ตั้งแต่ได้ไปทำงานด้วยกันนิวเยียร์ก็นอนดึกกว่าเดิม เพราะงานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ที่รับทำยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่เธอก็ทำเองแค่งานที่ใช้เวลาไม่เกินสามชั่วโมง ถ้าเป็นงานยากช่วงนี้คงต้องส่งให้กับโรงพิมพ์ของพรีมเป็นคนทำไปก่อน
ทุกเช้าเธอจะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ตีห้าครึ่งเพื่อที่จะอาบน้ำแต่งตัว และแต่งหน้าสวย ๆ เตรียมไปกินข้าวกับใครบางคน
ก๊อก ก๊อก
ทันทีที่ประตูเปิดออก นิวเยียร์ก็เกิดอาการร้อนที่ใบหน้า หัวใจดวงน้อยเต้นแรงตึกตักราวกับกำลังตื่นเต้น เมื่อเจ้าของห้องสุดหล่อที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จเพราะได้กลิ่นหอมของสบู่อ่อน ๆ โชยเข้าจมูก แถมเขายังสวมใส่แค่กางเกงวอร์มสีดำ เผยช่วงบนให้ได้เห็นหน้าอกขาว ๆ หน้าท้องมีซิกซ์แพ็กเป็นลอนงาม คล้ายกับในความฝันของเธอไม่มีผิด
นิวเยียร์ยืนนิ่งจ้องมองเขาตาไม่กระพริบ ลอบกลืนน้ำลายลงคอราวกับเห็นของกินแสนอร่อยวางอยู่ตรงหน้า
“หัวนมชมพู” เธอเผลอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ยกยิ้มที่ริมฝีปากมาอย่างลืมตัว
“น้องนิวเยียร์ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยชื่อเพื่อเรียกสติ
เธอเอาแต่ยืนจ้องตุ่มไตสองเม็ดที่หน้าอก ดวงตาหวานเยิ้ม ทำเอาคนถูกมองเริ่มจะทำตัวไม่ถูกจนต้องเอาผ้าที่เช็ดผมมาบังแผงอกแทน
“คะ” นิวเยียร์ขานรับกระพริบตาถี่ เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มด้วยความขัดเขิน เมื่อกี้เธอเผลอมองจนเพลินเลย
“นั่งรอก่อนนะครับ พี่ขอไปแต่งตัวก่อน”
เพราะไม่อยากให้เธอยืนรอที่หน้าห้องนาน เขาเลยมาเปิดประตูให้ก่อนทั้งที่ยังไม่ได้แต่งตัวให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่คิดว่าหญิงสาวจะยืนมองจนเขานั้นแทบหายใจหายคอไม่ค่อยสะดวก เมื่อบอกกับเธอแล้วก็รีบก้าวเท้าเดินเข้าห้องทันที
“นึกว่าพี่จะแต่งตัวแบบนี้มากินข้าวกับหนูซะอีก คิก ๆ” นิวเยียร์รีบเอ่ยแซวตามหลัง
ถ้าเขาใส่แค่กางเกงมานั่งกินข้าวด้วยกันได้ก็คงดี อาหารมื้อนี้คงอร่อยขึ้นเป็นพิเศษ เธอเผลอคิดอะไรทะเล้นแล้วหลุดหัวเราะชอบใจออกมา
หลังจากกินข้าวด้วยกันเสร็จทั้งสองก็ออกจากคอนโดไปทำงานพร้อมกัน โดยสลับรถกันใช้คนละวันตามที่นิวเยียร์เสนอความเห็น
งานที่ทำในแต่ละวันก็ไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่ก็จะได้จัดเตรียมเอกสาร พิมพ์งาน และคอยติดต่อประสานงานกับแผนกอื่นบ้างแต่ก็น้อยครั้ง ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับการประชุมหรือติดต่อกับลูกค้า เพิร์ธจะเป็นคนจัดการทั้งหมด
เขาเป็นคนที่ทำงานเก่งมาก ยิ่งได้มาเห็นเขาทำงานก็ยิ่งมีเสน่ห์
‘คนอะไรยิ่งมองก็ยิ่งหล่อ’
“น้องนิวเยียร์ครับ ส่งแฟ้มเอกสารนั้นมาให้พี่หน่อย”
เพิร์ธชี้ไปยังแฟ้มที่วางอยู่ตรงพื้นที่ว่างบนโต๊ะด้านซ้ายมือของเธอ แต่ดูเหมือนว่าคนที่พูดด้วยจะไม่ได้ยิน
“น้องนิวเยียร์ครับ”
“คะ ว่าอะไรนะคะ”
เธอเผลอมองเขาจนไม่เป็นอันทำอะไรอีกแล้ว ไม่ใช่ว่าจะอู้งานหรอกนะ แต่งานที่เธอได้รับมอบหมายทำเสร็จหมดแล้วต่างหาก
“พี่ขอแฟ้มสีแดงหน่อยครับ”
“อ๋อ นี่ค่ะ” นิวเยียร์มองหาแฟ้มที่ว่าแล้วรีบส่งให้กับเลขาหนุ่ม
เวลาที่ทั้งสองนั่งทำงานด้วยกัน เพิร์ธจะเรียกว่าน้องเหมือนเดิมแล้ว แต่ถ้าอยู่ต่อหน้าเพื่อนร่วมงานยังคงให้เกียรติเรียกว่าคุณอยู่ แต่เธอก็เข้าใจได้ เขาเป็นผู้ใหญ่ก็ต้องรักษาภาพลักษณ์และมารยาทในสถานที่ทำงาน
ช่วงพักเที่ยงเพิร์ธและนิวเยียร์ก็ลงลิฟต์ไปพร้อมกัน เพราะทั้งสองคนมักจะออกไปกินข้าวด้วยกันข้างนอก อันที่จริงก็เป็นเพราะเธออ้อนขอไปด้วย และเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ
“หนูขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึงนะคะ” พอลงไปถึงชั้นล่างเธอก็เอ่ยขึ้น
“ครับ”
