นิวเยียร์ที่เดินตามหลังเข้ามาในห้องก็ใช้มือผลักประตูให้ปิดลง แล้วเดินหน้าเข้าหาชายหนุ่ม ส่งมือเล็กทั้งสองข้างจับที่เสื้อสูตบริเวณแผงอก แล้วดันคนตัวสูงจนแผ่นหลังแนบชิดติดกับผนัง“เมาเหรอครับ พี่ไปส่งกลับห้องนะ”“ไม่เมาค่ะ” นิวเยียร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงยานเล็กน้อย ดวงตาคู่หวานช้อนสายตาขึ้นมองคนตัวสูงด้วยสีหน้าจริงจัง“น้องนิวเยียร์มีอะไรรึเปล่าครับ พี่ว่าเราไปนั่งคุยกันที่โซฟาดีไหม”“ไม่ค่ะ พี่ต้องตอบมาก่อน ที่บอกว่าหนูเป็นผู้หญิงของพี่หมายความว่าไง” เธอจำคำนั้นได้ดี คำที่เขาบอกกับผู้ชายตัณหากลับคนนั้น“เอ่อ ถ้าเป็นเรื่องนั้นไม่มีอะไรครับ พี่เห็นเราถูกบังคับให้ดื่มเหล้าเลยพูดไปแบบนั้น ถ้าน้องนิวเยียร์ไม่ชอบ พี่ขอโทษนะ”เขาอาจจะคิดน้อยไปที่เอ่ยออกไปแบบนั้น เขาก็แค่อยากปกป้องเธอ ถ้าไม่บอกว่านิวเยียร์เป็นอะไรกับเขา ชายคู่ค้าคนนั้นไม่ยอมปล่อยมือจากเธอแน่“ไม่ค่ะ ไม่ต้องขอโทษ แต่พี่ต้องรับผิดชอบกับคำพูดของพี่” เอ่ยจบนิวเยียร์ก็ออกแรงดึงเสื้อสูตของเขา แล้วเขย่งปลายเท้าส่งริมฝีปากอวบอิ่มขึ้นไปจูบกับคนตัวสูงเพิร์ธเบิกตาโพลงด้วยเสียอาการ หายใจเข้าออกถี่กระชั้น หัวใจของเขากระตุกเต้นเสียงดัง และไม่รู
เพิร์ธจับขาของหญิงสาวที่เผลอหนีบเข้าหากันแยกออก เผยให้เห็นดอกไม้งามไร้สิ่งปกคลุม ผิวของเธอเนียนละเอียดจนเขาอดใจไม่ได้ที่จะก้มหน้าเข้าไปมองใกล้ ๆ แล้วส่งปลายลิ้นแลบเลียตรงกลางร่อง“อ๊ะ”นิวเยียร์สะดุ้งเล็กน้อยกับสัมผัสแปลกใหม่ เมื่อลิ้นร้ายลากผ่านก็ให้ความรู้สึกเย็นวาบจากน้ำลายที่กระทบกับความเย็นของเครื่องปรับอากาศ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกร้อนวูบวาบจากอารมณ์สวาทลดน้อยลงแม้แต่น้อย“อืม…” เขารัวลิ้นแลบเลีย เปล่งเสียงครางในลำคอ แล้วเน้นย้ำตรงจุดกระสัน“อ๊ะ อื้อ… พะ พี่เพิร์ธ อา…” หญิงสาวดิ้นพล่าน ส่งเสียงครางกระเส่า ไม่นานนักก็รู้สึกเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำหวานออกมาเพิร์ธตวัดปลายลิ้นกวาดเอาน้ำหวานที่ไหลออกมาปริมาณมากเข้าปาก ส่วนหญิงสาวนอนหอบหายใจหลังจากสติได้ล่องลอยจากความสุขสมที่ได้รับเพิร์ธไม่รอช้าจับลำท่อนถูไถกับกลีบอวบอูมขึ้นลงสองสามครั้ง แวะสะกิดจุดคริสตัลทำให้นิวเยียร์เชิดหน้าหลุดปากครางเสียงแผ่ว จากนั้นก็จ่อท่อนเอ็นขนาดใหญ่ตรงปากรู กดเอวสอบเพื่อส่งตัวตนเข้าไปในโพลงอ่อนนุ่ม“อื้อ…” หญิงสาวหลับตาปี๋ มือเล็กกำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่นเธอรับรู้ได้ถึงของแข็งขนาดใหญ่ที่เคลื่อนตัวเข้าไป
