เพิร์ธจำใจต้องเลี้ยวรถกลับคอนโดมิเนียมของตน เพราะจะโทรไปขอที่อยู่ของนิวเยียร์จากเจ้านายมันก็ดึกเกินไป
พอไปถึงก็หยิบกระดาษทิชชูที่มีติดรถไว้มาเช็ดคราบที่เปรอะเปื้อนเต็มหว่างขา จากนั้นก็ลงจากรถเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งที่หญิงสาวนั่ง ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วอุ้มเธอออกจากรถ พร้อมกับคว้ากระเป๋าสะพายของเธอออกมาด้วย
เขาพาเธอเข้าไปในลิฟต์แล้วกดชั้นที่พักอยู่ เมื่อขึ้นไปถึงห้องก็อุ้มคนที่นอนหลับสบายเข้าไปวางบนเตียงขนาดคิงไซซ์อย่างเบามือ จากนั้นก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่
เพิร์ธเข้าไปนั่งที่ขอบเตียงแล้วเขย่าแขนเรียก แต่นิวเยียร์ก็ไม่ยอมตื่น พอทำอะไรไม่ได้ก็คงต้องปล่อยให้นอนค้างที่นี่สักคืน เขาจึงลุกไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็ก นำไปชุบน้ำแล้วบิดหมาดมาเช็ดใบหน้าที่แดงระเรื่อและลำคอของคนเมา
“อือ” นิวเยียร์รู้สึกเย็นวาบจนสะดุ้งแต่ก็ยังไม่ลืมดวงตาที่หนักอึ้ง ได้แต่ส่งเสียงร้องประท้วงในลำคอ พร้อมกับปัดป่ายแขนไปมาเนื่องจากถูกรบกวน
“เช็ดตัวก่อนครับ”
เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับจับแขนของเธอให้อยู่นิ่งแล้วใช้ผ้าเช็ดทั้งสองข้าง พลางส่งสายตามองไปยังช่วงหน้าอกและแผ่นหลังที่อยู่นอกร่มผ้า ก่อนจะเบี่ยงสายตามองไปทางอื่นพร้อมกับลมหายใจติดขัด เรือนร่างตรงส่วนนั้นคิดว่าคงไม่ต้องเช็ดก็ได้ รวมทั้งเรียวขาขาวทั้งสองข้างที่ดิ้นไปมาจนกระโปรงตัวสั้นร่นขึ้นมากองอยู่บนต้นขา
เพิร์ธนำผ้าขนหนูไปซักที่ห้องน้ำแล้วนำไปตากไว้ที่ด้านนอกของระเบียงห้อง พอกลับมาที่เตียงก็พบว่าหญิงสาวได้ละเมอลุกขึ้นนั่ง แล้วถอดเสื้อแขนยาวสีดำของเธอแล้วโยนมันลงข้างเตียง เผยให้เห็นผิวขาวเนียนละเอียดของเรือนร่างภายใต้ร่มผ้า และตอนนี้เธอก็กำลังจะเอื้อมมือไปปลดตะขอเสื้อชั้นใน
“ขะ คุณนิวเยียร์”
แม้จะรู้สึกหายใจติดขัดและร้อนใบหน้าขึ้นมาเสียดื้อ ๆ แต่เพิร์ธก็ตัดสินใจรีบเข้าไปห้ามพร้อมกับดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวของเธอ ที่ตอนนี้มีแต่บราลายลูกไม้สีดำปกปิดเจ้าก้อนเนื้อทั้งสองก้อนที่ใหญ่จนเกินตัวของคนหุ่นเล็ก
“ร้อนจัง”
“นอนเถอะครับ เดี๋ยวผมจะปรับแอร์ให้” เขาบอกกับคนเมา แล้วใช้ผ้าห่มพันตัวของเธอไปหลายรอบ ก่อนจะประคองลงนอน
นิวเยียร์ดิ้นขลุกขลักอยู่ในผ้าห่ม แต่ด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิดบวกกับความเมาทำให้เธอไม่สามารถที่จะหลุดออกจากผ้าผืนหนาที่พันอยู่รอบตัวได้ จำต้องนอนนิ่งราวกับคนสิ้นฤทธิ์
เพิร์ธเดินไปหยิบรีโมตขึ้นมากดปรับอุณหภูมิของแอร์จากเดิมที่เปิดเพียงแค่ยี่สิบห้าองศา เปลี่ยนเป็นสิบแปดองศา เพื่อให้คนที่ถูกห่อตัวได้นอนหลับสบายขึ้น แล้วเขาก็ขึ้นไปนอนอยู่ข้างกันแต่หันหลังให้
ทั้งคืนเพิร์ธนอนขดตัวด้วยความเหน็บหนาว ผ้าห่มอีกชุดก็เพิ่งจะส่งซักเมื่อเช้ายังไม่ได้ไปเอา เขาเลยไม่มีอะไรปกคลุมเพื่อคลายความหนาวเย็น ทำได้แค่ลุกขึ้นไปหยิบเสื้อแขนยาวมาสวมใส่อีกชั้นเพื่อให้ร่างกายรู้สึกอุ่นขึ้น
ฮัดชิ้ว…
เพิร์ธตื่นขึ้นมาด้วยอาการงัวเงียพร้อมกับเสียงจามและมีน้ำมูกสีใส เมื่อคืนแทบจะนอนไม่หลับเพราะมีผู้หญิงมานอนร่วมเตียง อีกทั้งเขาเป็นภูมิแพ้อากาศ และเมื่อคืนก็นอนตัวสั่นทั้งคืน ทำให้เช้านี้อาการหวัดเข้าเล่นงาน แต่ดูเหมือนคนที่มาแย่งพื้นที่บนเตียงและผ้าห่มของเขากำลังนอนหลับสบาย
เพิร์ธจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองสำหรับใส่อยู่บ้าน วันนี้เป็นวันหยุดของเจ้านาย เขาจึงไม่ต้องไปทำงาน และออกไปเตรียมอาหารเช้าในครัว
