แชร์

บทที่ 3

“เชิญครับ”

หนึ่งในนั้นเปิดประตูให้ หญิงสาวยังยืนนิ่งอยู่อีกไม่ถึงนาทีและตัดสินใจก้าวเข้าไปในห้อง บานประตูถูกปิดลงและชายทั้งสองก็ไม่ได้ตามเข้ามา ในห้องนั้นเป็นห้องพักแบบสวีทหรูหราและมีขนาดใหญ่โตโอ่โถงมาก นุชนารีกวาดสายตาไปทั่วห้องพักเลิศหรูกระทั่งไปหยุดที่ร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้รับแขก และเมื่อเขาเห็นว่าใครเข้ามาก็เปลี่ยนท่าเป็นนั่งหลังตรงและประสานมือไว้ด้านหน้า

“สวัสดี...คุณรีส เบคเลอร์”

เสียงทักทายที่ดังขึ้นนั้นทุ้มกังวานแต่หนักหน่วง หญิงสาวมองไปรอบห้องอีกครั้งก็ไม่เห็นว่ามีใคร มีเพียงเธอและ ใครคนนั้น ที่ไม่แน่ใจเลยว่าเขามีจุดประสงค์อันใดถึงได้มาขอพบเธอที่นี่ ร่างแน่งน้อยก้าวเข้าไปหยุดที่ชุดเก้าอี้รับแขกที่ซึ่งร่างสูงใหญ่ของชายอเมริกันผิวสีแทนจัดภายใต้ชุดสูทสีนิลนั่งอยู่ และเมื่อเข้าไปใกล้เธอจึงได้เห็นใบหน้าคร้ามเข้มนั้นชัด ๆ เขาเป็นผู้ชายที่จัดได้ว่าหน้าตาดีมาก หล่อเหลาถึงขั้นที่ทำให้เธอนึกถึงเหล่านายแบบโลก

รูปร่างนั้นสูงสง่าแม้ขณะนั่งก็ประมาณได้ว่าเขาน่าจะสูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบเซ็นติเมตรเลยทีเดียว นุชนาถเผลอจ้องหน้าคมคายที่สันกรามแกร่งรกด้วยขนเคราสั้นและจมูกโด่งยาวรับกับริมฝีปากหยักหนาโดยไม่รู้ตัว โครงหน้าใต้กรอบเรือนผมสีบรูเน็ตนั้นคมเข้มดิบดัน และเธอก็เผลอจ้องนัยน์ตาสีน้ำตาลหม่นทรงอำนาจคู่นั้นกระทั่งเขาเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“นั่งสิ...คุณรีส เบคเลอร์”

“เอ้อ...คุณคือ...”

“เมมฟิส...ผมชื่อเมมฟิส แคเมอรอน”

ชายหนุ่มตอบสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงฟังดูเหมือนราบเรียบขณะโน้มตัวไปหยิบแก้วไวน์บนโต๊ะขึ้นมาจิบเบา ๆ โดยไม่ได้มองสีหน้าของอีกฝ่ายว่าเปลี่ยนไปแทบจะในทันทีที่ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามนั้น นุชนาถนิ่งอึ้งและยืนนิ่งงัน

เธอเอามือประสานกันไว้เบื้องหน้าและมองบุรุษร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมเข้มทว่าเยือกเย็นที่วางแก้วไวน์ลงพร้อมทั้งเหลือบมองเธออีกครั้ง นุชนาถจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาที่มีรอยยิ้มเหยียดขึ้นแว่บหนึ่ง หญิงสาวกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอที่เริ่มแห้งผาก เธอจ้องมองเขาเหมือนเป็นสิ่งแปลกประหลาดที่สุดในโลก

“ว่าไงล่ะ...ทำไมไม่นั่ง”

เขาถามอีกหนแต่เสียงนั้นหน่วงมากกว่าเดิม นุชนาถเม้มปากเข้าหากันแน่นก่อนตอบ

“ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรกับดิฉันหรือคะ คุณ...แคเมอรอน”

