หลังจากที่เพิร์ธส่งหญิงสาวกลับไปเอารถที่ผับ นิวเยียร์ก็รีบขับกลับคอนโด และเมื่อไปถึงห้องก็วิ่งไปที่หน้ากระจกเพื่อส่องดูสภาพอันน่าอับอายของตัวเอง ไม่คิดว่าการเจอกันในครั้งนี้จะทำให้เธอขายขี้หน้า แทนที่เขาจะได้เห็นเธอในสภาพที่ดีกว่านี้ แต่กลับได้เห็นผู้หญิงเมาจนเอาตัวเองไม่รอด แถมยังอ้วกใส่เขาอีกต่างหาก
“ยัยนิวเยียร์เอ๊ย แกนี่ขายขี้หน้าเก่งชะมัด”
แล้วอย่างนี้เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ครั้งหน้าหากเจอกันอีกเธอจะกล้าสู้หน้าเขาอีกเหรอ
“อย่าคิดอย่างนั้นสิ เธอมันใจกล้าหน้าด้านอยู่แล้วยัยนิวเยียร์ เจอก็เจอสิ จะกลัวอะไร” เธอได้แต่ปลอบใจและเรียกความกล้าให้กับตัวเองผ่านเงาในกระจก
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่ ก็ขึ้นไปนั่งบนเตียงส่งมือเล็กไปหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรู ต่อสายไปหาเพื่อนรักเพื่อเมาท์มอยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
“ยัยพรีม แกรู้ไหมว่าเมื่อคืนฉันนอนที่ไหน” พอเพื่อนรักกดรับสาย นิวเยียร์ก็รีบเอ่ยออกไปทันทีด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น
(อย่าบอกนะว่าแกโดนผู้ชายคนนั้นหิ้วกลับไปด้วย)
พรีมรู้สึกตกใจกับคำถามที่ได้รับเลยรีบถามกลับ
“จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้ไปกับผู้ชายคนนั้นสักหน่อย” ใครจะอยากไปกับผู้ชายที่คิดจะมอมเหล้าเธอล่ะ
(ก็แกเล่นถามมาแบบนี้ฉันก็ตกใจหมดน่ะสิ สรุปเมื่อคืนแกไปนอนที่ไหนมา)
จะไม่ให้พรีมตกใจได้อย่างไร ทั้งที่เมื่อคืนสามีของเธอก็ได้บอกให้เลขาของเขาไปรับแล้วแท้ ๆ แต่เพื่อนรักเล่นถามมาแบบนั้นอีก เธอก็นึกว่าโดนผู้ชายคนนั้นพากลับไปด้วย
“คอนโดพี่พิรัชย์”
นิวเยียร์ตอบออกไปตามตรงโดยไม่อายปาก ถึงอย่างไรพรีมก็รู้ว่าเธอรู้สึกสนใจเลขาสุดหล่อมาตั้งนานแล้ว ผิดก็แต่เมื่อก่อนเธอไม่กล้าจีบเขาตรง ๆ เพียงเพราะอายุของทั้งสองคนห่างกันหลายปี ทำได้แค่เพียงพูดแหย่เขาเล่นก็เท่านั้น
(ฮะ!!!)
พรีมอุทานออกมาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าสองคนนี้จะไปนอนด้วยกันได้
“ตกใจอะไรขนาดนั้น”
(ไม่คิดว่าแกจะไวไฟขนาดนี้น่ะสิ)
“ไวไฟอะไรกัน เมื่อคืนเราไม่ได้ทำอะไรกันเลย ฉันเมามากจนหลับคารถ พี่พิรัชย์เลยพากลับไปนอนที่คอนโดของเขาก็แค่นั้นเอง”
พอคิดถึงเรื่องเมื่อคืนนิวเยียร์ก็รู้สึกร้อนหน้าขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด ถึงแม้จะไม่ได้มีอะไรกัน แต่ทั้งสองคนก็นับว่าได้นอนร่วมเตียงเดียวกันแล้ว
(ไม่ได้ทำอะไรกันจริงเหรอ คริคริ)
“แกอย่ามาหัวเราะฉันนะยัยพรีม แกรู้ไหมว่าเมื่อเช้าฉันแทบจะไม่อยากมองหน้าเขาเลย โคตรอายเลยอะ เมื่อคืนฉันอ้วกใส่พี่เขาด้วย”
(โอ๋ ๆ ไม่หัวเราะแล้ว เล่นไปอ้วกใส่เขาแบบนั้นมันก็น่าอายอยู่หรอก)
“ต่อไปฉันจะไม่เมาแบบนี้อีกแล้ว สาบาน”
(ให้มันจริงเถอะ)
“ฉันพูดจริง แค่เรื่องเมื่อคืนฉันก็อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว”
(เอาไว้ที่เดิมนั่นแหละ เอาน่า ไม่ต้องคิดมาก พี่พิรัชย์ไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยอะไร ฉันว่าเขาคงไม่ถือสาแกหรอก)
“งั้นแค่นี้ก่อนนะแก ฉันปวดหัวนิดหน่อย ขอนอนพักเอาแรงก่อน”
(โอเค ว่าง ๆ ก็โทรมาเมาท์กันนะ)
“อื้ม”
หลังจากวางสายของเพื่อนรัก นิวเยียร์ก็เก็บโทรศัพท์ไว้ใต้หมอนแล้วหลับตาลงอย่างคนหมดแรง เมื่อคืนคงจะเป็นคืนที่ดื่มหนักที่สุดเท่าที่เธอเคยออกไปเที่ยวกลางคืนคนเดียว และยังเป็นครั้งแรกที่เจอกับผู้ชายนิสัยไม่ดีแบบนี้ แต่พ่อคนดีอย่างพิรัชย์นี่สิกลับมาทำให้เธอใจสั่นไหวขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานาน
ไม่รู้หลับไปนานเท่าไร แต่ก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะเสียงกริ่งที่ดังอยู่หน้าประตู เธอจึงลืมตาขึ้นอย่างงัวเงียแล้วเดินออกจากห้องนอนไปที่ด้านนอก พอเปิดประตูออกไปก็พบว่าเป็นหนุ่มเลขารูปหล่อที่เธอไปนอนด้วยเมื่อคืน