นิวเยียร์ที่รู้สึกตัวตื่นแต่ด้วยอาการปวดหัวทำให้เธอนอนนิ่งอยู่แบบนั้น แล้วส่งมือขึ้นคลึงขมับเพื่อคลายความเจ็บปวด สักพักพอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นได้ก็พบว่านี่มันไม่ใช่ห้องของตัวเอง
“กรี๊ด…”
เธอส่งเสียงร้องดังลั่นห้อง พร้อมกับพยายามดิ้นตัวออกจากผ้าห่ม และพอหลุดออกมาได้ก็พบว่าบนเนื้อตัวของเธอเสื้อผ้ายังอยู่ครบ แต่ที่หายไปคือเสื้อแขนยาวสีดำ
นิวเยียร์ได้แต่กุมขมับใช้ความคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วนี่เธออยู่ที่ไหน เสื้อของเธอหายไปไหน พอตั้งสติได้ก็มองออกไปรอบบริเวณห้อง แล้วรีบลุกออกจากเตียงก็พบว่าเสื้อของเธอวางอยู่ที่โซฟาบริเวณมุมห้อง จึงรีบเดินไปหยิบขึ้นมาสวมใส่
ดวงตากลมโตหันมองหากระเป๋ากับโทรศัพท์มือถือ เมื่อเห็นว่ามันวางอยู่ที่โต๊ะข้างหัวเตียงก็รีบคว้าเอามาเปิดดู เมื่อคืนจำได้ว่าโทรหาพรีมเพื่อขอให้มารับ แต่ทำไมเธอถึงมาอยู่ห้องของใครก็ไม่รู้ และพอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็ปรากฏว่าแบตเตอรีได้หมดไปแล้ว
นิวเยียร์รีบเดินออกจากห้องนอนแล้วหันไปปิดประตูให้เบามือที่สุด แต่พอหันหน้าออกไปก็พบกับหนุ่มเลขาสุดหล่อที่กำลังเดินถือจานอาหารมาวางไว้ที่โต๊ะด้วยสีหน้าไม่ค่อยสดชื่น
“ตื่นแล้วเหรอครับ”
“พี่พิรัชย์”
นิวเยียร์เบิกตาโพลงอย่างไม่เชื่อสายตา นี่ห้องของเขาอย่างนั้นหรือ งั้นก็แปลว่าเมื่อคืนเธอกับเขา…
“ไปล้างหน้าแล้วมากินข้าวด้วยกันสิครับ ผมทำซุปแก้เมาให้คุณด้วย” เพิรธ์เอ่ยจบก็หันหลังเดินเข้าไปในครัว เพื่อเข้าไปหยิบน้ำและแก้ว
“เอ่อ… เมื่อคืน…” นิวเยียร์อ้ำอึ้ง จะถามก็ไม่กล้าถาม
ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ตอบว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำเอาเธอเริ่มจะทำตัวไม่ถูก
“พี่พิรัชย์คะ เราสองคน…”
“คิดว่าเมื่อคืนเราทำอะไรกันครับ”
ยิ่งคนตรงหน้าถามกลับมาอย่างมีเลศนัย เธอก็ยิ่งคิดถึงเรื่องอย่างว่า แต่ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยออกไปตรง ๆ
“ทำ… แบบว่า…”
“หมายถึงเรื่องที่ผู้ชายกับผู้หญิงทำร่วมกัน”
“ค่ะ” นิวเยียร์ขานรับด้วยหัวใจที่เต้นระรัว อย่าบอกนะว่าเธอกับเขามีอะไรกันแล้ว
“เช้านี้คุณรู้สึกอะไรบ้างล่ะครับ”
“แค่ปวดหัวค่ะ”
“นั่นก็แปลว่าคุณแค่เมาครับ ผมยังไม่ได้ทำอะไร”
“แล้วทำไมถึงไม่ทำล่ะคะ”
พอพูดจบก็รีบหลับตาแน่นสนิทแล้วก้มหน้าลงด้วยความอาย ไม่รู้ว่าเธอได้พูดอะไรออกไป แต่มันก็พลั้งปากไปแล้ว
เพิร์ธเริ่มหายใจติดขัดกับประโยคที่ได้ฟัง รีบเทน้ำเย็นใส่แก้วแล้วยกขึ้นดื่มเพื่อดับความร้อนที่ปะทุขึ้นใบหน้า
เมื่อก่อนเขาก็โดนหญิงสาวตรงหน้าเต๊าะแทบจะทุกครั้งที่เจอกัน แต่เธอก็ไม่ได้จริงจังสักเท่าไร แต่นี่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง เธอก็ยังกล้าพูดแบบนี้กับเขา ทำเอาคนฟังเริ่มจะทำตัวไม่ถูก ทั้งที่เขาก็ไม่ได้เสียหายอะไร
“หนูก็พูดเล่นไปอย่างนั้นแหละค่ะ พี่พิรัชย์อย่าถือสาเลยนะคะ เมื่อก่อนหนูก็เต๊าะพี่ออกจะบ่อย หึหึ” นิวเยียร์แสร้งยิ้ม แล้วรีบพูดทำลายบรรยากาศกระอักกระอ่วนที่กำลังเผชิญ
นานแล้วที่ทั้งคู่ไม่ได้เจอกัน แต่พอมาเจอกันครั้งนี้เธอก็เมาจนเอาตัวเองไม่รอด ไม่รู้ว่าเมื่อคืนได้ทำเรื่องน่าอายอะไรลงไปบ้าง แต่ดีที่คนที่มานอนค้างด้วยคือพิรัชย์ เพราะถ้าเป็นคนอื่นป่านนี้เธอคงป่นปี้ไปหมดแล้ว
“แล้วทำไมเมื่อคืนถึงเป็นพี่ที่ไปรับล่ะคะ หนูจำได้ว่าโทรหาพรีม”
“คุณธีร์บอกให้ผมไปรับคุณที่ผับ ผมก็แค่ทำตามหน้าที่”
“แล้วทำไมถึงไม่ส่งหนูกลับคอนโดล่ะ”
คำก็หน้าที่ สองคำก็หน้าที่ เขาจะไม่เลือกทำตัวห่างเหินกับเธอจริงเหรอ ทำอย่างกับคนไม่เคยรู้จักกัน
“นี่คุณจำอะไรไม่ได้จริง ๆ เหรอครับ”
“เอ่อ…” นิวเยียร์ชักไม่มั่นใจว่าเมื่อคืนทำอะไรไปบ้าง
“คุณเมาแล้วอ้วกใส่ผม จากนั้นก็นอนหลับไปเลย ผมเลยต้องพามาที่นี่”
