ฉันเดินมาทางห้องน้ำโดยมีคุณคานส์เดินตามหลังมาติดๆ ฉันจึงหันไปมองเขาด้วยความระแวงกลัวว่าเขาคิดจะทำอะไรไม่ดีที่ตามมาแบบนี้ พรึบ! “โอ้ย!!” ด้วยความที่เอาแต่หันมองคุณคานส์ พอหันหน้ามาก็ชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งอย่างจังจนเกือบจะล้ม โชคดีที่คุณคานส์รับไว้ทัน “ไม่มีตาหรือไงห๊ะ! ถึงไม่เห็นว่ามีคนเดินอยู่” คุณคานส์ตวาดถามคนที่ชนกับฉันเสียงดังลั่น เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ซึ่งฉันเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องโกรธมากขนาดนั้น“คุณคานส์คะ อลิชผิดเองที่ไม่ได้มอง” ฉันรีบบอกเพราะกลัวว่าคุณคานส์จะหาเรื่องผู้ชายคนนั้นไปมากกว่านี้“ขอโทษครับผมไม่ทันมอง” เขาตอบแล้วรีบเดินหนีไปเลย หลังจากที่ผู้ชายคนนั้นเดินไปคุณคานส์ก็มองฉันด้วยสายตาที่ดุดันราวกับว่าฉันเพิ่งทำอะไรที่มันผิดเอามากๆ“ทำไมไม่รู้จักมองทาง ถ้าพลาดล้มขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น”“……”“เธอควรดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ ถ้าลูกฉันเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง” “…….” ตึกตัก! ตึกตัก! หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวพอได้ฟังคำพูดนั้น เขายอมรับแล้วอย่างนั้นหรอว่าในท้องของฉันคือลูกเขา ทั้งที่อยากจะตรวจดีเอ็นเอเพราะไม่มั่นใจไม่ใช่หรือไง แล้วทำไมตอนนี้ถึงพูดว่าลูกตัวเองอย่างไม่ลังเล
“มะ ไม่ใช่นะคะ” ฉันรีบเอามืออลันออกจากเอว ใครจะไปคิดว่าจะเจอคุณคานส์ แถมเขายังมาได้จังหวะแบบนี้ “คือว่า…” “สรุปมันยังไงกันแน่ เธอเป็นเมียอลันหรือไม่ใช่” ผู้หญิงตรงหน้าถามย้ำ ถึงอยากจะช่วยน้องชายแต่ฉันก็ไม่กล้าตอบเพราะตอนนี้ถูกคุณคานส์จ้องเขม็ง ฉันรีบดึงแขนคุณคานส์เข้ามาในห้องของอลัน แต่คุณคานส์กลับทำตัวแข็งทื่อไม่ยอมเข้ามา “เข้ามาก่อนค่ะ” “เธอบอกให้ฉันเข้าไปในห้องมัน ทั้งที่มันก็เป็นผัวเธออีกคน ?” คุณคานส์พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ จากนั้นเขาก็พูดต่อ “เอาสมองไหนคิด ?”“ก็บอกว่าไม่ใช่ไงคะ” จะบอกว่าอลันเป็นน้องชายก็ไม่ได้เพราะผู้หญิงคนนี้ยืนอยู่ ฉันรวบรวมแรงทั้งหมดของตัวเองดึงคุณคานส์เข้ามาในห้องจนสำเร็จ “ล็อกประตูด้วยล่ะ เดี๋ยวผู้หญิงคนนั้นจะเปิดเข้ามา” “ทำไม? เธอไปแย่งผัวคนอื่นหรือไง” “มานี่เลยค่ะ” ฉันดึงตัวคุณคานส์ออกห่างจากประตู พาเขาเดินมาตรงโซฟา จากนั้นคุณคานส์ก็สะบัดอย่างแรงทำให้มือฉันหลุดออกจากแขนของเขา “ฟังอลิชก่อนนะคะ”“ถ้าฉันไม่ให้ไอ้โจคอยตามดูเธอ คงไม่รู้ว่าเธอแอบมาหาผู้ชายและนี่มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมาหามัน!!” คุณคานส์พูดแบบนี้แปลว่าที่ผ่านมาตอนที่ฉันออกไปไหนมาไหนข
