นางล้อมยืนงงอยู่เช่นเดิม ไม่เข้าใจว่าเจ้านายเอ่ยอะไร แต่เมื่ออภิวานต์ผละจากตรงนี้ไปรีบขึ้นห้องของตนเองเขาคะเนว่าปากซอยทางเข้าหมู่บ้านมันไกลพอสมควร ดาววลัยคงยังไม่ถึงปากทางแน่ชั่วครู่นี้เพราะอารมณ์โกรธและโมโหหล่อน เขาจึงได้ไล่ตะเพิดให้ออกจากบ้าน นึกไปแล้วก็สงสารหล่อนเหมือนกัน ที่หากต้องเดินตากแดดเปรี้ยงกลับออกไป
กว่าจะถึงปากซอย มอเตอร์ไซค์รับจ้างไม่มีเสียด้วย มันเป็นหมู่บ้านของเหล่ามหาเศรษฐีพักอาศัยกัน ส่วนมากจะมีรถส่วนตัวกันทุกหลัง
เขารีบคว้าเสื้อผ้าที่ดูดีมีสง่าราศีและสีสันเหมาะกับตัวเขา จากนั้นก็ปลดถอดเสื้อผ้าที่อยู่กับบ้าน ใส่เสื้อผ้าใหม่เอี่ยมอ่องสะอาดสะอ้าน เพราะเขาชอบแต่งกายดี ไม่ว่าไปไหนมาไหนก็ตาม แม้เขาจะไม่ชอบยิ้มให้ใคร
ดังนั้นเมื่อแต่งกายเสร็จสรรพ มองดูหน้าของตนเองในกระจกและความเรียบร้อยอื่นๆ จากนั้นก็คว้ากระเป๋าสตางค์ ซึ่งมีบัตรเอทีเอ็มกับบัตรประจำตัวประชาชนของเขาเท่านั้น เงินสดอีกเพียงสามพัน ลิ่วเดินตรงดิ่งไปที่รถด้วยท่าทางรีบเร่ง ขับรถพรวดออกไป
ผมมองเห็นเธอแล้ว ร่างของดาววลัยเดินใกล้จะถึงปากซอย ขณะเดียวกันก็มีแท็กซี่คันหนึ่ง ที่แล่นมาก่อนหน้าผม เธอโบกมือเรียกรถแท็กซี่คันนั้นจอดรับ ตอนนี้ผมไม่มีเวลาอธิบายอะไรบอกกับตัวเองตรงๆว่าผมจะต้องตามรถแท็กซี่คันนั้นไป คลาดกันแค่นิดเดียว
บางที ผมนึกฝันถึงฤดูหนาวอันแสนจะโรแมนติก ที่ถนนแทบทุกสายมักจะเต็มไปด้วยใบไม้แห้ง ที่หล่นเกลื่อนกลาดริมถนนหนทางอย่างชมพูพรรณทิพย์แก้วหรือดอกคูน ผมไม่ได้กลับไป ที่บ้านหลังนั้น ที่เคยฝันและวาดหวังเอาไว้เสมอว่าบ้าน ที่จะเป็นเรือนหอ ตั้งอยู่บนถนนผาสุกเขตประเวศ
ตอนนั้นคิดว่าน้องชายยังอยู่ในเมืองไทย แต่ต่อมาเขา ไปเรียนต่อที่ ต่างประเทศ และผมหวังเจ้าสาวที่ชื่อ ดาววลัยจะมาเคียงคู่อยู่กับผม แต่คราวนี้ไม่แล้วล่ะ ชีวิตของผม มันก็ไม่ต่างกับโลกที่มันมาถล่มตรงหน้า จบความรักครั้งนั้นไปแล้ว
ส่วนเด็กคนนี้ อภิวานต์ต้องการจะเลี้ยงในฐานะอย่างไรก็ได้ ที่เขาต้องการให้เป็น เมื่อได้มาอยู่ในมือจากการที่แม่ของหล่อนทิ้งขว้าง แต่ขั้นแรก เขาจะส่งไปอยู่ที่บ้านสวน ที่มีคุณย่าผัสภรณ์อาศัยอยู่ที่นั่น
เขาบอกกับผู้เป็นย่าของเขาว่า
