“ที่เธอยังอยู่นี่...เธอต้องการอะไร!!”
น้ำเสียงอันดุดันตะคอกออกมา มืออันแข็งแกร่งบีบข้อมือบางเพื่อต้องการเค้นความจริง ร่างกายของธารณ์มีแอลกอฮอล์อยู่ในร่างกายปริมาณค่อนข้างมาก แต่ทว่าเขาก็ยังมีสติที่พอจะรับรู้ว่าตอนนี้เขาเผชิญหน้ากับเด็กรับใช้ในบ้านของเขาอยู่
“คะ-คุณท่าน หะ-ให้หนูอยู่รับใช้คุณก่อนค่ะ ละ-และรอคุณสิตาค่ะ”
น้ำเสียงอันสั่นเครือตอบกลับอย่างตะกุกตะกักเพราะความหวาดกลัวคนตรงหน้า ร่างเล็กๆ สั่นระริกขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุมได้ ดวงตาของเธอเบิกกว้างอย่างตกตะลึง เมื่อดันไปสบตากับดวงตาสีดําคมปลาบคู่นั้น!
“รับใช้งั้นเหรอ! เธอคงอยากจะรับใช้ฉันมากสินะ!”
ใบหน้าคมดุมองมาด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยามและพูดขึ้น พร้อมกับกวาดมองดวงหน้าอันขาวใสของเด็กสาว ริมฝีปากบางสั่นระริกพอๆ กับเรือนร่างอันบอบบางที่สั่นสะท้านจนเขารู้สึกได้
“ไม่นะคะ คือเดี๋ยวคุณสิตา เธอก็จะมาแล้วค่ะคุณธารณ์ คุณท่านให้หนูรอจนคุณสิตาจะกลับมาค่ะ ปะ-ปล่อยหนูเถอะค่ะ”
เอมิกากลัวคนตรงหน้าเธออย่างที่สุด เธอไม่อาจควบคุมความหวาดกลัวของเธอได้เลย ตลอดระยะเวลา 19 ปีของเอมิกานั้น เธอไม่เคยที่จะประจัญหน้าและใกล้เขามากขนาดนี้มาก่อน กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งไปหมด หัวใจเธอเต้นรัวแรง ความคิดอันน่ากลัวผุดขึ้นในหัวตลอดเวลา
“ฉันไม่สนใจใครทั้งนั้น!! ในเมื่อฉันให้โอกาสเธอแล้ว เธอก็ยังมีหน้ามาลอยนวลอยู่ตรงนี้อีก เธอคงอยากจะอัพเกรดตัวเองจากเด็กรับใช้ขึ้นมาสินะ...แต่อย่าหวังเลย อย่างเธอมันก็เป็นได้แค่คนรับใช้เท่านั้น!!!”
ดวงตาสีดํามองร่างเล็กที่กลัวจนตัวสั่นเทาด้วยสายตาเหยียดๆ พรูขึ้นมา กลิ่นหอมจางๆ ราวกับกลิ่นของเกสรดอกไม้ลอยโชยเข้ามาปะทะจมูกของเขาอย่างจัง มันทำให้บางอย่างในเรือนร่างกำยำตื่นตัวอัตโนมัติ ความร้อนเริ่มแผ่ซ่านเข้ามาในเรือนกายของเขา ‘อย่าบอกนะ! ว่าเขามีอารมณ์เด็กรับใช้คนนี้!’
“ปล่อยหนูไปเถอะค่ะ หนูทำตามคำสั่งของคุณท่านเท่านั้นนะคะ เดี๋ยวคุณสิตาเธอก็มาแล้วนะคะ”
เอมิกาพยายามขืนตัวเองให้หลุดพ้นจากพันธนาการของชายหนุ่ม แทนที่เขาจะปล่อย เขากลับกระชากร่างของเธอและรัดเอาไว้แน่น ใบหน้าคมแนบชิดดวงหน้าสวย ลมหายใจร้อนที่ผสมกลิ่นแอลกอฮอล์ปะทะเข้าจมูกของเธออย่างจัง
“จริงๆ เธอมาเสนอถึงห้อง...ฉันน่าจะสนองเธอสักหน่อยนะ...รสชาติเด็กรับใช้อย่างเธอมันจะเป็นยังไงนะ”
เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบตรงข้างหูเธอ ร่างอวบอิ่มเกยแนบชิดกับอกกว้าง มือเขาจับเอวบางเอาไว้แน่น กลิ่นหอมของกายสาวแรกรุ่นโชยเข้าจมูก จนเขาต้องเผลอสูดดมเข้าไปเต็มปอด ซึ่งมันยิ่งเพิ่มความกระสันรัญจวนให้กับเขาเข้าไปอีก
“ไม่นะ! คุณธารณ์ปล่อยหนูนะคะ”
เอมิกาดิ้นสุดแรงพร้อมกับเบี่ยงตัวเองเพื่อไปให้ถึงประตู ‘เขาเมาและไม่มีสติ...เธอไม่ควรที่จะอยู่ตรงนี้’
“ไม่ปล่อย! อยากมีผัวไม่ใช่เหรอ! ดูเธอแล้วน่าจะพึ่งแตกสาวนะ...คงอยากจะลิ้มรสการมีเซ็กส์ดูสินะ!”
“ไม่นะ ปล่อยหนูไปเถอะค่ะ หนูไม่ได้เป็นอย่างที่คุณธารณ์คิดนะคะ หนู...อุ๊บ!!”
เรียวปากบางถูกกระแทกมาทันที หญิงสาวหมดโอกาสที่จะอธิบายต่อ ปากหนาบดขยี้ริมฝีปากของเธออย่างรุนแรง ทั้งที่เอมิกาพยายามที่จะสะบัดหน้าหนีจูบนั้น แต่ทว่าเขากลับใช้จังหวะจู่โจมหนักหน่วง โรมรันเข้ามาอย่างกระหายหิว!
