หลังจากนั้น คนที่สบายใจสบายหูที่สุดเห็นจะเป็นศรุต เพราะไม่มีใครส่งเสียงใกล้ๆ ให้ปวดหัว
เนื่องจากเอมี่ถูกเควินพาตัวไป ‘ไถ่โทษ’ โดยการเป็นไกด์จำเป็นพาเขาเที่ยวทั่วเกาะจนจบทริป
แน่นอนว่าเควินคนนี้ไว้ใจได้โดยมีนิรัชการันตีให้แล้วอย่างดี ไม่มีทางพาเอมี่เข้าโรงแรมม่านรูดอย่างที่ณภัทรกังวลจนบ่นไม่หยุด
ศรุตรีบเอ่ยสำทับ “ไอ้มี่มันเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว น้องภัทรไม่ต้องห่วงมันมากนักหรอก”
ณภัทรจึงหยุดบ่นทำได้แค่ถลึงตามองนิรัชจนแก้มกลมใสบวมเป่งไปหมด
เวลาเธองอนก็จะพองลมได้แบบนี้ น่ารักน่าชังเสียจนนิรัชต้องกลั้นยิ้มจนปวดกราม กลัวว่าใครบางคนจะลอยละลิ่วไปไกลเพราะอาการพองลมนั้นอาจจะโต้ลมชายทะเลเอาได้ จึงจับเธอกดลงบนเก้าอี้ไม่ให้ขยับไปทางใดได้ทั้งสิ้น
ตอนนี้ทั้งสามกลับมานั่งดื่มกินอยู่ริมชายหาดเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเอมี่ไม่อยู่แล้ว
อากาศยามบ่ายสี่โมงยังคงดีอยู่มาก แสงแดดสว่างเจิดจ้าไปทั่วทั้งทะเลซึ่งมีสีครามกลมกลืนกับท้องฟ้าด้านบน
ขณะที่ณภัทรกำลังนั่งแก้มแดงปลั่งอยู่กับนิรัช เสียงทักทายอันสดใสก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“สวัสดีจ๊ะภัทร”
เจ้าของชื่อหันมองจึงได้เห็นหญิงสาวสามคนเดินตรงเข้ามา
แต่ละคนมีรอยยิ้มหวาดหยดประดับบนใบหน้าที่แต่งแต้มแบบจัดเต็ม ทั้งยังแต่งตัวด้วยชุดทูพีชชนิดที่ศรุตยังต้องขมวดคิ้ว ซึ่งไม่ใช่การมองจนตาค้างอย่างที่ควรจะเป็น
พวกเธอเผยเนินอกกลมเด่นเต่งตึงกับสะโพกผายที่เกือบเปิดเปลือย ปิดส่วนสำคัญแค่เล็กน้อยทั้งส่วนบนและส่วนล่างเท่านั้น
ราวกับโผล่ออกมาจากนิตยสารปลุกอารมณ์เสือป่าซึ่งขัดกับภาพลักษณ์ที่ณภัทรเห็นจนชินตาในมหาวิทยาลัยอย่างสิ้นเชิง
ณภัทรกะพริบตา ไล่มองที่ละคน เธอจำได้ ทั้งสามคนนี้คือนักศึกษาปีหนึ่งซึ่งเรียนคลาสเดียวกัน ชื่อแอม น้ำหวาน และมะนาว
คนแรกที่ชื่อแอมออกแนวน่ารักสดใสสีหน้าท่าทางบ้องแบ๊วและไร้เดียงสา คนชื่อน้ำหวานเรียบร้อย ท่าทางสุภาพนุ่มนวลมาก ส่วนคนที่ชื่อมะนาวจะออกแนวนิ่งๆ เงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร
“มาเที่ยวทะเลเหมือนกันเหรอภัทร” แอมถามณภัทรพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร แต่สายตากลับมองไปทางนิรัช
“อืม...”
ณภัทรตอบรับเสียงหนึ่ง เธอไม่ได้คิดว่าตนเองสนิทสนมกับสามสาวกลุ่มนี้สักเท่าไหร่ ได้แต่แปลกใจว่าทำไมพวกหล่อนชอบมาวุ่นวายกับเธอนัก โดยเฉพาะเวลาก่อนเข้าเรียนและหลังเลิกเรียน เหมือนจะบังเอิญเจอกันแต่ก็ไม่ใช่ เหมือนจะเข้ามาตีสนิทก็ไม่เชิง เพราะในชั่วโมงเวลาเรียนแทบจะไม่ได้คุยกันเลย
ณภัทรคิดสงสัยในใจโดยลืมไปว่าช่วงเวลาก่อนเข้าเรียนกับหลังเลิกเรียนคือเวลาที่นิรัชไปส่งและไปรับเธอถึงหน้าตึกเรียน
แอมถามอีก “ภัทรพักที่รีสอร์ทนี้เหรอ? บังเอิญจังเลย” หญิงสาวถามณภัทรแต่สายตายังมองนิรัชเหมือนเดิม หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าแอบส่งยิ้มให้นิรัชด้วย ก็เหมือนทุกครั้งที่บังเอิญเจอณภัทรกับนิรัชช่วงเช้ากับช่วงบ่ายในมหาวิทยาลัยนั่นแหละ
ขณะถาม แอมยังปรายตากวาดมองไปรอบๆ “ใช่รีสอร์ทนี้โซนฝั่งนั้นหรือเปล่า พักรีสอร์ทเดียวกันเลย บังเอิ๊ญบังเอิญเนอะ”
“อืม...” คนถูกถามยังคงตอบรับเสียงเรียบ
“ดีจริง ให้พวกเรานั่งด้วยได้ไหม?” ครั้งนี้เป็นมะนาวที่ถามหลังจากที่เงียบอยู่นาน
