Share

ผักดองกับลูกพลับตากแห้ง

Author: จันทร์ส่องแสง
last update Last Updated: 2024-11-08 11:25:01

อากาสในวันนี้ค่อนข้างหนาวฟ้าขมุกขมัวลมโชยแผ่วๆแป๋มนั่งซึมอยู่ที่หน้าบ้าน

“วันนี้เราจะมาทำหัวไช้เท้าดองหวาน และเผ้าไช่ (ในที่นี้คือการดองแบบเจี้ยงไช่ และเผ้าไช้คล้ายกิมจิ) ”ฮูหยินเฉินพูดขึ้นดึงดูดความสนใจของแป๋มที่ขยับเข้ามาใกล้ท่าทีสนใจออ่างที่สุด แมมโมรี่ไว้หมดแล้วเกรงว่าหากกลับไปนี่แป่มจะต้องทำเป็นทุกอย่างและจะต้องมีทุกอย่างที่อยากทำ

เจี้ยงไช่ (酱菜เสียงจีนกลาง)

ผักดองประเภทเจี้ยงไช่ เป็นการเอาผักสดมาหมักเกลือ พอหมักจนผักเค็มได้ที่แล้ว ต้องเอามาลดความเค็มในตัวผักลง ด้วยการหีบบีบเอาน้ำเกลือในผักออก หรือแช่ในน้ำสะอาด เพื่อชะเกลือในผักออก จากนั้น จึงหมักต่อด้วย “เจี้ยง” หรือซอสต่างๆ หรือซีอิ๊ว ให้กลิ่นรสของ “เจี้ยง” ซึมเข้าไปในเนื้อผัก ก็จะได้ผักดองเจี้ยงไช่

ชาวจีนเอาพวกแตง ขิง ถั่ว หัวผักกาด ผักกาดขม ผักกาดหอม กระเทียม ข่า รากบัว กระทั่งถั่วลิสง มาดองทำเป็นเจี้ยงไช่ได้หมด จนดูเหมือนว่า ไม่มีผักชนิดไหนที่เอามาทำเจี้ยงไช่ไม่ได้

“ท่านแม่ ท่านแม่จะดองแบบไหนกัน”

“ข้าจะดองสูตรลับของบ้านเรา”ลงมือหั่น หัวไชเท้าที่ล้างจนสะอาดสะอ้าน เป็นท่อนๆ แป๋มไม่รอช้ารีบลงมือหั่นหัวไช้เท้าเช่นกัน ฮูหยินเฉินหั
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   พ่อมา

    นอกเขตวังหลวงเสี่่ยวซงในอาภรณ์ของสามัญชน ตามหลังมาด้วยซงหยางฮ่องเต้ในอาภรณ์สามัญชนเช่นกันหากไม่รวมถึงรูปร่างหน้าตา มองเพียงอาภรณ์เพียงอย่างเดียวต้องคิดว่าสองพ่อลูกเป็นเพียงคนเร่ร่อน“ข้าจะต้อง สงบคำเช่นนั้นใช่ไหม”“พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อทุกอย่างล้วนเพื่อความปลอดภัย หากมีผู้คนล่วงรู้ว่าฮ่องเต้ทิ้งงานราชสำนักออกมาทำสวนเหล่าคนที่ปองร้ายจึงจะได้โอกาสลงมือ”“ทำไมไม่ให้องครักษ์ตามข้ามา”“จงต้าหมิงอารักขาอยู่ไม่ไกลนักคาดว่าเพียงจงต้าหมิงคนเดียวก็เกินพอ ที่นั่นสงบร่มรื่น ไร้ผู้คนมีเพียงคนในครอบครัวซึ่งลูกไม่เห็นว่าใครจะเป็นภัยต่อเสด็จพ่อแม้แต่น้อย”“เจ้าเคยไปที่นั่นหรือไร หรือว่าที่หายไปก็อยู่ที่นั่นตลอดเวลา”เสี่ยวซงยิ้มเป็นการตอบรับ“ข้าชักอยากจะเห็นไร่บ้านเฉินกับคนบ้านเฉินเสียแล้ว ดูรึว่าทำไมไท่จือถึงได้ ยอมอยู่ที่นั่นได้แรมเดือน”“ขันทีระหว่างนี้แจ้งข่าวว่าข้าป่วยนอนอยู่ในห้องบรรทมห้ามผู้ใดรบกวนบอกว่าหมอหลวงให้ข้าพักผ่อนมากหน่อย ระหว่างนี้จนกว่าข้าจะกลับระหว่างนี้ให้ยกเครื่องเสวยเป็นกันคนสงสัย แต่ห้ามฮองเฮาและสนมเข้าไปวุ่นวายใครขัดบัญชาประหารอย่างเดียว”เสี่ยวซงยิ้มก่อนจะออกเดินนำซงหยางฮ่องเต้เ

