วันนี้ฉันมาลองชุดกับผู้ชายคนนั้นคนที่เป็นว่าที่เจ้าบ่าวของฉัน เขาขับรถมารับฉันที่หน้าบ้านเราสองคนขึ้นรถไปด้วยกันและภายในรถต่างฝ่ายต่าง ไม่มีใครพูดอะไรกันเลย ฉันก็ได้แต่นั่งเงียบ จนถึงร้านตัดชุดวิวาห์ บอกตรงๆว่าฉันก็อึดอัดเหมือนกันเป็นไปได้ฉันก็ไม่อยากแต่งหรอกทำหน้าไม่รับแขก คิดว่าหล่อตายแหละ ขี้เก๊ก สุดๆ
" สวัสดีค่ะเชิญด้านในก่อนค่ะ ไม่ทราบว่าคุณลูกค้ามีแบบในใจหรือยังคะ"
เสียงพี่พนักงานเอ่ยเชิญเราทั้งสองเข้าไปในร้านและถามว่าฉันมีแบบในใจหรือยังบอกเลยว่าไม่มีในหัวเลยค่ะเพราะชีวิตนี้ฉันไม่ได้คิดว่าจะแต่งงานด้วยซ้ำ
" รีบๆเลือกจะได้กลับ เสียเวลา ฉันไม่ได้มีเวลาให้เธอตลอดทั้งวันหรอกนะรู้ไว้ซะด้วย "
เสียงว่าที่เจ้าบ่าวของฉันเอ่ยกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน ดูเหมือนเขาจะไม่สบอารมณ์ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขาก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับฉันตั้งแต่แรก แล้วถามว่าฉันอยากแต่งงานกับเขาไหม ทำเหมือนตัวเองเสียเวลาเป็นอยู่คนเดียว ถ้าเสียเวลาเขาขนาดนั้นจะพาฉันมาทำไม จริงๆฉันมาคนเดียวก็ได้
" ก็ฉันบอกแล้วไงคะว่าไม่ต้องพาฉันมา ฉันมาเองก็ได้ ฉันไม่ได้ง้อให้คุณพามาสักหน่อย"
" นี่เธออย่ามาต่อปากต่อคำกับฉันให้มากรีบๆเลือกจะได้รีบกลับ "
" รีบมากก็กลับไปเลยค่ะไม่ต้องรอฉัน ฉันอยู่คนเดียวได้ "
" แล้วเธอคิดว่าฉันอยากจะมาหรือไง ถ้าไม่ติดว่าแม่ฉันบังคับให้พาเธอมา ฉันก็ไม่พามาให้เสียเวลาหรอก รีบๆฉันมีเวลาให้เธอไม่มาก และอย่าต่อปากต่อคำกับฉันเพราะฉันไม่ชอบ "
พูดจบเซอร์เวย์ก็เดินไปนั่งที่โซฟาหรูทันทีโดยมีท่าทีหัวเสียจนเจ้าของร้านสังเกตได้ หญิงสาวที่เห็นแบบนั้นก็ไม่ได้สนใจเธอก็เดินมาดูแบบชุดแต่งงานที่เธอต้องการปล่อยให้เขานั่งหัวเสียแบบนั้นต่อไปช่วยไม่ได้เธอไม่ได้ต้องการให้เขามาตั่งแต่แรก
" ขอฉันเดินดูก่อนนะค่ะ "
" ตามสบายเลยค่ะลูกค้า แล้วคุณผู้ชายล่ะคะจะดูด้วยไหมคะ "
" ไม่เป็นไรครับ ให้เธอดูได้เลยผมก็เอาแบบที่เข้ากับชุดของเธอนั่นแหละ ผมไม่เรื่องมาก"
เสียงว่าที่เจ้าบ่าวของฉันเอ่ยในขณะที่ฉันกำลังจะเดินดูชุดภายในร้าน แต่ในท้ายประโยคดูเหมือนเขาจะพูดเหน็บแนมฉัน ฉันเลยตัดสินใจเลือกเดินดูแล้วเดินดูอีก วนดูอย่างนั้นเป็นสิบๆรอบโทษฐานที่กล้าปากดีใส่ฉันอยากรีบนักใช่ไหมรีบก็รีบไปสิแต่ฉันไม่รีบรอได้ก็รอ รอไม่ได้ก็ไม่ต้องรอ
เวลาผ่านไป 4 ชม.