ณภัทรยังไม่ทันตอบ ทั้งสามคนก็นั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ว่างอยู่
หลังจากนั้นก็ชวนคุยแบบส่งเสียงเจื้อยแจ้วสดใสให้ณภัทรแต่สายตามองนิรัชเป็นระยะๆ
ณภัทรเองก็ไม่อยากให้ใครเสียหน้า เธอก็เลยสนทนาถามตอบไปเรื่อยๆ ตามประสาเพื่อนร่วมคลาสเรียน
โดยขณะที่เธอหันไปสนใจพูดคุยกันคนหนึ่ง จะมีอีกคนแอบชำเลืองมองนิรัชตลอดเวลา แต่เมื่อเธอหันมาสนใจใครคนนั้น อีกคนก่อนหน้าก็จะลอบส่งยิ้มหวานๆ ให้นิรัช ยังมีอีกคนที่แอบส่งยิ้มยั่วๆ ให้ศรุตอีกด้วย
กระทั่งคนถูกมองบ่อยกว่าเริ่มขมวดคิ้ว ส่วนศรุตยังเริ่มสงสัยว่าเพื่อนของณภัทรตั้งใจมาทักทายใครกันแน่
สาวๆ กลุ่มนี้ทำเอาผู้ชายเจ้าชู้คนหนึ่งถึงขั้นกามตายด้านชนิดฉับพลัน ศรุตถึงกับเลิกสนใจโดยการเอนหลังพิงพนักเก้าอี้พร้อมเอาหนังสือรถแข่งปิดหน้าแกล้งหลับ
และแล้วคนหนึ่งก็เริ่มเข้าเรื่อง “ภัทรมากับพี่ชายเหรอ? ไม่เห็นแนะนำบ้าง รุ่นพี่คะ สวัสดีค่ะ”
ณภัทรปรายตามองนิรัชแวบหนึ่ง เธอไม่ได้ใสซื่อถึงขนาดไม่รู้อะไร แต่แค่ไม่พูดออกไปตรงๆ เท่านั้น
“พวกเธอยังต้องให้แนะนำเหรอจ๊ะ? ไม่ใช่ว่ารู้อยู่แล้ว? จะตอแหลทั้งทีก็ให้มันเนียนหน่อยเหอะ”
เจ้าของเสียงเป็นผู้มาใหม่ ทุกคนหันหน้าไปมองพร้อมกัน จึงได้เห็นสาวสวยคนหนึ่งใส่แว่นกันแดดอันใหญ่ยืนกอดอกมองมา ท่าทางเชิดๆ หยิ่งๆ แต่งตัวแซ่บซี๊ด โดยไม่ต้องใส่ทูพีช
เธอคนนี้คือคนเดียวกับที่ศรุตแอบมองเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน คนที่แต่งตัวเซ็กซี่เปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟันคนนั้น
ผู้หญิงคนที่ทำให้ศรุตแข็งตื่นตัวตั้งแต่ระยะหลายเมตรคนนั้น
ศรุตเปิดหนังสือที่ปิดหน้าออกโดยสัญชาตญาณ ก่อนจะเบิกตามองแบบนิ่งค้างเธอคนนี้พูดจาเหน็บแนมสามสาวที่พากันนั่งเบียดณภัทรอีกประโยค “ไม่ใช่ว่าหวังเคลมพี่ชายคนอื่นอยู่รึไง ถึงได้ทำทีตีสนิทน้องสาวเขาซะขนาดนี้ ต้องมั่นหน้ามั่นโหนกขนาดไหนเนี่ย?”เนื่องจากนิรัชเป็นหนุ่มหล่อเบอร์ต้นๆ ของมหาวิทยาลัย จึงไม่มีใครไม่รู้จักและเพราะเขาเป็นที่รู้จักไปทั่ว ณภัทรจึงพลอยถูกรู้จักไปด้วยว่าเป็นน้องสาวของเขาดังนั้นการตีสนิทหรือทำทีให้แนะนำตัวเพื่อชวนคุยแบบนั้น จึงเป็นการเสแสร้งเห็นๆจงใจเข้าหาพี่ชายโดยใช้น้องสาวเป็นเครื่องมืออย่างไรก็ตาม ผู้หญิงที่เซ็กซี่เข็ดฟันคนนี้ก็เป็นที่รู้จักเช่นกัน เธอชื่อโมหรือโมริน เป็นดาวคณะปีหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าร้ายพอตัว ฉายาแซ่บเกินเบอร์ แค่ปรายตามองด้วยสายตาจิกกัดก็ทำคนอื่นแทบไม่กล้าเฉียดใกล้ ยังมีข่าวลือออกมาว่าเธอเป็นพวกตัวอิจฉา ชอบแย่งซีนไปทั่ว มั่วไปหมดไม่ว่าใครเป็นใครและที่ร้ายสุดๆ คือชอบอ่อยแฟนชาวบ้าน มีผู้ชายหลายคนที่เข้าหาหล่อน บางคนถึงขนาดแอบนอกใจแฟนที่คบหากันมานานเพื่ออยากจะเข้าไปตีสนิทกับโมริน อยากสานสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอ จนพวกผู้หญิงด้วยกันเกลียดเธอจนเลือดข