“พี่พิรัชย์มาได้ยังไงคะ” หญิงสาวถามด้วยความแปลกใจที่จู่ ๆ ก็เห็นเขามายืนอยู่หน้าห้อง ทั้งที่ไม่เคยรู้จักที่อยู่กันมาก่อน
“ผมคิดถึงคุณ”
เสียงทุ้มเอ่ยจบเขาก็เดินแทรกตัวเข้ามาในห้อง ส่งผลให้เจ้าของห้องอย่างเธอต้องเดินร่นถอยหลัง พร้อมกันนั้นเขายังหันไปปิดประตูและจัดการล็อกให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินหน้าเข้ามาหาเธอ ส่งมือหนามาคว้าเรียวแขนของนิวเยียร์แล้วออกแรงดึงเข้าหาตัว
“พะ พี่พิรัชย์จะทำอะไรคะ”
หญิงสาวที่โดนดึงจนร่างกระแทกกับแผงอกของคนตัวสูง ก็เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อของคนที่ก้มมองลงมาพร้อมกับสายตาที่ยากจะคาดเดา
“เป็นของผมนะ” เอ่ยจบพิรัชย์ก็ก้มหน้าลงมาประกบกับริมฝีปากอวบอิ่มของคนในอ้อมแขน
สาวเจ้าของห้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจกับการกระทำที่ได้รับ ความเป็นสุภาพบุรุษเมื่อคืนมันหายไปไหนหมด เขาถึงได้มาหาเธอถึงห้อง แถมยังเป็นคนเริ่มจูบเธอก่อน
ถึงจะคิดอย่างนั้นแต่นิวเยียร์ก็ไม่คิดจะขัดขืน หลับตาลงแล้วปล่อยให้เขาได้ส่งเรียวลิ้นเข้ามาฉกชิมความหวานในโพลงปากด้วยความนุ่มนวลจนกระทั่งเขาพึงพอใจ แล้วถอนริมฝีปากออก
นิวเยียร์ที่ตอนนี้พวงแก้มได้เปลี่ยนเป็นสีแดงปลั่งด้วยความขัดเขิน หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำอย่างบอกไม่ถูก มันทั้งตื่นกลัว หรือว่าตื่นเต้นกันแน่ก็ไม่แน่ใจ และตอนนี้เธอก็กำลังถูกชายหนุ่มที่บุกมาหาถึงห้องอุ้มขึ้นในท่าเจ้าหญิงพาเข้าไปในห้องนอน วางร่างของสาวสวยลงบนเตียงอ่อนนุ่มอย่างเบามือ ก่อนจะขึ้นไปนอนทาบทับอยู่ด้านบน
“พี่พิรัชย์คะ” เสียงหวานขานชื่อของเขาแผ่วเบา มือเล็กก็จับลำแขนของคนด้านบน แล้วช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าหล่อราวกับกำลังชั่งใจแล้วตั้งคำถาม ว่าสิ่งที่ทั้งสองกำลังจะทำมันถูกต้องแล้วหรือไม่
“ผมชอบคุณ”
พอได้ยินคำว่าชอบ ใจของเธอก็ยิ่งเต้นแรงราวกับกลองที่กำลังถูกตีรัว ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ยินคำนี้จากผู้ชายหน้านิ่ง ขี้อาย และชอบหลบสายตาของเธออยู่บ่อย ๆ
เมื่อก่อนเธอหยอดคำหวานไปไม่รู้ตั้งกี่คำ เขาก็ไม่เคยแสดงท่าทีว่ามีใจให้เธอเลย แต่พอไม่ได้เจอหน้ากันมาหกเดือน ทำไมเขาถึงได้เปลี่ยนเป็นคนละคน เขาเริ่มจู่โจมเธอก่อนจนใจเธอแทบจะละลายเป็นของเหลว
“หนูก็ชอบพี่พิรัชย์ค่ะ”
แค่คำว่าชอบหลุดออกจากปากของสาวสวยที่อยู่ใต้ร่าง เพิร์ธก็ไม่รีรอจู่โจมริมฝีปากของเธอทันที รสจูบแสนหวาน อ่อนโยน ละเมียดละไม ทำให้เธอเคลิบเคลิ้มกับสัมผัสที่ได้รับ เขาอ่อนโยนอย่างบอกไม่ถูก เธอรู้สึกเสียววาบยามที่มือหนาเคลื่อนผ่านไปตามสัดส่วนบนเรือนร่างอย่างเบามือ โดยเฉพาะอกอวบที่ถูกมือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อแล้วเคล้นคลึงอย่างนุ่มนวล
‘ทำไมเขาถึงได้อ่อนโยนแบบนี้นะ’
ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งปล่อยให้เขากระทำได้ตามใจชอบ อยากจะบีบ จะขย้ำตรงส่วนไหน เธอก็พร้อมรับ
“เป็นของผมนะ” เสียงพร่าเอ่ยที่ข้างหูอีกครั้ง พรางขบเม้มติ่งหูเบา ๆ ลมหายใจอุ่นเป่ารดจนเธอรู้สึกสยิวจนต้องเอียงคอหลบ
“พี่ชอบหนูจริง ๆ ใช่มั้ยคะ” แม้จะปล่อยตัวปล่อยใจไปแล้ว แต่เธอก็ต้องการคำยืนยันอีกครั้ง
“ครับ ผมชอบคุณ”
เอ่ยจบเขาก็ดันตัวนั่งตรงแล้วถอดเสื้อของตัวเองออก เผยให้เห็นผิวกายสะอาดสะอ้าน หน้าอกแน่นล่ำ หน้าท้องมีซิกซ์แพ็กเป็นลอนงาม บ่งบอกได้ถึงคนที่รักสุขภาพและออกกำลังกายเป็นประจำ
‘ทำไมถึงได้น่ามองแบบนี้ ถ้ารู้ว่างานดีขนาดนี้น่าจะจับปล้ำเสียตั้งแต่ตอนนั้น’
หญิงสาวถูกร่างกายท่อนบนของหนุ่มเลขาสะกดสายตา จนเผลอคิดทะลึ่ง ถ้าตอนนั้นเธอเดินหน้าจีบจริงจัง เขาจะยอมรับเธอเป็นแฟนหรือไม่
แต่ตอนนี้ผู้ชายคนนี้ก็กำลังจะมีเรื่องอย่างว่ากับเธอแล้ว จะมามัวเสียดายอดีตทำไม