นิวเยียร์แยกตัวไปเข้าห้องน้ำเพราะอยากจะทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อนจะไปร้านอาหาร เวลานั่งกินข้าวจะได้ไม่ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำแล้วปล่อยให้เขานั่งเฝ้าโต๊ะคนเดียว
“กำลังจะไปกินข้าวเหรอคะพี่นิวเยียร์”
ระหว่างที่เธอทำธุระในห้องน้ำเสร็จและกำลังล้างมืออยู่ นักศึกษาฝึกงานในแผนกประชาสัมพันธ์ที่มายืนล้างมือเหมือนกันก็ได้ทักเธอขึ้น
“จ้ะ”
“ฝ้ายเห็นว่าพี่สนิทกับคุณพิรัชย์ เคยรู้จักกันมาก่อนเหรอคะ”
สาวรุ่นน้องเข้ามาฝึกงานที่นี่ไล่เลี่ยกับนิวเยียร์แค่ไม่กี่วัน แต่ฝ้ายก็รู้สึกว่าสองคนนี้ดูจะสนิทกันเร็วมากราวกับรู้จักกันมาก่อน ถ้าไม่อย่างนั้นก็คงจะเป็นแฟนกัน เพราะเห็นออกไปกินข้าวตอนพักเที่ยงด้วยกันทุกวัน
“น้องฝ้ายถามทำไมเหรอจ๊ะ” นิวเยียร์ชักจะสงสัยกับคำถามของเด็กฝึกงานคนนี้
“พี่นิวเยียร์ตอบมาก่อนสิคะ แล้วแป้งจะบอก” สาวรุ่นน้องระบายยิ้มเขิน บิดตัวไปมาจนเธอชักจะหมั่นไส้ ถ้าให้เดาคงจะชอบผู้ชายคนเดียวกับเธอแน่ ๆ
“ใช่จ้ะ เรารู้จักกัน”
“งั้นหนูขอรบกวนพี่นิวเยียร์สักอย่างได้ไหมคะ”
“อะไรเหรอ”
“ขอเบอร์คุณพิรัชย์ให้หน่อยได้ไหมคะ ฝ้ายชอบคุณพิรัชย์ค่ะ”
ฝ้ายยื่นมือมาจับมือของนิวเยียร์เพื่อขอร้อง เธอชอบหนุ่มหล่อมาดนิ่งขรึมคนนี้มากจริง ๆ เห็นแค่แวบแรกก็รู้สึกชอบขึ้นมาทันที ยิ่งได้รู้จากคนในบริษัทว่าเขายังไม่มีแฟน เธอก็ยิ่งสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่จะให้ไปขอเองเธอก็ไม่กล้า จึงได้ฝากความหวังไว้ที่สาวรุ่นพี่
“คงไม่ได้หรอกจ้ะ เพราะเขากำลังจะมีแฟน” นิวเยียร์รีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม คิดจะจีบคนของเธออย่างนั้นหรือ ฝันไปเถอะ
“อ้าว ก็ไหนคนในบริษัทพูดกันว่าคุณพิรัชย์ยังไม่มีแฟนไม่ใช่เหรอคะ เสียดายจัง”
“ไม่ต้องเสียดายผู้ชายที่ยังไม่ได้เป็นของเราหรอกจ้ะ หาเอาใหม่นะ คนนี้มีเจ้าของแล้ว”
นิวเยียร์คลี่ยิ้มเล็กน้อยเอ่ยกับสาวรุ่นน้อง พลางยกมือขึ้นตบที่หัวไหล่ของเธอเบา ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำ
“แฟนเขาก็อยู่ตรงหน้าเธอนี่แล้วไง เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันออกจะบ่อย คิดได้ไงว่าเขายังไม่มีเจ้าของ วันนี้ยังไม่ใช่ก็จริง แต่อนาคตอันใกล้ ฉันได้เป็นเจ้าของหัวใจเขาแน่”
นิวเยียร์บ่นพึมพำไปตลอดทางจนถึงรถของหนุ่มเลขาที่ติดเครื่องเปิดแอร์นั่งรออยู่ในรถ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ” เห็นเธอขึ้นรถมาก็นั่งทำหน้าง้ำงอ ไม่รู้ว่าไปโมโหเรื่องอะไรมา
“มีคนขอเบอร์พี่ค่ะ พี่จะให้รึเปล่า” นิวเยียร์แสร้งถามออกไปแม้ในใจจะรู้สึกหงุดหงิด
“ใครครับ”
“น้องฝ้าย คนสวย ๆ ที่ฝึกงานแผนกประชาสัมพันธ์ยังไงล่ะคะ”
“ให้หรือไม่ให้ดี”
“พี่พิรัชย์” นิวเยียร์หันมาเรียกชื่อของเขาเสียงเข้ม ก่อนจะลดน้ำเสียงลง แต่คิ้วบางก็ยังไม่คลายปมที่เผลอขมวดอย่างลืมตัวออกจากกัน
“ถ้าอยากให้ก็เอาไปให้เองละกันนะคะ เราไปกันเถอะค่ะ หนูหิวข้าวแล้ว” เอ่ยจบเธอก็เบือนหน้าหนีมองไปด้านข้างกระจกแทน
ตอนนี้คงต้องบอกว่าโมโหหิว เพราะเมื่อกี้ยังไม่ค่อยหิวเท่าไร แต่ตอนนี้แม้แต่ช้างทั้งตัวก็คงจะเขมือบลงท้องได้ แล้วเขามองไม่ออกหรืออย่างไรว่าเธอไม่พอใจที่เด็กสาวคนนั้นมาขอเบอร์ ยังมาพูดราวกับถามความเห็นอีกว่าจะให้หรือไม่ให้ดี
เพิร์ธกระตุกยิ้มชอบใจหญิงสาวที่ไม่รู้ไปโมโหอะไรมา มีคนมาขอเบอร์เขาก็จริง แต่เขาก็ยังไม่ได้ให้เสียหน่อย ทำไมต้องทำเหมือนไม่ค่อยพอใจ และมันก็อดไม่ได้ที่จะถามคำถามนี้ออกไป
“ไม่อยากให้พี่ให้เบอร์ไปเหรอครับ”
“ถามทำไมคะ ถ้าพี่อยากให้ก็ให้ไปสิ หนูจะออกความเห็นอะไรได้” เธอตอบเขาทั้งที่ไม่ยอมหันมามองกัน
“ถ้าไม่อยาก พี่ก็จะไม่ให้”
เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องถามความเห็นเธอ แต่ถ้าให้เดา คิดว่าเธอกำลังไม่พอใจเรื่องนี้อยู่
“ไม่อยากค่ะ”