ณภัทรกับโมรินสนิทกันตั้งแต่เรียนอยู่มัธยมต้นจนเรียนจบมัธยมปลายเธอสองคนส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเฉพาะช่วงเวลาเรียน แต่พอเลิกเรียนต่างคนก็ต่างมีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อที่บ้าน คือทำงานพิเศษตามแต่ถนัดไปด้วยเรียนไปด้วย จึงไม่เคยนัดเจอหรือสังสรรค์นอกรอบเลยสักครั้ง เมื่อขึ้นมหาวิทยาลัยยังเลือกเรียนคนละคณะ ณภัทรเรียนอักษรศาสตร์ แต่โมรินเรียนศิลปะศาสตร์เกี่ยวกับการออกแบบแฟชั่น โอกาสที่ได้เจอกันจึงแทบไม่มีทว่าเพื่อนอย่างไรก็ยังเป็นเพื่อน ต่อให้ไม่ได้เจอหน้ากันเลยเป็นเวลาหลายปี เมื่อเจอกันอีกทีก็ยังสนิทกันเหมือนเดิม‘ยัยแก้มกลม’ คือชื่อที่โมรินเรียกเพื่อนที่แม้ไม่สวยจัดจ้านแต่น่ารักเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้อย่างณภัทรแค่คนเดียวหลังจากณภัทรเล่าให้ศรุตฟังจนจบจึงได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งทำสีหน้าเคลิบเคลิ้มกรุ้มกริ่มขั้นวิกฤต“พี่รุต ชอบโมเหรอ?” ณภัทรถามหยั่งเชิงเพื่อความแน่ใจ ทั้งๆ ที่ก็เห็นๆ กันอยู่เต็มสองตาศรุตไม่ตอบแต่ถามกลับ “โมมีแฟนหรือยัง พี่จีบได้ไหม?”ณภัทรไม่ได้ตอบเพราะไม่ได้เจอกันนานเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน ทว่าปกติแม้โมรินจะมีนิสัยร้ายกาจไปบ้าง เป็นมือตบประจำโรงเรียนบ่อยๆ ชอบกราดเกรี้ยวไปทั่ว แ
จังหวะนั้นแอมกับมะนาวหันมาทางโมรินทั้งสองตรงเข้ามาทางโมรินด้วยท่วงท่าชัดเจนว่าจะรุมขณะที่แอมดึงแขนโมรินและมะนาวเงื้อมมือขึ้นตั้งท่าจะตบ ณภัทรพลันวิ่งออกจากที่หลบหลังพุ่มไม้ ตรงเข้าไปผลักมะนาวจนกระเด็นล้มก้นจ้ำเบ้ากระแทกพื้นอย่างแรง ก่อนหันมากระชากผมของแอมแล้วเหวี่ยงออกอย่างเร็วจนอีกฝ่ายกระเด็นไปอีกคนกระถางต้นไม้แถวนั้นล้มระเนระนาด เสียงกรีดร้องดังระงมอย่างแตกตื่นตกใจจากแอมกับมะนาว ขณะที่พวกเธอยังไม่ทันตั้งตัว ณภัทรก็ตรงเข้าไปจับหัวพวกหล่อนโขกกัน กระชากผมให้แหงนจนหน้าหงายและโขกกันอีกหลายทีจนเสียงดังปึกๆดาวพร่างพราวเลยจ้า หัวโนไปตามๆ กันหนึ่งต่อสองต้องลอบกัดแบบนี้แหละโมรินที่เกือบเสียท่าได้แต่ยืนอึ้งหลังจากหายมึนทุกคนก็หันมองณภัทรเป็นตาเดียวสาวน้อยผู้มาใหม่ยืนคู่กับโมริน จ้องสองสาวที่พื้นหญ้าเขม็งแอมจุกจนลุกไม่ขึ้น เป็นมะนาวที่ลุกขึ้นแล้วชี้หน้าณภัทร “ที่แท้เธอก็พวกเดียวกับยัยบ้านี่เหรอ?”“โธ่เอ๊ย! เห็นเรียบร้อยน่ารัก ที่แท้ก็แอ๊บแบ๊ว” แอมสบถมะนาวหันมาเสริม “กูว่าแล้ว ยัยภัทรนี่ต้องแอบร้ายมากๆ ไม่แน่คงคิดไม่ซื่อกับรุ่นพี่นิรัชด้วยแหละ แค่พี่ชายตามกฎหมายใช่มั้ยล่ะ เห็นนั่งชิดกั
เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในสวนหย่อมของร้านอาหารนั้น ถูกกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้ทั้งหมด ปัญหาจึงบังเกิดเรื่องชู้สาวเสื่อมเสียผัวใครเมียใครผู้จัดการร้านไม่ได้สนใจ เขาสนใจแค่ความเสียหายที่เกิดขึ้นจึงเรียกร้องกับผู้ก่อเหตุซึ่งก็คือโมรินกับณภัทรแน่นอนว่าเมื่อมีณภัทรเข้ามาเกี่ยวข้อง นิรัชจึงต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด...ก็แฟนทั้งคนถ้าเขาไม่ดูแลใครจะทำล่ะหลังจากถูกนิรัชบ่นจนหูชาไปแล้วยกหนึ่ง ณภัทรจึงถูกพากลับบ้านพักด้วยกิริยาสงบเสงี่ยมขึ้นในขณะที่โมรินเห็นว่าความเสียหายได้รับการไกล่เกลี่ยและเคลียร์เรียบร้อย จึงจับจูงมือณภัทรไปท่องราตรีที่ผับหรูของรีสอร์ทโมรินในชุดสายเดี่ยวเปรี้ยวซี๊ดเข็ดฟันกับณภัทรในชุดเดรสอ่อนหวานธรรมดาแขนตุ๊กตาลายดอกไม้กระจุ๋มกระจิ๋มสีชมพูสดใสยาวถึงเข่าจึงปรากฏกายท่ามกลางแสงสีสลัวมัวเมาเยาวชนโดยมีนิรัชกับศรุตแอบตามไม่ห่างทว่าทั้งๆ ที่แอบตาม นิรัชยังต้องคอยเรียก “ภัทร มานั่งนี่”สาวน้อยจึงมานั่งที่ชุดโซฟาอย่างเชื่อฟังแต่สองตากลมแป๋วก็ยังคงไม่สนใจแฟนตนอยู่ดี ได้แต่มองไปรอบทิศอย่างตื่นเต้นเดิมทีนิรัชที่ถูกละเลยมาหลายชั่วโมงให้รู้สึกขัดเคืองอยู่มาก แต่ก็พอเข้าใจได้
