" เป็นไงบ้างคุณไอ้เจ้าลูกชายตัวดีของคุณ
มันอยู่ที่ไหนแล้ว "
" กำลังมาค่ะ ติดธุระนิดหน่อยก็เลยมาช้า ต้องขอโทษคุณประสิทธิ์กับเธอด้วยนะพิมล "
" ไม่เป็นไรหรอกจ้า ฉันกับคุณประสิทธิ์ไม่ว่าอะไรหรอกฉันเข้าใจ "
ทั้งสองครอบครัวก็คุยกันไปด้วยเปื่อยจนเวลาล่วงเลยผ่านมาจนครบ 20 นาที ก็ปรากฏชายหนุ่มร่างสูงผิวขาว ทรงผมจับเซตดูดีในที่ติ จัดว่าเป็นคนที่หล่อเหลาเอาการเลยทีเดียว สาวๆที่อยู่ในละแวกนั้นต้องหันมามองเป็นตาเดียวกัน
" นั่นไงตาเซอร์เวย์มาแล้ว เซอร์เวย์ลูกมานี่ แม่จะแนะนำให้รู้จัก นี่คุณน้าพิมล คุณอาประสิทธิ์แล้วนี่ก็หนูเคสว่าที่ภรรยาในอนาคตของลูกจ้ะ"
" สวัสดีครับคุณน้าพิมล คุณอาประสิทธิ์ "
เสียงผมเอ่ยบอกคุณน้าทั้งสองก่อนที่จะหันไปมองหน้าผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อเคส OK ครับในรูปที่บอกว่าสวย ตัวจริงก็คือสวยแหละ อาจจะเป็นเพราะไปศัลยกรรมมาหรือไม่ก็แต่งหน้าจัดจนเกินไป สวยแต่รูปจูบไม่หอม ก็คงจะเหมือนกับพวกสาวๆที่ผมควงนั่นแหละครับ ผมไม่ได้สนใจอะไรไม่ได้มีอะไรพิเศษ
" สวัสดีจ้าเซอร์เวย์ มาๆนั่งลงกันก่อนจ๊ะทานข้าวกันดีกว่าทานไปคุยไปเนาะ จะได้ไม่เสียเวลา"
ผมนั่งลงทานข้าวไปอย่างเงียบๆสายตาก็ชำเรืองมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นเธอก็มองผมอยู่แต่พอเห็นผมมองเธอก็หลบสายตาคงจะมองผมอยู่นานแล้วสิท่า ก็ทำไงได้ผมมันหล่อไม่แปลกหรอกที่สาวๆจะกรี๊ดกร๊าดเธอก็คงเป็นหนึ่งในนั้น หึหึ เห็นผู้ชายหล่อหน่อยไม่ได้สงสัยน้ำลายจะหก คงอยากจะมาเป็นเจ้าสาวของผมจนตัวสั่นแล้วสิท่า
ทั้งสองครอบครัวก็นั่งรับประทานอาหารกันไปคุยเรื่อยเปื่อยจนกระทั่ง...
