แต่เป็นวันที่เธอทำงานตามปกติและเพิ่งเลิกจากงานเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา
พี่ธีรคามเป็นคนไปรับเธอจากที่ทำงาน แล้วนัดชวนเธอไปเที่ยวที่ย่านศูนย์การค้าแห่งนี้
ผู้คนดูพลุกพล่าน เนื่องจากเป็นเวลาช่วงเย็นเลิกงาน ถือเป็นปกติ
อีกทั้งผู้โดยสารรถไฟฟ้า เมื่อลงจากสถานีบีทีเอสก็ก้าวมาสู่ทางเชื่อมซึ่งเป็นทางเดินทอดเข้าสู่ตัวของศูนย์การค้า ลูกค้าที่เห็นเป็นกลุ่มหนุ่มสาวทำงานในออฟฟิศเช่นเดียวกับหล่อน
วันนี้พี่ธีรคามบอกว่าเขามีเซอร์ไพรสซ์สำหรับเธอ
เอ่ยตั้งแต่เธอนั่งอยู่ในรถ ตอนที่
ยารัตน์ เพื่อนที่มีแฟน ลูกแล้วของใบฟาง ธนายุทธเขาขับมารับ แล้วก็ขับรถตรงดิ่งมาที่ศูนย์การค้าแห่งนี้
“ฟางจ้ะ เราเดินไปทางโน้นกันดีกว่านะ”
เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยดังใกล้ตัวสาวสวย
หล่อนพยักหน้าเบา ก้าวเดินไปพร้อมเขา
อย่างที่บอกใบฟางรู้สึกมีค่ายิ่ง สิ่งนี้เกิดความตื่นเต้นในใจ จนยากจะระงับใจได้
เมื่อเขาแสดงการเซอร์ไพรสซ์ให้หล่อนต่อหน้า ที่หน้าร้านจิวเวลลี่แห่งนี้ โดยธีรคามพาตัวเองเดินเข้าไปข้างในร้านก่อน
ดูเหมือนเขาจะก้าวเข้าไปในลักษณะคล่องแคล่ว เหมือนกับคุ้นเคยหรือสนิท
สนมกับเจ้าของร้านอย่างมากที่สุด
เจ้าของร้านเป็นชายหนุ่มเชื้อสายไทยจีน คะเนจากวัยนั้นคงอยู่ในราวๆสามสิบห้าพร้อมด้วยภรรยาร่างเล็กผิวขาวออกไปทางลักษณะหมวย
โดยธีรคามเข้ามา และเอ่ยแนะนำกับเธอ ว่านี่เจ้าของร้าน
ฝ่ายสามีนั้นเป็นเพื่อนสนิท เมื่อครั้งเรียนชั้นอนุบาลและประถมมาด้วยกัน ได้เข้ามาเปิดร้านจิวเวลลี่ที่ศูนย์การค้าชื่อดังแห่งนี้
เขาไม่ได้พาเธอเข้าไปแนะนำเพื่อนสนิทของเขา
ที่เป็นเจ้าของร้านด้วย เพราะว่าในช่วงนั้นกำลังยุ่งอยู่กับลูกค้าสองสามราย
ที่เหมือนกับนัดกันเข้ามาในจังหวะช่วงนั้นพอดี
แต่ธีรคามก็ตกลงสั่งแหวนเพชร
ในสิ่งที่เขาต้องการเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
พอเดินไปทักทายเพื่อนสนิทกับภรรยาแค่สองสามคำเท่านั้น ก็เดินออกมา เพราะช่วงนี้ ถือว่าเป็นช่วงเวลาเป็นเงินเป็นทองของสามีภรรยาคู่นี้
ซึ่งสืบทอดกิจการค้าขายอัญมณีมาจากครอบครัว ซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายจีนมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ
“ฟางจ๊ะ ยื่นมือมาสิจ๊ะ พี่จะสวมให้”
เธอได้ยินคำเอ่ยกระซิบใกล้หู
ใบฟางแน่ใจว่าหูของเธอไม่ได้เฝื่อนหรือตาฝาด
เมื่อเห็นชายหนุ่มยื่นกล่องกำมะหยี่ที่ล้วงออกมาจากกระเป๋ากางเกง ยื่นส่งให้เธอตรงหน้า
มันเป็นแหวนเพชรสีขาวน้ำงามพิสุทธิ์อย่างที่เรียกว่าเพชรน้ำค้างหนักสองกะรัต
ดูเหมือนเขาจะสั่งทำเป็นพิเศษด้วย
สาวสวยตกตะลึงไปครู่หนึ่ง หลังจากเอ่ยชมสิ่งของตรงหน้าหลังจากเปิดกล่องกำมะหยี่ขนาดเล็กเท่ากล่องไม้ขีด
เอ่ยด้วยคำพูดที่ละล่ำละลัก
“ค่ะ สวยจังเลย พี่ธี เพชรไพลินเม็ดงาม น้ำใสวาวบริสุทธิ์”
“จ๊ะ น้องฟางจ๋า ถ้าน้องฟางชอบก็รีบยื่นมือ เข้ามาใกล้ๆพี่สิจ้ะ คนดี พี่ธรจะขอสวนแหวนวงนี้ให้ ถือเสียว่าเป็นการหมั้นจองใจไปก่อน ก็แล้วกันนะ โดยเฉพาะวงนี้ลวดลายรูปแบบพี่สั่งให้ช่างทางร้าน ทำและออกแบบเป็นพิเศษเลยนะเห็นว่าเป็นเพชรแท้มาจากอเมริกาใต้”
คนเอ่ยบอกให้ฟังก่อนที่จะบรรจงสอดสวมแหวนเพชรน้ำงามรูดลงลึกเกือบสุดโคน บนนิ้วนางซ้ายเรียวของหล่อน
สังเกตได้ชัดว่า ผู้ที่ได้รับของขวัญพิเศษนั้น ปลาบปลื้มดีใจจนแสดงผ่านออกมาทางสีหน้า