พิรัชย์โน้มใบหน้าลงไปบดจูบกับเธออีกครั้ง นิวเยียร์ก็ยกแขนขึ้นกอดรอบคอของเขา แล้วจูบแลกลิ้นตอบอย่างไม่ประสา เห็นเธอชอบเที่ยวกลางคืนแบบนี้ แต่จะบอกไว้เลยว่าไม่เคยมีชายใดได้แตะต้องของสงวนอย่างแน่นอน มันยังอยู่ดี และพร้อมที่จะเป็นของผู้ชายที่ชื่อพิรัชย์
และแล้วเสื้อผ้าของเธอก็ได้ถูกถอดออกทีละชิ้น ทีละชิ้น จนเหลือเพียงเรือนร่างขาวนวลเนียนราวกับผิวเด็ก ที่เผยให้เห็นแก่สายตาของชายหนุ่มที่กำลังส่งดวงตาคู่คมสำรวจไปทั่วร่าง และมือของเขาก็กำลังจัดการกับเข็มขัดที่เอว
เฮือก!!!!!“พี่พิรัชย์”เธอสะดุ้งตื่นขึ้นในช่วงค่ำของวันพร้อมกับเรียกหาคนที่กำลังจะมีช่วงเวลาดี ๆ ร่วมกัน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากอก พอหันมองหาคนที่กอดจูบกันก็ปรากฏว่าไม่มีใคร และเสื้อผ้าก็ยังอยู่ครบ“ฝันไปเหรอเนี่ย”นิวเยียร์ยู่ปากออกมาด้านหน้าพร้อมกับถอนหายใจราวกับเสียดาย ขนาดฝันยังหวงเนื้อหวงตัว เขาได้เห็นเธอล่อนจ้อนไม่เหลือเสื้อผ้าเลยสักชิ้น แต่เธอกลับได้เห็นแค่ท่อนบนของเขาเท่านั้น‘ขี้โกงชะมัด’พอนึกถึงหน้าอกขาว ๆ ก็ทำให้หญิงสาวถึงกับหลุดยิ้มแล้วบิดตัวเขิน ล้มตัวลงนอนกอดผ้าห่มพลิกตะแคงซ้ายทีขวาทีราวกับคนเสียสติ คิดถึงหน้าของคนที่เข้ามาทำให้ใจเต้นแรง นี่ขนาดแค่ในความฝัน แล้วถ้าเป็นความจริงมันจะฟินสักแค่ไหนคิดแล้วก็น่าเสียดายที่ในความฝันยังไม่ทันได้เข้าด้ายเข้าเข็มแต่เธอก็ดันสะดุ้งตื่นเสียก่อน มาทำให้อยากแล้วก็จากไป ทำไมไม่ทำให้มันเสร็จ ๆ กันนะสองอาทิตย์ต่อมาราวกับว่าโชคชะตาเป็นใจให้เธอและเขามีโอกาสได้พบกันอีกครั้งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และเขาก็กำลังนั่งรออาหารอยู่เพียงลำพัง“ขอนั่งด้วยนะคะ”คนที่นั่งอยู่ก่อนเงยหน้าขึ้นมองสาวสวยที่มาขอนั่งด้วย แต่ก็ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาเพิร์ธกลับจากที่ทำงานและกำลังเดินตรงไปที่ห้องพักบนชั้นเก้าของคอนโดสุดหรู พอเปิดเข้าไปในห้องก็ถอดเสื้อสูตตัวนอกออก ดึงชายเสื้อเชิ้ตสีขาวออกจากเอวกางเกง พลางเดินเข้าไปในครัวเพื่อจะได้สะดวกในการทำอาหาร แล้วจัดการนำวัตถุดิบในตู้เย็นออกมาเพื่อทำมื้อเย็นกริ้ง กริง…เขาละสายตาจากเนื้อที่กำลังหมักอยู่ในชามสีใส เย็นนี้ตั้งใจจะทำสเต๊กเนื้อเป็นมื้อเย็น แต่ก็ต้องถูกขัดจังหวะจากใครก็ไม่รู้ที่มากดกริ่งหน้าห้อง และพอเขาเดินไปเปิดประตูก็ไม่พบใคร เห็นเพียงแค่ถุงที่ห้อยอยู่ตรงคันโยกของประตูก็พลันรู้สึกแปลกใจจึงหยิบขึ้นมาเปิดดู ก็พบว่าเป็นเค้กชิ้นเล็กรสช็อกโกแลตวางอยู่ในกล่อง พร้อมกับนมรสสตรอว์เบอรีที่อยู่ในขวดใสมีฉลากน่ารักติดอยู่เขาหันมองซ้ายทีขวาทีเผื่อว่าจะมีใครลืมเอาไว้ผิดห้องแต่ก็ไม่พบใคร จึงถือถุงนั้นเข้าไปในห้องแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นเพราะไม่กล้ากิน ปกติเขาไม่เคยสั่งของขึ้นมาส่งถึงหน้าห้อง หรือได้รับของจากใครแบบนี้เลยหลังจากกินมื้อเย็นเสร็จเขาก็นั่งทำงานต่อจนดึก ก็เข้าไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนเพื่อให้พร้อมกับการทำงานในเช้าอีกวันในขณะที่หญิงสาวที่ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่วันแรกก็รู้สึ
‘ไหน ๆ ก็โดนจับได้แล้ว ทำไมเมื่อกี้ไม่ขอเข้าไปนั่งเล่นที่ห้องของเขานะ’พอคิดได้ดังนั้นนิวเยียร์ก็เดินไปที่หน้ากระจก สำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผม ก่อนจะเดินออกจากห้องไปก๊อก ก๊อกคนในห้องที่กำลังต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสชาติจัดจ้าน เอาไว้กินคู่กับไข่ตุ๋นที่ได้มาเมื่อครู่ เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูก็เดินออกจากห้องครัวเพื่อไปดูว่าใครมา“น้องนิวเยียร์”“ขอเข้าไปได้ไหมคะ” หญิงสาวคลี่ยิ้มกว้างพยักเพยิดใบหน้าสวยและมองเข้าไปในห้องที่เคยมานอนค้างแล้วครั้งหนึ่ง“ครับ” จะปฏิเสธก็กระไรอยู่ เลยอนุญาตให้เธอเข้ามานิวเยียร์เดินตามเขาเข้าไปในห้องขนาดกว้าง แต่ข้าวของเครื่องใช้กลับถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ บ่งบอกถึงผู้อยู่อาศัยที่รักความสะอาดและความเรียบร้อย แต่แล้วจมูกของเธอได้รับกลิ่นที่โชยออกมาจากห้องครัว“ต้มบะหมี่เหรอคะ กลิ่นหอมจัง”“ครับ”“ขอกินด้วยได้ไหมคะ”ใจกล้าหน้าด้านแล้วทำกระเพาะว่างเข้าไว้ แม้จะกินไข่ตุ๋นไปแล้วหลายถ้วย แต่ก็ต้องเอ่ยออกไปเหมือนยังไม่ได้กินอะไร เขาจะได้ทำให้กิน และทั้งสองก็จะได้นั่งกินมื้อค่ำด้วยกัน“เอ่อ… ครับ นั่งรอตรงนี้ก่อนนะครับ ว่าแต่ชอบกินเผ็ดไหม” เขาผายมือไปตรงโ
“แกไม่ต้องกังวลหรอก ช่วงนี้พี่พิรัชย์งานยุ่งน่ะ กลับดึกทุกวันเลย”“พี่ธีร์ก็กลับดึกเหมือนกันเหรอ” เธอถามพรีมด้วยความสงสัย ถ้าพิรัชย์กลับดึก แสดงว่าสามีของเพื่อนก็ต้องกลับดึกเหมือนกัน เพราะทำงานด้วยกัน“อื้ม คงจะเป็นแบบนี้สักสองสามเดือน”“ทำไมล่ะ”“ก็พี่กิ่งแก้วที่เป็นผู้ช่วยเลขาลาคลอดน่ะ งานทั้งหมดพี่พิรัชย์เลยต้องรับผิดชอบแทนไปก่อน และพี่ธีร์เองก็รับงานในส่วนของพี่พิรัชย์มาทำเองบางส่วน”“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง คงจะเหนื่อยแย่เลยเนาะ”แต่แล้วก็มีความคิดดี ๆ ผุดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม“เออ แก” นิวเยียร์โพล่งขึ้นมาเสียงดังจนพรีมแทบจะสะดุ้ง“อยู่ใกล้กันแค่นี้แกจะเสียงดังทำไม ฉันเกือบหัวใจวายตายแล้วเนี่ย” พรีมแกล้งเอ็ดเพื่อน“แกช่วยอะไรฉันหน่อยสิ”“ช่วยอะไร” พรีมรู้สึกถึงความคาดหวังบางอย่างจากดวงตาของเพื่อนที่ฉายแววออกมา“ช่วยพูดกับพี่ธีร์ให้ฉันเข้าไปเป็นผู้ช่วยของพี่พิรัชย์ที นะ นะ ยัยพรีม ช่วยฉันหน่อย แค่ให้ฉันได้ช่วยในระหว่างที่พี่กิ่งแก้วลาคลอดก็พอ” นิวเยียร์ทำหน้าอ้อน ยื่นมือไปจับมือของเพื่อนแล้วส่งสายตาอ้อนวอน“...” พรีมนั่งนิ่งราวกับใช้ความคิด ขณะที่นั่งมองหน้าเพื่อนที่กำลังเขย่าแขนของเธอเ
ตั้งแต่ได้ไปทำงานด้วยกันนิวเยียร์ก็นอนดึกกว่าเดิม เพราะงานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ที่รับทำยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่เธอก็ทำเองแค่งานที่ใช้เวลาไม่เกินสามชั่วโมง ถ้าเป็นงานยากช่วงนี้คงต้องส่งให้กับโรงพิมพ์ของพรีมเป็นคนทำไปก่อนทุกเช้าเธอจะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ตีห้าครึ่งเพื่อที่จะอาบน้ำแต่งตัว และแต่งหน้าสวย ๆ เตรียมไปกินข้าวกับใครบางคนก๊อก ก๊อกทันทีที่ประตูเปิดออก นิวเยียร์ก็เกิดอาการร้อนที่ใบหน้า หัวใจดวงน้อยเต้นแรงตึกตักราวกับกำลังตื่นเต้น เมื่อเจ้าของห้องสุดหล่อที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จเพราะได้กลิ่นหอมของสบู่อ่อน ๆ โชยเข้าจมูก แถมเขายังสวมใส่แค่กางเกงวอร์มสีดำ เผยช่วงบนให้ได้เห็นหน้าอกขาว ๆ หน้าท้องมีซิกซ์แพ็กเป็นลอนงาม คล้ายกับในความฝันของเธอไม่มีผิดนิวเยียร์ยืนนิ่งจ้องมองเขาตาไม่กระพริบ ลอบกลืนน้ำลายลงคอราวกับเห็นของกินแสนอร่อยวางอยู่ตรงหน้า“หัวนมชมพู” เธอเผลอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ยกยิ้มที่ริมฝีปากมาอย่างลืมตัว“น้องนิวเยียร์ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยชื่อเพื่อเรียกสติเธอเอาแต่ยืนจ้องตุ่มไตสองเม็ดที่หน้าอก ดวงตาหวานเยิ้ม ทำเอาคนถูกมองเริ่มจะทำตัวไม่ถูกจนต้องเอาผ้าที่เช็ดผมมาบังแผงอกแท