หลังจากที่ได้ลองชุด และตัดสินใจเลือกอยู่ 2-3 ชุด คือจะเป็นชุดไทยในช่วงงานตอนเช้า และจะเป็นชุดบ่าวสาวในงานกินเลี้ยงฉลอง ของตอนเย็น ซึ่งชุดกินเลี้ยงในตอนเย็นเจ้าสาวจะเป็นสีแดงเจ้าบ่าวจะใส่สูทสีดำ เนื่องจากพ่อกับคุณลุงของฉันมีเชื้อสายจีนท่านทั้งสองเลยอยากให้ในงานมีสีแดง แต่ยังคงรูปแบบของฝรั่งเศส ตอนนี้เราสองคนก็ออกมาจากร้าน และดูเหมือนว่าเขารีบมากๆ ทำหน้าตาหงุดหงิดใส่ฉันแต่แล้วไงล่ะใครสน
" นี่เธอฉันบอกให้เธอเลือกเร็วๆ นี่ปาไป 4 ชั่วโมงจะบ้าไปแล้วหรอฉันบอกว่าฉันมีธุระต้องทำเลือกบ้า เลือกบอ อะไรของเธออยากแต่งงานกับฉันมากเลยหรือไงกะอีแค่ชุดแต่งงานเลือกไปครึ่งค่อนวัน"
" ก็ฉันบอกคุณแล้วไงคะว่าถ้าคุณรีบมากก็ไปได้เลยไม่ต้องรอ ฉันเลือกของฉันเองได้ฉันไม่ได้ง้อให้คุณมาอยู่กับฉันสักหน่อย "
" อย่ากวนประสาทฉันให้มันมาก ลึกๆแล้วเธอก็อยากแต่งงานกับฉันจนตัวสั่น"
" ขอโทษนะคะคุณไปเอาความมั่นใจมาจากไหนอย่าหลงตัวเอง จริงอยู่ที่คุณหน้าตาดีแต่นิสัยแย่แบบนี้ก็ไม่ไหวนะคะ ฉันว่าเราแยกย้ายกันตรงนี้ดีกว่าค่ะ ต่างคนต่างไป "
" นี่เธอปากดีไปเถอะ ก็ดี จะได้ไม่ต้องขับไปส่งให้เสียเวลา ใจจริงฉันก็ไม่ได้อยากจะไปรับไปส่งเธออยู่แล้ว ถ้าเป็นไปได้ก็ช่วยทำอะไรด้วยตัวเอง ฉันไม่ได้มีเวลามากแบบเธอ "
" อ้อ และที่สำคัญเธอควรจะมีปากปฏิเสธแม่ฉันบ้าง อย่าคิดว่าแม่ฉันให้ท้ายแล้วฉันจะยอมเธอทุกอย่าง "
พูดจบว่าที่เจ้าบ่าวของฉันก็ขึ้นรถและขับออกไปทันที แล้วใครอยากให้คุณมารับมาส่งฉันกันละ ฉันเบะปากแล้วมองบน ผู้ชายคนนี้มีดีแค่หน้าตาดีจริงๆ แต่นิสัยแย่มาก นี่ฉันต้องแต่งงานกับผู้ชายแบบนี้จริงๆหรอเนี่ย ฉันยืนคิดอะไรเพลินๆและนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกเพื่อนๆฉันเลยว่างานจะจัดเมื่อไหร่ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทักบอกเพื่อนๆดีกว่า
LINE
แก๊ง 4 สาวสุดสวย
เคส : นี่พวกแกงานแต่งของฉันจัดขึ้นสิ้นเดือนหน้าพวกแกรีบหาชุดเลยนะจ๊ะช่วงเช้าเป็นงานชุดไทยส่วนช่วงกินเลี้ยงเป็นตรีมสีแดง
เมนี่ : ว้าย...แกเลิศมาก สีแดงแรงฤทธิ์ไปเลยจ้า
จูน : สีแดงเลยหรอแกแอบแรงอยู่นร้าาาา แต่ก็ดีสีแดงเหมาะกับแกมาก คงจะขับผิวแกหน้าดูเลยฉันอยากจะเห็นชุดแกแล้วสิ
แก้ว : โอเคแกเดี๋ยวพวกฉันจะตัดชุดรอเลย
เคส : ใช่สีแดงเพราะพ่อกับคุณลุงมีเชื้อสายจีนแต่ก็ยังคงรูปแบบสไตล์ฝรั่ง นั่นแหละ เอาไว้วันงานพวกแกก็จะเห็นเองนั่นแหละ เออแกฉันกลับบ้าน ก่อนนะไว้เจอกัน
พอจบจากการสนทนาของเพื่อนๆหญิงสาวจึงเรียกรถแท็กซี่กลับไปที่บริษัททันทีเพราะเธอมีงานต้องทำอีกมากมาย แค่ช่วงเช้าเธอก็เสียเวลากับผู้ชายนิสัยไม่ดีไปตั้งหลายชั่วโมง
ใจจริงแล้วชุดแต่งงานที่เธอเลือกไม่ได้นานขนาดนั้นแต่เพราะความหมั่นไส้อยากจะแกล้งผู้ชายคนนั้นจึงทำให้เธอต้องเลือกชุดแต่งงานนานหลายชั่วโมง คิดแล้วเธอก็สะใจที่ทำให้ว่าที่เจ้าบ่าวโกรธจนหน้าดำหน้าแดงได้
นี่เธอต้องอยู่ต่อปากต่อคำไปกับผู้ชายคนนั้นอีกนานแค่ไหนกันคิดแล้วก็ปวดหัวจริงๆ ชีวิตที่แสนสงบสุข สดใส กำลังจะหายไป คงเหลือไว้แต่เพียง เรื่องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวันเพราะผู้ชายที่กำลังจะเป็นว่าที่สามีของเธอในอนาคต
