“โอเค...เสร็จแล้วนะจ๊ะที่รัก รีส เบคเลอร์ นางฟ้าของฉัน เธอพร้อมสำหรับงานพรมแดงคืนนี้แล้วนะจ๊ะ แม่นางฟ้าแสนสวย”
หนุ่มหน้าสวยในชุดเสื้อคอระบายสวมกางเกงยีนส์สีซีดจีบปากจีบคอพูดขณะค่อย ๆ ไล้ปลายฝีแปรงขนาดใหญ่ไปบนใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่ฉาบด้วยเมคอัพบางเบาอวดผิวงดงามเปล่งปลั่งของหญิงสาวชาวเอเชียวัยยี่สิบในชุดราตรีเกาะอกยาวกรุยกรายสีงาช้าง นุชนาถนั่งจ้องมองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจกที่งดงามดั่งภาพฝันจากฝีมือการแต่งหน้าของ สวีทเลิฟ เมคอัพอาร์ทิสชายหัวใจหญิงชาวอเมริกันชื่อดังซึ่งเธอรู้จักกับเขามานานแล้ว หญิงสาวเลิกริมฝีปากอิ่มฉ่ำด้วยลิปกลอสเป็นรอยยิ้มจาง
“เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ สวีทตี้”
เธอเรียกเขาด้วยสรรพนามบอกความสนิทสนม สวีทเลิฟจ้องมองหญิงสาวเลือดเอเชียใบหน้าเรียวรูปไข่ ตากลมโตและจมูกเล็กรั้นใต้กรอบเรือนผมทำสีเทาหม่นขับผิวข่าวผ่องให้เจิดจรัสอีกครั้งและพยักหน้า
“เธอสวยแล้วรีสจ๋า...ทีนี้มาคอยดูกันสิว่า ใครจะแจ้งเกิดบนพรมแดงคืนนี้ถ้าไม่ใช่เธอ แม่ดาราเลือดใหม่ไฟกระพริบวิบวับจรัสแสงแข่งกับดวงดาว”
“ฉันคงขี้เหร่ที่สุดแน่ ๆ ถ้าไม่ได้คุณช่วยคืนนี้”
สวีทเลิฟหัวเราะ “ไม่ต้องมาปากหวานกับฉันหรอกนะทูนหัว ดูเธอซี สวยขนาดนี้แล้วใครจะมาสู้เธอได้ ดารามตัวแม่ก็ต้องหลีกทางนะจ๊ะ”
“ฉันไม่สวยขนาดนั้นหรอกนะคะ”
“อย่า!” สวีทเลิฟยกมือขึ้นส่ายนิ้วชี้ไปมา “อย่าทำหน้าอมทุกข์ให้ฉันเห็นเด็ดขาด คืนนี้เธอจะเป็นดาราพราวแสง ออกจากโรงแรมนี้แล้วเธอคือที่หนึ่ง”
“สวีทตี้...”
