Share

อยากมีลูกเพิ่ม

last update Last Updated: 2025-02-23 16:09:16

“คุณนี่มันร้ายกาจจริงๆ!!!” ชิงลี่พูดลอดไรฟันออกมา ลี่เซียงของเราก็แค่ยิ้มรับเท่านั้น เธอไม่ได้ร้ายกาจอะไรเลยนะ แค่ทำตามที่เมิ่งหลันบอกมาก็เท่านั้นเอง

ก่อนหน้าที่เธอจะมาที่ค่ายทหารแห่งนี้นั้น เมิ่งหลันบอกให้เธอและเหอซานไปสืบประวัติผู้หญิงคนนี้เสียก่อน ว่าการที่หล่อนทำแบบนี้นั้นมีจุดมุ่งหมายอะไร พอสืบแล้วก็ไม่พบพิรุธอะไร ทุกคนจึงลงความเห็นว่า คงเป็นตัวชิงลี่ที่คิดอยากได้ผู้พันเหอซานเป็นสามีเพื่อยกระดับของตัวเอง แต่ภูมิหลังที่สืบได้มานั้นทำให้ทุกคนนั้นพากันถอนหายใจ ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะทิ้งได้แม้กระทั่งเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง

ตอนแรกคิดว่าจะเรียกชิงลี่ไปพูดคุยเป็นการส่วนตัว แต่เมิ่งหลันบอกว่าวิธีนี้ไม่ดี ถ้าอยู่ในที่ลับ ผู้หญิงคนนี้คงไม่ยอมรับความจริงเป็นแน่ จึงสรุปสถานที่เชือดก็คือที่โรงอาหารแห่งนี้ เวลาพักเที่ยงเป็นเวลาที่คนมารวมตัวกันมากที่สุด ยังไงชิงลี่ที่กลัวความลับแตกต่อหน้าคนมากมาย ยังไงก็ต้องยอมรับเงื่อนไขอยู่แล้ว

“555 ฉันร้ายกาจไม่เท่าคุณหรอกค่ะ ถ้าคุณตุกติก ไม่ทำตามที่พูดล่ะก็ ฉันจะพาสามีและลูกชายของคุณมาที่นี่ ดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ลี่เซียงส่งยิ้มที่ดูเดียงสาส่งไปให
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   เพื่อนร่วมห้องของจินเหมย

    “สวัสดีค่ะพี่สะใภ้” หวังจินเหม่ยโผล่เข้ามาที่หน้าประตูเพียงครึ่งตัวเท่านั้นเพื่อทักทายภรรยาของพี่ชาย (จินเหม่ยคือน้องสาวคนสุดท้องของบ้านหวัง)“สวัสดีจ้ะ จินเหม่ย วันนี้ไม่มีเรียนหรือจ๊ะถึงได้มาหาพี่ได้” เมิ่งหลันอดแปลกใจไม่ได้ที่เห็นน้องของสามีมาหาเธอในวันนี้ ปกติแล้วจะเป็นแม่สามีมากกว่าที่มาเมื่อลูกสาวคนเล็กอยากได้อะไรหรือว่าของใช้ที่จำเป็นหมด“วันนี้ฉันเลิกเรียนไวค่ะ และจะกลับมานอนบ้านด้วย พอดีผ่านมาทางนี้เลยแวะหาพี่เสียหน่อย”จินเหม่ยที่เห็นว่าไหนๆก็ต้องผ่านที่นี่อยู่แล้วจึงคิดที่จะเข้ามาทักทาย และถือโอกาสซื้อของไปด้วย“แล้วเรื่องเรียนเป็นยังไงบ้างจ๊ะ ยากหรือเปล่า” เมิ่งหลันเอ่ยถาม เพราะไม่รู้ว่าการเรียนสมัยนี้เขาสอนกันแบบไหน เหอตี้เคยบอกให้เธอไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปีหน้า แต่เธอไม่อยากเรียนจึงได้ปฏิเสธออกไป เธอเคยเรียนมาแล้ว จึงไม่คิดที่จะเรียนอีก แค่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ดีมากแล้ว“อืม..ช่วงนี้ยังไม่มีอะไรที่หนักเกินไปหรอกค่ะ ยังเรียนเรื่องพวกพื้นฐานอยู่ ว่าแต่สองแฝดไปไหนหรือคะ” จินเหม่ยกวาดสายตาถามหาหลานๆทันที“กำลังจะกลับจากโรงเรียนน่ะจ้ะ นี่คนไปรับก็ไปตั้งนานแล้วน่าจะไกล้ามาแล้ว

