“แกไม่ต้องกังวลหรอก ช่วงนี้พี่พิรัชย์งานยุ่งน่ะ กลับดึกทุกวันเลย”
“พี่ธีร์ก็กลับดึกเหมือนกันเหรอ” เธอถามพรีมด้วยความสงสัย ถ้าพิรัชย์กลับดึก แสดงว่าสามีของเพื่อนก็ต้องกลับดึกเหมือนกัน เพราะทำงานด้วยกัน
“อื้ม คงจะเป็นแบบนี้สักสองสามเดือน”
“ทำไมล่ะ”
“ก็พี่กิ่งแก้วที่เป็นผู้ช่วยเลขาลาคลอดน่ะ งานทั้งหมดพี่พิรัชย์เลยต้องรับผิดชอบแทนไปก่อน และพี่ธีร์เองก็รับงานในส่วนของพี่พิรัชย์มาทำเองบางส่วน”
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง คงจะเหนื่อยแย่เลยเนาะ”
แต่แล้วก็มีความคิดดี ๆ ผุดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม
“เออ แก” นิวเยียร์โพล่งขึ้นมาเสียงดังจนพรีมแทบจะสะดุ้ง
“อยู่ใกล้กันแค่นี้แกจะเสียงดังทำไม ฉันเกือบหัวใจวายตายแล้วเนี่ย” พรีมแกล้งเอ็ดเพื่อน
“แกช่วยอะไรฉันหน่อยสิ”
“ช่วยอะไร” พรีมรู้สึกถึงความคาดหวังบางอย่างจากดวงตาของเพื่อนที่ฉายแววออกมา
“ช่วยพูดกับพี่ธีร์ให้ฉันเข้าไปเป็นผู้ช่วยของพี่พิรัชย์ที นะ นะ ยัยพรีม ช่วยฉันหน่อย แค่ให้ฉันได้ช่วยในระหว่างที่พี่กิ่งแก้วลาคลอดก็พอ” นิวเยียร์ทำหน้าอ้อน ยื่นมือไปจับมือของเพื่อนแล้วส่งสายตาอ้อนวอน
“...” พรีมนั่งนิ่งราวกับใช้ความคิด ขณะที่นั่งมองหน้าเพื่อนที่กำลังเขย่าแขนของเธอเบา ๆ
“นะ นะ ยัยพรีม ช่วยฉันที”
“แต่แกไม่ได้เรียนจบบริหารฯ มานะ แกจะทำได้เหรอ”
นิวเยียร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหา ‘คุณสมบัติของการเป็นผู้ช่วยเลขานุการ’ แล้วหันหน้าจอให้พรีมดู
แม้ว่าเธอกับพรีมจะเรียนจบคณะวารสารศาตร์และสื่อสารมวลชน แต่ปีแรกก็ผ่านการเรียนวิชาทั่วไปมาแล้ว และเธอก็มั่นใจว่าจะสามารถทำงานนั้นได้โดยไม่ทำให้ทั้งพิรัชย์และธีร์ สามีของเพื่อนเสียงานอย่างแน่นอน
“แกดูสิ คุณสมบัติฉันผ่านทุกข้อเลย” นิวเยียร์ส่งสายตาอ้อน กระพริบตาปริบ ๆ
“ก็ได้ ๆ แต่ฉันยังไม่รับปากนะ ขอถามพี่ธีร์ก่อน” พรีมตอบเพื่อน สงสัยคืนนี้คงต้องงัดลูกอ้อนมาคุยกับสามีแล้วล่ะ
“เย้ ให้มันได้อย่างนี้สิ เพื่อนรัก”
สองวันต่อมา
นับตั้งแต่วันที่เธองานยุ่งจนกระทั่งวันนี้ นิวเยียร์ยังไม่ได้เจอหน้าพิรัชย์เลยแม้แต่วินาทีเดียว ก็เลยจะเซอร์ไพรส์ให้เขาแปลกใจเหมือนอย่างตอนนี้ที่เธอเดินทางมาถึงที เอส กรุ๊ปพร้อมกับพรีม และนี่ก็เป็นบริษัทของธีร์ สามีของเพื่อนรักนั่นเอง
“พรีมพาผู้ช่วยเลขาคนใหม่มาแล้วค่ะ” พรีมเดินนำเข้าไปในห้องทำงานของสามี ตรงเข้าไปกอดแขนของธีร์อย่างออดอ้อน
“สวัสดีค่ะพี่ธีร์ พี่พิรัชย์” นิวเยียร์เอ่ยทักทายอย่างเป็นทางการ และดูเหมือนคนที่ทำหน้าประหลาดใจคงมีแค่เขาคนเดียว
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคะพี่พิรัชย์”
“ปะ เปล่าครับ ไม่มีอะไร” ไม่รู้ว่าเผลอทำหน้าอย่างไรออกไป เขาก็แค่แปลกใจที่จู่ ๆ นิวเยียร์ก็มาทำงานในหน้าที่ของกิ่งแก้ว ผู้ช่วยของเขาที่ลาคลอดไปเมื่ออาทิตย์ก่อน
“พิรัชย์” ธีร์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ ใบหน้าดูไม่จริงจังสักเท่าไร
“ครับคุณธีร์”
“ช่วงที่คุณกิ่งแก้วลาคลอด ผมจะให้นิวเยียร์คอยช่วยงานคุณไปก่อนนะ ฝากสอนงานเธอด้วย”
ธีร์ถูกภรรยาคนสวยอ้อนบนเตียงจนยอมใจอ่อน แม้ว่านิวเยียร์จะไม่ได้เรียนสายตรงมาก็จริง แต่ก็ให้ทำงานเอกสารง่าย ๆ ก็คงจะพอทำได้ และช่วงเวลามันก็ไม่ได้นานอะไร ประมาณสองเดือนกว่า เขาก็ไม่อยากจะขัดใจภรรยา ตอบตกลงให้เพื่อนของเธอมาเริ่มงานได้ในวันนี้
“ครับ”
ได้ยินหนุ่มเลขาตอบรับ ใบหน้าของนิวเยียร์ก็ยกยิ้มอย่างพึงพอใจ ไม่เสียแรงที่ขอให้เพื่อนช่วย
“พรีมฝากนิวเยียร์ด้วยนะคะพี่พิรัชย์” พรีมฝากฝังอีกคน
“ได้ครับ เชิญทางนี้ครับคุณนิวเยียร์”
เพิร์ธตอบรับภรรยาของเจ้านายเสร็จก็หันไปเอ่ยกับผู้ช่วยเลขาคนใหม่ แล้วเดินนำเธอออกไป พาไปที่โต๊ะทำงานที่อยู่หน้าห้อง