จนยากที่จะระงับความดีใจได้ ถึงอารมณ์เต็มเปี่ยม ที่เธอนึกคาดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ
นั่นคือ ความเข้าใจโดยปริยายของเธอ
การที่ชายคนรักหนุ่มสอดสวมแหวนราคาแพง วงสำคัญให้ นอกจากน้ำงามแวววาวจรัส
ยิ่งแสงสะท้อนเป็นประกายวูบวาบผ่านคู่นัยน์ตาของหล่อน
“พี่ธี อยากจะบอกว่า นี่คือความตั้งใจของพี่ พี่ตั้งใจมาหลายอาทิตย์แล้ว เห็นสมควรว่าควรมีสิ่งที่บ่งบอกถึงสัญลักษณ์และความหมาย พี่จึงเลือกแหวนวงนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์และพยานในความรักของเราจะมั่นคงดูดดื่มตลอดไป พี่ขอสัญญาว่าจะรักน้องฟางตลอดไป จะดูแลและไม่ทอดทิ้ง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นทั้งนั้น”
คำมั่นสัญญาจากหัวใจที่หวานเสนาะบวกกับนัยน์ตาเชื่อมหวานที่เงยมองสบสาวสวย
จนเธอสะเทิ้นเขินอายผุดสีหน้าแดงระเรื่อเจือที่ผิวแก้มเปล่งปลั่งอมชมพูแดงด้วยเลือดฝาดของสาว ธีรคามชอบตรงนี้เหมือนกันกับกิริยาเขินอายที่ดูน่ารักไปหมด
เพียงเท่านี้เขาก็มั่นใจว่า รักของหล่อนและเขาจะก้าวไปข้างหน้า
ใบหน้าของสาวสวยที่ยังเต็มด้วยความปีติชื่นบาน
เธอก็จะตอบสนอง อย่างที่เขาต้องการนั่นล่ะ
ในเมื่อพี่ธีรคาม มีความจริงใจบวกกับความรักที่จะให้เธอ
เธอก็สามารถตอบแทนเขา ด้วยหัวใจคงมั่นในรักเช่นเดียวกัน
“เอาไว้ พี่ขอเก็บเงินสักประมาณปีครึ่งก่อนนะ แล้วพี่ค่อยพาพ่อกับแม่ไปสู่ขอ น้องฟาง”
หญิงสาวใบหน้าหวานหมดจดสวยคม เป็นธรรมชาติ พยักหน้ารับเบา จากริมฝีปากที่กลีบบางเหมือนดอกกุหลาบหยักเผยอน่าชวนทะนุถนอม
ใบฟางกลับไปถึงบ้านอีกครั้ง
เมื่อชายหนุ่มเป็นคนมาส่งถึงบ้านจนปลอดภัยหลังจากที่ทั้งคู่ใช้เวลาในการเดินเที่ยวชอปปิ้งในศูนย์การค้าหรูแห่งนี้รวมแล้วประมาณหนึ่งชั่วโมง
หากความซึ้งซาบยังเป็นของหล่อน
ยังดูดดื่มปักตรึงในของขวัญชิ้นเซอร์ไพรสซ์ ที่ชายคนรักมอบให้เมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา
หัวใจของเธอยังเปี่ยมสุขไปด้วยความฝันในหัวใจสาวที่ลอยล่องพลิ้วไหวในสายลมและสายธารหัวใจ
บ่งบอกอย่างแน่วแน่ว่า เธอจะให้สัญญารักแก่เขาไม่เสื่อมคลาย
ขอบคุณที่เขายังไม่ได้เร่งรัดเธอมากกว่านี้ ถ้าจะพูดถึงเรื่องแต่งงาน
เหมือนเอาชีวิต หนึ่งของหล่อน ฝากฝังอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งจนชั่วชีวิต
เท่าที่คะเนผ่านสายตาแล้วเธอคิดว่าผู้ชายคนนี้นั้นเหมาะสมอย่างที่สุด
เหมือนฟ้าได้ประทานผ่านให้ชีวิตของเธอ และเป็นชายหนุ่มคนเดียวที่หญิงสาวยินยอมเห็นด้วยยกเขาไว้ในตำแหน่งคนพิเศษ
การคบหาของทั้งคู่ดำเนินระยะผ่านมาแล้วได้ครบสองปี
ที่บ้านอรุณรุ่งปรีชา
เมื่อรถยนต์มาเทียบจอดหน้าบ้านจากประตูรั้วเหล็กดัดโปร่งของอัลลอยสีน้ำตาลขาว
ผู้ที่เขม้นมองมาจากข้างในเห็นได้ชัดว่ามีอาคันตุกะมาส่งลูกสาวคนโต พอสายตาจับสังเกตไปที่ร่างสูงนั้นคุณสนมนาถมีความพึงใจในสีหน้าขณะหนึ่ง พยักหน้ากับตัวเองแล้ววางใจ
เพราะคนที่มาส่งบุตรสาวนั้นไม่ใช่ใคร แต่เป็นว่าที่ลูกเขยในอนาคต