“ผมอยากให้คุณย่าเลี้ยงไว้เอาบุญครับ เป็นลูกของคนที่ผมรู้จัก เขาเดือดร้อนมากถึงกับขนาดจะขายลูกให้คนอื่น ผมยื่นมือเข้ามา เพราะความเป็นเพื่อน เวทนาตัวแก เพราะพ่อมันใจไม้ไส้ระกำทำเรื่องเลวๆได้อย่างเหลือขอคุณย่าจะเลี้ยงในไว้ในฐานะอะไรก็ตามเถอะ เป็นเด็กรับใช้ก็ดีครับถ้ายกตัวขึ้นสูงหน่อยเดี๋ยวเด็กจะเหลิง ยิ่งกำพืดมันมีแบบนี้แล้วผมไม่อยากให้คุณย่าส่งเสริมอะไรมาก แค่ให้เด็กอยู่ในบ้าน เรียนหนังสือ แล้วปรนนิบัติคุณย่า ผมเห็นว่าคุณย่าอายุมากแล้วไม่มีใครแล้วจะมาหวังผมให้ผลิตเหลนไปให้คุณย่า ยังหรอกครับ ผมไม่นึกรักผู้หญิงคนไหนเลยในตอนนี้ จึงยังจะหาใครมาเป็นตัวเป็นตนไม่ได้ ผมเข็ดอยู่ ”
เขาบอกคุณผัสภรณ์อย่างนั้น นั่งคุยจนยาวเหยียด ซึ่งหญิงชราก็พยักหน้าเข้าใจ เขาจะตั้งชื่อ ให้เด็กคนนี้ใหม่ว่าดมิสาซึ่งความหมายของมันคือดาวหรือพระจันทร์ ดาว ที่มาจากชื่อของแม่เด็ก ดาววลัย
ซึ่งเด็กสาวที่ได้รับการเปลี่ยนชื่อใหม่อย่างดมิสา และเธอเผอิญได้ยินเข้าพอดีคำนั้นมันจึงเข้าไปสู่และซึมแทรกในใจของเด็กสาว
เด็กสาวรู้ว่าคนบ้านนี้ต้องการเลี้ยงหล่อนไปเพื่ออะไร มันสะกิดใจของหล่อนนักใช่ แม่ของเธอเป็นผู้หญิงไม่ดี เขาพูดให้ได้ยินสองรูหู เลี้ยงหล่อนเหมือนลูกนกลูกกามันคงไม่แตกต่างไปจากทาส
น้ำเสียงที่โมโหร้ายนั้นก้าวผ่านจากหล่อนไปแล้ว แต่เด็กสาวยังคงคิดครุ่นกับมัน เวลานี้เหลือแต่คุณย่าผัสภรณ์ ที่คนในบ้านเรียกว่าคุณท่าน จะเมตตาปราณีหล่อนแค่ไหนกันทางที่ดีดมิสาอยู่อย่างเจียมตัวนั่นแหละดีที่สุด
เพราะบุญคุณที่เป็นเหมือนหนี้ติดค้างกันอย่างยาวนานหล่อนต้องชดใช้ และทำให้ดมิสาต้องยอมรับโดยปริยายอีกครา เธอจะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด จะไม่ให้คนอื่นพลอยเดือดร้อนตาม โดยเฉพาะผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีพระคุณและมีอุปการะคุณสำหรับหล่อน
เมื่อดมิสาต้องทดแทนบุญคุณด้วยความกตัญญู ความจริงหล่อนชื่อก้านแพรชื่อเดิมก็ดีแล้วเป็นชื่อที่มารดาตั้งให้ แต่หลังจากนี้ไป เป็นเรื่องที่ดมิสาต้องรับรู้กับสถานภาพใหม่และชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กหญิงต้องคอยรับใช้ดูแลคุณผัสภรณ์
“ เก็บเด็กนั่น เอามาเลี้ยงไว้เป็นทาส ”
หล่อนได้ยินคำที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากของหนุ่มใหญ่ ที่อารมณ์เต็มไปด้วยโทโสและหลงผิด
“ไม่เอาน่า ย่าจะเลี้ยงดูมันเองเรื่องนี้ไว้เป็นหน้าที่ของย่าตาใหญ่จะไปทำงานก็ไปทำเถอะ”