“เซอร์ไพรส์ไหมคะพี่พิรัชย์” หญิงสาวนั่งลงที่เก้าอี้ทำงานของตัวเอง ก่อนจะประสานมือเอาเท้าคางบนโต๊ะทำงาน เอียงใบหน้าหวานส่งยิ้มไปทางเขา
“เซอร์ไพรส์อะไรครับ”
“ก็ที่หนูมาเป็นผู้ช่วยพี่ไงคะ”
“เอ่อ… ครับ” เพิร์ธเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร แต่ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
นิวเยียร์ขยับเก้าอี้ล้อเลื่อนเข้าไปหาหนุ่มเลขาที่นั่งประจำที่ของเขา ยื่นมือทั้งสองข้างขนาบข้างลำตัวของเพิร์ธแล้ววางมือตรงที่พักแขน ยื่นใบหน้าหวานเข้าไปใกล้ จ้องเข้าไปในดวงตาคู่คมที่เบิกตากว้างราวกับคนตกใจ
“ช่วยสอนหนูด้วยนะคะ จะให้ทำอะไรก็บอกได้เลย หนูเต็มใจช่วยพี่ทุกอย่างเลยค่ะ”
หญิงสาวกระพริบตาปริบ ๆ เอียงคอไปทางซ้ายและขวาสลับกันไปมา ริมฝีปากก็เผยรอยยิ้มหวานให้กับคนตรงหน้าที่ไม่รู้ว่าป่านนี้จะขาดใจตายแล้วหรือยัง เพราะเขาได้แต่เอนหลังแนบชิดกับเก้าอี้ และดูเหมือนว่าตอนนี้กำลังกลั้นหายใจอยู่
“ไม่กลัวขาดออกซิเจนเหรอคะ หรือว่าอยากให้หนูผายปอด”
พอได้ยินคำว่าผายปอดเพิร์ธก็เรียกสติกลับมาได้ เขาเริ่มกระพริบตาแล้วค่อย ๆ คลายลมหายใจออกมา แต่ก็ยังทำเป็นนิ่งเพื่อเก็บอาการ
“น้องนิวเยียร์ขยับออกไปหน่อยดีไหมครับ เดี๋ยวมีคนมาเห็นเข้าจะดูไม่ดี”
“ไม่เรียกคุณแล้วเหรอคะ เมื่อกี้พี่ผิดสัญญา เผลอเรียกหนูว่าคุณอีกแล้ว” นิวเยียร์ยู่ปากเล็กน้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อยราวกับคนน้อยใจ
“ขอโทษครับ พี่ชินกับการเรียกคนที่ทำงานว่าคุณ” ปกติเขาก็เรียกแบบนี้กับทุกคน ไม่ใช่แค่เธอ
“น่ารักจัง”
ชายหนุ่มตรงหน้าช่างเป็นคนสุภาพ แต่ก็น่าค้นหา เขายอมเอ่ยขอโทษทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าไม่ให้คิดว่าเขาน่ารัก แล้วจะให้คิดว่าอย่างไร
และเสียงแผ่วเบาที่ดังออกมาจากปากของหญิงสาว ก็ทำให้เพิร์ธมีลมหายใจติดขัด เริ่มร้อนใบหน้าลามไปถึงใบหู
“เขินเหรอคะ ทำไมหน้าแดง”
“ปะ เปล่าครับ”
เพิร์ธหายใจเข้าออกถี่กระชั้น เบี่ยงสายตามองไปทางอื่น เพราะตอนนี้เขากำลังจะเก็บอาการไม่อยู่ ไม่คิดว่าเธอจะกล้าเต๊าะเขาในที่แบบนี้ แม้ว่าชั้นบนสุดจะไม่ค่อยมีใครผ่านเข้ามา เพราะเป็นพื้นที่ของซีอีโอหนุ่มอย่างธีร์ แต่ก็ยังถือว่าเป็นสถานที่ทำงาน ไม่มีคนเห็น ก็ยังมีกล้องวงจรปิดที่ยังจับภาพอยู่
นิวเยียร์เห็นว่าคนตรงหน้าเสียอาการ ก็ยิ่งคิดว่าเขามันน่าแกล้ง เห็นหน้าทีไรแล้วหมั่นเขี้ยว ถ้าเป็นเสือคงจะเห็นว่าเขาเป็นเหยื่อที่รอแม่เสือสาวพราวเสน่ห์แต่เวอร์จินอย่างเธอตะครุบ แต่ติดที่เธอก็ไม่ได้ใจง่ายขนาดนั้น
‘แต่ถ้าเขาสมยอมก็ไม่แน่นะ เธออาจจะยอมใจง่ายให้ผู้ชายคนนี้คนเดียวก็ได้’
พอนิวเยียร์แกล้งแหย่เขาจนพึงพอใจแล้ว ก็ขยับมือออกจากเก้าอี้ของหนุ่มเลขาสุดหล่อ แล้วเลื่อนเก้าอี้ของเธอขยับถอยออกมาอีกนิดเพื่อเว้นระยะห่าง
เขามันขี้อาย แถมยังซึนมาก ๆ ไว้รอสบโอกาสได้อยู่กันสองต่อสอง หรือสถานที่อื่นที่ไม่มีคนจับตามองก็ค่อยแกล้งเขาใหม่
การทำงานวันแรกถือว่าผ่านไปด้วยดี เพิร์ธช่วยสอนงานเธออย่างใจเย็นด้วยน้ำเสียงสุภาพ และเธอก็เป็นคนที่เรียนรู้ได้เร็ว ถึงได้กล้ายืนยันกับพรีมด้วยความมั่นใจว่าจะไม่ทำให้เสียงานอย่างแน่นอน
เธอแยกแยะได้ระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว แต่เวลางานก็ขออ่อยเขาสักเล็กน้อยให้พอชุ่มชื่นหัวใจ
“พรุ่งนี้เราไปทำงานด้วยกันดีไหมคะ”
ทั้งสองคนเลิกงานพร้อมกัน และขับรถตามกันเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของคอนโด และก่อนที่จะแยกกันเข้าห้องนิวเยียร์ก็รีบถามออกไป
“ไปทางเดียวกันประหยัดน้ำมันดีออก จะสลับรถกันคนละวันก็ได้นะคะ”
หญิงสาวเอ่ยออกไปพร้อมกับจ้องใบหน้าหล่อที่ทำหน้านิ่งราวกับใช้ความคิด เธอกลัวว่าเขาจะปฏิเสธเลยเสนอความเห็นให้ผลัดเปลี่ยนกันใช้รถของเธอและเขาสลับกันเดินทางไปทำงาน
“ก็ได้ครับ”