หลังจากถูกนิรัชบ่นจนหูชาไปอีกยกหนึ่ง ณภัทรก็ถูกสั่งให้นั่งปิคนิคได้แค่ลานหน้าบ้านพักเท่านั้นห้ามไปไหนทั้งสิ้นทั้งโหดทั้งหวงขั้นสุด อะไรก็หยุดโหมดนี้ของนิรัชไม่ได้และด้วยเหตุนี้จอมปีศาจเจ้าเล่ห์จึงถือกำเนิดและเข้าสิงร่างของศรุตทันที เขาถือโอกาสนี้โยนความผิดทั้งหมดให้โมรินซะเลย“เพราะน้องโมเลยนะครับเนี่ย ต้องไถ่โทษโดยการย้ายมาพักที่ห้องเอมี่เพื่ออยู่เป็นเพื่อนน้องภัทร รับผิดชอบร่วมกันครับ”โมรินได้ฟังก็ทำหน้าเหวออ้อ...เธอก็ผิดจริงแหละ แต่ย้ายมาพักใกล้กันคืออะไร?และเมื่อเห็นเพื่อนทำหน้าจ๋อยเพราะถูกแฟนดุก็เลยทำได้แค่พยักหน้าหงึกหงักให้ศรุตแต่โดยดีตอนนี้บ้านพักของเอมี่ว่างแล้วเนื่องจากอีกฝ่ายไปเป็นไกด์ให้คุณเควิน ตอนณภัทรโทรไปหายังรู้ว่าพวกเขาพากันไปเที่ยวทางอีกฝั่งของเกาะ คืนนี้ต้องนอนที่โรงแรมห้าดาวแถวๆ นั้น พรุ่งนี้ถึงกลับมาเจอกันที่นี่‘ได้เที่ยวสะใจอย่างนี้ถือว่าได้ปลดปล่อยจากรักเก่าผุพัง ไม่ต้องห่วงว่าคุณเควินจะคิดไม่ซื่อกับพี่หรอกภัทร แค่คอยภาวนาไม่ให้พี่ย่องเบาเข้าห้องคุณเควินจะดีกว่า’นั่นคือประโยคปลายสายของเอมี่ ซึ่งทำเอาณภัทรได้แต่ทึ่งหลังจากนั้นในทริปนี้จึงมีสมาช
เวลานี้ศรุตตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะจีบโมริน เขาไม่สนว่าเธอจะทำตัวเหลวไหลยังไง เพราะเขาเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าเธอเท่าไหร่ ขอแค่ต่างคนต่างค่อยๆ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ การคบหากันก็คงไม่แย่หลังจากลังเลอยู่นาน ในที่สุดศรุตก็เริ่มเอ่ย “พี่คิดว่าโมน่าจะเลิกยุ่งกับผู้ชายคนนั้นนะ มันเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับโม”น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยที่ได้ยินทำโมรินหันมองศรุตนิ่งๆ แต่อึดใจต่อมาเธอกลับส่ายหน้าเล็กน้อย เอ่ยยิ้มๆ “ไม่ได้หรอกค่ะพี่รุต โมเลิกยุ่งกับเขาไม่ได้หรอก ต้องยุ่งตลอดไปแหละ ตัดใจไม่ได้ด้วย”รักขนาดนั้น? มันมีอะไรดี?ศรุตมุ่นคิ้วมองโมรินอย่างไม่เข้าใจเหตุการณ์เมื่อวานเท่าที่เขาสังเกต ผู้ชายคนนั้นก็ดูท่าว่าจะแคร์โมรินอยู่บ้างหรอก แต่ก็เลือกอุ้มผู้หญิงอื่นไปต่อหน้าต่อตาอยู่ดี ไม่รู้ป่านนี้ปลอบใจกันไปถึงไหนต่อไหนกี่ท่ากี่ลีลาแล้วและเท่าที่เขาลองประเมินอายุของผู้ชายก็น่าจะไม่น้อย คงสักสามสิบกว่าๆ แก่กว่าโมหลายปีคิดไปคิดมา ศรุตพลันหรี่ตาตัดสินใจพูดอย่างจริงจังอีกรอบ “บ้านพี่รวยมากเลยนะโม อาชีพที่ได้เงินเร็วแบบทางลัดพวกนั้น โมเลิกทำไปซะเถอะ แล้วต่อไปพี่จะดูแลโมเอง ผู้ชาย
โมรินใช้ที่คีบอาหารหนีบปลาหมึกใส่จานแล้วเดินไปนั่งลงบนเสื่อ พลางเล่าเรื่องส่วนตัวอย่างไม่ปิดบัง“ที่โมบอกว่าเลิกไม่ได้ ตัดใจไม่ได้นั่นเป็นเพราะน้าชายกับน้าสะใภ้ของโมเขารักกันมานาน สู้ด้วยกันลำบากด้วยกันมาตั้งแต่สมัยเรียนจนแต่งงาน และตอนนี้ก็เพิ่งมีลูกชายเป็นโซ่ทองคล้องใจ”ณภัทรทำตาโต “น้าพลกับน้าภามีน้องแล้วเหรอ?”น้าพลคือน้าชายของโมริน ส่วนน้าภาคือน้าสะใภ้โมรินพยักหน้า “อืม...