แชร์

คนเราเลือกอะไรได้

ผู้แต่ง: จันทร์ส่องแสง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-12 12:08:41

“วันนี้จูเจียไปเก็บเห็ดหอมเตรียมส่งเข้าวังหลวงพ่อกับแม่จะไปหว่านเมล็ดงา กับพรวนดินในสวน”

“เสี่ยวซงเจ้าพาบิดาเจ้าเที่ยวชมสวน หรือจะเก็บเห็ดกับจูเจียก็ได้ตามสะดวก”

“พี่ชายเสี่ยวซงต้องไปเก็บเห็ดกับพวกเรา ท่านลุงท่านรู้ไหมการเก็บเห็ดหอมสนุกมากเลยทีเดียว”จูจิ้นเจื้อยแจ้ว ประโยคสุดท้ายหันไปพูดกับซงหยางที่มองออกไปทางเนินเขาที่บัดนี้กับเขียวชอุ่มด้วยพืชผลทางการเกษตรของบ้านเฉิน กี่ปีแล้วที่เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ความทรงจำเมื่อครั้งยังเป็นองค์รัชทายาท

“ไท่จือท่าน ยินดี ที่จะสละตำแหน่งไท่จืออย่างนั้นหรือเพื่อหญิงบ้านป่า สามัญชน ไม่กลัวหรือว่าฝ่าบาทจะโกรธเคืองตัดพ่อตัดลูกกับพระองค์”

องครักษ์ข้างกายเอ่ยปากถามด้วยความผืดหวังในเมื่อที่ทุ่มเทไปทุกอย่างก็หวังว่าซงหยางนเวลานั้นจะมีอำนาจนั่งบนบัลลังก์อย่างผ่าเผยแต่เขากลับลังเลตั้งใจจะสละตำแหน่งไท่จือ

เนินเขาที่เต็มไปด้วยพืชผลทางการเกษตรในตอนนั้นไม่ได้งดงามน่ามองเท่าตอนนี้ นางอันเป็นที่รักของเขา สุดท้ายก็แต่งกับคนผู้หนึ่งไปเสียคนผู้นั้นซึ่งเป็นสามัญชนเช่นกัน ไม่ต้องดิ้นรนหรือปวดร้าวอีกต่อไป ซงหยางถอนใจ

คนเราเลือกอะไรได้ในเมื่อตำแหน่งไท่จือเป็นสวรรค์ที่กำ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   หลงป่า

    เดินลงเนินเขามาไม่ทันไร ต้นเชอรรี่ที่ออกลูกสีแดง สดเต็มต้นแป๋มทำตาโต สวยที่สุดช่างสวยราวกับภาพฝันลูกไม้สีแดงทึบสีเขียวพอประปรายให้สวยงาม ตัดกับขอบฟ้าสีฟ้าคราม เนินหญ้าสีเขียว แป๋มอยากจะถ่ายรูปเก็บไว้ ก้มมองเสื้อผ้าของตัวเองที่ฮูหยินเฉินเย็บให้เสียใหม่ บัดนี้กับเข้ารูปทรวดทรงองค์เอวที่อ้อนแอ้นขึ้น นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ดูรูปตัวเองว่าผอมลงแค่ไหน นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ชั่งน้ำหนักหน้าร้านสะดวกซื้อ หากเป็นเมื่อก่อนคงเซลฟี่แล้วอัพรูปหุ่นเพียวอวดเพื่ อนในเฟชบุ๊คหรือไม่ก็เก็บไว้ดูยามที่น้ำหนักมันขึ้นมา เผลออมยิ้มตอนนี้หากถ่ายรูปออกมาคงไม่ต่างจากหญิงงามชนบทของจีนโบราณ ผมยาวที่เกล้ารวบสวยงาม สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แม้จะคิดถึงบ้านแค่ไหนแต่สุดท้ายจะทำอะไรได้รอแค่ว่าสักวัน จะกลับไปได้หรือ ไม่ได้แย่อะไรเสียหน่อยอยู่ที่นี่ก็..อยู่ๆ น้ำตาก็ไหล อยู่ที่นี่ไม่ได้เลวร้ายอะไร อย่างน้อยก็แวดล้อมด้วยคนที่รักจูเจีย“เป็นอะไรไป”น้ำเสียงอ่อนโยนของเสี่ยวซงที่มองเห็นว่าแป๋มเริ่มมีหยาดน้ำตาแป๋มยิ้ม“แค่ดีใจที่เห็นเซอรี่มากมายขนาดนี้ อย่าสนใจเลย เก็บเซอรรี่กัน”จูจิ้นปีนขึ้นไปบนต้นเซอรรี่ที่เตี้ยแต่ลูกดกมากเพียง พริ