‘เข้าทางเลย’ นิวเยียร์ยกยิ้มกริ่มให้กับความคิดตัวเอง เวลาสองเดือนต่อจากนี้เธอจะต้องจีบเขาให้ติด
ตั้งแต่ได้ไปทำงานด้วยกันนิวเยียร์ก็นอนดึกกว่าเดิม เพราะงานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ที่รับทำยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่เธอก็ทำเองแค่งานที่ใช้เวลาไม่เกินสามชั่วโมง ถ้าเป็นงานยากช่วงนี้คงต้องส่งให้กับโรงพิมพ์ของพรีมเป็นคนทำไปก่อนทุกเช้าเธอจะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ตีห้าครึ่งเพื่อที่จะอาบน้ำแต่งตัว และแต่งหน้าสวย ๆ เตรียมไปกินข้าวกับใครบางคนก๊อก ก๊อกทันทีที่ประตูเปิดออก นิวเยียร์ก็เกิดอาการร้อนที่ใบหน้า หัวใจดวงน้อยเต้นแรงตึกตักราวกับกำลังตื่นเต้น เมื่อเจ้าของห้องสุดหล่อที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จเพราะได้กลิ่นหอมของสบู่อ่อน ๆ โชยเข้าจมูก แถมเขายังสวมใส่แค่กางเกงวอร์มสีดำ เผยช่วงบนให้ได้เห็นหน้าอกขาว ๆ หน้าท้องมีซิกซ์แพ็กเป็นลอนงาม คล้ายกับในความฝันของเธอไม่มีผิดนิวเยียร์ยืนนิ่งจ้องมองเขาตาไม่กระพริบ ลอบกลืนน้ำลายลงคอราวกับเห็นของกินแสนอร่อยวางอยู่ตรงหน้า“หัวนมชมพู” เธอเผลอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ยกยิ้มที่ริมฝีปากมาอย่างลืมตัว“น้องนิวเยียร์ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยชื่อเพื่อเรียกสติเธอเอาแต่ยืนจ้องตุ่มไตสองเม็ดที่หน้าอก ดวงตาหวานเยิ้ม ทำเอาคนถูกมองเริ่มจะทำตัวไม่ถูกจนต้องเอาผ้าที่เช็ดผมมาบังแผงอกแท
เพิร์ธระบายยิ้มมุมปาก จ้องใบหน้าหวานที่รอฟังคำตอบเพียงแค่ชั่วครู่ จากนั้นก็หันไปขับรถต่อโดยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป“ว่ายังไงคะ ถ้าหนูขอพี่จะให้ไหม” นิวเยียร์เอ่ยออกไปอีกครั้ง และรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อเธอบอกใบ้ไปตั้งหลายครั้งแล้วว่าคนที่กำลังจีบคือเขา แต่ทำไมถึงได้ซึนและความรู้สึกช้าขนาดนี้‘นี่เขาแกล้งไม่เข้าใจ หรือเข้าใจแล้วแต่ไม่สนใจเธอกันแน่’แต่แล้วความเงียบที่ได้รับกลับมาก็ทำให้เธอถอนหายใจ เบือนหน้ามองวิวข้างทางแทน และข้าวมื้อเที่ยงก็กินได้แค่ไม่กี่คำ จากตอนแรกที่คิดว่าโมโหจนหิวข้าวมาก อยากจะกินให้หายหงุดหงิด แต่พอเขาเงียบ เธอก็หมดอารมณ์กินข้าวไปโดยปริยายระหว่างทำงานในช่วงบ่าย นิวเยียร์ก็นั่งทำหน้าบึ้งตึงและไม่คุยเล่นกับเขาเหมือนเช่นเคย นอกจากจะถามเรื่องงาน และหลังจากทำงานเสร็จก็ถึงเวลากลับเสียทีขณะที่ต่างฝ่ายกำลังจะแยกย้ายเข้าห้องตัวเอง แต่แล้วชายหนุ่มก็ขานชื่อเธอขึ้น“น้องนิวเยียร์ครับ”“คะ” เธอหันกลับไปมองด้วยใบหน้าเหนื่อยล้าราวกับคนหมดแรง แค่เขาไม่ให้เบอร์ เธอก็เหมือนคนหมดอาลัยตายอยากและซึมเป็นส้วม“พี่ขอโทรศัพท์หน่อยสิครับ”“เอาไปทำไมคะ” เธอไม่ทันได้คิดก็รีบตอบกลับไป “หรือว
ณ สถานบันเทิงแห่งหนึ่งนิวเยียร์ ณัฐชยาน์ ศิลป์สุนทรกมล หญิงสาวที่อยู่ในชุดเสื้อแขนยาวสีดำเปิดไหล่กว้าง กระโปรงตัวสั้นสีดำปักเลื่อมประกายวิบวับสะท้อนกับแสงหลากสีในผับดัง กำลังนั่งดื่มเหล้าตามลำพังด้วยความเคยชินเธอเป็นคนชอบดื่มและออกมาเที่ยวกลางคืนอาทิตย์ละครั้ง สองครั้ง และทุกครั้งก็มักจะนั่งอยู่คนเดียวเพราะเพื่อนสนิทก็แต่งงานมีสามีแล้ว มีเพียงแค่เธอที่อายุก็ย่างจะเข้ายี่สิบสี่ปี แต่ก็ยังไม่เคยมีแฟนแม้แต่คนเดียว“ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ” หนุ่มหล่อที่ออกมาเที่ยวกลางคืนเอ่ยกับเธอ“เอ่อ…”“ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ พอดีผมมาเที่ยวคนเดียวเหมือนกัน แค่อยากหาคนนั่งดื่มเป็นเพื่อน” หนุ่มคนดังกล่าวเอ่ยออกมาอีกครั้ง เพราะเห็นว่าหญิงสาวกำลังใช้ความคิดและยังไม่ได้ตอบกลับมา“นั่งด้วยกันก็ได้ค่ะ” ไหน ๆ เธอก็นั่งคนเดียวอยู่แล้ว มีเพื่อนดื่มด้วยสักคนก็ดีเหมือนกัน“ผมขอเลี้ยงคุณนะครับ” หนุ่มหล่อโชว์ความใจป้ำเสนอตัวเลี้ยงเหล้าสาวสวยนิวเยียร์ก็ยกยิ้มพยักหน้าขึ้นลงเป็นเชิงตอบรับกับน้ำใจของการเจอกันเป็นครั้งแรกเวลาผ่านไปประมาณสามชั่วโมง เหล้าขวดที่สองก็ได้พร่องลงจนเหลือก้นขวด นิวเยียร์ก็เกิดรู้สึกร้อนผ่าว
เพิร์ธจำใจต้องเลี้ยวรถกลับคอนโดมิเนียมของตน เพราะจะโทรไปขอที่อยู่ของนิวเยียร์จากเจ้านายมันก็ดึกเกินไปพอไปถึงก็หยิบกระดาษทิชชูที่มีติดรถไว้มาเช็ดคราบที่เปรอะเปื้อนเต็มหว่างขา จากนั้นก็ลงจากรถเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งที่หญิงสาวนั่ง ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วอุ้มเธอออกจากรถ พร้อมกับคว้ากระเป๋าสะพายของเธอออกมาด้วยเขาพาเธอเข้าไปในลิฟต์แล้วกดชั้นที่พักอยู่ เมื่อขึ้นไปถึงห้องก็อุ้มคนที่นอนหลับสบายเข้าไปวางบนเตียงขนาดคิงไซซ์อย่างเบามือ จากนั้นก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เพิร์ธเข้าไปนั่งที่ขอบเตียงแล้วเขย่าแขนเรียก แต่นิวเยียร์ก็ไม่ยอมตื่น พอทำอะไรไม่ได้ก็คงต้องปล่อยให้นอนค้างที่นี่สักคืน เขาจึงลุกไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็ก นำไปชุบน้ำแล้วบิดหมาดมาเช็ดใบหน้าที่แดงระเรื่อและลำคอของคนเมา“อือ” นิวเยียร์รู้สึกเย็นวาบจนสะดุ้งแต่ก็ยังไม่ลืมดวงตาที่หนักอึ้ง ได้แต่ส่งเสียงร้องประท้วงในลำคอ พร้อมกับปัดป่ายแขนไปมาเนื่องจากถูกรบกวน“เช็ดตัวก่อนครับ”เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับจับแขนของเธอให้อยู่นิ่งแล้วใช้ผ้าเช็ดทั้งสองข้าง พลางส่งสายตามองไปยังช่วงหน้าอกและแผ่นหลังที่อยู่นอกร่มผ้า ก่อนจะเบี่ยงสายตามองไปทางอื่นพร้อม
หลังจากที่เพิร์ธส่งหญิงสาวกลับไปเอารถที่ผับ นิวเยียร์ก็รีบขับกลับคอนโด และเมื่อไปถึงห้องก็วิ่งไปที่หน้ากระจกเพื่อส่องดูสภาพอันน่าอับอายของตัวเอง ไม่คิดว่าการเจอกันในครั้งนี้จะทำให้เธอขายขี้หน้า แทนที่เขาจะได้เห็นเธอในสภาพที่ดีกว่านี้ แต่กลับได้เห็นผู้หญิงเมาจนเอาตัวเองไม่รอด แถมยังอ้วกใส่เขาอีกต่างหาก“ยัยนิวเยียร์เอ๊ย แกนี่ขายขี้หน้าเก่งชะมัด”แล้วอย่างนี้เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ครั้งหน้าหากเจอกันอีกเธอจะกล้าสู้หน้าเขาอีกเหรอ“อย่าคิดอย่างนั้นสิ เธอมันใจกล้าหน้าด้านอยู่แล้วยัยนิวเยียร์ เจอก็เจอสิ จะกลัวอะไร” เธอได้แต่ปลอบใจและเรียกความกล้าให้กับตัวเองผ่านเงาในกระจกหลังจากอาบน้ำแต่งตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่ ก็ขึ้นไปนั่งบนเตียงส่งมือเล็กไปหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรู ต่อสายไปหาเพื่อนรักเพื่อเมาท์มอยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น“ยัยพรีม แกรู้ไหมว่าเมื่อคืนฉันนอนที่ไหน” พอเพื่อนรักกดรับสาย นิวเยียร์ก็รีบเอ่ยออกไปทันทีด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น(อย่าบอกนะว่าแกโดนผู้ชายคนนั้นหิ้วกลับไปด้วย)พรีมรู้สึกตกใจกับคำถามที่ได้รับเลยรีบถามกลับ“จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้ไปกับผู้ชายคนนั้นสักหน่อย” ใครจะอยา
เฮือก!!!!!“พี่พิรัชย์”เธอสะดุ้งตื่นขึ้นในช่วงค่ำของวันพร้อมกับเรียกหาคนที่กำลังจะมีช่วงเวลาดี ๆ ร่วมกัน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากอก พอหันมองหาคนที่กอดจูบกันก็ปรากฏว่าไม่มีใคร และเสื้อผ้าก็ยังอยู่ครบ“ฝันไปเหรอเนี่ย”นิวเยียร์ยู่ปากออกมาด้านหน้าพร้อมกับถอนหายใจราวกับเสียดาย ขนาดฝันยังหวงเนื้อหวงตัว เขาได้เห็นเธอล่อนจ้อนไม่เหลือเสื้อผ้าเลยสักชิ้น แต่เธอกลับได้เห็นแค่ท่อนบนของเขาเท่านั้น‘ขี้โกงชะมัด’พอนึกถึงหน้าอกขาว ๆ ก็ทำให้หญิงสาวถึงกับหลุดยิ้มแล้วบิดตัวเขิน ล้มตัวลงนอนกอดผ้าห่มพลิกตะแคงซ้ายทีขวาทีราวกับคนเสียสติ คิดถึงหน้าของคนที่เข้ามาทำให้ใจเต้นแรง นี่ขนาดแค่ในความฝัน