ซึ่งนางผู้เป็นมารดาพร้อมด้วยคุณบวรผู้เป็นบิดานั้นไม่ได้กีดกันและห้ามหวง เนื่องจากได้คิดว่าบุตรสาวโตพอที่จะบรรลุนิติภาวะรู้จักคิดอะไรถูกผิด และเรื่องครอบครัวก็สามารถตัดสินใจตัวเองได้ ประการที่สำคัญอย่างหนึ่ง ใบฟางลูกสาวแสนสวยนั้นอยู่ในสายตาของนางมาตลอดเรื่องการวางตัวเป็นสิ่งที่นางพึงพอใจ ที่ลูกสาวซึ่งได้เลี้ยงมากับมือ รู้จักกิริยามารยาทของกุลสตรี รู้จักรักนวลสงวนตัว.. ไม่ทำอะไรให้เป็นที่ครหาและประเจิดประเจ้อเกินงามในช่วงเวลานั้น ร่างท้วมของคุณสนมนาถ ที่เพิ่งกลับมาจากบริษัทได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว และเธอออกมาจากครัว เพื่อทำอาหารเย็นเลี้ยงคนในครอบครัวเช่นตำแหน่งแม่บ้าน“ใครมากันล่ะ”เสียงเธอดังขึ้นมาก่อน พร้อมกับสาวเท้ามาตามทิศทางของเสียงแล่นของรถยนต์ที่ได้ยิน พอจะได้เห็นหยุดจอดกึก“เงิน ลุกไปดูหน่อยซิลูก”เรียกลูกสาวคนเล็กที่ยังง่วนอยู่หน้าจอทีวีให้ลุกไปดู ใบเงินน้องสาวถัดต่อจากใบฟางปัดก้นลุกจากโซฟาด้วยความเสียดายเพราะกำลังติดอกติดใจอยู่กับละครจอทีวี สักพักก็ให้คำตอบมารดาก่อน“พี่ฟางค่ะแม่ กลับมาแล้ว ดูเหมือนว่า พี่ธีสุดหล่อของพี่ฟาง มาส่งด้วยค่ะ” ใบเงินเป็นฝ่ายรายงานให้มารดาฟังน้ำเ
“แล้วตอนนี้โทร.มา กวนจังเลย”ออกเสียงบ่นใส่สาวใหญ่บ.ก.ผู้เป็นเพื่อน ท่าทางไม่จริงจังนักเย้าแหย่มากกว่า“ย่ะ ไม่รบกวนหรอก แต่เล่นให้รู้จักบันยะบันยังหน่อยนะ เดี๋ยวจะหาว่าเพื่อนอย่างชั้นไม่เตือน”“ขอบคุณที่เตือน แต่ว่ามืออย่างฉัน ไม่เคยพลาดสักนิด ไม่รู้เป็นไง ปราบเขาได้ทุกครั้ง”หนุ่มหล่อทิ้งชีวิตนักเขียนชั่วคราว มาเป็นนักพนันเอ่ยกับเพื่อนท่าทางทะนงตัวเองเล็กน้อยจากนั้นปางภูก้าวเข้ามาในวงอีกครั้งหลังจากที่ปิดเครื่องสนิทแล้ว ที่ตัดสินใจปิดเพราะไม่อยากให้ใครมารบกวนในเวลานี้อีก สถานที่แห่งนี้ค่อนข้างกว้างขวาง เป็นสถานที่มิดชิดตกแต่งอย่างสวยหรูคลาสสิก มีแอร์เย็นสบายให้เหล่านักเล่นได้สำเริงสำราญ บางกลุ่มนั่งคุยกัน กินเหล้า ได้กลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งปนกับควันบุหรี่นักเล่นล้วนแต่เป็นหนุ่มสาวล้วนแต่เป็นระดับไฮโซคนมีฐานะเท่านั้น กับเซียนพนันตัวเป้งอีกสามคน ปางภูสนุก แค่คลายเครียด ไม่ได้ถืออะไรมากมาย กลับไปนี่ต้องพักผ่อนเอาแรงอีกรอบถ้าสมองไม่เหนื่อยล้ามากเกินไป ความเคยชินทำให้เวลาช่วงเที่ยงคืน จะต้องลุกขลุกมานั่งหน้าจอคอม เพื่อปั้นเรื่อง ครุ่นคิด จินตนาการ ประสานักเขียน ที่ไฟกำลังลุกโชนใบ
ทำเอาสาวสวยเขินขึ้นมาทันที ธีรคามมองออกหล่อนยังอ่อนเยาว์วัย และอ่อนประสบการณ์ในด้านความรัก ถ้าเปรียบกับธีรคาม ชายผู้เจนจัดในความรัก“ไม่รบกวนแล้วล่ะคะ แหมหวานเสนาะหูเชียว ระวังนะคะมดจะไต่มาตอมปากของพี่ธี ราตรีสวัสดิ์ค่ะ พบเจอกันวันใหม่” เท่านี้ใบฟางก็ปิดเครื่อง และนี่ล่ะคือสิ่งที่ธีรคามต้องการ หลังจากที่เขามีหน้าตาที่บึ้งตึง ซ้ำต้องมาปั้นคำหวาน จนตัวเองรู้สึกเอียนเหมือนกันกับวาจาเสแสร้งตลบตะแลงออกมา แต่จะทำอย่างไรได้เขากำลังจับปลาสองมือณ ขณะนี้แล้วอีกอย่าง เขาอยากจะครอบครองตัวของใบฟางหยิบมือถือเก็บเข้าในกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง แล้วเดินออกมาที่วงพนันเหมือนเดิม สีหน้ายังบึ้งตึงแบบเดิม แถมหน้าตาอิดโรยเครียดตามมาอีกสีสันบนใบหน้าแทบไม่มีความรื่นระเริง นั่นเพราะรู้สึกเจ็บใจ ที่โดนฝ่ายตรงกันข้ามกินเรียบ แบบฟาดเรียบวุธ จนเขาได้แต่ยืนมองตาปริบๆ อึ้ง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แม้รู้สึกเสียดายแต่นี่ ก็เป็นวิถีของนักพนัน คนที่แพ้ย่อมตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบแก่ผู้ได้ ยิ่งเป็นเจ้ามือและนักเลง มาเฟีย มีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ เป็นคนคุมบ่อนพนันหรูนี้ด้วยสวรรค์สีสาวใหญ่ผู้เจนจัดหล่อนอ่านเกมอย่างทะลุปร