ได้ยินคุณผัสภรณ์ ไล่อภิวานต์ออกไป ปากเขาจัดเขาดูถูกหล่อนอย่างมากมาย
แต่คุณย่าของเขาไม่ได้ตำหนิว่าหล่อนสักนิดใช่ หล่อนเหมือนหุ่นที่เขาจับชักเชิด และทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้เพราะหล่อนไม่มีอิสระแล้วเหมือนถูกจองจำ เขากำหนดให้หล่อนเป็นคนดูแลย่าของเขา
คนที่เขากำหนดให้เลี้ยงดูหล่อนก็เป็นย่าของเขา กับคนของเขา ดมิสาเริ่มเข้าใจ สภาพการเข้ามาของตนเองเป็นอย่างดีหล่อนเป็นเพียงข้าทาสบริวารที่เขานำมาเพื่อขัดดอก ให้สาสมกับเม็ดเงินที่เสียไปและแน่นอนนายจ้างอย่างเขา ต้องเอาให้คุ้มค่าแน่
หล่อนกำลังจะอยู่ในสภาพที่ทุกข์ทรมานแม่กับพ่อของหล่อนจะรู้ไหมหล่อนรู้ว่าพ่อติดคุกแม่ต้องการเงินมากมายเหล่านั้นไปทำไม เลี้ยงลูก เลี้ยงน้องอย่างที่แม่อ้างนะหรือ หล่อนไม่เชื่อว่าแม่จะทำอย่างนั้น
นี่แม่ทิ้งให้หล่อนอยู่เดียวกาย กับใครก็ไม่รู้ เป็นคนแปลกหน้า ไม่ใช่บ้านของหล่อนแน่ แต่หล่อนต้องทนอยู่ที่นี่ต่อไป คงรอสักวันหนึ่ง ถ้าแม่มีเงิน คงมาไถ่ตัวหล่อนได้
“มีผู้หญิงคนหนึ่งมาขอพบคุณว่านค่ะ เธอบอกว่าเป็นเพื่อนกับคุณว่านชื่อดาววลัย”นางล้อมเข้ามารายงานเจ้านายถึงข้างใน ที่อาคันตุกะมายืนรออยู่ประตูรั้ว“เหมือนท่าทางร้อนใจยังไงชอบกล”นางล้อมตอบแล้ว สังเกตสีหน้าเจ้านาย ที่นางอยู่ดูแลเขาตลอด คุณอภิวานต์เคยผิดหวังความรักมาแล้วครั้งหนึ่ง “ดาววลัย”เขาทวนคำชื่อนี้คุ้นและเคยได้ยินมาก่อน ขมวดคิ้ว นั่งกับเก้าอี้หวายตัวโปรดที่บริเวณสวนหลังบ้าน “ชื่อ ดาววลัยจริงๆหรือ ล้อม”เขาพูดเหมือนไม่เชื่อ จนนางล้อมต้องอธิบาย “ล้อมจะต้องมาโกหกคุณว่านทำไมคะ”“ฉันอยากแน่ใจ ” นางล้อมเคยพูดเสมอว่า นายจ้างของนางเป็นคนรูปหล่อ หน้าตาสะอาดสะอ้าน จมูกโด่ง เข้ม หน้าตาถือว่าหล่อเหลาแบบสุขุมนุ่มลึกของหนุ่มใหญ่ ที่นางล้อมแอบประทับใจเสมอ เสียเพียงอย่างเดียว ชอบตีสีหน้าเคร่งขรึมไม่ยิ้มและเหมือนคนที่ผ่านความระทมทุกข์ในชีวิตบางอย่าง และไม่คิดจะเปิดเผยให้ใครฟังนี่ล่ะอุปนิสัยนายจ้างของล้อมล่ะ ชอบอยู่คนเดียวเก็บตัวเงียบ และไว้หนวดเคราจนดูเข้ม นอกจากนั้นยังมีน้ำเสียงที่กังวานทรงพลังดุจคำประกาศิต เธอมีน้องชายอยู่คนหนึ่งคือคุณศาม