หญิงสาวตรงหน้ากำลังคิดอะไรอยู่ คนที่ควรจะรับผิดชอบคือเขาต่างหาก เมื่อคืนทั้งสองคนก็ดื่มมาด้วยกันทั้งคู่ และสิ่งที่ทำลงไปเขาก็มีสติและไตร่ตรองมาดีทุกอย่าง“น้องนิวเยียร์ไม่ต้องรับผิดชอบพี่หรอกครับ”“หมะ หมายความว่ายังไงคะ”ไม่ต้องรับผิดชอบคืออะไร เขาไม่อยากเกี่ยวข้องกับเธออีกอย่างนั้นหรือ นิวเยียร์หน้าถอดสีเล็กน้อย แต่ก็แสร้งยิ้มราวกับว่าไม่ได้คิดอะไร“เรื่องเมื่อคืนพี่ตั้งใจ”เสียงทุ้มที่เอ่ยออกมา พลันทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอเต้นกระหน่ำเสียงดัง ความร้อนเห่อขึ้นบนใบหน้า“ตั้งใจเหรอคะ หมายความว่า…”“พี่มีสติดีครับ พี่ไม่ได้เมา”“แต่หนูผิดที่เข้าหาพี่ก่อน เราไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่หนูก็ยัง…” เธอเอ่ยมาถึงตรงนี้ก็หยุดชะงักถ้อยคำหลังจากนั้นที่ว่า ‘ตั้งใจจะอ่อยเขา’เธออ่อยเขามาโดยตลอด และเรื่องเมื่อคืนมันก็ไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ แต่มันเกิดจากความตั้งใจ“งั้นเราลองมาเป็นอะไรกันดีไหมครับ”ประโยคของเขาทำให้หัวใจของนิวเยียร์เต้นแรงหนักกว่าเดิม ไม่ต่างจากคนพูดที่หน้าอกข้างซ้ายกระตุกเสียงดังตึกตัก ลุ้นว่าจะได้รับคำตอบเช่นไรกลับมา“เป็นอะไรที่ว่าคืออะไรเหรอคะ” แม้ว่าจะดีใจมาก แต่ก็ต้องคุมเชิงแสร้งถามเขาก
ทั้งคู่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เพิร์ธก็พานิวเยียร์ไปกินมื้อเช้าที่ร้านอาหารจีนแห่งหนึ่ง ไม่รู้ว่าอาหารมื้อนี้อร่อย หรือว่าคนที่พามาอร่อยมากกว่ากันแน่ เพราะหญิงสาวตักอาหารเข้าปาก พลางส่งสายตาหวาน อมยิ้มมองไปทางเขาอยู่ตลอดเวลา“มีอะไรติดหน้าพี่รึเปล่าครับ” โดนมองแบบนี้เขาก็ชักจะทำตัวไม่ถูก รู้สึกเขินแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“เปล่าค่ะ พี่หล่ออะ หนูชอบมอง”เพิร์ธกระตุกยิ้มมุมปากที่ได้รับคำชม ก่อนจะตักเป็ดปักกิ่งเมนูเด็ดของร้านวางลงบนจานของสาวสวย“ขอบคุณนะคะ ดูแลดีแบบนี้จะไม่ให้หนูรักได้ยังไง” นิวเยียร์แอบหยอดไปหนึ่งประโยคให้กับผู้ชายแสนดีและอบอุ่นที่นั่งอยู่ตรงข้าม“งั้นก็ให้พี่ดูแลแบบนี้ไปตลอดชีวิตเลยสิครับ”“ทำเป็นปากหวาน พูดแบบนี้จะขอแต่งงานเหรอคะ”คำหวานที่หยอดกลับมาก็ทำเอาเธอเขินแก้มแดงปลั่ง จนแทบจะม้วนตัวลงไปนอนดิ้นอยู่ใต้โต๊ะ“แล้วถ้าพี่ขอ เราจะพร้อมรึเปล่า”“ไวไปรึเปล่าคะ เราเพิ่งคบจะกันได้ไม่ถึงสองชั่วโมงเลยนะคะ”นิวเยียร์หุบรอยยิ้มที่มีเล็กน้อย เมื่อกี้เธอก็แค่แกล้งแซวเล่น แต่ไม่คิดว่าเขาจะตอบกลับมาแบบนี้ ยอมรับว่าเธอแอบตกใจเล็กน้อย เขาคงอยากรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เธอก็ไม่ใช่