พอพิรัชต์พูดมาแบบนั้น นิวเยียร์ก็คิดขึ้นได้ว่าเมื่อคืนได้ทำเรื่องน่าอายไปมากขนาดไหน เธอได้แต่ยกมือขึ้นปิดใบหน้าแดงก่ำ ไม่คิดว่าจะเมาแล้วรั่วได้ถึงขนาดนี้
“ฉันอยากกลับแล้วค่ะ ต้องไปเรียกรถแท็กซีที่ไหนคะ”
“กินข้าวเสร็จแล้วเดี๋ยวผมไปส่ง”
หลังจากที่เพิร์ธส่งหญิงสาวกลับไปเอารถที่ผับ นิวเยียร์ก็รีบขับกลับคอนโด และเมื่อไปถึงห้องก็วิ่งไปที่หน้ากระจกเพื่อส่องดูสภาพอันน่าอับอายของตัวเอง ไม่คิดว่าการเจอกันในครั้งนี้จะทำให้เธอขายขี้หน้า แทนที่เขาจะได้เห็นเธอในสภาพที่ดีกว่านี้ แต่กลับได้เห็นผู้หญิงเมาจนเอาตัวเองไม่รอด แถมยังอ้วกใส่เขาอีกต่างหาก“ยัยนิวเยียร์เอ๊ย แกนี่ขายขี้หน้าเก่งชะมัด”แล้วอย่างนี้เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ครั้งหน้าหากเจอกันอีกเธอจะกล้าสู้หน้าเขาอีกเหรอ“อย่าคิดอย่างนั้นสิ เธอมันใจกล้าหน้าด้านอยู่แล้วยัยนิวเยียร์ เจอก็เจอสิ จะกลัวอะไร” เธอได้แต่ปลอบใจและเรียกความกล้าให้กับตัวเองผ่านเงาในกระจกหลังจากอาบน้ำแต่งตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่ ก็ขึ้นไปนั่งบนเตียงส่งมือเล็กไปหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรู ต่อสายไปหาเพื่อนรักเพื่อเมาท์มอยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น“ยัยพรีม แกรู้ไหมว่าเมื่อคืนฉันนอนที่ไหน” พอเพื่อนรักกดรับสาย นิวเยียร์ก็รีบเอ่ยออกไปทันทีด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น(อย่าบอกนะว่าแกโดนผู้ชายคนนั้นหิ้วกลับไปด้วย)พรีมรู้สึกตกใจกับคำถามที่ได้รับเลยรีบถามกลับ“จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้ไปกับผู้ชายคนนั้นสักหน่อย” ใครจะอยา
เฮือก!!!!!“พี่พิรัชย์”เธอสะดุ้งตื่นขึ้นในช่วงค่ำของวันพร้อมกับเรียกหาคนที่กำลังจะมีช่วงเวลาดี ๆ ร่วมกัน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากอก พอหันมองหาคนที่กอดจูบกันก็ปรากฏว่าไม่มีใคร และเสื้อผ้าก็ยังอยู่ครบ“ฝันไปเหรอเนี่ย”นิวเยียร์ยู่ปากออกมาด้านหน้าพร้อมกับถอนหายใจราวกับเสียดาย ขนาดฝันยังหวงเนื้อหวงตัว เขาได้เห็นเธอล่อนจ้อนไม่เหลือเสื้อผ้าเลยสักชิ้น แต่เธอกลับได้เห็นแค่ท่อนบนของเขาเท่านั้น‘ขี้โกงชะมัด’พอนึกถึงหน้าอกขาว ๆ ก็ทำให้หญิงสาวถึงกับหลุดยิ้มแล้วบิดตัวเขิน ล้มตัวลงนอนกอดผ้าห่มพลิกตะแคงซ้ายทีขวาทีราวกับคนเสียสติ คิดถึงหน้าของคนที่เข้ามาทำให้ใจเต้นแรง นี่ขนาดแค่ในความฝัน แล้วถ้าเป็นความจริงมันจะฟินสักแค่ไหนคิดแล้วก็น่าเสียดายที่ในความฝันยังไม่ทันได้เข้าด้ายเข้าเข็มแต่เธอก็ดันสะดุ้งตื่นเสียก่อน มาทำให้อยากแล้วก็จากไป ทำไมไม่ทำให้มันเสร็จ ๆ กันนะสองอาทิตย์ต่อมาราวกับว่าโชคชะตาเป็นใจให้เธอและเขามีโอกาสได้พบกันอีกครั้งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และเขาก็กำลังนั่งรออาหารอยู่เพียงลำพัง“ขอนั่งด้วยนะคะ”คนที่นั่งอยู่ก่อนเงยหน้าขึ้นมองสาวสวยที่มาขอนั่งด้วย แต่ก็ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาเพิร์ธกลับจากที่ทำงานและกำลังเดินตรงไปที่ห้องพักบนชั้นเก้าของคอนโดสุดหรู พอเปิดเข้าไปในห้องก็ถอดเสื้อสูตตัวนอกออก ดึงชายเสื้อเชิ้ตสีขาวออกจากเอวกางเกง พลางเดินเข้าไปในครัวเพื่อจะได้สะดวกในการทำอาหาร แล้วจัดการนำวัตถุดิบในตู้เย็นออกมาเพื่อทำมื้อเย็นกริ้ง กริง…เขาละสายตาจากเนื้อที่กำลังหมักอยู่ในชามสีใส เย็นนี้ตั้งใจจะทำสเต๊กเนื้อเป็นมื้อเย็น แต่ก็ต้องถูกขัดจังหวะจากใครก็ไม่รู้ที่มากดกริ่งหน้าห้อง และพอเขาเดินไปเปิดประตูก็ไม่พบใคร เห็นเพียงแค่ถุงที่ห้อยอยู่ตรงคันโยกของประตูก็พลันรู้สึกแปลกใจจึงหยิบขึ้นมาเปิดดู ก็พบว่าเป็นเค้กชิ้นเล็กรสช็อกโกแลตวางอยู่ในกล่อง พร้อมกับนมรสสตรอว์เบอรีที่อยู่ในขวดใสมีฉลากน่ารักติดอยู่เขาหันมองซ้ายทีขวาทีเผื่อว่าจะมีใครลืมเอาไว้ผิดห้องแต่ก็ไม่พบใคร จึงถือถุงนั้นเข้าไปในห้องแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นเพราะไม่กล้ากิน ปกติเขาไม่เคยสั่งของขึ้นมาส่งถึงหน้าห้อง หรือได้รับของจากใครแบบนี้เลยหลังจากกินมื้อเย็นเสร็จเขาก็นั่งทำงานต่อจนดึก ก็เข้าไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนเพื่อให้พร้อมกับการทำงานในเช้าอีกวันในขณะที่หญิงสาวที่ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่วันแรกก็รู้สึ
