‘ก็ได้ค่ะ ฉันจะลองดู’ นี่คือคำตอบของเธอที่ได้กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนที่เขาจะปล่อยให้เธอได้ทำงานของตัวเองไปแล้วตัวเองก็กลับมาพักผ่อนที่เพ้นท์เฮาส์คิดถึงใบหน้าสวยหวานของเธอทีไรเขาก็มักจะเผลอยิ้มออกมาทุกครั้ง ท่าจะเป็นเอามาก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นเธออีกครั้งในแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมหัวใจของเขาก็เต้นแรงไม่หยุด ให้ตายเถอะ แค่คิดถึงหัวใจก็เต้นแรงเป็นบ้านี่กูต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ขนาดรักแรกหัวใจยังไม่เต้นแรงขนาดนี้เลย นี่แก่จนเกือบจะเลยวัยมีลูกมีเมียแล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ (เกินไป พระเอกมึงอายุแค่สามสิบห้าปีเองนะ)เพิ่งจะเจอเธอไปไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว ให้ตาย คิดถึงอีกแล้ว สมองเฝ้าวนเวียนคิดถึงแต่ใบหน้าสวยๆ เรือนร่างสะโอดสะองสมส่วนนั้น พลันย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องระหว่างเขาและเธอในห้องสูทโรงแรมคืนนั้นโอ้วว กูเมื่อยมืออีกแล้ว…ณ ร้านสะดวกซื้อ Diamond Mart เจ๊แมนถึงกับตกใจแทบหงายหลังตกจากเก้าอี้เมื่อเห็นหญิงสาวหน้าตาดีคนที่เข้ามาถึงก็ทำโน่นทำนี่เข้านอกออกในภายในร้านจนเขาเกือบคิดว่าเธอเป็นขโมยเสียแล้ว ใครจะไปคิดล่ะว่าลูกจ้างสุดเฉิ่มที่ได้ฉายาว่ายัยป้าหน้าจืดจะเปลี่ยนแปลงไปมากขน
“เธอแม่งเด็ด…โอว…” เสียงครางแหบพร่ากระเส่าข้างเรียวหูคู่งามของหญิงสาวใต้ร่าง เด็ดอย่างเดียวไม่พอ เขายังได้เป็นคนเปิดซิงเธอด้วยบ่งบอกได้จากเยื่อพรหมจรรย์ที่เขาเป็นคนฝ่าเข้าไปเป็นคนแรก ทำเธอเจ็บจนน้ำตาไหลออกมาจากหางตาและยังคงฝืนก้อนสะอื้นอยู่ในลำคอเช่นตอนนี้ อีกทั้งของเขาที่ใหญ่โตเกินมาตรฐานชายไทย เนื่องจากเขาเป็นลูกครึ่งอเมริกา เลยอาจจะทำเธอเจ็บไปเสียหน่อย ไม่หน่อยเลยล่ะ “จะ…เจ็บ…” ไม่ต้องบอกก็รู้ เมื่อเขาเหลือบสายตาไปมองเบื้องล่าง ดุ้นยักษ์ที่ดุนดันเข้าออกในร่องคับแคบนั้นเปื้อนหยดน้ำสีแดงออกมาด้วย เขารู้ว่าเธอเจ็บมาก การโน้มใบหน้าลงไปจูบแลกลิ้นและกวาดกลืนเอาความหอมหวานในโพรงปากงามนั้นอาจจะช่วยบรรเทาความเจ็บของเธอลงบ้างเสียงกระทบกันของอวัยวะกึ่งกลางลำตัวคนทั้งสองดังเป็นจังหวะ หลังจากที่ชายหนุ่มค่อยๆ ขยับเขยื้อนบั้นท้ายเข้าออกช้าๆ ให้คนใต้ร่างได้ทำความเคยชินกับการมีดุ้นยักษ์อยู่ในลำตัว“โอว…เสียว…” แม่งเสียวเหลือเกิน ของเธอมันทั้งแน่น บีบรัดท่อนความเป็นชายของเขาจนมันแทบจะแตกเสียแล้ว ทั้งที่เพิ่งเข้าไปไม่นานหญิงสาวจิกเล็บที่แผ่นหลังกว้าง ทั้งเกร็งทั้งเจ็บ ไม่ว่าเขาจะทำเบาๆ หรือช้าๆ