    Last Updated : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ชำระความ

    “นี่จินเหม่ย ของใช้ที่เคยอยู่หน้าห้องน้ำไปไหนแล้วล่ะ” เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งของจินเหม่ยเอ่ยขึ้น เมื่อเข้ามาอาบน้ำแล้วไม่เจอของที่ต้องการใช้ ซึ่งปกติแล้วมันจะวางไว้ที่หน้าห้องน้ำ แต่นี่เธอมองหาแล้วก็ไม่เห็นเลย“ของอะไรล่ะ ฉันไม่เคยเห็นของเธอเลยนะ” จินเหม่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าเธอคนนั้นว่าอะไร“ก็ตะกร้าที่มีสบู่อาบน้ำยังไงล่ะ เธอเห็นบ้างหรือเปล่า ฉันจำได้ว่าเมื่อเช้ามันยังวางอยู่ตรงนี้อยู่เลย” หล่อนเอ่ยถามเหมือนกับว่าของที่ถามหานั้นเป็นของของตน“อ้อ..ของพวกนั้นน่ะหรอ ฉันเก็บมาเองแหละ เธอมีอะไรหรือเปล่า” จินเหม่ยบอกออกไป ของเธอเธอจะเก็บไว้ตรงไหนก็ได้“ทำไมเธอทำแบบนี้ล่ะ แล้วฉันจะใช้อะไรอาบน้ำ เธอเอาออกมาให้ฉันเลยนะ ฉันจะได้อาบน้ำเสียที” ผู้หญิงคนนั้นออกคำสั่งเหมือนกับว่าของพวกนั้นเป็นของตนแล้วจินเหม่ยถือวิสาสะที่เก็บไปโดยไม่บอก“คงไม่ได้หรอก ของพวกนั้นเป็นของฉัน ฉันไม่ให้เธอใช้หรอกนะ” จินเหม่ยพูดแบบไม่ใส่ใจ“เธอเป็นคนแบบนี้ไปได้ยังไง เมื่อก่อนฉันก็ยังใช้ได้ ทำไมเธอเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้กัน” ของแค่นี้ทำเป็นหวงไปได้ เธอใช้แค่นิดๆหน่อยๆเอง“เฮ้อ ของพวกนั้นฉันเองก็ใช้เงินซื้อมาทั้งนั้น ถ้าเธออ

    Last Updated : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   จับขโมย

    วันนี้จินเหม่ยมาร้านค้าที่เปิดใหม่ไกล้กับมหาวิทยาลัย เธอมองรูปแบบแล้ว ร้านนี้ค่อนข้างที่จะเหมือนร้านของพี่สะใภ้มาก หรือว่าพี่สะใภ้เธอจะมาเปิดร้านที่นี่โดยที่ลืมบอกเธอกันนะ“สวัสดีค่ะ อยากได้สินค้าแบบไหนสอบถามได้นะคะ” พนักงานที่ดูแลด้านหน้าทักทายลูกค้า และคอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสินค้า หรือไม่ก็คนที่หาของไม่เจอ“สวัสดีค่ะ ฉันขอเดินดูก่อนนะคะ” จินเหม่ยตอบพนักงานกลับไป แล้วเดินเข้าไปดูรอบๆร้าน“เหมือน เหมือนมาก” จินเหม่ยกำลังคิดว่าร้านนี้เหมือนกับร้านของพี่สะใภ้มาก ไม่ว่าจะเป็นตัวสินค้า หรือชั้นวางของก็ตาม เหมือนขนาดที่ว่าเธอคิดว่าเป็นร้านเดียวกันด้วยซ้ำระหว่างที่จินเหม่ยกำลังพิจารณาข้าวของต่างๆอยู่นั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นพอดี ว่าตอนนี้กำลังมีคนพยายามขโมยสินค้า เธอได้แต่เฝ้าดูไปก่อน เมื่อไหร่ที่มันทำสำเร็จเธอจะไปแจ้งพนักงานทันที“คุณคะ เมื่อสักครู่ฉันเห็นผู้หญิงคนนั้นกำลังขโมยของค่ะ” จินเหม่ยชี้ไปทางผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังทำท่าเลือกของอยู่“จริงหรือคะ ฉันควรที่จะทำยังไงดีคะเนี่ย เจ้าของร้านก็ยังไม่เข้ามาซะด้วย” พนักงานคนนั้นหวั่นใจ กลัวว่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นถ้าหากเธอไปตรวจสอบผู้หญิงคน

    Last Updated : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   เขามีใจให้ฉันใช่มั้ย