‘ไหน ๆ ก็โดนจับได้แล้ว ทำไมเมื่อกี้ไม่ขอเข้าไปนั่งเล่นที่ห้องของเขานะ’พอคิดได้ดังนั้นนิวเยียร์ก็เดินไปที่หน้ากระจก สำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผม ก่อนจะเดินออกจากห้องไปก๊อก ก๊อกคนในห้องที่กำลังต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสชาติจัดจ้าน เอาไว้กินคู่กับไข่ตุ๋นที่ได้มาเมื่อครู่ เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูก็เดินออกจากห้องครัวเพื่อไปดูว่าใครมา“น้องนิวเยียร์”“ขอเข้าไปได้ไหมคะ” หญิงสาวคลี่ยิ้มกว้างพยักเพยิดใบหน้าสวยและมองเข้าไปในห้องที่เคยมานอนค้างแล้วครั้งหนึ่ง“ครับ” จะปฏิเสธก็กระไรอยู่ เลยอนุญาตให้เธอเข้ามานิวเยียร์เดินตามเขาเข้าไปในห้องขนาดกว้าง แต่ข้าวของเครื่องใช้กลับถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ บ่งบอกถึงผู้อยู่อาศัยที่รักความสะอาดและความเรียบร้อย แต่แล้วจมูกของเธอได้รับกลิ่นที่โชยออกมาจากห้องครัว“ต้มบะหมี่เหรอคะ กลิ่นหอมจัง”“ครับ”“ขอกินด้วยได้ไหมคะ”ใจกล้าหน้าด้านแล้วทำกระเพาะว่างเข้าไว้ แม้จะกินไข่ตุ๋นไปแล้วหลายถ้วย แต่ก็ต้องเอ่ยออกไปเหมือนยังไม่ได้กินอะไร เขาจะได้ทำให้กิน และทั้งสองก็จะได้นั่งกินมื้อค่ำด้วยกัน“เอ่อ… ครับ นั่งรอตรงนี้ก่อนนะครับ ว่าแต่ชอบกินเผ็ดไหม” เขาผายมือไปตรงโ
“แกไม่ต้องกังวลหรอก ช่วงนี้พี่พิรัชย์งานยุ่งน่ะ กลับดึกทุกวันเลย”“พี่ธีร์ก็กลับดึกเหมือนกันเหรอ” เธอถามพรีมด้วยความสงสัย ถ้าพิรัชย์กลับดึก แสดงว่าสามีของเพื่อนก็ต้องกลับดึกเหมือนกัน เพราะทำงานด้วยกัน“อื้ม คงจะเป็นแบบนี้สักสองสามเดือน”“ทำไมล่ะ”“ก็พี่กิ่งแก้วที่เป็นผู้ช่วยเลขาลาคลอดน่ะ งานทั้งหมดพี่พิรัชย์เลยต้องรับผิดชอบแทนไปก่อน และพี่ธีร์เองก็รับงานในส่วนของพี่พิรัชย์มาทำเองบางส่วน”“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง คงจะเหนื่อยแย่เลยเนาะ”แต่แล้วก็มีความคิดดี ๆ ผุดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม“เออ แก” นิวเยียร์โพล่งขึ้นมาเสียงดังจนพรีมแทบจะสะดุ้ง“อยู่ใกล้กันแค่นี้แกจะเสียงดังทำไม ฉันเกือบหัวใจวายตายแล้วเนี่ย” พรีมแกล้งเอ็ดเพื่อน“แกช่วยอะไรฉันหน่อยสิ”“ช่วยอะไร” พรีมรู้สึกถึงความคาดหวังบางอย่างจากดวงตาของเพื่อนที่ฉายแววออกมา“ช่วยพูดกับพี่ธีร์ให้ฉันเข้าไปเป็นผู้ช่วยของพี่พิรัชย์ที นะ นะ ยัยพรีม ช่วยฉันหน่อย แค่ให้ฉันได้ช่วยในระหว่างที่พี่กิ่งแก้วลาคลอดก็พอ” นิวเยียร์ทำหน้าอ้อน ยื่นมือไปจับมือของเพื่อนแล้วส่งสายตาอ้อนวอน“...” พรีมนั่งนิ่งราวกับใช้ความคิด ขณะที่นั่งมองหน้าเพื่อนที่กำลังเขย่าแขนของเธอเ
ตั้งแต่ได้ไปทำงานด้วยกันนิวเยียร์ก็นอนดึกกว่าเดิม เพราะงานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ที่รับทำยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่เธอก็ทำเองแค่งานที่ใช้เวลาไม่เกินสามชั่วโมง ถ้าเป็นงานยากช่วงนี้คงต้องส่งให้กับโรงพิมพ์ของพรีมเป็นคนทำไปก่อนทุกเช้าเธอจะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ตีห้าครึ่งเพื่อที่จะอาบน้ำแต่งตัว และแต่งหน้าสวย ๆ เตรียมไปกินข้าวกับใครบางคนก๊อก ก๊อกทันทีที่ประตูเปิดออก นิวเยียร์ก็เกิดอาการร้อนที่ใบหน้า