเอาไว้ไม่ให้ขยับไปทางใดทั้งสองเปลี่ยนสถานที่ทำงานแล้วอย่างสิ้นเชิงต้นความคิดคือนิรัชที่ถือวิสาสะหอบงานของณภัทรขึ้นมาข้างบน แต่เจ้าของห้องส่วนตัวแห่งนี้คือณภัทร เธอลากนิรัชเข้ามาในห้องตัวเองเพื่อความสะดวกในการเอาตัวรอด เพราะห้องของเธอมีตำแหน่งตรงกับโรงจอดรถพอดี หากพ่อแม่กลับมาจะมีแสงไฟจากหน้ารถยนต์ส่องสว่างขึ้นมาเป็นสัญญาณให้เห็นได้ทันที“เธอควรสนใจพี่มากกว่านี้”นิรัชถามอย่างเสียงเบาแหบห้วนอยู่ริมหูของณภัทรหลังจากก้มลงกดจูบเธออย่างหนักที่ริมฝีปากก่อนลากไล้ปลายลิ้นอุ่นชื้นมาถึงเนื้ออ่อนของติ่งหูที่กำลังขึ้นสีแดงก่ำ“ก็สนใจแล้วไง อ๊ะ!”จังหวะที่ณภัทรห่อไหล่อย่างเสียวสยิว นิรัชถอดชุดเธอออกอย่างรวดเร็ว...เร็วเสียจนต
หญิงสาวก้มหน้าทำงาน พยายามไม่คิดมากอีกทว่าท้ายที่สุด เธอก็พ่ายแพ้ให้แก่หัวใจไม่รักดีของตัวเองเรียวนิ้วเปิดโปรแกรมเฟสไทม์ ทำใจดีสู้เสือโทรออกไป นานครู่ใหญ่จนเกือบจะถอดใจ ในที่สุดปลายสายก็กดรับภาพของคนคุ้นเคยสุดแสนจะคิดถึงก็ปรากฏ “ว่าไงภัทร?”หญิงสาวกะพริบตา มือบีบโทรศัพท์แน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอพยายามข่มใจไม่คิดมากกับคำถามชวนคิดมากแบบนี้“ก็ไม่ว่าไง พี่รัชทำอะไรอยู่เหรอ?”“ช่วงนี้พี่กำลังยุ่งมากเลยภัทร ไม่ว่างโทรหาเลย”คนฟังมุ่นคิ้ว เธอก็ยุ่งเหมือนกันนี่นา...หญิงสาวกำลังจะเอ่ยปากบอกไปตามตรงว่าเธอเองก็ยุ่งเหมือนกันไง ทำไมยังโทรหาเขาได้ เสียงหวานหนึ่งพลันเอ่ยแทรก“รัช...ไปกันเถอะ”เสียงของผู้หญิงไม่ผิดแน่ ณภัทรยังเห็นภาพเธอจากในโทรศัพท์ด้วย ผู้หญิงคนนั้นคือชัญญ่า...อดีตพี่รหัสของณภัทรนั่นเอง“อ้าว! น้องภัทรเหรอ? สวัสดีจ๊ะ” แค่นั้น ชัญญ่าทักทายเพียงแค่นั้น ก่อนหันไปทางนิรัช “รัช...เราไปกันเถอะ”“อืม...แค่นี้ก่อนนะภัทร”ปลายสายตัดไป ณภัทรได้แต่อึ้ง เธอเห็นภาพที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ที่นั่นคือห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ห้องเรียนแน่นอน...ธุรกิจเบเกอรี่ที่ณภัทรร่วมหุ้นกับภานียังคงไ
ระยะเวลาที่ห่างกัน จากหนึ่งวันเป็นหนึ่งเดือน จากนั้นก็เลื่อนเป็นหนึ่งปีสองปีตามลำดับ ณภัทรยังคงคิดถึงนิรัชเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเริ่มเคยชินรถซุปเปอร์คาร์สีเหลืองสดแซ่บจี๊ดวนเข้ามาจอดด้านหน้าของภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง ประตูเปิดออกโดยบริกรที่มาคอยให้บริการ สาวสวยดูดีในมาดนักธุรกิจรุ่นใหม่ค่อยๆ ก้าวเท้าลงมา เธอสวมสูทสไตล์แฟชั่นล้ำสมัย ซึ่งเป็นการรังสรรค์เสื้อผ้าอันโดดเด่นที่มีส่วนช่วยให้เกิดความประทับใจต่อผู้ติดต่อทางธุรกิจ และยังสะท้อนทัศนคติไร้ขีดจำกัดให้กับผู้หญิงยุคนี้ที่บทบาททางสังคมเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจนแตกต่างจากในอดีตเธอคือณภัทร ผู้สลัดลุคนักศึกษาสาววัยใสกลายเป็นสาวสวยมั่นใจเต็มวัย แต่งหน้าทาปากเข้มขึ้นจนมองอายุจริงไม่ออก เสื้อผ้าหน้าผมล้วนได้โมรินช่วยดีไซน์และจัดการให้วันนี้เธอต้องมาเจรจาธุรกิจแทนวิชัยสาเหตุเป็นเพราะอีกฝ่ายออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนเพลินเกินไปหน่อย กระทั่งเอวเคล็ดกระดูกเคลื่อนเล็กน้อยจนต้องแอดมิทโรงพยาบาล ในขณะที่ลินดาป่วยเข้าโรงพยาบาลไปแล้วก่อนหน้าณภัทรรู้ดีว่ามารดาของตนสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เนื่องจากต้องตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ตอนอายุน้อยอีกทั้งยังตรากตร
หญิงสาวเต้นพองาม คลอกับเพลงที่เปิดอยู่ โดยที่ไม่รู้ว่ากำลังทำให้คนอีกฝั่งแทบคลั่งนิรัชขบกราม กอบกุมแก่นกายแน่น “ดี...แบบนี้ล่ะภัทร”เธอถามเสียงกระเส่า “พี่รัชไม่ต้องไปเรียนหรือไง?”“เดี๋ยวค่อยไป มโนว่าเอากับภัทรก่อน”หญิงสาวขำพรืด “บ้า”“พี่จะกล่อมภัทรให้นอนหลับสบายไง”ณภัทรยิ่งหน้าแดง และแน่นอนเธอยินยอม“ภัทร...”“หืม...”“นิ่งพิงหัวเตียง ถอดผ้า อ้าขา”“อืม...”ณภัทรถอดชุดนอนออกเผยหน้าอกอวบสวยเด้งดึ๋งโดดเด่น นิ้วเล็กเริ่มแตะแต้มน่องขาด้านใน แหวกขอบผ้าตัวบางจิ๋วออกช้าๆ“ภัทรเริ่มแล้วนะ”จบคำมือหนึ่งก็ค่อยๆ ขยำทรวงอกอิ่ม อีกมือเลื่อนลงต่ำ กรีดเรียวนิ้วกับเนินเนื้ออุ่นชื้น ค่อยๆ สอดใส่เข้าไป“คิดถึงพี่ ภัทร...” นิรัชสั่งเสียงทุ้มลึกณภัทรรับคำเสียงหวาน “อา...พี่รัช”ภาพของคนในจอคล้ายหลุดออกมาขยี้ขยำลูบคลำเธอ อุ้งปากร้อนๆ กำลังครอบครองยอดถัน ณภัทรสูดหายใจเข้าลึกยาว เมื่อความรู้สึกร้อนผ่าวจากส่วนสงวนชื้นแฉะกลางกายแล่นไปทั่วตัวตามปลายนิ้วที่เริ่มระรัว เธอรู้สึกเสียวนิรัชก็เช่นกัน เขารูดแก่นกายขึ้นลง สูดปากเบาๆ“อ้าขาอีกสิครับ”“อืม...พี่รัชอ่ะ”เธอแยกขากว้างขึ้นเพื่อเขา“พี่กำลั