วันนี้เป็นงานแต่งงานของฉันซึ่งเป็นวันที่ฉันควรจะดีใจครั้งหนึ่งในชีวิตได้สวมชุดเจ้าสาวซึ่งเป็นความฝันของผู้หญิงหลายๆคน แต่ไม่ใช่สำหรับฉันพิธีตอนเช้าจัดแบบเรียบง่ายเป็นวัฒนธรรมของไทยชั้นที่อยู่ในชุดไทยสีชมพูโรสโกลด์ กับเจ้าบ่าวที่อยู่ในชุดโจงกระเบนสีแบบเดียวกัน เราทั้งคู่ได้ทำพิธีสวมแหวนกันในช่วงเช้าเป็นที่เรียบร้อย และตอนนี้ฉันก็กำลังแต่งตัวสำหรับพิธีกินเลี้ยงในช่วงค่ำนี้" ไงแกตื่นเต้นไหมยัยเคส เจ้าบ่าวแกนี่หล่อมากหน้ากินสุดๆ "" จริงแกต้องทำบุญกี่ชาติค่ะเนี้ย ถึงจะได้ผู้หล่อขนาดนี้งานดีเวอร์ "" อิจฉาแกจัง เนอะๆ "เสียงเพื่อนของฉันทั้ง 3 คนเอ่ยบอกในขณะที่พวกเรากำลังแต่งตัวกันอยู่ " อิจฉาฉันทำไม ฉันไม่ได้อยากจะแต่งงานกับเขาสักหน่อยเห็นหน้าตาดีแบบนี้แต่นิสัยแย่มาก เขาไม่ได้อยากจะแต่งงานกับฉันสักหน่อย ดูจากสภาพแล้วก็คงไม่รักใครจริงๆ ผู้ชายเจ้าชู้ เสเพลไปวันๆ "พูดจบก็มีพี่เจ้าหน้าที่เดินมาตามฉัน ทางครอบครัวได้จ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและควบคุมทุกอย่างในงาน เพื่อความสะดวกสบายของแขกที่มาร่วมงานและตัวฉันเอง ฉันจึงแยกย้ายกับเพื่อน เพื่อที่จะได้ออกไปรับแขก " คุณเคสคะได้เวลาแล้วค่ะ""
หลังจากงานเลี้ยงเสร็จสิ้นตอนนี้ผมก็อยู่ในห้องหอกับยัยนั่นแน่นอนว่าผมได้สังสรรค์กับเพื่อนๆพอเป็นพิธี ผมเป็นพวกที่กินเหล้าทุกวันอยู่แล้วของแค่นี้ไม่ทำให้ผมเมาได้ และที่สำคัญคืนนี้ผมมีหน้าที่จะต้องทำ คงไม่ต้องให้พูดถึงว่าวันเข้าหอเจ้าบ่าวเจ้าสาวเขาทำอะไรกันและเป็นที่แน่นอนว่าวันนี้ยัยนั่นไม่รอดผมแน่ ภายในห้องนอนหรู ตอนนี้มีแต่ความเงียบสงัด ทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวไม่มีการพูดคุยใดๆออกมามีแต่เสียงเครื่องปรับอากาศที่ค่อนข้างจะเย็นยะเยือก เคส ภัทรรินทร์ในชุดเจ้าสาวสีแดงนั่งอยู่ข้างๆเตียงในใจกะวนกะวานไม่รู้จะต้องทำอย่างไรดีเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้อยู่กับผู้ชายในห้องสองต่อสองจึงทำให้เธอรู้สึกเกร็งๆอยู่ไม่น้อย ไม่นานเสียงของชายร่างสูงก็เอ่ยขึ้นตัดบทความเงียบสงัดที่อยู่ภายในห้อง ขอนั่งจ้องหน้าเธอมาได้สักพักนึงแล้วแต่เนื่องจากไม่มีการพูดอะไรออกมาจากหญิงสาวเขาจึงเริ่มเปิดประเด็นพูดขึ้นก่อน " นี่เธอ จะเงียบอีกนานไหม ตกลงเธอจะอาบน้ำก่อนหรือให้ฉันอาบก่อน หรือเราจะอาบพร้อมกันดี "ผมถามว่าที่ภรรยาของผมออกไปอยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะตอบว่าอย่างไรอันที่จริงภาพในหัวที่ผมคิดไว้ก็คือหลังจากที่เข้ามาใ
ตอนนี้ร่างกายผมมันสูบฉีดจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ส่วนหนึ่งและอีกส่วนหนึ่งก็มาจากผู้หญิงใต้ล่างของผม เธอช่างสวยเหลือเกินเมื่อยามที่ไม่มีเครื่องสำอางแต่งแต้มบนใบหน้า แกนกายใหญ่ของผมปวดหนึบต้องการที่จะปลดปล่อย ผมไม่รอช้าปลดผ้าคลุมอาบน้ำของเธอออกเผยให้เห็นชุดนอนผ้าพริ้วสายเดี่ยวสีดำนี่คงจะเป็นชุดที่แม่ๆทั้งสองได้เตรียมไว้ให้เธอ เพราะผมเห็นอยู่ในตู้มีเพียงแค่ชุดเดียวที่อยู่ในห้องหอ เนื่องจากเธอไม่มีเสื้อผ้าอื่น เพราะเธอยังไม่ได้ขนเข้ามาไว้ในห้องผมจึงทำให้มีชุดนอนสีดำผ้าพริ้วนี้แค่ชุดเดียวที่เธอสามารถจะใส่ได้ในคืนนี้" คะ...คุณ.....จ....จะ..ทำ..อะไรค่ะ "" สามี ภรรยา เข้าหอคืนแรกเขาทำอะไรกันละ"" อย่าค่ะ ฉะ...ฉันยังไม่พร้อม "" ไม่ทันแล้วเคส ตอนนี้ฉันโครตเxี่ยนเลยวะ เธออย่ามาทำเป็นเหมือนคนไม่เคย ลึกๆแล้วเธอก็อยากโดนฉันกระแทกเหมือนกัน"พูดจบผมก็บีบที่หน้าอกของเธอมันใหญ่มากใหญ่กว่ามือผมอีก หน้าอกตูมๆ ขาวๆ โคตรน่าฟัดเลยผมใช้ลิ้นเลียที่ยอดถันจนเม็ดบัวขึ้นเป็นไต เธอทั้งหอมทั้งหวาน จนผมอดใจไม่ไหวเผลอใช้ฟันขบเข้าที่ยอดอกเบาๆ สร้างความหื่นกระหายให้ผมอีกเท่าตัว นี่ขนาดว่าเธอผ่านผู้ชายมาไม่รู้เท่าไหร่แต