เพิ่งหัดเดิน วัยกำลังน่ารักน่าชัง”เนื่องจากณภัทรกับโมรินรู้จักกันมานาน เรื่องที่โมรินเป็นเด็กต่างจังหวัดมาอาศัยอยู่กับน้าชายและน้าสะใภ้เพื่อเรียนต่อจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากเพื่อนสนิทจะรู้กันในส่วนนี้ เพียงแต่ณภัทรไม่ได้ตามติดชีวิตพวกน้าของเพื่อนว่าท้องตอนไหน มีลูกเมื่อไหร่ก็แค่นั้น ด้วยเหตุนี้หากเป็นคนอื่นณภัทรคงยุให้เลิกกันไปแล้ว โมรินก็เช่นกัน คงรีบหาผู้ชายคนใหม่มาประเคนให้ฝ่ายภรรยาที่ถูกสามีสวมเขาแต่เมื่อฝ่ายชายที่ทำผิดเป็นคนของเราเองมันก็อีกเรื่อง การจะให้น้าสะใภ้ที่แสนดีขนาดนั้นเลิกกับน้าชายของตนแล้วปล่อยให้หลานชายเป็นเด็กกำพร้าและให้น้าชายได้กับผู้หญิงแรดเงียบอย่างน้ำหวานเป็นแฟนใหม่นั้น ไม่ว่าจะคิดยังไง
นิรัชใช้เวลาไม่เกินสองชั่วโมงก็ถึงที่หมายปลายทางตามคำบอกของโมรินบ้านน้าชายของโมรินอยู่ในโครงการใหญ่กลางเมือง ลักษณะเป็นบ้านเดี่ยวอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างดี เพิ่งซื้อเมื่อไม่นาน“พอฐานะการเงินดีขึ้น อะไรๆ ก็ดีขึ้น แต่น้าพลกลับทำให้ทุกอย่างมันแย่ลง” โมรินบ่นเบาๆ เมื่อรถเลี้ยวเข้าซอยที่ห้าก่อนค่อยๆ ชะลอแล้วจอดสนิทตรงหน้าบ้านหลังหนึ่ง จากนั้นทุกคนก็ลงจากรถเพื่อเข้ามาในบ้านตามคำเชื้อเชิญของโมรินเมื่อเปิดประตูเข้ามาจึงได้เห็นน้าภานั่งอยู่ตรงโซฟาห้องโถง โดยมีลูกชายอายุไม่ถึงหนึ่งขวบนอนหลับอยู่ในอ้อมแขนท่ามกลางแสงไฟสลัวราง ภาพนั้นดูโศกเศร้าและเงียบเหงาอย่างประหลาด“น้าภา ดึกดื่นป่านนี้แล้วมานั่งทำอะไรตรงนี้ ทำไมไม่พาน้องพอสเข้านอนดีๆ ล่ะ”เสียงถามไถ่ของโมรินคล้ายดึงสติของภานีให้ตื่นจากภวังค์ เธอหันมาหาหลานสาวของสามีพร้อมใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา “โม...”โมรินรู้สึกใจหาย “น้าภา...ใจเย็นนะ มีอะไรหรือเปล่า?”ภานีส่ายหน้าปฏิเสธอย่างคนหมดเรี่ยวหมดแรงแม้แต่จะหายใจออกมา จนณภัทร นิรัชและศรุตต้องลอบมาหน้ากันพวกเขาได้คำตอบชัดเจนแล้วว่าต้องมีอะไรแน่ๆโมรินเหลือบตามองโทรศัพท์มือถือที่น้าภากำเอาไว้แน่นอย่างส
“น้าพลยอมโดยไม่กล้าขัดขืนเลยแหละ แต่เงื่อนไขคือต้องไปกับพี่รุต คุณแม่ของเขาถึงขนาดไปคุยกับน้าพลที่บ้าน ใช้อำนาจเจ้าของบริษัทเลยเชียว น้าพลก็เลยต้องยอม ส่วนค่าใช้จ่ายคุณแม่บอกว่าจะออกให้ทั้งหมด ถือเป็นสินสอดทองหมั้น”ณภัทรเลิกคิ้ว หญิงสาวรู้มาว่าศรุตตามจีบโมรินไม่เว้นวัน กระทั่งพาไปแนะนำตัวกับมารดาว่าเป็นแฟนแบบแนบเนียน หลังจากนั้นก็คอยไปรับไปส่งระหว่างบ้านกับมหาวิทยาลัยตลอด สองคนนี้ตกลงเป็นแฟนกันแล้ว หลังจากเรียนจบศรุตเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทของครอบครัว ไม่ได้ทำตัวล่องลอยไปวันๆ เหมือนแต่ก่อน เขาไม่ใช่ทายาทเพียงคนเดียวของครอบครัว ยังมีพี่ชายคนสำคัญรอสืบทอดกิจการอยู่แล้วทั้งคน จึงไม่จำเป็นต้องรีบไปเรียนต่อพร้อมนิรัช อีกทั้งชายหนุ่มยังต้องการรอโมรินเรียนจบแล้วไปต่างประเทศพร้อมกันณภัทรยิ้มขื่น เธอเองก็ควรให้นิรัชรอเหมือนกันใช่ไหม? แต่คิดไปคิดมา หากย้อนเวลากลับไปเธอจะทำอย่างนั้นได้จริงเหรอเสี่ยวิชัยมีนิรัชเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแค่เพียงคนเดียว ตัวของเสี่ยวิชัยเองก็ไม่มีพี่น้อง บิดามารดาก็ไม่อยู่แล้ว หลังจากภรรยาคนเก่าเสียชีวิตเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เขาก็อยู่กับนิรัชแค่สองคนจนกระท