ปลายฝนต้นหนาว สายฝนนอกหน้าต่างยังคงสาดซัด สร้างความหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจในห้องนอนส่วนตัว ณภัทรยังคงสะอึกสะอื้นนั่งขดตัวอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำการบ้านโดยมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คอยู่เป็นเพื่อนเอกสารงานแปลไม่ได้มากมายอะไรเธอทำเสร็จแล้วทั้งหมดแค่รอส่งเท่านั้น ทุกอย่างจึงถูกจัดเก็บเรียบร้อยเมื่อร้องไห้คิดถึงนิรัชจนเหนื่อยล้าก็รีบปาดน้ำตาก่อนฝืนใจกินข้าวสองสามคำ จากนั้นก็นำลงไปเก็บที่ครัว แล้วหมุนตัวขึ้นห้องนอนอย่างรวดเร็วเธออยากอยู่คนเดียวหญิงสาวอาบน้ำ สวมชุดนอนกระโปรงตัวเก่ง มุดเข้าผ้าห่ม พยายามข่มตาหลับให้ลงเหมือนเช่นเคยทว่าก็ไม่เคยหลับลงสักทีเข็มนาฬิกาเดินทางมาค่อนข้างดึกมากแล้ว ณภัทรยังคงพลิกตัวไปมาอยู่ใต้ผ้าห่มที่ไม่เคยอุ่นอีกเลยตั้งแต่ใครบางคนจากไปจังหวะนั้นใครบางคนก็เฟสไทม์มา เธอรีบกดรับอย่างเร็ว ทว่าพูดอะไรไม่ออกสักคำ“ภัทร...”เสียงทุ้มนุ่มดังมาจากปลายสาย ส่งผลให้น้ำใสที่แห้งไปแล้วเริ่มเอ่อคลอตรงขอบตากลมอีกครา“พี่...”เสียงเธอเจือสะอื้นเล็กน้อย ทั้งๆ ที่เพียรสะกดกลั้นเอาไว้ แต่มันยากเกินไป “พี่รัช...”น้ำเสียงแบบนี้ของณภัทร ทำเอาความเงียบพลันปกคลุมรอบด้านอยู่อึดใจใหญ่ ส่งผ
ทุกวัน ณภัทรมักจะเห็นทุกสิ่งเป็นร่องรอยของคนคุ้นเคยอยู่ตลอดเวลาทุกกิจกรรม ทุกการกระทำ ทุกซอกทุกมุมที่กวาดตามอง ยิ่งนานยิ่งติดตรึงในความทรงจำที่โซฟาห้องนั่งเล่น ร่างสูงโดดเด่นมักจะพักผ่อนอยู่ตรงนั้น เขามองมาทางเธอด้วยสองตาดำจัดคมดุที่คนอื่นมองไม่ออกว่ามีความนัยอะไรในสระว่ายน้ำสีคราม สัดส่วนสมบูรณ์แบบที่เปิดเปลือยเผยมัดกล้ามตึงแน่นล่อตาลวงใจที่เขาชอบทำที่โต๊ะอาหาร เขามักกินข้าวแค่เงียบๆ น้อยครั้งถึงจะพูดจา ทว่าก็มักจะคอยมองเธอว่ากินอิ่มหรือยัง จะได้ไปเรียนพร้อมกันยังมีมุมโต๊ะทำงาน หน้าจอคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น... คนตัวโตมักจะมีสีหน้าเรียบเฉย นั่งฟังเธออ่านบทความอย่างเย็นชาเพื่อรอพิมพ์เอกสาร ยามที่เธอกำลังอ่านบทความ สายตาของเขาคล้ายไม่ใส่ใจอะไรรอบกายเลย ทว่าสมาธิทั้งหมดกลับตกอยู่ที่เธอ ตั้งใจฟังแค่เพียงน้ำเสียงของเธอณภัทรเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเรื่องสมัครงานพิเศษวันนั้นเป็นเพราะนิรัชหวังจะได้อยู่กับเธอสองต่อสอง มีเวลาทำอะไรๆ ร่วมกัน โดยไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตต่อพ่อกับแม่ให้เธอต้องลำบากใจยังมีเรื่องที่พาไปเที่ยวทะเล เขาต้องหาสารพัดวิธีเพื่อที่จะพาเธอไปได้อย่างถูกต้องแต่กว่าจะไ