หัวใจดวงน้อยเต้นแรงตึกตักราวกับกำลังตื่นเต้น เมื่อเจ้าของห้องสุดหล่อที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จเพราะได้กลิ่นหอมของสบู่อ่อน ๆ โชยเข้าจมูก แถมเขายังสวมใส่แค่กางเกงวอร์มสีดำ เผยช่วงบนให้ได้เห็นหน้าอกขาว ๆ หน้าท้องมีซิกซ์แพ็กเป็นลอนงาม คล้ายกับในความฝันของเธอไม่มีผิดนิวเยียร์ยืนนิ่งจ้องมองเขาตาไม่กระพริบ ลอบกลืนน้ำลายลงคอราวกับเห็นของกินแสนอร่อยวางอยู่ตรงหน้า“หัวนมชมพู” เธอเผลอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ยกยิ้มที่ริมฝีปากมาอย่างลืมตัว“น้องนิวเยียร์ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยชื่อเพื่อเรียกสติเธอเอาแต่ยืนจ้องตุ่มไตสองเม็ดที่หน้าอก ดวงตาหวานเยิ้ม ทำเอาคนถูกมองเริ่มจะทำตัวไม่ถูกจนต้องเอาผ้าที่เช็ดผมมาบังแผงอกแท
เพิร์ธระบายยิ้มมุมปาก จ้องใบหน้าหวานที่รอฟังคำตอบเพียงแค่ชั่วครู่ จากนั้นก็หันไปขับรถต่อโดยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป“ว่ายังไงคะ ถ้าหนูขอพี่จะให้ไหม” นิวเยียร์เอ่ยออกไปอีกครั้ง และรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อเธอบอกใบ้ไปตั้งหลายครั้งแล้วว่าคนที่กำลังจีบคือเขา แต่ทำไมถึงได้ซึนและความรู้สึกช้าขนาดนี้‘นี่เขาแกล้งไม่เข้าใจ หรือเข้าใจแล้วแต่ไม่สนใจเธอกันแน่’แต่แล้วความเงียบที่ได้รับกลับมาก็ทำให้เธอถอนหายใจ เบือนหน้ามองวิวข้างทางแทน และข้าวมื้อเที่ยงก็กินได้แค่ไม่กี่คำ จากตอนแรกที่คิดว่าโมโหจนหิวข้าวมาก อยากจะกินให้หายหงุดหงิด แต่พอเขาเงียบ เธอก็หมดอารมณ์กินข้าวไปโดยปริยายระหว่างทำงานในช่วงบ่าย นิวเยียร์ก็นั่งทำหน้าบึ้งตึงและไม่คุยเล่นกับเขาเหมือนเช่นเคย นอกจากจะถามเรื่องงาน และหลังจากทำงานเสร็จก็ถึงเวลากลับเสียทีขณะที่ต่างฝ่ายกำลังจะแยกย้ายเข้าห้องตัวเอง แต่แล้วชายหนุ่มก็ขานชื่อเธอขึ้น“น้องนิวเยียร์ครับ”“คะ” เธอหันกลับไปมองด้วยใบหน้าเหนื่อยล้าราวกับคนหมดแรง แค่เขาไม่ให้เบอร์ เธอก็เหมือนคนหมดอาลัยตายอยากและซึมเป็นส้วม“พี่ขอโทรศัพท์หน่อยสิครับ”“เอาไปทำไมคะ” เธอไม่ทันได้คิดก็รีบตอบกลับไป “หรือว
เวลาผ่านไปนับเดือนกับการทำงานเป็นผู้ช่วยเลขา นิวเยียร์มีความสุขกับงานชั่วคราวนี้มาก เพราะมันทำให้เธอได้อยู่ใกล้กับคนที่เธอชอบ แม้ว่าบางวันเขาจะไม่ได้ทำงานประจำอยู่ที่โต๊ะ เพราะต้องนัดเจอกับลูกค้าบ้าง หรือเข้าประชุมเป็นเวลาหลายชั่วโมงบ้าง แต่มันก็ยังดีกว่าการไม่ได้เจอหน้ากันเลยตลอดทั้งวันตั้งแต่มีโอกาสได้คุยแชทกันทุกคืน ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็นับว่าดีขึ้นกว่าการเป็นแค่คนที่อยู่คอนโดเดียวกัน ดีกว่าการเป็นเพื่อนนั่งกินข้าว ทั้งคู่มีการพูดคุยและสนิทสนมกันมากขึ้น มากพอที่จะไว้ใจกันและกัน และเธอก็สามารถมานั่งเล่นในห้องของเขาเป็นเวลานานได้ แม้จะนาน ๆ ครั้งก็ตาม เนื่องจากยังมีงานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ที่ยังต้องทำหลังเลิกงานแทบทุกคืนอยู่และคืนนี้กว่าเธอจะได้อาบน้ำนอนก็ปาไปเกือบเที่ยงคืน เพราะเพิ่งจะทำงานออกแบบเสร็จ แต่แล้วนิวเยียร์ก็ต้องสะดุ้งตื่นทั้งที่ยังหลับไปได้ไม่นาน แล้วนอนงอตัวด้วยอาการปวดที่ท้องด้วยความที่อาการหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนทนไม่ไหว ทำให้เธอต้องลุกขึ้นนั่งพิงหลังกับหัวเตียง มือข้างหนึ่งก็กดตรงท้องช่วงบนแต่ก็ไม่อาจคลายความเจ็บปวดลงได้ พอลุกไปเปิดดูกล่องยาที่อยู่ตรงลิ้นชักที่โต๊ะ