นุชนาถพูดไม่ค่อยเต็มเสียงนักโดยเฉพาะนามสกุลของเขาที่กระตุกความรู้สึกของเธออย่างรุนแรง เมมฟิสประสานมือไว้เช่นเดิมและจ้องหน้าเธอนิ่ง

“มิสิ...คุณรีส เบคเลอร์ ไม่อย่างนั้นแล้วผมคงไม่เสียเวลามาหาคุณถึงที่นี่”

“ฉันมีเวลาให้คุณไม่มากนักหรอกนะคะ เพราะฉันมีธุระด่วนต้องรีบไปงานเลี้ยง นี่ก็ใกล้ถึงเวลาแล้วด้วย”

“ถ้าอย่างนั้นคุณควรจะนั่งลงเพื่อที่จะฟังธุระของผม...ซึ่งมันสำคัญมากสำหรับคุณ”

เสียงเขาหน่วงเหมือนหัวใจของหญิงสาวที่กำลังหนักอึ้งด้วยความอึดอัดราวกับบรรยากาศรอบตัวกำลังบีบรัดตัวเธอให้เล็กลง

เมมฟิส แคเมอรอน

ชื่อนี้เธอไม่เคยรู้จักแต่นามสกุลของเขาเป็นนามที่ฝังอยู่ในหุบความนึกคิดของนุชนาถตลอดเวลา ความหวั่นหวาดบางอย่างกำลังครอบงำตัวเธอโดยไม่มีเหตุผล หญิงสาวรู้สึกถึงความยุ่งยากครั้งใหญ่ที่กำลังก่อตัวอยู่ข้างหน้า เธอแทบไม่อยากสบนัยน์ตาประกายกล้าคู่นั้นที่กำลังพรายแสง ร่างแน่งน้อยค่อย ๆ หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ ทุกวินาทีเหมือนเดินไปอย่างเชื่องช้ากับความรู้สึกที่กำลังขมวดแน่นในช่องท้องของหญิงสาว และท่าทีประหม่านั้นก็อยู่ในสายตาของบุรุษที่นั่งตรงหน้าตลอดเวลา

เมมฟิส แคเมอรอนหลับตาลงชั่วครู่ก่อนลืมตาขึ้นอีกครั้งด้วยประกายนัยน์ตาวับวาวที่มีน้ำรื้นขึ้นมาเล็กน้อยก่อนมันจะเหือดหายไปในดวงตาสีเข้ม ทุกสรรพเสียงราวถูกกลืนหายเข้าไปในห้วงสำนึกที่เต็มไปด้วยความอัดอั้นและภาพแห่งความทรงจำมากมายที่ฝังอยู่ใต้จิตสำนึกแห่งความเคียดแค้น เขาเพิ่งเดินทางกลับมายังอเมริกาบ้านเกิดอีกครั้งหลังจากไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศนานหลายปี กลับมาเพื่อจัดงานศพให้น้องสาวเพียงคนเดียว

ไมลี่ แคเมอรอน

เธอจากไปอย่างกะทันหันด้วยสาเหตุการตายที่เขาเองก็คาดไม่ถึง นั่นคือเธอฆ่าตัวตาย...เจ้าของยูเรเชีย แอร์ไลน์ สายการบินยักษ์ใหญ่ระดับนานาชาติต้องบินกลับมาจากฝรั่งเศส ประเทศที่เขาพำนักอยู่นานหลายปีเมื่อได้รับข่าวร้ายเมื่อกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา เมมฟิสคิดว่านั่นเป็นฝันร้ายที่สุดในชีวิตและพยายามคิดว่ามันเป็นเรื่องโกหกหากเขากลับต้องพบความจริงอันเจ็บปวดเมื่อกลับมาถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อที่จะรับรู้ว่าไมลี่ได้จากเขาไปแล้วจริงๆ

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status