“อื้อ!!! อึก!! อื้อ!!” เสียงอึกอักประท้วงพร้อมกับเรือนร่างบอบบางดิ้นไปมา กำปั้นน้อยๆ ทุบลงไปมาให้หลุดพ้นพันธนาการของชายหนุ่ม ร่างกายของเธอชาไปทุกส่วนไปที่อกกว้าง ศีรษะเล็กสะบัด มือข้างหนึ่งของเขาบีบไปที่ปลายคางของเธออย่างแรง เพื่อรับแรงบดขยี้จากริมฝีปากเขาได้อย่างถนัด
“อึ้มมม์...” เสียงครางคล้ายกับพึงพอใจของอีกฝ่ายเล็ดลอดออกมา ธารณ์รู้สึกทึ่งกับสิ่งที่เขาได้ลิ้มรสจากเรียวปากบางนี้ ความเย้ายวนของกลีบปากนุ่ม ทำให้เขาเกิดแรงปรารถนาเพิ่มขึ้น
“อื้อ!!!”เอมิกาส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดในลำคอ เธอรู้สึกเจ็บแสบที่ปลายลิ้น ร่างกายของเธอชาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า เด็กสาวพยายามดิ้น แต่ทว่าก็ไม่สามารถสู้แรงมหาศาลของชายหนุ่มได้
“อึ้ม...รสชาติดีเหมือนกันนี่”
ธารณ์ถอนริมฝีปากออกพร้อมกับแสยะยิ้มอย่างพอใจ เมื่อเขาได้สัมผัสรสของน้ำผึ้งหวานจากปากของเด็กรับใช้ในบ้าน
“ปะ-ปล่อยหนูไปเถอะนะคะคุณธารณ์”
เด็กสาวอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เมื่อเธอเห็นประกายในดวงตาของชายหนุ่มคล้ายแฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง ที่เธอก็อ่านมันไม่ออก แต่เธอรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
“ปล่อยเหรอ...ปล่อยทำไม...เธอเข้ามาเอง และฉันก็ให้โอกาสเธอแล้ว...ในเมื่อแม่ของฉันส่งมาเพื่อรับใช้ฉัน...เธอก็ควรที่จะทำตามคำสั่งแม่ของฉันนะ!”
“ไม่ค่ะ ปล่อยหนูนะ ไม่ ช่ว-ย...อุ๊บ!!”
ยังไม่ทันจะจบประโยค ริมฝีปากบางถูกกระแทกลงมาอีกครั้ง ปากเล็กถูกปากใหญ่ดูดกลืนอย่างหิวกระหาย มือหนาตะปบลงไปที่อกอวบของวัยสาวแรกรุ่นที่พ้นจากชุดเกาะอกสีขาว เธอยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอยู่เลย ความปรารถนาในกายสาวแผ่ซ่านไปทั่วร่างกำยำ ทำให้ชายหนุ่มเพิ่มแรงบดขยี้ริมฝีปากบาง ฟันคมขบกัดลิ้นเล็กอย่างแรงราวกับต้องการสั่งสอนเจ้าของเรือนร่างอวบอิ่มให้รู้สึก อารมณ์ของธารณ์แตกกระเจิง ผสมกับแรงขับจากบางอย่าง ความร้อนในเรือนกายกำยำเริ่มระอุ ความกำหนัดเริ่มแผ่ซ่านจนต้องเพิ่มความรุนแรงบดขยี้ร่างอันบอบบางของเธออย่างหนักหน่วง
“ฮึก!”เอมิกาพยายามดีดดิ้นขืนตัวเองออกจากอกกว้างแต่มันไม่เป็นผล ชายหนุ่มออกแรงกระชากพร้อมกับผลักร่างของเธอให้ล้มลงบนเตียงใหญ่ขนาดคิงไซส์ทำให้กลีบดอกไม้กระจัดกระจาย ชายหนุ่มกระโจนขึ้นคร่อมร่างบางทันที และล็อคตัวเธอเอาไว้ด้วยต้นขาแข็งแรง ร่างใหญ่กดทับร่างของเด็กสาวเอาไว้แน่น โดยที่เธอไม่มีโอกาสที่จะขยับเขยื้อนได้เลย
แคว่ก!!! ชายหนุ่มฉีกทึ้งชุดเจ้าสาวอันแสนสวยของเธอออกราวกับคนบ้าคลั่ง ไม่เว้นแม้กระทั่งเพนตี้ตัวจิ๋ว เรือนร่างของเด็กสาวเห่อแดงไปทั่วร่างเพราะแรงกระชากอย่างไม่ปราณีจากชายฉกรรจ์เลือดร้อน เด็กสาวพยายามดิ้นเพื่อสู้กลับแต่ทว่ามันก็ไม่เป็นผลเลยสักนิด
“กรี๊ดดดดด!! อุ๊บ!!”
เสียงของเด็กสาวไม่อาจเล็ดลอดออกไปได้ ปากของเธอถูกปิดทันที แรงบดขยี้และฟันคมๆ ของชายหนุ่มกระแทกลงมา เธอรู้สึกถึงรสชาติความเค็มและกลิ่นคาวของเลือด
“อยากรับใช้ฉันมากไม่ใช่เหรอ! ฉันจัดให้!”
อารมณ์ของธารณ์ตอนนี้ไปไกลเกินที่จะกู่กลับแล้ว ความโกรธโมโหบวกผสมกับความกระสันเพราะฤทธิ์ยาที่เจ้าตัวไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองถูกจัดฉากทุกอย่าง มือใหญ่บีบเคล้นปทุมอวบของวัยสาวที่กำลังพอดีมือ จับจ้วงอย่างหยาบกระด้างไม่สนใจอาการดิ้นเร่าของอีกฝ่าย ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งเพิ่มแรงมากขึ้น
“ฮึก! อึก! ปล่อยหนูเถอะค่ะ...หนูขอร้อง...”
เด็กสาวพยายามอ้อนวอนชายกำยำที่อยู่บนเรือนร่างของเธอ ความเจ็บร้าวทั่วทั้งร่างกายที่ถูกกระทำอย่างรุนแรงและป่าเถื่อนอย่างที่สุด ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก ทำไมเธอถึงมาอยู่ตรงนี้ และโดนลูกชายของผู้มีพระคุณกับเธอและแม่ทำเช่นนี้ได้
“ปล่อยเหรอ...ต้องหลังจากที่ฉันสั่งสอนเธอก่อนนะ”
เสียงแหบพร่าพึมพำพร้อมกับโฉบไปที่ยอดปลายถันสีชมพูสวย ความร้อนในร่างกายของธารณ์สูงขึ้นเรื่อยๆ หรืออาจเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่เขาดื่มไปหรืออย่างไร ทำไมเขาถึงเกิดความต้องการมากขนาดนี้!
“ปะ-ปล่อยหนูนะ”
น้ำเสียงที่แหบแห้งและเบาหวิวถูกเอ่ยออกมา เอมิกาทั้งขอร้อง และอ้อนวอนให้เขาเมตตาเธอ จะผลักไสก็ไร้เรี่ยวแรง เธอพยายามกระถดตัวหนี แต่ก็สู้แรงชายไม่ได้ เด็กสาวตัวเล็กๆ ได้แต่ร่ำไห้จนน้ำตานองหน้า เธอไปทำอะไรให้เขา ทำไมเขาต้องทำกับเธอถึงขนาดนี้ คำว่าบุญคุณมันไม่ควรที่จะต้องตอบแทนแบบนี้เลย
......................
กดหัวใจ คอมเมนท์ = หนึ่งกำลังใจนะคะ
ฝากกดติดตาม เพิ่มเข้าชั้น
และรับแจ้งเตือนตอนใหม่ เรื่องใหม่ค่ะ
“เธอคงไม่รู้จักฉันดีสินะ!!” สายตาคมกริบจับจ้องไปร่างอวบอิ่มของวัยแรกสาวตรงหน้า ที่กำลังสั่นเทาราวกับลูกนก ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างอย่างหวาดกลัว ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มอย่างพอใจที่ได้เห็นเธออยู่ในสภาพนี้ ชายหนุ่มรีบปลดเข็มขัดรูดซิปกางเกงออก ความอัดแน่นของแก่นกายใหญ่ดีดดันจนแทบจะทะลุออกจากเป้ากางเกงตัวใหญ่ “ดะ-ได้โปรด ปะ-ปล่อยหนูเถอะค่ะ”ใบหน้าคมยกยิ้มอย่างพึงพอใจกับอาการหวาดกลัวของเด็กสาว ยิ่งเห็นน้ำตาความปรารถนาก็โลดแล่น ความต้องการก็ยิ่งเพิ่มสูงเป็นทวีคูณ! ธารณ์ไม่รู้ว่า นี่เป็นเพราะแอลกอฮอล์หรือเป็นเพราะอะไรกันแน่ ที่ทำให้เขาเกิดความต้องการจากเด็กสาวที่เป็นแค่สาวรับใช้ในบ้านของเขาเช่นนี้ ปกติ ไม่ว่าเขาจะเมาขนาดไหน เขาก็สามารถที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้“ทำไมฉันจะต้องปล่อยเธอไป ในเมื่อเธอเสนอตัวเข้ามาเอง!”“ไม่นะคะ หนูมาเพราะคุณท่านสั่งค่ะ ได้โปรดเถอะค่ะ”ดวงตากลมโตเบิกกว้างออกในทันใด เมื่อเธอเหลือบเห็นความแข็งแกร่งของแท่งเหล็กใหญ่ที่ผงาดออกมา มันทำให้เด็กสาวรีบกระถดร่างหนี! แต่ทว่าก็ยังช้ากว่ามือชายหนุ่มที่คว้าเรียวขาของเธอไว้ และจับถ่างแยกออกจากกัน โดยที่ร่าง
ณ บ้านหลังเล็กที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณคฤหาสน์หลังใหญ่ “ยัยมิ้นท์! นั่นลูกเป็นอะไร!!” “มะ-แม่” น้ำเสียงแหบแห้งร้องเรียกผู้เป็นแม่ เอมิกาพยายามประคองตัวเองเดินเข้ามา หลังจากที่เธอได้ให้แท็กซี่มาส่ง ร่างอันบอบช้ำเดินโซซัดโซเซเข้ามาภายในบ้าน “แม่โทรหาลูกก็ไม่รับสาย เลยคิดว่าถ้าลูกไม่กลับมาแม่ก็จะไปหาลูกที่โรงแรมแล้วนะ แล้วนี่ลูกเป็นอะไรทำไมสภาพของลูกถึงเป็นแบบนี้”มาลินีสำรวจผู้เป็นลูกตั้งแต่หัวจรดเท้า หัวใจของเธอพลันหล่นวูบลงทันที เมื่อประเมินสภาพของลูกสาว “แม่...” น้ำตาที่คิดว่าเหือดแห้งไปหมดแล้วกลับไหลทะลักลงมาอีกครั้งความเจ็บปวดที่ได้รับครั้งนี้มันสาหัสที่สุดแล้วสำหรับเอมิกา เธอโดนข่มขืนอย่างโหดร้ายจากลูกชายเจ้าของบ้านที่เธอกับแม่ได้อาศัยอยู่นี้ตลอด 19 ปีที่ผ่านมา “ลูกเป็นอะไรมิ้นท์ ทำไมลูกถึง...” “คุณธารณ์ค่ะแม่...ฮือ ฮือ เขา...”เอมิกาโผเข้ากอดผู้เป็นแม่ โดยเอมิกาไม่รู้จะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอตอนนี้ได้อย่างไร “เขาทำอะไรลูกของแม่ แล้ว...มันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง ไหนคุณหญิงท่านบอกแค่ให้ลูกไปเข้าพิธีแทนคุณหนูสิต