ทั้งสองเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นพ่อและแม่ จนกระทั่งแต่งงานได้หกเดือน นิวเยียร์ก็ยังคงมีประจำเดือนทุกเดือน แต่เดือนนี้รู้สึกว่าจะมาแปลก เพราะว่ามาตามรอบแล้ว และพอผ่านไปได้ประมาณสองอาทิตย์ก็มาอีก แต่มาเพียงน้อยนิดแค่พอติดผ้าอนามัย แล้วยังมีอาการวิงเวียนศีรษะ แถมยังเบื่ออาหารร่วมด้วย“สีหน้าดูไม่ดีเลยนะครับ” เพิร์ธถามภรรยาด้วยความเป็นห่วงช่วงนี้เขาก็ลดกิจกรรมนั้นลง ไม่ได้ทำนานเหมือนเมื่อก่อน เพราะอยากให้นิวเยียร์ได้นอนพักผ่อนให้เพียงพอ แต่ระยะหลังมานี้เธอก็มักจะง่วงนอนอยู่เป็นประจำ ราวกับคนหลับไม่เต็มอิ่ม“สองสามวันมานี้ หนูรู้สึกเพลียยังไงก็ไม่รู้ บอกไม่ถูก”“อาการเหมือนพักผ่อนน้อยเลยนะครับ พี่ว่าเราไปตรวจที่โรงพยาบาลกันนะ”“เล่นใหญ่อีกแล้วนะคะ หนูแค่เวียนหัวค่ะ”“พี่รู้ครับว่าแค่เวียนหัว แต่ช่วงนี้เราก็กินข้าวได้น้อยด้วย ไปตรวจให้แน่ใจดีกว่า”ยิ่งเห็นเธอทำตัวเข้มแข็งแบบนี้เขาก็ยิ่งเป็นห่วง เพราะช่วงกลางวันต้องปล่อยเธออยู่ที่ห้องตามลำพัง จะลางานช่วงนี้ก็ยากเพราะเจ้านายของเขากำลังมีดีลงานสำคัญ แต่ถ้ามันจำเป็นจริง ๆ อย่างไรเขาก็ต้องอยู่ดูแล“ไปก็ได้ค่ะ”เธอไม่อยากให้เขาเป็นห่วง แต่ไปตรวจห
ทันใดที่ทั้งสองคนส่งตัวเข้าห้องหอเสร็จ เพิร์ธก็อุ้มภรรยาสาวขึ้นมานั่งบนตักโดยหันหลังให้กันที่ปลายเตียง โน้มใบหน้ามากดหอมที่แก้มนุ่มทั้งสองข้าง“เจ้าสาวของพี่สวยจัง”“เจ้าบ่าวของหนูก็หล่อค่ะ”บ่าวสาวป้ายแดงผลัดกันชมอีกฝ่ายไม่ขาดปาก พลางจ้องมองสบตากันอย่างหวานซึ้ง ต่างมองอีกคนว่ามีเสน่ห์น่าหลงไหลเป็นอย่างมากเมื่ออยู่ในชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว แม้ปกติจะหล่อสวยกันอยู่แล้วก็ตาม“จ้องแบบนี้ไม่กินหนูเลยล่ะคะ”คำหยอกล้อได้เริ่มต้นขึ้น แต่อีกฝ่ายกลับคิดเป็นจริงเป็นจัง เพราะได้รับคำท้าเรื่องมีลูกเอาไว้แล้วเพิร์ธยื่นหน้าเข้าไปใกล้เมียสาวแล้วพรมจูบที่หน้าผากมนแผ่วเบา เลื่อนริมฝีปากมาจูบที่ปลายจมูกของคนที่กำลังหลับตาพริ้ม อมยิ้มเขิน และกำลังคิดว่าตอนนี้จะต้องตกเป็นเมียเขาอย่างสมบูรณ์ทั้งพฤตินัยและนิตินัย เพราะในระหว่างพิธีทั้งคู่ได้จดทะเบียนสมรสกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพิร์ธจับปลายคางของเมียสาวปรับให้ได้องศากับริมฝีปากที่กดจูบลงบนริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ ก่อนจะผละริมฝีปากออกแล้วจ้องใบหน้าหวานของนิวเยียร์ที่กำลังค่อย ๆ ลืมตาขึ้นแล้วส่งยิ้มหวานละมุน“แม่พี่บ่นอยากมีหลาน เรามีให้ท่านสักคนดีไหมครับ”“ค
1 เดือนต่อมาทั้งสองคนได้หาโอกาสนัดเจอกับพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายที่ภัตตาคารห้าดาวแห่งหนึ่ง บรรยากาศของการพบหน้ากันเป็นครั้งแรกก็ทำเอาคู่รักโล่งใจเป็นอย่างมากทั้งพ่อแม่ของเพิร์ธและนิวเยียร์หลังจากได้ทำความรู้จักกันแล้ว ก็พูดคุยอย่างเป็นกันเอง และผู้ใหญ่ก็ได้ยอมรับ แสดงความยินดีกับการคบกันของทั้งสองคนโดยเฉพาะแม่ของฝ่ายชายที่พอรู้ว่าลูกชายเพียงคนเดียวมีแฟนแล้ว ก็คะยั้นคะยอให้เร่งหาฤกษ์แต่งงานเพราะอยากจะอุ้มหลานไว ๆ เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมาได้กลุ้มใจเป็นอย่างมาก กลัวว่าลูกชายจะขึ้นคาน“แม่ของพี่นี่น่ารักดีนะคะ ตอนที่พูดว่ากลัวพี่จะขึ้นคานสีหน้าจริงจังมาก ว่าแต่ถ้าเราไม่ได้คบกัน พี่จะขึ้นคานจริง ๆ เหรอคะ”นิวเยียร์เอ่ยแซวแฟนหนุ่มขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งอยู่ตรงโซฟา หลังจากที่กลับจากการรับประทานอาหารร่วมกับครอบครัวทั้งสองฝ่าย“เอาใหญ่แล้วนะ เดี๋ยวนี้กล้าล้อพี่แล้วเหรอ”“ก็มันจริงนี่คะ คิกคิก”“มานี่เลยครับ” ว่าแล้วเขาก็อุ้มหญิงสาวขึ้นมานั่งบนตักแกร่ง ส่งปลายจมูกหยอกล้อกับซอกคอขาว ก่อนจะเอ่ยกระซิบข้างใบหู“มาให้พี่ลงโทษซะดี ๆ”“ลงโทษยังไงเหรอคะ” หญิงสาวยกเรียวแขนขึ้นกอดคอแฟนหนุ่ม ช้อนสายตาขึ้น