“หยุดคิดถึงเรื่องนั้นซะที”
คราวนี้สวีทเลิฟวางแปรงลงบนโต๊ะแล้วนั่งลงข้าง ๆ สาวร่างเล็กบอบบางที่มีสีหน้าเศร้าขึ้นมากะทันหัน นุชนาถระบายลมหายใจเบา ๆ แต่เธอก็ยังรู้สึกเศร้ากระทั่งอีกฝ่ายกล่าวขึ้น
“ไม่มีอะไรนะสาวน้อย...เลิกคิดถึงเรื่องนั้น เลิกคิดซะทีว่าเธอเป็นต้นเหตุทำให้...เอ้อ...จริง ๆ ฉันก็ไม่ได้อยากพูดหรอกนะถึงแม้มันจะเป็นข่าวใหญ่ก็เถอะ แต่เลิกโทษตัวเองได้แล้วว่าเธอ...ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งฆ่าตัวตาย...เพราะเธอ”
คำพูดของสวีทเลิฟทำให้หญิงสาวหลับตาลงชั่วขณะที่ช่างแต่งหน้าปัดฝีแปรงไล่เนื้อแป้งแวววาวไปบนพวงแก้มสวย นุชนาถประหวัดคิดไปถึงเรื่องราวของตัวเองที่เกิดปะทุขึ้นเหมือนพลุระเบิดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งบนหน้าแท็ปลอยด์เรื่องเป็นมือที่สามทำให้ความสัมพันธ์ของไมลี่ แคเมอรอน ผู้บริหารสาวในสายการบินใหญ่และ นีล เทอเนอร์ ดาราหนุ่มชื่อดังขาดสะบั้นจนฝ่ายหญิงคิดสั้นฆ่าตัวตาย และมีเพียงไม่กี่คนที่รู้และเข้าใจว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดจากความเข้าใจผิดและหุนหันพลันแล่นของผู้หญิงคนนั้น
ไมลี่เป็นหนึ่งในบอร์ดผู้บริหารของสายการบินยูเรเชีย แอร์ไลน์ สายการบินยักษ์ใหญ่ที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนีล เทอเนอร์ ดาราหนุ่มชื่อดังที่บังเอิญมีข่าวติดพันกับดาราสาวดาวรุ่งดวงใหม่นามว่า รีส เบคเลอร์ ซึ่งเป็นชื่อในวงการของนุชนาถที่มีคนตั้งให้ เธออยู่กับคุณยายแค่สองคนในห้องเช่าเล็ก ๆใจกลางกรุงลอสแองเจลิสก่อนจะมีโอกาสได้แคสติ้ง หรือทดสอบบทหนังและได้รับเลือกจากผู้กำกับอย่างไม่น่าเชื่อ
เธอเป็นแค่ตัวประกอบเล็ก ๆ ท่านั้นแต่กลับมามีชื่อเสียงเพราะความสัมพันธ์ที่สื่อจับจ้องเรื่องระหว่างเธอกับดาราหนุ่มชื่อดัง ทุกคนคิดว่าเธอโหนกระแสให้ตัวเองดัง เกาะติดดาราหนุ่มหล่อเพื่อหวังไต่เต้าซึ่งจริง ๆ แล้วเธอได้รับความเอื้อเฟื้อจากนีลตอนที่ได้รู้จักกับเขาในกองถ่าย เวลานั้นเธอขัดสนเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาอาเคมิ คุณย่าของเธอที่กำลังไม่สบายและนีลเป็นคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือซึ่งเป็นเรื่องที่เธอไม่เปิดเผยให้ใครรู้เพราะกลัวสื่อจะโหมข่าวว่าเธอปอกลอกดาราดัง
นีลแสดงความสนิทสนมกับเธอและก็เป็นไปดังคาด นุชนาถกลายเป็นข่าวกับเขาบ่อยครั้งทำให้นีลระหองระแหงกับแฟนสาวที่กำลังคบกันอยู่ หลายครั้งไมลี่โทรมาหาเธอและต่อว่าอย่างเจ็บแสบ ไมลี่คิดว่าเธอหลอกนีลและอยากเขี่ยเธอให้พ้นทาง เธอเป็นผู้หญิงที่มีอารมณ์รุนแรง นุชนาถเจ็บปวดกับเรื่องนี้มากแต่เธอไม่เคยเอ่ยปากบอกนีลเลยสักครั้งทั้งที่เขาพยายามแสดงตัวว่าหวังดีกับเธอและช่วยเหลือเธอทุกอย่างแม้แต่การให้เธอกับคุณยายย้ายเข้าไปอยู่ในห้องชุดที่เขาซื้อเอาไว้ในย่านเบเวอร์ลี่ ฮิลล์ และมีเธอเท่านั้นที่รู้ว่านีลอยากให้ด้วยใจจริงโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
