เช้าวันต่อมาประโยคนั้นที่คุณคานส์พูดมันยังทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงจนมาถึงตอนนี้ หลังจากที่พูดคำที่ทำให้หัวใจดวงน้อยของฉันเต้นแรง คุณคานส์ก็หลับไป ทิ้งให้ฉันจมอยู่กับความสับสนคนเดียวกว่าจะข่มตานอนได้ก็เกือบจะตีสองวันนี้คุณคานส์ไม่ได้เข้าไปที่บริษัทเพราะว่าเขาจะพาฉันไปดูชุดแต่งงานตามที่ว่าไว้เมื่อวาน วันนี้ไม่มีคำถามใดเอ่ยถามฉันว่าตกลงที่จะแต่งงานด้วยหรือเปล่า ถึงจะถามไปเมื่อคืนแต่ฉันเองนี่แหละที่เลือกจะไม่ตอบอะไร คุณคานส์กลายมาเป็นผู้ชายที่เงียบขรึมคนเดิม เหมือนเขาลืมไปแล้วว่าเมื่อคืนพูดอะไรออกมา เขาคงไม่คิดจะจำคำพูดของตัวเอง แต่ฉันกลับจำได้ทุกๆ คำพูด เมื่อมาถึงที่ร้านพนักงานต่างก็มาต้อนรับเป็นอย่างดี ก่อนจะพาฉันกับคุณคานส์เข้าไปในร้านและเอาภาพชุดมาให้เราเลือก “ฉันเอาชุดไหนก็ได้ เธอเลือกสิ” คุณคานส์บอกเหมือนเขาเองก็ไม่ได้อยากจะแต่งงานเท่าไหร่ แล้วฉันควรจะรู้สึกยังไงดีล่ะ ในเมื่อการแต่งงานมันคือครั้งเดียวของชีวิต ถ้าไม่เต็มใจก็ไม่ควรจะแต่งกันไม่ใช่หรือไง ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเปิดสมุดภาพดูชุดแต่งงานในแบบต่างๆ ส่วนพนักงานก็เดินหายไปปล่อยให้เราเลือกชุดเองแบบส่วนตัว “ฉันว่าชุด
พอฉันจะลุกขึ้นคุณคานส์ก็ไม่ยอมปล่อย เขายังคงรั้งเอวฉันไว้แน่น “จะหนีทำไม” “อลิชไม่ได้หนีค่ะ” “แล้วเธอรู้สึกยังไง” อีกแล้ว คุณคานส์ถามเรื่องความรู้สึกกับฉันอีกแล้ว ทำไมเขาไม่พูดความรู้สึกของตัวเองออกมาก่อนที่จะถามฉันล่ะ ไม่คิดบ้างหรือไงว่าฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเขารู้สึกยังไง “เลิกยุ่งกับผู้หญิงคนอื่น จะทำได้อย่างนั้นหรอคะ” ฉันถามออกไปตามตรงเพราะไม่คิดว่าคุณคานส์จะทำได้ เมื่อวันก่อนเขายังยกรถให้ผู้หญิงไปใช้อยู่เลย “ฉันจะพยายาม มันคงไม่ยากเท่าไหร่” “ทำไมถึงคิดจะพยายามล่ะคะ ใช้ชีวิตแบบเดิมก็ดีอยู่แล้ว” “การมีครอบครัวสมบูรณ์แบบมันคงจะดีกว่าที่พ่อแม่ต้องแยกกันอยู่ ไม่ใช่หรือไง ?” มันรู้สึกใจชื้นที่คุณคานส์คิดถึงเรื่องอนาคต เขากำลังพูดในเหตุการณ์ข้างหน้าในตอนที่ลูกของเราเกิดมาแล้ว “แต่คุณคานส์ไม่ได้รักอลิช….” ฉันเว้นคำพูดแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาไม่เคยรู้สึก จะพยายามรู้สึกอย่างนั้นหรอ มันจะฝืนไปหรือเปล่า “เธอรู้ได้ยังไง ?” ตึกตัก! ตึกตัก! หัวใจดวงน้อยๆ มันเต้นรัวเมื่อถูกถามกลับมาแบบนั้น ทำเอาฉันเองไม่กล้าที่จะถามอะไรต่อ คุณคานส์ยื่นหน้ามากระซิบบอกใกล้ๆ กับใบหูของฉันว่า “ห