“ทำไมวันนี้มาสาย!” เสียงแหลมของจิราภาเอ่ยทักคนที่วิ่งกระหืดกระหอบแทบไม่ลืมหูลืมตาเข้ามาในร้านกาแฟก่อนที่จะรีบถอดเสื้อคลุมตัวโคร่งออกเหลือแต่ชุดฟอร์มของทางร้านพลางจัดการทรงผมฟูฟ่องหลังจากที่เพิ่งลงมาจากรถมอเตอร์ไซค์ แต่จะว่าไป แม้เธอไม่ได้ขับรถมอเตอร์ไซค์มาสภาพทรงผมที่หยิกฟูนั้นก็แทบจะไม่ต่างจากเดิมอยู่แล้วร่างบอบบางขยับแว่นตาหนาเตอะบนหน้าตัวเองให้เข้าที่ ผ่อนลมหายใจให้คงที่แล้วหันมามองหน้าเพื่อนสนิทที่เอ่ยทักเมื่อสักครู่“ตื่นสาย” เอ่ยเท่านั้นก็ไปประจำตำแหน่งที่หน้าเคาเตอร์กาแฟและทำเป็นจัดแจงโน่นนี่ตามปกติหน้าที่ “ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นมึงตื่นสาย” จิราภายังคงกระเซ้าเย้าแหย่อย่างสนอกสนใจ แต่เพื่อนสาวกลับไม่สนใจ ง่วนอยู่กับเครื่องทำกาแฟตรงหน้า โชคดีในวันที่เธอมาสายไปเกือบครึ่งชั่วโมงนั้นเพิ่งมีลูกค้ามาประเดิมคนแรก ภายในร้านจึงไม่ค่อยชุลมุนวุ่นวายสักเท่าไร ถ้าหากเธอมาสายในวันที่ลูกค้าเยอะ คงโดนยัยเพื่อนที่สนิทกันมาตั้งแต่เรียนอนุบาลด่าหูแหก“เมื่อคืนกลับดึกเหรอ” จิราภาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนมีงานปาร์ตี้เพื่อนเก่าสมัยมัธยม แต่เธอไม่ได้ไปด้วยเพราะไม่สบาย“ปละ…เปล่า”“อ้าว กูคิดว่ามึง
“หาววว…ซี๊ด” ร่างบอบบางหาวปากกว้างอย่างลืมตัว นึกขึ้นได้ก็ต้องร้องซี๊ดด้วยความเจ็บที่ริมฝีปากเนื่องจากโดนขบจนเกิดแผลเล็กๆ ที่หากไม่สังเกตดีๆ ก็ไม่เห็นถึงความผิดปกติ อีกทั้งความเจ็บที่กลางกายก็ยังคงระบมอยู่ จะก้าวแต่ละทีสะท้านสะเทือนไปทั้งตัวโดนเปิดซิงมันเป็นอย่างนี้เองสินะ ไม่ได้เจ็บแค่ตอนอยู่บนเตียง แต่ยังคงเจ็บหลังจากนั้นอีกไม่รู้นานแค่ไหนอีกทั้งตอนนี้รู้สึกตัวรุมๆ คล้ายกับจะเป็นไข้ หัวก็ปวดตั้งแต่ตอนบ่ายยังไม่หาย กะว่าพอถึงร้านมินิมาร์ทที่ทำงานพาร์ททามในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้จะอัดยาพาราสักสองเม็ด “อ้าวนุ่มนิ่ม มาแล้วเหรอ สภาพยังกะศพเดินได้ นี่แกป่วยหรือเปล่าเนี่ย จากที่หน้าซีดอยู่แล้ว คราวนี้ยิ่งซีดกว่าไก่ต้มไหว้ตรุษจีนอีก” เจ๊แมนเจ้าของ ‘Diamond Mart’ ร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กที่มีทำเลอยู่ใจกลางเมือง ติดกับบาร์และสถานบังเทิงเริงรมย์หลายแห่ง ยามกลางวันเงียบเหงาเป็นเป่าสาก ทว่ายามกลางคืนคึกคักเป็นพิเศษนริศราเดินเข้ามาก็โดนเจ๊แมนทักปนจิกกัดตามประสาสาวประเภทสอง หรือที่มักจะเรียกตัวเองว่า ‘แม่กะเทย’ หยอกล้ออย่างนี้เป็นประจำ เจ๊แมนเป็นสาวในร่างชายตัวใหญ่ยักษ์ผิวสีเข้มคล้ำ ทว่าชอบแต่งห