อนิจจาที่ความหวังดีของเขากลับเป็นหอกแหลมกลับมาทิ่มแทงตัวเธอ นุชนาถคิดถึงคืนนั้นที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอถูกคนของไมลี่พาไปยังห้องพักหรูหราพร้อมกับแคโรไลน์ ผู้จัดการส่วนตัว เธอพยายามจะอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจแต่ผู้บริหารสาวของบอร์ดสายการบินไม่ยอมฟัง ต่อมาเธอถึงได้รู้ข่าวว่านีลยุติความสัมพันธ์กับแฟนสาว เธออยากอธิบายให้ผู้หญิงคนนั้นเข้าใจเพื่อทั้งสองจะกลับไปคืนดีกันใหม่แต่การณ์กลับกลายเป็นไมลี่ทะเลาะกับนีลอย่างรุนแรงและประชดความรักด้วยการฆ่าตัวตายหลังจากที่นุชนาถไปพบเธอคืนนั้น หญิงสาวระบายลมหายใจพร้อมลืมตาขึ้นและกล่าวออกมาด้วยเสียงอันเบา “ฉันไม่ได้แย่งใครนะคะสวีทตี้” “ฉันรู้ที่รัก...เธอไม่ผิด...เธอไม่...” “ขอโทษนะคะสวีทเลิฟ” เสียงหนึ่งที่ดังแทรกขึ้นมาทำให้บทสนทนาระหว่างคนทั้งสองภายในห้องแต่งตัวของโรงแรมหรูย่านใจกลางกรุงลอสแองเจลิสต้องหยุดชะงัก สวีทเลิฟหันไปมองสต๊าฟสาวสวยผู้ช่วยของเขาแล้วถามขึ้น “อะไรน่ะเบล...นี่หล่อนเข้ามาขัดจังหวะการคุยของฉันนะรู้มั้ย” “โอเคค่ะ ฉันต้องขอโทษด้วย แต่พอดีว่ามีเรื่องด่วนที่ต้องเข
“เชิญครับ”หนึ่งในนั้นเปิดประตูให้ หญิงสาวยังยืนนิ่งอยู่อีกไม่ถึงนาทีและตัดสินใจก้าวเข้าไปในห้อง บานประตูถูกปิดลงและชายทั้งสองก็ไม่ได้ตามเข้ามา ในห้องนั้นเป็นห้องพักแบบสวีทหรูหราและมีขนาดใหญ่โตโอ่โถงมาก นุชนารีกวาดสายตาไปทั่วห้องพักเลิศหรูกระทั่งไปหยุดที่ร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้รับแขก และเมื่อเขาเห็นว่าใครเข้ามาก็เปลี่ยนท่าเป็นนั่งหลังตรงและประสานมือไว้ด้านหน้า“สวัสดี...คุณรีส เบคเลอร์”เสียงทักทายที่ดังขึ้นนั้นทุ้มกังวานแต่หนักหน่วง หญิงสาวมองไปรอบห้องอีกครั้งก็ไม่เห็นว่ามีใคร มีเพียงเธอและ ใครคนนั้น ที่ไม่แน่ใจเลยว่าเขามีจุดประสงค์อันใดถึงได้มาขอพบเธอที่นี่ ร่างแน่งน้อยก้าวเข้าไปหยุดที่ชุดเก้าอี้รับแขกที่ซึ่งร่างสูงใหญ่ของชายอเมริกันผิวสีแทนจัดภายใต้ชุดสูทสีนิลนั่งอยู่ และเมื่อเข้าไปใกล้เธอจึงได้เห็นใบหน้าคร้ามเข้มนั้นชัด ๆ เขาเป็นผู้ชายที่จัดได้ว่าหน้าตาดีมาก หล่อเหลาถึงขั้นที่ทำให้เธอนึกถึงเหล่านายแบบโลกรูปร่างนั้นสูงสง่าแม้ขณะนั่งก็ประมาณได้ว่าเขาน่าจะสูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบเซ็นติเมตรเลยทีเดียว นุชนาถเผลอจ้องหน้าคมคายที่สันกรามแกร่งรกด้วยขนเคราสั้นและจมูกโด่งยาว