ผ้าห่มผืนใหญ่ถูกดึงขึ้นเพื่อคลุมร่างอันบอบบางที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงเล็ก สายตาของผู้เป็นแม่มองลูกสาวของตัวเองด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย มาลินีได้รับฟังเรื่องราวที่ลูกสาวของเธอแล้วรู้สึกปวดใจอย่างที่สุด ‘สุดท้าย...วันนี้ก็มาถึง วันที่มาลินีกลัวอย่างที่สุดก็ได้เกิดขึ้นแล้ว’ ‘คุณธารณ์...ข่มขืนมิ้นท์ค่ะแม่’ คำพูดของลูกสาวเธอยังดังกึกก้องอยู่ในหัวของมาลินี ร่างกายของเธอชาตั้งแต่หัวจรดเท้าเมื่อได้รู้ความจริงอันแสนเจ็บปวดนี้ เธอควรจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ เดินเข้าไปหาคุณผู้หญิงเพื่อบอกให้ลูกชายของท่านรับผิดชอบลูกสาวเธอ หรือพาลูกสาวจากบ้านนี้ หนีให้ไกลแล้วไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ มาลินีจะเลือกทางไหน เธอสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน สุดท้ายแล้วเธอและลูกก็ไม่สามารถที่จะเรียกร้องสิ่งไหนได้เลย นอกจากก้มหน้ารับชะตากรรมต่อไป เธอกับลูกไม่ได้อยู่ในฐานะที่สูงส่ง เป็นแค่คนรับใช้จะเอาอะไรมาต่อรองกับพวกเป็นนายได้กันเล่า มาลินีก็ได้แต่โทษตัวเอง ถ้าเธอไม่ยอมตกลงช่วยคุณผู้หญิงเยาวเรศตั้งแต่แรก ลูกสาวของเธอก็คงจะไม่เป็นแบบนี้..................... ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหน
ณ คฤหาสน์อัครเมธี “นั่นลูกจะไปไหนธารณ์”คุณหญิงเยาวเรศมองกระเป๋าในมือของบุตรชายด้วยความแปลกใจ เมื่อคืนพึ่งเสร็จสิ้นจากงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสมาสดๆ ร้อนๆ เจ้าลูกชายของเธอไม่คิดจะหยุดพักเพื่อฮันนีมูนกับลูกสะใภ้ของเธอหรอกหรือ เมื่อคืนคุณหญิงเบญจมาศได้โทรมาอธิบายเรื่องราวทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เธอก็พอจะเบาใจขึ้นมาหน่อย “ผมจะไปประชุมสิงคโปร์สักสองวันครับแม่” “อ่าว แล้วเมียของลูกล่ะ หนูสิตาไม่ไปด้วยหรือไง” “ไม่ครับ ผมไปประชุมไปทำงานครับแม่ สิตาจะไปด้วยทำไมกันครับ” “แล้วนี่หนูสิตารู้เรื่องหรือยัง สายมากแล้วหนูสิตาตื่นหรือยัง เมื่อคืนคงปรับความเข้าใจกันแล้วใช่มั้ยธารณ์” “ครับ” ความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างที่แม่ของเขาเข้าใจหรอก จากเหตุการณ์สับสนวุ่นวายเมื่อคืน มีหลายเรื่องราวให้ธารณ์ต้องถอยหลังออกจากเรื่องนี้สักก้าว เขาต้องใช้เวลาคิดและทบทวนเกี่ยวกับเรื่องของเขาและรสิตาสักหน่อย ยังไม่ทันที่ธารณ์จะตอบแม่เขาเสร็จ เสียงของคนที่ถูกพูดถึงก็ดังขึ้นเสียก่อน “ธารณ์คะ นี่ธารณ์จะไปไหนคะ”รสิตาวิ่งพรวดลงบันไดจากชั้นบนของบ้านมาด้วย
“ไหนเธอลองเล่าเรื่องเมื่อคืนให้ฉันฟังหน่อยสิมาลินี”หลังจากที่คุณหญิงเบญจมาศกลับไป คุณหญิงเยาวเรศก็เรียกมาลินีมาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น จริงเท็จแค่ไหน เธอเองก็ร้อนใจอยู่เหมือนกัน “เรื่องอะไรหรือคะคุณท่าน” “เอ้า! ก็เรื่องลูกสาวของเธอกับตาธารณ์ไง คุณหญิงเบญจมาศมารายงานฉันเมื่อกี้ ว่ายัยมิ้นท์ลูกสาวของเธอกับตาธารณ์มีอะไรกันเมื่อคืนเป็นเรื่องจริงมั้ย แล้วนี่ลูกสาวเธอไปไหน” “ยัยมิ้นท์ไม่สบายค่ะคุณท่าน ก็คงเป็นเรื่องอย่างที่คุณท่านทราบมานั่นแหละค่ะ...เอ่อ...คุณหนูธารณ์เธอ...”มาลินีลำบากใจที่จะเอ่ยเหลือเกิน เธอไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะพูดได้เต็มปาก ลำพังถ้าเธอและลูกไม่ได้รับความเมตตาจากคุณหญิงท่านล่ะก็ ป่านนี้เธอกับลูกจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ “สรุปคือเรื่องจริงใช่มั้ย...” “ค่ะคุณท่าน” “โอย...ตายแล้ว...ทำไมมันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย”ตอนแรกคุณหญิงเยาวเรศก็ไม่คิดจะเชื่อเรื่องที่คุณหญิงเบญจมาศเล่าสักเท่าไหร่ เธอจะเชื่อได้ยังไง ในเมื่อลูกชายของเธอกับลูกสาวของมาลินีไม่เคยพบเจอกันเลย มาลินีกับลูกสาวเธอให้ไปอยู่เรือนคนรับใช