ธีรคามสีหน้าบึ้งตึง กระอักกระอ่วน เมื่อไม่ได้ แต่ก็ยังด้านหน้าขอร้องอีกครั้ง“น่าเสี่ย ผมสัญญาว่าจะหามาชดใช้ให้ มันติดหล่มจริง สนุก อยากจะเอามาต่อทุน ผมแน่ใจว่าคราวนี่ผมคงกู้ทุนคืนได้หมด แหม.. เสียไปไม่เท่าไหร่หรอก แค่เจ็ดแสนเอง จิ๊บๆเสี่ย ผมเคยได้กลับมาคืนเกือบจะล้านแน่ะ”หมอนี่โม้มากไปมั้งปางภูครุ่นคิดอยู่ในใจ คงจะตะล่อมหาทางหยิบยืมเงินของเขา แต่เขายังใจแข็ง คราวก่อนมันยังไม่มีทีท่าว่าจะชดใช้ให้สักนิด เขาเลยมองข้ามผ่านสายตา เพราะคิดว่าเงินขุ่นมัวจากกองพนันเหล่านี้ มันจะมีปัญญา หาชดใช้เขาหรือเปล่าล่ะ แค่สี่ซ้าห้าหมื่น ยังไม่มีปัญญาจะจ่ายให้เจ้าหนี้ถ้ามันพอกพูนขึ้นไปล่ะจะว่ายังไง แล้วมันบอกว่ามันเล่นได้เกือบล้าน เอาไปไว้ไหนหมดราคาคุยหรือเปล่า “ไหนเอาหลักฐานมาโชว์หน่อยสิว่าเล่นได้” ฮึ เสี่ยหนุ่มแค่นยิ้มรู้สึกระอาใจ และมีความรู้สึกว่ามันด้านหน้ามาขอ และถึงขนาดนี้ เขาก็คงจะใจอ่อน สีหน้าของธีรคามดูเหมือนจะเอาให้ได้ อ้อนวอนขอ“น่าเสี่ย ผมสัญญานะ เล่นได้คราวนี้ เงินจะถึงมือเสี่ยทันที เพื่อให้เสี่ยไว้ใจผม เราจะได้คบกันนาน”ฮึ คบ นึกว่าคนอย่างเขาอยากจะคบมันเป็นเพื่อนหรือไง คนอย่
หล่อนไม่ได้อินังขังขอบอะไรกับเขาหรอก ผู้ชายรสชาติแบบนี้สวรรค์สีชอบ โดยเฉพาะรสสวาทจานด่วนบนเตียงนอนของเขา มันรสเด็ด ทำให้อีสีได้ซี้ดซ๊าดมานักต่อนักแล้ว หล่อนถึงขั้นหลงใหลเขาด้วยซ้ำ ไม่งั้นจะเกาะเอาเป็นผัวหรือไงแต่ว่าเขาคงไม่เลือกหล่อนเป็นเมียที่แท้จริงหรอก หล่อนรู้ว่าอีสีเป็นเพียงแค่เครื่องเล่นบนเตียงนอนของเขานี่เอง แต่ถึงอย่างไรอีสีก็พึงพอใจล่ะ นี่เขายังคิดตะเกียกตะกายหาผู้หญิงคนใหม่ เพื่อจะให้มาเป็นเมียอย่างแท้จริง แม้จะเจ็บปวดร้าวใจ อีสีหมั่นไส้ กับคนที่นอนร่วมเตียงแทบจะทุกคืน เสียอย่างเดียว หล่อนมีลูกให้เขาไม่ได้หล่อนเป็นหมัน หมอบอกอย่างนั้น ไม่งั้นผลจากการละเลงแปดเปื้อนกามของเขาในหลายๆครั้งคงมีตัวเด็กมาฟ้องว่าทายาทเศรษฐีลูกชายนักธุรกิจ มีเมียเป็นโสเภณีชั้นสูง ออกมาเป็นครอกเป็นโหลแล้วมั้ง มันเป็นกรรมของหล่อนในชาตินี้ที่ไม่อาจมีบุตรเชยชมเป็นของตัวเอง แต่หล่อนยังไม่หมดหวัง หมอบอกไม่ได้เป็นถาวร หากพักฟื้นร่างกายหล่อนจะสมหวัง แต่หล่อนก็รอวันนั้นธีรคามหลงใหลหล่อนแค่กามกับความใคร่เขาไม่ได้รักหล่อนด้วยหัวใจแท้จริง ที่หล่อนผูกพันมัดเขาไว้ก็แค่เรื่องบนเตียงไม่อย่างนั้น
เมื่อคืนหลับฝันดี มาถึงที่ทำงานก่อนเวลาสิบห้านาที พบกับหฤทัยเพื่อนสาวในที่ทำงาน ซึ่งมาไล่เลี่ยกับเธอ“หฤทัย มาแต่เช้านี่”“จ้ะ ฟางก็เหมือนกันนี่ ชนะเราเหมือนเคยเรื่องมาก่อน”ประชาสัมพันธ์สาวทั้งสองแต่งกายให้เหมาะสมกับบุคลิกยังมีเวลาที่จะเสริมเติมแต่งใบหน้าอีกครั้ง ด้วยการหยิบตลับเครื่องแป้งและกระจกเล็กส่องใบหน้าเนียนขาว เพิ่มความมั่นใจและเข้มอีกครั้งบนใบหน้า ใช้แปรงปัดหน้า แตะเบาปัดไปปัดมาลากเบาอย่างที่ใจต้องการ ใบฟางคิดเสมอว่าหล่อนจะต้องสวยที่สุด ทุกอิริยาบถ“หมู่นี้ หน้าตาของฟางสดชื่นเหลือเกิน กำลังอินเลิฟสินะ”หฤทัยพนักงานสาวทำงานเคียงคู่กันเอ่ยขึ้นเห็นธีรคามแฟนหนุ่มของเพื่อนสาวขับรถคันหรูมารับส่งหลายครั้ง แต่วันนี้กลับไม่เห็น“วันนี้ฟางมากับรถแม่จ้ะ”“อ้าว นึกว่าให้พี่ธี หวานใจของเธอมาส่ง”ถ้าธีรคามต้องการมาส่ง เขาจะโทร.มาบอกแต่นี่หายเงียบ และจะตรงเวลามาที่บ้านของเธอทันที ใบฟางจะไม่คอยเหมือนกัน เพราะกลัวทำงานสาย ไม่ใช่เป็นเหตุผลอะไรที่ต้องคิดมาก แต่ที่น่าผิดสังเกตอันที่จริงพี่ธี น่าจะโทร.มาทักหล่อนยามเช้า อย่างที่เคยปฏิบัติ เอ หรือว่าป่านนี้จะยังไม่ตื่น ด้วยความคิดว่าธุร
