พอฉันจะลุกขึ้นคุณคานส์ก็ไม่ยอมปล่อย เขายังคงรั้งเอวฉันไว้แน่น “จะหนีทำไม” “อลิชไม่ได้หนีค่ะ” “แล้วเธอรู้สึกยังไง” อีกแล้ว คุณคานส์ถามเรื่องความรู้สึกกับฉันอีกแล้ว ทำไมเขาไม่พูดความรู้สึกของตัวเองออกมาก่อนที่จะถามฉันล่ะ ไม่คิดบ้างหรือไงว่าฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเขารู้สึกยังไง “เลิกยุ่งกับผู้หญิงคนอื่น จะทำได้อย่างนั้นหรอคะ” ฉันถามออกไปตามตรงเพราะไม่คิดว่าคุณคานส์จะทำได้ เมื่อวันก่อนเขายังยกรถให้ผู้หญิงไปใช้อยู่เลย “ฉันจะพยายาม มันคงไม่ยากเท่าไหร่” “ทำไมถึงคิดจะพยายามล่ะคะ ใช้ชีวิตแบบเดิมก็ดีอยู่แล้ว” “การมีครอบครัวสมบูรณ์แบบมันคงจะดีกว่าที่พ่อแม่ต้องแยกกันอยู่ ไม่ใช่หรือไง ?” มันรู้สึกใจชื้นที่คุณคานส์คิดถึงเรื่องอนาคต เขากำลังพูดในเหตุการณ์ข้างหน้าในตอนที่ลูกของเราเกิดมาแล้ว “แต่คุณคานส์ไม่ได้รักอลิช….” ฉันเว้นคำพูดแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาไม่เคยรู้สึก จะพยายามรู้สึกอย่างนั้นหรอ มันจะฝืนไปหรือเปล่า “เธอรู้ได้ยังไง ?” ตึกตัก! ตึกตัก! หัวใจดวงน้อยๆ มันเต้นรัวเมื่อถูกถามกลับมาแบบนั้น ทำเอาฉันเองไม่กล้าที่จะถามอะไรต่อ คุณคานส์ยื่นหน้ามากระซิบบอกใกล้ๆ กับใบหูของฉันว่า “ห
“คุณคานส์คะ ^_^” เธอเดินมากอดแขนคุณคานส์อย่างสนิทสนมและคุณคานส์ก็นิ่งไม่ได้ผลักเธอไส ทั้งที่ฉันยังยืนอยู่ตรงนี้ นี่หรอที่เขาบอกว่าจะเลิกยุ่งกับผู้หญิงคนอื่น นี่หรอที่เขาบอกว่าจะพยายาม “อลิช” ฉันตัดสินใจเดินนี้เข้ามาภายในตัวบ้าน และคุณคานส์ก็เรียกชื่อของฉันตามหลัง แต่ตอนนี้ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น #ภายในห้องยอมรับว่าโกรธและผิดหวังมากๆ ทั้งที่ฉันยอมเชื่อใจแล้ว เพิ่งจะรู้สึกดีได้ยังไม่ถึงครึ่งวันเลยแท้ๆ กลับต้องมารู้สึกแบบนี้ ก๊อกๆ เสียงเคาะห้องดังขึ้นให้หลังจากที่ฉันเข้ามาในห้องไม่ถึงห้านาที “เปิดประตู” เสียงทุ้มที่ออกคำสั่งอยู่ด้านหน้าห้องคือคุณคานส์ พอรู้ว่าเป็นเขาฉันก็นั่งนิ่งไม่ยอมเปิดให้ “อลิช ฉันบอกให้เปิดประตู” เสียงของคุณคานส์เริ่มหงุดหงิดพร้อมทั้งเสียงเคาะ ไม่สิ!! เสียงทุบรัวประตูห้องมันเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ “ไม่ค่ะ อลิชไม่เปิด” ฉันตะเบ็งเสียงตอบกลับไป และคุณคานส์ก็ตอบกลับมาในทันที “ฉันบอกให้เปิด อย่าให้ฉันต้องเปิดเข้าไปเอง”ฉันพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูห้องตามคำสั่ง ถึงแม้ว่าจริงๆ แล้วจะไม่อยากเปิดให้เขาเลยก็ตาม พอเข้ามาในห้อง คุณคานส์ก็จัดการล็อก