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   ความอึดอัด

    เพราะความหนึบของเมล็ดข้าว ท่านเฉินผายมือให้กับแขก ที่อาวุโสกว่าเป็นการให้เกียรติ“เชิญ ท่านซง”ซงหยางยิ้มอย่างภาคภูมิ ใช้ตะเกียบในมือ คีบชิ้นเห็ดหอมปนไปด้วยแครอทจากไข่ตุ๋นเข้าปากรสชาติเค็มของเครื่งปรุงและหวานของแครอทบวกกับนุ่มหนึบของเห็ดหอม พร้อมกับกลิ่นหอมอ่อนๆ จากใบผักชี ซงหยางเลิกคิ้วสูงไม่คิดว่าอาหารพื้นบ้านที่ไร้การเสกสรรจนเลิศหรูจากในห้องเครื่องจะรสดีเพียงนี้“อร่อยมาก”เสี่ยวซงอมยิ้ม ทุกคนเริ่มลงมือกิน แป๋มคีบเห็ดหอมในถ้วย ตุ๋นไก่เห็ดหอมใส่ปาก น้ำซุปหวานฉ่ำลิ้นซึมเข้าไปสู่เนื้อเห็ดหอมที่หวานหอมนุ่มละมุน เห็ดหอมสดๆ เมื่อนำมาปรุงอาหารกับให้ความรู้สึกหอมนุ่ม แม้ความหนึบจะน้อยกว่าเห็ดหอมแห้งแช่น้ำแต่รสหวานกับเด่นชัดกว่าเห็นๆ ข้าวสาลีเม็ดสีน้ำตาลถูกพุ้ยเข้าปากรสกลมกล่อม ใช้ช้อนตักน้ำขึ้นมาซดให้คล่องคอ ไข่ตุ๋นพร่องไปไม่น้อยแป๋มรีบคีบเนื้อเห็ดในไข่ตุ๋นใส่ปากบ้างเนื้อไข่ฟูฟอง เพราะมีอากาศแทรกเข้าไปรสสัมผัส ไม่อ่อนนุ่มเหมือนไข่ตุ๋นที่ไม่ได้ตีไข่ แต่ทว่ากับให้ความรู้สึกอร่อยกว่าไข่ตุ๋นนุ่มนิ่มที่พวกแม่ค้าไข่ตุ๋นชอบทำกัน รสดีจนต้องเผลอเคี้ยวและกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว เหมือนเคยที่ทำเมื่ออยู่โลก

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   เกาลัด

    แป๋มกับจูจิ้นนั่งคั่วเกาลัด อยู่ห่างออกไปที่เพิงเก็บฟืน“พี่สาวจูเจี่ย ข้าไม่เข้าใจว่าทำไม่ไม่ให้ข้าพูด”“เรื่องบางเรื่อง ไม่ควรปากไว จูจิ้นพี่ชายเสี่ยวซงของเจ้าจะหนักใจแค่ไหน หากเขาไม่ได้คิดถึงเรา หรือไม่ต้องการที่จะมาที่นี่ มาอยู่ที่นี่แต่แค่แวะเวียนมาก็เท่านั้นแล้วคำพูดของเจ้าไปทำให้เขาต้องลำบากใจ”“พี่สาวท่านก็ไม่ต้องเสียใจ ทุกอย่างที่เขาทำล้วนแต่เพื่อพี่สาว ข้ามองก็รู้ว่าพี่ชายเสี่ยวซงจริงใจกับท่านแค่ไหน”แป๋มเขย่าหัวน้องชายต่างภพ ตอนที่รู้สึกแย่แบบนี้อย่างน้อยก็มีจูจิ้นละว้า สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ยิ้มหวาน“ไม่เสียใจพี่สาวของเจ้าเก่งจะตาย มาเรามากินเกาลัดคั่วคลายเครียดกันดีกว่า”“เครียด...”“ข้าหมายถึง คลายความกังวลในเมื่อยามนี้มีความกังวลมากมาย ข้าจึงไม่อยากให้ เรื่องราวเหล่านั้นมาทำให้เราสองคนพี่น้องต้องปวดหัว อือข้าหมายถึงเราสองคนพี่น้องจะได้ไม่ต้องกังวล จูจิ้นในครั้งแรกข้าคิดว่าเจ้าช่างเป็นน้องนรก แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าจูจิ้น เป็นน้องชายที่ดีเพียงใด เรียกได้ว่าความสัมพันธ์พี่น้องของเจ้ากับข้าพัฒนาไปในทางที่ดีทีเดียว เช่นนั้นยกเลิกคำพูดที่ว่าอยากให้เจ้าหายไปเสียจะดีไหม”จูจิ้นยิ้ม“ม