    วันนี้จินเหม่ยกลับมาที่ร้านขายของอีกครัง ครั้งนี้เธอตั้งใจที่จะมาซื้อแชมพู ครั้งก่อนที่เธอมานั้นไม่ได้อะไรกลับไป เพราะมัวแต่วุ่นวายเรื่องของคนอื่นอยู่พอจินเหม่ยเดินเข้ามาพนักงานคนเดิมก็จำเธอได้ในทันที“สวัสดีค่ะ วันนี้มาซื้อของหรือคะ” พนักงานคนนั้นทักทายเธอทันที“ค่ะ ว่าจะมาดูของใช้นิดหน่อยค่ะ” จินเหม่ยบอกออกไป ความจริงแล้วเธออยากจะไปร้านของพี่สะใภ้มากกว่าแต่ติดที่ว่ามันไกลและนี่ก็ไกล้จะเย็นแล้ว ที่นี่จึงสดวกที่สุดจินเหม่ยเข้าไปเลือกของไม่นานก็ออกมาพร้อมกับของสามสี่อย่าง เธอจึงส่งให้พนักงานได้คิดเงิน“ทั้งหมด 85 หยวนค่ะ” พนักงานคนนั้นบอกราคาค่าสินค้าทั้งหมด“หืม ไม่ใช่ 100 หยวนหรือคะ” จินเหม่ยอดที่จะสงสัยไม่ได้ “ราคานี้แหละค่ะถูกแล้ว ครั้งก่อนเจ้าของร้านบอกไว้ว่า ถ้าคุณกลับมาซื้อของที่นี่อีกให้ลดราคาให้ค่ะ” พนักงานคนนั้นบอกสิ่งที่จินเหม่ยสงสัย“ถ้าอย่างนั้นฉันฝากขอบคุณเจ้าของร้านด้วยนะคะ ฉันคงต้องกลับก่อนแล้ว ลาล่ะค่ะ”พอได้ของที่ต้องการจินเหม่ยก็ออกมาจากร้านทันทีตอนที่จินเหม่ยกำลังจะออกมาจากร้านนั้น สายตาของเธอก็หันไปเห็นคนที่เธอเคยคิดว่าอยากจะเจออีกสักครั้ง เธอจึงรั้งรอก่อนยังไม่

    Last Updated : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   เรื่องที่ผ่านมาก็ขอให้แล้วกันไป

    เมื่อคนทั้งห้องได้ยินที่จินเหม่ยพูดก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ อะไรคือหลักฐาน หลักฐานที่ชัดเจนที่สุดก็คือสิ่งที่จินเหม่ยนั้นทำลงไป ทั้งผงซักฟอกทั้งยังมีน้ำอีกด้วย“จินเหม่ย หลักฐานมันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเธอทำลายข้าวของของฉัน และคนที่นี่ก็ไม่มีใครเป็นพยานให้เธอหรอกนะ เพราะเขาเองก็เห็นว่าเธอรังแกฉันจริงๆ” ผู้หญิงคนนั้นเข้าใจว่าจินเหม่ยแกล้งพูดขึ้นมาเท่านั้นเพราะกลัวที่จะโดนรายงาน “555 เธอนี่ช่างเสแสร้งได้เก่งจริงๆ เอาเถอะ ฉันมีแน่นอน และไม่ใช่แค่ครั้งนี้หรอกนะ ยังมีครั้งอื่นอีกด้วย” โชคดีที่ทุกครั้งที่เธอมีปัญหากับเพื่อนร่วมห้องเธอมักจะบันทึกเสียงไว้ทุกครั้ง ดังนั้นคำพูดทุกคำย่อมใช้เป็นหลักฐานได้แน่นอน“ถ้าอย่างนั้นฉันขอดูได้หรือเปล่า” คนดูแลหอเองก็สงสัยว่าหลักฐานที่ว่านั้นคืออะไร“อย่างนั้นก็ได้ค่ะ” แล้วจินเหม่ยก็กดเล่นเสียงทันที ทั้งสามคนได้ยินก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้ นี่มันอะไรกัน ไอ้เครื่องเล็กแค่นี้กลับสามารถบันทึกเสียงของทุกคนไว้ได้ แปลก แปลกเกินไปแล้ว“เป็นยังไงบ้างคะ พอได้ฟังแล้วจะทำยังไงต่อไปดีคะ ฉันเองก็จะได้ทำตัวถูก คุณจะไปรายงานเรื่องฉันก็ทำได้ตามสบายเลยนะคะ ฉันเองก็จะไปแจ้งเจ้าหน้าท

    Last Updated : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   เหอตี้และเมิ่งหลันมือขายอันดับหนึ่ง

    วันนี้เป็นวันที่เมิ่งหลันและครอบครัวจะกลับบ้านที่ชนบท ก่อนหน้านั้นเหอตี้ได้นำเอารถออกมาทำทะเบียน และไปสอบใบอนุญาติขับขี่เรียบร้อยแล้ว และยังหัดขับรถได้อย่างคล่องแคล่วอีกด้วยมีอยู่วันนึงระหว่างที่เหอตี้กำลังหัดขับรถอยู่นั้น พี่ชายใหญ่หวังเหอซานและคู่หมั้นของเขาก็มาเยี่ยมน้องชายพอดี จึงได้เห็นรถคันใหม่ของเหอตี้ ก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ เขาไม่คิดเลยว่าน้องชายของเขานั้นจะร่ำรวยขนาดที่สามารถซื้อรถยนต์ส่วนตัวมาใช้ได้แล้ว“เหอตี้รถของนายสวยมากเลยนะ” พี่ใหญ่เหอซานอดที่จะเอามือไปลูบคลำบนฝากระโปรงรถไม่ได้ เขาเองได้ขี่แต่รถของทางการ ไม่เคยได้ขี่รถยนต์ส่วนตัว เลยอดที่จะหลงไหลไม่ได้“พี่อยากได้สักคันหรือเปล่าครับ” เหอตี้เอ่ยถามพี่ชาย ถ้าพี่ชายเขาอยากได้ ตนก็จะไปบอกภรรยาให้เอาออกมาขายให้พี่ชายเขาสักคัน“ราคามันแพงมากหรือเปล่า ลำพังเงินเก็บของฉันที่มีจะไม่พอจ่ายน่ะสิ” เขาคิดว่าราคาของมันไม่น่าจะต่ากว่าหมื่นหยวนแน่นอน ถ้าเขาใช้เงินเก็บที่มีทั้งหมดออกมาซื้รถ แล้วเขาจะเอาเงินที่ไหนไปแต่งภรรยากัน“ไม่พอก็ไม่เป็นไรครับ ผมให้พี่ค้างไว้ก่อนได้ พี่ไม่ต้องกังวนหรอกครับ” เหอตี้คิดว่าจะขายในราคาที่ไกล้เคียงกับ