หลังจากที่เปลี่ยนกะกับพี่อีกคนที่เข้ามารับช่วงต่อในเวลาเที่ยงคืน นริศราเข้าไปเปลี่ยนชุดฟอร์มของทางร้านออกก่อนที่จะเดินออกมานอกร้านพลางคร่อมรถมอเตอร์ไซค์คันคู่ใจสายตาเหลือบไปมองฝั่งตรงข้ามของร้านสะดวกซื้ออย่างไม่ได้ตั้งใจ พลันภาพที่เห็นร่างสูงใหญ่เดินหายเข้าไปในบาร์ขนาดใหญ่ยังคงติดตรึงอยู่ภายในใจ ว่ากันว่าบาร์แห่งนี้ดังมากเพราะเจ้าของเป็นมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลจนคนมีสีไม่กล้าเข้ามายุ่งเขาเป็นใคร เป็นมาเฟียอย่างนั้นหรือ…เมื่อขับมอเตอร์ไซค์กลับมาถึงบ้านหลังขนาดกะทัดรัดก็เป็นเวลาที่พร้อมเข้านอนเลย เธอไม่มีกะจิตกะใจที่จะอาบน้ำ ปวดหัวก็ปวด เหมือนจะเป็นไข้อย่างไรอย่างนั้น ตรงกันข้ามกับผู้ที่ร่างเป็นน้องชายแต่ใจเป็นหญิงนั้นกำลังแต่งเนื้อแต่งตัวจัดเต็มจนผู้ที่เพิ่งกลับมาถึงเห็นแล้วยังตกใจ“นนท์ จะออกอีกแล้วเหรอ”“นนนี่ บอกหลายครั้งแล้วว่านนนี่ ยังจะนนๆ อยู่นั่นแหละ” ร่างผอมสูงเก้งก้างแต่จัดเต็มด้วยเสื้อผ้าหน้าผมที่ทำเอาผู้หญิงทั้งแท่งอย่างผู้เป็นพี่สาวยังอาย ด้วยโครงหน้ารูปไข่แต่งเติมสีสันจากเครื่องสำอางที่ประทินเข้าไปอย่างจัดเต็ม อีกทั้งเสื้อสายเดี่ยวสีแดงเลื่อมคลุมทับด้วยผ้าคลุมขนนกสีน้ำเงิน
หลายวันมานี้ เจย์เดนให้ครามและคิรินตามหาผู้หญิงคนนั้นอยู่ตลอดเวลาแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอเธอเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าเธอเป็นซินเดอเรลล่าที่เขามีโอกาสได้พบเพียงแค่คืนเดียว แต่สิ่งที่เธอทำตกไว้ไม่ใช่รองเท้าแก้ว แต่เป็นบัตรพนักงานของยัยป้าที่ทำงานอยู่ร้านมินิมาร์ทเล็กๆ หน้าไนต์คลับของเขาแต่สิ่งที่ยังติดค้างอยู่ในใจที่หลายวันมานี้เฝ้าครุ่นคิดว่ามันจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าเธอคนนั้นกับยัยป้านั่นจะเป็นคนๆ เดียวกันความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัวหลายครั้ง แล้วก็โดนปัดตกไปเสียทุกครั้ง เพราะเขาเป็นคนเห็นด้วยตาและสัมผัสมาแล้วทั้งเรือนร่างของเธอเธอคนนั้นสวยราวกับนางฟ้า แตกต่างจากป้าแว่นคนนั้นราวกับฟ้ากับเหว ไม่ได้อยากจะบูลลี่หรอกนะ แต่มันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ“นายครับ” ครามเดินเข้ามายืนอยู่ด้านหลังขณะที่ร่างสูงใหญ่กำลังยกดัมเบลขนาดสิบกิโลกรัมขึ้นลง ท่อนบนเปลือยเปล่าจนเผยกล้ามเนื้อจากแผงอกแข็งแรงและลอนจากซิกแพ็กเป็นมัดๆ ช่วงล่างเป็นกางเกงวอร์มแบรนด์เนม แม้จะมีเพียงกางเกงวอร์มตัวเดียวบนร่างกายทว่าก็ส่งผลให้ดูดีไม่น้อยร่างสูงใหญ่หันมามองผู้มาใหม่แวบเดียวก็หันกลับไปยกดัมเบลต่อ “ว่าไงวะ” “ผู้หญิงที่นายให้ไปตาม
“หาววว…” นริศราหาวปากกว้างตาหยี ขณะที่กำลังใช้ผ้าเช็ดโต๊ะและเก้าอี้ในร้านกาแฟตอนเช้าๆ อย่างนี้ ทำเอาจิราภาที่มองเห็นพอดีแอบหัวเราะไม่หยุด“หาวขนาดนี้ ระวังแมลงวันจะเข้าไปไข่ในปากนะมึง”“เฮอะ มึงก็ ไม่ใช่ว่ากูไม่เคยหาวให้มึงเห็นอย่างนี้”“ดูซีรีส์อีกล่ะสิ ถึงหาวอย่างนี้น่ะ”“เปล่า” “อ้าว แล้วไปทำอะไรมาล่ะ” เพื่อนสาวที่เดินมาเช็ดโต๊ะอีกฝั่งหนึ่งถามด้วยความสงสัย“ก็ตอนจะกลับบ้านเมื่อคืนน่ะเกิดเรื่องเข้า