รถของเพิร์ธเคลื่อนเข้าไปจอดที่ลานจอดรถของตึกสูงหลายสิบชั้น ก็พากันขึ้นบันไดเลื่อนไปยังชั้นสอง ซึ่งเป็นศูนย์รวมร้านอาหารที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงทั้งสองเข้าไปนั่งที่ร้านชาบูสไตล์ญี่ปุ่น เป็นร้านบุฟเฟต์ที่มีเวลาให้นั่งกินหนึ่งชั่วโมงสามสิบนาที มีทั้งวัตถุดิบที่วางอยู่บนสายพานและสั่งกับพนักงานได้ หลังจากรอจนหม้อน้ำซุปเดือดแล้วก็เริ่มกินกันไปคุยกันไป“ได้ซดน้ำซุปร้อน ๆ แบบนี้มันทำให้สร่างเมาดีนะคะ”“ครับ ถ้าชอบก็กินให้เยอะ ๆ นะ”“หนูผอมเหรอคะ”นิวเยียร์ก้มมองรูปร่างตัวเองที่มีน้ำหนักสี่สิบเก้า ส่วนสูงหนึ่งร้อยหกสิบสอง ซึ่งค่าดัชนีมวลกายก็อยู่ในเกณฑ์ปกติ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มเพื่อรอฟังคำตอบ“เปล่าครับ หุ่นกำลังดีเลย” ดีไปทุกสัดส่วนที่ถูกมือหนาลูบคลึง และบีบขย้ำ“ก็พี่บอกให้หนูกินเยอะ ๆ หนูก็นึกว่าพี่ไม่ชอบคนผอม”“ขอโทษนะครับถ้าพี่ทำให้น้องนิวเยียร์ไม่สบายใจ ไม่ว่าจะหุ่นแบบไหน ถ้าเป็นเราพี่ก็ชอบทั้งนั้น” เขาแค่อยากให้เธอกินให้เต็มอิ่ม ไม่ต้องมัวกังวลเรื่องการรักษาหุ่น“ปากหวาน”ด้วยความที่ดื่มมาจนได้ที่ก็ทำให้เธอเผลอคิดไปอีกแบบ เมื่อกี้เธอก็แค่เสียความมั่นใจเล็กน้อย นึกว่าหุ่นของเ
“ตื่นแล้วเหรอครับ” เพิร์ธเอ่ยถามคนขี้เซาที่เพิ่งรู้สึกตัวตื่นตอนสิบเอ็ดโมง“ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกหนูล่ะคะ”นิวเยียร์ปรือดวงตาขึ้นอย่างงัวเงีย เป็นเพราะเมื่อคืนนอนดึก บวกกับกิจกรรมเสียเหงื่อ ทำให้วันนี้นอนตื่นสายกว่าปกติ และดีที่วันนี้เป็นวันหยุดของเพิร์ธเช่นกัน ทั้งคู่เลยไม่กังวลเรื่องเวลาพักผ่อน“เมื่อคืนดูเหนื่อย ๆ อยากให้เรานอนพักให้เต็มอิ่ม”“พี่เพิร์ธอะ ทำไมต้องพูดว่าเหนื่อยด้วยล่ะคะ” เมื่อคืนก็ต่างคนต่างเหนื่อยมากกว่า เพราะผลัดเปลี่ยนกันทำอยู่ตลอด“หรือว่าไม่จริงครับ ขาสั่นเชียว” เขาแซวเธอด้วยความเอ็นดู แต่ดูเหมือนหญิงสาวคงจะเขินจนหน้าแดง“พี่เพิร์ธ” นิวเยียร์เอ่ยเสียงค้อน“ไม่แกล้งแล้วครับ ไปอาบน้ำเถอะครับ จะได้กินข้าวกัน”“พี่ยังไม่ได้กินเหรอคะ ไม่เห็นต้องรอหนูเลย”นิวเยียร์รู้สึกผิดที่ตื่นสาย แล้วยังปล่อยให้เขารอกินข้าว ทั้งที่มันก็เลยเวลามื้อเช้ามานานมากแล้ว“ไม่เป็นไรครับ พี่เพิ่งตื่นก่อนหน้านี้เอง”ที่จริงเขาตื่นตั้งแต่แปดโมงแล้ว และจิบกาแฟไปหนึ่งแก้วเลยไม่ค่อยหิวเท่าไร อีกอย่างเขาก็อยากรอกินพร้อมกับคนขี้เซามากกว่า“งั้นหนูจะรีบกลับไปอาบน้ำ แล้วมากินข้าวกับพี่นะคะ”“ไม่ต้องก
หลายอาทิตย์ต่อมานิวเยียร์ฝึกทำอาหารง่าย ๆ ได้บ้างแล้ว เย็นนี้เธอเลยตั้งใจจะทำมื้อเย็นไว้รอแฟนหนุ่ม เพราะเขาเพิ่งเข้าประชุมตอนห้าโมงเย็นเลยจะกลับเข้าห้องค่ำ และเมื่อเปิดดูของสดในตู้เย็นเธอก็คิดจะทำสุกี้ทะเล เมนูง่าย ๆ แค่มีผัก กุ้ง ปลาหมึก ลูกชิ้นปลา ไข่ไก่ และวุ้นเส้นก็ทำได้แล้วหลังจากเธอจัดการล้างวัตถุดิบและนำมาหั่นใส่ชามเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่มีน้ำจิ้มสุกี้ จึงออกไปซื้อที่ซูเปอร์มาเก็ตแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคอนโด“ขอโทษค่ะ”ขณะที่เธอกำลังเดินหาชั้นวางน้ำจิ้มสุกี้ ก็ได้มีต้นแขนของใครคนหนึ่งมาชนเธอแบบเฉียดฉิว แต่ด้วยความมีมารยาทเธอจึงเอ่ยขอโทษออกไปก่อน แม้จะไม่ได้เป็นคนผิด เพราะเธอเดินชิดกับชั้นวาง และมั่นใจว่าไม่ได้เกะกะทางเดินอย่างแน่นอน“หัดมองคนซะบ้างนะ ขวางทางอยู่ได้”แต่แทนที่อีกฝ่ายจะขอโทษเธอ กลับชักสีหน้าไม่พอใจใส่ แถมยังต่อว่าเธออีก แบบนี้เธอจะไม่โต้กลับได้อย่างไร“นี่คุณ หัดมีมารยาทซะบ้างนะ เดินชนคนอื่นไม่รู้จักขอโทษ ยังจะมากล่าวหาว่าฉันขวางทางคุณอีก”“แค่นี้ใช่ไหมที่จะพูด ฉันจะได้ไป” สาวคนดังกล่าวตอบกลับเธอเสร็จก็เบะปากใส่ แล้วเดินหนีไปทันทีนิวเยี
นิวเยียร์ปรือดวงตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย ส่งแขนไปควานหาคนที่นอนซบและกอดกันทั้งคืนแต่ก็ไม่พบ เธอจึงเลื่อนมือไปหยิบโทรศัพท์ที่โต๊ะไม้ข้างหัวเตียง ส่งสายตาจ้องมองเวลาที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ เช้านี้เธอตื่นสายเหมือนเคย คงเป็นเพราะเมื่อคืนเอากันจนเพลียเธอขยับตัวนั่งที่ขอบเตียงสักพักก็เดินออกไปนอกห้องนอน แล้วพบกับอาหารมื้อเช้าที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร พร้อมกับกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่ง‘พี่ไปทำงานก่อนนะครับ ตื่นแล้วกินข้าวด้วยนะ’“แฟนใครเนี่ย น่ารักจัง” นิวเยียร์ยกยิ้มเอ่ยพึมพำกับตัวเองเธอพยายามปรับตัวให้ตื่นเช้าแล้ว โดยการตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ตอนหกโมง เพื่อที่จะได้มีเวลามานั่งกินมื้อเช้าเป็นเพื่อนเขา แต่พอคืนใดที่ทั้งสองคนมีกิจกรรมเข้าจังหวะจนดึกดื่นค่อนคืน เพิร์ธก็มักจะแอบกดปิดเสียงนาฬิกาปลุก แล้วลุกไปอาบน้ำเตรียมมื้อเช้าเอาไว้ให้ก่อนไปทำงานเขาทำให้เธอรู้สึกโชคดีมาก แต่ก็มีต่อว่าตัวเองเหมือนกันที่กลายเป็นคนขี้เซา มันดูเหมือนเป็นคนขี้เกียจที่ชอบนอนตื่นสาย เลยทำให้ไม่ได้กินข้าวเช้าด้วยกันพออาบน้ำและกินข้าวเสร็จ เธอกะจะเข้าไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ในห้องนอน แต่สายตาก็ดันเหลือบไปเห็นบัตรประชาชนของแฟนหนุ่ม ที่
ทั้งสองเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นพ่อและแม่ จนกระทั่งแต่งงานได้หกเดือน นิวเยียร์ก็ยังคงมีประจำเดือนทุกเดือน แต่เดือนนี้รู้สึกว่าจะมาแปลก เพราะว่ามาตามรอบแล้ว และพอผ่านไปได้ประมาณสองอาทิตย์ก็มาอีก แต่มาเพียงน้อยนิดแค่พอติดผ้าอนามัย แล้วยังมีอาการวิงเวียนศีรษะ แถมยังเบื่ออาหารร่วมด้วย“สีหน้าดูไม่ดีเลยนะครับ” เพิร์ธถามภรรยาด้วยความเป็นห่วงช่วงนี้เขาก็ลดกิจกรรมนั้นลง ไม่ได้ทำนานเหมือนเมื่อก่อน เพราะอยากให้นิวเยียร์ได้นอนพักผ่อนให้เพียงพอ แต่ระยะหลังมานี้เธอก็มักจะง่วงนอนอยู่เป็นประจำ ราวกับคนหลับไม่เต็มอิ่ม“สองสามวันมานี้ หนูรู้สึกเพลียยังไงก็ไม่รู้ บอกไม่ถูก”“อาการเหมือนพักผ่อนน้อยเลยนะครับ พี่ว่าเราไปตรวจที่โรงพยาบาลกันนะ”“เล่นใหญ่อีกแล้วนะคะ หนูแค่เวียนหัวค่ะ”“พี่รู้ครับว่าแค่เวียนหัว แต่ช่วงนี้เราก็กินข้าวได้น้อยด้วย ไปตรวจให้แน่ใจดีกว่า”ยิ่งเห็นเธอทำตัวเข้มแข็งแบบนี้เขาก็ยิ่งเป็นห่วง เพราะช่วงกลางวันต้องปล่อยเธออยู่ที่ห้องตามลำพัง จะลางานช่วงนี้ก็ยากเพราะเจ้านายของเขากำลังมีดีลงานสำคัญ แต่ถ้ามันจำเป็นจริง ๆ อย่างไรเขาก็ต้องอยู่ดูแล“ไปก็ได้ค่ะ”เธอไม่อยากให้เขาเป็นห่วง แต่ไปตรวจห
ทันใดที่ทั้งสองคนส่งตัวเข้าห้องหอเสร็จ เพิร์ธก็อุ้มภรรยาสาวขึ้นมานั่งบนตักโดยหันหลังให้กันที่ปลายเตียง โน้มใบหน้ามากดหอมที่แก้มนุ่มทั้งสองข้าง“เจ้าสาวของพี่สวยจัง”“เจ้าบ่าวของหนูก็หล่อค่ะ”บ่าวสาวป้ายแดงผลัดกันชมอีกฝ่ายไม่ขาดปาก พลางจ้องมองสบตากันอย่างหวานซึ้ง ต่างมองอีกคนว่ามีเสน่ห์น่าหลงไหลเป็นอย่างมากเมื่ออยู่ในชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว แม้ปกติจะหล่อสวยกันอยู่แล้วก็ตาม“จ้องแบบนี้ไม่กินหนูเลยล่ะคะ”คำหยอกล้อได้เริ่มต้นขึ้น แต่อีกฝ่ายกลับคิดเป็นจริงเป็นจัง เพราะได้รับคำท้าเรื่องมีลูกเอาไว้แล้วเพิร์ธยื่นหน้าเข้าไปใกล้เมียสาวแล้วพรมจูบที่หน้าผากมนแผ่วเบา เลื่อนริมฝีปากมาจูบที่ปลายจมูกของคนที่กำลังหลับตาพริ้ม อมยิ้มเขิน และกำลังคิดว่าตอนนี้จะต้องตกเป็นเมียเขาอย่างสมบูรณ์ทั้งพฤตินัยและนิตินัย เพราะในระหว่างพิธีทั้งคู่ได้จดทะเบียนสมรสกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพิร์ธจับปลายคางของเมียสาวปรับให้ได้องศากับริมฝีปากที่กดจูบลงบนริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ ก่อนจะผละริมฝีปากออกแล้วจ้องใบหน้าหวานของนิวเยียร์ที่กำลังค่อย ๆ ลืมตาขึ้นแล้วส่งยิ้มหวานละมุน“แม่พี่บ่นอยากมีหลาน เรามีให้ท่านสักคนดีไหมครับ”“ค
1 เดือนต่อมาทั้งสองคนได้หาโอกาสนัดเจอกับพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายที่ภัตตาคารห้าดาวแห่งหนึ่ง บรรยากาศของการพบหน้ากันเป็นครั้งแรกก็ทำเอาคู่รักโล่งใจเป็นอย่างมากทั้งพ่อแม่ของเพิร์ธและนิวเยียร์หลังจากได้ทำความรู้จักกันแล้ว ก็พูดคุยอย่างเป็นกันเอง และผู้ใหญ่ก็ได้ยอมรับ แสดงความยินดีกับการคบกันของทั้งสองคนโดยเฉพาะแม่ของฝ่ายชายที่พอรู้ว่าลูกชายเพียงคนเดียวมีแฟนแล้ว ก็คะยั้นคะยอให้เร่งหาฤกษ์แต่งงานเพราะอยากจะอุ้มหลานไว ๆ เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมาได้กลุ้มใจเป็นอย่างมาก กลัวว่าลูกชายจะขึ้นคาน“แม่ของพี่นี่น่ารักดีนะคะ ตอนที่พูดว่ากลัวพี่จะขึ้นคานสีหน้าจริงจังมาก ว่าแต่ถ้าเราไม่ได้คบกัน