นิวเยียร์หันขวับมองไปยังคนที่ขับรถอยู่ แล้วก็เผลอหลุดความต้องการที่แท้จริงออกมา ก่อนจะชะงักลมหายใจที่เผลอพูดอะไรบางอย่างออกไปแล้ว แล้วหลุบตามองต่ำไม่กล้าสบตา
“พี่ไม่คิดจะให้เบอร์ใครอยู่แล้วครับ”
ก็อย่างที่เคยบอกว่าเขายังไม่ได้คิดที่จะมีใครในชีวิต และที่ผ่านมาก็ไม่ใช่มีแค่นักศึกษาฝึกงานรายนี้ที่มาขอเบอร์ แต่ผู้หญิงทุกคนที่เข้าหาก็โดนเขาปฏิเสธทั้งหมด เพราะไม่อยากให้ความหวังใคร
“แล้วถ้าหนูขอล่ะคะ พี่จะให้รึเปล่า”
เพิร์ธระบายยิ้มมุมปาก จ้องใบหน้าหวานที่รอฟังคำตอบเพียงแค่ชั่วครู่ จากนั้นก็หันไปขับรถต่อโดยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป“ว่ายังไงคะ ถ้าหนูขอพี่จะให้ไหม” นิวเยียร์เอ่ยออกไปอีกครั้ง และรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อเธอบอกใบ้ไปตั้งหลายครั้งแล้วว่าคนที่กำลังจีบคือเขา แต่ทำไมถึงได้ซึนและความรู้สึกช้าขนาดนี้‘นี่เขาแกล้งไม่เข้าใจ หรือเข้าใจแล้วแต่ไม่สนใจเธอกันแน่’แต่แล้วความเงียบที่ได้รับกลับมาก็ทำให้เธอถอนหายใจ เบือนหน้ามองวิวข้างทางแทน และข้าวมื้อเที่ยงก็กินได้แค่ไม่กี่คำ จากตอนแรกที่คิดว่าโมโหจนหิวข้าวมาก อยากจะกินให้หายหงุดหงิด แต่พอเขาเงียบ เธอก็หมดอารมณ์กินข้าวไปโดยปริยายระหว่างทำงานในช่วงบ่าย นิวเยียร์ก็นั่งทำหน้าบึ้งตึงและไม่คุยเล่นกับเขาเหมือนเช่นเคย นอกจากจะถามเรื่องงาน และหลังจากทำงานเสร็จก็ถึงเวลากลับเสียทีขณะที่ต่างฝ่ายกำลังจะแยกย้ายเข้าห้องตัวเอง แต่แล้วชายหนุ่มก็ขานชื่อเธอขึ้น“น้องนิวเยียร์ครับ”“คะ” เธอหันกลับไปมองด้วยใบหน้าเหนื่อยล้าราวกับคนหมดแรง แค่เขาไม่ให้เบอร์ เธอก็เหมือนคนหมดอาลัยตายอยากและซึมเป็นส้วม“พี่ขอโทรศัพท์หน่อยสิครับ”“เอาไปทำไมคะ” เธอไม่ทันได้คิดก็รีบตอบกลับไป “หรือว
ณ สถานบันเทิงแห่งหนึ่งนิวเยียร์ ณัฐชยาน์ ศิลป์สุนทรกมล หญิงสาวที่อยู่ในชุดเสื้อแขนยาวสีดำเปิดไหล่กว้าง กระโปรงตัวสั้นสีดำปักเลื่อมประกายวิบวับสะท้อนกับแสงหลากสีในผับดัง กำลังนั่งดื่มเหล้าตามลำพังด้วยความเคยชินเธอเป็นคนชอบดื่มและออกมาเที่ยวกลางคืนอาทิตย์ละครั้ง สองครั้ง และทุกครั้งก็มักจะนั่งอยู่คนเดียวเพราะเพื่อนสนิทก็แต่งงานมีสามีแล้ว มีเพียงแค่เธอที่อายุก็ย่างจะเข้ายี่สิบสี่ปี แต่ก็ยังไม่เคยมีแฟนแม้แต่คนเดียว“ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ” หนุ่มหล่อที่ออกมาเที่ยวกลางคืนเอ่ยกับเธอ“เอ่อ…”“ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ พอดีผมมาเที่ยวคนเดียวเหมือนกัน แค่อยากหาคนนั่งดื่มเป็นเพื่อน” หนุ่มคนดังกล่าวเอ่ยออกมาอีกครั้ง เพราะเห็นว่าหญิงสาวกำลังใช้ความคิดและยังไม่ได้ตอบกลับมา“นั่งด้วยกันก็ได้ค่ะ” ไหน ๆ เธอก็นั่งคนเดียวอยู่แล้ว มีเพื่อนดื่มด้วยสักคนก็ดีเหมือนกัน“ผมขอเลี้ยงคุณนะครับ” หนุ่มหล่อโชว์ความใจป้ำเสนอตัวเลี้ยงเหล้าสาวสวยนิวเยียร์ก็ยกยิ้มพยักหน้าขึ้นลงเป็นเชิงตอบรับกับน้ำใจของการเจอกันเป็นครั้งแรกเวลาผ่านไปประมาณสามชั่วโมง เหล้าขวดที่สองก็ได้พร่องลงจนเหลือก้นขวด นิวเยียร์ก็เกิดรู้สึกร้อนผ่าว
เพิร์ธจำใจต้องเลี้ยวรถกลับคอนโดมิเนียมของตน เพราะจะโทรไปขอที่อยู่ของนิวเยียร์จากเจ้านายมันก็ดึกเกินไปพอไปถึงก็หยิบกระดาษทิชชูที่มีติดรถไว้มาเช็ดคราบที่เปรอะเปื้อนเต็มหว่างขา จากนั้นก็ลงจากรถเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งที่หญิงสาวนั่ง ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วอุ้มเธอออกจากรถ พร้อมกับคว้ากระเป๋าสะพายของเธอออกมาด้วยเขาพาเธอเข้าไปในลิฟต์แล้วกดชั้นที่พักอยู่ เมื่อขึ้นไปถึงห้องก็อุ้มคนที่นอนหลับสบายเข้าไปวางบนเตียงขนาดคิงไซซ์อย่างเบามือ จากนั้นก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เพิร์ธเข้าไปนั่งที่ขอบเตียงแล้วเขย่าแขนเรียก แต่นิวเยียร์ก็ไม่ยอมตื่น พอทำอะไรไม่ได้ก็คงต้องปล่อยให้นอนค้างที่นี่สักคืน เขาจึงลุกไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็ก นำไปชุบน้ำแล้วบิดหมาดมาเช็ดใบหน้าที่แดงระเรื่อและลำคอของคนเมา“อือ” นิวเยียร์รู้สึกเย็นวาบจนสะดุ้งแต่ก็ยังไม่ลืมดวงตาที่หนักอึ้ง ได้แต่ส่งเสียงร้องประท้วงในลำคอ พร้อมกับปัดป่ายแขนไปมาเนื่องจากถูกรบกวน“เช็ดตัวก่อนครับ”เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับจับแขนของเธอให้อยู่นิ่งแล้วใช้ผ้าเช็ดทั้งสองข้าง พลางส่งสายตามองไปยังช่วงหน้าอกและแผ่นหลังที่อยู่นอกร่มผ้า ก่อนจะเบี่ยงสายตามองไปทางอื่นพร้อม
หลังจากที่เพิร์ธส่งหญิงสาวกลับไปเอารถที่ผับ นิวเยียร์ก็รีบขับกลับคอนโด และเมื่อไปถึงห้องก็วิ่งไปที่หน้ากระจกเพื่อส่องดูสภาพอันน่าอับอายของตัวเอง ไม่คิดว่าการเจอกันในครั้งนี้จะทำให้เธอขายขี้หน้า แทนที่เขาจะได้เห็นเธอในสภาพที่ดีกว่านี้ แต่กลับได้เห็นผู้หญิงเมาจนเอาตัวเองไม่รอด แถมยังอ้วกใส่เขาอีกต่างหาก“ยัยนิวเยียร์เอ๊ย แกนี่ขายขี้หน้าเก่งชะมัด”แล้วอย่างนี้เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ครั้งหน้าหากเจอกันอีกเธอจะกล้าสู้หน้าเขาอีกเหรอ“อย่าคิดอย่างนั้นสิ เธอมันใจกล้าหน้าด้านอยู่แล้วยัยนิวเยียร์ เจอก็เจอสิ จะกลัวอะไร” เธอได้แต่ปลอบใจและเรียกความกล้าให้กับตัวเองผ่านเงาในกระจกหลังจากอาบน้ำแต่งตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่ ก็ขึ้นไปนั่งบนเตียงส่งมือเล็กไปหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรู ต่อสายไปหาเพื่อนรักเพื่อเมาท์มอยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น“ยัยพรีม แกรู้ไหมว่าเมื่อคืนฉันนอนที่ไหน” พอเพื่อนรักกดรับสาย นิวเยียร์ก็รีบเอ่ยออกไปทันทีด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น(อย่าบอกนะว่าแกโดนผู้ชายคนนั้นหิ้วกลับไปด้วย)พรีมรู้สึกตกใจกับคำถามที่ได้รับเลยรีบถามกลับ“จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้ไปกับผู้ชายคนนั้นสักหน่อย” ใครจะอยา
เฮือก!!!!!“พี่พิรัชย์”เธอสะดุ้งตื่นขึ้นในช่วงค่ำของวันพร้อมกับเรียกหาคนที่กำลังจะมีช่วงเวลาดี ๆ ร่วมกัน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากอก พอหันมองหาคนที่กอดจูบกันก็ปรากฏว่าไม่มีใคร และเสื้อผ้าก็ยังอยู่ครบ“ฝันไปเหรอเนี่ย”นิวเยียร์ยู่ปากออกมาด้านหน้าพร้อมกับถอนหายใจราวกับเสียดาย ขนาดฝันยังหวงเนื้อหวงตัว เขาได้เห็นเธอล่อนจ้อนไม่เหลือเสื้อผ้าเลยสักชิ้น แต่เธอกลับได้เห็นแค่ท่อนบนของเขาเท่านั้น‘ขี้โกงชะมัด’พอนึกถึงหน้าอกขาว ๆ ก็ทำให้หญิงสาวถึงกับหลุดยิ้มแล้วบิดตัวเขิน ล้มตัวลงนอนกอดผ้าห่มพลิกตะแคงซ้ายทีขวาทีราวกับคนเสียสติ คิดถึงหน้าของคนที่เข้ามาทำให้ใจเต้นแรง นี่ขนาดแค่ในความฝัน แล้วถ้าเป็นความจริงมันจะฟินสักแค่ไหนคิดแล้วก็น่าเสียดายที่ในความฝันยังไม่ทันได้เข้าด้ายเข้าเข็มแต่เธอก็ดันสะดุ้งตื่นเสียก่อน มาทำให้อยากแล้วก็จากไป ทำไมไม่ทำให้มันเสร็จ ๆ กันนะสองอาทิตย์ต่อมาราวกับว่าโชคชะตาเป็นใจให้เธอและเขามีโอกาสได้พบกันอีกครั้งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และเขาก็กำลังนั่งรออาหารอยู่เพียงลำพัง“ขอนั่งด้วยนะคะ”คนที่นั่งอยู่ก่อนเงยหน้าขึ้นมองสาวสวยที่มาขอนั่งด้วย แต่ก็ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาเพิร์ธกลับจากที่ทำงานและกำลังเดินตรงไปที่ห้องพักบนชั้นเก้าของคอนโดสุดหรู พอเปิดเข้าไปในห้องก็ถอดเสื้อสูตตัวนอกออก ดึงชายเสื้อเชิ้ตสีขาวออกจากเอวกางเกง พลางเดินเข้าไปในครัวเพื่อจะได้สะดวกในการทำอาหาร แล้วจัดการนำวัตถุดิบในตู้เย็นออกมาเพื่อทำมื้อเย็นกริ้ง กริง…เขาละสายตาจากเนื้อที่กำลังหมักอยู่ในชามสีใส เย็นนี้ตั้งใจจะทำสเต๊กเนื้อเป็นมื้อเย็น แต่ก็ต้องถูกขัดจังหวะจากใครก็ไม่รู้ที่มากดกริ่งหน้าห้อง และพอเขาเดินไปเปิดประตูก็ไม่พบใคร