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   พระกระโดดกำแพง

    “เจ้าไม่อยากให้ข้าไปหรือไร”“อยากไปก็ไปเลย”แป๋มหันหลังให้ เสี่ยวซงยิ้ม“ยังไม่ไปจนกว่าจะได้ใจแม่นางผู้นี้”จูจิ้นเดินหลบออกไปตอนไหน เสี่ยวซงกอดรวบร่างบาง (บางจริงๆ นะ) ไว้ในอ้อมแขน“ได้ใจแล้วก็จากไปสำคัญตรงไหนกัน”“สำคัญตรงที่วันนี้ข้ามีเจ้า หากเจ้ามีใจ วันต่อไปข้าจึงจะมีแรงใจ เพื่อจะให้มีเจ้าข้างกายในทุกๆ วัน”แป๋มยิ้มเอียงอายแสร้งมองดวงจันทร์ที่ลอยเด่นบนฟากฟ้า อ้อมกอดอบอุ่น จนอยากจะทิ้งตัวลงนอนมันเสียตรงนี้ หากว่าไม่รู้สึกว่าตัวเองตอนนี้ต้องหยิ่งเสียหน่อยสาวโบราณต้องหยิ่ง ห้ามใจง่ายใช่ไหม555เสียงด้านในเงียบเสียงไปหมดแล้ว ซงหยางฟุบหน้าลงบนโต๊ะข้างจอกสุราตรงกันข้าม ท่านเฉินเองก็นอนฟุบหน้าลงเช่นเดียวกัน สุราหมดไปทั้งไห อากาศเริ่มหนาวเหน็บ“ไปนอนเสีย อากาศเย็นมากแล้ว”เสี่ยวซงพูดขึ้นข้างหู จุมพิตที่หน้าผากของแป๋มเบาๆ“คืนนี้ คืนนี้…”แป๋มตั้งใจจะบอกว่าคืนนี้เป็นคืนที่ดีที่สุดแต่พูดไม่ออก“คืนนี้ ข้าคงนอนไม่หลับ คงคิดถึงเจ้าทั้งคืน หากยังชักช้าเกรงว่าข้าจะไม่ให้เจ้านอนเสียแล้ว”เสี่ยวซงต่อคำให้เสียเอง แป๋มหน้าแดงลุกขึ้นเดินกลับเข้าไปในบ้าน เสี่ยวซงอมยิ้ม เขาเป็นถึงเพียงนี้เชียวหรือ คำหวานพ

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   คนเราเลือกอะไรได้

    “วันนี้จูเจียไปเก็บเห็ดหอมเตรียมส่งเข้าวังหลวงพ่อกับแม่จะไปหว่านเมล็ดงา กับพรวนดินในสวน”“เสี่ยวซงเจ้าพาบิดาเจ้าเที่ยวชมสวน หรือจะเก็บเห็ดกับจูเจียก็ได้ตามสะดวก”“พี่ชายเสี่ยวซงต้องไปเก็บเห็ดกับพวกเรา ท่านลุงท่านรู้ไหมการเก็บเห็ดหอมสนุกมากเลยทีเดียว”จูจิ้นเจื้อยแจ้ว ประโยคสุดท้ายหันไปพูดกับซงหยางที่มองออกไปทางเนินเขาที่บัดนี้กับเขียวชอุ่มด้วยพืชผลทางการเกษตรของบ้านเฉิน กี่ปีแล้วที่เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ความทรงจำเมื่อครั้งยังเป็นองค์รัชทายาท“ไท่จือท่าน ยินดี ที่จะสละตำแหน่งไท่จืออย่างนั้นหรือเพื่อหญิงบ้านป่า สามัญชน ไม่กลัวหรือว่าฝ่าบาทจะโกรธเคืองตัดพ่อตัดลูกกับพระองค์”องครักษ์ข้างกายเอ่ยปากถามด้วยความผืดหวังในเมื่อที่ทุ่มเทไปทุกอย่างก็หวังว่าซงหยางนเวลานั้นจะมีอำนาจนั่งบนบัลลังก์อย่างผ่าเผยแต่เขากลับลังเลตั้งใจจะสละตำแหน่งไท่จือเนินเขาที่เต็มไปด้วยพืชผลทางการเกษตรในตอนนั้นไม่ได้งดงามน่ามองเท่าตอนนี้ นางอันเป็นที่รักของเขา สุดท้ายก็แต่งกับคนผู้หนึ่งไปเสียคนผู้นั้นซึ่งเป็นสามัญชนเช่นกัน ไม่ต้องดิ้นรนหรือปวดร้าวอีกต่อไป ซงหยางถอนใจคนเราเลือกอะไรได้ในเมื่อตำแหน่งไท่จือเป็นสวรรค์ที่กำ

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   หลงป่า

    เดินลงเนินเขามาไม่ทันไร ต้นเชอรรี่ที่ออกลูกสีแดง สดเต็มต้นแป๋มทำตาโต สวยที่สุดช่างสวยราวกับภาพฝันลูกไม้สีแดงทึบสีเขียวพอประปรายให้สวยงาม ตัดกับขอบฟ้าสีฟ้าคราม เนินหญ้าสีเขียว แป๋มอยากจะถ่ายรูปเก็บไว้ ก้มมองเสื้อผ้าของตัวเองที่ฮูหยินเฉินเย็บให้เสียใหม่ บัดนี้กับเข้ารูปทรวดทรงองค์เอวที่อ้อนแอ้นขึ้น นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ดูรูปตัวเองว่าผอมลงแค่ไหน นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ชั่งน้ำหนักหน้าร้านสะดวกซื้อ หากเป็นเมื่อก่อนคงเซลฟี่แล้วอัพรูปหุ่นเพียวอวดเพื่ อนในเฟชบุ๊คหรือไม่ก็เก็บไว้ดูยามที่น้ำหนักมันขึ้นมา เผลออมยิ้มตอนนี้หากถ่ายรูปออกมาคงไม่ต่างจากหญิงงามชนบทของจีนโบราณ ผมยาวที่เกล้ารวบสวยงาม สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แม้จะคิดถึงบ้านแค่ไหนแต่สุดท้ายจะทำอะไรได้รอแค่ว่าสักวัน จะกลับไปได้หรือ ไม่ได้แย่อะไรเสียหน่อยอยู่ที่นี่ก็..อยู่ๆ น้ำตาก็ไหล อยู่ที่นี่ไม่ได้เลวร้ายอะไร อย่างน้อยก็แวดล้อมด้วยคนที่รักจูเจีย“เป็นอะไรไป”น้ำเสียงอ่อนโยนของเสี่ยวซงที่มองเห็นว่าแป๋มเริ่มมีหยาดน้ำตาแป๋มยิ้ม“แค่ดีใจที่เห็นเซอรี่มากมายขนาดนี้ อย่าสนใจเลย เก็บเซอรรี่กัน”จูจิ้นปีนขึ้นไปบนต้นเซอรรี่ที่เตี้ยแต่ลูกดกมากเพียง พริ