พี่จะขึ้นคานจริง ๆ เหรอคะ”นิวเยียร์เอ่ยแซวแฟนหนุ่มขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งอยู่ตรงโซฟา หลังจากที่กลับจากการรับประทานอาหารร่วมกับครอบครัวทั้งสองฝ่าย“เอาใหญ่แล้วนะ เดี๋ยวนี้กล้าล้อพี่แล้วเหรอ”“ก็มันจริงนี่คะ คิกคิก”“มานี่เลยครับ” ว่าแล้วเขาก็อุ้มหญิงสาวขึ้นมานั่งบนตักแกร่ง ส่งปลายจมูกหยอกล้อกับซอกคอขาว ก่อนจะเอ่ยกระซิบข้างใบหู“มาให้พี่ลงโทษซะดี ๆ”“ลงโทษยังไงเหรอคะ” หญิงสาวยกเรียวแขนขึ้นกอดคอแฟนหนุ่ม ช้อนสายตาขึ้น
กลับไปถึงคอนโดเพิร์ธก็ประคองนิวเยียร์เข้าไปนั่งที่โซฟา ก่อนจะเอ่ยถามเธออีกครั้งเพื่อให้คิดดูอีกที“จะไม่ลงบันทึกประจำวันไว้จริง ๆ เหรอครับ”“ไม่แล้วค่ะ เมื่อกี้ก็แค่ขู่ให้คุณควีนกลัว แต่หนูคิดว่าเธอคงได้รับบทเรียนและไม่กล้าทำแบบนั้นอีกแล้ว”“พี่ขอโทษนะครับที่ทำให้เจ็บตัว” เขาเอ่ยพลางเลื่อนมือขึ้นไปลูบเรือนผมของแฟนสาวอย่างทะนุถนอม สายตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด“ไม่เป็นไรเลยค่ะ แผลแค่นิดเดียวเอง มันไม่ใช่ความผิดของพี่นะคะ อย่าโทษตัวเองเด็ดขาด” เธอคลี่ยิ้มปลอบใจแฟนหนุ่ม“จะไม่ให้โทษได้ยังไงล่ะครับ ถ้าพี่ฉุกคิดขึ้นได้สักนิดว่าควีนจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ พี่ก็คงไม่ยอมให้เราออกไปเจอ”“พี่ไม่ได้มีพลังวิเศษที่จะรับรู้ถึงจิตใจคนเสียหน่อยค่ะ เรื่องมันจะเกิด ยังไงมันก็ต้องเกิด คนเราห้ามโชคชะตาไม่ได้หรอก เหมือนที่พี่ไม่สามารถห้ามหนูจีบพี่ได้ยังไงล่ะคะ” นิวเยียร์เอ่ยเปรียบเปรยเธอเชื่ออย่างนั้นเสมอว่าคนเราทุกคนพบกันเพราะโชคชะตา แม้จะเป็นเรื่องร้ายหรือดี เมื่อถึงเวลาก็ไม่สามารถที่จะหลีกหนีกันได้“แต่สำหรับความรักของเรา หนูเชื่อว่ามันเป็นพรหมลิขิต ถ้าวันนั้นพี่ไม่ตามพี่ธีร์ไปกินข้าวที่โรงอาหารในมหา’ ลัย
ควีนเดินวกไปเวียนมาอยู่ตรงชั้นบันไดหนีไฟ มองดูหน้าจอของโทรศัพท์ที่มีเสียงเรียกเข้า เป็นเบอร์เดิมที่โทรเข้ามาตั้งแต่นั่งอยู่ที่หน้าห้องล้างแผล ก่อนจะตัดสินใจกดรับสาย“แกจะโทรเข้ามาทำไมฮะ ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าจะติดต่อไปเอง”เสียงของควีนตะเบงใส่ปลายสายด้วยความไม่พอใจ ทำให้ดังเล็ดลอดออกไปด้านนอกของประตูหนีไฟ ในจังหวะที่เพิร์ธและนิวเยียร์กำลังผ่านมาพอดี เพราะเป็นทางผ่านไปห้องน้ำ“พี่เพิร์ธคะ เสียงคุณควีน”นิวเยียร์หันไปเอ่ยกับแฟนหนุ่ม ทั้งสองคนจึงหยุดอยู่ตรงหน้าประตู และได้ยินคำพูดต่อจากนั้นของควีนทุกประโยคอย่างชัดเจน“ฉันบอกให้แกล้งเฉี่ยวไม่ใช่เหรอ แล้วแกจะขับเข้ามาใกล้ขนาดนั้นทำไม เห็นไหมว่าทำฉันเจ็บตัวไปด้วย”(ผมก็ทำตามที่คุณสั่งแล้วไง แล้วก็ไม่ได้มีใครถูกชนสักหน่อย พวกคุณล้มกันไปเอง จะมาโทษผมไม่ได้นะ)“แล้วถ้าแกทำพลาดชนคนขึ้นมาจริง ๆ ล่ะไอ้โง่”(เลิกต่อว่าผมสักที แล้วรีบโอนเงินที่เหลือมาด้วย ไม่อย่างนั้น…)“ไม่อย่างนั้นจะทำไม นี่แกกล้าขู่ฉันเหรอ อย่าลืมนะว่าแกเป็นคนทำให้ผู้หญิงคนนั้นบาดเจ็บ ไม่ใช่ฉัน”(แล้วถ้าผมไปมอบตัวกับตำรวจแล้วบอกว่าคุณเป็นคนจ้างล่ะ คิดดูให้ดี ๆ นะ)“กรี๊ด… ไอ้ชั่ว ก