หลังจากจบกิจกรรมเร่าร้อนบนเตียงหญิงสาวก็นอนตัวงอเนื่องจากเธอทั้งจุกและเจ็บไปหมดไม่อยากจะคิดเลยว่าสภาพเธอในตอนนี้จะน่าสมเพชแค่ไหนถึงแม้เธอจะมีใบทะเบียนสมรสเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแต่เพราะเขาไม่ได้รักเธอและเมื่อยิ่งรู้ว่าภายในระยะเวลา 3 เดือนเธอและเขาก็ต้องหย่ากันมันจึงยิ่งทำให้เธอรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เธอเหมือนผู้หญิงไร้ค่าคนนึงที่รอวันที่สามีจะหย่าเมื่อไหร่ก็ได้ ยิ่งคิดน้ำตาก็ยิ่งไหล " จะร้องไห้ทำไมวะ ก็แค่โดนผัวเx็ด ไม่ตายหรอก"" ฮึก อึก"" อ๊ะ คะ คุณ จะทำอะไรค่ะ "" เอาเธอไง "" แต่เมื่อกี้คุณก็เพิ่งทำไป "" ก็ฉันยังไม่อิ่ม "" ตะ แต่ "" มีอีกเรื่องที่เธอควรรู้ ผัวเธอกินดุ และก็กินจุมากด้วย "พูดจบชายหนุ่มไม่รอช้าจับร่างหญิงสาวพลิกคว่ำก่อนจะยกสะโพกของเธอให้อยู่ในท่าคานเข่า เขาจับแกนกายที่ตอนนี้เริ่มขยายใหญ่ขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับชักรูดอยู่ สอง สาม ที ก่อนจะกดแทรกเข้าไปในกรีบกุหลาบสีแดงเนื่องจากพึ่งผ่านมรสุมมาเมื่อครู่ สวบปัก ปัก ปัก ปัก ปัก " อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ" " เบาหน่อย...มะ มันจุก"" ซี๊ด ท่านี้โครตลึกเลยวะ "เขากระแทกกระทั้นด้วยความหนักหน่วง
รุ่งเช้า เปลือกตาคู่สวยค่อยๆเปิดลงเมื่อมีแสงแดดสาดส่องเข้ามาภายนอกหน้าต่าง เมื่อเริ่มปรับโฟกัสได้ดี สายตาเธอเหลือบไปเห็นบริเวรภายในห้อง เสื้อผ้ากระจัดกระจายไปทั่ว ร่างชายหนุ่มที่เป็นสามีของเธอทั้งนิตินัยและพฤตินัยนอนเปลือยเปล่าอยู่บนที่นอน มีเพียงผ้าห่มปิดคลุมส่วนนั้นของเขาอย่างหมิ่นเหม่ ในสมองของเธอสั่งการให้ลุกออกมาจากตรงนี้ คิดได้ดั่งนั้นหญิงสาวจึงลุกจากเตียงนอนหวังจะเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายอันเต็มไปด้วยคราบสิ่งสกปรกที่ชายหนุ่มทิ้งไว้เมื่อคืน แค่เพียงสองเท้าแตะลงบนพื้นความเจ็บปวดก็แล่นเข้ามาตรงบริเวณน้องสาวของเธอ เมื่อคืนเขาทำรุนแรงมาก หนำซ้ำยังทำกับเธออีกตั้งหลายรอบ จึงทำให้เช้านี้เธอค่อนข้างที่จะหมดแรงแทบจะเดินไม่ไหว แต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวต้องกัดฟันทนพยุงร่างอันบอบช้ำเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายให้เสร็จเรียบร้อยก่อนที่ชายหนุ่มร่างสูงจะตื่นขึ้นมา หญิงสาวเดินลงมาจากชั้นบนด้วยสภาพที่ไม่สู้ดีนักเธอตั้งใจจะมาทำอาหารเช้าให้กลับสามีป้ายแดงซึ่งมันเป็นหน้าที่ของภรรยาที่ควรจะทำในทุกๆเช้าก่อนที่สามีจะตื่น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เต็มใจที่จะแต่งงานกับเขาตั้งแต่แรกแต่แม่ขอ