“ธารณ์ไม่ไปงั้นเหรอคะ สิตาจองเที่ยวบินจองโรงแรมทุกอย่างไว้หมดแล้วนะคะ ธารณ์รับปากคุณแม่แล้วนะว่ามาเยี่ยมน้องธีย์แล้ว เราก็จะไปฮันนีมูนต่อนี่คะ” “ผมไม่ได้รับปาก คุณเองต่างหากสิตาที่รับปากคุณแม่ ความจริงเรื่องทุกอย่างมันจะไม่เป็นแบบนี้หรอกนะ ถ้าคุณไม่ทำเรื่องวุ่นวายนี้ขึ้นก่อน” “นี่ธารณ์จะไม่เลิกงอนสิตาใช่มั้ยคะ” “ผมไม่ได้งอน เพียงแต่ว่าตอนนี้ผมอยากขอเวลาอยู่เงียบๆ สักพัก พูดตรงๆ ก็คือผมไม่มีอารมณ์ไปเที่ยวไหนหรอก”เวลาที่เขาจะได้ทบทวนบางอย่างเกี่ยวกับตัวเขาและรสิตา เขารีบร้อนจนเกินไป คิดว่ารสิตาคงรักเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รักเธอมาก แต่เขาคิดว่าแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ไม่นานก็คงจะรักกันไปเอง ค่อยศึกษานิสัยใจคอกัน “นี่แหละค่ะที่เรียกว่างอน สิตาขอโทษนะคะธารณ์ เรื่องนี้มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วนะคะ สิตาให้สัญญานะคะ ว่าต่อไปนี้สิตาจะใช้ชีวิตอยู่กับธารณ์ จะไม่ไปเที่ยวไหน เราจะเป็นครอบครัวกันนะคะธารณ์ คุณแม่ธารณ์อยากได้เบบี๋นะคะ เราไปฮันนีมูนกัน และปั๊มหลานให้คุณแม่กันเถอะค่ะ...นะคะธารณ์ สิตารักธารณ์นะคะ” “เรื่องฮันนีมูนเอาไว้ก่อนเถอะ ถึงไ
บรรยากาศภายในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมหรูใจกลางเมืองกรุง เป็นไปอย่างชื่นมื่น เหล่าบรรดานักธุรกิจ คุณหญิงคุณนายแวดวงโฮโซ ต่างถูกรับเชิญมาร่วมแสดงความยินดีกับพิธีมงคลสมรสบุตรชายคนโตของเจ้าสัวชื่อดัง ผู้ที่ซึ่งล่วงลับไปแล้ว แต่ทว่าความร่ำรวยและความมั่งคั่งยังคงอยู่เพราะบุญบารมีของผู้เป็นพ่อ เลยทำให้เหล่าเศรษฐีและคนดังต่างพากันมาแสดงความยินดีกันถ้วนหน้าท่ามกลางบรรยากาศที่น่ายินดี ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดทักสิโด้สีขาวนั้น กลับแสดงสีหน้าตรงกันข้ามกับบรรยากาศของงาน สายตาคมดุเหลือบมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยความรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก สันกรามของเขาขบกันแน่น เขาเพิ่มแรงบีบมืออันบอบบางที่อยู่ในอุ้งมือใหญ่ของเขาเพื่อระบายความอัดอั้นที่อยู่ตรงหน้านี้ แขกนับร้อยกำลังจ้องมองเขาและเธออย่างชื่นชม แต่หารู้ไม่ ว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นนั้น มันตรงกันข้ามกับความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง!‘เอมิกา’ สาวน้อยเรือนร่างบอบบางอยู่ในชุดเจ้าสาวที่ถูกออกแบบเป็นพิเศษด้วยผ้าดิ้นสีขาวบริสุทธิ์นำเข้าจากต่างประเทศ ชายกระโปรงยาวกรุยกราย ตัวชุดแนบชิดเรือนกายจนแลเห็นเรือนร่างทรงนาฬิกาทรายอันงดงามสมส่วน ขณะที่ด้านหลังเป็น
“แม่ขอโทษ...แม่ไม่คิดว่าหนูสิตาจะเกิดเรื่องแบบนี้”คุณหญิงเยาวเรศเอ่ยขึ้น เมื่องานเลี้ยงฉลองพิธีมงคลสมรสนั้น เป็นอันต้องชะงักลงกลางคัน เพราะแผนการของคุณหญิงเยาวเรศเอง เธอกลัวลูกชายของเธอนั้นจะหลุด*โป๊ะกลางงาน เธอเลยออกอุบายหาข้ออ้างให้เจ้าสาวเกิดเป็นลมล้มพับกลางงานขึ้น “ขอโทษเหรอครับ...แม่ขอโทษโดยการเอาเด็กรับใช้นั่นมาเข้าพิธีแต่งงานกับผมงั้นหรือครับ”สายตาคมดุสาดไปยังบุคคลที่เขากำลังเอ่ยถึง เธอกำลังยืนก้มหน้าอยู่กลางห้องนอนใหญ่ของโรงแรม โดยห้องนี้ถูกจัดให้เป็นห้องที่เตรียมพิธีส่งตัวเข้าหอ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่แม่ของเขาวางแผนให้เด็กรับใช้นั้นเป็นลม ธารณ์จึงอุ้มร่างของเธอมายังห้องนี้ โดยแม่ของเขาก็ตามติดๆ ทั้งสามเลยต้องยืนประจัญหน้ากันภายในห้อง เพื่อสะสางในสิ่งที่เกิดขึ้น “แต่มันแค่เป็นพิธีเลี้ยงตอนเย็นแค่นั้นนะธารณ์ และตอนนี้เราก็ติดต่อหนูสิตาได้แล้ว มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดฝั่งของหนูสิตาเองนะธารณ์ แม่ว่าเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมากนะ”คุณหญิงเยาวเรศเหลือบมองไปยังเด็กรับใช้ในบ้านของเธอ ทุกอย่างของเด็กคนนี้ใกล้เคียงกับว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอมาก เธอไม่คิดว่าลูกชายของเธอจะโกรธ