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   หลงป่า2

    แป๋มยิ้ม พวกคนเร่ร่อน อาจจะเคยไปลักเล็กขโมยน้อยน้อยมาแต่ตอนที่เขาอยู่ที่นี่เขาก็ดีไม่เคยหยิบฉวยอะไรโดยพลการจะสนใจทำไมว่าเขาจะเป็นคนดีหรือเคยทำเรื่องไม่ดีมาก่อนในเมื่อตอนนี้เขาดีกับเราก็พอ“หากลำบากใจไม่จำเป็นต้องเล่าให้ข้าฟังก็ได้ ข้าไม่ได้คาดหวังอะไรแค่คิดว่าอย่างดีหน่อยก็คงเป็นลูกคนมีตังค์ หรือคุณชาย แต่แย่หน่อยไม่สิเสมอตัวก็เป็นพวกเร่ร่อนที่ชอบขโมยของ เจ้าของเขาถึงตามมาจัดการ เพียงแค่ท่านกลับตัวกลับใจได้เป็นคนดีต่อจากนี้ก็พอ”เสี่ยวซงยิ้ม คว้ามือมาจุมพิตมองสบตากลมโต“ข้าสัญญาจะไม่ปิดบังเจ้า แต่ต้องรอให้ข้าจัดการทุกอย่างเรียบร้อยลงไปก่อน ตอนนี้อย่างไรในใจข้าก็...กลัวว่าเจ้าจะไม่ให้อภัย อย่างนั้นทุกอย่างที่ทำข้าพูดออกมาจากใจ ...ว่าเพื่อเจ้าคนเดียว”แป๋มยิ้มหวาน เสียงท้องร้องจ้อกแจ้กขัดจังหวะทั้งเหนื่อยทั้งหิวหยิบเอาบ๊ะจ่างที่ฮูหยินเฉินห่อผ้าฝ้ายดิบหยิบใสย่ามมาให้ ยังอุ่นๆ ไม่แข็งนิ่มน่ากินจนน้ำลายไหลส่งบ๊ะจ่างให้เสี่ยวซง“หิวแล้ว” เสี่ยวซง เพิ่งจะผ่านช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานเขาหรือจะกินลง แต่แป๋มแม้จะหน้าสิ่ว หรือว่าหน้าขวานแป๋มก็หิวเสมอ“เจ้ากินเสียก่อนข้ายังไม่หิว”แป๋มนั่งลงแกะห่อบ๊ะจ่า

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   ขอบใจ

    “ท่านพ่อช่วยด้วยมีคนต้องการทำร้ายพวกเรา”จูจิ้นตะโกนขึ้นทันทีเมื่อเห็นหน้าบิดา ท่านเฉินแบกจอม แบกคราดวิ่งตรงมายังซงหยางและจูจิ้น“ใครกัน ช่างบังอาจ ในไร่ของข้า จะมีใครกันที่ทำเรื่องแบบนี้”“ท่านพ่อพวกมันมากันมาหลายคน ดีที่ข้าพาท่านลุงหนีมาได้พี่สาวจูเจียกับพี่ชายเสี่ยวซง ช่วยกันขว้างพวกมันไว้”“ท่านซงบาดเจ็บที่ไหนหรือไม่”“จูจิ้นพาข้าหนีออกมาได้ เสี่ยวซงกับบุตรีของท่านไม่รู้จะเป็นอย่างไรกันบ้าง”“ฮูหยินตามคนมาช่วยออกตามหาจูเจียกัน จูจิ้นนำไป”คนทั้งหมดพากันเดินกลับไปยัง ที่พบมือสังหารอีกครั้งส่วนฮูหยินกำลังตามคนมาช่วย“ท่านพี่ระวังตัวด้วย จูจิ้นเจ้าดูแลท่านลุงดีดี”จูจิ้นยืดอกกลางป่า“เราสองคน ไม่มีใครเก่งเรื่องเดินป่าเลยใช่ไหม”แป๋มชักสงสัยทำไมเดินมาไกลขนาดนี้ ทั้งที่อุตส่าห์เดินกลับมาทางเดิมทำไมยังไม่เจอไร่เสียที ตอนวิ่งก็วิ่ง มาอย่างไม่คิดชีวิต“คงจะไม่อาจปฏิเสธว่าข้า ไร้ความสามารถเรื่องหาทางออกไม่ว่าจะเป็นออกจากปัญหาหรือออกจากป่า”“เราต้องออกไปได้น่า ไม่ต้องกลัวแป๋มเสียอย่าง”“แป๋ม”“อะเปล่า จูเจียเสียอย่าง”“เจ้ากลัวไหม”กุมมือสบตาหวานซึ้งแป๋มเบ้ปากเห็นว่าอยู่สองต่อสอง แบบนี้ตั้งใจจะ