กูไปเจอไอ้พวกเลวสองคนจะฉุดผู้หญิง เลยเข้าไปช่วยเขา แว่นก็หาย มอเตอร์ไซค์ก็โดนขโมยเนี่ย”“ฮะ! แล้วมึงไปแจ้งตำรวจหรือยัง” จิราภาถึงกับจ้องที่ดวงตาคนพูด ถึงว่าหน้าเพื่อนสนิทดูเปลี่ยนไปเพราะไม่มีแว่นนี่เอง อีกทั้งพอหันไปมองที่หน้าร้าน ไม่พบกับมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนจริงๆ เมื่อเช้าก็ไม่ทันสังเกต“ไม่ได้แจ้ง”“ทำไมไม่แจ้งล่ะ มึงรออะไรอยู่”“ก็ซินดี้บอกทำนองว่าแจ้งไปก็ไม่มีประโยชน์ พอคิดๆ ดูก็เหมือนจะเป็นอย่างนั้น” “อ้าว แล้วมึงจะปล่อยให้มันขโมยไปอย่างนี้เหรอ นุ่มนิ่ม มึงไม่เสียดายหรือไง”“ทำไมกูจะไม่เสียดาย ก็เสียดายมาก ไม่ใช่บาทสองบาทนะโว๊ย เงินทั้งนั้นกว่าจะหามาได้ แต่ทำไงได้วะ ซินดี้เขาบอกว่
เฮ๊ย! ตาฝาดหรือเปล่าเนี่ย คิรินที่เฝ้าดูความเคลื่อนไหวของผู้หญิงคนที่ผู้เป็นนายให้ติดตาม วันนี้ทั้งวันเธอก็ยังออกไปทำงานแต่เช้าเหมือนเดิม ทว่าวันนี้เป็นวันหยุดพาร์ททามเลยกลับบ้านเร็วกว่าทุกวัน ทว่าขณะเวลาสามทุ่มกว่าๆ กลับมีร่างผู้หญิงคนสวยที่ผู้เป็นนายให้ตามหาขับรถมอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าเขาไปคิรินไม่มีเวลามาสงสัยเพราะกลัวว่าจะคลาดสายตา ไม่รู้ว่าเธอจะขับไปที่ไหน เวลานี้ตามไปให้ทันก่อน“ซิ่งซะด้วย แม่คุณ ซิ่งไม่ห่วงสวยเลย” นริศรามาขับรถมอเตอร์ไซค์มาจอดที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง แม้จะเป็นร้านที่ไม่ได้หรูหราอะไรมาก แต่ก็ดูเงียบสงบเป็นส่วนตัว เหมาะแก่การมาออกเดทเป็นที่สุด พอลงจากรถได้ก็รีบถอดหมวกกันน็อกจัดระเบียบทรงผมและถอดเสื้อคลุมออกพลางส่องกระจกหน้ารถก็พบว่าหน้าตายังโอเคเหมือนกับตอนก่อนออกจากบ้านใบหน้าสวยใสยิ้มให้กับตัวเองเพื่อเรียกความมั่นใจทั้งที่ตอนนี้มือสั่นจนลามไปทั้งตัว ทำไมมันตื่นเต้นขนาดนี้นะ ขณะที่ร่างบอบบางภายใต้ชุดเดรสสีชมพูย่างกรายเข้ามาในร้านก็สะกดสายตาทุกคู่ของผู้ที่อยู่ในร้านให้หันมามองเธอเป็นตาเดียว โดยเฉพาะชายหนุ่มที่นั่งอยู่ที่โต๊ะมุมสุดของร้าน ดวงตาของเขาถูกสะกดให้จ
‘ก็ได้ค่ะ ฉันจะลองดู’ นี่คือคำตอบของเธอที่ได้กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนที่เขาจะปล่อยให้เธอได้ทำงานของตัวเองไปแล้วตัวเองก็กลับมาพักผ่อนที่เพ้นท์เฮาส์คิดถึงใบหน้าสวยหวานของเธอทีไรเขาก็มักจะเผลอยิ้มออกมาทุกครั้ง ท่าจะเป็นเอามาก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นเธออีกครั้งในแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมหัวใจของเขาก็เต้นแรงไม่หยุด ให้ตายเถอะ แค่คิดถึงหัวใจก็เต้นแรงเป็นบ้านี่กูต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ขนาดรักแรกหัวใจยังไม่เต้นแรงขนาดนี้เลย