เพิร์ธระบายยิ้มมุมปาก จ้องใบหน้าหวานที่รอฟังคำตอบเพียงแค่ชั่วครู่ จากนั้นก็หันไปขับรถต่อโดยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป“ว่ายังไงคะ ถ้าหนูขอพี่จะให้ไหม” นิวเยียร์เอ่ยออกไปอีกครั้ง และรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อเธอบอกใบ้ไปตั้งหลายครั้งแล้วว่าคนที่กำลังจีบคือเขา แต่ทำไมถึงได้ซึนและความรู้สึกช้าขนาดนี้‘นี่เขาแกล้งไม่เข้าใจ หรือเข้าใจแล้วแต่ไม่สนใจเธอกันแน่’แต่แล้วความเงียบที่ได้รับกลับมาก็ทำให้เธอถอนหายใจ เบือนหน้ามองวิวข้างทางแทน และข้าวมื้อเที่ยงก็กินได้แค่ไม่กี่คำ จากตอนแรกที่คิดว่าโมโหจนหิวข้าวมาก อยากจะกินให้หายหงุดหงิด แต่พอเขาเงียบ เธอก็หมดอารมณ์กินข้าวไปโดยปริยายระหว่างทำงานในช่วงบ่าย นิวเยียร์ก็นั่งทำหน้าบึ้งตึงและไม่คุยเล่นกับเขาเหมือนเช่นเคย นอกจากจะถามเรื่องงาน และหลังจากทำงานเสร็จก็ถึงเวลากลับเสียทีขณะที่ต่างฝ่ายกำลังจะแยกย้ายเข้าห้องตัวเอง แต่แล้วชายหนุ่มก็ขานชื่อเธอขึ้น“น้องนิวเยียร์ครับ”“คะ” เธอหันกลับไปมองด้วยใบหน้าเหนื่อยล้าราวกับคนหมดแรง แค่เขาไม่ให้เบอร์ เธอก็เหมือนคนหมดอาลัยตายอยากและซึมเป็นส้วม“พี่ขอโทรศัพท์หน่อยสิครับ”“เอาไปทำไมคะ” เธอไม่ทันได้คิดก็รีบตอบกลับไป “หรือว
ณ สถานบันเทิงแห่งหนึ่งนิวเยียร์ ณัฐชยาน์ ศิลป์สุนทรกมล หญิงสาวที่อยู่ในชุดเสื้อแขนยาวสีดำเปิดไหล่กว้าง กระโปรงตัวสั้นสีดำปักเลื่อมประกายวิบวับสะท้อนกับแสงหลากสีในผับดัง กำลังนั่งดื่มเหล้าตามลำพังด้วยความเคยชินเธอเป็นคนชอบดื่มและออกมาเที่ยวกลางคืนอาทิตย์ละครั้ง สองครั้ง และทุกครั้งก็มักจะนั่งอยู่คนเดียวเพราะเพื่อนสนิทก็แต่งงานมีสามีแล้ว มีเพียงแค่เธอที่อายุก็ย่างจะเข้ายี่สิบสี่ปี แต่ก็ยังไม่เคยมีแฟนแม้แต่คนเดียว“ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ” หนุ่มหล่อที่ออกมาเที่ยวกลางคืนเอ่ยกับเธอ“เอ่อ…”“ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ พอดีผมมาเที่ยวคนเดียวเหมือนกัน แค่อยากหาคนนั่งดื่มเป็นเพื่อน” หนุ่มคนดังกล่าวเอ่ยออกมาอีกครั้ง เพราะเห็นว่าหญิงสาวกำลังใช้ความคิดและยังไม่ได้ตอบกลับมา“นั่งด้วยกันก็ได้ค่ะ” ไหน ๆ เธอก็นั่งคนเดียวอยู่แล้ว มีเพื่อนดื่มด้วยสักคนก็ดีเหมือนกัน“ผมขอเลี้ยงคุณนะครับ” หนุ่มหล่อโชว์ความใจป้ำเสนอตัวเลี้ยงเหล้าสาวสวยนิวเยียร์ก็ยกยิ้มพยักหน้าขึ้นลงเป็นเชิงตอบรับกับน้ำใจของการเจอกันเป็นครั้งแรกเวลาผ่านไปประมาณสามชั่วโมง เหล้าขวดที่สองก็ได้พร่องลงจนเหลือก้นขวด นิวเยียร์ก็เกิดรู้สึกร้อนผ่าว
เพิร์ธจำใจต้องเลี้ยวรถกลับคอนโดมิเนียมของตน เพราะจะโทรไปขอที่อยู่ของนิวเยียร์จากเจ้านายมันก็ดึกเกินไปพอไปถึงก็หยิบกระดาษทิชชูที่มีติดรถไว้มาเช็ดคราบที่เปรอะเปื้อนเต็มหว่างขา จากนั้นก็ลงจากรถเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งที่หญิงสาวนั่ง ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วอุ้มเธอออกจากรถ พร้อมกับคว้ากระเป๋าสะพายของเธอออกมาด้วยเขาพาเธอเข้าไปในลิฟต์แล้วกดชั้นที่พักอยู่ เมื่อขึ้นไปถึงห้องก็อุ้มคนที่นอนหลับสบายเข้าไปวางบนเตียงขนาดคิงไซซ์อย่างเบามือ จากนั้นก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เพิร์ธเข้าไปนั่งที่ขอบเตียงแล้วเขย่าแขนเรียก แต่นิวเยียร์ก็ไม่ยอมตื่น พอทำอะไรไม่ได้ก็คงต้องปล่อยให้นอนค้างที่นี่สักคืน เขาจึงลุกไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็ก นำไปชุบน้ำแล้วบิดหมาดมาเช็ดใบหน้าที่แดงระเรื่อและลำคอของคนเมา“อือ” นิวเยียร์รู้สึกเย็นวาบจนสะดุ้งแต่ก็ยังไม่ลืมดวงตาที่หนักอึ้ง ได้แต่ส่งเสียงร้องประท้วงในลำคอ พร้อมกับปัดป่ายแขนไปมาเนื่องจากถูกรบกวน“เช็ดตัวก่อนครับ”เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับจับแขนของเธอให้อยู่นิ่งแล้วใช้ผ้าเช็ดทั้งสองข้าง พลางส่งสายตามองไปยังช่วงหน้าอกและแผ่นหลังที่อยู่นอกร่มผ้า ก่อนจะเบี่ยงสายตามองไปทางอื่นพร้อม