# เคสฉันมาที่บ้านเพื่อมาเก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวสำหรับการย้ายเข้าไปอยู่บ้านหลังใหม่ โชคดีที่ไม่มีใครอยู่บ้านพ่อแม่ของฉันหน้าจะออกไปที่ร้านหรือไม่ก็บริษัท ถือว่าเป็นความโชคดีเพราะฉันยังไม่อยากตอบคำถามพวกท่านทั้งสองเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวก็ไม่มีอะไรมากใช้รถของฉันแค่คันเดียวก็ขนหมด ส่วนที่เหลือเพิ่มเติมค่อยไปหาซื้อเอาใหม่ คิดแล้วก็ใจหายบ้านที่ฉันเคยอยู่ตั้งแต่เล็กจนโต แต่ตอนนี้ฉันต้องย้ายออกไปอยู่ที่อื่นไปอยู่กับคนที่เขาใจร้าย แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะฉันเดินมาตั้งขนาดนี้แล้วจะถอยไม่ได้เป็นไงเป็นกันคิดได้ดังนั้นหญิงสาวก็ขับรถออกไปจากบ้านระหว่างทางอยู่ๆรถของเธอก็ดันยางแตกท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุและไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่าน ให้ตายเถอะ ยัยเคสเอ้ย นี่แก่จะซวยอะไรขนาดนี้เนี้ย แล้วทีนี้จะทำยังไง ขับมาตั้งไกลแล้วด้วยหญิงสาวบ่นกับตัวเองเบาๆ ระหว่างที่เธอกำลังจะกดโทรศัพท์โทรหาช่างให่มาซ่อมรถให้ ก็มีรถสปอร์ตคันหรูขับเข้ามาจอดบริเวณไกล้ๆกับที่เธอยืนอยู่ ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหล่า ใส่ชุดสูท ดูภูมิฐาน บ่งบอกว่าเป็นคนมีเงิน กำลังเดินตรงมายังที่เธอยืนอยู่หญิงสาวแอบกลัวนิ
บ้านใหม่17:00 น.ฉันกลับมาถึงบ้านเป็นเวลากว่าห้าโมงเย็น วันนี้ทั้งวันฉันยุ่งอยู่กับการขนของเข้ามาในบ้านหลังใหม่ ไหนจะเสียเวลาไปกับการซ่อมรถอีก เฮ้อในแต่ละวันมันช่างผ่านไปไวจริงๆตอนนี้ฉันยืนอยู่ภายในบ้านที่ค่อนข้างจะเงียบเหงา ก็นะเขาคงยังไม่กลับมาตอนนี้หรอกเผลอๆอาจจะไม่กลับมาเลยตลอดทั้งคืนก็ได้ ฉันภาวนาขอให้เป็นแบบนั้นอะนะ เพราะตอนนี้ฉันยังไม่อยากเจอหน้าเขาเลยสักนิด ระหว่างนั้นก็มีสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของเธอ นั่นก็คือแม่ของเธอเอง ครืด ครืด ครืด แม่เคส : ค่ะแม่แม่ : วันนี้ลูกไปขนของที่บ้าน แล้วทำไมไม่อยู่รอแม่กับพ่อล่ะลูก เคส : พอดีว่าเคสตั้งใจจะรีบไปรีบกลับนะคะ จะได้มาจัดของภายในบ้านให้เข้าที่เข้าทางด้วย แม่ : อ๋อหรอจ๊ะ พอดีว่าแม่จะให้ป้าบัวกับก้อยไปอยู่เป็นเพื่อนลูก คอยช่วยเหลืองานบ้านงานครัว เพราะลูกต้องทำงานที่บริษัทด้วยแม่เกรงว่าลูกจะเหนื่อย เคส : ขอบคุณค่ะแม่ แล้วป้าบัวกับพี่ก้อยจะมาเมื่อไหร่คะ แม่ : ก็คงจะเป็นพรุ่งนี้นะจ๊ะ แล้วนี่ลูกทำอะไรอยู่ สามีลูกไปไหนละเคส : เคสพึ่งมาถึงบ้านค่ะ กำลังจะจัดของเข้าที่เข้าทางอยู่ ส่วนคุณเซอร์เวย์เข้าบริษัทของเขาค่ะแม่ : ดีแล้วละจ้ะ
# เซอร์เวย์หลังจากที่ผมคุยกับยัยนั่นเรียบร้อย และกำลังจะเดินออก สายตาผมเหลือบไปเห็นเธอที่นั่งก้มหน้าเหมือนคนกำลังร้องไห้ นี่เธอร้องไห้หรอเธอจะร้องทำไมกันหรือไม่ใช่ว่าเธอตกหลุมรักผมเข้าแล้ว ผมไม่ได้สนใจอะไร แค่เธอตอบตกลงจะช่วยผมแค่นี้ก็พอแล้ว เอาเข้าจริงยัยนั่นก็เป็นคนเข้าใจอะไรง่ายดี พูดง่ายๆแบบนี้สิผมชอบ จะได้ไม่ต้องใช้กำลังบังคับให้เสียเวลา ผมขับรถมาจอดหน้าผับ K ผับที่ผมกับเพื่อนเป็นเจ้าของ วันนี้บอกตามตรงว่าผมค่อนข้างจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ และดูเหมือนว่าผมต้องการที่จะปลดปล่อย ไม่รอช้าครับผมรีบสาวเท้าเดินไปยังห้อง VIP ที่มีบรรดาเพื่อนๆผมนั่งดื่มกันอยู่ " ไง ไอ้เวย์ ทำไมมึงมาได้ พึ่งจะแต่งงานไป ไม่คิดจะอยู่นอนกอดเมียเหรอวะ "" เออนั่นดิ เป็นกูนะจะนอนกก นอนกอด ทั้งวันทั้งคืนเมียมึงออกจะสวย น่าฟัดชิปผาย "" ทำไมกูต้องทำแบบนั้นด้วยวะ ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษ"เสียงไอ้คิมเอ่ยถามผม