หญิงสาวก้มหน้าทำงาน พยายามไม่คิดมากอีกทว่าท้ายที่สุด เธอก็พ่ายแพ้ให้แก่หัวใจไม่รักดีของตัวเองเรียวนิ้วเปิดโปรแกรมเฟสไทม์ ทำใจดีสู้เสือโทรออกไป นานครู่ใหญ่จนเกือบจะถอดใจ ในที่สุดปลายสายก็กดรับภาพของคนคุ้นเคยสุดแสนจะคิดถึงก็ปรากฏ “ว่าไงภัทร?”หญิงสาวกะพริบตา มือบีบโทรศัพท์แน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอพยายามข่มใจไม่คิดมากกับคำถามชวนคิดมากแบบนี้“ก็ไม่ว่าไง พี่รัชทำอะไรอยู่เหรอ?”“ช่วงนี้พี่กำลังยุ่งมากเลยภัทร ไม่ว่างโทรหาเลย”คนฟังมุ่นคิ้ว เธอก็ยุ่งเหมือนกันนี่นา...หญิงสาวกำลังจะเอ่ยปากบอกไปตามตรงว่าเธอเองก็ยุ่งเหมือนกันไง ทำไมยังโทรหาเขาได้ เสียงหวานหนึ่งพลันเอ่ยแทรก“รัช...ไปกันเถอะ”เสียงของผู้หญิงไม่ผิดแน่ ณภัทรยังเห็นภาพเธอจากในโทรศัพท์ด้วย ผู้หญิงคนนั้นคือชัญญ่า...อดีตพี่รหัสของณภัทรนั่นเอง“อ้าว! น้องภัทรเหรอ? สวัสดีจ๊ะ” แค่นั้น ชัญญ่าทักทายเพียงแค่นั้น ก่อนหันไปทางนิรัช “รัช...เราไปกันเถอะ”“อืม...แค่นี้ก่อนนะภัทร”ปลายสายตัดไป ณภัทรได้แต่อึ้ง เธอเห็นภาพที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ที่นั่นคือห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ห้องเรียนแน่นอน...ธุรกิจเบเกอรี่ที่ณภัทรร่วมหุ้นกับภานียังคงไ
ระยะเวลาที่ห่างกัน จากหนึ่งวันเป็นหนึ่งเดือน จากนั้นก็เลื่อนเป็นหนึ่งปีสองปีตามลำดับ ณภัทรยังคงคิดถึงนิรัชเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเริ่มเคยชินรถซุปเปอร์คาร์สีเหลืองสดแซ่บจี๊ดวนเข้ามาจอดด้านหน้าของภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง ประตูเปิดออกโดยบริกรที่มาคอยให้บริการ สาวสวยดูดีในมาดนักธุรกิจรุ่นใหม่ค่อยๆ ก้าวเท้าลงมา เธอสวมสูทสไตล์แฟชั่นล้ำสมัย ซึ่งเป็นการรังสรรค์เสื้อผ้าอันโดดเด่นที่มีส่วนช่วยให้เกิดความประทับใจต่อผู้ติดต่อทางธุรกิจ และยังสะท้อนทัศนคติไร้ขีดจำกัดให้กับผู้หญิงยุคนี้ที่บทบาททางสังคมเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจนแตกต่างจากในอดีตเธอคือณภัทร ผู้สลัดลุคนักศึกษาสาววัยใสกลายเป็นสาวสวยมั่นใจเต็มวัย แต่งหน้าทาปากเข้มขึ้นจนมองอายุจริงไม่ออก เสื้อผ้าหน้าผมล้วนได้โมรินช่วยดีไซน์และจัดการให้วันนี้เธอต้องมาเจรจาธุรกิจแทนวิชัยสาเหตุเป็นเพราะอีกฝ่ายออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนเพลินเกินไปหน่อย กระทั่งเอวเคล็ดกระดูกเคลื่อนเล็กน้อยจนต้องแอดมิทโรงพยาบาล ในขณะที่ลินดาป่วยเข้าโรงพยาบาลไปแล้วก่อนหน้าณภัทรรู้ดีว่ามารดาของตนสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เนื่องจากต้องตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ตอนอายุน้อยอีกทั้งยังตรากตร
หญิงสาวเต้นพองาม คลอกับเพลงที่เปิดอยู่ โดยที่ไม่รู้ว่ากำลังทำให้คนอีกฝั่งแทบคลั่งนิรัชขบกราม กอบกุมแก่นกายแน่น “ดี...แบบนี้ล่ะภัทร”เธอถามเสียงกระเส่า “พี่รัชไม่ต้องไปเรียนหรือไง?”“เดี๋ยวค่อยไป มโนว่าเอากับภัทรก่อน”หญิงสาวขำพรืด “บ้า”“พี่จะกล่อมภัทรให้นอนหลับสบายไง”ณภัทรยิ่งหน้าแดง และแน่นอนเธอยินยอม“ภัทร...”“หืม...”“นิ่งพิงหัวเตียง ถอดผ้า อ้าขา”“อืม...”ณภัทรถอดชุดนอนออกเผยหน้าอกอวบสวยเด้งดึ๋งโดดเด่น นิ้วเล็กเริ่มแตะแต้มน่องขาด้านใน แหวกขอบผ้าตัวบางจิ๋วออกช้าๆ“ภัทรเริ่มแล้วนะ”จบคำมือหนึ่งก็ค่อยๆ ขยำทรวงอกอิ่ม อีกมือเลื่อนลงต่ำ กรีดเรียวนิ้วกับเนินเนื้ออุ่นชื้น ค่อยๆ สอดใส่เข้าไป“คิดถึงพี่ ภัทร...” นิรัชสั่งเสียงทุ้มลึกณภัทรรับคำเสียงหวาน “อา...พี่รัช”ภาพของคนในจอคล้ายหลุดออกมาขยี้ขยำลูบคลำเธอ อุ้งปากร้อนๆ กำลังครอบครองยอดถัน ณภัทรสูดหายใจเข้าลึกยาว เมื่อความรู้สึกร้อนผ่าวจากส่วนสงวนชื้นแฉะกลางกายแล่นไปทั่วตัวตามปลายนิ้วที่เริ่มระรัว เธอรู้สึกเสียวนิรัชก็เช่นกัน เขารูดแก่นกายขึ้นลง สูดปากเบาๆ“อ้าขาอีกสิครับ”“อืม...พี่รัชอ่ะ”เธอแยกขากว้างขึ้นเพื่อเขา“พี่กำลั