แต่ไม่ว่าจะมีใครมาบอกเธอยังไง คนที่ทำให้เธอหวั่นไหวและเชื่อใจได้กลับมีเพียง...นิรัช...พี่ชายตามกฎหมายคนนี้คนเดียวณภัทรรักนิรัชแค่คนเดียวเท่านั้น ทว่าความรักสำหรับเธอไม่ใช่การยึดติดปิดกั้นหรือครอบครองเอาไว้ข้างกายตลอดเวลา แต่เป็นการมองคนรักด้วยความหวังดีตลอดไปต่างหากหญิงสาวค่อยๆ กล่อม “พี่รัชฟังภัทรนะ คนเรายังต้องเผชิญอีกหลายเหตุการณ์ระหว่างเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มันไม่ใช่ปัญหาแค่มือที่สามมือที่สี่ที่จะเข้ามาแทรกกลางระหว่างเรา แต่มันอาจมีปัญหามากมายรุมเร้า ซึ่งนั่นก็มากพอที่จะทำให้ชีวิตคู่พบทางตัน กระทั่งต้องหันหลังคุยกัน เกราะป้องกันที่ดีคือต้องฝึกฝนแก้ปัญหาเอาไว้แต่เนิ่นๆ ไม่ต้องรอจนความรักเดินทางมาไกลเกินแก้ไข”นิรัชอึ้งงัน ได้ยินเสียงใสกังวานอ่อนหวานแต่หนักแน่นว่า “ภัทรขอสัญญาจะรอพี่รัชอยู่ตรงนี้ เป็นความมั่นคงของพี่ตลอดไป ไม่ว่าพี่ต้องเจอกับปัญหาอะไร หันมาก็จะเจอภัทรเสมอ ตกลงไหม”ณภัทรเป็นคนที่ไม่เคยเชื่อเรื่องคำสัญญา เธอนำพาชีวิตให้อยู่กับปัจจุบัน ตั้งมั่นบนโลกความจริงในแต่ละวันตามหลักการและเหตุผลอันสมควร ไม่ใช้อารมณ์ฝันเฟื่องอย่างเรื่องลมปากที่พ่นออกมาพร้อมกับคำว่า ‘สัญญ
ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง...คนสองคนที่ทะเลาะกันแทบตาย สุดท้ายก็นอนกอดกันอย่างหมดเรี่ยวแรง เหลือเพียงรสสัมผัสหวามไหวติดค้างชายหนุ่มครางเบาๆ ขยับลึกอีกครั้งก่อนค่อยๆ ถอดถอนตัวตนแผ่วช้า เหงื่อซึมทั่วร่างหนา หยาดไหลร่วมกับร่างบางอ่อนนุ่มหลังจากลมหายใจร้อนๆ กลับมาเป็นปกติ นิรัชถึงได้จูบซับหยดเหงื่อระเรื่อยไปตามข้างขมับให้ณภัทรสาวน้อยปรือตาฉ่ำเยิ้มมองคนขี้งอน “หายโกรธหรือยัง?”“ยัง!”เสียงทุ้มพร่าติดจะแหบห้วนอยู่มาก นิรัชกระชับอ้อมแขนกอดคนตัวนุ่มแน่นขึ้นไม่คิดปล่อยความหวงแหนก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรงในทุกวัน ความรู้สึกเป็นเจ้าของก็เช่นกัน ณภัทรทำนิรัชแทบคลั่งได้ทุกครั้งแค่ก้มมองแล้วถ้าเธอไม่ได้อยู่ในสายตา ถ้าไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้กอด...คำถามแสนง่ายแต่กลับยากมากที่จะหาคำอธิบายมาบรรยายความรู้สึกแค่นึกภาพว่าสิ่งสำคัญที่สุดได้ขาดหายไปในชีวิตประจำวัน แค่นั้นความอึดอัดทรมานที่ยากจะเอ่ยก็กดทับจนหายใจไม่ออกชายหนุ่มกำลังคิดว่า หากเขาต้องอยู่ห่างเธอคนละฟากฟ้าก็โปรดกรุณาเอามีดมาเฉือนหัวใจเขาแทนเถอะ!ณภัทรย่อมเข้าใจนิรัชเป็นอย่างดี ได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้จะไม่เข้าใจได้ยังไง ทว่าเธอก็ยังต้องปล่อยเขาไปเรียนต