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   หลงป่า2

    แป๋มยิ้ม พวกคนเร่ร่อน อาจจะเคยไปลักเล็กขโมยน้อยน้อยมาแต่ตอนที่เขาอยู่ที่นี่เขาก็ดีไม่เคยหยิบฉวยอะไรโดยพลการจะสนใจทำไมว่าเขาจะเป็นคนดีหรือเคยทำเรื่องไม่ดีมาก่อนในเมื่อตอนนี้เขาดีกับเราก็พอ“หากลำบากใจไม่จำเป็นต้องเล่าให้ข้าฟังก็ได้ ข้าไม่ได้คาดหวังอะไรแค่คิดว่าอย่างดีหน่อยก็คงเป็นลูกคนมีตังค์ หรือคุณชาย แต่แย่หน่อยไม่สิเสมอตัวก็เป็นพวกเร่ร่อนที่ชอบขโมยของ เจ้าของเขาถึงตามมาจัดการ เพียงแค่ท่านกลับตัวกลับใจได้เป็นคนดีต่อจากนี้ก็พอ”เสี่ยวซงยิ้ม คว้ามือมาจุมพิตมองสบตากลมโต“ข้าสัญญาจะไม่ปิดบังเจ้า แต่ต้องรอให้ข้าจัดการทุกอย่างเรียบร้อยลงไปก่อน ตอนนี้อย่างไรในใจข้าก็...กลัวว่าเจ้าจะไม่ให้อภัย อย่างนั้นทุกอย่างที่ทำข้าพูดออกมาจากใจ ...ว่าเพื่อเจ้าคนเดียว”แป๋มยิ้มหวาน เสียงท้องร้องจ้อกแจ้กขัดจังหวะทั้งเหนื่อยทั้งหิวหยิบเอาบ๊ะจ่างที่ฮูหยินเฉินห่อผ้าฝ้ายดิบหยิบใสย่ามมาให้ ยังอุ่นๆ ไม่แข็งนิ่มน่ากินจนน้ำลายไหลส่งบ๊ะจ่างให้เสี่ยวซง“หิวแล้ว” เสี่ยวซง เพิ่งจะผ่านช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานเขาหรือจะกินลง แต่แป๋มแม้จะหน้าสิ่ว หรือว่าหน้าขวานแป๋มก็หิวเสมอ“เจ้ากินเสียก่อนข้ายังไม่หิว”แป๋มนั่งลงแกะห่อบ๊ะจ่า

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   ขอบใจ

    “ท่านพ่อช่วยด้วยมีคนต้องการทำร้ายพวกเรา”จูจิ้นตะโกนขึ้นทันทีเมื่อเห็นหน้าบิดา ท่านเฉินแบกจอม แบกคราดวิ่งตรงมายังซงหยางและจูจิ้น“ใครกัน ช่างบังอาจ ในไร่ของข้า จะมีใครกันที่ทำเรื่องแบบนี้”“ท่านพ่อพวกมันมากันมาหลายคน ดีที่ข้าพาท่านลุงหนีมาได้พี่สาวจูเจียกับพี่ชายเสี่ยวซง ช่วยกันขว้างพวกมันไว้”“ท่านซงบาดเจ็บที่ไหนหรือไม่”“จูจิ้นพาข้าหนีออกมาได้ เสี่ยวซงกับบุตรีของท่านไม่รู้จะเป็นอย่างไรกันบ้าง”“ฮูหยินตามคนมาช่วยออกตามหาจูเจียกัน จูจิ้นนำไป”คนทั้งหมดพากันเดินกลับไปยัง ที่พบมือสังหารอีกครั้งส่วนฮูหยินกำลังตามคนมาช่วย“ท่านพี่ระวังตัวด้วย จูจิ้นเจ้าดูแลท่านลุงดีดี”จูจิ้นยืดอกกลางป่า“เราสองคน ไม่มีใครเก่งเรื่องเดินป่าเลยใช่ไหม”แป๋มชักสงสัยทำไมเดินมาไกลขนาดนี้ ทั้งที่อุตส่าห์เดินกลับมาทางเดิมทำไมยังไม่เจอไร่เสียที ตอนวิ่งก็วิ่ง มาอย่างไม่คิดชีวิต“คงจะไม่อาจปฏิเสธว่าข้า ไร้ความสามารถเรื่องหาทางออกไม่ว่าจะเป็นออกจากปัญหาหรือออกจากป่า”“เราต้องออกไปได้น่า ไม่ต้องกลัวแป๋มเสียอย่าง”“แป๋ม”“อะเปล่า จูเจียเสียอย่าง”“เจ้ากลัวไหม”กุมมือสบตาหวานซึ้งแป๋มเบ้ปากเห็นว่าอยู่สองต่อสอง แบบนี้ตั้งใจจะ

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   อาหารเช้าแสนธรรมดา(เสียเสียง)

