ราชันย์ หรือ คิงส์ อายุ32 เพลย์บอยตัวพ่อ ประสบอุบัติเหตุ(?) ตื่นมาในบ้านสวนของหญิงสาวคนหนึ่งลลินลาออกจากงานที่ทำอยู่กลับมาพลิกฟื้นสวนเพาะพันธุ์ไม้ของของพ่อแม่ซึ่งเป็นสมบัติที่ทั้งสองทิ้งไว้ให้ หญิงสาวพยายามที่จะใช้ชีวิตหลังการหย่าร้างให้ดีที่สุดบังเอิญลลินได้พบกับราชันย์ที่หมดสติ แรกทีเดียว เธอจะพาเขาไปโรงพยาบาล แต่วันนั้นฝนตกหนัก จึงได้แต่รักษาเขาเท่าที่พอทำได้ แต่โชคดีที่เขาไม่เป็นอะไรมาก ราชันต้องการหลบซ่อนตัวชั่วคราวเพื่อสืบว่าใครทำร้ายเขา ความใกล้ชิดทำให้เขาอยากตอบแทนเธอมากกว่า ‘ผู้มีพระคุณ’ แต่หัวใจที่ปิดตายเพราะความบอบช้ำ จากอดีตของลลินทำให้ราชันต้องใช้ความสามารถและงัดกลเม็ดมามัดใจสาวเรื่องมันอาจจะง่ายกว่านี้ ถ้าอดีตสามีของเธอไม่พยายามกลับมาง้อขอคืนดีรถกระบะสีน้ำเงินเข้มเลี้ยวออกจากปั้มน้ำมันขับฝ่าสายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก หญิงสาวประคองพวงมาลัยด้วยความระมัดระวัง อีกไม่กี่กิโลเมตรก็จะถึงบ้านสวนแล้ว เธอยังอยากกลับบ้านอย่างปลอดภัย รู้สึกว่า คืนนั้นก็ฝนตกหนักเหมือนคืนนี้ ลลินพยายามไม่คิดถึงอดีตอันเจ็บปวดอีก แต่ผ่านมาห้าปีแล้ว เหตุการณ์ในคืนนั้นยังคง
“บ้านนี้ไม่มีเสื้อผ้าผู้ชาย ฉันซื้อมาให้ใหม่แล้วก็ของใช้ที่คิดว่าจำเป็น” เธอยื่นถุงส่งให้ “มือถือคุณดับสนิท ฉันเอาไดร์เป่าผมเป่าไล่ความชื้นแล้วไม่รู้ว่ามันใช้ได้หรือเปล่า แต่ฉันมีสายชาจที่น่าจะใช้กับรุ่นของคุณได้ บนตัวคุณไม่มีกระเป๋าสตางค์ ท้ายรถก็ไม่มี ฉันจะบอกฉันไม่ได้เอาไป” “คุณ..เป็นใครกันแน่” ชายหนุ่มถามอย่างประหลาดใจ ช่างเป็นผู้หญิงที่แปลกจริงๆ “ก่อนจะถามฉัน คุณควรแนะนำตัวเองก่อนนะ” ลลินเบ้ปากใส่ กวาดตามองแผ่นอกแน่นปึกของอีกฝ่าย “คิง?” “หือ? คุณรู้ชื่อผม?” หญิงสาวกระตุกยิ้มที่มุมปาก ใช้นิ้วเรียวชี้ที่แผ่นอกซึ่งมีรอยสักสีดำชัดเจน “K-I-N-G จะให้อ่านว่าอะไรคะ?” คราวนี้ชายหนุ่มแหงนหน้าหัวเราะ แต่หัวเราะแรงไปจนสะเทือนเจ็บซี่โครงจนต้องยกมือขึ้นแตะส่วนที่เจ็บ “ขำอะไรนักหนา ถ้าซี่โครงหักมันคงทิ่มปอดคุณแล้ว” “คุณดูไม่ออกหรือว่ามันหักหรือเปล่า ขนาดแผลที่แขนคุณยังเย็บให้ผมได้เลย” “ฉันไม่ใช่เครื่องเอ็กซ์เรย์ ดูไม่ออกหรอก” เธอกลอกตามองบน “เอ้า!ตกลงจะให้เรียกคุณว่าอะไร” “คิงส์” เขาตอบแ