ก็แล้วทำไมผมต้องทำแบบนั้นด้วย ยอมรับว่าเธอก็สวย ขาว สเปคผมอยู่ไม่น้อยแต่แล้วยังไง ปกติผมก็เป็นพวกที่เช็ดแล้วก็ทิ้ง " พูดแบบนี้หมายความว่ามึงแดกแล้ว "" เออ ก็งั้นๆ "" เxี้ย โครตไว มึงนี่แม่ง กูยอมเลยวะ "" เออแล
หลังจากที่เคสไล่ผมออกมาจากห้องผมก็เดินลงมาชั้นล่าง เพื่อที่จะมาหายาทาเนื่องจากตอนนี้ตามแขนของผมมีแต่รอยพุพองจากการโดนน้ำมันกระเด็นใส่เมื่อตอนช่วงเย็น บอกตามตรงเลยว่ามันแสบมากแสบมากจริงๆ ผมก็เพิ่งรู้นะว่า การเป็นแม่บ้านแม่เรือนมันช่างเหนื่อยแสนเหนื่อยซะเหลือเกิน ไหนจะต้องซักผ้า ล้างจานล้างห้องน้ำ กวาดบ้าน ถูบ้าน ทำกับข้าวอีกสารพัด โชคดีที่ผมเกิดมามีฐานะค่อนข้างรวยจึงทำให้ไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ เพราะมีแม่บ้านคอยทำให้ตลอด ไม่อยากจะคิดเลยว่าครอบครัวที่เขามีฐานะไม่ค่อยจะดี พวกเขาต้องทำกันเองล่ะ มันจะเหนื่อยมากแค่ไหนพูดแล้วผมก็นึกไปถึงตอนที่ผมแต่งงานอยู่กับเคสใหม่ๆ ช่วงนั้นป้าบัวกับพี่ก้อยยังไม่ได้เข้ามาอยู่ เธอต้องทำงานบ้านคนเดียวทุกอย่าง ไหนจะต้องออกไปทำงานที่บริษัทของเธออีก แล้วยังต้องมาคอยรับมือกับผู้ชายปากร้ายอย่างผม เฮ้อๆๆเธอคงจะเหนื่อยน่าดูเลยหลังจากที่ผมทายาเสร็จ ผมก็ได้ไปอาบน้ำเพื่อที่จะเข้านอน ผมเลือกห้องนอนที่อยู่ข้างล่างไม่ได้ขึ้นไปนอนห้องชั้นบน เนื่องจากว่าไม่อยากให้เคสต้องมาหงุดหงิดใจ ถึงแม้ว่าห้องข้างบนจะอยู่ติดกันแต่ก็นั่นแห
หลังจากที่พวกมันกลับไปผมก็จัดการเก็บข้าวของที่พวกมันซื้อมาให้เข้าที่เข้าทาง และตอนนี้ผมก็กำลังจะย่องเข้าไปหาเมีย โดยที่ตัวประกันนั้นก็คือพวกเสื้อผ้าที่เพิ่งซักเสร็จตอนนี้ผมกำลังยืนมองแม่ของลูกนอนหลับอย่างสบายใจ เมียผมเวลานอนหลับโคตรจะน่ารักเลย ผมจัดการเดินอ้อมไปข้างๆเตียง ยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ๆ และทำการจุ๊บไปที่ริมฝีปากของเธอเบาๆ กลิ่นกายหอมๆมันช่างยั่วยวนผมดีซะเหลือเกิน ให้ตายเถอะผมโคตรคิดถึงเธอเลย ในใจอยากจะกระโดดเข้าไปกอด หอม ฟัด ให้หายคิดถึง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่านี้เอาล่ะได้แค่นี้ผมก็โคตรดีใจแล้ว ผมจัดการสาวเท้าลงมาจากบันได เพราะตอนนี้ก็เป็นเวลาเย็นมากๆแล้ว ผมต้องจัดการทำอาหารให้เคสกินก่อนที่เธอจะตื่น ป่านนี้ลูกของผมคงจะหิวแย่แล้วล่ะผมลงมือทำอาหารโดยเปิดวิธีการทำจากอินเตอร์เน็ตเมนูวันนี้ก็จะเป็นแกงจืดเต้าหู้หมูสับผัดบล็อกโคลี่และก็ปลาทอด ซึ่งเมนูพวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารบำรุงครรภ์ทั้งสิ้น ผมจัดการต้มจืดก่อนเลยอย่างแรกและตามด้วยผัดบล็อคโคลี่ซึ่งสองอย่างนี้ มันก็ไม่ได้ยากอะไรเพราะผมเคยต้มมาม่า
ผมรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่อยู่ๆเคสก็ยอมให้ผมอยู่กับเธอง่ายๆแบบนี้ แต่ก็นั่นแหละถือว่าเป็นความโชคดีของผม ไม่แน่เคสอาจจะใจอ่อนให้ผมแล้วก็ได้" ไหนๆคุณก็จะอยู่ที่นี่แล้ว กรุณาช่วยทำงานบ้านด้วย "" แน่นอน ฉันบอกจะอยู่ดูแลเธอ นั่นหมายความว่าทุกๆอย่างฉันจะเป็นคนทำเอง "" ก็ดี เริ่มจาก กวาดบ้าน ถูบ้าน ดูดฝุ่น ล้างห้องน้ำ ล้างจาน ซักผ้า แค่นี้ก่อนฉันยังนึกไม่ออก ถ้านึกออกเมื่อไหร่แล้วจะบอก ""...."" ทำไม ทำไม่ได้หรอ ถ้าทำไม่ได้ก็กลับไป "" ทำได้ครับ ทำได้ จะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ "ผมว่าแล้วเชียวว่าทำไมถึงให้ผมอยู่ง่ายจัง ที่ไหนได้จะหลอกใช้ผมนี่เอง แต่ก็ไม่เป็นไรครับผมยินดีและเต็มใจให้หรอก ขนาดโง่กับคนอื่นยังโง่มาแล้วเลย นี่กับเมียสบายมาก เป็นขี้ข้ารองมือรองเท้าเมียก็ยอมว่าแล้วผมก็จัดการกวาดบ้าน ถูบ้านก่อนเลยอย่างแรกเกิดมาทั้งชีวิตยังไม่เคยมาทำอะไรแบบนี้เลย แต่ก็นั่นแหละครับ คำสั่งเมียถือเ