" แล้วนี่ตกลงได้ฤกษ์มาแล้วใช่ไหม"
เสียงพ่อของผมเอ่ยถามหลังจากที่นั่งรับประทานอาหารกันมาได้สักพัก
" ได้มาแล้วค่ะคุณปกรณ์ฉันกับญาดาไปดูฤกษ์กันมาแล้วเลิกแต่งดีที่สุดก็คือสิ้นเดือนหน้า"
" แล้วเราจะเตรียมงานกันทันเหรอ นี่ก็เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วนะ "
นั่นน่ะสิครับในความคิดผมคือมันเร็วมากเลยออกจะเร็วเกินไปด้วยซ้ำสำหรับผม แต่ก็อย่างว่าผมไม่ได้เสียหายอะไร ก็แค่มีผู้หญิงนอนร่วมเตียงด้วยให้เอาฟรีๆแค่นั้น ดูท่าแล้วเธอก็ไม่ได้ตกใจอะไร คงอยากมีผัวจนตัวสั่นล่ะสิท่าถึงได้รีบแต่งงานขนาดนี้ หรือบางทีเธอก็อาจจะท้องแล้วมายัดเยียดให้ผมเป็นพ่อของลูกในท้องเธอ ผู้หญิงคนนี้มันร้ายจริงๆ
" ทันอยู่แล้วค่ะคุณ ฉันกับพิมลจัดการได้ค่ะไม่ต้องห่วง จะห่วงก็แต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวนี่แหละค่ะยังไม่ได้ไปลองชุดกันเลย "
" จริงด้วยสิต้องรีบไปตัดชุดแล้วเดี๋ยวจะไม่ทันการ"
" พรุ่งนี้เซอร์เวย์พาน้องไปลองชุดหน่อยนะลูก เดี๋ยวแม่โทรจองที่ร้านไว้ให้คนจะได้ไม่เยอะ เราไม่ติดธุระอะไรใช่ไหม "
" ไม่เป็นไรค่ะคุณป้าเดี๋ยวเคสไปเองได้ค่ะ ต่างคนต่างไปลองก็ได้ค่ะ จะได้ไม่รบกวนเปล่าๆ "
อยู่ๆยัยนั้นก็พูดขึ้นมากับแม่ผม หึหึ คำพูดคำจาดูเหมือนว่าไม่อยากไปกับผมแต่จริงๆแล้วก็อยากไปน่ะสิท่า คิดว่าผมจะดูไม่ออกหรือไง ไม่เนียนเลยจริงๆ คิดว่าผมจะรู้ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของเธอแต่เสียใจด้วยนะผมดูออก
" ไม่ได้หรอกจ๊ะหนูเคส รบกวนอะไรกันล่ะ เดี๋ยวอีกหน่อยเราก็จะเป็นสามีภรรยากันแล้วไม่ต้องเกรงใจหรอกจ้ะ พี่เขาเต็มใจพาเราไปอยู่แล้วแหละ ให้พี่เขาพาไปนั่นแหละดีแล้วลูก เราจะได้ทำความรู้จักกันให้มากขึ้นด้วย"
" แต่แม่คับพรุ่งนี้ผมมีธุระ"
" ธุระอะไรมันจะสำคัญกว่าการพาว่าที่ภรรยาไปลองชุดหืม นี่มันงานแต่งของลูกนะ "
" เออไม่เป็นไรหรอกจ้ะญาดาถ้าตาเซอร์เวย์ไม่ว่างเดี๋ยวให้ยัยเคสไปเองก็ได้ "
" ไม่ได้หรอกพิมลยังไงเสียตาเซอร์เวย์ก็ต้องพาหนูเคสไปลองชุด ใช่ไหมลูก "
เสียงแม่ของผมเอ่ยแกรมบังคับ พร้อมกับส่งสายตาพิฆาต ให้ผมต้องไปเท่านั้นห้ามปฏิเสธ ถามผมสักคำไหมว่าอยากไปหรือเปล่า สุดท้ายผมเลือกอะไรได้ล่ะครับก็ต้องไปอยู่ดี เดี๋ยวค่อยไปจัดการกับนายนั่นทีหลัง หน้าหงุดหงิดชะมัด
" คับ "
และทั้งสองครอบครัวก็นั่งรับประทานอาหารกันไปจนเวลาล่วงเลยไปสักพัก ทั้งสองครอบครัวจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน ก่อนกลับปกรณ์เอื้อยกระซิบกับลูกชายด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