“ธารณ์ไม่ไปงั้นเหรอคะ สิตาจองเที่ยวบินจองโรงแรมทุกอย่างไว้หมดแล้วนะคะ ธารณ์รับปากคุณแม่แล้วนะว่ามาเยี่ยมน้องธีย์แล้ว เราก็จะไปฮันนีมูนต่อนี่คะ” “ผมไม่ได้รับปาก คุณเองต่างหากสิตาที่รับปากคุณแม่ ความจริงเรื่องทุกอย่างมันจะไม่เป็นแบบนี้หรอกนะ ถ้าคุณไม่ทำเรื่องวุ่นวายนี้ขึ้นก่อน” “นี่ธารณ์จะไม่เลิกงอนสิตาใช่มั้ยคะ” “ผมไม่ได้งอน เพียงแต่ว่าตอนนี้ผมอยากขอเวลาอยู่เงียบๆ สักพัก พูดตรงๆ ก็คือผมไม่มีอารมณ์ไปเที่ยวไหนหรอก”เวลาที่เขาจะได้ทบทวนบางอย่างเกี่ยวกับตัวเขาและรสิตา เขารีบร้อนจนเกินไป คิดว่ารสิตาคงรักเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รักเธอมาก แต่เขาคิดว่าแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ไม่นานก็คงจะรักกันไปเอง ค่อยศึกษานิสัยใจคอกัน “นี่แหละค่ะที่เรียกว่างอน สิตาขอโทษนะคะธารณ์ เรื่องนี้มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วนะคะ สิตาให้สัญญานะคะ ว่าต่อไปนี้สิตาจะใช้ชีวิตอยู่กับธารณ์ จะไม่ไปเที่ยวไหน เราจะเป็นครอบครัวกันนะคะธารณ์ คุณแม่ธารณ์อยากได้เบบี๋นะคะ เราไปฮันนีมูนกัน และปั๊มหลานให้คุณแม่กันเถอะค่ะ...นะคะธารณ์ สิตารักธารณ์นะคะ” “เรื่องฮันนีมูนเอาไว้ก่อนเถอะ ถึงไ
“ไหนเธอลองเล่าเรื่องเมื่อคืนให้ฉันฟังหน่อยสิมาลินี”หลังจากที่คุณหญิงเบญจมาศกลับไป คุณหญิงเยาวเรศก็เรียกมาลินีมาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น จริงเท็จแค่ไหน เธอเองก็ร้อนใจอยู่เหมือนกัน “เรื่องอะไรหรือคะคุณท่าน” “เอ้า! ก็เรื่องลูกสาวของเธอกับตาธารณ์ไง คุณหญิงเบญจมาศมารายงานฉันเมื่อกี้ ว่ายัยมิ้นท์ลูกสาวของเธอกับตาธารณ์มีอะไรกันเมื่อคืนเป็นเรื่องจริงมั้ย แล้วนี่ลูกสาวเธอไปไหน” “ยัยมิ้นท์ไม่สบายค่ะคุณท่าน ก็คงเป็นเรื่องอย่างที่คุณท่านทราบมานั่นแหละค่ะ...เอ่อ...คุณหนูธารณ์เธอ...”มาลินีลำบากใจที่จะเอ่ยเหลือเกิน เธอไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะพูดได้เต็มปาก ลำพังถ้าเธอและลูกไม่ได้รับความเมตตาจากคุณหญิงท่านล่ะก็ ป่านนี้เธอกับลูกจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ “สรุปคือเรื่องจริงใช่มั้ย...” “ค่ะคุณท่าน” “โอย...ตายแล้ว...ทำไมมันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย”ตอนแรกคุณหญิงเยาวเรศก็ไม่คิดจะเชื่อเรื่องที่คุณหญิงเบญจมาศเล่าสักเท่าไหร่ เธอจะเชื่อได้ยังไง ในเมื่อลูกชายของเธอกับลูกสาวของมาลินีไม่เคยพบเจอกันเลย มาลินีกับลูกสาวเธอให้ไปอยู่เรือนคนรับใช
ณ คฤหาสน์อัครเมธี “นั่นลูกจะไปไหนธารณ์”คุณหญิงเยาวเรศมองกระเป๋าในมือของบุตรชายด้วยความแปลกใจ เมื่อคืนพึ่งเสร็จสิ้นจากงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสมาสดๆ ร้อนๆ เจ้าลูกชายของเธอไม่คิดจะหยุดพักเพื่อฮันนีมูนกับลูกสะใภ้ของเธอหรอกหรือ เมื่อคืนคุณหญิงเบญจมาศได้โทรมาอธิบายเรื่องราวทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เธอก็พอจะเบาใจขึ้นมาหน่อย “ผมจะไปประชุมสิงคโปร์สักสองวันครับแม่” “อ่าว แล้วเมียของลูกล่ะ หนูสิตาไม่ไปด้วยหรือไง” “ไม่ครับ ผมไปประชุมไปทำงานครับแม่ สิตาจะไปด้วยทำไมกันครับ” “แล้วนี่หนูสิตารู้เรื่องหรือยัง สายมากแล้วหนูสิตาตื่นหรือยัง เมื่อคืนคงปรับความเข้าใจกันแล้วใช่มั้ยธารณ์” “ครับ” ความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างที่แม่ของเขาเข้าใจหรอก จากเหตุการณ์สับสนวุ่นวายเมื่อคืน มีหลายเรื่องราวให้ธารณ์ต้องถอยหลังออกจากเรื่องนี้สักก้าว เขาต้องใช้เวลาคิดและทบทวนเกี่ยวกับเรื่องของเขาและรสิตาสักหน่อย ยังไม่ทันที่ธารณ์จะตอบแม่เขาเสร็จ เสียงของคนที่ถูกพูดถึงก็ดังขึ้นเสียก่อน “ธารณ์คะ นี่ธารณ์จะไปไหนคะ”รสิตาวิ่งพรวดลงบันไดจากชั้นบนของบ้านมาด้วย