3 วันผ่านไปโรงพยาบาลตอนนี้ผมกำลังเตรียมตัวที่จะกลับรีสอร์ท เพราะอาการดีขึ้นมากแล้ว หลังจากที่ผมพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นระยะเวลา 3 วัน และตลอด 3 วันมานี้เคสไม่เคยมาหาผมเลย ก็อย่างที่บอกเธอก็คงไม่ได้สนใจอะไรผม ต่อให้ผมตายเธอก็ไม่สนใจอยู่ดี" ไหวไหมมึง "" เออกูดีขึ้นมากแล้ว "" ไปกลับ "" พากูไปหาเคสหน่อย "" มึงพึ่งจะหายไข้ กูว่ามึงกลับไปพักผ่อนก่อนดีกว่าไหมวะ "" ไม่กูคิดถึงเคส กูอยากเจอหน้าเคส แค่แปปเดียวก็ยังดี "ผมพูดจริงๆครับตลอดระยะเวลา 3 วันที่ผ่านมาเคสไม่ได้มาหาผมเลย ผมคิดถึงเธอ อยากกอด อยากหอม อยากคุยกับเธอและก็ลูก ขอแค่ได้เห็นหน้าก็ยังดี" มึงนี่นะ "บ้านพักตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่หน้าบ้านพักของเคส และดูเหมือนว่าจะไม่มีใครอยู่เลย เพราะบ้านมันช่างเงียบสะเหลือเกิน ผ
หลังจากที่ชายหนุ่มโดนหญิงสาวไล่ออกมา เขาจึงต้องหยุดยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านพักและดูเหมือนว่าฟ้าก็ช่างเป็นใจดีซะเหลือเกินเพราะตอนนี้ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก นั่นจึงทำให้ชายหนุ่มเปียกซกไปทั้งตัว ตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรไปจากหมาตัวนึงหญิงสาวเห็นอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้มีท่าทีสนใจเพราะเธอคิดว่าไม่ได้ใช้ให้เขามาตั้งแต่แรก คิดดูเถอะขนาดฟ้าฝนยังเป็นใจ ท่านยังลงโทษคนนิสัยไม่ดีอย่างเขาเลย นับประสาอะไรกับที่เธอทำแค่นี้มันยังน้อยไป" เคสเปิดประตูให้ฉันเถอะนะ ฉันหนาว ""......"" เธอไม่สงสารฉันหรอ ฉันเปียกฝนขนาดนี้อาจจะไม่สบายได้เลยนะ "" นั่นมันก็เรื่องของคุณ เปียกฝนจนหนาวตาย ไปได้เลยยิ่งดี "หญิงสาวพูดจบก็ได้ทำการสาวเท้าขึ้นไปบนห้องทันทีเพราะตอนนี้เธอได้รับประทานอาหารเช้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่อาหารที่เธอรับประทานนั้นไม่ใช่ของชายหนุ่มที่ซื้อมา เธอเข้าครัวที่จะทำอาหารของเธอกินเอง โดยไม่ได้แตะต้องอาหารของเขาเลยแม้แต่น้อย ส่วนชายหนุ่มนั้นเธอก็ไม่ไ
เช้าวันต่อมาวันนี้ผมให้ไอ้วอร์มขับรถมาส่งที่บ้านพักของเคสแต่เช้า ผมคิดถึงเธอมาก อยากอยู่ดูแลเธออยากคุย อยากกอด อยากหอม เนื่องจากเราไม่ได้เจอกันเลยตลอดเกือบสามสัปดาห์ ไม่รู้ว่าป่านนี้เธอกำลังจะทำอะไรอยู่ ผมจัดการแวะซื้อผัก ผลไม้และของมีประโยชน์ทั้งหลายเพื่อที่จะเอาไปให้ลูกกับเมียได้ทาน วันนี้บรรยากาศอึมครึมคล้ายๆเหมือนฝนจะตก ผมจึงรีบจัดการซื้อของให้เสร็จจะได้รีบกลับไปหาแม่ของลูกในตอนที่ผมมาถึงก็เจอเข้ากับคุณเมนี่เธอกำลังจะออกไปทำงานข้างนอกพอดี ผมจึงขออนุญาตเข้าไปในบ้าน เพื่อจัดการเตรียมอาหารเช้าให้กับเคสได้ทาน และก็จะขออนุญาตอยู่พักที่นี่กับเคสจนกว่าเราทั้งคู่จะคืนดีกัน ก็ไม่รู้ว่าคุณเมนี่จะตอบตกลงหรือเปล่า เพราะผมก็ทำกับเพื่อนของเธอไว้เยอะเหมือนกัน แต่ไม่ว่ายังไงผมก็จะสู้ สู้เพื่อลูกเพื่อเมียของผม" คุณเซอร์เวย์ "" สวัสดีครับ คุณเมนี่ผมขออนุญาตเข้าไปได้ไหมคะ "" อะ เอ่อ "" ผมรู้ครับว่าที่ผ่านมาผมทำผิดต่