“พี่เพิร์ธจำได้ไหมคะ ว่าเมื่อก่อนพวกเราชอบมาแข่งโกคาร์ทกัน ข้างในมีสนามแข่งด้วยนะคะ เราไปลองแข่งกันสักรอบสองรอบไหมคะ”นั่งดื่มกันได้สักพัก ควีนก็หันไปเอ่ยกับอดีตคนรักที่นั่งอยู่คนสุดท้าย เพราะมีแฟนสาวของเขานั่งคั่นกลางอยู่“เลิกพูดถึงอดีตเถอะควีน เธอนัดแฟนของพี่ออกมา มีเรื่องอะไรจะพูดก็รีบพูดมาเถอะ” เพิร์ธเอ่ยน้ำเสียงเรียบ“อดีตของเรามันไม่น่าจดจำขนาดนั้นเลยเหรอคะ”“จะพูดให้ได้อะไรขึ้นมา ตอนนี้พี่เพิร์ธกำลังคบกับฉันอยู่” นิวเยียร์อดไม่ได้เลยรีบพูดแทรก“ฉันไม่ได้คุยกับเธอ” ควีนชักสีหน้าไม่พอใจตอบกลับ“แต่คุณเป็นคนนัดฉันมา”“ใช่ ฉันเป็นคนนัดเธอ แต่คนที่ฉันอยากเคลียร์คือพี่เพิร์ธ”สองสาวฟาดฟันกันด้วยสายตาอย่างไม่กระพริบ นิวเยียร์กำลังจ้องอีกฝ่ายที่กล้ามาหลอกใช้เธอเป็นสะพาน เพื่อหลอกล่อให้แฟนหนุ่มของเธอออกมาเจอ“พี่ไม่มีอะไรจะคุย เรากลับกันเถอะครับ”เพิร์ธเป็นคนตอบควีนแล้วก็ชวนแฟนสาวกลับ เพราะเห็นท่าแล้วทางนั้นคงไม่ได้นัดนิวเยียร์มาเคลียร์กัน แค่ต้องการนัดเขาออกมาเจอก็เท่านั้นเพิร์ธจับมือแฟนสาวแล้วพากันออกไปที่ลานจอดรถ ดีกว่ามาเสียเวลาให้ควีนปั่นหัวเล่น เขารู้ว่าควีนเป็นคนชอบเอาชนะ ไม่เค
หลายอาทิตย์ผ่านไปวันนี้เพิร์ธและนิวเยียร์มีนัดกันไปดูภาพยนตร์ที่เพิ่งจะเข้าฉาย และก่อนที่หนังจะเริ่มนิวเยียร์ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปของเขาและเธอ เพื่อโพสต์ลงเฟซบุ๊กพร้อมทั้งเช็กอินสถานที่“แฟนใครเนี่ยหล่อขึ้นกล้องทุกรูปเลย” นิวเยียร์เอ่ยชม พลางหันหน้าจอโทรศัพท์ให้เขาดู พร้อมกับส่งยิ้มหวาน“แฟนพี่ก็สวยขึ้นกล้องเหมือนกันครับ” เพิร์ธส่งมือมาจับศีรษะของคนตัวเล็กโยกไปมาเบา ๆ อย่างเอ็นดูเขามักจะได้รับคำชมจากเธอเป็นประจำ จนตอนนี้เขาเองก็กลายเป็นคนชอบอวยแฟนไปโดยปริยาย“หนังจะมาแล้วค่ะ”นิวเยียร์ดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ เธอลองดูตัวอย่างแล้วมันเขินจนตัวบิด เหมาะกับการเป็นภาพยนตร์สำหรับคู่รัก ซึ่งเป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี แล้วพอมาดูจริงมีแฟนหนุ่มสุดหล่อมาเป็นเพื่อน คงจะฟินกว่าเดิมมากแน่ ๆตลอดสองชั่วโมงสิบห้านาทีที่อยู่ในโรงภาพยนตร์ บอกได้เลยว่าเรื่องนี้มีแต่คำว่าสนุก คลั่งรัก เบาสมอง และฟินมาก บอกได้คำเดียวว่าไม่ผิดหวังที่ชวนกันมาดูพอออกมาจากโรงภาพยนตร์ทั้งสองก็ไปกินข้าวกันต่อที่ร้านอาหารภายในห้างสรรพสินค้า ตอนที่กำลังจะสั่งอาหารนิวเยียร์ก็ได้รับข้อความจากใครคนหนึ่ง“มีอะไรรึเปล่าครับ” เพิร์ธเห็