ใบหน้าของฉันมันร้อนวูบวาบเมื่อได้ยินคำพูดจากปากของคุณคานส์เมื่อครู่ จู่ๆ ทำไมเขาถึงคิดแบบนั้น “อลิชว่าเรื่องนี้คุณคานส์ลองคิดใหม่ดีๆ ก่อนดีกว่านะคะ” ฉันพูดเตือนสติ คุณคานส์อาจจะกำลังโกรธอยู่จึงบอกแบบนั้น เขาคงเป็นคนประเภทที่ไม่ยอมเสียหน้า เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีท่าทีว่าอยากจะแต่งงานเลยสักนิด “ฉันคิดดีแล้ว อีกสามวันฉันจะพาเธอไปดูชุดแต่งงาน” “ทะ ทำไมจู่ๆ ถึงคิดอยากจะแต่งงานล่ะคะ” ฉันยืนตัวเกร็งหายใจไม่ทั่วท้องด้วยความที่ตอนนี้ใบหน้าของฉันกับคุณคานส์อยู่ใกล้กันมากๆ “ก็ไม่ทำไม แค่อยากแต่ง” คำตอบนั้นทำให้ฉันงุนงง มันเป็นแบบนั้นได้ด้วยหรอ แค่รู้สึกอยากแต่งเองน่ะหรอ “….แต่อลิชไม่อยาก” ฉันปฏิเสธออกไปตามความจริง อย่างที่บอกว่าเรื่องแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย มันคือชีวิตทั้งชีวิตต่างหาก“ขึ้นรถ” คุณคานส์ผละตัวออกห่าง เขาออกคำสั่งให้ฉันขึ้นรถ สรุปแล้วเขาเข้าใจที่ฉันบอกหรือเปล่าว่าไม่อยากแต่งงานน่ะ “จะเดินขึ้นเองดีๆ หรือจะให้ฉันอุ้ม ?” หัวคิ้วหนาขมวดชนกันอย่างไม่ชอบใจเมื่อเห็นฉันยืนนิ่งราวกับคนที่วิญญาณหลุดออกไปจากร่าง “ขะ ขึ้นเองค่ะ” ฉันก้มหน้าลงเม้มปากแน่นแล้วเดินอ้อมมาขึ้นรถ
ฉันทำขนมต่อด้วยอาการที่เหม่อลอย ในใจมันเต็มไปด้วยความฟุ้งซ่านที่เห็นผู้หญิงคนนั้นมาที่บ้าน ถึงแม้ว่าเธอจะมากับพ่อของเธอ แต่ฉันก็อดเป็นกังวลไม่ได้อยู่ดี ทำยังไง ฉันควรทำยังไงดีถึงจะดึงตัวเองออกมาจากความรู้สึกแบบนี้ได้ ไม่ได้รักเขาไม่ใช่หรือไง แล้วทำไมถึงต้องคิดฟุ้งซ่านมากขนาดนี้ด้วย “กลิ่นหอมจังเลยค่ะ” เสียงของผู้หญิงดังขึ้น ทำให้ฉันหลุดจากภวังค์ก่อนจะหันมองไปยังต้นเสียง คนที่ท้วงขึ้นคือผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อเปีย “พอดีเปียมาเข้าห้องน้ำ ได้กล่ินหอมเตะจมูกเลยแวะมาดู ^_^” “…ค่ะ” เธอเดินเข้ามาในครัวมองดูคุกกี้ที่อยู่ในจาน แล้วเงยหน้าขึ้นมาถามฉัน “ขอได้ไหมคะ” “…….” ฉันเงียบ มันรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีความเป็นมิตรเอาซะเลย ถึงเธอจะพูดเพราะแต่สายตานั้นกลับสวนทางสิ้นเชิง“เปียหมายถึงขนมน่ะค่ะ ^_^” “ได้ค่ะ” “ขอทั้งหมดเลยนะคะ ^_^” “ถ้าอยากกินก็เอาไปเลยค่ะ เดี๋ยวอลิชอบใหม่ก็ได้” “ค่ะ น่ากินมากจริงๆ ^_^” เธอยกจานคุกกี้ขึ้น ทำเหมือนจะเดินออกไป แต่ก็ยังหยุดเดินแล้วหันมาถามฉัน “กำลังจะแต่งงานกับเฮียหรอคะ”“….ค่ะ” “คุณพ่อบอกว่าพี่อลิชท้อง ถ้าเป็นลูกของเฮียจริงๆ เปียก็ยินดีด้วยนะคะ ^_^” เธ
ฉันรีบแกะมือคุณคานส์ออก แล้วบอก “อะ อลิชเพลียมากเลยค่ะ เริ่มรู้สึกเวียนหัวอีกแล้ว” ที่บอกไปฉันแค่แกล้ง ต้องทำแบบนี้ก็เพราะว่าป้องกันตัวให้หลุดพ้นจากอาการบ้ากามของผู้ชายตรงหน้า อยู่ที่นี่กับเขาไปนานๆ ฉันก็ต้องเรียนรู้วิธีป้องกันตัวเอง “ตอนแรกยังดีๆ อยู่” คุณคานส์ขมวดคิ้วเข้มมองฉันอย่างไม่เชื่อ “เพิ่งเป็นเมื่อกี้ไงคะ” “กระทันหันว่างั้น ?”“ชะ ใช่ค่ะ” คุณคานส์ถอนหายใจออกมาหนักๆ เขาดันตัวลุกขึ้นมาอีกครั้ง พอฉันจะเอนตัวหนีก็ถูกฝ่ามือใหญ่จับที่ต้นคอไว้ “อื้อ จะทำอะไรคะ” “คิดว่าฉันรู้ไม่ทันแผนตื้นๆ ของเธอหรือไง”“…….” ก็ใช่สิ ฉันก็คิดได้แค่นี้หนิ “อาทิตย์นี้ฉันจะไม่ทำอะไร อาทิตย์หน้าเตรียมตัวไว้ให้ดี” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อได้ฟังแบบนั้น แต่ถ้าจะให้ดีหยุดไปตลอดเลยคงจะดีมาก คุณคานส์จับตัวของฉันให้ลงมาจากตัวของเขา ฉันจึงรีบนอนลงแล้วห่มผ้า แต่ใครจะไปคิดว่าคุณคานส์จะนอนลงข้างๆ กับฉันด้วย “คืนนี้ฉันจะออกไปงานเปิดตัวโชว์รูมรถของเพื่อนฉัน เธอจะไปด้วยหรือเปล่า” มันน่าแปลกใจที่จู่ๆ คุณคานส์ก็นึกอยากจะชวนฉันไปงานด้วย ทั้งที่ปกติเข้าไม่เคยชวนเลยสักครั้ง “กลับดึกหรือเปล่าคะ” “สี่ห
“เฮียคานส์ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ” ผู้ชายคนนั้นท้วงขึ้นมาเพราะเห็นว่าคุณคานส์กำลังโกรธ เขาก็หันไปมองผู้ชายคนนั้นแทน แล้วพูดเสียงเย็น “มึงไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเมียกู ?”“ผมรู้เฮีย” “รู้แล้วทำไม่ถึงนัดกันมาในที่มืดๆ แบบนี้ หรือมันอดไม่ไหวจนถึงขั้นต้องมาแก้ขัดในที่ลับตาคน” บอกตามตรงว่าตอนนี้ฉันกำลังเหลืออดกับคำพูดของคุณคานส์ เขาพูดดูถูกกันมากเกินไปแล้ว ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าฉันกำลังท้อง แล้วทำไมถึงมากล่าวหากันแบบนี้ “มันไม่แรงไปหน่อยหรอคะ คำพูดแบบนั้น”“ก็เห็นๆ อยู่ว่าเธอออกมาข้างนอกกับมันสองต่อสอง ถ้าฉันไม่ตามมาอาจจะทำอะไรต่อมิอะไรกันไปแล้วก็ได้” “อลิชท้องอยู่ยังจะคิดเรื่องแบบนั้นอีกหรอคะ”“ท้อง หึ! แล้วยังไงทีกับฉันเธอยังทำได้ ทำไมกับผู้ชายคนอื่นเธอจะทำไม่ได้” เพี๊ยะ!! สิ้นสุดคำพูดของคุณคานส์ฉันก็ไม่ลังเลที่จะฟาดมือลงไปที่ใบหน้าของเขาในทันที เพราะมันทนฟังไม่ไหวพรึบ!! พอฉันตบหน้าเขา ก็ถูกฝ่ามือใหญ่กระชากอย่างแรงจนตัวแทบปลิวอีกครั้ง “ถึงขนาดโชว์ตบหน้าฉันต่อหน้ามันเลยหรือไง!!” “ทำแรงๆ เลยค่ะ กระชากอลิชแรงๆ เลย อลิชจะได้แท้ง พอแท้งแล้วคุณคานส์ก็จะได้เป็นอิสระไม่ต้องมารับผิดชอบอะไร