" คุณเคสครับ "" อ้าวคุณภูมิ แล้วยัยเมนี่ล่ะคะ "ฉันเอ่ยถามคุณภูมิออกไปเพราะเห็นว่าคุณภูมิเดินเข้ามาที่บ้านเพียงคนเดียว ตั้งแต่ฉันมาอยู่ที่นี่คุณภูมิกับยัยเมนี่ก็ดูแลฉันดีมากๆ ก็นะในเมื่อทั้งคู่ก็รู้แล้วว่าฉันกำลังท้องอยู่ ยิ่งเป็นคุณภูมิยิ่งดูแลฉันดีมากๆเลย อันที่จริงเมื่ออาทิตย์ก่อนคุณภูมิได้มาสารภาพรักกับฉัน ฉันตกใจมาก ไม่คิดว่าเขาจะรู้สึกดีกับฉันแบบนี้ แต่ก็นั่นแหละฉันไม่สามารถที่จะรักเขาแบบชู้สาวได้ ฉันคิดกับเขาแค่เพื่อนคนนึงเท่านั้น ในใจของฉันตอนนี้ไม่สามารถที่จะรักใครได้อีกแล้ว" คุณเมนี่ต้องเคลียร์งานที่รีสอร์ทนะครับ ผมก็เลยมาก่อน กลัวว่าคุณเคสจะหิว เดี๋ยวไอ้ต้าวตัวน้อยในท้องจะงอแงคุณเคสจะลำบากเอาอีก "เห็นไหมล่ะฉันบอกแล้วคุณภูมิเขาดูแลฉันดีมากๆเลย เป็นห่วงเป็นใยลูกในท้องของฉันตลอด" ขอบคุณนะคะ แต่ช่วงนี้เคสไม่ค่อยแพ้ท้องเท่าไหร่แล้วค่ะ แต่ก็ยังคงมีอาการบ้าง ไม่ถึงกับหายไปเลย ว่าแต่วันนี้ซื้ออะไรมาเยอะแยะเลยคะเนี่ย มีแต่ของหน้าทานทั้งนั้นเลยค่ะ "&n
ดูเสียงเรียกเข้าของไอ้วอร์มมันดิครับ แม่งโคตรซ้ำเติมความรู้สึกของผมในตอนนี้เลย เสียงนั่นมันบ่งบอกว่ามันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด เพราะตอนมีเธออยู่ผมไม่คิดที่จะรักษา มาเห็นค่าตอนนี้มันก็สายไปแล้ว เธอไม่อยู่อีกต่อไป เธอหอบลูกหนีผมไปแล้ว" แล้วมึงจะเอายังไงต่อ "" กูจะไปตามหาลูกเมียกู "" แต่มึงหย่าแล้วนะ "" ยัง กูยังไม่ได้เซ็นมีแต่เคสคนเดียวที่เซ็น อีกอย่างกูก็ยังไม่ได้เอาไปทำให้มันถูกต้องตามกฎหมาย เพราะฉะนั้นกูกับเคสก็ยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ "" แต่มึงลืมอะไรไปหรือเปล่า "" อะไร "" มึงจำที่คุณเคสพูดไม่ได้หรอ "งั้นเราก็หย่ากันเถอะค่ะ ฉันคืนอิสระให้คุณ คุณจะได้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมเหมือนที่คุณต้องการ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปคุณกับฉันเราไม่เคยรู้จักกัน เราจะเหมือนคนแปลกหน้าคนนึงไม่ต้องมาเจอะเจอกันอีก แต่ถ้าบังเอิญเจอก็ไม่ต้องทัก เอาแหวนของคุณคืนไป แล้วก็ไม่ต้องฟ้องหย่าให้เสียเวลานะค่ะ เดี๋
" ทำไมเชอรี่ถึงเป็นคนแบบนี้ไปได้วะ "ผมพูดออกไปจริงๆนะ เมื่อก่อนเธอไม่ใช่คนแบบนี้" หึ บางทีเธออาจจะเป็นคนที่นิสัยแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้วด้วยซ้ำมึงแค่ไม่รู้ "" มึงหมายความว่าไง "ไอ้พวกนี้ชอบพูดกำกวมให้ผมอยากรู้อยู่ตลอดเวลา เรื่องเมื่อกี้ก็ทีนึงแล้ว ตกลงมันจะบอกผมได้เมื่อไหร่วะ" มึงพร้อมฟังยัง "" อืม "ผมตอบกับไปก่อนจะทำการพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าพร้อมแล้ว ก่อนที่มันจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดคลิปเสียงอะไรบางอย่างให้ผมฟังวันที่กูบอกว่ากูท้องเสีย กูก็เลยกลับมาที่บ้านแต่พอกูเปิดประตูเข้ามากูก็เห็นรองเท้าผู้ชายถอดวางอยู่บนชั้น ตอนแรกกูก็คิดว่าเป็นไอ้เวย์ แต่กูมาคิดได้ว่าเมื่อกี้มันก็อยู่ที่มหาลัย กูก็เลยค่อยๆเดินไปหยุดยืนอยู่หน้าห้องมัน แต่ประตูมันไม่ได้ปิด กูก็เลยเห็นเชอรี่กำลังมีอะไรกับพ่อเลี้ยงของเธออยู่ พ่อที่เป็นผัวแม่ พอกูหันหลังจะเดินหนีมันก็ไม่ทันแล้ว พวกแม่งหันมาเห็นกูสะก่