เห็นเพียงแค่ถุงที่ห้อยอยู่ตรงคันโยกของประตูก็พลันรู้สึกแปลกใจจึงหยิบขึ้นมาเปิดดู ก็พบว่าเป็นเค้กชิ้นเล็กรสช็อกโกแลตวางอยู่ในกล่อง พร้อมกับนมรสสตรอว์เบอรีที่อยู่ในขวดใสมีฉลากน่ารักติดอยู่เขาหันมองซ้ายทีขวาทีเผื่อว่าจะมีใครลืมเอาไว้ผิดห้องแต่ก็ไม่พบใคร จึงถือถุงนั้นเข้าไปในห้องแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นเพราะไม่กล้ากิน ปกติเขาไม่เคยสั่งของขึ้นมาส่งถึงหน้าห้อง หรือได้รับของจากใครแบบนี้เลยหลังจากกินมื้อเย็นเสร็จเขาก็นั่งทำงานต่อจนดึก ก็เข้าไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนเพื่อให้พร้อมกับการทำงานในเช้าอีกวันในขณะที่หญิงสาวที่ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่วันแรกก็รู้สึ
‘ไหน ๆ ก็โดนจับได้แล้ว ทำไมเมื่อกี้ไม่ขอเข้าไปนั่งเล่นที่ห้องของเขานะ’พอคิดได้ดังนั้นนิวเยียร์ก็เดินไปที่หน้ากระจก สำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผม ก่อนจะเดินออกจากห้องไปก๊อก ก๊อกคนในห้องที่กำลังต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสชาติจัดจ้าน เอาไว้กินคู่กับไข่ตุ๋นที่ได้มาเมื่อครู่ เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูก็เดินออกจากห้องครัวเพื่อไปดูว่าใครมา“น้องนิวเยียร์”“ขอเข้าไปได้ไหมคะ” หญิงสาวคลี่ยิ้มกว้างพยักเพยิดใบหน้าสวยและมองเข้าไปในห้องที่เคยมานอนค้างแล้วครั้งหนึ่ง“ครับ” จะปฏิเสธก็กระไรอยู่ เลยอนุญาตให้เธอเข้ามานิวเยียร์เดินตามเขาเข้าไปในห้องขนาดกว้าง แต่ข้าวของเครื่องใช้กลับถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ บ่งบอกถึงผู้อยู่อาศัยที่รักความสะอาดและความเรียบร้อย แต่แล้วจมูกของเธอได้รับกลิ่นที่โชยออกมาจากห้องครัว“ต้มบะหมี่เหรอคะ กลิ่นหอมจัง”“ครับ”“ขอกินด้วยได้ไหมคะ”ใจกล้าหน้าด้านแล้วทำกระเพาะว่างเข้าไว้ แม้จะกินไข่ตุ๋นไปแล้วหลายถ้วย แต่ก็ต้องเอ่ยออกไปเหมือนยังไม่ได้กินอะไร เขาจะได้ทำให้กิน และทั้งสองก็จะได้นั่งกินมื้อค่ำด้วยกัน“เอ่อ… ครับ นั่งรอตรงนี้ก่อนนะครับ ว่าแต่ชอบกินเผ็ดไหม” เขาผายมือไปตรงโ
“แกไม่ต้องกังวลหรอก ช่วงนี้พี่พิรัชย์งานยุ่งน่ะ กลับดึกทุกวันเลย”“พี่ธีร์ก็กลับดึกเหมือนกันเหรอ” เธอถามพรีมด้วยความสงสัย ถ้าพิรัชย์กลับดึก แสดงว่าสามีของเพื่อนก็ต้องกลับดึกเหมือนกัน เพราะทำงานด้วยกัน“อื้ม คงจะเป็นแบบนี้สักสองสามเดือน”“ทำไมล่ะ”“ก็พี่กิ่งแก้วที่เป็นผู้ช่วยเลขาลาคลอดน่ะ งานทั้งหมดพี่พิรัชย์เลยต้องรับผิดชอบแทนไปก่อน และพี่ธีร์เองก็รับงานในส่วนของพี่พิรัชย์มาทำเองบางส่วน”“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง คงจะเหนื่อยแย่เลยเนาะ”แต่แล้วก็มีความคิดดี ๆ ผุดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม“เออ แก” นิวเยียร์โพล่งขึ้นมาเสียงดังจนพรีมแทบจะสะดุ้ง“อยู่ใกล้กันแค่นี้แกจะเสียงดังทำไม ฉันเกือบหัวใจวายตายแล้วเนี่ย” พรีมแกล้งเอ็ดเพื่อน“แกช่วยอะไรฉันหน่อยสิ”“ช่วยอะไร” พรีมรู้สึกถึงความคาดหวังบางอย่างจากดวงตาของเพื่อนที่ฉายแววออกมา“ช่วยพูดกับพี่ธีร์ให้ฉันเข้าไปเป็นผู้ช่วยของพี่พิรัชย์ที นะ นะ ยัยพรีม ช่วยฉันหน่อย แค่ให้ฉันได้ช่วยในระหว่างที่พี่กิ่งแก้วลาคลอดก็พอ” นิวเยียร์ทำหน้าอ้อน ยื่นมือไปจับมือของเพื่อนแล้วส่งสายตาอ้อนวอน“...” พรีมนั่งนิ่งราวกับใช้ความคิด ขณะที่นั่งมองหน้าเพื่อนที่กำลังเขย่าแขนของเธอเ