“คุณคานส์คะ ^_^” เธอเดินมากอดแขนคุณคานส์อย่างสนิทสนมและคุณคานส์ก็นิ่งไม่ได้ผลักเธอไส ทั้งที่ฉันยังยืนอยู่ตรงนี้ นี่หรอที่เขาบอกว่าจะเลิกยุ่งกับผู้หญิงคนอื่น นี่หรอที่เขาบอกว่าจะพยายาม “อลิช” ฉันตัดสินใจเดินนี้เข้ามาภายในตัวบ้าน และคุณคานส์ก็เรียกชื่อของฉันตามหลัง แต่ตอนนี้ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น #ภายในห้องยอมรับว่าโกรธและผิดหวังมากๆ ทั้งที่ฉันยอมเชื่อใจแล้ว เพิ่งจะรู้สึกดีได้ยังไม่ถึงครึ่งวันเลยแท้ๆ กลับต้องมารู้สึกแบบนี้ ก๊อกๆ เสียงเคาะห้องดังขึ้นให้หลังจากที่ฉันเข้ามาในห้องไม่ถึงห้านาที “เปิดประตู” เสียงทุ้มที่ออกคำสั่งอยู่ด้านหน้าห้องคือคุณคานส์ พอรู้ว่าเป็นเขาฉันก็นั่งนิ่งไม่ยอมเปิดให้ “อลิช ฉันบอกให้เปิดประตู” เสียงของคุณคานส์เริ่มหงุดหงิดพร้อมทั้งเสียงเคาะ ไม่สิ!! เสียงทุบรัวประตูห้องมันเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ “ไม่ค่ะ อลิชไม่เปิด” ฉันตะเบ็งเสียงตอบกลับไป และคุณคานส์ก็ตอบกลับมาในทันที “ฉันบอกให้เปิด อย่าให้ฉันต้องเปิดเข้าไปเอง”ฉันพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูห้องตามคำสั่ง ถึงแม้ว่าจริงๆ แล้วจะไม่อยากเปิดให้เขาเลยก็ตาม พอเข้ามาในห้อง คุณคานส์ก็จัดการล็อก
“นิ่งไปแบบนี้หมายความว่ายังไง ?” พอฉันเงียบไม่ตอบอะไรคุณคานส์ก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน “…อลิชไม่เคยทำแบบนั้น” ฉันตอบโดยที่ไม่กล้าสบตา หัวใจดวงน้อยก็เอาแต่เต้นแรง และในตอนนี้ฉันก็ลืมไปแล้วว่าก่อนหน้าเคยโกรธเขา “มันไม่ยากขนาดนั้น” “…ละ ลองดูก็ได้ค่ะ” มันเป็นที่ตัวฉันเองใจอ่อน ทั้งที่ไม่ชอบทำเรื่องบนเตียงแต่พอเจอสายตาคู่นั้นจ้องมองมันก็ยอมเขาไปหมดทุกอย่าง คุณคานส์เอามือมาลูบไล้ใบหน้าของฉันเบาๆ แล้วพูด“เธอทำตัวดีขึ้นนะ” “อลิชเคยทำตัวแย่หรอคะ”ฉันก็ทำตัวดีมาตลอดไม่เคยเลยสักครั้งที่จะทำตัวแย่ ทำไมต้องพูดเหมือนว่าเมื่อก่อนฉันเป็นคนดื้อรั้นด้วย “ฉันหมายถึงเรื่องบนเตียง”คุณคานส์ค่อยๆ ลุกขึ้นไปจากตัวของฉัน เขายืนขึ้นแล้วถอดเสื้อที่ตัวเองสวมใส่อยู่ออก หลังจากนั้นก็ปลดกางเกงลง โดยที่สายตาคู่นั้นยังเอาแต่จ้องมองเรือนร่างของฉันอยู่ “เธอไม่ถอด ?” “อลิช ตะ ต้องถอดด้วยหรอคะ” “ใช่เธอต้องถอด” ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วถอดเสื้อผ้าของตัวเองตามที่คุณคานส์สั่ง โดยไม่คัดค้านอะไร เมื่อเสื้อผ้าหลุดออกไปจากตัวหมดทุกชิ้นแล้วคุณคานส์ก็คร่อมมาบนร่างของฉันอีกครั้ง ฝ่ามือใหญ่จับปลายคางฉันเ
ตรวจคำผิดย้อนหลังนะคะ——— เช้าวันใหม่ ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่า ก่อนจะหันมองข้างๆ ตัวเองไม่มีคุณคานส์นอนอยู่แล้ว ฉันคิดว่าตื่นมาจะได้เจอหน้าเขาเป็นคนแรกซะอีก เราคงจะหวังมากเกินไปสินะ… ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งโดยที่เอามือกุมผ้าห่มปิดบังร่างกายเปล่าของตัวเองไว้ ก่อนจะต้องสะดุ้งตกใจเสียงของประตูห้องที่ถูกเปิดเข้ามาอย่างถือวิสาสะ “คุณคานส์อลิชตกใจหมดเลยค่ะ” ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าเป็นคุณคานส์ ตอนนี้คุณคานส์อยู่ในชุดสูทเตรียมพร้อมจะออกไปที่บริษัท “มีอะไรหรือเปล่าคะ ?” “มี” คุณคานส์ตอบเสียงเรียบก่อนจะเดินมาหาฉันที่เตียง เขาโน้มใบหน้าลงมาแล้วกระซิบบอก “เมื่อคืนเธอทำให้ฉันพอใจมากเลยนะรู้ไหม” “บะ บ้าหรอคะ” ฉันตอบกลับอย่างเขินอาย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคุณคานส์ถึงชอบพูดถึงเรื่องบนเตียงแบบนีั “ครั้งต่อไป….”“อลิชมีอะไรจะขอค่ะ” ฉันรีบพูดขัดเพราะรู้ว่าคุณคานส์กำลังจะพูดอะไร “อะไร ?” คุณคานส์ถามแล้วนั่งลงข้างๆ กับฉันเพื่อรอฟังว่าฉันจะขออะไร แต่แทนที่จะนั่งฟังเฉยๆ มือของคุณคานส์นั้นอยู่ไม่นิ่ง เขาเอามือมาดึงผ้าห่มที่ฉันใช้ปิดบังหน้าอกล
ผู้หญิงคนนั้นเธอเดินเข้ามาในร้านพร้อมกันกับเพื่อน และเธอก็มองเห็นฉันแต่ไม่ได้ทักท้วงอะไรแถมยังชักสีหน้าใส่อีกต่างหาก ที่คุณคานส์เคยบอกว่าฉันเป็นน้องสาวเขาเธอคงไม่เชื่อ ไม่อย่างนั้นคงไม่ชักสีหน้าใส่แบบนี้“แกจะบอกฉันได้หรือยังว่าไปเอาเงินที่ไหนมาออกรถหรูๆ แบบนี้” พอนั่งรถที่โต๊ะเพื่อนของเธอก็ถามขึ้นมาทันที ที่ฉันได้ยินก็เพราะว่าเธอกับเพื่อนนั้นนั่งอยู่ทางด้านหลังฉันนี่เอง ทั้งที่ที่ว่างมีตั้งเยอะแยะแต่เธอเลือกจะนั่งใกล้ๆ ฉัน เหมือนจงใจ“ผู้ชายให้มาน่ะ” “หื้มร้ายนะคะ เขาคงไม่ได้ให้มาใช้ฟรีๆ ถูกไหม” “ก็แค่นอนกับเขา อยากได้อะไรแค่โทรขอเขาก็ให้ฉันทุกอย่าง” “จริงหรอแก ใครอะหล่อหรือเปล่า ต้องรวยมากแน่ๆ เลยใช่ไหม” ฉันกำมือแน่นจนมันเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเมื่อได้ยินบทสนทนาที่ผู้หญิงสองคนนั้นคุยกัน แค่นอนกับเขา อยากได้อะไรก็ให้ทุกอย่าง คำนี้มันทำให้ฉันเจ็บปวด ฉันไม่แคร์เรื่องที่มันเกิดขึ้นก่อนที่คุณคานส์จะบอกว่าเขาจะเปลี่ยนตัวเอง แต่ถ้ามันเกิดขึ้นหลังจากที่เขาพูดฉันคงทนอยู่กับผู้ชายมักมากไม่ได้อีก ที่ผ่านมาฉันทนอยู่เพราะความไม่ชัดเจน สถานะของเรามันไม่สามารถบอกใครได้ว่าคืออะไร แต่ในเมื่อคุ