Latest chapter

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   จบบริบูรณ์

    “ไม่ต้องห่วงนะข้า ไปศึกษาเคล็ดวิชา เกี่ยวกับ..เอ่ออการอุ่นเตียงที่เจ้าจะต้องติดใจ”รวบร่างบางให้อยู่ใต้ร่างเขาก่อนจะกดริมฝีปากอีกครั้งบรรจงจูบอ่อนหวานปลดแกะอาภรณ์ของตัวเองและของแป๋มออกช้าๆ อ่อนโยนจนแป๋มแทบจะล่องลอยโคมไฟหัวเตียงอ่อนแสงลงเมื่อคนทั้งคู่ กำลังมีความสุขภายใต้แสงไฟสลัว เนิ่นนาน ไม่สนใจเวลาที่หมุนผ่านจนโคมไฟอ่อนแสง (ตัดเข้าโคมไฟอย่าด่าไรท์น้าาา555)สามปีผ่านไป“แค้วนเหนือส่งบรรณาการมาที่แคว้นฉินแทนคำขอบคุณที่ ฝ่าบาทส่งท่านเฉินให้ไปเป็นผู้ถ่ายทอดเคล็ดวิชาในการปลูกผักและถนอมอาหารบัดนี้แคว้นเหนือรุ่งเรือง เป็นบ้านพี่เมืองน้องฮ่องเต้าต้าปอหลันจึงได้มีบัญชาให้นำเครื่องบรรณาการมาที่นี่แทนคำขอบคุณ”ซงหยวนเอื้อมมือกุมมือแป๋มใต้บัลลังก์บีบมือเบาๆ มองสบตา คม อย่างมีความหมาย“กลยุทธ์ของเจ้า เข้าท่าดีไม่น้อยต่อไปบ้านใกล้เรือนเคียงจึงไม่ทะเลาะเบาะแว้งเแย่งชิง ทรัพยากรและดินแดนกันอีกในเมื่อทุกพื้นที่ล้วน ปลูกผักทำสวน พึ่งพาตัวเอง ท่านพ่อตาเก่งเรื่องทำสวน ช่วยดูแลให้ความรู้ชาวแคว้นเหนือได้ดี แม้อยากกลับก็ไม่ได้กลับ ฮ่องเต้แคว้นเหนือแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งราชครูเลยทีเดียว“คิดถึงจูจิ้นเขาไม่อ

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   จบ

    พิธีแต่งงานที่ยิ่งใหญ่อลังการ จนแป๋มคิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นแล้วยังต้องมาสวมอาภรณ์สีแดงด้วยตัวเอง อาการตื่นเต้นจนทำให้ต้องนึกถึงเรื่องที่ผ่อนคลายกว่านี้จะได้ไม่ทำอะไรเงอะงะ ให้ขายหน้าทั้งๆ ที่เมื่อวานวุ่นวายกับการฝึกซ้อมพิธีการแต่….เมื่ออยู่ในห้องสองต่อสองเมื่อวันก่อน แป๋มนำเอาแครอทหั่นฝอยมาทำเป็นส้มตำให้ซงหยวนกินอดจะขำกับเสียงซุดปากที่ขันทียังตกใจเสียไม่ได้ส้มตำไทยรสเด็ดที่แป๋ม ปรุงเองกับมือ ไม่มีมะละกอก็ใช้แครอทซอย เป็นเส้น พริกสดสีแดงจัดจ้านกระเทียมสีม่วงกลีบเล็ก โขลกรวมกัน ใส่กุ้งแห้งที่ตัวใหญ่ไปหน่อย ถั่วลิสงคั่ว มะนาวซีก น้ำผึ้ง และเห็ดหอมสดต้ม ข้าวโพดหวานต้ม ลงไปคลุกเคล้า ตักยื่นส่งตรงหน้าซงหยวนที่ยืนชื่นชม ท่าทีคล่องแคล่วของแป๋ม แต่ก็แอบกลืนน้ำลาย“เจ้าไปนำวิธีการปรุง อาหารจานนี้มาจากไหน”“พูดไปฝ่าบาทก็คงไม่เชื่อแต่จะบอกอะไรให้ อาหารจานนี้จูเจียชอบที่สุด และหากฝ่าบาทได้ชิมจะต้องซี้ดปากด้วยความสะใจ”“ซุ๊ดด ซี็ดเผ็ดมาก แต่อร่อยลิ้น เสียจริงไม่น่าเชื่อแครอทเอามาทำอาหารแบบนี้ได้ วังหลวงของเราไม่เคยมีอาหารรสจัดจ้านเพียงนี้ ข้าเห็นทีจะจัดให้ห้องเครื่องเป้นอาหารที่ทำห้คนนวังหลวงได้ชิม