“นิ่งไปแบบนี้หมายความว่ายังไง ?” พอฉันเงียบไม่ตอบอะไรคุณคานส์ก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน “…อลิชไม่เคยทำแบบนั้น” ฉันตอบโดยที่ไม่กล้าสบตา หัวใจดวงน้อยก็เอาแต่เต้นแรง และในตอนนี้ฉันก็ลืมไปแล้วว่าก่อนหน้าเคยโกรธเขา “มันไม่ยากขนาดนั้น” “…ละ ลองดูก็ได้ค่ะ” มันเป็นที่ตัวฉันเองใจอ่อน ทั้งที่ไม่ชอบทำเรื่องบนเตียงแต่พอเจอสายตาคู่นั้นจ้องมองมันก็ยอมเขาไปหมดทุกอย่าง คุณคานส์เอามือมาลูบไล้ใบหน้าของฉันเบาๆ แล้วพูด“เธอทำตัวดีขึ้นนะ” “อลิชเคยทำตัวแย่หรอคะ”ฉันก็ทำตัวดีมาตลอดไม่เคยเลยสักครั้งที่จะทำตัวแย่ ทำไมต้องพูดเหมือนว่าเมื่อก่อนฉันเป็นคนดื้อรั้นด้วย “ฉันหมายถึงเรื่องบนเตียง”คุณคานส์ค่อยๆ ลุกขึ้นไปจากตัวของฉัน เขายืนขึ้นแล้วถอดเสื้อที่ตัวเองสวมใส่อยู่ออก หลังจากนั้นก็ปลดกางเกงลง โดยที่สายตาคู่นั้นยังเอาแต่จ้องมองเรือนร่างของฉันอยู่ “เธอไม่ถอด ?” “อลิช ตะ ต้องถอดด้วยหรอคะ” “ใช่เธอต้องถอด” ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วถอดเสื้อผ้าของตัวเองตามที่คุณคานส์สั่ง โดยไม่คัดค้านอะไร เมื่อเสื้อผ้าหลุดออกไปจากตัวหมดทุกชิ้นแล้วคุณคานส์ก็คร่อมมาบนร่างของฉันอีกครั้ง ฝ่ามือใหญ่จับปลายคางฉันเ
ตรวจคำผิดย้อนหลังนะคะ——— เช้าวันใหม่ ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่า ก่อนจะหันมองข้างๆ ตัวเองไม่มีคุณคานส์นอนอยู่แล้ว ฉันคิดว่าตื่นมาจะได้เจอหน้าเขาเป็นคนแรกซะอีก เราคงจะหวังมากเกินไปสินะ… ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งโดยที่เอามือกุมผ้าห่มปิดบังร่างกายเปล่าของตัวเองไว้ ก่อนจะต้องสะดุ้งตกใจเสียงของประตูห้องที่ถูกเปิดเข้ามาอย่างถือวิสาสะ “คุณคานส์อลิชตกใจหมดเลยค่ะ” ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าเป็นคุณคานส์ ตอนนี้คุณคานส์อยู่ในชุดสูทเตรียมพร้อมจะออกไปที่บริษัท “มีอะไรหรือเปล่าคะ ?” “มี” คุณคานส์ตอบเสียงเรียบก่อนจะเดินมาหาฉันที่เตียง เขาโน้มใบหน้าลงมาแล้วกระซิบบอก “เมื่อคืนเธอทำให้ฉันพอใจมากเลยนะรู้ไหม” “บะ บ้าหรอคะ” ฉันตอบกลับอย่างเขินอาย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคุณคานส์ถึงชอบพูดถึงเรื่องบนเตียงแบบนีั “ครั้งต่อไป….”“อลิชมีอะไรจะขอค่ะ” ฉันรีบพูดขัดเพราะรู้ว่าคุณคานส์กำลังจะพูดอะไร “อะไร ?” คุณคานส์ถามแล้วนั่งลงข้างๆ กับฉันเพื่อรอฟังว่าฉันจะขออะไร แต่แทนที่จะนั่งฟังเฉยๆ มือของคุณคานส์นั้นอยู่ไม่นิ่ง เขาเอามือมาดึงผ้าห่มที่ฉันใช้ปิดบังหน้าอกล