เพิร์ธระบายยิ้มมุมปาก จ้องใบหน้าหวานที่รอฟังคำตอบเพียงแค่ชั่วครู่ จากนั้นก็หันไปขับรถต่อโดยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป“ว่ายังไงคะ ถ้าหนูขอพี่จะให้ไหม” นิวเยียร์เอ่ยออกไปอีกครั้ง และรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อเธอบอกใบ้ไปตั้งหลายครั้งแล้วว่าคนที่กำลังจีบคือเขา แต่ทำไมถึงได้ซึนและความรู้สึกช้าขนาดนี้‘นี่เขาแกล้งไม่เข้าใจ หรือเข้าใจแล้วแต่ไม่สนใจเธอกันแน่’แต่แล้วความเงียบที่ได้รับกลับมาก็ทำให้เธอถอนหายใจ เบือนหน้ามองวิวข้างทางแทน และข้าวมื้อเที่ยงก็กินได้แค่ไม่กี่คำ จากตอนแรกที่คิดว่าโมโหจนหิวข้าวมาก อยากจะกินให้หายหงุดหงิด แต่พอเขาเงียบ เธอก็หมดอารมณ์กินข้าวไปโดยปริยายระหว่างทำงานในช่วงบ่าย นิวเยียร์ก็นั่งทำหน้าบึ้งตึงและไม่คุยเล่นกับเขาเหมือนเช่นเคย นอกจากจะถามเรื่องงาน และหลังจากทำงานเสร็จก็ถึงเวลากลับเสียทีขณะที่ต่างฝ่ายกำลังจะแยกย้ายเข้าห้องตัวเอง แต่แล้วชายหนุ่มก็ขานชื่อเธอขึ้น“น้องนิวเยียร์ครับ”“คะ” เธอหันกลับไปมองด้วยใบหน้าเหนื่อยล้าราวกับคนหมดแรง แค่เขาไม่ให้เบอร์ เธอก็เหมือนคนหมดอาลัยตายอยากและซึมเป็นส้วม“พี่ขอโทรศัพท์หน่อยสิครับ”“เอาไปทำไมคะ” เธอไม่ทันได้คิดก็รีบตอบกลับไป “หรือว
ตั้งแต่ได้ไปทำงานด้วยกันนิวเยียร์ก็นอนดึกกว่าเดิม เพราะงานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ที่รับทำยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่เธอก็ทำเองแค่งานที่ใช้เวลาไม่เกินสามชั่วโมง ถ้าเป็นงานยากช่วงนี้คงต้องส่งให้กับโรงพิมพ์ของพรีมเป็นคนทำไปก่อนทุกเช้าเธอจะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ตีห้าครึ่งเพื่อที่จะอาบน้ำแต่งตัว และแต่งหน้าสวย ๆ เตรียมไปกินข้าวกับใครบางคนก๊อก ก๊อกทันทีที่ประตูเปิดออก นิวเยียร์ก็เกิดอาการร้อนที่ใบหน้า หัวใจดวงน้อยเต้นแรงตึกตักราวกับกำลังตื่นเต้น เมื่อเจ้าของห้องสุดหล่อที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จเพราะได้กลิ่นหอมของสบู่อ่อน ๆ โชยเข้าจมูก แถมเขายังสวมใส่แค่กางเกงวอร์มสีดำ เผยช่วงบนให้ได้เห็นหน้าอกขาว ๆ หน้าท้องมีซิกซ์แพ็กเป็นลอนงาม คล้ายกับในความฝันของเธอไม่มีผิดนิวเยียร์ยืนนิ่งจ้องมองเขาตาไม่กระพริบ ลอบกลืนน้ำลายลงคอราวกับเห็นของกินแสนอร่อยวางอยู่ตรงหน้า“หัวนมชมพู” เธอเผลอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ยกยิ้มที่ริมฝีปากมาอย่างลืมตัว“น้องนิวเยียร์ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยชื่อเพื่อเรียกสติเธอเอาแต่ยืนจ้องตุ่มไตสองเม็ดที่หน้าอก ดวงตาหวานเยิ้ม ทำเอาคนถูกมองเริ่มจะทำตัวไม่ถูกจนต้องเอาผ้าที่เช็ดผมมาบังแผงอกแท
“แกไม่ต้องกังวลหรอก ช่วงนี้พี่พิรัชย์งานยุ่งน่ะ กลับดึกทุกวันเลย”“พี่ธีร์ก็กลับดึกเหมือนกันเหรอ” เธอถามพรีมด้วยความสงสัย ถ้าพิรัชย์กลับดึก แสดงว่าสามีของเพื่อนก็ต้องกลับดึกเหมือนกัน เพราะทำงานด้วยกัน“อื้ม คงจะเป็นแบบนี้สักสองสามเดือน”“ทำไมล่ะ”“ก็พี่กิ่งแก้วที่เป็นผู้ช่วยเลขาลาคลอดน่ะ งานทั้งหมดพี่พิรัชย์เลยต้องรับผิดชอบแทนไปก่อน และพี่ธีร์เองก็รับงานในส่วนของพี่พิรัชย์มาทำเองบางส่วน”“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง คงจะเหนื่อยแย่เลยเนาะ”แต่แล้วก็มีความคิดดี ๆ ผุดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม“เออ แก” นิวเยียร์โพล่งขึ้นมาเสียงดังจนพรีมแทบจะสะดุ้ง“อยู่ใกล้กันแค่นี้แกจะเสียงดังทำไม ฉันเกือบหัวใจวายตายแล้วเนี่ย” พรีมแกล้งเอ็ดเพื่อน“แกช่วยอะไรฉันหน่อยสิ”“ช่วยอะไร” พรีมรู้สึกถึงความคาดหวังบางอย่างจากดวงตาของเพื่อนที่ฉายแววออกมา“ช่วยพูดกับพี่ธีร์ให้ฉันเข้าไปเป็นผู้ช่วยของพี่พิรัชย์ที นะ นะ ยัยพรีม ช่วยฉันหน่อย แค่ให้ฉันได้ช่วยในระหว่างที่พี่กิ่งแก้วลาคลอดก็พอ” นิวเยียร์ทำหน้าอ้อน ยื่นมือไปจับมือของเพื่อนแล้วส่งสายตาอ้อนวอน“...” พรีมนั่งนิ่งราวกับใช้ความคิด ขณะที่นั่งมองหน้าเพื่อนที่กำลังเขย่าแขนของเธอเ