    แสงไฟสะท้อนดวงตาเศร้าสร้อย“ท่านไม่ต้องกังวล ข้าไม่เคยกลัวว่าจะต้องเผชิญเรื่องราวร้ายๆ หากว่าท่านลำบากหรือถูกตามล่ามาอยู่ที่ไร่ของเรา ข้ารับรองข้าจะปกป้องท่านเอง”เสี่ยวซงขำกับคำพูดซื่อๆ ของแป๋ม เขาไม่เคยจะบอกอะไรนางก็ไม่เคยถาม แล้วยังเต็มใจจะช่วยเหลือ หากแป๋มรู้ว่าเขาไม่ใช่เสี่ยวซงเล่านางจะยังดีกับเขาไหม“ท่านไม่ต้องกลัวไม่ว่าท่านจะเป็นใครหรือเคยทำอะไรมาก่อนข้าพร้อมจะให้อภัยคนเรากลับตัวกลับใจเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ”เสี่ยวซงกอดรวบร่างบาง (คราวนี้บางจริงๆ ถึงเวลาต้องบางแล้วล่ะ) มาแนบอก กดจมูกโด่งลงบนไหล่บาง“ขอบใจเจ้าจูเจียข้าไม่เคยได้รับคำปลอบใจเช่นนี้จากใครมาก่อน แม้ว่าข้าจะไม่บอกสิ่งใดกับเจ้า แต่เจ้ากับให้ความจริงใจกับข้าเพียงนี้”“มืดค่ำเพียงนี้ยังไม่พบ พี่สาวท่านพ่อเราจะทำอย่างไรดี” ท่านเฉินถอนหายใจ“เห็นจะต้องกลับไปที่บ้านก่อน พรุ่งนี้จึงเกณฑ์คนจากบ้านอื่นให้ช่วยหาพี่สาวเจ้ากับเสี่ยวซง”“แล้วพี่สาวจะเป็นอย่างไรบ้าง”“ไม่พบศพ ก็แปลว่าพี่เจ้ายังปลอดภัย”ซงหยางพูดขึ้นบ้าง“หาจนทั่วไปพบจริงอย่างท่านซงว่า ทั้งสองคนคงปลอดภัยดีพรุ่งนี้จึงจะค้นหาให้กว้างกว่านี้ข้าเชื่อว่า เสี่ยวซงจะต้องดูแลจูเ

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   ข้ารักนาง

    เสียงนกหู๋ผีอิงอู๋ขับขานเจื้อยเแจ๊ว กลิ่นหอมจากผัดมะเขือยาวตากแห้ง (เสียเสี่ยง) ฮูหยินเฉิน เริ่มด้วยการนำมะเขือยาวตากแห้งมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ แช่น้ำ บีบเอาน้ำออกพักไว้ใส่น้ำมันในเตาผัดใส่ขิงกระเทียมและต้นหอมลงไปผัดจนหอม ใส่เนื้อหมูเม็ดสน ลูกเกด ปลาเค็ม เห็ดหอมหน่อไม้ พุทราจีน ที่หั่นสี่เหลี่ยมเช่นกันลงไปผัดใส่น้ำสต๊อกไก่ปรุงรสเป็นอันเสร็จสิ้นแต่กลิ่นหอมในตอนผัดช่างหอมยวนใจเสียจริงซงหยางลืมตาตื่น สูดดมกลิ่นหอมจากฝีมือทำอาหารของฮูหยินเฉิน จูจิ้นยกอ่างล้างหน้ามาเตรียมไว้ให้ไม่บกพร่อง ข้าวสาลีหุงร้อนๆ มีไอร้อนลอยระอุ ท้องร้องโครกคราก“พร้อมหน้ากันแล้ว วันนี้มีเพียงอาหารง่ายๆ เพราะว่าเราจะต้องออกค้นหา เสี่ยวซงและจูเจีย”ท่านเฉินกล่าว ซงหยวน เกือบจะเผลอกลืนน้ำลาย อาหารง่ายๆ แต่มองแล้วไม่ธรรมดา ความหอมที่ปลุกในยามเช้าหากเป็นกลิ่นการปรุงอาหารมักจะทำให้เจริญอาหารได้ดีไม่น้อย ถ้วยข้าวถูกวางตรงหน้าท่านเฉินผายมืออย่างรู้ใจ“เสียเสี่ยงบ้านป่า ท่านซงลองลิ้มรสดู” จงต้าหมิงรับถ้วยข้าวจากฮูหยินเฉินอีกคนซงหยางใช้ตระเกียบในมือคีบผัดมะเขือยาว ที่ใส่ชามสีแดงจากดินเผา เข้าปากเคี้ยวเบาๆ มะเขือยาวเ

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   ข้ารักนาง2

    “ท่านพ่อ”“เสี่ยวซง ดูสิ่งที่เจ้าทำ”ท่าทีฉุนเฉียว แม้แต่คนตาบอดยังมองออก“กลับไปกับข้าเดี๋ยวนี้” เสี่ยวซงหันหน้าหันหลัง“จูเจีย ลุกขึ้นแล้วกลับบ้านเสีย”ท่านเฉินเองก็ไม่น้อยหน้า จูจิ้นรีบไปดึงมือแป๋ม มากำไว้ เมื่อเห็นว่าแป๋มทำสีหน้างงงัน“พี่สาวกลับบ้านกลับเราเสีย ท่านพ่อโมโหใหญ่แล้ว”“ข้ากับเสี่ยวซงเราไม่ได้ทำอะไรกันเสียหน่อย”แป๋มเถียงเพราะออกจะไม่มีเหตุผล ทำไม่ซงหยางต้องโมโหขนาดนั้น ไหนเมื่อลูกตัวเองเป็นผู้ชายไม่ได้เสียหายอะไรเสียหน่อย ท่านเฉินเองก็คงไม่พอใจท่าทีของซงหยาง“จงต้าหมิงคลุมตัวเสี่ยวซง กลับได้แล้ว”ซงหยางออกคำสั่งดังลั่นจงต้าหมิงรีบเดินเข้าไปหาเสี่ยวซงพยักหน้าขึ้นลงช้าๆ กระซิบบอกว่า“ไท่จือท่านต้องไปแล้ว”เสี่ยวซงหันมองหน้าแป๋มด้วยหัวใจที่แหลกสลาย คิดไม่ถึงว่าทุกอย่างจะจบลงเพียงแค่นี้จูจิ้นกำมือของแป๋มไว้แน่น“พี่ชายเสี่ยวซงท่านไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน พี่สาวจูเจียข้าดูแลแทนท่านเอง” ท่านเฉินถลึงตาใส่จูจิ้น อับอายเหล่าชาวสวนข้างเคียงที่มาช่วยค้นหาทั้งสองคนไม่น้อยวังหลวง“เสด็จพ่อโปรดไตร่ตรอง”มือใหญ่ฟาดลงบนแก้มของซงหยวนเสียงสนั่น ซงหลี่ยิ้มด้วยความสาใจ ฮองเฮาตรงเข้า