" เข้าไปที่บ้านฉันมีเรื่องจะคุยกับแก"
พูดจบปกรณ์ก็จูงมือภรรยาขับรถออกไปมุ่งสู่บ้านของตน เซอร์เวย์จึงทำได้แค่ฟังคำสั่งจากผู้เป็นพ่อและก็ขึ้นรถขับตามผู้เป็นพ่อไปยังบ้านของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดูจากน้ำเสียงและท่าทีพ่อของเขาก็คงจะโกรธอยู่ไม่น้อยแต่แล้วไงล่ะใครสนกัน ชายหนุ่มนึกในใจ
บ้านเซอร์เวย์
" ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยได้ไหม แกรู้ไหมว่าฉันอายแค่ไหนตั้งแต่ที่แกมาช้า แถมยังทำหน้าตาปฏิบัติต่อหนูเคสไม่ดี แกช่วยรักษาหน้าฉันกับแม่แกหน่อยได้ไหม "
เสียงของปกรณ์เอ่ยบอกลูกชายคนเดียวหลังจากที่กลับมาจากร้านอาหาร เขาหงุดหงิดลูกชายเขาตั้งแต่ตอนที่มาช้า แถมยังปฏิเสธที่จะพาว่าที่ภรรยาไปลองชุดแต่งงานอีกมันน่าโมโหจริงๆ
" แล้วพ่อจะให้ผมทำหน้ายังไงผมก็เป็นของผมแบบนี้ จริงๆยันนั่นก็บอกอยู่ว่า ไปเองได้แล้วพ่อกับแม่จะมาบังคับผมทำไมกะอีแค่ไปลองชุดแต่งงาน "
" มันเป็นหน้าที่ของแกที่ควรจะพาว่าที่ภรรยาไปลองชุดอยู่แล้วแกไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ "
" เฮ้อๆๆ.... แค่นี้ใช่ไหมที่จะพูด งั้นผมไปละ จริงๆแล้วคุยตรงนั้นก็ได้ไม่เห็นจำเป็นต้องลากมาที่บ้านเลยเสียเวลา"
" เดี๋ยวแกจะไปไหนกลับมาคุยกันให้รู้เรื่อง ไอ้ลูกเวรกลับมาเดี๋ยวนี้ กลับมา"
เซอร์เวย์พูดจบก็เดินถอยหลังขับรถออกไปทันทีทิ้งไว้ให้พ่อของตัวเองยืนโกรธจนหน้าดำหน้าแดง อยู่แบบนั้น
" เป็นยังไงล่ะ ไอ้ลูกชายตัวดีของคุณงามน่านักเถียงคำไม่ตกฟาก "
ปกรณ์โกรธจนหน้าดำหน้าแดงไม่พอยังหันไปพูดแขวะต่อหน้าภรรยาของเขาที่เจ้าลูกชายมีนิสัยไม่เชื่อฟังหัวดื้อ หัวลั้น เถียงคำไม่ตกฟาก ญาดาก็ได้แต่ถอนหายใจเพราะคิดว่าสักวันลูกชายตัวเองจะมีนิสัยที่ดีกว่านี้ได้เพราะ เคส ภัทรินทร์ ว่าที่ลูกสะใภ้ ที่จะเป็นคนเปลี่ยนชีวิตให้ลูกชาย เขาเองก็ได้แต่รอเวลาเท่านั้น
วันนี้ฉันมาลองชุดกับผู้ชายคนนั้นคนที่เป็นว่าที่เจ้าบ่าวของฉัน เขาขับรถมารับฉันที่หน้าบ้านเราสองคนขึ้นรถไปด้วยกันและภายในรถต่างฝ่ายต่าง ไม่มีใครพูดอะไรกันเลย ฉันก็ได้แต่นั่งเงียบ จนถึงร้านตัดชุดวิวาห์ บอกตรงๆว่าฉันก็อึดอัดเหมือนกันเป็นไปได้ฉันก็ไม่อยากแต่งหรอกทำหน้าไม่รับแขก คิดว่าหล่อตายแหละ ขี้เก๊ก สุดๆ" สวัสดีค่ะเชิญด้านในก่อนค่ะ ไม่ทราบว่าคุณลูกค้ามีแบบในใจหรือยังคะ"เสียงพี่พนักงานเอ่ยเชิญเราทั้งสองเข้าไปในร้านและถามว่าฉันมีแบบในใจหรือยังบอกเลยว่าไม่มีในหัวเลยค่ะเพราะชีวิตนี้ฉันไม่ได้คิดว่าจะแต่งงานด้วยซ้ำ" รีบๆเลือกจะได้กลับ เสียเวลา ฉันไม่ได้มีเวลาให้เธอตลอดทั้งวันหรอกนะรู้ไว้ซะด้วย "เสียงว่าที่เจ้าบ่าวของฉันเอ่ยกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน ดูเหมือนเขาจะไม่สบอารมณ์ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขาก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับฉันตั้งแต่แรก แล้วถามว่าฉันอยากแต่งงานกับเขาไหม ทำเหมือนตัวเองเสียเวลาเป็นอยู่คนเดียว ถ้าเสียเวลาเขาขนาดนั้นจะพาฉันมาทำไม จริงๆฉันมาคนเดียวก็ได้" ก็ฉันบอกแล้วไงคะว่าไม่ต้องพาฉันมา ฉันมาเองก็ได้ ฉันไม่ได้ง้อให้คุณพามาสักหน่อย"" นี่เธออย่ามาต่อปากต่อคำกับฉันให้มากรีบๆเลือก
วันนี้เป็นงานแต่งงานของฉันซึ่งเป็นวันที่ฉันควรจะดีใจครั้งหนึ่งในชีวิตได้สวมชุดเจ้าสาวซึ่งเป็นความฝันของผู้หญิงหลายๆคน แต่ไม่ใช่สำหรับฉันพิธีตอนเช้าจัดแบบเรียบง่ายเป็นวัฒนธรรมของไทยชั้นที่อยู่ในชุดไทยสีชมพูโรสโกลด์ กับเจ้าบ่าวที่อยู่ในชุดโจงกระเบนสีแบบเดียวกัน เราทั้งคู่ได้ทำพิธีสวมแหวนกันในช่วงเช้าเป็นที่เรียบร้อย และตอนนี้ฉันก็กำลังแต่งตัวสำหรับพิธีกินเลี้ยงในช่วงค่ำนี้" ไงแกตื่นเต้นไหมยัยเคส เจ้าบ่าวแกนี่หล่อมากหน้ากินสุดๆ "" จริงแกต้องทำบุญกี่ชาติค่ะเนี้ย ถึงจะได้ผู้หล่อขนาดนี้งานดีเวอร์ "" อิจฉาแกจัง เนอะๆ "เสียงเพื่อนของฉันทั้ง 3 คนเอ่ยบอกในขณะที่พวกเรากำลังแต่งตัวกันอยู่ " อิจฉาฉันทำไม ฉันไม่ได้อยากจะแต่งงานกับเขาสักหน่อยเห็นหน้าตาดีแบบนี้แต่นิสัยแย่มาก เขาไม่ได้อยากจะแต่งงานกับฉันสักหน่อย ดูจากสภาพแล้วก็คงไม่รักใครจริงๆ ผู้ชายเจ้าชู้ เสเพลไปวันๆ "พูดจบก็มีพี่เจ้าหน้าที่เดินมาตามฉัน ทางครอบครัวได้จ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและควบคุมทุกอย่างในงาน เพื่อความสะดวกสบายของแขกที่มาร่วมงานและตัวฉันเอง ฉันจึงแยกย้ายกับเพื่อน เพื่อที่จะได้ออกไปรับแขก " คุณเคสคะได้เวลาแล้วค่ะ""
หลังจากงานเลี้ยงเสร็จสิ้นตอนนี้ผมก็อยู่ในห้องหอกับยัยนั่นแน่นอนว่าผมได้สังสรรค์กับเพื่อนๆพอเป็นพิธี ผมเป็นพวกที่กินเหล้าทุกวันอยู่แล้วของแค่นี้ไม่ทำให้ผมเมาได้ และที่สำคัญคืนนี้ผมมีหน้าที่จะต้องทำ คงไม่ต้องให้พูดถึงว่าวันเข้าหอเจ้าบ่าวเจ้าสาวเขาทำอะไรกันและเป็นที่แน่นอนว่าวันนี้ยัยนั่นไม่รอดผมแน่ ภายในห้องนอนหรู ตอนนี้มีแต่ความเงียบสงัด ทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวไม่มีการพูดคุยใดๆออกมามีแต่เสียงเครื่องปรับอากาศที่ค่อนข้างจะเย็นยะเยือก เคส ภัทรรินทร์ในชุดเจ้าสาวสีแดงนั่งอยู่ข้างๆเตียงในใจกะวนกะวานไม่รู้จะต้องทำอย่างไรดีเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้อยู่กับผู้ชายในห้องสองต่อสองจึงทำให้เธอรู้สึกเกร็งๆอยู่ไม่น้อย ไม่นานเสียงของชายร่างสูงก็เอ่ยขึ้นตัดบทความเงียบสงัดที่อยู่ภายในห้อง ขอนั่งจ้องหน้าเธอมาได้สักพักนึงแล้วแต่เนื่องจากไม่มีการพูดอะไรออกมาจากหญิงสาวเขาจึงเริ่มเปิดประเด็นพูดขึ้นก่อน " นี่เธอ จะเงียบอีกนานไหม ตกลงเธอจะอาบน้ำก่อนหรือให้ฉันอาบก่อน หรือเราจะอาบพร้อมกันดี "ผมถามว่าที่ภรรยาของผมออกไปอยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะตอบว่าอย่างไรอันที่จริงภาพในหัวที่ผมคิดไว้ก็คือหลังจากที่เข้ามาใ
ตอนนี้ร่างกายผมมันสูบฉีดจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ส่วนหนึ่งและอีกส่วนหนึ่งก็มาจากผู้หญิงใต้ล่างของผม เธอช่างสวยเหลือเกินเมื่อยามที่ไม่มีเครื่องสำอางแต่งแต้มบนใบหน้า แกนกายใหญ่ของผมปวดหนึบต้องการที่จะปลดปล่อย ผมไม่รอช้าปลดผ้าคลุมอาบน้ำของเธอออกเผยให้เห็นชุดนอนผ้าพริ้วสายเดี่ยวสีดำนี่คงจะเป็นชุดที่แม่ๆทั้งสองได้เตรียมไว้ให้เธอ เพราะผมเห็นอยู่ในตู้มีเพียงแค่ชุดเดียวที่อยู่ในห้องหอ เนื่องจากเธอไม่มีเสื้อผ้าอื่น เพราะเธอยังไม่ได้ขนเข้ามาไว้ในห้องผมจึงทำให้มีชุดนอนสีดำผ้าพริ้วนี้แค่ชุดเดียวที่เธอสามารถจะใส่ได้ในคืนนี้" คะ...คุณ.....จ....จะ..ทำ..อะไรค่ะ "" สามี ภรรยา เข้าหอคืนแรกเขาทำอะไรกันละ"" อย่าค่ะ ฉะ...ฉันยังไม่พร้อม "" ไม่ทันแล้วเคส ตอนนี้ฉันโครตเxี่ยนเลยวะ เธออย่ามาทำเป็นเหมือนคนไม่เคย ลึกๆแล้วเธอก็อยากโดนฉันกระแทกเหมือนกัน"พูดจบผมก็บีบที่หน้าอกของเธอมันใหญ่มากใหญ่กว่ามือผมอีก หน้าอกตูมๆ ขาวๆ โคตรน่าฟัดเลยผมใช้ลิ้นเลียที่ยอดถันจนเม็ดบัวขึ้นเป็นไต เธอทั้งหอมทั้งหวาน จนผมอดใจไม่ไหวเผลอใช้ฟันขบเข้าที่ยอดอกเบาๆ สร้างความหื่นกระหายให้ผมอีกเท่าตัว นี่ขนาดว่าเธอผ่านผู้ชายมาไม่รู้เท่าไหร่แต