นี่แก่จนเกือบจะเลยวัยมีลูกมีเมียแล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ (เกินไป พระเอกมึงอายุแค่สามสิบห้าปีเองนะ)เพิ่งจะเจอเธอไปไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว ให้ตาย คิดถึงอีกแล้ว สมองเฝ้าวนเวียนคิดถึงแต่ใบหน้าสวยๆ เรือนร่างสะโอดสะองสมส่วนนั้น พลันย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องระหว่างเขาและเธอในห้องสูทโรงแรมคืนนั้นโอ้วว กูเมื่อยมืออีกแล้ว…ณ ร้านสะดวกซื้อ Diamond Mart เจ๊แมนถึงกับตกใจแทบหงายหลังตกจากเก้าอี้เมื่อเห็นหญิงสาวหน้าตาดีคนที่เข้ามาถึงก็ทำโน่นทำนี่เข้านอกออกในภายในร้านจนเขาเกือบคิดว่าเธอเป็นขโมยเสียแล้ว ใครจะไปคิดล่ะว่าลูกจ้างสุดเฉิ่มที่ได้ฉายาว่ายัยป้าหน้าจืดจะเปลี่ยนแปลงไปมากขน
“สวัสดีค่ะคุณลูกค้า ร้านยังไม่เปิดนะคะ อีกประมาณสิบห้านาทีร้านจะเปิด ลูกค้าเข้าไปนั่งรอในร้านก่อนได้เลยค่ะ” จิราภากล่าวต้อนรับหญิงสาวสวยผู้มาใหม่โดยที่เพียงแค่เหลือบมองด้วยหางตาเท่านั้นทำเอาคนที่ไม่ได้เป็นลูกค้ายิ้มแก้มปรินริศราเดินไปที่หน้าเคาเตอร์ที่จิราภากำลังเช็ดทำความสะอาดอยู่พลางจ้องเพื่อนสาวอยู่อย่างนั้นจนจิราภารู้สึกแปลกใจเงยหน้าขึ้นมามองตรงๆ“เอ๊ะ…เฮ๊ย นุ่มนิ่ม! นี่มึงเองเหรอ อุ๊บ๊ะ ทำไมสวยอย่างนี้” จิราภาเอื้อมมือไปแตะใบหน้าสวยหวานที่เปลี่ยนแปลงไปจนแทบจำไม่ได้ของเพื่อนสาว ดวงตาลุกวาวเป็นประกายอย่างตื่นเต้นและแปลกใจ “ใช่ กูเองนี่แหละ นุ่มนิ่มคนดีคนเดิมแต่เพิ่มเติมสวยขึ้นเป็นกอง มึงว่ากูสวยขึ้นพอจะเอาไปตบหน้าอีนพกับแพรวได้หรือยัง”“ได้แล้ว ยิ่งกว่าเอาไปตบหน้าพวกมันอีก กูว่าตอนนี้มึงสวยกว่าพริตตี้พีอาร์อะไรพวกนั้นอีกนะ นี่มึงไปทำอะไรมาเนี่ย ทำไมหายไปแค่สองวันแต่เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ดูสิ ผมก็ไม่ฟูแล้ว แว่นหนาๆ ก็ไม่มี” ว่าพลางแตะใบหน้าสวยๆ ของเพื่อนพลางเบี่ยงดูข้างซ้ายทีข้างขวาทีอย่างชื่นชมขนาดแต่งหน้ายังไม่เป็นนะเนี่ย ก็เลยแค่แต่งๆ เติมๆ นิดหน่อยแบบเพลย์เซฟเพราะกลัวโป๊ะ แต่มั
“ผมก็ทำแล้ว ตาก็ทำแล้ว ผิวหน้าก็ทำแล้ว ทำอะไรอีกดีน๊า…” เมื่อเช้าซินดี้พาเธอไปทำเลสิคมา ในที่สุดก็ยอมทำแม้จะแพงแต่ก็เพื่อความสวยเต็มรูปแบบ“ไม่รู้สิ” นริศราตอบซื่อๆ“เธออยากทำอะไรกับหน้าตัวเองหรือเปล่านุ่มนิ่ม ฉันแนะนำได้นะ ฉันก็ไม่รู้ว่าเธออยากทำไหม”นริศราส่ายหัว เรื่องความสวยความงามน่ะเธอไม่รู้เรื่องเลยสักอย่าง แค่ซินดี้พาเข้าคลินิกความงามเมื่อวานก็ถือว่าเปิดประสบการณ์ครั้งแรกแล้ว ไม่รู้หมอเอาอะไรมาฉีดหน้า เห็นเขาบอกว่าเป็นวิตามิน แต่เธอก็รู้สึกเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ หน้ามันดูใสและตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังรู้สึกว่าที่ผ่านมาใช้ครีมบำรุงนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเท่ากับเข้าคลินิกเพียงแค่ครั้งเดียวเลย“อยากฉีดฟิลเลอร์ไหม อย่างที่พวกสาวๆ เขาชอบฉีดที่ปากกัน มันจะได้อวบอิ่มขึ้น แต่เธอก็ปากสวยอยู่แล้ว อวบอิ่มแล้วก็แดงเป็นธรรมชาติดี” เดิมทีแล้วนริศราเป็นคนผิวขาว ปากก็เลยแดงเป็นธรรมชาติอีกทั้งยังอวบอิ่มแบบที่ไม่ต้องพึ่งฟิลเลอร์“เธอเห็นว่าอะไรดีฉันก็ว่าตามแหละ แนะนำฉันหน่อย ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเท่าเธอหรอก”“อืม…ฉันว่าโดยรวมหน้าเธอสวยมากแล้ว แค่ฝึกแต่งหน้าบ่อยๆ ก็พอแล้วล่ะ มานี่ ฉันจะพาเ
“เป็นอะไรวะ นุ่มนิ่ม เห็นดูเหม่อๆ ตั้งแต่เช้าแล้ว มึงมีอะไรในใจหรือเปล่าวะ ถ้ายังมัวแต่คิดเรื่องเมื่อวานที่โดนอีสองตัวมันมาป่วนอยู่อ่ะ มึงเลิกคิดได้แล้ว ไปให้ค่ากับพวกมันทำไม พวกประสาทแดกอย่างนั้น” จิราภาว่าพลางเบ้ปากมองบน คิดถึงพฤติกรรมแย่ๆ ของแพรวาและนพเมื่อวานแล้วก็ยังเจ็บใจไม่หาย เสียดายเมื่อวานนี้น่าจะด่าพวกมันไปเยอะๆ เอาให้สะใจมากกว่านี้“เจน”“ฮะ ว่าไง” จิราเงยหน้าขึ้นจากเครื่องทำกาแฟ มองเพื่อนที่ตาลอยไม่มีชีวิตชีวา“กูแม่งทุเรศขนาดนั้นเลยเหรอวะ” หลังจากเกิดเรื่องที่กระทบจิตใจทั้งตอนบ่ายและเมื่อคืนที่ผ่านมา เธอก็นอนคิดไปคิดมาทั้งคืนจนนอนไม่หลับ คำพูดของคนเหล่านั้นต่างหลอกหลอนซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับฝันร้ายที่ไม่สามารถสลัดออกไปได้“ทุรงทุเรศอะไร เฮ๊ย นี่มึงเก็บคำพูดของอีสองคนนั้นไปคิดเหรอ กูบอกแล้วไงว่าอย่าไปให้ค่าพวกมัน…” จิราภายังพูดไม่จบก็โดนเพื่อนสวนทันที“ก็มันไม่ได้มีแค่สองคนนั้นน่ะสิ” “เอ๊ะ…”“ใช่ กูโดนคนอื่นบูลลี่ ว่าไม่สวย ขี้เหร่ เป็นอีป้าหน้าจืด เมื่อก่อนกูก็อยู่ของฉันดีๆ แต่ไม่รู้ทำไมเดี๋ยวนี้มีแต่คนมายุ่งกับกู มาดูถูก บูลลี่สารพัด กูก็เลย…แค่เสียใจ”“ใครมันมาบูลลี่มึงอ
“อีป้าหน้าจืดเนี่ยนะ เมียคุณเจย์เดน มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ แค่เห็นหน้าก็อยากจะหัวเราะให้ฟันหัก มีดีตรงไหนวะ เฉิ่มชะมัด” “ใช่ ห้อยหลวงปู่มั่นเต็มคอก็ไม่ช่วยให้เขาชายตาแลหรอก อย่างดีก็เป็นแค่ขี้ฝุ่นในเล็บตีนเขาเท่านั้นแหละ” เรื่องของนริศราถูกเม้าท์มอยกันให้แซดในหมู่พีอาร์ ต่างใส่สีตีข่าวต่างๆ นาๆ จนกลายเป็นว่านริศราเป็นฝ่ายถูกยำเละไม่มีชิ้นดี “เออ ไม่มีใครสวยเท่าแม่มึงแล้วค่ะ” นริศราจีบปากจีบคอด่าพลางกลอกตามองบนใส่พีอาร์สาวสวยสองคนที่นินทาเธอระยะเผาขนอย่างหาได้แคร์ไม่ พวกมันกล้าด่าเธอขนาดนี้ มีหรือจะก้มหน้าก้มตายอมโดนด่าฟรี ถึงเธอจะเฉิ่มเชยเหมือนป้าอย่างที่โดนว่าก็ตาม แต่เธอก็เป็นคนเหมือนกัน แรงมาก็แรงกลับ ปาก้อนหินมาเธอก็จะปาขี้หมากลับเหมือนกัน! “มันด่ากลับว่ะลิลลี่ มึงเข้าไปจัดการมันเลยสิ” นีน่า พีอาร์สาวพยายามดันเพื่อนสาวตัวเองเข้าไปหาพนักงานสาวในร้านมินิมาร์ทที่พวกเธอข้ามถนนกันมาดูให้เห็นกับตาตัวเองว่าผู้หญิงที่ถูกพูดถึงว่าเป็นเมียของเจย์เดนเป็นอย่างไร แล้วก็อย่างที่เห็น หลายคนดูถูกเธอสารพัด แอบนินทาและพากันหัวเราะเยาะจนเธอทนไม่ไหว เลยต้องตอกกลับไปบ้างอย่างเหลืออด “ทำไมแมลงหวี่พ