นึกถึงหน้าทวิชทีไรเขาอยากจะต่อยมันให้ซักร้อยหนเหลือเกิน ที่มันทำกับเขา ตอนนี้ เขากับมันไม่คบหา เป็นศัตรูที่ไม่รู้จักกันเกลียดขี้หน้ามันที่สุดตัดขาดจากความเป็นเพื่อน ไอ้ลูกมหาเศรษฐีตกทุกข์ได้ยาก พ่อแม่มันก่อหนี้ก่อสินจนล้มละลาย เพราะรวยไม่จริงคราวนี้มันเหมือนคนแพแตกในชีวิตเคว้งคว้าง ไม่มีอะไรหลงเหลือ ทรัพย์สมบัติในชีวิต ถูกเขาโกงไปหมด ญาติพี่น้องของมันเองแท้ๆ ยังร่วมกับโกงสมบัติของมันไปได้ เหมือนกรรมเวรตามสนองมันแล้ว หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วนี่ ดาววลัย บากหน้ามาหาเขา จะให้เขาใจดำยังงั้นหรือ “ดาวรู้ว่าคุณไม่ให้อภัยคุณวิชแน่แต่ถึงอย่างไร เขาก็เป็นสามีของดาว มีลูกด้วยกัน ดาวขอร้องให้เห็นแก่ความเป็นเพื่อนเถอะคะว่าน ดาวเหลือแต่ลูกเท่านั้นเอง ตอนนี้ ลูกแพร ของดาวไม่มีใครดูแล วิช เปลี่ยนไปมาก เขาเหมือนกับคนที่ดาวไม่เคยรู้จักมาก่อนเขาเมามายสะเปะสะปะ เหมือนกับไม่ใช่เป็นผู้เป็นคน”เขาอดมองหล่อนไม่ได้นึกหยันเมื่อนึกถึงภาพเจ็บแค้นในอดีต “ดาววลัยที่พวกคุณสองคนรวมหัวกันทำกับผมเมื่อหลายปีก่อนนั่น เอาล่ะตอนนี้ผมลืมมันหมดแล้ว คุณรู้ไหม” เขาตอบหล่อนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแทนที่แค้นเคือง
เขาคิดเอาไว้เสมอถ้าเขาได้ลูกสาวของดาววลัย เขาจะเอาหล่อนไว้เป็นเมีย ดาววลัยเงียบไปอึดใจ หล่อนรู้สึกตื่นเต้น ก่อนจะหลุดปากออกมา“สามแสนค่ะ”เขาขมวดคิ้ว ก่อนจะตัดสินใจ“อืม มันก็ไม่เลวนี่ งั้นผมตัดสินใจ ตกลงเลย”ดาววลัยยิ้ม “จริงหรือคะ ว่าน ”ท่าทางหล่อนตื่นเต้นและดีใจ พร้อมกันนั้น ก็รู้สึกหดหู่ใจ ในการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตเหมือนกันใครว่าหล่อนไม่รักก้านแพรล่ะ ลูกที่เป็นคนโต หล่อนคลอดมาจากท้องของตัวเองแท้ๆ แต่ก็หักห้ามใจ เมื่อตัดสินใจไปแล้ว แต่ก็เพราะเมื่อมีอีกคน หล่อนไม่มีปัญญาเลี้ยงจึงต้องใช้วิธีนี้ตอนนี้เงินเหลือไม่เกินสามร้อยเอง ถ้าพลาดหล่อนก็หมดหวังและไม่มีที่จะไปอีกแล้ว“ฮึ แล้วคุณจะมารับเงินวันไหน หรือว่าจะเอาเดี๋ยวนี้เลยก็ได้” เขาบอกน้ำเสียงสุขุม หล่อนยิ่งยินดี “เดี๋ยวนี้ เลยก็ได้ค่ะ”ดาววลัยพูดด้วยความรู้สึกที่ตื่นเต้น “ฉันขอครึ่งหนึ่งก่อนค่ะว่านเพราะร้อนเงินมาก แล้วต่อไปคุณ ก็โอนผ่านสมุดบัญชีธนาคารของฉัน นี่ไงคะ หมายเลขบัญชี” เธอถ่ายเอกสารเรียบร้อย ยื่นให้เขาตรงหน้า เขาครุ่นคิดไปเพียงนิด ก่อนตอบว่า “งั้นก็ได้ ”รับเอาเอกสารของหล่อนมาไว้ในมือ“งั้