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   สองปีผ่านไป

    “หมายความว่าทุกอย่างที่เราเห็นเป็นเพียงเรื่องโกหกของเสี่ยวซง เขาอาจไม่ได้ตั้งใจหลอกลวง ทว่าแต่ทุกอย่างล้วนเป็นเพียงเรื่องที่เขาสร้างขึ้น”“เสี่ยวซงไม่มีทางหลอกข้า แม้เขาจะไม่รู้ที่มาที่ไป แต่ข้าเชื่อว่าเขาไม่มีทางหลอกข้า”“เจ้าเห็นท่านซง กับตะเกียบเงินในมือหรือไม่ ทุกครั้งที่ข้าส่งตะเกียบให้เขา เขากลับวางมันไว้ข้างกาย หยิบตะเกียบเงินขึ้นมาลิ้มรสอาหารของเรา เจ้าคิดว่า เขาเป็นใครถึงกลัวว่าจะต้องพิษ”“จูเจีย ..ข้าข้าไม่รู้จริงๆ ”“ตัดใจเสีย เจ้าไม่คู่ควรกับเขา ป้ายหยกที่ข้างเอวของเขาบ่งบอกฐานะชัดเจน ล้วนเป็นของล้ำค่าจากวังหลวง คนธรรมดาล้วนไม่มีสิทธิ์ครอบครอง”ฮูหยินเฉินยกขนมผักกาดวางตรงหน้าแป๋มก่อนจะนั่งลงข้างๆ“ขนมผักกาดกินเสียหน่อยจะได้หายหิว ท่านพี่ให้นางกินอะไรก่อนเรื่องอื่นไว้คุยกันทีหลัง”แป่มน้ำตารื้นขอบตานึกขอบคุณฮูหยินที่เข้าใจว่าบัดนี้หัวใจของแป๋มแหลกสลายส่งตะเกียบในมือให้แป๋ม คีบขนมผักกาดขึ้นใส่ปากเคี้ยว รสชาติอร่อยลิ้น รู้ได้ในทันทีว่ามีส่วนผสมของถั่วงอก ที่หวานกรอบ และ หัวไช้เท้าใบกุ้ยซ่าย“ท่านแม่”ฮูหยินเฉินยิ้ม“ขนมผักกาด เป็นขนมที่ทำหลังเทศกาลตรุษจีน แต่วันนี้ข้าเห็นว่ามีหั

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   ลืมเลือนกันไปหรือยัง

    “ท่านเฉิน ข้านำคนงานมาฝากให้ช่วยทำงานในสวน”“สวนของเราไม่รับคนงานอีกต่อไป”“เสี่ยวต้า คารวะท่านเฉินเสีย”“เสี่ยวต้าคารวะท่านเฉิน”“เห็นทีข้าไม่อาจปฏิเสธได้อีกแล้วใช่ไหม”“ท่านพ่องานในสวนกำลังเร่ง มีคนมาช่วยงานจึงดี”แป๋มช่วยพูดเพราะเห็นว่าลำพังเขากับจูจิ้นบัดนี้งานล้นมือเสี่ยวต้าพยักหน้าขึ้นลงยิ้มๆ เมื่อเห็นว่าแป๋มช่างมีใบหน้างดงามเกินกว่า หญิงบ้านป่าธรรดา“ขอบคุณแม่นางอย่างยิ่ง”แป๋มเบือนหน้าหนีจากตรงนั้นเสีย ยกเอาหลัวเตรียมไปขุดมันในสวนส่งเขาวังหลวงตามที่ตกลงกันไว้“มันเทศที่สั่งไว้ บัดนี้พร้อมส่งเข้าไปบางส่วนอีกส่วนหนึ่งให้ มารับในวันพรุ่งนี้ตอนนี้งานในสวนยุ่งมากอีกทั้งพ่อค้าจากแคว้นเหนือสั่งผักเป็นจำนวนมากเช่นกันการเร่งปลูกและเก็บเกี่ยวทำให้ ต้องใช้แรงงานแต่ตอนนี้บ้านเฉินมีแค่จูเจียกับจูจิ้นเพียงสองคน”“ไม่ได้เร่งรีบอะไรฝ่าบาทโปรดปรานอาหารที่ปรุงขึ้นจากมันเทศ และมีพระกระแสรับสั่งว่าอยากกินเกาลัดเปรยๆ ว่าเกาลัดคงจะแก่และร่วงจากต้นแล้ว เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้ามารับเกาลัดไปพร้อมกันเลย ข้าก็เห็นใจท่านเฉินไม่น้อย สองวันมานี้ฝ่าบาทสั่งให้เพิ่มงบในคลังสำหรับซื้อผักข้าก็แบ่งมาเพิ่มให้ท่าน แต่เร