เพิร์ธระบายยิ้มมุมปาก จ้องใบหน้าหวานที่รอฟังคำตอบเพียงแค่ชั่วครู่ จากนั้นก็หันไปขับรถต่อโดยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป“ว่ายังไงคะ ถ้าหนูขอพี่จะให้ไหม” นิวเยียร์เอ่ยออกไปอีกครั้ง และรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อเธอบอกใบ้ไปตั้งหลายครั้งแล้วว่าคนที่กำลังจีบคือเขา แต่ทำไมถึงได้ซึนและความรู้สึกช้าขนาดนี้‘นี่เขาแกล้งไม่เข้าใจ หรือเข้าใจแล้วแต่ไม่สนใจเธอกันแน่’แต่แล้วความเงียบที่ได้รับกลับมาก็ทำให้เธอถอนหายใจ เบือนหน้ามองวิวข้างทางแทน และข้าวมื้อเที่ยงก็กินได้แค่ไม่กี่คำ จากตอนแรกที่คิดว่าโมโหจนหิวข้าวมาก อยากจะกินให้หายหงุดหงิด แต่พอเขาเงียบ เธอก็หมดอารมณ์กินข้าวไปโดยปริยายระหว่างทำงานในช่วงบ่าย นิวเยียร์ก็นั่งทำหน้าบึ้งตึงและไม่คุยเล่นกับเขาเหมือนเช่นเคย นอกจากจะถามเรื่องงาน และหลังจากทำงานเสร็จก็ถึงเวลากลับเสียทีขณะที่ต่างฝ่ายกำลังจะแยกย้ายเข้าห้องตัวเอง แต่แล้วชายหนุ่มก็ขานชื่อเธอขึ้น“น้องนิวเยียร์ครับ”“คะ” เธอหันกลับไปมองด้วยใบหน้าเหนื่อยล้าราวกับคนหมดแรง แค่เขาไม่ให้เบอร์ เธอก็เหมือนคนหมดอาลัยตายอยากและซึมเป็นส้วม“พี่ขอโทรศัพท์หน่อยสิครับ”“เอาไปทำไมคะ” เธอไม่ทันได้คิดก็รีบตอบกลับไป “หรือว
ตั้งแต่ได้ไปทำงานด้วยกันนิวเยียร์ก็นอนดึกกว่าเดิม เพราะงานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ที่รับทำยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่เธอก็ทำเองแค่งานที่ใช้เวลาไม่เกินสามชั่วโมง ถ้าเป็นงานยากช่วงนี้คงต้องส่งให้กับโรงพิมพ์ของพรีมเป็นคนทำไปก่อนทุกเช้าเธอจะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ตีห้าครึ่งเพื่อที่จะอาบน้ำแต่งตัว และแต่งหน้าสวย ๆ เตรียมไปกินข้าวกับใครบางคนก๊อก ก๊อกทันทีที่ประตูเปิดออก นิวเยียร์ก็เกิดอาการร้อนที่ใบหน้า หัวใจดวงน้อยเต้นแรงตึกตักราวกับกำลังตื่นเต้น เมื่อเจ้าของห้องสุดหล่อที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จเพราะได้กลิ่นหอมของสบู่อ่อน ๆ โชยเข้าจมูก แถมเขายังสวมใส่แค่กางเกงวอร์มสีดำ เผยช่วงบนให้ได้เห็นหน้าอกขาว ๆ หน้าท้องมีซิกซ์แพ็กเป็นลอนงาม คล้ายกับในความฝันของเธอไม่มีผิดนิวเยียร์ยืนนิ่งจ้องมองเขาตาไม่กระพริบ ลอบกลืนน้ำลายลงคอราวกับเห็นของกินแสนอร่อยวางอยู่ตรงหน้า“หัวนมชมพู” เธอเผลอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ยกยิ้มที่ริมฝีปากมาอย่างลืมตัว“น้องนิวเยียร์ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยชื่อเพื่อเรียกสติเธอเอาแต่ยืนจ้องตุ่มไตสองเม็ดที่หน้าอก ดวงตาหวานเยิ้ม ทำเอาคนถูกมองเริ่มจะทำตัวไม่ถูกจนต้องเอาผ้าที่เช็ดผมมาบังแผงอกแท
“แกไม่ต้องกังวลหรอก ช่วงนี้พี่พิรัชย์งานยุ่งน่ะ กลับดึกทุกวันเลย”“พี่ธีร์ก็กลับดึกเหมือนกันเหรอ” เธอถามพรีมด้วยความสงสัย ถ้าพิรัชย์กลับดึก แสดงว่าสามีของเพื่อนก็ต้องกลับดึกเหมือนกัน เพราะทำงานด้วยกัน“อื้ม คงจะเป็นแบบนี้สักสองสามเดือน”“ทำไมล่ะ”“ก็พี่กิ่งแก้วที่เป็นผู้ช่วยเลขาลาคลอดน่ะ งานทั้งหมดพี่พิรัชย์เลยต้องรับผิดชอบแทนไปก่อน และพี่ธีร์เองก็รับงานในส่วนของพี่พิรัชย์มาทำเองบางส่วน”“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง คงจะเหนื่อยแย่เลยเนาะ”แต่แล้วก็มีความคิดดี ๆ ผุดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม“เออ แก” นิวเยียร์โพล่งขึ้นมาเสียงดังจนพรีมแทบจะสะดุ้ง“อยู่ใกล้กันแค่นี้แกจะเสียงดังทำไม ฉันเกือบหัวใจวายตายแล้วเนี่ย” พรีมแกล้งเอ็ดเพื่อน“แกช่วยอะไรฉันหน่อยสิ”“ช่วยอะไร” พรีมรู้สึกถึงความคาดหวังบางอย่างจากดวงตาของเพื่อนที่ฉายแววออกมา“ช่วยพูดกับพี่ธีร์ให้ฉันเข้าไปเป็นผู้ช่วยของพี่พิรัชย์ที นะ นะ ยัยพรีม ช่วยฉันหน่อย แค่ให้ฉันได้ช่วยในระหว่างที่พี่กิ่งแก้วลาคลอดก็พอ” นิวเยียร์ทำหน้าอ้อน ยื่นมือไปจับมือของเพื่อนแล้วส่งสายตาอ้อนวอน“...” พรีมนั่งนิ่งราวกับใช้ความคิด ขณะที่นั่งมองหน้าเพื่อนที่กำลังเขย่าแขนของเธอเ