ณ เพ้นท์เฮาส์สุดหรูหราที่มองทิวทัศน์เมืองกรุงได้ทั่วทุกมุม ร่างสูงใหญ่ยืนสูบบุหรี่ที่ระเบียงพลางสูดอากาศที่มีลมพัดมาสัมผัสกายเบาๆ ด้านหลังเป็นบอดี้การ์ดมือขวาที่กำลังรายงานเรื่องที่ผู้เป็นนายให้ไปตามสืบมา“อะไรนะ ไอ้นั่นมันเพิ่งเลิกกับแฟนที่คบกันมาเป็นสิบๆ ปีอย่างนั้นเหรอ”“ครับ คืนนั้นที่มันไปออกเดทกับเธอ มันขอคบกับเธอครับ” ครามรายงานตามที่ตัวเองได้ข้อมูลมาหลังจากที่ตามสืบเรื่องนี้มาเป็นอาทิตย์ และวันนี้ที่คาเฟ่ก็ได้ทราบอะไรหลายๆ อย่างหลังจากที่ทำเนียนแฝงตัวในหมู่ลูกค้าในคาเฟ่และเก็บรายละเอียดทุกอย่างจนได้มารายงานให้กับเจย์เดนฟังในขณะนี้“แล้วยังไงต่อวะ” เจย์เดนก็พอจะรู้แล้วแหละว่าชายหญิงสองคนไปออกเดทที่ร้านอาหารในบรรยากาศโรแมนติกแบบนั้นก็คงต้องมีอะไรเทือกนั้นอยู่แล้ว ถามไปก็รู้สึกหึงไปด้วย แต่ทำอะไรไม่ได้ก็อัดบุหรี่เข้าปอดไปฟอดใหญ่“วันนี้มันมาหาเธอที่คาเฟ่ที่เธอทำงานอยู่ครับ แฟนเก่าของมันตามมันมาดูหน้าเธอตอนที่เธอ…เอ่อ…ไม่สวยครับ” ครามก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร แต่สุดท้ายก็คิดไม่ออกจึงกล่าวคำว่า ‘ไม่สวย’ ออกไปอย่างนั้นพลางแอบลอบมองปฏิริยาของเจย์เดนก็พบว่าเขาทำเสียงฟึดฟัดขึ้นจมูกอย่างไม่
“นุ่มนิ่ม วันนี้พี่ไปกินข้าวแล้วผ่านร้านลอดช่องร้านประจำของแม่พี่ พี่เลยซื้อมาฝาก อร่อยมากเลยนะ การันตีด้วยการที่แม่พี่เป็นลูกค้าประจำ เจนด้วยนะ เอาไปคนละถุงสิ” ศรัณญูวางถงขนมไว้ที่ด้านข้างเคาเตอร์ที่นริศราและจิราภายืนประจำตำแหน่งอยู่ สายตาของเขามองเพียงแค่นริศราคนเดียวเท่านั้น หาได้ชายตาแลหญิงสาวอีกคนไม่“ขอบคุณนะคะพี่ยู” นริศรายิ้มให้ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในห้องทำงานด้านในอย่างขวยเขินศรัณญูรูปร่างสูงโปร่ง ผิวพรรณขาวสะอาด ดวงตาเล็กชั้นเดียวเพราะมีเชื้อสายจีน เวลายิ้มทีไรหน้าแดงซ่านตาหยีแทบไม่เห็นลูกตา แต่กระนั้นก็น่ารักมาก สถานะยังโสดและมักจะโดนลูกค้าในร้านเต๊าะอยู่เป็นประจำหากเขาออกมาหน้าร้าน ครั้งหนึ่งเคยมีสาวสวยมานั่งเฝ้าตามจีบเขาถึงในร้าน เทียวไล้เทียวขื่อทว่าชายหนุ่มขี้อายและสุดท้ายก็ปฏิเสธเธอไปเพราะไม่ชอบผู้หญิงเข้าหาก่อน“ยิ้มอะไรอีเจน” จิราภายิ้มยั่วเย้าใส่นริศราตั้งแต่เห็นศรัณญูเดินเข้ามาในร้านแล้ว“มึงเห็นยัง”“อะไรของมึง” นริศราขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจพลางเดินไปเดินมาที่หน้าเคาเตอร์อย่างไม่นึกอยากจะสนใจคำพูดของเพื่อนสาวมากนัก“ก็พี่ยูไง”“พี่ยูทำไมล่ะ”“เขาจีบมึงชัวร์” สิ้น