‘ไหน ๆ ก็โดนจับได้แล้ว ทำไมเมื่อกี้ไม่ขอเข้าไปนั่งเล่นที่ห้องของเขานะ’พอคิดได้ดังนั้นนิวเยียร์ก็เดินไปที่หน้ากระจก สำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผม ก่อนจะเดินออกจากห้องไปก๊อก ก๊อกคนในห้องที่กำลังต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสชาติจัดจ้าน เอาไว้กินคู่กับไข่ตุ๋นที่ได้มาเมื่อครู่ เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูก็เดินออกจากห้องครัวเพื่อไปดูว่าใครมา“น้องนิวเยียร์”“ขอเข้าไปได้ไหมคะ” หญิงสาวคลี่ยิ้มกว้างพยักเพยิดใบหน้าสวยและมองเข้าไปในห้องที่เคยมานอนค้างแล้วครั้งหนึ่ง“ครับ” จะปฏิเสธก็กระไรอยู่ เลยอนุญาตให้เธอเข้ามานิวเยียร์เดินตามเขาเข้าไปในห้องขนาดกว้าง แต่ข้าวของเครื่องใช้กลับถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ บ่งบอกถึงผู้อยู่อาศัยที่รักความสะอาดและความเรียบร้อย แต่แล้วจมูกของเธอได้รับกลิ่นที่โชยออกมาจากห้องครัว“ต้มบะหมี่เหรอคะ กลิ่นหอมจัง”“ครับ”“ขอกินด้วยได้ไหมคะ”ใจกล้าหน้าด้านแล้วทำกระเพาะว่างเข้าไว้ แม้จะกินไข่ตุ๋นไปแล้วหลายถ้วย แต่ก็ต้องเอ่ยออกไปเหมือนยังไม่ได้กินอะไร เขาจะได้ทำให้กิน และทั้งสองก็จะได้นั่งกินมื้อค่ำด้วยกัน“เอ่อ… ครับ นั่งรอตรงนี้ก่อนนะครับ ว่าแต่ชอบกินเผ็ดไหม” เขาผายมือไปตรงโ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาเพิร์ธกลับจากที่ทำงานและกำลังเดินตรงไปที่ห้องพักบนชั้นเก้าของคอนโดสุดหรู พอเปิดเข้าไปในห้องก็ถอดเสื้อสูตตัวนอกออก ดึงชายเสื้อเชิ้ตสีขาวออกจากเอวกางเกง พลางเดินเข้าไปในครัวเพื่อจะได้สะดวกในการทำอาหาร แล้วจัดการนำวัตถุดิบในตู้เย็นออกมาเพื่อทำมื้อเย็นกริ้ง กริง…เขาละสายตาจากเนื้อที่กำลังหมักอยู่ในชามสีใส เย็นนี้ตั้งใจจะทำสเต๊กเนื้อเป็นมื้อเย็น แต่ก็ต้องถูกขัดจังหวะจากใครก็ไม่รู้ที่มากดกริ่งหน้าห้อง และพอเขาเดินไปเปิดประตูก็ไม่พบใคร เห็นเพียงแค่ถุงที่ห้อยอยู่ตรงคันโยกของประตูก็พลันรู้สึกแปลกใจจึงหยิบขึ้นมาเปิดดู ก็พบว่าเป็นเค้กชิ้นเล็กรสช็อกโกแลตวางอยู่ในกล่อง พร้อมกับนมรสสตรอว์เบอรีที่อยู่ในขวดใสมีฉลากน่ารักติดอยู่เขาหันมองซ้ายทีขวาทีเผื่อว่าจะมีใครลืมเอาไว้ผิดห้องแต่ก็ไม่พบใคร จึงถือถุงนั้นเข้าไปในห้องแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นเพราะไม่กล้ากิน ปกติเขาไม่เคยสั่งของขึ้นมาส่งถึงหน้าห้อง หรือได้รับของจากใครแบบนี้เลยหลังจากกินมื้อเย็นเสร็จเขาก็นั่งทำงานต่อจนดึก ก็เข้าไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนเพื่อให้พร้อมกับการทำงานในเช้าอีกวันในขณะที่หญิงสาวที่ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่วันแรกก็รู้สึ
เฮือก!!!!!“พี่พิรัชย์”เธอสะดุ้งตื่นขึ้นในช่วงค่ำของวันพร้อมกับเรียกหาคนที่กำลังจะมีช่วงเวลาดี ๆ ร่วมกัน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากอก พอหันมองหาคนที่กอดจูบกันก็ปรากฏว่าไม่มีใคร และเสื้อผ้าก็ยังอยู่ครบ“ฝันไปเหรอเนี่ย”นิวเยียร์ยู่ปากออกมาด้านหน้าพร้อมกับถอนหายใจราวกับเสียดาย ขนาดฝันยังหวงเนื้อหวงตัว เขาได้เห็นเธอล่อนจ้อนไม่เหลือเสื้อผ้าเลยสักชิ้น แต่เธอกลับได้เห็นแค่ท่อนบนของเขาเท่านั้น‘ขี้โกงชะมัด’พอนึกถึงหน้าอกขาว ๆ ก็ทำให้หญิงสาวถึงกับหลุดยิ้มแล้วบิดตัวเขิน ล้มตัวลงนอนกอดผ้าห่มพลิกตะแคงซ้ายทีขวาทีราวกับคนเสียสติ คิดถึงหน้าของคนที่เข้ามาทำให้ใจเต้นแรง นี่ขนาดแค่ในความฝัน แล้วถ้าเป็นความจริงมันจะฟินสักแค่ไหนคิดแล้วก็น่าเสียดายที่ในความฝันยังไม่ทันได้เข้าด้ายเข้าเข็มแต่เธอก็ดันสะดุ้งตื่นเสียก่อน มาทำให้อยากแล้วก็จากไป ทำไมไม่ทำให้มันเสร็จ ๆ กันนะสองอาทิตย์ต่อมาราวกับว่าโชคชะตาเป็นใจให้เธอและเขามีโอกาสได้พบกันอีกครั้งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และเขาก็กำลังนั่งรออาหารอยู่เพียงลำพัง“ขอนั่งด้วยนะคะ”คนที่นั่งอยู่ก่อนเงยหน้าขึ้นมองสาวสวยที่มาขอนั่งด้วย แต่ก็ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก
หลังจากที่เพิร์ธส่งหญิงสาวกลับไปเอารถที่ผับ นิวเยียร์ก็รีบขับกลับคอนโด และเมื่อไปถึงห้องก็วิ่งไปที่หน้ากระจกเพื่อส่องดูสภาพอันน่าอับอายของตัวเอง ไม่คิดว่าการเจอกันในครั้งนี้จะทำให้เธอขายขี้หน้า แทนที่เขาจะได้เห็นเธอในสภาพที่ดีกว่านี้ แต่กลับได้เห็นผู้หญิงเมาจนเอาตัวเองไม่รอด แถมยังอ้วกใส่เขาอีกต่างหาก“ยัยนิวเยียร์เอ๊ย แกนี่ขายขี้หน้าเก่งชะมัด”แล้วอย่างนี้เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ครั้งหน้าหากเจอกันอีกเธอจะกล้าสู้หน้าเขาอีกเหรอ“อย่าคิดอย่างนั้นสิ เธอมันใจกล้าหน้าด้านอยู่แล้วยัยนิวเยียร์ เจอก็เจอสิ จะกลัวอะไร” เธอได้แต่ปลอบใจและเรียกความกล้าให้กับตัวเองผ่านเงาในกระจกหลังจากอาบน้ำแต่งตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่ ก็ขึ้นไปนั่งบนเตียงส่งมือเล็กไปหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรู ต่อสายไปหาเพื่อนรักเพื่อเมาท์มอยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น“ยัยพรีม แกรู้ไหมว่าเมื่อคืนฉันนอนที่ไหน” พอเพื่อนรักกดรับสาย นิวเยียร์ก็รีบเอ่ยออกไปทันทีด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น(อย่าบอกนะว่าแกโดนผู้ชายคนนั้นหิ้วกลับไปด้วย)พรีมรู้สึกตกใจกับคำถามที่ได้รับเลยรีบถามกลับ“จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้ไปกับผู้ชายคนนั้นสักหน่อย” ใครจะอยา
เพิร์ธจำใจต้องเลี้ยวรถกลับคอนโดมิเนียมของตน เพราะจะโทรไปขอที่อยู่ของนิวเยียร์จากเจ้านายมันก็ดึกเกินไปพอไปถึงก็หยิบกระดาษทิชชูที่มีติดรถไว้มาเช็ดคราบที่เปรอะเปื้อนเต็มหว่างขา จากนั้นก็ลงจากรถเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งที่หญิงสาวนั่ง ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วอุ้มเธอออกจากรถ พร้อมกับคว้ากระเป๋าสะพายของเธอออกมาด้วยเขาพาเธอเข้าไปในลิฟต์แล้วกดชั้นที่พักอยู่ เมื่อขึ้นไปถึงห้องก็อุ้มคนที่นอนหลับสบายเข้าไปวางบนเตียงขนาดคิงไซซ์อย่างเบามือ จากนั้นก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เพิร์ธเข้าไปนั่งที่ขอบเตียงแล้วเขย่าแขนเรียก แต่นิวเยียร์ก็ไม่ยอมตื่น พอทำอะไรไม่ได้ก็คงต้องปล่อยให้นอนค้างที่นี่สักคืน เขาจึงลุกไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็ก นำไปชุบน้ำแล้วบิดหมาดมาเช็ดใบหน้าที่แดงระเรื่อและลำคอของคนเมา“อือ” นิวเยียร์รู้สึกเย็นวาบจนสะดุ้งแต่ก็ยังไม่ลืมดวงตาที่หนักอึ้ง ได้แต่ส่งเสียงร้องประท้วงในลำคอ พร้อมกับปัดป่ายแขนไปมาเนื่องจากถูกรบกวน“เช็ดตัวก่อนครับ”เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับจับแขนของเธอให้อยู่นิ่งแล้วใช้ผ้าเช็ดทั้งสองข้าง พลางส่งสายตามองไปยังช่วงหน้าอกและแผ่นหลังที่อยู่นอกร่มผ้า ก่อนจะเบี่ยงสายตามองไปทางอื่นพร้อม
ณ สถานบันเทิงแห่งหนึ่งนิวเยียร์ ณัฐชยาน์ ศิลป์สุนทรกมล หญิงสาวที่อยู่ในชุดเสื้อแขนยาวสีดำเปิดไหล่กว้าง กระโปรงตัวสั้นสีดำปักเลื่อมประกายวิบวับสะท้อนกับแสงหลากสีในผับดัง กำลังนั่งดื่มเหล้าตามลำพังด้วยความเคยชินเธอเป็นคนชอบดื่มและออกมาเที่ยวกลางคืนอาทิตย์ละครั้ง สองครั้ง และทุกครั้งก็มักจะนั่งอยู่คนเดียวเพราะเพื่อนสนิทก็แต่งงานมีสามีแล้ว มีเพียงแค่เธอที่อายุก็ย่างจะเข้ายี่สิบสี่ปี แต่ก็ยังไม่เคยมีแฟนแม้แต่คนเดียว“ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ” หนุ่มหล่อที่ออกมาเที่ยวกลางคืนเอ่ยกับเธอ“เอ่อ…”“ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ พอดีผมมาเที่ยวคนเดียวเหมือนกัน แค่อยากหาคนนั่งดื่มเป็นเพื่อน” หนุ่มคนดังกล่าวเอ่ยออกมาอีกครั้ง เพราะเห็นว่าหญิงสาวกำลังใช้ความคิดและยังไม่ได้ตอบกลับมา“นั่งด้วยกันก็ได้ค่ะ” ไหน ๆ เธอก็นั่งคนเดียวอยู่แล้ว มีเพื่อนดื่มด้วยสักคนก็ดีเหมือนกัน“ผมขอเลี้ยงคุณนะครับ” หนุ่มหล่อโชว์ความใจป้ำเสนอตัวเลี้ยงเหล้าสาวสวยนิวเยียร์ก็ยกยิ้มพยักหน้าขึ้นลงเป็นเชิงตอบรับกับน้ำใจของการเจอกันเป็นครั้งแรกเวลาผ่านไปประมาณสามชั่วโมง เหล้าขวดที่สองก็ได้พร่องลงจนเหลือก้นขวด นิวเยียร์ก็เกิดรู้สึกร้อนผ่าว