นางล้อมยืนงงอยู่เช่นเดิม ไม่เข้าใจว่าเจ้านายเอ่ยอะไร แต่เมื่ออภิวานต์ผละจากตรงนี้ไปรีบขึ้นห้องของตนเองเขาคะเนว่าปากซอยทางเข้าหมู่บ้านมันไกลพอสมควร ดาววลัยคงยังไม่ถึงปากทางแน่ชั่วครู่นี้เพราะอารมณ์โกรธและโมโหหล่อน เขาจึงได้ไล่ตะเพิดให้ออกจากบ้าน นึกไปแล้วก็สงสารหล่อนเหมือนกัน ที่หากต้องเดินตากแดดเปรี้ยงกลับออกไปกว่าจะถึงปากซอย มอเตอร์ไซค์รับจ้างไม่มีเสียด้วย มันเป็นหมู่บ้านของเหล่ามหาเศรษฐีพักอาศัยกัน ส่วนมากจะมีรถส่วนตัวกันทุกหลัง เขารีบคว้าเสื้อผ้าที่ดูดีมีสง่าราศีและสีสันเหมาะกับตัวเขา จากนั้นก็ปลดถอดเสื้อผ้าที่อยู่กับบ้าน ใส่เสื้อผ้าใหม่เอี่ยมอ่องสะอาดสะอ้าน เพราะเขาชอบแต่งกายดี ไม่ว่าไปไหนมาไหนก็ตาม แม้เขาจะไม่ชอบยิ้มให้ใครดังนั้นเมื่อแต่งกายเสร็จสรรพ มองดูหน้าของตนเองในกระจกและความเรียบร้อยอื่นๆ จากนั้นก็คว้ากระเป๋าสตางค์ ซึ่งมีบัตรเอทีเอ็มกับบัตรประจำตัวประชาชนของเขาเท่านั้น เงินสดอีกเพียงสามพัน ลิ่วเดินตรงดิ่งไปที่รถด้วยท่าทางรีบเร่ง ขับรถพรวดออกไป ผมมองเห็นเธอแล้ว ร่างของดาววลัยเดินใกล้จะถึงปากซอย ขณะเดียวกันก็มีแท็กซี่คันหนึ่ง ที่แล่นมาก่อนหน้าผม เธอโบกมือเรียกรถแท็กซ
เขาคิดเอาไว้เสมอถ้าเขาได้ลูกสาวของดาววลัย เขาจะเอาหล่อนไว้เป็นเมีย ดาววลัยเงียบไปอึดใจ หล่อนรู้สึกตื่นเต้น ก่อนจะหลุดปากออกมา“สามแสนค่ะ”เขาขมวดคิ้ว ก่อนจะตัดสินใจ“อืม มันก็ไม่เลวนี่ งั้นผมตัดสินใจ ตกลงเลย”ดาววลัยยิ้ม “จริงหรือคะ ว่าน ”ท่าทางหล่อนตื่นเต้นและดีใจ พร้อมกันนั้น ก็รู้สึกหดหู่ใจ ในการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตเหมือนกันใครว่าหล่อนไม่รักก้านแพรล่ะ ลูกที่เป็นคนโต หล่อนคลอดมาจากท้องของตัวเองแท้ๆ แต่ก็หักห้ามใจ เมื่อตัดสินใจไปแล้ว แต่ก็เพราะเมื่อมีอีกคน หล่อนไม่มีปัญญาเลี้ยงจึงต้องใช้วิธีนี้ตอนนี้เงินเหลือไม่เกินสามร้อยเอง ถ้าพลาดหล่อนก็หมดหวังและไม่มีที่จะไปอีกแล้ว“ฮึ แล้วคุณจะมารับเงินวันไหน หรือว่าจะเอาเดี๋ยวนี้เลยก็ได้” เขาบอกน้ำเสียงสุขุม หล่อนยิ่งยินดี “เดี๋ยวนี้ เลยก็ได้ค่ะ”ดาววลัยพูดด้วยความรู้สึกที่ตื่นเต้น “ฉันขอครึ่งหนึ่งก่อนค่ะว่านเพราะร้อนเงินมาก แล้วต่อไปคุณ ก็โอนผ่านสมุดบัญชีธนาคารของฉัน นี่ไงคะ หมายเลขบัญชี” เธอถ่ายเอกสารเรียบร้อย ยื่นให้เขาตรงหน้า เขาครุ่นคิดไปเพียงนิด ก่อนตอบว่า “งั้นก็ได้ ”รับเอาเอกสารของหล่อนมาไว้ในมือ“งั้