นริศราตื่นแต่เช้า อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยก็เลือกชุดเดรสแบรนด์เนมชุดหนึ่งที่ดูสวยน่ารักเหมาะกับใส่ในวันสบายๆ ทว่ารู้สึกไม่ค่อยชินกับเสื้อผ้าพวกนี้อยู่ดีเพราะปกติแล้วจะสวมแต่เสื้อผ้าที่ซื้อได้ทั่วไปตามตลาดนัด ราคาไม่กี่ร้อยบาทสภาพผมของเธอตอนนี้กลับมาฟูยุ่งเหยิงเหมือนเดิมหลังจากที่สระและไดร์เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งเมื่อเปิดดูเครื่องสำอางที่ได้มาจากเมื่อคืนก็ปิดกลับเพราะมันเยอะเหลือเกินจนไม่รู้จะแต่งอะไร ของพวกนี้ราคาแพง เธอไม่อยากรับไว้หรอก เดี๋ยวซินดี้กลับมาจะคืนให้เพราะอาชีพอย่างซินดี้คงต้องใช้เครื่องสำอางอยู่แล้วแต่สำหรับเธอนั้นคิดว่าไม่จำเป็นอะไรเธอรู้สึกเกรงใจเสียมากกว่า อีกทั้งสื้อผ้าและสกินแคร์บางตัวที่ี่ยังไม่ได้ใช้ก็จะคืนซินดี้ให้หมด เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้นในเวลาเจ็ดโมงเช้า เธอลุกขึ้นเดินไปเปิดออกทันทีด้วยความงุนงง ก็ไหนซินดี้บอกว่าจะออกมารับสายๆ เพราะจะขอนอนก่อนทว่าพอเปิดออกมากลับไม่ใช่คนที่คิดไว้ แต่กลับเป็นร่างสูงโปร่งของบุรุษชุดดำเช่นเมื่อคืนที่เอาของมาส่ง เขาก้มหน้าก้มตายื่นของให้กับเธออย่างไม่พูดไม่จาอะไรแล้วรีบหันหลังให้ทันที“เดี๋ยวก่อน นี่อะไรคะ” อยู่ๆ ก็เอาอะไรมาให้ก็ไ
กว่านริศราจะหาทางออกมาจากตึกนั้นได้ก็ทำเอาเพลียจนแทบจับไข้ แต่พอลงมาได้ก็ไม่รู้จะเอายังไงต่อในเวลาเกือบตีสองอย่างนี้ โชคดีที่ซินดี้โทรมาได้ตรงจังหวะพอดีจึงขอความช่วยเหลือ“นี่คอนโดของเธอเหรอ หรูจังเลย” นริศราเข้ามาในคอนโดที่ซินดี้พาเข้ามาพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความตื่นเต้น ถ้าซินดี้มีคอนโดที่ทั้งหรูและใหญ่โตขนาดนี้ เชื่อแล้วแหละว่าการที่เธอจะรับผิดชอบเรื่องแว่นและมอเตอร์ไซค์ให้นั้นไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงอะไร จะว่าไปแล้วอาชีพพีอาร์นี่มันเงินดีอย่างที่คนอื่นๆ ว่ากันก็ดูจะจริงนะเนี่ย“ตามสบายเลยนะนุ่มนิ่ม” “ที่นี่กว้างจัง คงแพงน่าดูเลย” คอนโดย่านใจกลางเมืองที่มีห้องนอนสองห้อง ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น อีกทั้งยังมีห้องครัวแยกเป็นสัดส่วน ทุกอย่างภายในห้องถูกบลิ้วอินเข้ากันเป็นอย่างดี เธอตามซินดี้ลงไปนั่งที่โซฟากลางห้องนั่งเล่น ขณะที่เพิ่งจะสังเกตเห็นว่าซินดี้จ้องมองเธอไม่วางตาราวกับไม่เคยพบเคยเจอกันมาก่อน ลืมไป คราวที่แล้วที่เจอกันนั้นเธอยังเป็นอีเพิ้งอยู่เลย แต่ตอนนี้คงจะแตกต่างจากตอนนั้นมากไปหน่อยซินดี้เลยจ้องไม่หยุดอย่างนี้“ไม่ต้องจ้องขนาดนั้นก็ได้ นี่ฉันเอง นุ่มนิ่มคนเดิม”“เหรอ