หลังจากจบกิจกรรมเร่าร้อนบนเตียงหญิงสาวก็นอนตัวงอเนื่องจากเธอทั้งจุกและเจ็บไปหมดไม่อยากจะคิดเลยว่าสภาพเธอในตอนนี้จะน่าสมเพชแค่ไหนถึงแม้เธอจะมีใบทะเบียนสมรสเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแต่เพราะเขาไม่ได้รักเธอและเมื่อยิ่งรู้ว่าภายในระยะเวลา 3 เดือนเธอและเขาก็ต้องหย่ากันมันจึงยิ่งทำให้เธอรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เธอเหมือนผู้หญิงไร้ค่าคนนึงที่รอวันที่สามีจะหย่าเมื่อไหร่ก็ได้ ยิ่งคิดน้ำตาก็ยิ่งไหล " จะร้องไห้ทำไมวะ ก็แค่โดนผัวเx็ด ไม่ตายหรอก"" ฮึก อึก"" อ๊ะ คะ คุณ จะทำอะไรค่ะ "" เอาเธอไง "" แต่เมื่อกี้คุณก็เพิ่งทำไป "" ก็ฉันยังไม่อิ่ม "" ตะ แต่ "" มีอีกเรื่องที่เธอควรรู้ ผัวเธอกินดุ และก็กินจุมากด้วย "พูดจบชายหนุ่มไม่รอช้าจับร่างหญิงสาวพลิกคว่ำก่อนจะยกสะโพกของเธอให้อยู่ในท่าคานเข่า เขาจับแกนกายที่ตอนนี้เริ่มขยายใหญ่ขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับชักรูดอยู่ สอง สาม ที ก่อนจะกดแทรกเข้าไปในกรีบกุหลาบสีแดงเนื่องจากพึ่งผ่านมรสุมมาเมื่อครู่ สวบปัก ปัก ปัก ปัก ปัก " อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ" " เบาหน่อย...มะ มันจุก"" ซี๊ด ท่านี้โครตลึกเลยวะ "เขากระแทกกระทั้นด้วยความหนักหน่วง
รุ่งเช้า เปลือกตาคู่สวยค่อยๆเปิดลงเมื่อมีแสงแดดสาดส่องเข้ามาภายนอกหน้าต่าง เมื่อเริ่มปรับโฟกัสได้ดี สายตาเธอเหลือบไปเห็นบริเวรภายในห้อง เสื้อผ้ากระจัดกระจายไปทั่ว ร่างชายหนุ่มที่เป็นสามีของเธอทั้งนิตินัยและพฤตินัยนอนเปลือยเปล่าอยู่บนที่นอน มีเพียงผ้าห่มปิดคลุมส่วนนั้นของเขาอย่างหมิ่นเหม่ ในสมองของเธอสั่งการให้ลุกออกมาจากตรงนี้ คิดได้ดั่งนั้นหญิงสาวจึงลุกจากเตียงนอนหวังจะเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายอันเต็มไปด้วยคราบสิ่งสกปรกที่ชายหนุ่มทิ้งไว้เมื่อคืน แค่เพียงสองเท้าแตะลงบนพื้นความเจ็บปวดก็แล่นเข้ามาตรงบริเวณน้องสาวของเธอ เมื่อคืนเขาทำรุนแรงมาก หนำซ้ำยังทำกับเธออีกตั้งหลายรอบ จึงทำให้เช้านี้เธอค่อนข้างที่จะหมดแรงแทบจะเดินไม่ไหว แต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวต้องกัดฟันทนพยุงร่างอันบอบช้ำเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายให้เสร็จเรียบร้อยก่อนที่ชายหนุ่มร่างสูงจะตื่นขึ้นมา หญิงสาวเดินลงมาจากชั้นบนด้วยสภาพที่ไม่สู้ดีนักเธอตั้งใจจะมาทำอาหารเช้าให้กลับสามีป้ายแดงซึ่งมันเป็นหน้าที่ของภรรยาที่ควรจะทำในทุกๆเช้าก่อนที่สามีจะตื่น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เต็มใจที่จะแต่งงานกับเขาตั้งแต่แรกแต่แม่ขอ