ปลายฝนต้นหนาว สายฝนนอกหน้าต่างยังคงสาดซัด สร้างความหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจในห้องนอนส่วนตัว ณภัทรยังคงสะอึกสะอื้นนั่งขดตัวอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำการบ้านโดยมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คอยู่เป็นเพื่อนเอกสารงานแปลไม่ได้มากมายอะไรเธอทำเสร็จแล้วทั้งหมดแค่รอส่งเท่านั้น ทุกอย่างจึงถูกจัดเก็บเรียบร้อยเมื่อร้องไห้คิดถึงนิรัชจนเหนื่อยล้าก็รีบปาดน้ำตาก่อนฝืนใจกินข้าวสองสามคำ จากนั้นก็นำลงไปเก็บที่ครัว แล้วหมุนตัวขึ้นห้องนอนอย่างรวดเร็วเธออยากอยู่คนเดียวหญิงสาวอาบน้ำ สวมชุดนอนกระโปรงตัวเก่ง มุดเข้าผ้าห่ม พยายามข่มตาหลับให้ลงเหมือนเช่นเคยทว่าก็ไม่เคยหลับลงสักทีเข็มนาฬิกาเดินทางมาค่อนข้างดึกมากแล้ว ณภัทรยังคงพลิกตัวไปมาอยู่ใต้ผ้าห่มที่ไม่เคยอุ่นอีกเลยตั้งแต่ใครบางคนจากไปจังหวะนั้นใครบางคนก็เฟสไทม์มา เธอรีบกดรับอย่างเร็ว ทว่าพูดอะไรไม่ออกสักคำ“ภัทร...”เสียงทุ้มนุ่มดังมาจากปลายสาย ส่งผลให้น้ำใสที่แห้งไปแล้วเริ่มเอ่อคลอตรงขอบตากลมอีกครา“พี่...”เสียงเธอเจือสะอื้นเล็กน้อย ทั้งๆ ที่เพียรสะกดกลั้นเอาไว้ แต่มันยากเกินไป “พี่รัช...”น้ำเสียงแบบนี้ของณภัทร ทำเอาความเงียบพลันปกคลุมรอบด้านอยู่อึดใจใหญ่ ส่งผ
ทุกวัน ณภัทรมักจะเห็นทุกสิ่งเป็นร่องรอยของคนคุ้นเคยอยู่ตลอดเวลาทุกกิจกรรม ทุกการกระทำ ทุกซอกทุกมุมที่กวาดตามอง ยิ่งนานยิ่งติดตรึงในความทรงจำที่โซฟาห้องนั่งเล่น ร่างสูงโดดเด่นมักจะพักผ่อนอยู่ตรงนั้น เขามองมาทางเธอด้วยสองตาดำจัดคมดุที่คนอื่นมองไม่ออกว่ามีความนัยอะไรในสระว่ายน้ำสีคราม สัดส่วนสมบูรณ์แบบที่เปิดเปลือยเผยมัดกล้ามตึงแน่นล่อตาลวงใจที่เขาชอบทำที่โต๊ะอาหาร เขามักกินข้าวแค่เงียบๆ น้อยครั้งถึงจะพูดจา ทว่าก็มักจะคอยมองเธอว่ากินอิ่มหรือยัง จะได้ไปเรียนพร้อมกันยังมีมุมโต๊ะทำงาน หน้าจอคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น... คนตัวโตมักจะมีสีหน้าเรียบเฉย นั่งฟังเธออ่านบทความอย่างเย็นชาเพื่อรอพิมพ์เอกสาร ยามที่เธอกำลังอ่านบทความ สายตาของเขาคล้ายไม่ใส่ใจอะไรรอบกายเลย ทว่าสมาธิทั้งหมดกลับตกอยู่ที่เธอ ตั้งใจฟังแค่เพียงน้ำเสียงของเธอณภัทรเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเรื่องสมัครงานพิเศษวันนั้นเป็นเพราะนิรัชหวังจะได้อยู่กับเธอสองต่อสอง มีเวลาทำอะไรๆ ร่วมกัน โดยไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตต่อพ่อกับแม่ให้เธอต้องลำบากใจยังมีเรื่องที่พาไปเที่ยวทะเล เขาต้องหาสารพัดวิธีเพื่อที่จะพาเธอไปได้อย่างถูกต้องแต่กว่าจะไ