เธอเป็นน้องสาวคนเดียวของเขาที่รั้งตำแหน่งรองผู้อำนวยการใหญ่ในบอร์ดสายการบินของบริษัท แม้จะอยู่ห่างไกลกันด้วยเหตุผลที่เขาทุ่มเทให้กับงานและเดินทางไปทั่วโลกตลอดเวลาโดยมีที่พักเกือบถาวรอยู่ในประเทศฝรั่งเศสหากเขากับน้องสาวก็จะติดต่อและพูดคุยกันเสมอ ซึ่งก่อนหน้านั้นแทบไม่มีเค้าลางใดเลยว่าไมลี่จะคิดสั้นและเขารู้เพียงว่าไมลี่กำลังปลูกต้นรักกับดาราหนุ่มชื่อดังที่มีกิตติศัพท์เรื่องความเป็นเพลย์บอย จนงานศพผ่านพ้นไปและเขาได้รับรู้เรื่องราวในภายหลังว่าเหตุใดไมลี่จึงคิดฆ่าตัวตาย ซึ่งชนวนเหตุสำคัญอยู่ตรงหน้าเขานี่แล้วนี่นะหรือคือ รีส เบคเลอร์ดาราสาวผู้เป็นดวงดาวที่กำลังจรัสแสงในโลกมายา...เมมฟิสจับจ้องดวงหน้ารูปไข่งดงามนั้น ใบหน้าสวยหวานและดวงตากลมโตเป็นประกายภายใต้เมคอัพบางเบาแต่ดึงดูดจับจิต รูปร่างของเธอเล็กและบอบบางมากด้วยเชื้อสายของชาวเอเชีย และเธอก็อาจรู้ตัวว่าตอนนี้กำลังอยู่ภายใต้ชุดราตรีเกาะอกที่มันดึงดูดสายตาคมเข้มคู่นั้นให้จับจ้องเนื้อนวลตั้งแต่ใบหน้าลงมาถึงไหปลาร้าและไหล่เปลือยจรดเรียวแขนกลมกลึงราวลำเทียนสำหรับเขาแล้วไม่อาจปฏิเสธว่า รีส เบคเลอร์ เป็นดาราสาวที่สวยมากเกินกว่าที่เขาคาดเดาไ
“คุณรู้ทุกอย่างว่าพวกเขารักกันแต่ก็ยังหน้าด้านเข้าไปเป็นมือที่สามทำให้ความรักของคนอื่นแตกแยก!”“เมมฟิส”นุชนาถอุทานออกมาเสียงแหบแห้งขณะมองชายหนุ่มเขวี้ยงเศษแก้วในมือลงบนพื้นและไม่มีท่าทียี่หระต่อบาดแผลที่เลือดกำลังหยดไหลจนแดงเถือกถึงข้อมือ นัยน์ตาของเขาวับวาวและขึ้งเครียด ร่างเล็กบางที่นั่งตรงข้ามเริ่มสั่นและจุกในอกจนพูดอะไรแทบไม่ออกขณะกำมือทั้งสองไว้บนตักแน่นเธอหายใจติดขัดเพราะความตื่นเต้นและตกใจอย่างมากต่อการกระทำของผู้ชายที่เธอไม่เคยรู้จักเขามาก่อนแต่มีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับคนอีกคนที่ชื่อนั้นยังติดลึกในความทรงจำของหญิงสาว เมมฟิสสำแดงอารมณ์โกรธออกมาอย่างไม่ปิดเร้น ใบหน้าของเขาเป็นสีเข้มจัด ชายหนุ่มยิ้มหยันใส่ความเจ็บปวดของเธอที่ต้องตกเป็นจำเลยทั้งที่ไม่ตั้งใจอย่างเลือดเย็น ร่างสูงลุกขึ้นยืนและจ้องหน้าเธออย่างเอาเรื่อง“หึ!...ทำไม...ทนฟังไม่ได้รึยังไงเวลาที่คนอื่นพูดความจริง พวกนักแสดงอย่างพวกคุณน่ะมันอยู่แต่ในโลกของความลุ่มหลง ใส่หน้ากากเข้าหากันจนไม่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของตัวเองมันแหลกเหลวซักแค่ไหน”“มันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดนะคะ”“แล้วมันเป็นยังไง! คุณอยากจะบอกผมอย่างนั้