    Last Updated : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   เรียกร้องค่าเสียหาย

    เมื่อทั้งสี่คนพ่อแม่ลูกลงมาที่ห้องอาหาร ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีคนไม่มาก แต่เมื่อเดินเข้ามาก็กลายเป็นจุดสนใจทันที จะไม่ให้ทุกคนนั้นมองได้ยังไง เหอตี้คนเป็นพ่อนั้นก็หน้าตาดี ถึงแม้ว่าจะออกผอมไปหน่อยแต่ดูแล้วทุกส่วนก็เหมาะเจาะไปหมด ส่วนคนเป็นแม่นั้นถึงจะไม่ได้สวยจัด แต่ก็อยู่ลักษณะที่ดูดีน่ามองยิ่งดูยิ่งเพลินตา ส่วนแฝดพี่นั้นอยู่ในชุดกระโปรงเอี้ยมสั้นแค่เข่าเสื้อตัวในแขนยาวสีขาว และใส่ถุงเท้ายาวครึ่งหน้าแข้งสวมด้วยรองเท้าคัตชูสีดำ ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารัก แฝดน้องเหวินหลงก็อยู่ในชุดเอี้ยมเหมือนกันต่างกันที่ตรงกางเกงเท่านั้น มองดูแล้วโตไปสาวๆคงได้ทิ้งผ้าเช็ดหน้าให้เก็บกันมากมายสองแฝดนั้นเดินจูงมือกัน ขนาบด้วยพ่อและแม่คนละฝั่ง “เหวินหลง ทำไมมีแต่คนมองเราล่ะ” ฟางหลินกระซิบถามน้องชาย ถึงแม้จะกระซิบแต่คนเป็นพ่อแม่ก็ยังได้ยินอยู่ดี“อืม ไม่รู้สิ” เหวินหลงเองก็ไม่เข้าใจ ทั้งสองคนจึงได้แหงนหน้ามองผู้เป็นพ่อและแม่เพื่อขอคำตอบ“แม่ว่าที่พวกเขามองมา อาจจะเป็นเพราะว่าลูกของแม่ทั้งสองคนแต่งตัวได้น่ารักก็เป็นได้” เมิ่งหลันให้คำตอบหลังจากที่พนักงานพามานั่งที่โต๊ะอาหารแล้วสองแฝดที่ได้ยินแบบนั้นก็มองหน้ากัน และ

    Last Updated : 2025-02-23
  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ช่วยเหลือคนระหว่างทาง

    เช้าวันนี้เมิ่งหลันและครอบครัวไม่ได้ลงไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบเมื่อคืนนี้อีก สิ่งทีี่เมิ่งหลันกังวลไม่ใช่เรื่องแบบผู้หญิงสองคนนั้น แต่เป็นเรื่องอาหารเสียมากกว่า เมิ่งหลันนำอาหารจากห้างในมิติออกมาให้ทุกคนได้ทานกัน“อร่อยมากเลยค่ะแม่” ฟางหลินบอกกับมาดาด้วยรอยยิ้ม เธอชอบอาหารที่แม่ทำมากๆ “ของผมก็อร่อยครับ” เหวินหลงเองก็ชอบเหมือนกัน ยิ่งมื้อเช้าแบบนี้ แม่มักจะให้กินหลายอย่าง เขาชอบมาก มีทั้งนม ข้าวต้ม ขนมปัง บางครั้งก็มีน้ำผลไม้อีกด้วย“ดีแล้วที่ลูกชอบ แต่อย่ากินจนมากเกินไปล่ะ พวกเราต้องเดินทางกันต่ออีก ถ้าป่วยขึ้นมาจะทำให้ลำบากเอาได้” เมื่อเห็นว่าลูกทั้งสองคนชอบเธอก็ดีใจ เธอคิดถูกแล้วจริงๆที่ไม่พาทุกคนไปทานอาหารข้างล่าง“คุณจะเอากาแฟด้วยหรือเปล่าคะ” เมิ่งหลันหันไปถามสามี“เอาครับ” เหอตี้เองก็ติดกาแฟเหมือนกัน ปกติเขาเองก็ไม่เคยกินมันมาก่อน แต่พอเห็นภรรยาของเขากินก็เลยลองกินตาม ถ้าได้กินแล้วมันจะทำให้เขานั้นสดชื่นมาก“คุณคิดว่าพวกเราจะใช้เวลาเดินทางกันอีกกี่วันหรือคะ” “อืม ตอนแรกผมคิดเอาไว้ว่าน่าจะวันนี้ตอนเย็นๆ แต่ตอนนี้คงไม่ทันแล้วล่ะครับ เพราะพวกเราใช