# เคสฉันมาที่บ้านเพื่อมาเก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวสำหรับการย้ายเข้าไปอยู่บ้านหลังใหม่ โชคดีที่ไม่มีใครอยู่บ้านพ่อแม่ของฉันหน้าจะออกไปที่ร้านหรือไม่ก็บริษัท ถือว่าเป็นความโชคดีเพราะฉันยังไม่อยากตอบคำถามพวกท่านทั้งสองเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวก็ไม่มีอะไรมากใช้รถของฉันแค่คันเดียวก็ขนหมด ส่วนที่เหลือเพิ่มเติมค่อยไปหาซื้อเอาใหม่ คิดแล้วก็ใจหายบ้านที่ฉันเคยอยู่ตั้งแต่เล็กจนโต แต่ตอนนี้ฉันต้องย้ายออกไปอยู่ที่อื่นไปอยู่กับคนที่เขาใจร้าย แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะฉันเดินมาตั้งขนาดนี้แล้วจะถอยไม่ได้เป็นไงเป็นกันคิดได้ดังนั้นหญิงสาวก็ขับรถออกไปจากบ้านระหว่างทางอยู่ๆรถของเธอก็ดันยางแตกท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุและไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่าน ให้ตายเถอะ ยัยเคสเอ้ย นี่แก่จะซวยอะไรขนาดนี้เนี้ย แล้วทีนี้จะทำยังไง ขับมาตั้งไกลแล้วด้วยหญิงสาวบ่นกับตัวเองเบาๆ ระหว่างที่เธอกำลังจะกดโทรศัพท์โทรหาช่างให่มาซ่อมรถให้ ก็มีรถสปอร์ตคันหรูขับเข้ามาจอดบริเวณไกล้ๆกับที่เธอยืนอยู่ ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหล่า ใส่ชุดสูท ดูภูมิฐาน บ่งบอกว่าเป็นคนมีเงิน กำลังเดินตรงมายังที่เธอยืนอยู่หญิงสาวแอบกลัวนิ
บ้านใหม่17:00 น.ฉันกลับมาถึงบ้านเป็นเวลากว่าห้าโมงเย็น วันนี้ทั้งวันฉันยุ่งอยู่กับการขนของเข้ามาในบ้านหลังใหม่ ไหนจะเสียเวลาไปกับการซ่อมรถอีก เฮ้อในแต่ละวันมันช่างผ่านไปไวจริงๆตอนนี้ฉันยืนอยู่ภายในบ้านที่ค่อนข้างจะเงียบเหงา ก็นะเขาคงยังไม่กลับมาตอนนี้หรอกเผลอๆอาจจะไม่กลับมาเลยตลอดทั้งคืนก็ได้ ฉันภาวนาขอให้เป็นแบบนั้นอะนะ เพราะตอนนี้ฉันยังไม่อยากเจอหน้าเขาเลยสักนิด ระหว่างนั้นก็มีสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของเธอ นั่นก็คือแม่ของเธอเอง ครืด ครืด ครืด แม่เคส : ค่ะแม่แม่ : วันนี้ลูกไปขนของที่บ้าน แล้วทำไมไม่อยู่รอแม่กับพ่อล่ะลูก เคส : พอดีว่าเคสตั้งใจจะรีบไปรีบกลับนะคะ จะได้มาจัดของภายในบ้านให้เข้าที่เข้าทางด้วย แม่ : อ๋อหรอจ๊ะ พอดีว่าแม่จะให้ป้าบัวกับก้อยไปอยู่เป็นเพื่อนลูก คอยช่วยเหลืองานบ้านงานครัว เพราะลูกต้องทำงานที่บริษัทด้วยแม่เกรงว่าลูกจะเหนื่อย เคส : ขอบคุณค่ะแม่ แล้วป้าบัวกับพี่ก้อยจะมาเมื่อไหร่คะ แม่ : ก็คงจะเป็นพรุ่งนี้นะจ๊ะ แล้วนี่ลูกทำอะไรอยู่ สามีลูกไปไหนละเคส : เคสพึ่งมาถึงบ้านค่ะ กำลังจะจัดของเข้าที่เข้าทางอยู่ ส่วนคุณเซอร์เวย์เข้าบริษัทของเขาค่ะแม่ : ดีแล้วละจ้ะ