บทล่าสุด

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   จบบริบูรณ์

    “ไม่ต้องห่วงนะข้า ไปศึกษาเคล็ดวิชา เกี่ยวกับ..เอ่ออการอุ่นเตียงที่เจ้าจะต้องติดใจ”รวบร่างบางให้อยู่ใต้ร่างเขาก่อนจะกดริมฝีปากอีกครั้งบรรจงจูบอ่อนหวานปลดแกะอาภรณ์ของตัวเองและของแป๋มออกช้าๆ อ่อนโยนจนแป๋มแทบจะล่องลอยโคมไฟหัวเตียงอ่อนแสงลงเมื่อคนทั้งคู่ กำลังมีความสุขภายใต้แสงไฟสลัว เนิ่นนาน ไม่สนใจเวลาที่หมุนผ่านจนโคมไฟอ่อนแสง (ตัดเข้าโคมไฟอย่าด่าไรท์น้าาา555)สามปีผ่านไป“แค้วนเหนือส่งบรรณาการมาที่แคว้นฉินแทนคำขอบคุณที่ ฝ่าบาทส่งท่านเฉินให้ไปเป็นผู้ถ่ายทอดเคล็ดวิชาในการปลูกผักและถนอมอาหารบัดนี้แคว้นเหนือรุ่งเรือง เป็นบ้านพี่เมืองน้องฮ่องเต้าต้าปอหลันจึงได้มีบัญชาให้นำเครื่องบรรณาการมาที่นี่แทนคำขอบคุณ”ซงหยวนเอื้อมมือกุมมือแป๋มใต้บัลลังก์บีบมือเบาๆ มองสบตา คม อย่างมีความหมาย“กลยุทธ์ของเจ้า เข้าท่าดีไม่น้อยต่อไปบ้านใกล้เรือนเคียงจึงไม่ทะเลาะเบาะแว้งเแย่งชิง ทรัพยากรและดินแดนกันอีกในเมื่อทุกพื้นที่ล้วน ปลูกผักทำสวน พึ่งพาตัวเอง ท่านพ่อตาเก่งเรื่องทำสวน ช่วยดูแลให้ความรู้ชาวแคว้นเหนือได้ดี แม้อยากกลับก็ไม่ได้กลับ ฮ่องเต้แคว้นเหนือแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งราชครูเลยทีเดียว“คิดถึงจูจิ้นเขาไม่อ

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   จบ

    พิธีแต่งงานที่ยิ่งใหญ่อลังการ จนแป๋มคิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นแล้วยังต้องมาสวมอาภรณ์สีแดงด้วยตัวเอง อาการตื่นเต้นจนทำให้ต้องนึกถึงเรื่องที่ผ่อนคลายกว่านี้จะได้ไม่ทำอะไรเงอะงะ ให้ขายหน้าทั้งๆ ที่เมื่อวานวุ่นวายกับการฝึกซ้อมพิธีการแต่….เมื่ออยู่ในห้องสองต่อสองเมื่อวันก่อน แป๋มนำเอาแครอทหั่นฝอยมาทำเป็นส้มตำให้ซงหยวนกินอดจะขำกับเสียงซุดปากที่ขันทียังตกใจเสียไม่ได้ส้มตำไทยรสเด็ดที่แป๋ม ปรุงเองกับมือ ไม่มีมะละกอก็ใช้แครอทซอย เป็นเส้น พริกสดสีแดงจัดจ้านกระเทียมสีม่วงกลีบเล็ก โขลกรวมกัน ใส่กุ้งแห้งที่ตัวใหญ่ไปหน่อย ถั่วลิสงคั่ว มะนาวซีก น้ำผึ้ง และเห็ดหอมสดต้ม ข้าวโพดหวานต้ม ลงไปคลุกเคล้า ตักยื่นส่งตรงหน้าซงหยวนที่ยืนชื่นชม ท่าทีคล่องแคล่วของแป๋ม แต่ก็แอบกลืนน้ำลาย“เจ้าไปนำวิธีการปรุง อาหารจานนี้มาจากไหน”“พูดไปฝ่าบาทก็คงไม่เชื่อแต่จะบอกอะไรให้ อาหารจานนี้จูเจียชอบที่สุด และหากฝ่าบาทได้ชิมจะต้องซี้ดปากด้วยความสะใจ”“ซุ๊ดด ซี็ดเผ็ดมาก แต่อร่อยลิ้น เสียจริงไม่น่าเชื่อแครอทเอามาทำอาหารแบบนี้ได้ วังหลวงของเราไม่เคยมีอาหารรสจัดจ้านเพียงนี้ ข้าเห็นทีจะจัดให้ห้องเครื่องเป้นอาหารที่ทำห้คนนวังหลวงได้ชิม