แต่ช่วงหลังมานี้ณภัทรกินยาคุมอย่างเคร่งครัด จึงอนุญาตให้นิรัชได้ทำตามใจเป็นบางครั้ง เธอย่อมไร้กังวล“ภัทรทำอะไร?”หญิงสาวถามอย่างใสซื่อ เธอไม่รู้สึกรู้สาว่าได้ปล่อยระเบิดใส่อีกฝ่ายในเรื่องสนับสนุนให้เขาไปเรียนต่อทันทีที่เรียนจบตรีคนถูกถามสะกดเธอไว้ด้วยนัยน์ตาลุ่มลึกในระยะประชิด “ภัทรรู้ดีว่าพี่ต้องการรออีกสองปีเพราะอะไร”แน่นอนว่าการไปเรียนต่อเมืองนอกจะอย่างไรก็ต้องเกิดขึ้น วิชัยกำหนดเอาไว้ตายตัวตั้งแต่ลูกชายสุดรักอายุไม่เท่าไหร่ด้วยซ้ำ คำพูดโต้แย้งของนิรัชจึงไม่ควรมีแต่แรก และณภัทรก็ไม่มีความคิดที่จะรั้งเขาเอาไว้อย่างเห็นแก่ตัว เธอต้องมองให้ทั่วๆ ไม่ใช่แค่ตัวเอง อนาคตของปัญจรักษ์ขึ้นอยู่กับทายาทสายตรงหนึ่งเดียวอย่างนิรัช“ภัทรรู้ แต่...อ๊ะ! พี่รัช เบาๆ”คนกดกระแทกด้วยความมันเขี้ยว ส่งเสียงทุ้มพร่า “รู้? แล้วทำไมไม่ช่วยกันพูด”“จะให้ช่วยพูดอะไร? อื้อ...”น้ำเสียงแม้สั่นเครือเพราะความเสียวรุมเร้า แต่ประโยคที่เอ่ยหนักแน่นและจริงจัง “พี่รัชก็แค่รีบไปเรียนแล้วก็รีบกลับมา”“ห้าปี...” รวมเรียนและฝึกงานอยู่ต่างประเทศตามกำหนด “ไม่ต่ำกว่านั้นแน่...” ห้าปีทีเดียวไม่ใช่ห้าวันหรือห้าเดือน“มันนา
แม้เรื่องผู้หญิงจะเคลียร์จนสะอาดเรียบไปแล้ว ทว่านิรัชยังคงมีเรื่องค้างคาใจกับณภัทร ซึ่งไม่อาจคลีนโดยง่าย ดังนั้นทันทีที่สาวน้อยเดินขึ้นบันไดชั้นสองแล้วเลี้ยวขวา ข้อมือเล็กพลันถูกฝ่ามือใหญ่จับกระชากแล้วลากเข้าห้องมา“อ๊ะ! พี่รัช!”เสียงอุทานเกิดขึ้นแผ่วเบา เพราะไม่ต้องการให้ใครได้ยิน แต่คิดอีกทีก็คงไม่มีใครได้ยินหรอก เนื่องจากพี่แววกับป้าแหวนกลับเรือนพักด้านหลังแล้วเรียบร้อย พ่อกับแม่ก็อยู่ในห้องนั่งเล่นข้างล่าง และฝนข้างนอกยังตกหนักซะขนาดนี้“มีอะไร? ลากภัทรเข้าห้องพี่มาทำไมเนี่ย”คำตอบที่ได้รับคือริมฝีปากนุ่มชื้นกับลมหายใจอุ่นจัดที่ประกบแนบชิดอย่างร้อนแรงแฝงความเอาแต่ใจ พร้อมด้วยอารมณ์เคืองขุ่นที่ปะทุอัดแน่นคล้ายระเบิดเวลาและตอนนี้ระเบิดเวลาที่ว่าถูกเปิดสลักดังตูมแล้วนิรัชจูบณภัทรแนบแน่นอย่างเข่นเคี้ยวเขี้ยวฟัน จับเธออุ้มจนตัวลอยมาโยนลงบนเตียงกว้างแล้วโน้มตัวลงคร่อมทับอย่างเร็ว กักคนตัวเล็กไว้ตลอดแนวร่างกาย“พี่รัช ทำอะไร ที่นี่บ้านนะ ไม่ใช่เพ้นท์เฮ้าส์”สาวน้อยตกอกตกใจยกใหญ่ ดิ้นขลุกขลักไปมา ทว่าไม่อาจรอดพ้นอ้อมแขนแข็งแรงได้นาทีนี้นิรัชกำลังโกรธจนหน้ามืดแล้วจริงๆ ทำไมยัยตัวยุ่งข