ผู้หญิงคนนั้นเธอเดินเข้ามาในร้านพร้อมกันกับเพื่อน และเธอก็มองเห็นฉันแต่ไม่ได้ทักท้วงอะไรแถมยังชักสีหน้าใส่อีกต่างหาก ที่คุณคานส์เคยบอกว่าฉันเป็นน้องสาวเขาเธอคงไม่เชื่อ ไม่อย่างนั้นคงไม่ชักสีหน้าใส่แบบนี้“แกจะบอกฉันได้หรือยังว่าไปเอาเงินที่ไหนมาออกรถหรูๆ แบบนี้” พอนั่งรถที่โต๊ะเพื่อนของเธอก็ถามขึ้นมาทันที ที่ฉันได้ยินก็เพราะว่าเธอกับเพื่อนนั้นนั่งอยู่ทางด้านหลังฉันนี่เอง ทั้งที่ที่ว่างมีตั้งเยอะแยะแต่เธอเลือกจะนั่งใกล้ๆ ฉัน เหมือนจงใจ“ผู้ชายให้มาน่ะ” “หื้มร้ายนะคะ เขาคงไม่ได้ให้มาใช้ฟรีๆ ถูกไหม” “ก็แค่นอนกับเขา อยากได้อะไรแค่โทรขอเขาก็ให้ฉันทุกอย่าง” “จริงหรอแก ใครอะหล่อหรือเปล่า ต้องรวยมากแน่ๆ เลยใช่ไหม” ฉันกำมือแน่นจนมันเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเมื่อได้ยินบทสนทนาที่ผู้หญิงสองคนนั้นคุยกัน แค่นอนกับเขา อยากได้อะไรก็ให้ทุกอย่าง คำนี้มันทำให้ฉันเจ็บปวด ฉันไม่แคร์เรื่องที่มันเกิดขึ้นก่อนที่คุณคานส์จะบอกว่าเขาจะเปลี่ยนตัวเอง แต่ถ้ามันเกิดขึ้นหลังจากที่เขาพูดฉันคงทนอยู่กับผู้ชายมักมากไม่ได้อีก ที่ผ่านมาฉันทนอยู่เพราะความไม่ชัดเจน สถานะของเรามันไม่สามารถบอกใครได้ว่าคืออะไร แต่ในเมื่อคุ
“ปล่อยนะคะ” ฉันพยายามดิ้นอยู่ภายใต้วงแขนแกร่ง แต่ทว่ายิ่งดิ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งถูกสวมกอดแน่นขึ้น “อย่าดิ้นแรงสิ เธอท้องอยู่นะ” “ท้องอยู่แล้วยังไงคะ” ฉันไม่ได้ทำตามคำพูดของคุณคานส์แล้วก็เริ่มดิ้นแรงขึ้น ลมหายใจร้อนผ่าวของคุณคานส์เป่ารดลงมากระทบบนไหล่ ก่อนที่เขาจะจับตัวฉันให้หันหน้ามาประจันกับตัวเอง “อลิชจะกลับบ้าน จะไม่อยู่ให้คุณคานส์หลอกแล้ว” ไม่อยากจะร้องไห้ต่อหน้าเขาเลยสักนิด แต่สุดท้ายหยดน้ำตามันก็ไหลลงมาอาบแก้ม “ฉันไม่ให้กลับ” “ไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้นสิคะ อย่ามายุ่งกับอลิช” ฉันใช้กำปั้นเล็กๆ ทุบรัวบนแผงอกแกร่งของคุณคานส์ “เธอเป็นเมียฉันไม่ให้ฉันยุ่งได้ยังไง” “คำว่าเมียคุณคานส์ใช้กับผู้หญิงทุกคนเลยไหมคะ” ฉันถามในเชิงประชดก่อนจะค่อยๆ หยุดดิ้นเพราะความเหนื่อยคุณคานส์ส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย “คำว่าเมีย ฉันใช้แค่กับเธอคนเดียว” “จะให้เชื่อได้ยังไงละคะ ในเมื่อคุณคานส์เพิ่งจะโกหกอลิชไป” “แล้วจะให้ฉันทำยังไงเธอถึงจะหายโกรธ จะให้ทำยังไงถึงจะยอมคุยกันดีๆ”“ที่อลิชเป็นแบบนี้ไม่ใช่โกรธ อลิชแค่ผิดหวัง ผิดหวังที่เชื่อใจคนผิด” “ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้ไปเอากับใคร ตั้งแต่บอกกับเธอว่าจะเปลี