“อลิชไม่มีสิทธิ์ออกความคิดเห็นอะไรเลยหรอคะ ทั้งที่นี่มันก็เป็นชีวิตของอลิช” “มันก็เหมือนกับตอนที่เธอบังคับให้ฉันรับผิดชอบ”“อลิชไม่ได้บังคับ” “ถึงจะไม่ใช่เธอแต่ก็เป็นพ่อของเธอ ส่วนเรื่องจดทะเบียนเธอเป็นคนขอร้องฉันเอง ถ้าฉันอยากจะหย่าเมื่อไหร่ ถึงจะได้หย่า เธอไม่มีสิทธิ์ขอฉันหย่า” “อลิชไม่คิดว่าคุณคานส์จะเห็นแก่ตัวมากขนาดนี้”“ฉันเห็นแก่ตัวได้มากกว่านี้ ถ้าเธอยังไม่เชื่อฟัง” ฉันถอนหายใจออกมาหนักๆ ให้กับผู้ชายตรงหน้า เหมือนยิ่งคุยกันมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งคุยกันไม่รู้เรื่อง “อลิชจะไม่แต่งงานกับคุณคานส์เด็ดขาด ถ้าคุณคานส์บังคับอลิชจะหนี คอยดูสิ” ฉันพูดไปในเชิงตัดเพ้อซะมากกว่า เพราะถูกบังคับในหลายๆ เรื่อง แต่คำพูดของฉันทำให้คุณคานส์ที่ได้ยินเดินมากระชากแขนฉันจนตัวแทบจะปลิว “โอ้ย~ มันเจ็บ ปล่อยแขนอลิชนะคะ”“ไม่พอใจหรือไงที่จะได้แต่งงานกับฉัน เธอควรจะดีใจมากกว่านะ เพราะฉันไม่เคยมีความคิดเรื่องแต่งงานในหัว จนกระทั่งได้เจอเธอ” “…ทะ ทำไมล่ะคะ” ตึกตัก! ตึกตัก! หัวใจมันเต้นรัว ทั้งๆ ที่กำลังโกรธเขาอยู่แท้ๆ คุณคานส์พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ สายตาคู่นั้นเอาแต่จ้องหน้าฉันอยู่นานโดยไม่พูดอะไร จาก
คุณคานส์ขับรถมาถึงที่บ้านของฉันโดยที่เราไม่ได้พูดอะไรกันเลยสักคำ ฉันเองที่เลือกจะเงียบเพราะไม่อยากรู้สึกหงุดหงิดไปมากกว่านี้ “คุณหนูลุงก็คิดว่าใคร” ลุงปลูกเดินมาที่รถ พอเห็นว่าเป็นฉันก็ยิ้มดีใจใหญ่ “พ่ออยู่บ้านไหมคะลุง”“พ่อกำนันอยู่ในบ้านครับคุณหนู” “เดี๋ยวหนูไปหาพ่อก่อนนะคะ” พูดจบฉันก็รีบเดินเข้าบ้านโดยที่ไม่ได้รอคุณคานส์ พอเข้ามาในบ้านเห็นพ่อกำลังนั่งดูทีวีอยู่ฉันก็รีบวิ่งไปกอดพ่อทันที “อลิชคิดถึงพ่อที่สุดเลย” พ่อทั้งตกใจและดีใจที่เห็นฉัน เพราะมาครั้งนี้ฉันไม่ได้บอกล่วงหน้าว่าจะมา “จะมาทำไมถึงไม่บอกพ่อก่อน พ่อจะได้เตรียมกับข้าวที่ชอบไว้ให้” “มันกะทันหันน่ะค่ะ” ฉันบอกพร้อมกับผละกอดออกแล้วนั่งลงข้างๆ กับพ่อ ส่วนคุณคานส์เขาก็นั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม “มีธุระอะไรถึงลงทุนมาหาฉันถึงที่บ้าน” น้ำเสียงที่พ่อพูดกับฉัน กับน้ำเสียงที่พ่อพูดกับคุณคานส์มันแตกต่างกันสิ้นเชิง “ลูกเขยอย่างผมจะมาเจอพ่อตาบ้าง ไม่เห็นต้องมีธุระเลยครับ ผมอาจจะมาเพราะคิดถึง” คุณคานส์ตั้งใจจะพูดยั่วยวนพ่อฉัน ฉันดูออก “มีอะไรก็รีบๆ พูดมา คิดหรือไงว่าฉันจะเชื่อว่าที่มาเพราะแกคิดถึงฉัน” คุณคานส์กระตุกยิ้มมุมปากจากนั้