Share

บทที่ 5

“คุณรู้ทุกอย่างว่าพวกเขารักกันแต่ก็ยังหน้าด้านเข้าไปเป็นมือที่สามทำให้ความรักของคนอื่นแตกแยก!”

“เมมฟิส”

นุชนาถอุทานออกมาเสียงแหบแห้งขณะมองชายหนุ่มเขวี้ยงเศษแก้วในมือลงบนพื้นและไม่มีท่าทียี่หระต่อบาดแผลที่เลือดกำลังหยดไหลจนแดงเถือกถึงข้อมือ นัยน์ตาของเขาวับวาวและขึ้งเครียด ร่างเล็กบางที่นั่งตรงข้ามเริ่มสั่นและจุกในอกจนพูดอะไรแทบไม่ออกขณะกำมือทั้งสองไว้บนตักแน่น

เธอหายใจติดขัดเพราะความตื่นเต้นและตกใจอย่างมากต่อการกระทำของผู้ชายที่เธอไม่เคยรู้จักเขามาก่อนแต่มีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับคนอีกคนที่ชื่อนั้นยังติดลึกในความทรงจำของหญิงสาว เมมฟิสสำแดงอารมณ์โกรธออกมาอย่างไม่ปิดเร้น ใบหน้าของเขาเป็นสีเข้มจัด ชายหนุ่มยิ้มหยันใส่ความเจ็บปวดของเธอที่ต้องตกเป็นจำเลยทั้งที่ไม่ตั้งใจอย่างเลือดเย็น ร่างสูงลุกขึ้นยืนและจ้องหน้าเธออย่างเอาเรื่อง

“หึ!...ทำไม...ทนฟังไม่ได้รึยังไงเวลาที่คนอื่นพูดความจริง พวกนักแสดงอย่างพวกคุณน่ะมันอยู่แต่ในโลกของความลุ่มหลง ใส่หน้ากากเข้าหากันจนไม่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของตัวเองมันแหลกเหลวซักแค่ไหน”

“มันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดนะคะ”

“แล้วมันเป็นยังไง! คุณอยากจะบอกผมอย่างนั้นใช่มั้ยว่าคุณคือผู้บริสุทธิ์ งดงามทั้งที่เบื้องหลังเน่าเฟะและสกปรกยิ่งกว่าอีตัวข้างถนน”

“เมมฟิส!”

หญิงสาวถึงกับอ้าปากค้างกับคำบริภาษรุนแรงจากบุรุษตรงหน้า นุชนาถสั่นไปทั้งตัว ถึงจะรู้ว่าเมมฟิสยังเข้าใจผิดเรื่องที่น้องสาวของเขาฆ่าตัวตายเพราะเธอเป็นมือที่สามแต่หญิงสาวก็แทบกระอักเมื่อได้ยินคำหยาบร้ายที่หลุดออกมาจากปากของเขา ร่างแน่งน้อยตัดสินใจลุกขึ้นอย่างเหลืออดทั้งไม่อาจเก็บกลั้นน้ำตาที่คอยแต่จะล้นออกมาให้อับอายได้

“ฉันจะไม่พูดกับคนที่ไม่มีเหตุผลอย่างคุณ เรื่องทุกอย่างจบลงแล้วและฉันก็ขอยืนยันในความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง”

“มันยังไม่จบแค่นี้หรอกรีส และผมก็จะไม่มีวันเชื่อน้ำหน้าดาราใจทรามอย่างคุณเป็นอันขาด!”

“ก็แล้วแต่คุณจะคิด คุณมาที่นี่เพื่อจะพูดแค่นี้ใช่มั้ยคะ ถ้าหมดธุระแล้วฉันก็จะได้กลับไปทำงานของฉันซะที”

“คุณจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น รีส เบคเลอร์!”

คำพูดสุดท้ายนั้นทำให้ร่างบอบบางที่กำลังจะหันหลังให้ต้องหยุดชะงัก เธอจ้องใบหน้าหล่อเหลาที่แท้แล้วราวกับมีเงาซาตานครอบงำ เมมฟิสเหยียดริมฝีปากออกและสืบเท้าเข้ามาใกล้ นัยน์ตาข้นขุ่นจ้องนุชนาถเหมือนอยากฉีกทึ้งตัวเธอให้หลุดออกเป็นล้านชิ้น ร่างเล็กในชุดราตรีเกาะอกถอยกรูดไปด้านหลังแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมือหนาที่เปรอะเปื้อนหยาดเลือดเอื้อมมาคว้าไหล่เปลือยไว้แน่น หญิงสาวปากสั่นระริก

“คุณมีสิทธิ์อะไรมาบังคับฉัน คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนั้นได้หรอกนะคะเมมฟิส”

“ทำไมจะไม่ได้ในเมื่อตอนนี้ชีวิตของคุณเป็นของผมแล้ว”

“ว่ายังไงนะคะ...โอ๊ย!”

เธอร้องเสียงหลงเมื่อมืออีกข้างของเขาตวัดรัดเอวบางแล้วดันร่างน้อยเข้าหาตัวก่อนจะก้มหน้าลงไปหา นุชนาถพยายามดันหน้าอกแกร่งยิ่งกว่าหินศิลาด้วยมือทั้งสองข้างแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ทำให้ชายหนุ่มสะทกสะท้านใด ๆ เลย

“คุณต้องไปฝรั่งเศสกับผมคืนนี้!”

“ปล่อยฉันนะเมมฟิส!...คุณบ้าไปแล้ว ฉันจะไปได้ยังไงในเมื่อคืนนี้ฉันต้อง...”

“ชีวิตซูเปอร์สตาร์ของคุณจบลงที่นี่ คืนนี้แล้วรีส เบคเลอร์”

“เมมฟิส...ปล่อยฉัน!”

นุชนาถพยายามส่งเสียงร้องด้วยความตกใจกับความกักขฬะของเมมฟิสที่จู่โจมและคุกคามอย่างไร้เหตุผล ทว่ายิ่งขัดขืนดิ้นรนก็เหมือนยิ่งยุให้เขากอดรัดร่างบอบบางแน่นขึ้นจนเธออึดอัดหายใจแทบไม่ออก

“ทำไมฉันจะต้องไปกับคุณ!...ถ้าไม่ยอมปล่อยฉันจะเรียกผู้จัดการส่วนตัวมาที่นี่ ให้เขาพาตำรวจมาจับคุณข้อหาพยายามบังคับฉัน”

“ก็เอา!...ไปเรียกมาเลย” เขาเค้นเสียงและพ่นลมหายใจร้อนใส่แก้มนวลสีแดงเข้ม “ถ้าไม่อยากให้คุณยายของคุณต้องเดือดร้อนก็เชิญเรียกมาได้เลย!”

คำพูดนั้นทำให้นุชนาถถึงกับตาเบิกกว้าง หญิงสาวนิ่งอึ้งเหมือนอยู่ท่ามกลางพายุหมุนที่โหมกระหน่ำ ยิ่งตกใจใบหน้าสวยก็ยิ่งแดงก่ำมากขึ้นไปอีก

“เมมฟิส...นะ...นี่คุณพูดเรื่องอะไร คุณยายของฉัน...ทำไม”

“ผมก็แค่พา อาเคมิ คุณยายของคุณไปอยู่ในที่ที่เหมาะสมก็เท่านั้น”

“คุณโกหกใช่มั้ย...เมมฟิส...คุณโกหกฉัน คุณทำอย่างนั้นไม่ได้แน่ๆ”

“คนอย่างผมทำได้ทุกอย่างที่อยากทำ ถ้าคุณไม่เชื่อก็มาดูนี่!”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status