ตรวจคำผิดย้อนหลังนะคะ…………หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวโคมๆ ทั้งที่ตอนแรกคิดไว้แล้วว่ายังไงทุกอย่างมันก็ต้องจบวันนี้แท้ๆ แต่สุดท้ายฉันก็เกิดความลังเล “อะไรนะ ลูกอยากให้แม่รีบๆ หายโกรธพ่อใช่ไหม” คุณคานส์เอามือมาลูบท้องของฉันแล้วทำท่าพูดคุยกับลูกอีกครั้ง มันอดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้มออกมา พอคุณคานส์เห็นว่าฉันยิ้มเขาก็เอานิ้วมาจิ้มๆ ที่แก้มของฉันเบาๆ “เธอยิ้มแล้ว” เขาพูดพร้อมกับถอนหายใจเหมือนโล่งอก “อะ อลิชไม่ได้ยิ้มสักหน่อย” พอถูกจับได้ฉันก็รีบหุบยิ้มทันที แต่ไม่ทันแล้วแหละ “หายโกรธหรือยัง ?” “ก็ได้ค่ะ แต่ถ้ามีอีกไม่ต้องมาคุยกันแล้วนะคะ”“รู้แล้วน่า เธอไม่ต้องทำเสียงดุใส่ฉันแบบนั้นก็ได้” “ไว้ใจได้แน่นะคะ” ฉันถามย้ำเพราะความเจ้าชู้ของคุณคานส์มันทำให้ลังเล “ไว้ใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์” คุณคานส์ตอบเสียงหนักแน่น ก็ได้ฉันจะลองเชื่อเขาอีกสักครั้ง ถ้าเขาทำให้ฉันเสียใจอีกทุกอย่างมันต้องจบแล้วจริงๆ เพราะคงไม่มีใครอยากเสียน้ำตาครั้งแล้วครั้งเล่าหรอก “วันนี้ฉันอยากกินอาหารฝีมือเมีย” คุณคานส์บอกเสียงอ้อน รู้สึกว่าเขาทำตัวดีขึ้นนะ กลบเกลื่อนความผิดละสิ “อลิชไม่ได้ไปซื้อของที่ตลาดค่ะ เพราะมัวแต่หงุดหงิดค
พี่เจขับรถพาฉันกลับมาที่บ้าน ใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมงพอสมควร พอมาถึงที่โรงพยาบาลฉันก็บอกให้พี่เจไปหาเปิดโรงแรมแถวนี้นอนก่อนเลยเพราะคืนนี้ฉันจะอยู่เฝ้าพ่อที่โรงพยาบาล #ภายในห้องพักฟื้น พอมาถึงก็เห็นอลันกับลุงปลูกอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นหน้าพ่อฉันก็รีบวิ่งไปสวมกอดทันที “พ่อ อึก~ เป็นอะไรมากไหมคะ” ฉันร้องไห้ออกมาเหมือนเด็ก ถ้าเลือกได้ไม่อยากจะเห็นคนที่รักต้องมาเจ็บป่วยแบบนี้เลย “พ่อไม่ได้เป็นอะไรมากก็แค่โรคคนแก่ อะไรกันจะเป็นแม่คนอยู่แล้วยังจะร้องไห้เหมือนเด็ก” “อึก~” “ไม่ต้องร้องๆ พ่อไม่ได้เป็นอะไรมากพรุ่งนี้หมอก็ให้กลับบ้านได้แล้ว” “อลิชเป็นห่วงนี่คะ อึก~” “หยุดร้องได้แล้ว” พ่อดันกอดออกจากนั้นก็ลูบศีรษะฉันเบาๆ ก่อนจะถามต่อ “แล้วนี่มาคนเดียวรึ ไอ้หนุ่มนั่นไม่มาด้วยหรือไง” “คุณคานส์เขาติดงานค่ะเลยมาไม่ได้” “รักมันเข้าแล้วสินะ สรุปเรื่องแต่งงานว่ายังไง ?” “…อลิชรักคุณคานส์ค่ะ” ฉันยอมรับออกไปตรงๆ แค่ตำตอบเดียวมันก็ตอบคำถามของพ่อทั้งหมด “ก็ดียังไงก็มีลูกด้วยกันแล้ว” “คืนนี้อลิชจะอยู่เฝ้าพ่อเองนะคะ” “จะมาเฝ้าทำไมท้องไส้อยู่ กลับไปนอนบ้านให้อลันเฝ้าก็ได้” “ไม่เอาค่ะ อลิชอยากเฝ้า