“คุณปุณณภพ? จำเป็นต้องเรียกกันห่างเหินอย่างนี้ด้วยเหรอครับน้องลิน” ลลินสูดลมหายใจลึก จากที่คิดว่าตัวเองเข้มแข็งมาตลอดนั้น ความจริงมันตรงข้าม หัวใจของเธอยังเจ็บแปลบได้ยินน้ำเสียงอ่อนโยนปนน้อยใจ มือที่จับบานประตูสั่นน้อยๆ ปุณณภพคว้ามือเรียวเล็กขึ้นมากุมไว้ด้วยความเคยชิน “ไม่เอาสิคะ อย่าทำแบบนี้ พี่ปวดใจมากนะคะ” “มาที่นี่ทำไมคะ” ลลินจะชักมือกลับแต่อีกฝ่ายกลับจับแน่นไม่ยอมปล่อย “พี่ขับรถมาจากกรุงเทพฯ นะ ไม่คิดจะเชิญพี่เข้าบ้านเหรอคะ” เขายังคงดึงดันจะเข้ามาในบ้าน แต่ลลินได้สติดันเขาไว้ “ฉันไม่ได้ขอให้คุณมาที่นี่” ลลินเรียกกำลังใจทั้งหมดของตัวเอง เธอจะอ่อนแอต่อหน้าผู้ชายคนนี้ไม่ได้เด็ดขาด “ที่นี่บ้านของฉัน คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามา ถ้าคุณยังพยายามเข้ามา ฉันจะแจ้งตำรวจข้อหาบุกรุก!” “น้องลิน ...น้องลินให้โอกาสพี่อีกสักครั้งเถอะนะ” “ฉันก็ให้โอกาสคุณแล้วไงคะ” ลลินขึงตาใส่ ข้างในยังคงหวั่นไหวกับท่าทีของเขา แต่เธอกลับไปเป็นเช่นวันวานไม่ได้อีกแล้ว “ฉันให้โอกาสคุณได้เริ่มต้นใหม่แล้ว” “แต่พี่ต้องการน้องลิน
หนึ่งในนั้นคือผู้กองชนะเทพ ส่วนเธอนั้นเป็นเจ้าภาพส่งขนมนมเนยหรือนมกล่องให้เด็กๆ ตามกำลังทรัพย์ของตน“ผมได้ยินว่าคุณลินหาช่างมาซ่อมไฟ เครื่องสำรองไฟเสียใช่ไหมครับ”“อ้อ! ใช่ค่ะ ฝนตกหนักเมื่อสองสามวันก่อน ไฟฟ้าดับหลายชั่วโมงเลยเพิ่งรู้ว่าเครื่องสำรองไฟมันไม่ทำงาน”“นั้นแหละครับ ให้ผมดูให้นะครับ”“จะดีหรือคะ เกรงใจผู้กอง”“เรื่องเล็กน้อยเอง ให้ผมดูให้ก่อน ถ้าเกินความสามารถจะให้จ่าแจ็คมาช่วยซ่อมให้”ลลินยิ้มแหย เธอเข้าใจความหวังดีแต่ก็อดเกรงใจไม่ได้ และที่สำคัญ เธอคิดว่าเธอเข้าใจสายตาของผู้กองชนะเทพไม่ผิด สายตาที่มองเธอมีความหมายเกินเพื่อนไปไกลแล้ว ก่อนที่เขาจะเข้าใจผิดว่าเธอมีใจเอียงเอนหลงเสน่ห์ลักยิ้มที่ข้างแก้ม หรือผมสั้นเกรียนกับกลิ่นน้ำหอมCalvin Kleinและความสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร อันที่จริงควรบอกว่าองค์ประกอบของผู้ชายที่ชื่อชนะเทพต่างหากที่ทำให้ลลินหวั่นไหวแต่มันไม่ใช่เวลานี้ หัวใจเธอยังมีแผล หากวันหนึ่งเธอจะรักใครสักคน ก็อยากรักคนๆนั้น ด้วยหัวใจที่หายดี“ไอ้เครื่องสำรองไฟนั้นนะแค่สายไฟขาดเท่านั้น สงสัยหนูจะแทะสายไฟ”น้ำเสียงเนิบช้าเหมือนคนเกียจคร้านดังขึ้นเรียกสติของลลิน ร่า