หลายวันต่อมาเนื่องจากวันนี้เธอว่าง เลยแวะไปเมาท์มอยกับพรีมที่โรงพิมพ์ และตั้งใจโทรหาแฟนหนุ่มเพื่อจะชวนออกมากินข้าวมื้อกลางวันที่ร้านอาหารแถวบริษัทด้วยกัน“นานแล้วนะคะที่ไม่ได้กินข้าวเที่ยงด้วยกัน”นับตั้งแต่ผู้ช่วยเลขาที่ลาคลอดกลับมาทำงาน เธอก็ต้องกลับไปทำงานออกแบบที่คอนโด วันทำงานแบบนี้ทั้งคู่จึงไม่ได้กินข้าวด้วยกันอีก“ให้พี่แวะไปรับออกมากินข้าวด้วยกันแบบนี้ทุกวันดีไหมครับ”“เอาใจสุด ๆ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากพี่เปล่า ๆ แยกกันกิน แยกกันทำงานของตัวเองดีแล้วค่ะ ยังไงก็ได้อยู่ด้วยกันทุกวัน”เธอไม่ใช่เด็กแล้วที่จะมางอแงให้เขาตามใจ เธอแยกแยะได้อันไหนเวลางาน เวลาส่วนตัว แม้ว่าเขาจะมีเวลาพักกลางวันแต่ก็ไม่ควรจะยึดเวลานั้นมาครอบครอง ปล่อยให้เขาได้มีเวลาว่างเป็นของตัวเองบ้าง จะได้ไม่รู้สึกอึดอัดที่คบกัน“ขอบคุณนะครับ”ความคิดของเธอโตเป็นผู้ใหญ่มาก ทุกวันนี้เขาไม่เคยลำบากใจเลยที่ต้องออกบ้านมาทำงาน และดีที่ปัจจุบันเขาได้ทำงานในตำแหน่งเลขาของประธานกรรมการบริหารอย่างธีร์ ถึงได้มีเวลาให้แฟนสาวทุกวันหลังเลิกงานและวันหยุด อาจจะมีบ้างนาน ๆ ครั้งที่ต้องไปกินเลี้ยงกับลูกค้า ติดตามธีร์ไปงานเลี้ยงกลางคืน
นิวเยียร์ที่กำลังทำอาหารเย็นไว้รอแฟนหนุ่ม เธอได้รับข้อความจากเขาจึงได้รีบตอบกลับไป**********Newyear : รับทราบค่ะPirat : ถ้าหิวก็กินข้าวก่อนได้เลยนะครับ ไม่ต้องรอNewyear : ค่ะ แต่ว่าหนูรอกินพร้อมพี่ดีกว่า ไม่เห็นหน้าแล้วกินข้าวไม่อร่อยอะ คิดถึงPirat : คิดถึงเหมือนกันครับ ไว้พี่จะรีบกลับนะNewyear : ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ เป็นห่วง (อีโมจิหน้าส่งจูบ)Pirat : ครับ**********ระหว่างที่ตอบกลับข้อความแฟนสาว เพิร์ธก็เผลอยิ้มอย่างคนอารมณ์ดี ทำเอาคนที่นอนให้น้ำเกลือรู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมา แต่ก็ต้องปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วถามออกไป“คุยกับใครเหรอคะ อารมณ์ดีจัง”“คุยกับแฟน”“แฟนพี่นี่โชคดีจังเลยนะคะ ควีนคงจะโชคร้ายเอง”โชคร้ายที่ว่าคือเธอเผลอตัวเผลอใจให้กับเพื่อนสนิทของเขาที่เข้ามาดูแล พาไปกินข้าว พาไปเที่ยว ทำหน้าที่แทนอดีตแฟนที่เอาแต่ทำงาน จนเธอคิดว่านั่นคือการกระทำของคนรักกัน เพื่อนของเขาดูแลเธอดีมาก ทั้งคู่จึงเลือกที่จะสวมเขา แอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งในวันที่เขาไม่อยู่ สุดท้ายก็โดนจับได้ตอนนั้นเธอผิดเองที่เลือกเพื่อนสนิทของเพิร์ธ เพราะถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีเวลาและให้ในสิ่งที่เธอต้องการได้อยู่แล้