กลับไปถึงคอนโดเพิร์ธก็ประคองนิวเยียร์เข้าไปนั่งที่โซฟา ก่อนจะเอ่ยถามเธออีกครั้งเพื่อให้คิดดูอีกที“จะไม่ลงบันทึกประจำวันไว้จริง ๆ เหรอครับ”“ไม่แล้วค่ะ เมื่อกี้ก็แค่ขู่ให้คุณควีนกลัว แต่หนูคิดว่าเธอคงได้รับบทเรียนและไม่กล้าทำแบบนั้นอีกแล้ว”“พี่ขอโทษนะครับที่ทำให้เจ็บตัว” เขาเอ่ยพลางเลื่อนมือขึ้นไปลูบเรือนผมของแฟนสาวอย่างทะนุถนอม สายตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด“ไม่เป็นไรเลยค่ะ แผลแค่นิดเดียวเอง มันไม่ใช่ความผิดของพี่นะคะ อย่าโทษตัวเองเด็ดขาด” เธอคลี่ยิ้มปลอบใจแฟนหนุ่ม“จะไม่ให้โทษได้ยังไงล่ะครับ ถ้าพี่ฉุกคิดขึ้นได้สักนิดว่าควีนจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ พี่ก็คงไม่ยอมให้เราออกไปเจอ”“พี่ไม่ได้มีพลังวิเศษที่จะรับรู้ถึงจิตใจคนเสียหน่อยค่ะ เรื่องมันจะเกิด ยังไงมันก็ต้องเกิด คนเราห้ามโชคชะตาไม่ได้หรอก เหมือนที่พี่ไม่สามารถห้ามหนูจีบพี่ได้ยังไงล่ะคะ” นิวเยียร์เอ่ยเปรียบเปรยเธอเชื่ออย่างนั้นเสมอว่าคนเราทุกคนพบกันเพราะโชคชะตา แม้จะเป็นเรื่องร้ายหรือดี เมื่อถึงเวลาก็ไม่สามารถที่จะหลีกหนีกันได้“แต่สำหรับความรักของเรา หนูเชื่อว่ามันเป็นพรหมลิขิต ถ้าวันนั้นพี่ไม่ตามพี่ธีร์ไปกินข้าวที่โรงอาหารในมหา’ ลัย
ควีนเดินวกไปเวียนมาอยู่ตรงชั้นบันไดหนีไฟ มองดูหน้าจอของโทรศัพท์ที่มีเสียงเรียกเข้า เป็นเบอร์เดิมที่โทรเข้ามาตั้งแต่นั่งอยู่ที่หน้าห้องล้างแผล ก่อนจะตัดสินใจกดรับสาย“แกจะโทรเข้ามาทำไมฮะ ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าจะติดต่อไปเอง”เสียงของควีนตะเบงใส่ปลายสายด้วยความไม่พอใจ ทำให้ดังเล็ดลอดออกไปด้านนอกของประตูหนีไฟ ในจังหวะที่เพิร์ธและนิวเยียร์กำลังผ่านมาพอดี เพราะเป็นทางผ่านไปห้องน้ำ“พี่เพิร์ธคะ เสียงคุณควีน”นิวเยียร์หันไปเอ่ยกับแฟนหนุ่ม ทั้งสองคนจึงหยุดอยู่ตรงหน้าประตู และได้ยินคำพูดต่อจากนั้นของควีนทุกประโยคอย่างชัดเจน“ฉันบอกให้แกล้งเฉี่ยวไม่ใช่เหรอ แล้วแกจะขับเข้ามาใกล้ขนาดนั้นทำไม เห็นไหมว่าทำฉันเจ็บตัวไปด้วย”(ผมก็ทำตามที่คุณสั่งแล้วไง แล้วก็ไม่ได้มีใครถูกชนสักหน่อย พวกคุณล้มกันไปเอง จะมาโทษผมไม่ได้นะ)“แล้วถ้าแกทำพลาดชนคนขึ้นมาจริง ๆ ล่ะไอ้โง่”(เลิกต่อว่าผมสักที แล้วรีบโอนเงินที่เหลือมาด้วย ไม่อย่างนั้น…)“ไม่อย่างนั้นจะทำไม นี่แกกล้าขู่ฉันเหรอ อย่าลืมนะว่าแกเป็นคนทำให้ผู้หญิงคนนั้นบาดเจ็บ ไม่ใช่ฉัน”(แล้วถ้าผมไปมอบตัวกับตำรวจแล้วบอกว่าคุณเป็นคนจ้างล่ะ คิดดูให้ดี ๆ นะ)“กรี๊ด… ไอ้ชั่ว ก
“พี่เพิร์ธจำได้ไหมคะ ว่าเมื่อก่อนพวกเราชอบมาแข่งโกคาร์ทกัน ข้างในมีสนามแข่งด้วยนะคะ เราไปลองแข่งกันสักรอบสองรอบไหมคะ”นั่งดื่มกันได้สักพัก ควีนก็หันไปเอ่ยกับอดีตคนรักที่นั่งอยู่คนสุดท้าย เพราะมีแฟนสาวของเขานั่งคั่นกลางอยู่“เลิกพูดถึงอดีตเถอะควีน เธอนัดแฟนของพี่ออกมา มีเรื่องอะไรจะพูดก็รีบพูดมาเถอะ” เพิร์ธเอ่ยน้ำเสียงเรียบ“อดีตของเรามันไม่น่าจดจำขนาดนั้นเลยเหรอคะ”“จะพูดให้ได้อะไรขึ้นมา ตอนนี้พี่เพิร์ธกำลังคบกับฉันอยู่” นิวเยียร์อดไม่ได้เลยรีบพูดแทรก“ฉันไม่ได้คุยกับเธอ” ควีนชักสีหน้าไม่พอใจตอบกลับ“แต่คุณเป็นคนนัดฉันมา”“ใช่ ฉันเป็นคนนัดเธอ แต่คนที่ฉันอยากเคลียร์คือพี่เพิร์ธ”สองสาวฟาดฟันกันด้วยสายตาอย่างไม่กระพริบ นิวเยียร์กำลังจ้องอีกฝ่ายที่กล้ามาหลอกใช้เธอเป็นสะพาน เพื่อหลอกล่อให้แฟนหนุ่มของเธอออกมาเจอ“พี่ไม่มีอะไรจะคุย เรากลับกันเถอะครับ”เพิร์ธเป็นคนตอบควีนแล้วก็ชวนแฟนสาวกลับ เพราะเห็นท่าแล้วทางนั้นคงไม่ได้นัดนิวเยียร์มาเคลียร์กัน แค่ต้องการนัดเขาออกมาเจอก็เท่านั้นเพิร์ธจับมือแฟนสาวแล้วพากันออกไปที่ลานจอดรถ ดีกว่ามาเสียเวลาให้ควีนปั่นหัวเล่น เขารู้ว่าควีนเป็นคนชอบเอาชนะ ไม่เค