“ดีล่ะที่นายมาถึง ยังดีกว่าไม่มา”“เอ ไม่มาได้ยังไงโทชินาดะ บอกมาก็ต้องมาสิ คนอย่างฉันนัดคำไหนเป็นคำนั้น”โทชินาดะดูเหมือนจะสัมผัสความรู้สึกและตัวตนเพื่อนคนเดิมเมื่อครั้งเรียนอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างดี ปางภูเป็นคนที่พูดจริงทำจริง อารมณ์มุทะลุบ้าง ไม่ชอบทำอะไรค้างคา“นายก็ยังเป็นปางภู คนเดิม”“กับแฟนสาวของนายล่ะ”โทชินาดะรับรู้ว่าปางภูมีแฟนสาวแล้วตั้งแต่เรียนอยู่ด้วยกันที่ต่างประเทศ ก่อนจะจบและจากกันมา เพราะมีอะไรนั้น ปางภูไม่ค่อยที่จะปิดบังเพื่อนรักชาวอาทิตย์อุทัย เช่นเดียวกับโทชินาดะเช่นกัน ทั้งคู่จึงคบกันได้สนิทใจและเปิดเผย“เธออยู่ที่ต่างประเทศ ทำงานอยู่ แล้วฉันกับเธอ ก็ห่างกันสักพักหนึ่งแล้ว”“อ้อ เหรอ เพราะทีแรกนึกว่านายแต่งงานแล้ว”โทชินาดะพยักหน้ารับหลังจากได้ยินฟังอารมณ์เศร้าจากน้ำเสียงที่เรียบเป็นปกติ“ไม่ถึงขั้นนั้นหรอกโทชินาดะ เคยบอกนายแล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าเราจะแต่งงานกับใคร คงต้องโทร.ไปบอกนายก่อน นายอยากจะมาร่วมงานแต่งของเราไม่ใช่หรือ”ปางภูก็พูดเผื่ออนาคต เพราะยังไม่มีวี่แววบังเกิด งานเขียนที่ค่อนหนักซึ่งเขารับผิดชอบ มันก็รัดตัวพอสมควร กับพอๆกับงานธุรกิจส่วนตัวที
รู้สึกชื่นชอบสาวไทย แต่ความเป็นจริงก็เป็นได้แค่นั้นเพราะคนไทยกับคนญี่ปุ่น มีประเพณีวิถีชีวิต ความเป็นอยู่สังคมแวดล้อม ที่สำคัญขนบธรรมเนียมประเพณีต่างกัน เป็นอย่างมาก กลัวว่าความแตกต่างทางฐานะจะทำให้ไปด้วยกันไม่รอด หลายคู่หลายคนทีเดียวที่เป็นเพื่อนรุ่นพี่หรือรุ่นน้าและลุงที่โทชินาดะให้ความสนิทสนมคุ้นเคย ท่านเหล่านั้นเคยแต่งงานกับสาวไทย แต่ใช่ว่าจะมีพลัดพรากแตกแยกไปหมดคู่ คู่รักหนุ่มญี่ปุ่นสาวไทยที่ครองรักครองเรือนจนแก่เฒ่าและตายจากกันก็มากมี ในประเทศญี่ปุ่นที่มีประชากรคนไทยปะปนนอกจากทำงานเป็นแม่บ้าน ยังมีสาวเสิร์ฟสาวขายบริการ พนักงานบริษัท โดยเฉพาะเครือข่ายสำนักงานใหญ่ในญี่ปุ่นมักจะส่งลูกจ้างคนงานไทยเข้ามาเรียนรู้งานครั้งละสิบยี่สิบคน แต่ละบริษัท ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงลิบลิ่ว“ส่วนฉันชอบสาวไทยรูปร่างผอม บางเพรียวคนนั้นมากกว่า เพิ่งได้เห็นว่า มีผู้หญิงหน้าตาดีๆแบบนี้อยู่แถวนี้ด้วย ชักอยากจะรู้จักแล้วสิ ขอเบอร์โทร.ดีไหม?”สองหนุ่มต่างภาษาสนทนากันเรื่องหุ่นและสรีระของสองสาวตรงหน้าด้วยความสนุกปากเป็นอาหารตาของทั้งคู่แต่นึกไปในสายตาของปางภู ก็บังเกิดความสนใจในตัว
ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบฟาง”หล่อนเข้าใจเขาพูดถูก หล่อนก็ตอบแทนความรักของเขาด้วย“ต่อไปไม่มีแล้วล่ะ เมียขายฝาก สมญาที่ใช้เป็นคำพูดเล่นๆขำๆเพื่อล้อเลียนคุณ มีแต่ตำแหน่งเดียวคือเมียแต่งนายปางภู คุณจะสนใจตำแหน่งนี้ชั่วชีวิตหรือเปล่าล่ะ”คารมของพ่อหนุ่มนักเขียนทำเอาหล่อนต้องยอมรับล่ะ มิน่าถึงร้อยเรียงเขียนหนังสือได้หลากหลายยาวนาน “สนใจสิคะ”หล่อนพยักหน้า “ไม่งั้นฉันคงไม่ตัดสินใจยอมคุณหรอก” เขากลั้วยิ้มดวงตาพราวอีกครั้งกับคำตอบนี้ พึงพอใจเช่นเดิม เพราะขุมสมองมีแต่ความเพริดแพร้วทางปัญญา ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบ
คารมของนักเขียนหนุ่มผู้เป็นสามีเอ่ยขึ้น หญิงสาวยิ้มพราวระยับที่ดวงตาของหล่อนขึ้นบ้าง หวงนี่อาจจะแปลกว่าหึง หล่อนยิ้ม“นั่นยิ้มอะไร ขำหรือว่าไม่พอใจ”“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ฟางรู้สึกว่า พอได้สามีมาหนึ่งคน เขาก็บ่นเสียเก่ง” เขาหันมาทางสาวสวยผู้เป็นภรรยา ขยับใบหน้ามาใกล้ “นี่มาหาว่าเราบ่น ประเดี๋ยวเหอะ จะจูบให้ตายตาอ้อมกอดเลย”ชายหนุ่มบ่นเสียงไม่จริงจังนัก หมั่นไส้ผู้เป็นภรรยามากกว่า “แนะ ไม่กลัว ใช่ไหม? เดี๋ยวเอาจริงนะ”เขาขู่หล่อน พลอยทำให้ใบฟางต้องหลับตาปี๋ลง ก่อนที่ใบหน้าขาวๆของดวงหน้าคมคายจะโน้นแตะชิดใกล้ริมฝีปากประกบบดขยี้ลงไปแทรกความหวานเจือปนละลายอยู่ในช่องปาก จนสาวสวยรับรู้ถึงสัมผัสที่หวานซ่านลิ้น “นี่เริ่มบทลงโทษแล้ว โทษฐานที่มีเมียขี้บ่น แถมปากเก่งอีกต่างหาก เอ้อ เป็นเมียขายฝากเสียด้วย”หญิงสาวยังข้องใจในคำนี้ ความหมายแบบเขานี่คืออะไร จึงส่งสายตาอึดอัด หงุดหงิดทวงถามเมื่อเขาละถอนจากริมฝีปาก เงยหน้าขึ้นจ้องหล่อน เพราะรู้ว่าหล่อนจะถาม หล่อนไม่ชอบใจสักนิดกับคำทีเขาใช่เรียกหล่อน“อีกแล้ว เมียขายฝาก ฉันไม่รู้ว่าความหมายมันคืออะไรกันแน่ มันเริ่มต้นมาตั้งแต่พี่ธีรคา
“ยังไม่แน่ใจค่ะ เมล ตอนนี้ฉันอยากอยู่เมืองไทยไปก่อน คงทำงานไปสักพัก ถ้าลืมเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างได้ ฉันก็อาจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับใครก็ได้ ที่เขารักจริง และรักความเป็นตัวฉัน รวมทั้งเขาไม่แคร์อดีตต่างๆของฉันด้วย”“ขอให้คุณโชคดีนะฮันนี่”“ขอบคุณคะ เมล คุณก็เช่นกัน รักษาเนื้อรักษาตัวด้วย”หล่อนโบกมือให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาและคณะจะเดินจากไปในช่องผู้โดยสารขาออก แล้วหล่อนหันมายิ้มให้กับตัวเอง นี่คืออิสรเสรีที่หล่อนต้องการ จึงถอนใจออกมายาวนานด้วยมีความสุข หล่อนต้องการตัด และเยื่อใยอาวรณ์จากเขา หล่อนจะต้องทำให้ได้ เมลมีดีอยู่หลายสิ่งหลายอย่างเช่นกัน แต่สิ่งที่หล่อนยอมรับไม่ได้คือ เขาจะเอาทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อย่างที่เรียกว่า เสือไบ โฮโมเซกช่วล แบบนี้หล่อนไม่ต้องการ ไม่ต้องการเสียน้ำตาทนอยู่กับผู้ชายประเภทนี้ เพราะนั่นหมายความว่า เขาทำให้ชีวิตของหล่อน เหมือนตกนรกทั้งเป็นนึกว่าจะยืดเยื้อ หรือคาราคาซังเสียอีก ขอบคุณที่เขาเลือกให้ของขวัญนี้ให้แก่หล่อน ตามที่หล่อนร้องขอปรารถนามานานต่อไป ชั่วชีวิตนี้ หล่อนจะไม่สนใจ ผู้ชายที่ชื่อเมล นี้อย่างเด็ดขาด ว่าเขาจะเป็นตายร้าย
จะไม่ช๊อคใจไปใหญ่หรือ ที่ตลอดมานั้น อ่านหนังสือของคนกันเองทั้งนั้น คนกันเองที่ขยับเข้ามาเป็นคนในบ้านและเป็นคนในเรือนใจของหล่อนเข้าทุกขณะ“นี่สิของแท้ของชัวร์ นิยายที่ผ่านการรวมเล่มแล้วของผม มีประมาณ เกือบสิบเรื่องด้วยกัน ซ่อนอยู่อีกมุมหนึ่ง โดยเฉพาะ และถ้าอยากจะไปร่วมงานวันสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเมษาที่จะถึงเร็วๆนี้ ไปกับผมสิ คุณจะได้รู้ว่าแฟนคลับผมตรึมแค่ไหน ที่เรียกร้องอยากจะให้ผมมา..แล้วก็ต้องแจกลายเซ็นต์ด้วย”เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจริงๆ ไม่น่าเชื่อ ด้วยบุคลิกที่อ่อนโยนและสุภาพปนกับอารมณ์ร้ายเกรี้ยวกราด ไม่นึกว่าเขาจะมีอีกภาคหนึ่ง ของผู้ชายที่เขียนหนังสือขาย เป็นนักเขียนที่ถือว่า ได้รับความนิยมมากคนหนึ่งในปัจจุบัน ในยุคที่นักเขียนไทย ผุดตัวเองขึ้นมาราวกับดอกเห็นกลางฤดูฝน“ไม่เชื่อ คงต้องเชื่อแล้วละคะ นี่ถ้ายัยเงิน น้องสาวของฟางรู้เรื่อง ตายเลยล่ะคงทั้งอึ้งทั้งทึ่ง ไม่งั้นก็เกือบช๊อคไปหลายสิบตลบแน่นอน”“ถึงขนาดนั้นเลยหรือ”“ใช่ค่ะ ถึงขนาดนั้นแน่นอน เพราะน้องสาวของฉัน ติดงานของคุณมาก”เขาเพิ่งทราบ“นี่คุณทำอย่างนี้ทุกวัน หลังขดหลังแข็งมากไหมคะ”เขายิ้มอีกครั้ง“งา