“ใครทำอะไรคุณ” เขาถามพลางใช้นิ้วโป้งคลึงริมฝีปากเธอเบาๆ “สามีเก่าคุณเหรอ”ลลินตั้งสติได้ก็ส่ายหน้าไปมา เขาดึงมือกลับแต่รั้งให้เธอเข้ามาอยู่ในวงแขน ปลายนิ้วไล้วนหัวไหล่ของหญิงสาวเบาๆ เป็นเชิงปลอบโยน“ผมทำให้คุณตกใจ” เขาอ้ำอึ้งครู่หนึ่งก่อนพูดต่อ “ขอโทษ”ดูเหมือนผู้ชายคนนี้จะไม่ได้พูดคำว่าขอโทษกับใครบ่อยสินะ ลลินตั้งคำถามในใจ ท่าทางเขาเป็นคนยอมใครเป็นจริงๆ นั้นแหละ“เขาไม่ได้ทำร้ายร่างกายฉันหรอกค่ะ” ลลินตอบลังเลอยู่เล็กน้อยแล้วจึงพูดต่อ “เรารู้จักกันครึ่งปีเขาขอฉันแต่งงาน ฉันก็ตอบตกลง พ่อแม่ของฉันท่านเสียไปหมดแล้ว ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เราไม่ได้จัดงานแต่งงานอะไร แค่...แค่เข้าไปไหว้พ่อแม่ของเขาแล้วก็จดทะเบียนสมรสกัน เราทำงานอยู่บริษัทเดียวกันแต่คนละแผนก ฉันไว้ใจและเชื่อใจ ไม่เคยสงสัยอะไรในตัวเขา ชีวิตของเราราบรื่นดี อยู่ด้วยกันมาสองปี เราก็ปรึกษาเรื่องซื้อบ้านของตัวเอง ฉันคิดว่ามันเป็นสองปีที่แสนวิเศษ แต่หลังจากที่เราตกลงใจจะซื้อบ้านด้วยกัน เที่ยวตระเวนดูหลายโครงการ ฉันก็ทำงานพิเศษหารายได้เพิ่ม เพื่อวันข้างหน้าจะได้มีเงินทุนหมุนเวียนไม่ขัดสน อาจเพราะฉันมุ่งมั่นกับการหาเงินมากไป เลยไม่
ถ้าเธอร้องโวยวายด่าทอตบตีเขา เขาอาจจะรู้สึกดีกว่านี้ แต่เธอกลับนิ่งเงียบไป บ้านที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มสดใสของเธอมันจางหาย บ้านไม่เป็นบ้านเหมือนเดิม เขาไม่รู้จะขอโทษลลิน อย่างไรให้กลับมาเป็นอย่างเดิม “ลินเข้าใจพี่ภพค่ะ”เขายังจำวันนั้นได้ดี “น้องลินหายโกรธพี่แล้วใช่ไหมคะ” “ลินไม่โกรธพี่ภพ” เธอส่ายหน้าไปมา “แต่เราหย่ากันเถอะค่ะ” “น้องลิน...พี่ไม่อยากเสียน้องลินไป พี่รักน้องลินนะครับ” “ถ้าพี่ภพรักลิน เรื่องพวกนี้ไม่เกิดขึ้นหรอกค่ะ” เธอยังยิ้มให้เขาแต่เป็นรอยยิ้มแสนเศร้า “พี่ภพไม่ต้องเป็นห่วง ลินไม่ทำร้ายตัวเองและไม่ทำร้ายคนของพี่ภพ เราจบกันด้วยดีนะคะ” “แต่พี่ไม่อยากเสียลินไป” “พี่ภพเสียลินไปตั้งแต่...มีอะไรกับแฟนเก่าแล้วค่ะ” “น้องลิน” “ลินคิดดีแล้ว พี่ภพก็...จะได้ใช้ชีวิตกับคนที่พี่ภพอยากทุ่มเทเวลาให้จริงๆ” ลลินเก็บเสื้อผ้าออกจากห้องเขาไป ตอนนั้นทั้งสองยังเช่าคอนโดอยู่ บ้านที่เคยดูไว้และคิดจะซื้อร่วมกันกลายเป็นฝันสลาย เธอไม่ยอมพบหน้าเขา ขอให้เขาไปเซ็นใ