แล้วถ้าเป็นความจริงมันจะฟินสักแค่ไหนคิดแล้วก็น่าเสียดายที่ในความฝันยังไม่ทันได้เข้าด้ายเข้าเข็มแต่เธอก็ดันสะดุ้งตื่นเสียก่อน มาทำให้อยากแล้วก็จากไป ทำไมไม่ทำให้มันเสร็จ ๆ กันนะสองอาทิตย์ต่อมาราวกับว่าโชคชะตาเป็นใจให้เธอและเขามีโอกาสได้พบกันอีกครั้งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และเขาก็กำลังนั่งรออาหารอยู่เพียงลำพัง“ขอนั่งด้วยนะคะ”คนที่นั่งอยู่ก่อนเงยหน้าขึ้นมองสาวสวยที่มาขอนั่งด้วย แต่ก็ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาเพิร์ธกลับจากที่ทำงานและกำลังเดินตรงไปที่ห้องพักบนชั้นเก้าของคอนโดสุดหรู พอเปิดเข้าไปในห้องก็ถอดเสื้อสูตตัวนอกออก ดึงชายเสื้อเชิ้ตสีขาวออกจากเอวกางเกง พลางเดินเข้าไปในครัวเพื่อจะได้สะดวกในการทำอาหาร แล้วจัดการนำวัตถุดิบในตู้เย็นออกมาเพื่อทำมื้อเย็นกริ้ง กริง…เขาละสายตาจากเนื้อที่กำลังหมักอยู่ในชามสีใส เย็นนี้ตั้งใจจะทำสเต๊กเนื้อเป็นมื้อเย็น แต่ก็ต้องถูกขัดจังหวะจากใครก็ไม่รู้ที่มากดกริ่งหน้าห้อง และพอเขาเดินไปเปิดประตูก็ไม่พบใคร เห็นเพียงแค่ถุงที่ห้อยอยู่ตรงคันโยกของประตูก็พลันรู้สึกแปลกใจจึงหยิบขึ้นมาเปิดดู ก็พบว่าเป็นเค้กชิ้นเล็กรสช็อกโกแลตวางอยู่ในกล่อง พร้อมกับนมรสสตรอว์เบอรีที่อยู่ในขวดใสมีฉลากน่ารักติดอยู่เขาหันมองซ้ายทีขวาทีเผื่อว่าจะมีใครลืมเอาไว้ผิดห้องแต่ก็ไม่พบใคร จึงถือถุงนั้นเข้าไปในห้องแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นเพราะไม่กล้ากิน ปกติเขาไม่เคยสั่งของขึ้นมาส่งถึงหน้าห้อง หรือได้รับของจากใครแบบนี้เลยหลังจากกินมื้อเย็นเสร็จเขาก็นั่งทำงานต่อจนดึก ก็เข้าไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนเพื่อให้พร้อมกับการทำงานในเช้าอีกวันในขณะที่หญิงสาวที่ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่วันแรกก็รู้สึ
‘ไหน ๆ ก็โดนจับได้แล้ว ทำไมเมื่อกี้ไม่ขอเข้าไปนั่งเล่นที่ห้องของเขานะ’พอคิดได้ดังนั้นนิวเยียร์ก็เดินไปที่หน้ากระจก สำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผม ก่อนจะเดินออกจากห้องไปก๊อก ก๊อกคนในห้องที่กำลังต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสชาติจัดจ้าน เอาไว้กินคู่กับไข่ตุ๋นที่ได้มาเมื่อครู่ เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูก็เดินออกจากห้องครัวเพื่อไปดูว่าใครมา“น้องนิวเยียร์”“ขอเข้าไปได้ไหมคะ” หญิงสาวคลี่ยิ้มกว้างพยักเพยิดใบหน้าสวยและมองเข้าไปในห้องที่เคยมานอนค้างแล้วครั้งหนึ่ง“ครับ” จะปฏิเสธก็กระไรอยู่ เลยอนุญาตให้เธอเข้ามานิวเยียร์เดินตามเขาเข้าไปในห้องขนาดกว้าง แต่ข้าวของเครื่องใช้กลับถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ บ่งบอกถึงผู้อยู่อาศัยที่รักความสะอาดและความเรียบร้อย แต่แล้วจมูกของเธอได้รับกลิ่นที่โชยออกมาจากห้องครัว“ต้มบะหมี่เหรอคะ กลิ่นหอมจัง”“ครับ”“ขอกินด้วยได้ไหมคะ”ใจกล้าหน้าด้านแล้วทำกระเพาะว่างเข้าไว้ แม้จะกินไข่ตุ๋นไปแล้วหลายถ้วย แต่ก็ต้องเอ่ยออกไปเหมือนยังไม่ได้กินอะไร เขาจะได้ทำให้กิน และทั้งสองก็จะได้นั่งกินมื้อค่ำด้วยกัน“เอ่อ… ครับ นั่งรอตรงนี้ก่อนนะครับ ว่าแต่ชอบกินเผ็ดไหม” เขาผายมือไปตรงโ
เพิร์ธระบายยิ้มมุมปาก จ้องใบหน้าหวานที่รอฟังคำตอบเพียงแค่ชั่วครู่ จากนั้นก็หันไปขับรถต่อโดยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป“ว่ายังไงคะ ถ้าหนูขอพี่จะให้ไหม” นิวเยียร์เอ่ยออกไปอีกครั้ง และรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อเธอบอกใบ้ไปตั้งหลายครั้งแล้วว่าคนที่กำลังจีบคือเขา แต่ทำไมถึงได้ซึนและความรู้สึกช้าขนาดนี้‘นี่เขาแกล้งไม่เข้าใจ หรือเข้าใจแล้วแต่ไม่สนใจเธอกันแน่’แต่แล้วความเงียบที่ได้รับกลับมาก็ทำให้เธอถอนหายใจ เบือนหน้ามองวิวข้างทางแทน และข้าวมื้อเที่ยงก็กินได้แค่ไม่กี่คำ จากตอนแรกที่คิดว่าโมโหจนหิวข้าวมาก อยากจะกินให้หายหงุดหงิด แต่พอเขาเงียบ เธอก็หมดอารมณ์กินข้าวไปโดยปริยายระหว่างทำงานในช่วงบ่าย นิวเยียร์ก็นั่งทำหน้าบึ้งตึงและไม่คุยเล่นกับเขาเหมือนเช่นเคย นอกจากจะถามเรื่องงาน และหลังจากทำงานเสร็จก็ถึงเวลากลับเสียทีขณะที่ต่างฝ่ายกำลังจะแยกย้ายเข้าห้องตัวเอง แต่แล้วชายหนุ่มก็ขานชื่อเธอขึ้น“น้องนิวเยียร์ครับ”“คะ” เธอหันกลับไปมองด้วยใบหน้าเหนื่อยล้าราวกับคนหมดแรง แค่เขาไม่ให้เบอร์ เธอก็เหมือนคนหมดอาลัยตายอยากและซึมเป็นส้วม“พี่ขอโทรศัพท์หน่อยสิครับ”“เอาไปทำไมคะ” เธอไม่ทันได้คิดก็รีบตอบกลับไป “หรือว
ตั้งแต่ได้ไปทำงานด้วยกันนิวเยียร์ก็นอนดึกกว่าเดิม เพราะงานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ที่รับทำยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่เธอก็ทำเองแค่งานที่ใช้เวลาไม่เกินสามชั่วโมง ถ้าเป็นงานยากช่วงนี้คงต้องส่งให้กับโรงพิมพ์ของพรีมเป็นคนทำไปก่อนทุกเช้าเธอจะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ตีห้าครึ่งเพื่อที่จะอาบน้ำแต่งตัว และแต่งหน้าสวย ๆ เตรียมไปกินข้าวกับใครบางคนก๊อก ก๊อกทันทีที่ประตูเปิดออก นิวเยียร์ก็เกิดอาการร้อนที่ใบหน้า หัวใจดวงน้อยเต้นแรงตึกตักราวกับกำลังตื่นเต้น เมื่อเจ้าของห้องสุดหล่อที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จเพราะได้กลิ่นหอมของสบู่อ่อน ๆ โชยเข้าจมูก แถมเขายังสวมใส่แค่กางเกงวอร์มสีดำ เผยช่วงบนให้ได้เห็นหน้าอกขาว ๆ หน้าท้องมีซิกซ์แพ็กเป็นลอนงาม คล้ายกับในความฝันของเธอไม่มีผิดนิวเยียร์ยืนนิ่งจ้องมองเขาตาไม่กระพริบ ลอบกลืนน้ำลายลงคอราวกับเห็นของกินแสนอร่อยวางอยู่ตรงหน้า“หัวนมชมพู” เธอเผลอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ยกยิ้มที่ริมฝีปากมาอย่างลืมตัว“น้องนิวเยียร์ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยชื่อเพื่อเรียกสติเธอเอาแต่ยืนจ้องตุ่มไตสองเม็ดที่หน้าอก ดวงตาหวานเยิ้ม ทำเอาคนถูกมองเริ่มจะทำตัวไม่ถูกจนต้องเอาผ้าที่เช็ดผมมาบังแผงอกแท
“แกไม่ต้องกังวลหรอก ช่วงนี้พี่พิรัชย์งานยุ่งน่ะ กลับดึกทุกวันเลย”“พี่ธีร์ก็กลับดึกเหมือนกันเหรอ” เธอถามพรีมด้วยความสงสัย ถ้าพิรัชย์กลับดึก แสดงว่าสามีของเพื่อนก็ต้องกลับดึกเหมือนกัน เพราะทำงานด้วยกัน“อื้ม คงจะเป็นแบบนี้สักสองสามเดือน”“ทำไมล่ะ”“ก็พี่กิ่งแก้วที่เป็นผู้ช่วยเลขาลาคลอดน่ะ งานทั้งหมดพี่พิรัชย์เลยต้องรับผิดชอบแทนไปก่อน และพี่ธีร์เองก็รับงานในส่วนของพี่พิรัชย์มาทำเองบางส่วน”“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง คงจะเหนื่อยแย่เลยเนาะ”แต่แล้วก็มีความคิดดี ๆ ผุดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม“เออ แก” นิวเยียร์โพล่งขึ้นมาเสียงดังจนพรีมแทบจะสะดุ้ง“อยู่ใกล้กันแค่นี้แกจะเสียงดังทำไม ฉันเกือบหัวใจวายตายแล้วเนี่ย” พรีมแกล้งเอ็ดเพื่อน“แกช่วยอะไรฉันหน่อยสิ”“ช่วยอะไร” พรีมรู้สึกถึงความคาดหวังบางอย่างจากดวงตาของเพื่อนที่ฉายแววออกมา“ช่วยพูดกับพี่ธีร์ให้ฉันเข้าไปเป็นผู้ช่วยของพี่พิรัชย์ที นะ นะ ยัยพรีม ช่วยฉันหน่อย แค่ให้ฉันได้ช่วยในระหว่างที่พี่กิ่งแก้วลาคลอดก็พอ” นิวเยียร์ทำหน้าอ้อน ยื่นมือไปจับมือของเพื่อนแล้วส่งสายตาอ้อนวอน“...” พรีมนั่งนิ่งราวกับใช้ความคิด ขณะที่นั่งมองหน้าเพื่อนที่กำลังเขย่าแขนของเธอเ