“ปล่อยนะคะ” ฉันพยายามดิ้นอยู่ภายใต้วงแขนแกร่ง แต่ทว่ายิ่งดิ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งถูกสวมกอดแน่นขึ้น “อย่าดิ้นแรงสิ เธอท้องอยู่นะ” “ท้องอยู่แล้วยังไงคะ” ฉันไม่ได้ทำตามคำพูดของคุณคานส์แล้วก็เริ่มดิ้นแรงขึ้น ลมหายใจร้อนผ่าวของคุณคานส์เป่ารดลงมากระทบบนไหล่ ก่อนที่เขาจะจับตัวฉันให้หันหน้ามาประจันกับตัวเอง “อลิชจะกลับบ้าน จะไม่อยู่ให้คุณคานส์หลอกแล้ว” ไม่อยากจะร้องไห้ต่อหน้าเขาเลยสักนิด แต่สุดท้ายหยดน้ำตามันก็ไหลลงมาอาบแก้ม “ฉันไม่ให้กลับ” “ไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้นสิคะ อย่ามายุ่งกับอลิช” ฉันใช้กำปั้นเล็กๆ ทุบรัวบนแผงอกแกร่งของคุณคานส์ “เธอเป็นเมียฉันไม่ให้ฉันยุ่งได้ยังไง” “คำว่าเมียคุณคานส์ใช้กับผู้หญิงทุกคนเลยไหมคะ” ฉันถามในเชิงประชดก่อนจะค่อยๆ หยุดดิ้นเพราะความเหนื่อยคุณคานส์ส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย “คำว่าเมีย ฉันใช้แค่กับเธอคนเดียว” “จะให้เชื่อได้ยังไงละคะ ในเมื่อคุณคานส์เพิ่งจะโกหกอลิชไป” “แล้วจะให้ฉันทำยังไงเธอถึงจะหายโกรธ จะให้ทำยังไงถึงจะยอมคุยกันดีๆ”“ที่อลิชเป็นแบบนี้ไม่ใช่โกรธ อลิชแค่ผิดหวัง ผิดหวังที่เชื่อใจคนผิด” “ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้ไปเอากับใคร ตั้งแต่บอกกับเธอว่าจะเปลี
ตรวจคำผิดย้อนหลังนะคะ…………หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวโคมๆ ทั้งที่ตอนแรกคิดไว้แล้วว่ายังไงทุกอย่างมันก็ต้องจบวันนี้แท้ๆ แต่สุดท้ายฉันก็เกิดความลังเล “อะไรนะ ลูกอยากให้แม่รีบๆ หายโกรธพ่อใช่ไหม” คุณคานส์เอามือมาลูบท้องของฉันแล้วทำท่าพูดคุยกับลูกอีกครั้ง มันอดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้มออกมา พอคุณคานส์เห็นว่าฉันยิ้มเขาก็เอานิ้วมาจิ้มๆ ที่แก้มของฉันเบาๆ “เธอยิ้มแล้ว” เขาพูดพร้อมกับถอนหายใจเหมือนโล่งอก “อะ อลิชไม่ได้ยิ้มสักหน่อย” พอถูกจับได้ฉันก็รีบหุบยิ้มทันที แต่ไม่ทันแล้วแหละ “หายโกรธหรือยัง ?” “ก็ได้ค่ะ แต่ถ้ามีอีกไม่ต้องมาคุยกันแล้วนะคะ”“รู้แล้วน่า เธอไม่ต้องทำเสียงดุใส่ฉันแบบนั้นก็ได้” “ไว้ใจได้แน่นะคะ” ฉันถามย้ำเพราะความเจ้าชู้ของคุณคานส์มันทำให้ลังเล “ไว้ใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์” คุณคานส์ตอบเสียงหนักแน่น ก็ได้ฉันจะลองเชื่อเขาอีกสักครั้ง ถ้าเขาทำให้ฉันเสียใจอีกทุกอย่างมันต้องจบแล้วจริงๆ เพราะคงไม่มีใครอยากเสียน้ำตาครั้งแล้วครั้งเล่าหรอก “วันนี้ฉันอยากกินอาหารฝีมือเมีย” คุณคานส์บอกเสียงอ้อน รู้สึกว่าเขาทำตัวดีขึ้นนะ กลบเกลื่อนความผิดละสิ “อลิชไม่ได้ไปซื้อของที่ตลาดค่ะ เพราะมัวแต่หงุดหงิดค