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   เรียบร้อย

    “เรื่องอัปยศเช่นนี้ข้าก็ไม่อยากจะรื้อฟื้นเอาเป็นว่าเราทั้งสอง ทำทีเป็นเหมือนคนไม่เคยรู้จักกัน อย่างที่ผ่านมาดีแล้ว”“ท่านก็ยังเหมือนเคย””ตัวท่านเองก็เช่นกัน รักในบัลลังก์มากกว่าสิ่งอื่นใด”ซงหยางยิ้ม“ท่านเองก้คงไม่ปรารถนาให้บุตรีต้องมา ผูกพันกับซงหยวนที่มีหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ต้องรับผิดชอบข้ามองไม่เห็นทางว่า หากซงหยวนแต่งกับบุตรีของท่านเหมือนที่ข้ายอมแต่งกับ พี่รองของท่านแล้วจะนำพาแคว้นฉินให้รอดปลอดภัยจากแคว้นอื่นที่ต้องการรุกรานได้อย่างไรในเมื่อซงหยวนมีว่าที่ไท่จือเฟยเป็นองค์หญิงแคว้นใต้”เฉินเจียจิ้นยิ้มบางๆ แม้จะรู้สึกเจ็บแค้นแทนแป๋มเพียงใด แต่ก็ไม่ได้โกรธเคืองชีวิตในวังหลวงล้วนแตกต่างแป๋มจะทนได้หรือซงหยางก้าวเท้าเข้ามาในตำหนักด้วยสีหน้าแช่มชื่น เฉินเจียจิ้นกลับมาสู่ความเป็นจริงตรงหน้า“ข้ายินดี ให้ฮ่องเต้แต่งบุตรีของท่านเป็นฮองเฮา แม้จะต้องกลับคำพูดจากที่เคยพูดไว้”“กลับคำ”“ในตอนนี้ข้าเห็นแล้วว่าแม้ฮ่องเต้ไม่แต่งองคืหญิงจากแคว้นอื่นเพื่อเชื่อมสัมพันธ์แต่งฮ่องเต้ก็ทรงนำพาแคว้นฉินให้อยู่รอดปลอดภัย ซงหยวนเก่งกว่าข้าภายใต้ความเก่งกาจของเขา มีตระกูลเฉิน โดยเฉพาะเฉินจูเจี่ยเป็นแรงผลักดัน

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   จุดจบ

    เพียงครู่เดียวเหล่าทหารของแคว้นฉิน ก็เข้ามา ล้อมบ้านเฉินไปจนสิ้น“เฉินเจียจิ้นรับราชโองการรร” ท่านรเฉินกับฮูหยิน คุกเข่าลงกับพื้นต้าปอหลันเหลือบตามองด้วยความสงสัย“ตามที่บ้านตระกูลเฉินได้ส่งเกาลัดที่ฝ่าบาทโปรดปรานเป็นอย่างยิ่งเข้าไปในวังหลวงบัดนี้ฝ่าบาทได้ให้ข้ามาแจ้งแก่เฉินเจียจิ้นว่าส่งเกาลัดเข้าไปแต่ไม่ยอมส่งคนคั่วเกาลัดเข้าไปด้วยฝ่าบาทจึงจำต้องมาออกมาที่ตลาดมารับคนคั่วเกาลัดคือแม่นางจูเจียด้วยองค์เองเพื่อเป็นการลงทัณฑ์บ้านเฉิน ที่ยังความลำบากให้กับฝ่าบาทเช่นนั้นจึงได้ มีราชโองการ เชิญท่านเฉินและฮูหยินเฉิน ไปที่วังหลวง พร้อมกันนี้ให้นำผักในไร่ไปปรุงเครื่องเสวยถวายฝ่าบาท ทันที เฉินเจียจิ้น รับราชโองการรรร”“น้อมบัญชาฝ่าบาท”เอื้อมมือรับเอาราชโองการมาถือไว้ด้วยมืออันสั่นเทาหันมองหน้าฮูหยินดวงแววตาตื่นตระหนกแม้ข้อความในราชโองการจะฟังดูแปลกๆ แต่ก็อดหวั่นใจเสียไม่ได้เพราะเพิ่งจะเคยได้รับราชโองการจากฮ่องเต้เป็นครั้งแรก“ท่านลุง หากไม่อยากเข้าไปข้ายินดีปกป้องท่าน”ต้าปอหลันประสานมือกล่าวคำห่วงใย“ฝ่าบาท ข้าน้อย แม้จะกลัวเพียงใดแต่เชื่อว่าจะต้องไม่เกิดอันตรายในเมื่อตอนนี้ จูเจียกับจูจิ้นอยู

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   ขอบพระทัยเสี้ยนตี้

    “ขอบพระทัยเสี้ยนตี้”“อืม ปลาทอดราดซอสขิงรสชาติดีเสียจริง ข้าคงไม่กวนเจ้าแล้ว แต่รู้สึกคิดถึงจูจิ้นเหลือเกิน ไปคุยกับท่านลุงให้หายคิดถึงจะดีไหมที่ตำหนักของข้ามี ขนมหวานน่ากิน มากมาย”จูจิ้นยิ้มหันมองทั้งแป๋มและซงหยวน ซงหยวนพยักหน้ายิ้มๆ รีบลุกจากแท่นนั่งวิ่งเข้าเกาะแขนเสี้ยนตี้ฮองเฮามองด้วยสายตาอ่อนโยนแป๋มถอนหายใจเหมือนกับโล่งอกเสียเต็มทีซงหยวนอมยิ้ม“คืนนี้ จูจิ้นค้างที่ตำหนักเสี้ยนตี้”“ฝ่าบาทรู้ได้อย่างไร”“ก็เสี้ยนตี้จะต้องเห็นอกเห็นใจลูกชายคนนี้ที่นานปีเพิ่งจะได้ชิดใกล้คนที่เขารัก”“ข้า ...ข้า”“อย่าบอกนะว่าจะขอแยกห้อง”“ก็ฝ่าบาท จะรังแกกัน”“ใครกันเรียกว่ารังแก เรียกว่าทนคิดถึงไม่ไหว”ปลาทอดราดซอล ขิงวันนี้แป๋มรู้สึกว่ามันหวานไปหน่อยจะด้วยสายลมแสงจันทร์หรือว่าคำหวานกับสายตารักใคร่ของคนข้างหน้าไม่อาจทราบได้บ้านเฉิน“ท่านลุง จูเจียถูกจับตัวไป”ท่านเฉินลุกพลวดจากเก้าอี้“ใครกันทำเรื่องแบบนั้น”“ฮ่องเต้แคว้นฉิน”“หา ฮ่องเต้แคว้นฉิน แล้วเขาจะจับจูเจียไปทำไมกัน”“ฝ่าบาทคนของเราพร้อมแล้ว”องครักษ์ที่ซ่อนตัวอยู่ ปรากฏตัวออกมาประสานมือตรงหน้า ต้าปอหลันฮ่องเต้ ท่านเฉินกับ ฮูหยินเฉินตาค้างด้