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   เรียบร้อย

    “เรื่องอัปยศเช่นนี้ข้าก็ไม่อยากจะรื้อฟื้นเอาเป็นว่าเราทั้งสอง ทำทีเป็นเหมือนคนไม่เคยรู้จักกัน อย่างที่ผ่านมาดีแล้ว”“ท่านก็ยังเหมือนเคย””ตัวท่านเองก็เช่นกัน รักในบัลลังก์มากกว่าสิ่งอื่นใด”ซงหยางยิ้ม“ท่านเองก้คงไม่ปรารถนาให้บุตรีต้องมา ผูกพันกับซงหยวนที่มีหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ต้องรับผิดชอบข้ามองไม่เห็นทางว่า หากซงหยวนแต่งกับบุตรีของท่านเหมือนที่ข้ายอมแต่งกับ พี่รองของท่านแล้วจะนำพาแคว้นฉินให้รอดปลอดภัยจากแคว้นอื่นที่ต้องการรุกรานได้อย่างไรในเมื่อซงหยวนมีว่าที่ไท่จือเฟยเป็นองค์หญิงแคว้นใต้”เฉินเจียจิ้นยิ้มบางๆ แม้จะรู้สึกเจ็บแค้นแทนแป๋มเพียงใด แต่ก็ไม่ได้โกรธเคืองชีวิตในวังหลวงล้วนแตกต่างแป๋มจะทนได้หรือซงหยางก้าวเท้าเข้ามาในตำหนักด้วยสีหน้าแช่มชื่น เฉินเจียจิ้นกลับมาสู่ความเป็นจริงตรงหน้า“ข้ายินดี ให้ฮ่องเต้แต่งบุตรีของท่านเป็นฮองเฮา แม้จะต้องกลับคำพูดจากที่เคยพูดไว้”“กลับคำ”“ในตอนนี้ข้าเห็นแล้วว่าแม้ฮ่องเต้ไม่แต่งองคืหญิงจากแคว้นอื่นเพื่อเชื่อมสัมพันธ์แต่งฮ่องเต้ก็ทรงนำพาแคว้นฉินให้อยู่รอดปลอดภัย ซงหยวนเก่งกว่าข้าภายใต้ความเก่งกาจของเขา มีตระกูลเฉิน โดยเฉพาะเฉินจูเจี่ยเป็นแรงผลักดัน

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   จุดจบ

    เพียงครู่เดียวเหล่าทหารของแคว้นฉิน ก็เข้ามา ล้อมบ้านเฉินไปจนสิ้น“เฉินเจียจิ้นรับราชโองการรร” ท่านรเฉินกับฮูหยิน คุกเข่าลงกับพื้นต้าปอหลันเหลือบตามองด้วยความสงสัย“ตามที่บ้านตระกูลเฉินได้ส่งเกาลัดที่ฝ่าบาทโปรดปรานเป็นอย่างยิ่งเข้าไปในวังหลวงบัดนี้ฝ่าบาทได้ให้ข้ามาแจ้งแก่เฉินเจียจิ้นว่าส่งเกาลัดเข้าไปแต่ไม่ยอมส่งคนคั่วเกาลัดเข้าไปด้วยฝ่าบาทจึงจำต้องมาออกมาที่ตลาดมารับคนคั่วเกาลัดคือแม่นางจูเจียด้วยองค์เองเพื่อเป็นการลงทัณฑ์บ้านเฉิน ที่ยังความลำบากให้กับฝ่าบาทเช่นนั้นจึงได้ มีราชโองการ เชิญท่านเฉินและฮูหยินเฉิน ไปที่วังหลวง พร้อมกันนี้ให้นำผักในไร่ไปปรุงเครื่องเสวยถวายฝ่าบาท ทันที เฉินเจียจิ้น รับราชโองการรรร”“น้อมบัญชาฝ่าบาท”เอื้อมมือรับเอาราชโองการมาถือไว้ด้วยมืออันสั่นเทาหันมองหน้าฮูหยินดวงแววตาตื่นตระหนกแม้ข้อความในราชโองการจะฟังดูแปลกๆ แต่ก็อดหวั่นใจเสียไม่ได้เพราะเพิ่งจะเคยได้รับราชโองการจากฮ่องเต้เป็นครั้งแรก“ท่านลุง หากไม่อยากเข้าไปข้ายินดีปกป้องท่าน”ต้าปอหลันประสานมือกล่าวคำห่วงใย“ฝ่าบาท ข้าน้อย แม้จะกลัวเพียงใดแต่เชื่อว่าจะต้องไม่เกิดอันตรายในเมื่อตอนนี้ จูเจียกับจูจิ้นอยู