แต่ไม่ว่าจะมีใครมาบอกเธอยังไง คนที่ทำให้เธอหวั่นไหวและเชื่อใจได้กลับมีเพียง...นิรัช...พี่ชายตามกฎหมายคนนี้คนเดียวณภัทรรักนิรัชแค่คนเดียวเท่านั้น ทว่าความรักสำหรับเธอไม่ใช่การยึดติดปิดกั้นหรือครอบครองเอาไว้ข้างกายตลอดเวลา แต่เป็นการมองคนรักด้วยความหวังดีตลอดไปต่างหากหญิงสาวค่อยๆ กล่อม “พี่รัชฟังภัทรนะ คนเรายังต้องเผชิญอีกหลายเหตุการณ์ระหว่างเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มันไม่ใช่ปัญหาแค่มือที่สามมือที่สี่ที่จะเข้ามาแทรกกลางระหว่างเรา แต่มันอาจมีปัญหามากมายรุมเร้า ซึ่งนั่นก็มากพอที่จะทำให้ชีวิตคู่พบทางตัน กระทั่งต้องหันหลังคุยกัน เกราะป้องกันที่ดีคือต้องฝึกฝนแก้ปัญหาเอาไว้แต่เนิ่นๆ ไม่ต้องรอจนความรักเดินทางมาไกลเกินแก้ไข”นิรัชอึ้งงัน ได้ยินเสียงใสกังวานอ่อนหวานแต่หนักแน่นว่า “ภัทรขอสัญญาจะรอพี่รัชอยู่ตรงนี้ เป็นความมั่นคงของพี่ตลอดไป ไม่ว่าพี่ต้องเจอกับปัญหาอะไร หันมาก็จะเจอภัทรเสมอ ตกลงไหม”ณภัทรเป็นคนที่ไม่เคยเชื่อเรื่องคำสัญญา เธอนำพาชีวิตให้อยู่กับปัจจุบัน ตั้งมั่นบนโลกความจริงในแต่ละวันตามหลักการและเหตุผลอันสมควร ไม่ใช้อารมณ์ฝันเฟื่องอย่างเรื่องลมปากที่พ่นออกมาพร้อมกับคำว่า ‘สัญญ
ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง...คนสองคนที่ทะเลาะกันแทบตาย สุดท้ายก็นอนกอดกันอย่างหมดเรี่ยวแรง เหลือเพียงรสสัมผัสหวามไหวติดค้างชายหนุ่มครางเบาๆ ขยับลึกอีกครั้งก่อนค่อยๆ ถอดถอนตัวตนแผ่วช้า เหงื่อซึมทั่วร่างหนา หยาดไหลร่วมกับร่างบางอ่อนนุ่มหลังจากลมหายใจร้อนๆ กลับมาเป็นปกติ นิรัชถึงได้จูบซับหยดเหงื่อระเรื่อยไปตามข้างขมับให้ณภัทรสาวน้อยปรือตาฉ่ำเยิ้มมองคนขี้งอน “หายโกรธหรือยัง?”“ยัง!”เสียงทุ้มพร่าติดจะแหบห้วนอยู่มาก นิรัชกระชับอ้อมแขนกอดคนตัวนุ่มแน่นขึ้นไม่คิดปล่อยความหวงแหนก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรงในทุกวัน ความรู้สึกเป็นเจ้าของก็เช่นกัน ณภัทรทำนิรัชแทบคลั่งได้ทุกครั้งแค่ก้มมองแล้วถ้าเธอไม่ได้อยู่ในสายตา ถ้าไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้กอด...คำถามแสนง่ายแต่กลับยากมากที่จะหาคำอธิบายมาบรรยายความรู้สึกแค่นึกภาพว่าสิ่งสำคัญที่สุดได้ขาดหายไปในชีวิตประจำวัน แค่นั้นความอึดอัดทรมานที่ยากจะเอ่ยก็กดทับจนหายใจไม่ออกชายหนุ่มกำลังคิดว่า หากเขาต้องอยู่ห่างเธอคนละฟากฟ้าก็โปรดกรุณาเอามีดมาเฉือนหัวใจเขาแทนเถอะ!ณภัทรย่อมเข้าใจนิรัชเป็นอย่างดี ได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้จะไม่เข้าใจได้ยังไง ทว่าเธอก็ยังต้องปล่อยเขาไปเรียนต
แต่ช่วงหลังมานี้ณภัทรกินยาคุมอย่างเคร่งครัด จึงอนุญาตให้นิรัชได้ทำตามใจเป็นบางครั้ง เธอย่อมไร้กังวล“ภัทรทำอะไร?”หญิงสาวถามอย่างใสซื่อ เธอไม่รู้สึกรู้สาว่าได้ปล่อยระเบิดใส่อีกฝ่ายในเรื่องสนับสนุนให้เขาไปเรียนต่อทันทีที่เรียนจบตรีคนถูกถามสะกดเธอไว้ด้วยนัยน์ตาลุ่มลึกในระยะประชิด “ภัทรรู้ดีว่าพี่ต้องการรออีกสองปีเพราะอะไร”แน่นอนว่าการไปเรียนต่อเมืองนอกจะอย่างไรก็ต้องเกิดขึ้น วิชัยกำหนดเอาไว้ตายตัวตั้งแต่ลูกชายสุดรักอายุไม่เท่าไหร่ด้วยซ้ำ คำพูดโต้แย้งของนิรัชจึงไม่ควรมีแต่แรก และณภัทรก็ไม่มีความคิดที่จะรั้งเขาเอาไว้อย่างเห็นแก่ตัว เธอต้องมองให้ทั่วๆ ไม่ใช่แค่ตัวเอง อนาคตของปัญจรักษ์ขึ้นอยู่กับทายาทสายตรงหนึ่งเดียวอย่างนิรัช“ภัทรรู้ แต่...อ๊ะ! พี่รัช เบาๆ”คนกดกระแทกด้วยความมันเขี้ยว ส่งเสียงทุ้มพร่า “รู้? แล้วทำไมไม่ช่วยกันพูด”“จะให้ช่วยพูดอะไร? อื้อ...”น้ำเสียงแม้สั่นเครือเพราะความเสียวรุมเร้า แต่ประโยคที่เอ่ยหนักแน่นและจริงจัง “พี่รัชก็แค่รีบไปเรียนแล้วก็รีบกลับมา”“ห้าปี...” รวมเรียนและฝึกงานอยู่ต่างประเทศตามกำหนด “ไม่ต่ำกว่านั้นแน่...” ห้าปีทีเดียวไม่ใช่ห้าวันหรือห้าเดือน“มันนา