ผ้าห่มผืนใหญ่ถูกดึงขึ้นเพื่อคลุมร่างอันบอบบางที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงเล็ก สายตาของผู้เป็นแม่มองลูกสาวของตัวเองด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย มาลินีได้รับฟังเรื่องราวที่ลูกสาวของเธอแล้วรู้สึกปวดใจอย่างที่สุด ‘สุดท้าย...วันนี้ก็มาถึง วันที่มาลินีกลัวอย่างที่สุดก็ได้เกิดขึ้นแล้ว’ ‘คุณธารณ์...ข่มขืนมิ้นท์ค่ะแม่’ คำพูดของลูกสาวเธอยังดังกึกก้องอยู่ในหัวของมาลินี ร่างกายของเธอชาตั้งแต่หัวจรดเท้าเมื่อได้รู้ความจริงอันแสนเจ็บปวดนี้ เธอควรจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ เดินเข้าไปหาคุณผู้หญิงเพื่อบอกให้ลูกชายของท่านรับผิดชอบลูกสาวเธอ หรือพาลูกสาวจากบ้านนี้ หนีให้ไกลแล้วไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ มาลินีจะเลือกทางไหน เธอสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน สุดท้ายแล้วเธอและลูกก็ไม่สามารถที่จะเรียกร้องสิ่งไหนได้เลย นอกจากก้มหน้ารับชะตากรรมต่อไป เธอกับลูกไม่ได้อยู่ในฐานะที่สูงส่ง เป็นแค่คนรับใช้จะเอาอะไรมาต่อรองกับพวกเป็นนายได้กันเล่า มาลินีก็ได้แต่โทษตัวเอง ถ้าเธอไม่ยอมตกลงช่วยคุณผู้หญิงเยาวเรศตั้งแต่แรก ลูกสาวของเธอก็คงจะไม่เป็นแบบนี้..................... ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหน
ณ บ้านหลังเล็กที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณคฤหาสน์หลังใหญ่ “ยัยมิ้นท์! นั่นลูกเป็นอะไร!!” “มะ-แม่” น้ำเสียงแหบแห้งร้องเรียกผู้เป็นแม่ เอมิกาพยายามประคองตัวเองเดินเข้ามา หลังจากที่เธอได้ให้แท็กซี่มาส่ง ร่างอันบอบช้ำเดินโซซัดโซเซเข้ามาภายในบ้าน “แม่โทรหาลูกก็ไม่รับสาย เลยคิดว่าถ้าลูกไม่กลับมาแม่ก็จะไปหาลูกที่โรงแรมแล้วนะ แล้วนี่ลูกเป็นอะไรทำไมสภาพของลูกถึงเป็นแบบนี้”มาลินีสำรวจผู้เป็นลูกตั้งแต่หัวจรดเท้า หัวใจของเธอพลันหล่นวูบลงทันที เมื่อประเมินสภาพของลูกสาว “แม่...” น้ำตาที่คิดว่าเหือดแห้งไปหมดแล้วกลับไหลทะลักลงมาอีกครั้งความเจ็บปวดที่ได้รับครั้งนี้มันสาหัสที่สุดแล้วสำหรับเอมิกา เธอโดนข่มขืนอย่างโหดร้ายจากลูกชายเจ้าของบ้านที่เธอกับแม่ได้อาศัยอยู่นี้ตลอด 19 ปีที่ผ่านมา “ลูกเป็นอะไรมิ้นท์ ทำไมลูกถึง...” “คุณธารณ์ค่ะแม่...ฮือ ฮือ เขา...”เอมิกาโผเข้ากอดผู้เป็นแม่ โดยเอมิกาไม่รู้จะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอตอนนี้ได้อย่างไร “เขาทำอะไรลูกของแม่ แล้ว...มันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง ไหนคุณหญิงท่านบอกแค่ให้ลูกไปเข้าพิธีแทนคุณหนูสิต
“เธอคงไม่รู้จักฉันดีสินะ!!” สายตาคมกริบจับจ้องไปร่างอวบอิ่มของวัยแรกสาวตรงหน้า ที่กำลังสั่นเทาราวกับลูกนก ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างอย่างหวาดกลัว ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มอย่างพอใจที่ได้เห็นเธออยู่ในสภาพนี้ ชายหนุ่มรีบปลดเข็มขัดรูดซิปกางเกงออก ความอัดแน่นของแก่นกายใหญ่ดีดดันจนแทบจะทะลุออกจากเป้ากางเกงตัวใหญ่ “ดะ-ได้โปรด ปะ-ปล่อยหนูเถอะค่ะ”ใบหน้าคมยกยิ้มอย่างพึงพอใจกับอาการหวาดกลัวของเด็กสาว ยิ่งเห็นน้ำตาความปรารถนาก็โลดแล่น ความต้องการก็ยิ่งเพิ่มสูงเป็นทวีคูณ! ธารณ์ไม่รู้ว่า นี่เป็นเพราะแอลกอฮอล์หรือเป็นเพราะอะไรกันแน่ ที่ทำให้เขาเกิดความต้องการจากเด็กสาวที่เป็นแค่สาวรับใช้ในบ้านของเขาเช่นนี้ ปกติ ไม่ว่าเขาจะเมาขนาดไหน เขาก็สามารถที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้“ทำไมฉันจะต้องปล่อยเธอไป ในเมื่อเธอเสนอตัวเข้ามาเอง!”“ไม่นะคะ หนูมาเพราะคุณท่านสั่งค่ะ ได้โปรดเถอะค่ะ”ดวงตากลมโตเบิกกว้างออกในทันใด เมื่อเธอเหลือบเห็นความแข็งแกร่งของแท่งเหล็กใหญ่ที่ผงาดออกมา มันทำให้เด็กสาวรีบกระถดร่างหนี! แต่ทว่าก็ยังช้ากว่ามือชายหนุ่มที่คว้าเรียวขาของเธอไว้ และจับถ่างแยกออกจากกัน โดยที่ร่าง