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   พาหญิงงามเข้าวัง

    แป๋ม เขย่งเท้าขึ้นจุมพิตที่ปากอุ่นเบาๆ“ขอบคุณที่ทำเพื่อข้า”ซงหยวนกดริมฝีปากกับปากบดขยี้อ่อนหวานก่อนจะถอนริมฝีปากออกช้าๆ“ขอบคุณเช่นกันที่รอข้า”แป๋มยิ้มห้องเครื่องเกาลัดเมล็ดใหญ่ถูกคั่วในเตาด้วยไฟกลาง กลิ่นหอมโชยไปทั่ว ซงหยวนจูงมือแป่มไว้พาเดินเข้าไปในห้องเครื่องขันทีนางกำนัลต่างประสานมือและย่อกายทำความเคารพ“พี่ชายเอ๊ยฝ่าบาท พี่สาวจูเจียข้าคั่วเกาลัดไว้รอพวกท่านกำลังร้อนๆ เนื้อนุ่มหวานอย่าบอกใคร”จูจิ้นวิ่งเข้ามาจับมือข้างที่ว่างของแป๋ม“ปลาสดวันนี้มีมาหรือไม่ ว่าที่ฮองเฮาของข้าตั้งใจจะทำปลาทอดราดซอสขิงทั้งขันทีและนางในห้องเครื่องต่างอมยิ้มกับคำเรียกขานที่ซงหยวนใช้กับแป๋ม“ปลาสดวันนี้ได้มาหลายตัว กระหม่อมทอดเตรียมยกเป็นเครื่องเสวยพอดี”หัวหน้าห้องเครื่องประสานมือพูดขึ้น“ดีมาก ปลาอะไรที่ได้มา”“ปลากะพง สดใหม่จึงทอดเพื่อยกเป็นเครื่องเสวย”“ดีเลย ข้าปรุงซอส ขิงราดคงดีไม่น้อย”ซงหยวนยิ้ม จูงมือ แป๋มให้นั่งลง“แค่เพียงบอกขั้นตอนพวกเขาเจ้าไม่ต้องลงมือให้เปรอะเปื้อน”“ไม่เป็นไรข้าเต็มใจทุกวันก็ทำประจำ”“ไม่ได้ เครื่องเสวยมีหลายสิบตำหนักเจ้าจะต้องเหนื่อยหนักเช่นนั้นนั่งอยู่ข้างข้า คอยสั่งการ

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   ปลาทอดราดซอสขิง

    “เสด็จพ่อ บอกกับข้าว่าเสด็จพ่อเคยทำผิดพลาดเมื่อครั้งหนึ่งที่เคยหนีออกไปเช่นข้าแล้วพบหญิงงามจิตใจดีนางหนึ่งแต่เสด็จพ่อก็จากนางมาปล่อยให้นางเป็นของคนอื่นนั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่ยังเป็นตราบาปในใจของเสด็จพ่อจนถึงทุกวันนี้”“แล้วเสี่ยวซงเล่ากลัวว่าจะเป็นอย่างนั้นบ้างไหม”“กลัวอย่างที่สุด เช่นนั้นจึงต้องแสดงให้เสด็จพ่อเห็นว่าในใจข้ามีเพียงจูเจียคนเดียวไม่แต่งตั้งฮองเฮาไม่แต่งใครเข้ามาให้วุ่นวายสนมนางในไม่รับเข้ามาเพื่อรอวันนี้”กดริมฝีปากกับปากบางแนบแน่นหวานฉ่ำ แป๋มหัวใจพองโตหากปากไม่โดนปิดไว้ก็คงเผลอยิ้มอย่างลืมตัว“ไหนใครเขาบอกว่าแม่นางจูเจียสองปีมานี่เชี่ยวชาญเรื่อง อาหารและการถนอมอาการ ข้าอยากกินเกาลัดคั่วแล้วอยากกิน พะโล้หน่อไม้ แล้วก็อยากกิน..”จ้องหน้าหน้าหวาน“อยากกินอะไร”“อยากกิน หญิงงามบ้านเฉินคนนี้ ดูทีรึว่าจะหวานเหมือนลูกพลับตากแห้งที่ส่งเข้ามาในวังหลวงหรือไม่”แป๋มหลบตาอมยิ้ม“อือ ตอนนี้ข้าทำได้หลายอย่างฝ่าบาทเคยชิม ปลาทอดราดซอสขิงหรือไม่ ข้าทำอร่อยจริงๆนะท่านแม่ยังชมว่ารสดีกว่าท่านแม่ทำ ท่านพ่องี้ให้ข้าทำให้กินประจำ”เสี่ยวซง ถอนหายใจ“เมื่อไหร่จะรู้ว่าคนที่คิดถึงกันเขาจะต้องทำอะไรก