เขาเอ่ยคำนี้ จนหล่อนหน้าแดงไปเลย สีระเรื่ออ่อนที่พวงแก้ม แต่ก็เข้าใจความหมายเมื่อเขาพร้อมที่จะให้สัญญาปากแบบสุภาพบุรุษอีกครั้ง “งั้น ฟางจะยอมไว้เนื้อเชื่อใจอีกสักครั้ง ทั้งที่ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่”“อ้าวทำไมล่ะ กลัวผมจะเปลี่ยนใจ ทำมิดีมิร้ายกับคุณหรือไง นี่ฟังนะจ้ะคนเดียว เรื่องทำมิดีมิร้าย ผมก็คิดเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เวลานี้ แต่ต่อไปล่ะ ผมคงมีเวลาทำมิดีมิร้ายกับคุณอย่างสุดสวาทอย่างว่า ได้นานครั้งล่ะ ตอนที่เราแต่งงานกันเสร็จแล้ว นั่นล่ะ มีเวลาทั้งชีวิตของผมเลย”ฟังคำพูดที่เขาเอ่ย หล่อนก็รู้สึกเบาใจ ปางภูหัวเราะเสียงใส“แล้วฉายาเจ้าพ่อบ่อนหรือเสี่ยที่พี่ธีรคามเรียกใช้ ให้สมญาชื่อคุณล่ะคะ”“นั่นผมลืมแล้ว ผมจะไม่เข้าแล้ว ตัดขาดจากมันตลอดชีวิต ในเมื่อผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนี่ ผมมีคุณ ผมมีครอบครัว มีคนที่เอาใจใส่น่ารักอย่างนี้ ผมจะเตลิดหนีหายไปไหนได้อีกล่ะฟางจ๋า”ในเมื่อเขาจะมีครอบครัวแล้ว นั่นมันคือภาพอดีต เมื่อครั้งที่ยังใช้ชีวิตโสดอิสระได้เต็มที่ และเมื่อพ้นจากวัยนั้นพ้นผ่านแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็คิดว่ามันเป็นเกมชั่วครั้งชั่วคราวที่ผ่านทางชีวิตของเขาเขาไม่ได้ติดหนึบติดหน
หญิงสาวยิ้มให้พยักหน้าและเพิ่งเข้าใจ “คุณคงไม่โกรธผมนะ ที่ตอนนั้นทำอะไรก็คิดจะปิดบังคุณ”เสียงนุ่มทุ้มดังอีก เป็นกังวาน แต่ก็รู้สึกชุ่มชโลมในหัวใจของหล่อนอย่างประหลาด“เคยคิดจะโกรธเหมือนกันคะ แต่ก็ดีที่คุณเพิ่งอธิบายออกมา ฉันเลยนึกโกรธคุณไม่ลงแล้ว”เขาหันมายิ้มอ่อนๆสบตาของหล่อน“ก็ต้องบอก เพราะเราก็เหมือนคนคนเดียวกันแล้ว จากนี้มีอะไรก็ต้องร่วมรับผิดชอบกัน”หล่อนนิ่งฟังคำพูด ชอบฟังคำพูดที่มีหลักการในการวางแผน และให้กำลังใจ สร้างความปลาบปลื้ม แก่ใจของหล่อนอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวยอมรับว่าหล่อนเริ่มจะหลงรักผู้ชายคนนี้เสียแล้ว ไม่รักก็คงไม่ได้หรอก ลึกแต่ไม่ลับในความรู้สึกของหล่อน ขอเก็บเอาไว้รู้เพียงคนเดียว จึงหันทางเขาอีกครั้งยิ้มและสบตาให้ หล่อนนึกถึงเรื่องอื่นได้ อย่างเพิร์ล หรือภามิญาที่ไม่รู้ว่า ทั้งคู่คืบหน้าไปมากแค่ไหน จวบกับมีเรื่องราวอื่นที่เป็นเรื่องสะเทือนใจ ประดังเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่าไม่ขาด จากสึนามิ ฝนก็ท่วมถล่มทางภาคใต้ แผ่นดินไหวทางประเทศพม่าหรือเมียนมาร์กับทางภาคเหนือของไทย วิบากกรรมของประเทศและชาวโลกถูกซัดมาอย่างไม่หยุดหย่อน คงต้องพึ่งพาความดีงาม ศีลธรรม บุญกุศลท
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงระส่ำขวัญเช่นนี้ เรื่องทั้งหมดจึงถูกพับแปลนงานอย่างน่าเสียดาย ไว้รอเหตุการณ์ทุกอย่างสงบอีกครั้ง เขาถึงจะเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอน คงต้องเป็นหลังจากที่งานแต่งของเพื่อนรักที่เมืองไทยเสร็จสิ้น“ขอบใจนายมากที่เป็นห่วง ฉันเป็นตัวแทนของประเทศที่รับความหวังดีนี้จากนาย”“ไม่เป็นไร ฉันเป็นคนไทย เมืองที่ได้ชื่อว่าใจบุญ และสยามเมืองยิ้ม ที่ไหนเกิดความทุกข์เดือดร้อนสาหัส พวกเราทนดูดายไม่ได้หรอก