‘ไหน ๆ ก็โดนจับได้แล้ว ทำไมเมื่อกี้ไม่ขอเข้าไปนั่งเล่นที่ห้องของเขานะ’พอคิดได้ดังนั้นนิวเยียร์ก็เดินไปที่หน้ากระจก สำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผม ก่อนจะเดินออกจากห้องไปก๊อก ก๊อกคนในห้องที่กำลังต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสชาติจัดจ้าน เอาไว้กินคู่กับไข่ตุ๋นที่ได้มาเมื่อครู่ เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูก็เดินออกจากห้องครัวเพื่อไปดูว่าใครมา“น้องนิวเยียร์”“ขอเข้าไปได้ไหมคะ” หญิงสาวคลี่ยิ้มกว้างพยักเพยิดใบหน้าสวยและมองเข้าไปในห้องที่เคยมานอนค้างแล้วครั้งหนึ่ง“ครับ” จะปฏิเสธก็กระไรอยู่ เลยอนุญาตให้เธอเข้ามานิวเยียร์เดินตามเขาเข้าไปในห้องขนาดกว้าง แต่ข้าวของเครื่องใช้กลับถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ บ่งบอกถึงผู้อยู่อาศัยที่รักความสะอาดและความเรียบร้อย แต่แล้วจมูกของเธอได้รับกลิ่นที่โชยออกมาจากห้องครัว“ต้มบะหมี่เหรอคะ กลิ่นหอมจัง”“ครับ”“ขอกินด้วยได้ไหมคะ”ใจกล้าหน้าด้านแล้วทำกระเพาะว่างเข้าไว้ แม้จะกินไข่ตุ๋นไปแล้วหลายถ้วย แต่ก็ต้องเอ่ยออกไปเหมือนยังไม่ได้กินอะไร เขาจะได้ทำให้กิน และทั้งสองก็จะได้นั่งกินมื้อค่ำด้วยกัน“เอ่อ… ครับ นั่งรอตรงนี้ก่อนนะครับ ว่าแต่ชอบกินเผ็ดไหม” เขาผายมือไปตรงโ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาเพิร์ธกลับจากที่ทำงานและกำลังเดินตรงไปที่ห้องพักบนชั้นเก้าของคอนโดสุดหรู พอเปิดเข้าไปในห้องก็ถอดเสื้อสูตตัวนอกออก ดึงชายเสื้อเชิ้ตสีขาวออกจากเอวกางเกง พลางเดินเข้าไปในครัวเพื่อจะได้สะดวกในการทำอาหาร แล้วจัดการนำวัตถุดิบในตู้เย็นออกมาเพื่อทำมื้อเย็นกริ้ง กริง…เขาละสายตาจากเนื้อที่กำลังหมักอยู่ในชามสีใส เย็นนี้ตั้งใจจะทำสเต๊กเนื้อเป็นมื้อเย็น แต่ก็ต้องถูกขัดจังหวะจากใครก็ไม่รู้ที่มากดกริ่งหน้าห้อง และพอเขาเดินไปเปิดประตูก็ไม่พบใคร เห็นเพียงแค่ถุงที่ห้อยอยู่ตรงคันโยกของประตูก็พลันรู้สึกแปลกใจจึงหยิบขึ้นมาเปิดดู ก็พบว่าเป็นเค้กชิ้นเล็กรสช็อกโกแลตวางอยู่ในกล่อง พร้อมกับนมรสสตรอว์เบอรีที่อยู่ในขวดใสมีฉลากน่ารักติดอยู่เขาหันมองซ้ายทีขวาทีเผื่อว่าจะมีใครลืมเอาไว้ผิดห้องแต่ก็ไม่พบใคร จึงถือถุงนั้นเข้าไปในห้องแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นเพราะไม่กล้ากิน ปกติเขาไม่เคยสั่งของขึ้นมาส่งถึงหน้าห้อง หรือได้รับของจากใครแบบนี้เลยหลังจากกินมื้อเย็นเสร็จเขาก็นั่งทำงานต่อจนดึก ก็เข้าไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนเพื่อให้พร้อมกับการทำงานในเช้าอีกวันในขณะที่หญิงสาวที่ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่วันแรกก็รู้สึ
เฮือก!!!!!“พี่พิรัชย์”เธอสะดุ้งตื่นขึ้นในช่วงค่ำของวันพร้อมกับเรียกหาคนที่กำลังจะมีช่วงเวลาดี ๆ ร่วมกัน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากอก พอหันมองหาคนที่กอดจูบกันก็ปรากฏว่าไม่มีใคร และเสื้อผ้าก็ยังอยู่ครบ“ฝันไปเหรอเนี่ย”นิวเยียร์ยู่ปากออกมาด้านหน้าพร้อมกับถอนหายใจราวกับเสียดาย ขนาดฝันยังหวงเนื้อหวงตัว เขาได้เห็นเธอล่อนจ้อนไม่เหลือเสื้อผ้าเลยสักชิ้น แต่เธอกลับได้เห็นแค่ท่อนบนของเขาเท่านั้น‘ขี้โกงชะมัด’พอนึกถึงหน้าอกขาว ๆ ก็ทำให้หญิงสาวถึงกับหลุดยิ้มแล้วบิดตัวเขิน ล้มตัวลงนอนกอดผ้าห่มพลิกตะแคงซ้ายทีขวาทีราวกับคนเสียสติ คิดถึงหน้าของคนที่เข้ามาทำให้ใจเต้นแรง นี่ขนาดแค่ในความฝัน แล้วถ้าเป็นความจริงมันจะฟินสักแค่ไหนคิดแล้วก็น่าเสียดายที่ในความฝันยังไม่ทันได้เข้าด้ายเข้าเข็มแต่เธอก็ดันสะดุ้งตื่นเสียก่อน มาทำให้อยากแล้วก็จากไป ทำไมไม่ทำให้มันเสร็จ ๆ กันนะสองอาทิตย์ต่อมาราวกับว่าโชคชะตาเป็นใจให้เธอและเขามีโอกาสได้พบกันอีกครั้งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และเขาก็กำลังนั่งรออาหารอยู่เพียงลำพัง“ขอนั่งด้วยนะคะ”คนที่นั่งอยู่ก่อนเงยหน้าขึ้นมองสาวสวยที่มาขอนั่งด้วย แต่ก็ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก
หลังจากที่เพิร์ธส่งหญิงสาวกลับไปเอารถที่ผับ นิวเยียร์ก็รีบขับกลับคอนโด และเมื่อไปถึงห้องก็วิ่งไปที่หน้ากระจกเพื่อส่องดูสภาพอันน่าอับอายของตัวเอง ไม่คิดว่าการเจอกันในครั้งนี้จะทำให้เธอขายขี้หน้า แทนที่เขาจะได้เห็นเธอในสภาพที่ดีกว่านี้ แต่กลับได้เห็นผู้หญิงเมาจนเอาตัวเองไม่รอด แถมยังอ้วกใส่เขาอีกต่างหาก“ยัยนิวเยียร์เอ๊ย แกนี่ขายขี้หน้าเก่งชะมัด”แล้วอย่างนี้เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ครั้งหน้าหากเจอกันอีกเธอจะกล้าสู้หน้าเขาอีกเหรอ“อย่าคิดอย่างนั้นสิ เธอมันใจกล้าหน้าด้านอยู่แล้วยัยนิวเยียร์ เจอก็เจอสิ จะกลัวอะไร” เธอได้แต่ปลอบใจและเรียกความกล้าให้กับตัวเองผ่านเงาในกระจกหลังจากอาบน้ำแต่งตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่ ก็ขึ้นไปนั่งบนเตียงส่งมือเล็กไปหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรู ต่อสายไปหาเพื่อนรักเพื่อเมาท์มอยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น“ยัยพรีม แกรู้ไหมว่าเมื่อคืนฉันนอนที่ไหน” พอเพื่อนรักกดรับสาย นิวเยียร์ก็รีบเอ่ยออกไปทันทีด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น(อย่าบอกนะว่าแกโดนผู้ชายคนนั้นหิ้วกลับไปด้วย)พรีมรู้สึกตกใจกับคำถามที่ได้รับเลยรีบถามกลับ“จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้ไปกับผู้ชายคนนั้นสักหน่อย” ใครจะอยา
เพิร์ธจำใจต้องเลี้ยวรถกลับคอนโดมิเนียมของตน เพราะจะโทรไปขอที่อยู่ของนิวเยียร์จากเจ้านายมันก็ดึกเกินไปพอไปถึงก็หยิบกระดาษทิชชูที่มีติดรถไว้มาเช็ดคราบที่เปรอะเปื้อนเต็มหว่างขา จากนั้นก็ลงจากรถเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งที่หญิงสาวนั่ง ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วอุ้มเธอออกจากรถ พร้อมกับคว้ากระเป๋าสะพายของเธอออกมาด้วยเขาพาเธอเข้าไปในลิฟต์แล้วกดชั้นที่พักอยู่ เมื่อขึ้นไปถึงห้องก็อุ้มคนที่นอนหลับสบายเข้าไปวางบนเตียงขนาดคิงไซซ์อย่างเบามือ จากนั้นก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เพิร์ธเข้าไปนั่งที่ขอบเตียงแล้วเขย่าแขนเรียก แต่นิวเยียร์ก็ไม่ยอมตื่น พอทำอะไรไม่ได้ก็คงต้องปล่อยให้นอนค้างที่นี่สักคืน เขาจึงลุกไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็ก นำไปชุบน้ำแล้วบิดหมาดมาเช็ดใบหน้าที่แดงระเรื่อและลำคอของคนเมา“อือ” นิวเยียร์รู้สึกเย็นวาบจนสะดุ้งแต่ก็ยังไม่ลืมดวงตาที่หนักอึ้ง ได้แต่ส่งเสียงร้องประท้วงในลำคอ พร้อมกับปัดป่ายแขนไปมาเนื่องจากถูกรบกวน“เช็ดตัวก่อนครับ”เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับจับแขนของเธอให้อยู่นิ่งแล้วใช้ผ้าเช็ดทั้งสองข้าง พลางส่งสายตามองไปยังช่วงหน้าอกและแผ่นหลังที่อยู่นอกร่มผ้า ก่อนจะเบี่ยงสายตามองไปทางอื่นพร้อม
ณ สถานบันเทิงแห่งหนึ่งนิวเยียร์ ณัฐชยาน์ ศิลป์สุนทรกมล หญิงสาวที่อยู่ในชุดเสื้อแขนยาวสีดำเปิดไหล่กว้าง กระโปรงตัวสั้นสีดำปักเลื่อมประกายวิบวับสะท้อนกับแสงหลากสีในผับดัง กำลังนั่งดื่มเหล้าตามลำพังด้วยความเคยชินเธอเป็นคนชอบดื่มและออกมาเที่ยวกลางคืนอาทิตย์ละครั้ง สองครั้ง และทุกครั้งก็มักจะนั่งอยู่คนเดียวเพราะเพื่อนสนิทก็แต่งงานมีสามีแล้ว มีเพียงแค่เธอที่อายุก็ย่างจะเข้ายี่สิบสี่ปี แต่ก็ยังไม่เคยมีแฟนแม้แต่คนเดียว“ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ” หนุ่มหล่อที่ออกมาเที่ยวกลางคืนเอ่ยกับเธอ“เอ่อ…”“ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ พอดีผมมาเที่ยวคนเดียวเหมือนกัน แค่อยากหาคนนั่งดื่มเป็นเพื่อน” หนุ่มคนดังกล่าวเอ่ยออกมาอีกครั้ง เพราะเห็นว่าหญิงสาวกำลังใช้ความคิดและยังไม่ได้ตอบกลับมา“นั่งด้วยกันก็ได้ค่ะ” ไหน ๆ เธอก็นั่งคนเดียวอยู่แล้ว มีเพื่อนดื่มด้วยสักคนก็ดีเหมือนกัน“ผมขอเลี้ยงคุณนะครับ” หนุ่มหล่อโชว์ความใจป้ำเสนอตัวเลี้ยงเหล้าสาวสวยนิวเยียร์ก็ยกยิ้มพยักหน้าขึ้นลงเป็นเชิงตอบรับกับน้ำใจของการเจอกันเป็นครั้งแรกเวลาผ่านไปประมาณสามชั่วโมง เหล้าขวดที่สองก็ได้พร่องลงจนเหลือก้นขวด นิวเยียร์ก็เกิดรู้สึกร้อนผ่าว