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   ขอบพระทัยเสี้ยนตี้

    “ขอบพระทัยเสี้ยนตี้”“อืม ปลาทอดราดซอสขิงรสชาติดีเสียจริง ข้าคงไม่กวนเจ้าแล้ว แต่รู้สึกคิดถึงจูจิ้นเหลือเกิน ไปคุยกับท่านลุงให้หายคิดถึงจะดีไหมที่ตำหนักของข้ามี ขนมหวานน่ากิน มากมาย”จูจิ้นยิ้มหันมองทั้งแป๋มและซงหยวน ซงหยวนพยักหน้ายิ้มๆ รีบลุกจากแท่นนั่งวิ่งเข้าเกาะแขนเสี้ยนตี้ฮองเฮามองด้วยสายตาอ่อนโยนแป๋มถอนหายใจเหมือนกับโล่งอกเสียเต็มทีซงหยวนอมยิ้ม“คืนนี้ จูจิ้นค้างที่ตำหนักเสี้ยนตี้”“ฝ่าบาทรู้ได้อย่างไร”“ก็เสี้ยนตี้จะต้องเห็นอกเห็นใจลูกชายคนนี้ที่นานปีเพิ่งจะได้ชิดใกล้คนที่เขารัก”“ข้า ...ข้า”“อย่าบอกนะว่าจะขอแยกห้อง”“ก็ฝ่าบาท จะรังแกกัน”“ใครกันเรียกว่ารังแก เรียกว่าทนคิดถึงไม่ไหว”ปลาทอดราดซอล ขิงวันนี้แป๋มรู้สึกว่ามันหวานไปหน่อยจะด้วยสายลมแสงจันทร์หรือว่าคำหวานกับสายตารักใคร่ของคนข้างหน้าไม่อาจทราบได้บ้านเฉิน“ท่านลุง จูเจียถูกจับตัวไป”ท่านเฉินลุกพลวดจากเก้าอี้“ใครกันทำเรื่องแบบนั้น”“ฮ่องเต้แคว้นฉิน”“หา ฮ่องเต้แคว้นฉิน แล้วเขาจะจับจูเจียไปทำไมกัน”“ฝ่าบาทคนของเราพร้อมแล้ว”องครักษ์ที่ซ่อนตัวอยู่ ปรากฏตัวออกมาประสานมือตรงหน้า ต้าปอหลันฮ่องเต้ ท่านเฉินกับ ฮูหยินเฉินตาค้างด้

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   พาหญิงงามเข้าวัง

    แป๋ม เขย่งเท้าขึ้นจุมพิตที่ปากอุ่นเบาๆ“ขอบคุณที่ทำเพื่อข้า”ซงหยวนกดริมฝีปากกับปากบดขยี้อ่อนหวานก่อนจะถอนริมฝีปากออกช้าๆ“ขอบคุณเช่นกันที่รอข้า”แป๋มยิ้มห้องเครื่องเกาลัดเมล็ดใหญ่ถูกคั่วในเตาด้วยไฟกลาง กลิ่นหอมโชยไปทั่ว ซงหยวนจูงมือแป่มไว้พาเดินเข้าไปในห้องเครื่องขันทีนางกำนัลต่างประสานมือและย่อกายทำความเคารพ“พี่ชายเอ๊ยฝ่าบาท พี่สาวจูเจียข้าคั่วเกาลัดไว้รอพวกท่านกำลังร้อนๆ เนื้อนุ่มหวานอย่าบอกใคร”จูจิ้นวิ่งเข้ามาจับมือข้างที่ว่างของแป๋ม“ปลาสดวันนี้มีมาหรือไม่ ว่าที่ฮองเฮาของข้าตั้งใจจะทำปลาทอดราดซอสขิงทั้งขันทีและนางในห้องเครื่องต่างอมยิ้มกับคำเรียกขานที่ซงหยวนใช้กับแป๋ม“ปลาสดวันนี้ได้มาหลายตัว กระหม่อมทอดเตรียมยกเป็นเครื่องเสวยพอดี”หัวหน้าห้องเครื่องประสานมือพูดขึ้น“ดีมาก ปลาอะไรที่ได้มา”“ปลากะพง สดใหม่จึงทอดเพื่อยกเป็นเครื่องเสวย”“ดีเลย ข้าปรุงซอส ขิงราดคงดีไม่น้อย”ซงหยวนยิ้ม จูงมือ แป๋มให้นั่งลง“แค่เพียงบอกขั้นตอนพวกเขาเจ้าไม่ต้องลงมือให้เปรอะเปื้อน”“ไม่เป็นไรข้าเต็มใจทุกวันก็ทำประจำ”“ไม่ได้ เครื่องเสวยมีหลายสิบตำหนักเจ้าจะต้องเหนื่อยหนักเช่นนั้นนั่งอยู่ข้างข้า คอยสั่งการ

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   ปลาทอดราดซอสขิง

    “เสด็จพ่อ บอกกับข้าว่าเสด็จพ่อเคยทำผิดพลาดเมื่อครั้งหนึ่งที่เคยหนีออกไปเช่นข้าแล้วพบหญิงงามจิตใจดีนางหนึ่งแต่เสด็จพ่อก็จากนางมาปล่อยให้นางเป็นของคนอื่นนั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่ยังเป็นตราบาปในใจของเสด็จพ่อจนถึงทุกวันนี้”“แล้วเสี่ยวซงเล่ากลัวว่าจะเป็นอย่างนั้นบ้างไหม”“กลัวอย่างที่สุด เช่นนั้นจึงต้องแสดงให้เสด็จพ่อเห็นว่าในใจข้ามีเพียงจูเจียคนเดียวไม่แต่งตั้งฮองเฮาไม่แต่งใครเข้ามาให้วุ่นวายสนมนางในไม่รับเข้ามาเพื่อรอวันนี้”กดริมฝีปากกับปากบางแนบแน่นหวานฉ่ำ แป๋มหัวใจพองโตหากปากไม่โดนปิดไว้ก็คงเผลอยิ้มอย่างลืมตัว“ไหนใครเขาบอกว่าแม่นางจูเจียสองปีมานี่เชี่ยวชาญเรื่อง อาหารและการถนอมอาการ ข้าอยากกินเกาลัดคั่วแล้วอยากกิน พะโล้หน่อไม้ แล้วก็อยากกิน..”จ้องหน้าหน้าหวาน“อยากกินอะไร”“อยากกิน หญิงงามบ้านเฉินคนนี้ ดูทีรึว่าจะหวานเหมือนลูกพลับตากแห้งที่ส่งเข้ามาในวังหลวงหรือไม่”แป๋มหลบตาอมยิ้ม“อือ ตอนนี้ข้าทำได้หลายอย่างฝ่าบาทเคยชิม ปลาทอดราดซอสขิงหรือไม่ ข้าทำอร่อยจริงๆนะท่านแม่ยังชมว่ารสดีกว่าท่านแม่ทำ ท่านพ่องี้ให้ข้าทำให้กินประจำ”เสี่ยวซง ถอนหายใจ“เมื่อไหร่จะรู้ว่าคนที่คิดถึงกันเขาจะต้องทำอะไรก