หลายอาทิตย์ผ่านไปวันนี้เพิร์ธและนิวเยียร์มีนัดกันไปดูภาพยนตร์ที่เพิ่งจะเข้าฉาย และก่อนที่หนังจะเริ่มนิวเยียร์ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปของเขาและเธอ เพื่อโพสต์ลงเฟซบุ๊กพร้อมทั้งเช็กอินสถานที่“แฟนใครเนี่ยหล่อขึ้นกล้องทุกรูปเลย” นิวเยียร์เอ่ยชม พลางหันหน้าจอโทรศัพท์ให้เขาดู พร้อมกับส่งยิ้มหวาน“แฟนพี่ก็สวยขึ้นกล้องเหมือนกันครับ” เพิร์ธส่งมือมาจับศีรษะของคนตัวเล็กโยกไปมาเบา ๆ อย่างเอ็นดูเขามักจะได้รับคำชมจากเธอเป็นประจำ จนตอนนี้เขาเองก็กลายเป็นคนชอบอวยแฟนไปโดยปริยาย“หนังจะมาแล้วค่ะ”นิวเยียร์ดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ เธอลองดูตัวอย่างแล้วมันเขินจนตัวบิด เหมาะกับการเป็นภาพยนตร์สำหรับคู่รัก ซึ่งเป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี แล้วพอมาดูจริงมีแฟนหนุ่มสุดหล่อมาเป็นเพื่อน คงจะฟินกว่าเดิมมากแน่ ๆตลอดสองชั่วโมงสิบห้านาทีที่อยู่ในโรงภาพยนตร์ บอกได้เลยว่าเรื่องนี้มีแต่คำว่าสนุก คลั่งรัก เบาสมอง และฟินมาก บอกได้คำเดียวว่าไม่ผิดหวังที่ชวนกันมาดูพอออกมาจากโรงภาพยนตร์ทั้งสองก็ไปกินข้าวกันต่อที่ร้านอาหารภายในห้างสรรพสินค้า ตอนที่กำลังจะสั่งอาหารนิวเยียร์ก็ได้รับข้อความจากใครคนหนึ่ง“มีอะไรรึเปล่าครับ” เพิร์ธเห็
หลายวันต่อมาเนื่องจากวันนี้เธอว่าง เลยแวะไปเมาท์มอยกับพรีมที่โรงพิมพ์ และตั้งใจโทรหาแฟนหนุ่มเพื่อจะชวนออกมากินข้าวมื้อกลางวันที่ร้านอาหารแถวบริษัทด้วยกัน“นานแล้วนะคะที่ไม่ได้กินข้าวเที่ยงด้วยกัน”นับตั้งแต่ผู้ช่วยเลขาที่ลาคลอดกลับมาทำงาน เธอก็ต้องกลับไปทำงานออกแบบที่คอนโด วันทำงานแบบนี้ทั้งคู่จึงไม่ได้กินข้าวด้วยกันอีก“ให้พี่แวะไปรับออกมากินข้าวด้วยกันแบบนี้ทุกวันดีไหมครับ”“เอาใจสุด ๆ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากพี่เปล่า ๆ แยกกันกิน แยกกันทำงานของตัวเองดีแล้วค่ะ ยังไงก็ได้อยู่ด้วยกันทุกวัน”เธอไม่ใช่เด็กแล้วที่จะมางอแงให้เขาตามใจ เธอแยกแยะได้อันไหนเวลางาน เวลาส่วนตัว แม้ว่าเขาจะมีเวลาพักกลางวันแต่ก็ไม่ควรจะยึดเวลานั้นมาครอบครอง ปล่อยให้เขาได้มีเวลาว่างเป็นของตัวเองบ้าง จะได้ไม่รู้สึกอึดอัดที่คบกัน“ขอบคุณนะครับ”ความคิดของเธอโตเป็นผู้ใหญ่มาก ทุกวันนี้เขาไม่เคยลำบากใจเลยที่ต้องออกบ้านมาทำงาน และดีที่ปัจจุบันเขาได้ทำงานในตำแหน่งเลขาของประธานกรรมการบริหารอย่างธีร์ ถึงได้มีเวลาให้แฟนสาวทุกวันหลังเลิกงานและวันหยุด อาจจะมีบ้างนาน ๆ ครั้งที่ต้องไปกินเลี้ยงกับลูกค้า ติดตามธีร์ไปงานเลี้ยงกลางคืน
นิวเยียร์ที่กำลังทำอาหารเย็นไว้รอแฟนหนุ่ม เธอได้รับข้อความจากเขาจึงได้รีบตอบกลับไป**********Newyear : รับทราบค่ะPirat : ถ้าหิวก็กินข้าวก่อนได้เลยนะครับ ไม่ต้องรอNewyear : ค่ะ แต่ว่าหนูรอกินพร้อมพี่ดีกว่า ไม่เห็นหน้าแล้วกินข้าวไม่อร่อยอะ คิดถึงPirat : คิดถึงเหมือนกันครับ ไว้พี่จะรีบกลับนะNewyear : ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ เป็นห่วง (อีโมจิหน้าส่งจูบ)Pirat : ครับ**********ระหว่างที่ตอบกลับข้อความแฟนสาว เพิร์ธก็เผลอยิ้มอย่างคนอารมณ์ดี ทำเอาคนที่นอนให้น้ำเกลือรู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมา แต่ก็ต้องปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วถามออกไป“คุยกับใครเหรอคะ อารมณ์ดีจัง”“คุยกับแฟน”“แฟนพี่นี่โชคดีจังเลยนะคะ ควีนคงจะโชคร้ายเอง”โชคร้ายที่ว่าคือเธอเผลอตัวเผลอใจให้กับเพื่อนสนิทของเขาที่เข้ามาดูแล พาไปกินข้าว พาไปเที่ยว ทำหน้าที่แทนอดีตแฟนที่เอาแต่ทำงาน จนเธอคิดว่านั่นคือการกระทำของคนรักกัน เพื่อนของเขาดูแลเธอดีมาก ทั้งคู่จึงเลือกที่จะสวมเขา แอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งในวันที่เขาไม่อยู่ สุดท้ายก็โดนจับได้ตอนนั้นเธอผิดเองที่เลือกเพื่อนสนิทของเพิร์ธ เพราะถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีเวลาและให้ในสิ่งที่เธอต้องการได้อยู่แล้