    Last Updated : 2025-02-23

Latest chapter

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   พวกเราคือครอบครัว…

    พวกเราคือครอบครัว…สี่ปีต่อมา…หลังจากวันที่เมิ่งหลันคลอดลูกชายฝาแฝด ก็ผ่านมามานานหลายปีแล้ว การเลี้ยงดูลูกของเธอช่างวุ่นวายเป็นอย่างมาก ดีที่เหอตี้ออกจากงานมาช่วยเธอดูแลร้าน ไม่อย่างนั้นเธอเองคงไม่มีเวลาพัก การเลี้ยงลูกถึงสี่คนไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยฟางหลินและเหวินหลงนั้น ดีที่โตพอจนรู้ความแล้ว ตอนนี้อายุก็เข้าปีที่สิบแล้ว หนูน้อยฟางหลินในตอนนี้ความงดงามนั้นเปล่งประกายมากถึงจะยังเด็กอยู่ก็ตาม จนทำให้คุณพ่อนั้นหวงมากเป็นพิเศษ เพราะยิ่งโตหน้าตาก็ยิ่งเหมือนกับคนเป็นแม่ส่วนแฝดน้องเหวินหลงเองก็ใช่ย่อย ความหล่อเหลาก็ไม่ได้แพ้ใคร ในทุกวันที่ไปโรงเรียนมักจะมีสาวน้อยมอบขนมให้อยู่เสมอ จนทุกวันนี้สหายมู่มู่ที่ไปโรงเรียนด้วยกันไม่ต้องเสียเงินซื้อขนมเลยส่วนแฝดชาย หวังจางหมิ่น และหวังเจียวจิ้นนั้น ตอนนี้ก็อายุสี่ขวบแล้ว ซึ่งความซุกซนไม่ต้องพูดถึง ขนาดที่ว่าเมิ่งหลันจ้างพี่เลี้ยงมาเพิ่ม ทั้งสองคนก็ยังหลุดลอดสายตาออกไปซนที่อื่นได้ “จางหมิ่น เจียวจิ้น แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามออกมาเล่นข้างนอกแบบนี้” เมิ่งหลันที่ออกมาเจอลูกๆของเธออยู่ที่ด้านนอกพอดี จึงอดที่จะดุไม่ได้“แม่ครับ พวกเราไม่อยากอยู่ในบ้าน” เ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ออกมาแล้ว…

    ออกมาแล้ว…“หลันหลัน คุณไม่ต้องกลัวนะครับ” เหอตี้ผู้เป็นสามีปลอบใจภรรยาอยู่ที่ข้างเตียง วันนี้เป็นวันที่คุณหมอนั้นนัดผ่าคลอดให้กับเมิ่งหลัน เพราะว่าเธอนั้นมีความเสี่ยงจึงต้องใช้วิธีการผ่าคลอดแทนการคลอดธรรมชาติ“เหอตี้คะ ฉันกลัวจังเลยค่ะ” เธอบอกสามีออกไป นี่คือการคลอดครั้งแรกของเธอ เธอจะไม่กลัวได้อย่างไร ถึงแม้ว่าเมิ่งหลันคนก่อนจะเคยคลอดลูกแต่มันก็ไม่ใช่เธออยู่ดี“ไม่ต้องกลัวไปหรอกนะครับ หมอที่นี่เก่งอยู่แล้ว คุณนอนพักก่อนดีกว่า” เมื่อเหอตี้เห็นว่าภรรยานั้นมีความเครียดจึงอยากให้เธอได้พักผ่อน“แล้วสองแฝดอยู่ที่ไหนหรือคะ” เมิ่งหลันถามหาลูกทั้งสองคน เพราะเธอมารอคลอดตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ก็ยังไม่ได้เจอหน้าลูกเลย“อยู่กับน้าอี้ฝานครับ สองแฝดไม่มีงอแงเลย พูดจารู้เรื่องมาก แค่บอกว่าแม่กำลังจะมาคลอดน้องพวกเขาก็เข้าใจ” เหอตี้เมื่อเช้านี้ได้กลับไปที่บ้านและพูดเรื่องนี้ให้สองแฝดฟัง ซึ่งทั้งสองก็เข้าใจ และบอกว่าจะรอแม่และน้องอยู่ที่บ้าน“คุณจะรอฉันที่ด้านนอกใช่หรือเปล่าคะ” เมิ่งหลันถามสามีเมื่อมองเวลาแล้วไกล้ที่จะเข้าห้องคลอดเต็มที“ผมจะรอคุณอยู่ข้างนอกห้องคลอดแน่นอน ผมรับรองเลยว่าเมื่อคุณออกมา คุ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   งานแต่งงานของพี่ใหญ่เหอซาน