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   สองปีมันนานไป

    “เจ้าเล่า คนผู้นั้นเป็นใคร กุมมือกันในตลาดไม่เกรงสายตาใครข้ารึอุตส่าห์ให้คนคอยจับตาจูเจียเห็นว่าไม่เคยมีใคร วันนี้กับเห็นตำตาว่ามีบุรุษรูปงานข้างกาย”“เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย ท่านเองอาจมีหญิงอื่นข้างกายมากมาย”“ถึงเจ้าบอกว่าไม่เป็นแต่ข้า คิดอยู่เสมอว่าเจ้าคือ...คนที่ข้าหมายปอง และจะบอกอะไรให้ข้าไม่เคยมีใครในใจข้ามีแต่เจ้าคนเดียวตลอดเวลาสองปีมานี้”กระซิบเบาๆ ข้างหู“เป็นท่านทีคิดไปเพียงลำพัง ข้าไม่มีทางเชื่อท่านอีกแล้ว ท่านเป็นถึงฮ่องเต้สนมนางในสวยมากมายมีหรือจะไม่ไขว้เขว้กับหญิงใด”“ข้าจะทำให้เจ้าก็ต้องคิดเหมือนข้า และให้เจ้าเข้าไปดูในห้องบรรทมของข้าจะได้รู้ว่าข้าไม่เคยมีใครร่วมแท่นนอน”แป๋ม ถอนหายใจ“พี่ชายเสี่ยวซงท่านจะพาข้ากับพี่สาวจูเจียไปไหนกัน”จูจิ้นถามขึ้นเมื่อเห็นว่าบรรยากาศกำลังจะเสียไป ทางเดินทอดยาวเข้าสู่วังหลวง ช่างยิ่งใหญ่อลังการน่าทัศนามากกว่าจะมาทะเลาะกัน“พี่ชายเสี่ยวซงเป็นฮ่องเต้จูจิ้นน้อยคิดว่าพี่จะพาคนที่พี่รักที่สุดไปที่ไหนกันล่ะ”แป๋มหลบตาคม จูจิ้นอมยิ้มแก้มปริ“ข้าไปด้วย”ขันทีนางใน ล้วนลอบมองแป๋มที่มีมือของซงหยวนเกาะกุมไว้ด้วยความใคร่รู้และปนไปด้วยความอ

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   เนิ่นนาน

    “เสด็จพ่อโปรดไตร่ตรอง พี่ใหญ่เที่ยวเล่นสนุกสนานอีกทั้ง ยังลุ่มหลงหญิงงาม พาตัวเองไปอยู่ในไร่ในสวนไม่ยอมกลับวังหลวง”“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าซงหยวนอยู่ในไร่”คิ้วของซงหยางขมวดเข้าหากัน“เสด็จพ่อโปรดเมตตา”“บัดซบที่สุด เจ้าทำเรื่องชั่วช้าได้ถึงเพียงนั้นเพียงแค่ตำแหน่งรัชทายาทถึงกับส่งมือสังหาร ไปทำร้ายซงหยวนเชียวหรือ”“เสด็จพ่อ เรื่องแบบนี้ล้วนมีมาแต่โบราณอำนาจและการแย่งชิง”“ข้าไม่เคยคิดว่าซงหลี่ผู้อ่อนน้อมจะกล้าทำเรื่องชั่วช้าเพื่อบัลลังก์ตำหนักบูรพา ทั้งๆที่เป็นพี่น้องท้องเดียวกันเจ้ากับคิดให้ พี่น้องร่วมสายโลหิตต้องตายเพื่อบัลลังก์ องครักษ์นำตัว ซงหลี่ไปขังไว้ที่คุกหลวงรอการไต่สวนอีกครั้ง”“เสด็จพ่อ ลูกสำนึกผิดแล้วลูกไม่อยากไปอยู่ในคุกหลวง”ก้มศีรษะลงกับพื้น“สำนึกผิดเมื่อสายไปแล้วหากคนของเจ้า สังหารซงหยวนจนถึงแก่ความตาย รู้หรือไม่ว่าภายในใจของเจ้าจะต้องทนทรมานแบกรับความรู้สึกผิดนี้ไปเนิ่นนานแค่ไหน”“ลูกผิดไปแล้ว”ไปสำนึกผิด ที่สุสานบรรพชนจนกว่าจะเข้าใจความสัมพันธ์พี่น้องว่ายิ่งใหญ่กว่าสิ่งใด”เค้นเสียงพูดด้วยความาโมโหสุดขีด“ซงหลี่ขอบพระทัยเสด็จพ่อ”ซลี่ก้มหน้ายอมให้องครักษ์คลุมตัยไปโดยดีซ

DMCA.com Protection Status