“ที่เธอยังอยู่นี่...เธอต้องการอะไร!!”น้ำเสียงอันดุดันตะคอกออกมา มืออันแข็งแกร่งบีบข้อมือบางเพื่อต้องการเค้นความจริง ร่างกายของธารณ์มีแอลกอฮอล์อยู่ในร่างกายปริมาณค่อนข้างมาก แต่ทว่าเขาก็ยังมีสติที่พอจะรับรู้ว่าตอนนี้เขาเผชิญหน้ากับเด็กรับใช้ในบ้านของเขาอยู่ “คะ-คุณท่าน หะ-ให้หนูอยู่รับใช้คุณก่อนค่ะ ละ-และรอคุณสิตาค่ะ”น้ำเสียงอันสั่นเครือตอบกลับอย่างตะกุกตะกักเพราะความหวาดกลัวคนตรงหน้า ร่างเล็กๆ สั่นระริกขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุมได้ ดวงตาของเธอเบิกกว้างอย่างตกตะลึง เมื่อดันไปสบตากับดวงตาสีดําคมปลาบคู่นั้น! “รับใช้งั้นเหรอ! เธอคงอยากจะรับใช้ฉันมากสินะ!”ใบหน้าคมดุมองมาด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยามและพูดขึ้น พร้อมกับกวาดมองดวงหน้าอันขาวใสของเด็กสาว ริมฝีปากบางสั่นระริกพอๆ กับเรือนร่างอันบอบบางที่สั่นสะท้านจนเขารู้สึกได้ “ไม่นะคะ คือเดี๋ยวคุณสิตา เธอก็จะมาแล้วค่ะคุณธารณ์ คุณท่านให้หนูรอจนคุณสิตาจะกลับมาค่ะ ปะ-ปล่อยหนูเถอะค่ะ”เอมิกากลัวคนตรงหน้าเธออย่างที่สุด เธอไม่อาจควบคุมความหวาดกลัวของเธอได้เลย ตลอดระยะเวลา 19 ปีของเอมิกานั้น เธอไม่เคยที่จะประจัญหน้าและใกล้เขาม
[ณ โรงแรมหรูระดับห้าดาวแห่งหนึ่ง] ร่างอันเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ทั้งสองกำลังกกกอดกันอยู่บนเตียงกว้างในห้องนอนโรงแรมหรูชื่อดัง หลังจากที่สงครามรักร้อนแรงนั้นจบลง ตึ๊ด!! ตึ๊ด!! “อึ้ม...” ร่างอรชรเริ่มขยับตัว มือเรียวยาวกำลังควานหาต้นเหตุของเสียงสั่นสะเทือนนั้น ศีรษะของเธอหนักอึ้งไปหมด ราวกับโดนของแข็งกดทับเอาไว้ ดวงตากลมโตจ้องมองสายเรียกเข้านั่น ในสภาพที่ยังมึนงงและกำลังเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เธอดื่มเข้าไปค่อนข้างมากเลยทีเดียว “ค่ะมี้...” เมื่อรู้ว่าสายนั้นเป็นใคร รสิตาก็กรอกเสียงลงไปทันที ‘นี่มันเวลาเท่าไหร่แล้วเนี่ย’ “ยัยตา! นี่แกอยู่ไหนของแก ฉันโทรหาแกเป็นร้อยๆ สาย! ทำไมแกไม่รับสายฉันห๊า! แล้วนี่แกมัวทำอะไรอยู่!”คุณหญิงเบญจมาศระเบิดอารมณ์ใส่ลูกสาวสุดที่รักของเธอทันที เธอแทบจะบ้าตายเพราะลูกสาวตัวดีของเธอหายไปทั้งที่พิธีงานแต่งงานยังไม่เสร็จ “ตากำลัง...เอ่อ...”สายตาของเธอเหลือบมองคนข้างกายของเธอ ‘นิธิศ’ ชายคู่ขาลับๆ ของเธอที่กำลังหลับอย่างสบายอารมณ์ รสิตาแค่จะออกมาผ่อนคลายสักสองชั่วโมงเองนะ และจะกลับไปให้ทันงานเ
“แม่ขอโทษ...แม่ไม่คิดว่าหนูสิตาจะเกิดเรื่องแบบนี้”คุณหญิงเยาวเรศเอ่ยขึ้น เมื่องานเลี้ยงฉลองพิธีมงคลสมรสนั้น เป็นอันต้องชะงักลงกลางคัน เพราะแผนการของคุณหญิงเยาวเรศเอง เธอกลัวลูกชายของเธอนั้นจะหลุด*โป๊ะกลางงาน เธอเลยออกอุบายหาข้ออ้างให้เจ้าสาวเกิดเป็นลมล้มพับกลางงานขึ้น “ขอโทษเหรอครับ...แม่ขอโทษโดยการเอาเด็กรับใช้นั่นมาเข้าพิธีแต่งงานกับผมงั้นหรือครับ”สายตาคมดุสาดไปยังบุคคลที่เขากำลังเอ่ยถึง เธอกำลังยืนก้มหน้าอยู่กลางห้องนอนใหญ่ของโรงแรม โดยห้องนี้ถูกจัดให้เป็นห้องที่เตรียมพิธีส่งตัวเข้าหอ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่แม่ของเขาวางแผนให้เด็กรับใช้นั้นเป็นลม ธารณ์จึงอุ้มร่างของเธอมายังห้องนี้ โดยแม่ของเขาก็ตามติดๆ ทั้งสามเลยต้องยืนประจัญหน้ากันภายในห้อง เพื่อสะสางในสิ่งที่เกิดขึ้น “แต่มันแค่เป็นพิธีเลี้ยงตอนเย็นแค่นั้นนะธารณ์ และตอนนี้เราก็ติดต่อหนูสิตาได้แล้ว มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดฝั่งของหนูสิตาเองนะธารณ์ แม่ว่าเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมากนะ”คุณหญิงเยาวเรศเหลือบมองไปยังเด็กรับใช้ในบ้านของเธอ ทุกอย่างของเด็กคนนี้ใกล้เคียงกับว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอมาก เธอไม่คิดว่าลูกชายของเธอจะโกรธ