ยิ่งญี่ปุ่นก็ให้ความพึ่งพิงพึ่งพาช่วยเหลือประเทศไทยเรามาก่อน ไม่ว่าทางด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยีต่างๆ สายสัมพันธ์เรายาวนาน เราจึงเห็นใจกันและกัน ถือว่าประเทศไทยตอบแทนน้ำใจประเทศญี่ปุ่น มันเป็นการกตัญญูรู้คุณที่สองประเทศมีไว้ให้กัน”คนฟังรู้สึกตื่นตันใจ และนึกในใจเขาเองก็ถือว่าโชคดีที่มีเพื่อนสนิทเป็นคนไทยอย่างปางภู“ทำใจให้ดีเถอะนะ เข้มแข็งเอาไว้ คิดเสียว่า เบื้องหลังฝันร้าย จะกลายเป็นดี ในอนาคต”โทชินาดะพยักหน้ารับกับเพื่อน ใบฟางรับรู้เรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกับคนไทยทั่วประเทศ เพราะหล่อนติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวที่เกิดอย่างรุนแรงของประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อนึกถึงเพ
แต่ที่น่าแปลกใจคือ ศราณัฐกลับพูดเรื่องนี้ไม่ออก เหมือนปากของเขาถูกอุดเอาไว้นิ่งเช่นกัน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร หรืออาจเพราะว่า เขากับหล่อนนั้น ห่างหายจากกันไปนาน แทบไม่ได้รับการติดต่อจนกระทั่งได้กลับมาพบกันอีกครั้งแต่เขามีความรู้สึกว่า ใบฟางห่างเหินเมินเฉยต่อเขาเป็นอย่างมาก เอ หรือจะเป็นเช่นที่มารดาเอ่ยกล่าวว่าเปรยๆบอกเขาไว้ว่า ใบฟางมีแฟนแล้วที่มาเทียวรับเทียวส่งหล่อนบ่อย เรื่องนี้เป็นการยืนยันด้วยสายตาของมารดา ทีแรกเขาก็ไม่ได้เชื่อหรอก แต่มาเห็นสายตาและปฏิกิริยาของใบฟางที่มีต่อเขาแล้ว ชายหนุ่มต้องแอบบอกกับตัวเอง เขาคงมิแคล้วต้องซดน้ำใบบัวบกแทนข้าวมื้อนี้เสียแล้วและนี่คือความอึดอัด เมื่อถึงที่หมายใบฟางขอลง เขาเองก็จอดให้หล่อนลงอย่างง่ายดาย พร้อมกับยิ้มให้ และโบกมือเมื่อหล่อนเอ่ย “ฟางขอบใจพี่ศรามากนะคะ รบกวนเท่านี้ล่ะ ขอให้โชคดีค่ะ”ชายหนุ่มโทร.หาโทชินาดะแต่เช้าหลุดประโยคออกมา “โทชิ ฉันจะแต่งงานกับใบฟาง”ทำเอาเพื่อนอึ้งกับคำนี้ เงียบไปครู่จึงย้อนกลับไปถามทวน “นายว่าอะไรนะป้าง จะแต่งงานแล้วหรือ”“ใช่ ว่าที่เจ้าสาวของฉัน ใบฟางไงล่ะ คนที่เราได้พบเจอเป็นครั้งแรกพร้อมกับ
คุณสนมนาถเงยหน้าขึ้นสบตาสามีอย่างเข้าใจ ท่านเอ่ยอีกครั้งเบือนหน้าหันกลับมาเสียงเคร่ง“แล้วต่อไปจะเอาอย่างไร”“ผมจะจัดการสู่ขอน้องฟางให้ถูกต้องตามประเพณีครับ ส่วนฤกษ์ คุณแม่ของผมท่านกำลังหาอยู่ถึงเรื่องนี้.งมา แล้วคุยกันถึงเรื่องนี้.ง เอ้อ ฟางจะแต่งงานกับ คุณปางภูค่ะ"ตอบล่ะเงมาอย่างไร เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น หล่อนอึ้งตลอด แต่อย่างทีบอกลึกนั้นในใจภูมิใจอย่างมาก ที่คำสารภาพของเขาแบบลุมอเลือกอย่างน้องชายแกเอก่อนนะครับ.. น่าจะไม่เกินสิ้นเดือนนี้ครับ”ปางภูชี้แจงเสียงนุ่มคมชัดฉะฉานและทุ้มเรียบ คุณสนมนาถยื่นผ้าเช็ดหน้าให้บุตรสาว ยิ้มชื่นมื่นนั้นบ่งบอกว่าลูกสาวรับรู้และเห็นดีเห็นงามด้วย“ในเมื่อจะมาเอ่ยขอลูกสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็เห็นดีเห็นงามด้วย ประเพณีของไทยเราสุภาพบุรุษไม่ควรทำอะไรลับๆล่อๆ กินในที่ลับแล้วมาไขในที่แจ้งสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก้่ได้ว่าอะไร ก้เห็นดีเห็นงามด้วยน้าให้บุตรสาวมื่อเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มและลูกสาวสลับกัน ถ้าทำถูกต้องตามประเพณีทางนี้ก็ยอมรับ.. เพราะลูกสาวของฉัน เห็นว่าเขาคงจะเข้าข้างเธอ และเห็นดีเห็นงามด้วยอย่างมาก เอาล่ะ เมื่อเข้าใจกันแล้ว ฉันก็ยอม