‘ไหน ๆ ก็โดนจับได้แล้ว ทำไมเมื่อกี้ไม่ขอเข้าไปนั่งเล่นที่ห้องของเขานะ’พอคิดได้ดังนั้นนิวเยียร์ก็เดินไปที่หน้ากระจก สำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผม ก่อนจะเดินออกจากห้องไปก๊อก ก๊อกคนในห้องที่กำลังต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสชาติจัดจ้าน เอาไว้กินคู่กับไข่ตุ๋นที่ได้มาเมื่อครู่ เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูก็เดินออกจากห้องครัวเพื่อไปดูว่าใครมา“น้องนิวเยียร์”“ขอเข้าไปได้ไหมคะ” หญิงสาวคลี่ยิ้มกว้างพยักเพยิดใบหน้าสวยและมองเข้าไปในห้องที่เคยมานอนค้างแล้วครั้งหนึ่ง“ครับ” จะปฏิเสธก็กระไรอยู่ เลยอนุญาตให้เธอเข้ามานิวเยียร์เดินตามเขาเข้าไปในห้องขนาดกว้าง แต่ข้าวของเครื่องใช้กลับถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ บ่งบอกถึงผู้อยู่อาศัยที่รักความสะอาดและความเรียบร้อย แต่แล้วจมูกของเธอได้รับกลิ่นที่โชยออกมาจากห้องครัว“ต้มบะหมี่เหรอคะ กลิ่นหอมจัง”“ครับ”“ขอกินด้วยได้ไหมคะ”ใจกล้าหน้าด้านแล้วทำกระเพาะว่างเข้าไว้ แม้จะกินไข่ตุ๋นไปแล้วหลายถ้วย แต่ก็ต้องเอ่ยออกไปเหมือนยังไม่ได้กินอะไร เขาจะได้ทำให้กิน และทั้งสองก็จะได้นั่งกินมื้อค่ำด้วยกัน“เอ่อ… ครับ นั่งรอตรงนี้ก่อนนะครับ ว่าแต่ชอบกินเผ็ดไหม” เขาผายมือไปตรงโ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาเพิร์ธกลับจากที่ทำงานและกำลังเดินตรงไปที่ห้องพักบนชั้นเก้าของคอนโดสุดหรู พอเปิดเข้าไปในห้องก็ถอดเสื้อสูตตัวนอกออก ดึงชายเสื้อเชิ้ตสีขาวออกจากเอวกางเกง พลางเดินเข้าไปในครัวเพื่อจะได้สะดวกในการทำอาหาร แล้วจัดการนำวัตถุดิบในตู้เย็นออกมาเพื่อทำมื้อเย็นกริ้ง กริง…เขาละสายตาจากเนื้อที่กำลังหมักอยู่ในชามสีใส เย็นนี้ตั้งใจจะทำสเต๊กเนื้อเป็นมื้อเย็น แต่ก็ต้องถูกขัดจังหวะจากใครก็ไม่รู้ที่มากดกริ่งหน้าห้อง และพอเขาเดินไปเปิดประตูก็ไม่พบใคร เห็นเพียงแค่ถุงที่ห้อยอยู่ตรงคันโยกของประตูก็พลันรู้สึกแปลกใจจึงหยิบขึ้นมาเปิดดู ก็พบว่าเป็นเค้กชิ้นเล็กรสช็อกโกแลตวางอยู่ในกล่อง พร้อมกับนมรสสตรอว์เบอรีที่อยู่ในขวดใสมีฉลากน่ารักติดอยู่เขาหันมองซ้ายทีขวาทีเผื่อว่าจะมีใครลืมเอาไว้ผิดห้องแต่ก็ไม่พบใคร จึงถือถุงนั้นเข้าไปในห้องแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นเพราะไม่กล้ากิน ปกติเขาไม่เคยสั่งของขึ้นมาส่งถึงหน้าห้อง หรือได้รับของจากใครแบบนี้เลยหลังจากกินมื้อเย็นเสร็จเขาก็นั่งทำงานต่อจนดึก ก็เข้าไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนเพื่อให้พร้อมกับการทำงานในเช้าอีกวันในขณะที่หญิงสาวที่ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่วันแรกก็รู้สึ
เฮือก!!!!!“พี่พิรัชย์”เธอสะดุ้งตื่นขึ้นในช่วงค่ำของวันพร้อมกับเรียกหาคนที่กำลังจะมีช่วงเวลาดี ๆ ร่วมกัน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากอก พอหันมองหาคนที่กอดจูบกันก็ปรากฏว่าไม่มีใคร และเสื้อผ้าก็ยังอยู่ครบ“ฝันไปเหรอเนี่ย”นิวเยียร์ยู่ปากออกมาด้านหน้าพร้อมกับถอนหายใจราวกับเสียดาย ขนาดฝันยังหวงเนื้อหวงตัว เขาได้เห็นเธอล่อนจ้อนไม่เหลือเสื้อผ้าเลยสักชิ้น แต่เธอกลับได้เห็นแค่ท่อนบนของเขาเท่านั้น‘ขี้โกงชะมัด’พอนึกถึงหน้าอกขาว ๆ ก็ทำให้หญิงสาวถึงกับหลุดยิ้มแล้วบิดตัวเขิน ล้มตัวลงนอนกอดผ้าห่มพลิกตะแคงซ้ายทีขวาทีราวกับคนเสียสติ คิดถึงหน้าของคนที่เข้ามาทำให้ใจเต้นแรง นี่ขนาดแค่ในความฝัน แล้วถ้าเป็นความจริงมันจะฟินสักแค่ไหนคิดแล้วก็น่าเสียดายที่ในความฝันยังไม่ทันได้เข้าด้ายเข้าเข็มแต่เธอก็ดันสะดุ้งตื่นเสียก่อน มาทำให้อยากแล้วก็จากไป ทำไมไม่ทำให้มันเสร็จ ๆ กันนะสองอาทิตย์ต่อมาราวกับว่าโชคชะตาเป็นใจให้เธอและเขามีโอกาสได้พบกันอีกครั้งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และเขาก็กำลังนั่งรออาหารอยู่เพียงลำพัง“ขอนั่งด้วยนะคะ”คนที่นั่งอยู่ก่อนเงยหน้าขึ้นมองสาวสวยที่มาขอนั่งด้วย แต่ก็ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก
หลังจากที่เพิร์ธส่งหญิงสาวกลับไปเอารถที่ผับ นิวเยียร์ก็รีบขับกลับคอนโด และเมื่อไปถึงห้องก็วิ่งไปที่หน้ากระจกเพื่อส่องดูสภาพอันน่าอับอายของตัวเอง ไม่คิดว่าการเจอกันในครั้งนี้จะทำให้เธอขายขี้หน้า แทนที่เขาจะได้เห็นเธอในสภาพที่ดีกว่านี้ แต่กลับได้เห็นผู้หญิงเมาจนเอาตัวเองไม่รอด แถมยังอ้วกใส่เขาอีกต่างหาก“ยัยนิวเยียร์เอ๊ย แกนี่ขายขี้หน้าเก่งชะมัด”แล้วอย่างนี้เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ครั้งหน้าหากเจอกันอีกเธอจะกล้าสู้หน้าเขาอีกเหรอ“อย่าคิดอย่างนั้นสิ เธอมันใจกล้าหน้าด้านอยู่แล้วยัยนิวเยียร์ เจอก็เจอสิ จะกลัวอะไร” เธอได้แต่ปลอบใจและเรียกความกล้าให้กับตัวเองผ่านเงาในกระจกหลังจากอาบน้ำแต่งตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่ ก็ขึ้นไปนั่งบนเตียงส่งมือเล็กไปหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรู ต่อสายไปหาเพื่อนรักเพื่อเมาท์มอยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น“ยัยพรีม แกรู้ไหมว่าเมื่อคืนฉันนอนที่ไหน” พอเพื่อนรักกดรับสาย นิวเยียร์ก็รีบเอ่ยออกไปทันทีด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น(อย่าบอกนะว่าแกโดนผู้ชายคนนั้นหิ้วกลับไปด้วย)พรีมรู้สึกตกใจกับคำถามที่ได้รับเลยรีบถามกลับ“จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้ไปกับผู้ชายคนนั้นสักหน่อย” ใครจะอยา
เพิร์ธจำใจต้องเลี้ยวรถกลับคอนโดมิเนียมของตน เพราะจะโทรไปขอที่อยู่ของนิวเยียร์จากเจ้านายมันก็ดึกเกินไปพอไปถึงก็หยิบกระดาษทิชชูที่มีติดรถไว้มาเช็ดคราบที่เปรอะเปื้อนเต็มหว่างขา จากนั้นก็ลงจากรถเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งที่หญิงสาวนั่ง ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วอุ้มเธอออกจากรถ พร้อมกับคว้ากระเป๋าสะพายของเธอออกมาด้วยเขาพาเธอเข้าไปในลิฟต์แล้วกดชั้นที่พักอยู่ เมื่อขึ้นไปถึงห้องก็อุ้มคนที่นอนหลับสบายเข้าไปวางบนเตียงขนาดคิงไซซ์อย่างเบามือ จากนั้นก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เพิร์ธเข้าไปนั่งที่ขอบเตียงแล้วเขย่าแขนเรียก แต่นิวเยียร์ก็ไม่ยอมตื่น พอทำอะไรไม่ได้ก็คงต้องปล่อยให้นอนค้างที่นี่สักคืน เขาจึงลุกไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็ก นำไปชุบน้ำแล้วบิดหมาดมาเช็ดใบหน้าที่แดงระเรื่อและลำคอของคนเมา“อือ” นิวเยียร์รู้สึกเย็นวาบจนสะดุ้งแต่ก็ยังไม่ลืมดวงตาที่หนักอึ้ง ได้แต่ส่งเสียงร้องประท้วงในลำคอ พร้อมกับปัดป่ายแขนไปมาเนื่องจากถูกรบกวน“เช็ดตัวก่อนครับ”เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับจับแขนของเธอให้อยู่นิ่งแล้วใช้ผ้าเช็ดทั้งสองข้าง พลางส่งสายตามองไปยังช่วงหน้าอกและแผ่นหลังที่อยู่นอกร่มผ้า ก่อนจะเบี่ยงสายตามองไปทางอื่นพร้อม
ณ สถานบันเทิงแห่งหนึ่งนิวเยียร์ ณัฐชยาน์ ศิลป์สุนทรกมล หญิงสาวที่อยู่ในชุดเสื้อแขนยาวสีดำเปิดไหล่กว้าง กระโปรงตัวสั้นสีดำปักเลื่อมประกายวิบวับสะท้อนกับแสงหลากสีในผับดัง กำลังนั่งดื่มเหล้าตามลำพังด้วยความเคยชินเธอเป็นคนชอบดื่มและออกมาเที่ยวกลางคืนอาทิตย์ละครั้ง สองครั้ง และทุกครั้งก็มักจะนั่งอยู่คนเดียวเพราะเพื่อนสนิทก็แต่งงานมีสามีแล้ว มีเพียงแค่เธอที่อายุก็ย่างจะเข้ายี่สิบสี่ปี แต่ก็ยังไม่เคยมีแฟนแม้แต่คนเดียว“ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ” หนุ่มหล่อที่ออกมาเที่ยวกลางคืนเอ่ยกับเธอ“เอ่อ…”“ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ พอดีผมมาเที่ยวคนเดียวเหมือนกัน แค่อยากหาคนนั่งดื่มเป็นเพื่อน” หนุ่มคนดังกล่าวเอ่ยออกมาอีกครั้ง เพราะเห็นว่าหญิงสาวกำลังใช้ความคิดและยังไม่ได้ตอบกลับมา“นั่งด้วยกันก็ได้ค่ะ” ไหน ๆ เธอก็นั่งคนเดียวอยู่แล้ว มีเพื่อนดื่มด้วยสักคนก็ดีเหมือนกัน“ผมขอเลี้ยงคุณนะครับ” หนุ่มหล่อโชว์ความใจป้ำเสนอตัวเลี้ยงเหล้าสาวสวยนิวเยียร์ก็ยกยิ้มพยักหน้าขึ้นลงเป็นเชิงตอบรับกับน้ำใจของการเจอกันเป็นครั้งแรกเวลาผ่านไปประมาณสามชั่วโมง เหล้าขวดที่สองก็ได้พร่องลงจนเหลือก้นขวด นิวเยียร์ก็เกิดรู้สึกร้อนผ่าว