ไม่รู้ทำไมลลินถึงยอมให้คนๆ นี้พักในบ้านหลังเดียวกันได้ ห้องของเธออยู่ปีกซ้าย ส่วนห้องปีกขวาเป็นห้องเดิมของพ่อแม่ เธอให้เขาพักห้องนั้นไปก่อน เธอเข้าสวนเพาะต้นไม้ทุกวัน ดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ซึ่งมีลุงพงษ์และลูกน้องจัดการงาน เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยที่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ ระยะหลังเธอเข้ามาดูแลเรื่องพวกนี้ด้วยตนเอง ขยายช่องทางการขายต้นไม้ โดยสั่งซื้อออนไลน์ส่งผ่านบริษัทขนส่งเอกชน สะดวก รวดเร็ว ทำให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่าการรอให้คนมาซื้อที่สวนแรกทีเดียวเธอคิดว่าราชันจะ ‘ซ่อนตัว’ อยู่ในบ้านอย่างเงียบเฉียบ แต่เขากลับทำทุกอย่างตรงข้ามกับที่เธอคิด เริ่มแรกทำทีเป็นขอติดรถเข้าเมืองซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ ถึงเขาไม่มีกระเป๋าสตางค์แต่เบิกจ่ายเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ แถมยัดเงินใส่มือให้เธอเป็นค่าอาหารที่ทำให้เขากิน ติดตามเธอไปโน้นมานี่เป็นเงาตามตัว เธอซื้อขนมไปเลี้ยงเด็กๆ เขาก็ตามไปด้วย เธอไม่อยากนึกถึงสีหน้าของชนะเทพที่เห็นผู้ชายตัวโตๆ เดินตามเธอต้อยๆ แบบนี้เลย เขาใช้เวลาแค่สองสัปดาห์ทำให้คนทั้งตำบลรู้ว่าเธอพาผู้ชายเข้าบ้านลาก่อนชีวิตสงบสุขของลลินราชันแสร้งทำเป็นไม่รับรู้ความรู้สึกของลลิน ยิ่งเธอพ
ลลินปรือตาขึ้นมอง เห็นเขาส่งนิ้วเข้าปากตนเองแล้วดูดคราบรักของตนแล้วก็ใจสั่น แก่นกายของเขาดุนดันกางเกงชั้นในจนเห็นเป็นลำเอ็น เธอรู้สึกลำคอแห้งผาก เผลอเลียริมฝีปากไม่รู้ตัวราชันจูบเธออีกครั้ง คราวนี้ลลินแลกลิ้นไม่ยอมแพ้ เขารูดกางเกงชั้นในลงไปพ้นตัว ลำเอ็นแข็งขันคลอเคลียขาอ่อน เขายกขาเธอขึ้นเกี่ยวเอวของเขา“กอดผม” เขาสั่ง ลมหายใจหอบแรงเพราะข่มความต้องการที่เอ่อล้นสองแขนยื่นไปคล้องคอเขา ราชันจับเรียวขาอีกข้างขึ้นเกี่ยวเอว ยกสะโพกเธอขึ้นแล้วกดแก่นกายของตนเองเข้าไปในร่องรักที่ฉ่ำแฉะ“อ๊า!” ลลินร้องเสียงหลง เขาบดเบียดแก่นกายรุกล้ำเข้ามาจนสุด ความวาบหวิวผสมกับความเสียวซ่าน ทุกครั้งที่เขายกสะโพกเธอขึ้นกระแทกกับแก่นกาย ความเสียวซ่านระลอกแล้วระลอกเล่าถาโถมจนเธอได้แต่ส่งเสียงครวญครางออกมา“อื้ม...แน่นอะไรแบบนี้” ราชันอดรำพึงไม่ได้ เขาไม่แคร์เรื่องที่เคยแต่งงานมาก่อน แต่ไม่คิดว่าร่องรักของหญิงสาวจะแน่นขนาดนี้ เขาต้องฝืนตัวเองไม่ให้เร็วไป แต่ความอ่อนนุ่มชุ่มชื้นที่ตอดรัดทำให้เขาเร่งโยกสะโพกเร็วขึ้นเหมือนถูกผลักขึ้นสู่ที่สูง ครั้งแล้วครั้งเล่า เธอแอ่นกายเข้าหา เรียวขากอดรัดเอวสอบเขาฝากฝังตัว