    งานแต่งงานของพี่ใหญ่เหอซาน…วันนี้เป็นวันที่เมิ่งหลันนั้นต้องมาตรวจครรภ์เป็นครั้งที่สอง และการตรวจก็เป็นไปด้วยดี การเติบโตของทารกในครรภ์นั้นดีมากทีเดียวและอีกเรื่องที่ทำให้หลิวเมิ่งหลันและหวังเหอตี้ ต้องตกตะลึงกันอีกครั้ง นั่นก็คือในท้องของเมิ่งหลันนั้นมีลูกน้อยถึงสองคน นั่นก็หมายความว่าในตอนนี้เมิ่งหลันนั้นกำลังท้องลูกแฝดอีกครั้งนั่นเองแต่การแพทย์ในยุคสมัยนี้ก็ไม่สามารถตรวจได้ว่าเจ้าก้อนแป้งที่กำลังนอนอยู่ในท้องของเมิ่งหลันนั้นเป็นเพศไหน จะเป็นชายชาย หญิงหญิง หรือหญิงชาย ก็ไม่อาจรู้ได้ ถึงแม้เจ้าก้อนแป้งทั้งสองจะแข็งแรงดี แต่เมิ่งหลันก็ยังอดเป็นกังวลไม่ได้ เธอกลัวการคลอดลูก เธอกลัวว่าจะไม่สามารถคลอดลูกออกมาได้อย่างปลอดภัย เหอตี้ที่รับรู้ได้ถึงความกังวลก็ได้แต่ปลอบใจภรรยา ไม่ว่าอย่างไรเขาจะหาหมอที่มีฝีมือที่สุดมาทำคลอดให้ภรรยาให้ได้“เดี๋ยววันนี้ผมจะพาคุณไปเที่ยวนะครับ” เหอตี้เอ่ยขึ้นเมื่อพากันออกมาจากในโรงพยาบาลหลังจากที่ตรวจการตั้งครรภ์เสร็จแล้ว“คุณจะพาฉันไปที่ไหนหรือคะ” เมิ่งหลันเองก็เดาไม่ถูก เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เธอก็ยังไม่ได้ออกไปที่ไหนแบบจริงจังสักที เพราะเธอทุ่มเทเวลาใ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   คู่มือการเลี้ยงลูก

    คู่มือการเลี้ยงลูก…หลังจากที่ทุกคนรู้ข่าวเรื่องการท้องของเมิ่งหลันก็ยินดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบ้านใหญ่หวัง แม่เหอที่รู้ข่าวก็ไปสรรหาของบำรุงต่างๆมาให้เมิ่งหลันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโสมหรือรังนกก็ตาม“ฉันต้องขอบคุณคุณแม่มากเลยนะคะสำหรับของบำรุงพวกนี้” เมิ่งหลันบอกแม่สามี ถึงแม้เธอจะรู้ว่าของพวกนี้ดีมีสรรพคุณมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะกินมันได้ เพราะเมื่อครั้งก่อนที่แม่เหอก็ฝากให้เหอตี้เอามาให้เธอทาน พอเธอทานเข้าไปถึงกับอาเจียนไม่ยอมหยุด “ไม่เป็นไรเลยจ้ะ เธอต้องกินมันให้หมดนะ หลานของฉันจะได้ออกมาแข็งแรง” แม่เหอบอกด้วยรอยยิ้ม “ว่าแต่เจ้าใหญ่ จะแต่งงานเมื่อไหร่ดีล่ะ เหอตี้มีลูกแซงหน้าไปแล้วนะ” แม่เหอเอ่ยถามลูกชายคนโต ที่ตอนนี้สานสัมพันธ์กับคู่หมั้นได้อย่างราบรื่น“แล้วคุณแม่ว่ายังไงล่ะครับ พร้อมที่จะไปสู่ขอสะใภ้ใหญ่ได้หรือยัง” เหอซานหันมาถามแม่ของตนบ้างแม่เหอที่ได้ยินแบบนั้นก็ตาโตทันที นี่เจ้าใหญ่ของเธอกำลังบอกให้ไปขอภรรยาให้เขาใช่หรือไม่“นี่ลูกพูดจริงใช่ไหม เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่กับพ่อจะได้ไปพูดเรื่องนี้กับบ้านกงแต่เช้าเลย” “555” เหอซานอดที่จะยิ้มขำแม่ของตนไม่ได้ คงอยากได้สะใภ้มากเลยถ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   สองแฝดจะมีน้อง