นึกถึงหน้าทวิชทีไรเขาอยากจะต่อยมันให้ซักร้อยหนเหลือเกิน ที่มันทำกับเขา ตอนนี้ เขากับมันไม่คบหา เป็นศัตรูที่ไม่รู้จักกันเกลียดขี้หน้ามันที่สุดตัดขาดจากความเป็นเพื่อน ไอ้ลูกมหาเศรษฐีตกทุกข์ได้ยาก พ่อแม่มันก่อหนี้ก่อสินจนล้มละลาย เพราะรวยไม่จริงคราวนี้มันเหมือนคนแพแตกในชีวิตเคว้งคว้าง ไม่มีอะไรหลงเหลือ ทรัพย์สมบัติในชีวิต ถูกเขาโกงไปหมด ญาติพี่น้องของมันเองแท้ๆ ยังร่วมกับโกงสมบัติของมันไปได้ เหมือนกรรมเวรตามสนองมันแล้ว หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วนี่ ดาววลัย บากหน้ามาหาเขา จะให้เขาใจดำยังงั้นหรือ “ดาวรู้ว่าคุณไม่ให้อภัยคุณวิชแน่แต่ถึงอย่างไร เขาก็เป็นสามีของดาว มีลูกด้วยกัน ดาวขอร้องให้เห็นแก่ความเป็นเพื่อนเถอะคะว่าน ดาวเหลือแต่ลูกเท่านั้นเอง ตอนนี้ ลูกแพร ของดาวไม่มีใครดูแล วิช เปลี่ยนไปมาก เขาเหมือนกับคนที่ดาวไม่เคยรู้จักมาก่อนเขาเมามายสะเปะสะปะ เหมือนกับไม่ใช่เป็นผู้เป็นคน”เขาอดมองหล่อนไม่ได้นึกหยันเมื่อนึกถึงภาพเจ็บแค้นในอดีต “ดาววลัยที่พวกคุณสองคนรวมหัวกันทำกับผมเมื่อหลายปีก่อนนั่น เอาล่ะตอนนี้ผมลืมมันหมดแล้ว คุณรู้ไหม” เขาตอบหล่อนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแทนที่แค้นเคือง
“มีผู้หญิงคนหนึ่งมาขอพบคุณว่านค่ะ เธอบอกว่าเป็นเพื่อนกับคุณว่านชื่อดาววลัย”นางล้อมเข้ามารายงานเจ้านายถึงข้างใน ที่อาคันตุกะมายืนรออยู่ประตูรั้ว“เหมือนท่าทางร้อนใจยังไงชอบกล”นางล้อมตอบแล้ว สังเกตสีหน้าเจ้านาย ที่นางอยู่ดูแลเขาตลอด คุณอภิวานต์เคยผิดหวังความรักมาแล้วครั้งหนึ่ง “ดาววลัย”เขาทวนคำชื่อนี้คุ้นและเคยได้ยินมาก่อน ขมวดคิ้ว นั่งกับเก้าอี้หวายตัวโปรดที่บริเวณสวนหลังบ้าน “ชื่อ ดาววลัยจริงๆหรือ ล้อม”เขาพูดเหมือนไม่เชื่อ จนนางล้อมต้องอธิบาย “ล้อมจะต้องมาโกหกคุณว่านทำไมคะ”“ฉันอยากแน่ใจ ” นางล้อมเคยพูดเสมอว่า นายจ้างของนางเป็นคนรูปหล่อ หน้าตาสะอาดสะอ้าน จมูกโด่ง เข้ม หน้าตาถือว่าหล่อเหลาแบบสุขุมนุ่มลึกของหนุ่มใหญ่ ที่นางล้อมแอบประทับใจเสมอ เสียเพียงอย่างเดียว ชอบตีสีหน้าเคร่งขรึมไม่ยิ้มและเหมือนคนที่ผ่านความระทมทุกข์ในชีวิตบางอย่าง และไม่คิดจะเปิดเผยให้ใครฟังนี่ล่ะอุปนิสัยนายจ้างของล้อมล่ะ ชอบอยู่คนเดียวเก็บตัวเงียบ และไว้หนวดเคราจนดูเข้ม นอกจากนั้นยังมีน้ำเสียงที่กังวานทรงพลังดุจคำประกาศิต เธอมีน้องชายอยู่คนหนึ่งคือคุณศาม