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   สองปีมันนานไป

    “เจ้าเล่า คนผู้นั้นเป็นใคร กุมมือกันในตลาดไม่เกรงสายตาใครข้ารึอุตส่าห์ให้คนคอยจับตาจูเจียเห็นว่าไม่เคยมีใคร วันนี้กับเห็นตำตาว่ามีบุรุษรูปงานข้างกาย”“เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย ท่านเองอาจมีหญิงอื่นข้างกายมากมาย”“ถึงเจ้าบอกว่าไม่เป็นแต่ข้า คิดอยู่เสมอว่าเจ้าคือ...คนที่ข้าหมายปอง และจะบอกอะไรให้ข้าไม่เคยมีใครในใจข้ามีแต่เจ้าคนเดียวตลอดเวลาสองปีมานี้”กระซิบเบาๆ ข้างหู“เป็นท่านทีคิดไปเพียงลำพัง ข้าไม่มีทางเชื่อท่านอีกแล้ว ท่านเป็นถึงฮ่องเต้สนมนางในสวยมากมายมีหรือจะไม่ไขว้เขว้กับหญิงใด”“ข้าจะทำให้เจ้าก็ต้องคิดเหมือนข้า และให้เจ้าเข้าไปดูในห้องบรรทมของข้าจะได้รู้ว่าข้าไม่เคยมีใครร่วมแท่นนอน”แป๋ม ถอนหายใจ“พี่ชายเสี่ยวซงท่านจะพาข้ากับพี่สาวจูเจียไปไหนกัน”จูจิ้นถามขึ้นเมื่อเห็นว่าบรรยากาศกำลังจะเสียไป ทางเดินทอดยาวเข้าสู่วังหลวง ช่างยิ่งใหญ่อลังการน่าทัศนามากกว่าจะมาทะเลาะกัน“พี่ชายเสี่ยวซงเป็นฮ่องเต้จูจิ้นน้อยคิดว่าพี่จะพาคนที่พี่รักที่สุดไปที่ไหนกันล่ะ”แป๋มหลบตาคม จูจิ้นอมยิ้มแก้มปริ“ข้าไปด้วย”ขันทีนางใน ล้วนลอบมองแป๋มที่มีมือของซงหยวนเกาะกุมไว้ด้วยความใคร่รู้และปนไปด้วยความอ

  • เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาปลูกผักอิหยังวะ   เนิ่นนาน

    “เสด็จพ่อโปรดไตร่ตรอง พี่ใหญ่เที่ยวเล่นสนุกสนานอีกทั้ง ยังลุ่มหลงหญิงงาม พาตัวเองไปอยู่ในไร่ในสวนไม่ยอมกลับวังหลวง”“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าซงหยวนอยู่ในไร่”คิ้วของซงหยางขมวดเข้าหากัน“เสด็จพ่อโปรดเมตตา”“บัดซบที่สุด เจ้าทำเรื่องชั่วช้าได้ถึงเพียงนั้นเพียงแค่ตำแหน่งรัชทายาทถึงกับส่งมือสังหาร ไปทำร้ายซงหยวนเชียวหรือ”“เสด็จพ่อ เรื่องแบบนี้ล้วนมีมาแต่โบราณอำนาจและการแย่งชิง”“ข้าไม่เคยคิดว่าซงหลี่ผู้อ่อนน้อมจะกล้าทำเรื่องชั่วช้าเพื่อบัลลังก์ตำหนักบูรพา ทั้งๆที่เป็นพี่น้องท้องเดียวกันเจ้ากับคิดให้ พี่น้องร่วมสายโลหิตต้องตายเพื่อบัลลังก์ องครักษ์นำตัว ซงหลี่ไปขังไว้ที่คุกหลวงรอการไต่สวนอีกครั้ง”“เสด็จพ่อ ลูกสำนึกผิดแล้วลูกไม่อยากไปอยู่ในคุกหลวง”ก้มศีรษะลงกับพื้น“สำนึกผิดเมื่อสายไปแล้วหากคนของเจ้า สังหารซงหยวนจนถึงแก่ความตาย รู้หรือไม่ว่าภายในใจของเจ้าจะต้องทนทรมานแบกรับความรู้สึกผิดนี้ไปเนิ่นนานแค่ไหน”“ลูกผิดไปแล้ว”ไปสำนึกผิด ที่สุสานบรรพชนจนกว่าจะเข้าใจความสัมพันธ์พี่น้องว่ายิ่งใหญ่กว่าสิ่งใด”เค้นเสียงพูดด้วยความาโมโหสุดขีด“ซงหลี่ขอบพระทัยเสด็จพ่อ”ซลี่ก้มหน้ายอมให้องครักษ์คลุมตัยไปโดยดีซ

DMCA.com Protection Status