    สองแฝดจะมีน้อง…“ท้อง???”“คุณหมอช่วยพูดอีกครั้งได้หรือเปล่าคะ” เมิ่งหลันที่ต้องการได้ยินอีกครั้ง ว่าอาการที่เธอเป็นนั้นเป็นโรคอะไรกันแน่ เธอไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม“คนไข้ไม่ได้ป่วยเป็นอะไรนะครับ อาการที่เป็นอยู่ เป็นอาการของคนท้องเท่านั้นครับ” หมอเองได้ตรวจซ้ำถึงสองรอบจากการจับชีพจร ซึ่งผลที่ออกมาก็เหมือนกันทั้งสองครั้งและเขาเองก็มั่นใจเป็นอย่างมากเมิ่งหลันคิดว่ากลับบ้านไปเธออาจจะเรียกเอาชุดทดสอบการตั้งครรค์ออกมาตวจอีกสักครั้ง เพื่อความแน่ใจ ไม่ใช่ว่าเธอไม่ไว้ใจหมอในยุคนี้หรอกนะ แค่เธออยากมีโมเม้นท์ขึ้นสองขีดแบบคนอื่นบ้างเท่านั้นเอง“แล้วไม่ทราบว่าตอนนี้ฉันท้องกี่เดือนแล้วหรือคะ” เมิ่งหลันเองก็แอบงงเหมือนกัน ทั้งที่เธอเองก็กินยาคุม แล้วลูกของเธอนั้นทะลุยาคุมออกมาได้ยังไงกัน หรือยาที่เธอกินจะหมดอายุนะ แต่ก็ไม่น่าใช่“ประมาณ เดือนกว่าได้แล้วครับ ช่วงนี้คุณก็ดูแลตัวเองให้ดีด้วยนะครับ ของหนักก็ห้ามยกเพราะมันจะเสี่ยงต่อการแท้ง ส่วนในเรื่องของอาหารก็ให้ทานอาหารที่มีประโยชน์ทั้งเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ และก็อย่าลืมดื่มนมด้วยนะครับ อ้อ…และอีกอย่างเรื่องบนเตียงช่วงนี้ก็ให้งดไปก่อนนะครับจนกว่าจะมีอ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   เมิ่งหลันป่วย???

    เมิ่งหลันป่วย???วันนี้เป็นวันที่ห้าแล้ว ที่เมิ่งหลันและคนงานช่วยกันบรรจุของเพื่อทำถุงยังชีพ และทุกวันก็จะทำได้ประมาณหนึ่งพันชุดทุกวัน“คุณเมิ่งหลันคะ วันนี้มีคนมาโวยวายที่หน้าร้านอีกแล้วค่ะ” ซูเหวินเข้ามารายงานเมิ่งหลัน เพราะหลายวันมานี้มีคนต้องการมาซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง แต่ทางร้านไม่สามารถเปิดขายให้ได้ เพราะต้องนำไปช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน นั้นจึงสร้างความไม่พอใจกับลูกค้าบางคน“แล้วได้บอกเหมือนที่ฉันสั่งไว้หรือเปล่าจ๊ะ” เมิ่งหลันเองให้ลูกจ้างทุกคนนั้นบอกลูกค้าไปตามความจริง ว่าทางร้านไมาสามารถขายสินค้าให้ได้ ให้ไปหาซื้อที่อื่นก่อน “บอกแล้วค่ะ….” ทั้งสองพูดกันไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงดังโวยวายกันอยู่ที่ด้านนอก“เฮอะ ที่ไม่ยอมขายข้าวให้พวกฉัน เป็นเพราะว่าจะเอาไปขายให้กับทางการใช่หรือเปล่าล่ะ” เสียงลูกค้าที่เป็นสตรีเอ่ยขึ้น“ไม่อยากขายให้พวกเราก็พูดมาตรงๆเถอะ ไม่ต้องอ้างทางการหรอก มันน่าอาย” เธอยังพูดไม่หยุด“ทำมาเป็นบอกว่าเอาไปช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน ฉันเองก็เดือดร้อนเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นก็ต้องให้ของพวกนี้กับฉันด้วย” ผู้หญิงทืี่มาด้วยกันเอ่ยขึ้น“ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเราก็ไม่มีเงินมากพอที่จะซ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ช่วยเหลือผู้ประสบภัย

    ช่วยเหลือผู้ประสบภัย…….“ทำไมคุณถึงได้ทำหน้าอย่างนั้นล่ะคะ” เมิ่งหลันถามเหอตี้ที่พึ่งจะกลับมาจากที่ทำงาน ก็เห็นว่าสีหน้าของสามีนั้นไม่ค่อยจะดีนัก ทั้งที่ปกติแล้วเวลาที่เขากลับมาบ้านนั้นมักจะส่งยิ้มมาให้ก่อนเสมอเหอตี้ที่ได้ยินเมิ่งหลันถามก็ถอนหายใจ “วันนี้พี่ใหญ่มาหาผมที่ทำงานครับ” เขาเว้นหายใจไปช่วงหนึ่ง จึงทำให้เมิ่งหลันสงสัยเข้าไปอีก“พี่ใหญ่มาขอความช่วยเหลือน่ะครับ ตอนนี้ทางตอนเหนือเกิดภัยธรรมชาติร้ายแรง ฝนตกหนักมาหลายวัน จนตอนนี้ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ บางพื้นที่ก็มีน้ำป่าลงมาจากเขาทำให้บ้านเรือนเสียหายเป็นอย่างมาก” เหอตี้พูดพร้อมกับจ้องหน้าของภรรยา “แล้วยังไงต่อคะ” เมิ่งหลันอดที่จะหงุดหงิดไม่ได้ที่เหอตี้ไม่ยอมพูดให้เสร็จเสียที“ตอนนี้ประชาชนในแถบนั้นหลายพันคนกำลังเดือดร้อนเรื่องอาหาร และที่อยู่อาศัย พี่ใหญ่เลยอยากจะขอให้คุณช่วยเรื่องอาหารครับ” เหอตี้พูดออกมาได้ในที่สุด ที่เขาไม่กล้าพูดออกมาในทีแรกเพราะกลัวว่าภรรยาจะไม่ยอมช่วยเหลือในเรื่องนี้ ทั้งๆที่เขาก็รู้แหละว่าเมิ่งหลันนั้นเป็นคนจิตใจดี แต่ในเรื่องนี้ที่ต้องช่วยคนจำนวนมากเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน“แค่นี้หรือคะ??” เม

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ธุรกิจขายเหล้า

    หลักจากวันที่ช่วยจางเย่วในวันนั้นก็ผ่านมาสองสัปดาห์แล้ว จางเย่วเองก็ไม่ได้กลับไปที่หมู่บ้านเดิม แต่มาเช่าบ้านเพื่อเปิดร้านค้าตามคำแนะนำของเมิ่งหลันแทนจางเย่วนั้นเปิดร้านขายของชำ ไม่ได้ขายครบทุกอย่างเหมือนร้านของเมิ่งหลัน เพราะเธอนั้นอยู่ตัวคนเดียว เธอจึงเลือกขายของจำพวก ข้าวสาร แป้ง น้ำตาล อาหารแห้ง“คุณจางคะ ของชุดนี้ฉันเตรียมให้แล้วนะคะ ส่วนครั้งหน้าคุณโทรมาบอกที่ร้านก็ได้ค่ะ ฉันจะให้เด็กไปเอาใบรายการที่ร้านให้เอง คุณจางจะได้ไม่ต้องลำบากมาเอง ไหนจะต้องดูแลร้านอีก” เมิ่งหลันที่ให้ความช่วยเหลือก็พร้อมที่จะช่วยแบบเต็มที่ อะไรที่พอช่วยได้ก็ช่วยทันทีถ้าไม่เดือดร้อนตัวเธอ“จะดีหรือคะ มันจะเป็นการรบกวนเกินไปหรือเปล่า ทีี่พวกคุณช่วยฉันเอาไว้ ฉันเองก็ตอบแทนไม่ไหวแล้วค่ะ” จางเย่วนั้นเกรงใจจริงๆ คนที่นี่ช่วยเธอเอาไว้ตั้งมากมาย ชดใช้ด้วยชีวิตก็ไม่รู้ว่าจะตอบแทนได้หมดหรือเปล่าและการที่เธอนั้นมีความกล้าเรื่องค้าขายก็เพราะผู้หญิงตรงหน้านี้ จางเย่วชื่นชมเมิ่งหลันเป็นอย่างมาก ผู้หญิงที่เก่งไปซะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องการค้า การปกครองคน การดูแลครอบครัว ผู้หญิงคนนี้เก่งมากจริงๆ และเธอเองก็หวังที่จะเป

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ทวงสินเดิม

    “จะเป็นไปได้ยังไงครับ ในเมื่อเธอขอกลับบ้านเดิมไปตั้งหลายวันแล้วก็ยังไม่กลับมา ไม่รู้ว่าหนีไปกับชู้แล้วหรือเปล่า แล้วใครบอกให้พวกคุณมาที่นี่กัน แล้ว….” นายหนิวหันไปบอกเจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ทันที แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อจางเย่วก็เอ่ยขึ้นทันที“ฉันเอง…” จางเย่วอดทนไม่ไหวต่อคำพูดของคนเป็นสามีจึงได้แสดงตัวออกมานายหนิวที่ได้ยินเสียงก็หันไปดู ก็เจอเข้ากับภรรยาของตนที่เข้าใจว่าตายไปแล้วเมื่อหลายวันก่อน เขาเองก็ตกใจเป็นอย่างมาก ตาของเขาปูดโปนจนแทบจะถลำออกมา“นี่..นี่ เธอยังไม่ตะ..เธอกลับมาแล้วหรือ” ก่อนที่นายหนิวจะเผลอพูดอะไรออกไป เขาเองก็ดึงสติของตัวเองกลับมาเสียก่อน ในเมื่อเรื่องนี้ไม่มีคนรู้เห็นยังไงก็ไม่มีคนเอาผิดเขาได้“ใช่ฉันกลับมาแล้ว ว่าแต่คุณเถอะไปที่ไหนมาหรือคะ อย่าบอกนะว่าออกไปตามหาฉัน” จางเย่วถามขึ้น ทั้งที่รู้ว่าเขาคงออกไปตามสืบเรื่องของตน เพราะนี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ก็ยังไม่มีใครหรือเจ้าหน้าที่มาแจ้งว่าเจอศพของเธอ“เธอหายไปไหนมาหลายวันล่ะ รู้ไหมว่าทุกคนเป็นห่วงเธอมาก” นายหนิวหยิบยกคนอื่นมาอ้าง ทั้งที่ทุกคนก็รู้ว่าเธอเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปตามเจ้าหน้าที่มาทำเรื่องหย่าและทวงสินเด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status