สะอางมองลูกชายที่เพิ่งวางสายจากหลานตัวดีก็อดยิ้มให้กับความชอบแกล้งของมนัสวินไม่ได้ แต่ก็เห็นด้วย อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้หลานตัวดีจะทำยังไงถ้ามาถึง และเหมือนว่าวรนิษฐ์จะไม่อยากเจอด้วย เพราะตั้งแต่มาถึงหลานสะใภ้ก็บอกว่าอยากหย่ากับหลานชายอย่างเดียว
“หนูไวน์ไม่รักพี่เขาเหรอลูก ทำไมถึงอยากหย่า” นางถาม เพราะนางกับลูกชายและพรเพิ่งเดินทางมาถึง ออกจากเพชรบูรณ์ตั้งแต่สิบเอ็ดโมง
“บางทีความรักก็ไม่จำเป็นต้องสมหวังก็ได้ค่ะคุณย่า เขาไม่ได้รักไวน์ เขาไม่ได้สนใจไวน์ ออกจะเกลียดหนูเสียด้วยซ้ำ และเขาพาแฟนของเขามาอยู่บ้าน พามาเหยียบหัวใจไวน์ ไวน์อยู่ไม่ได้หรอกนะคะ หัวใจเขาไม่แม้แต่จะมองไวน์ ไม่เคยคิดจะสนใจไวน์ด้วย” เธอบอกเสียงสั่นเครือพร้อมหยิบทิชชูขึ้นซับน้ำตาตัวเองไปด้วย ส่วนพริ้งก็นั่งลูบหลังหลานสาวที่ไหวสะอื้นไห้ นางเองเพิ่งได้รู้ความจริงว่าตอนนี้หลานสาวกำลังตั้งครรภ์อยู่ ซึ่งน้องเขยกับน้องสาวยังไม่รู้ด้วย
“มันทำขนาดนั้นเลยเหรอลูก ย่ากับพ่อวินไม่อยู่ ม
“อะ...อื้อ พะ...พี่มาร์คอย่าทำแบบนี้กับไวน์ค่ะ ยะ...อย่า อื้อ...” แล้วเสียงพูดของคนตัวเล็กก็ถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอ เธอแค่จะเข้ามาดูเขาเท่านั้นเอง เห็นแม่บอกว่าเขาดื่มหนักมาจากข้างนอก แต่พอเข้ามาเขาก็คว้าเธอลงไปยังเตียงแล้วคร่อมทับ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว “อ่า...อื้อ” เสียงครางอู้อี้ดังลอดจากริมฝีปากทั้งสอง จูบร้อนรุ่มของมโนภฤศฉุดกระชากลมหายใจของวรนิษฐ์ไปอย่างจำยอม จูบแรกของเธอถูกเขาฉกฉวยโอกาสไปอย่างง่ายดาย หล่อนพยายามดิ้นขัดขืนหนีจากใต้ร่างใหญ่ แต่ไม่เป็นผล เสื้อผ้าของเธอถูกเขาปลดเปลื้องหลุดลุ่ยออกอย่างรวดเร็ว “อ่า...แพร ผมคิดถึงคุณ” เขาผละปากหนาออกจากปากเธอพร้อมครางเรียกชื่อหญิงอื่น หัวใจหล่อนจุกเจ็บแปลบ ดันเขาออกห่างแต่ไม่ได้ผล เขาจับข้อมือเธอกดตรึงไว้ข้างลำตัวพร้อมกับใบหน้าหล่อของเขาซุกไซ้ลงมายังซอกคอระหงของเธอ “อ่า...ไม่ไหวแล้ว ขอนะทูนหัวของผม อ่า...” คนเมาไม่ได้สติมองคนใต้ร่างเป็นหน้าแพรไหม แฟนสาวที่รักของตน มาร์ค หรือมโนภฤศ พันแสงเดือน วัย 36 ปี เขาเดินทางมาทำธุระให้พ่อของเขาที่สวีเดน พอทำธุระเสร็จเขาก็ดื่มผ่อนคลาย แต่ดื่มจนเมามายจ้างคนมาส่งที่บ้านพั
“อะ...อย่าทำแบบนี้พี่มาร์ค อ่า...อื้อ เอามือออกไปนะคะ” เธอบิดขาทั้งสองข้างตัวเองพาดไขว้ปิดความเป็นสาวที่มือหนาของเขาวนเวียนอยู่ แต่เขาก็ใช้มือทั้งสองข้างดึงขาเล็กแยกกว้างออกจากกันโดยมีเขาแทรกตัวอยู่กลางหว่างขาของหล่อน “พี่กำลังจะทำให้ความต้องการของไวน์เป็นจริงยังไงล่ะ ต้องการไม่ใช่เหรอ ต้องการให้พี่ทำแบบนี้ไม่ใช่เหรอไวน์” น้ำเสียงทุ้มห้าวดังขึ้นพร้อมกับมือใหญ่ลูบไล้ไปมากับความเป็นสาวอวบอูมสวยงาม มันสวยมาก โหนกนูนน่ากระแทกเร่า และมีสนามหญ้าเป็นหย่อมเล็กน้อยที่เนินสวาท “อ่ะ...ยะ...อย่านะพี่มาร์ค อย่าทำแบบนี้กับไวน์ ไวน์ไม่ต้องการแบบนี้” “แล้วรักพี่ทำไมล่ะ รักทั้งๆ ที่รู้ว่าพี่ไม่ได้รักเรา ไม่ชอบเรา รักทั้งๆ ที่รู้ว่าพี่มีคนที่พี่รักอยู่แล้ว แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว พี่จะสนองให้จะได้เลิกยุ่งกับพี่สักที” น้ำเสียงห้าวทุ้มเปล่งพร่าดังออกมาพร้อมกับปลดกระดุมกางเกงตัวเองพร้อมรูดซิปกางเกงสแล็คตัวเองลงเล็กน้อยแล้วล้วงไปในกางเกงนำความแข็งร้อนของตนออกมาข้างนอก “มะ...ไม่นะ ไวน์ไม่ต้องการแบบนี้พี่มาร์ค” เธอดิ้นถอยหนีเมื่อเห็นว่าตอนนี้เขาได้นำความใหญ่โตออกมา เธออ้าปากค้างตกตะ
วรนิษฐ์แทบล้มทั้งยืนเมื่อดูที่ทดสอบตรวจการตั้งครรภ์สามอันที่ซื้อมาตรวจและสามยี่ห้อ เธอมองแล้วมองอีกแทบล้มทั้งยืน มันเกิดขึ้นกับเธอได้ยังไง แค่คืนเดียวมันไม่น่าจะติดลูกได้เร็วขนาดนี้ เธอนั่งทรุดเข่ากับพื้นปิดหน้าร้องไห้แล้วมองที่ทดสอบการตั้งครรภ์อีกครั้ง อึก! ฮือๆๆๆ “พี่มาร์ค อึก! จะรู้ไหมว่าไวน์ท้อง ฮือๆๆ”เธอร้องไห้พึมพำกับตัวเอง ตั้งแต่วันนั้นเช้ามาเขาก็เดินทางกลับประเทศไทยและไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย และเรื่องของเธอกับเขาในคืนนั้น เขาก็ไม่พูดถึง เขาทำเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องปกติไม่ได้สำคัญอะไร แต่สำหรับผู้หญิงอย่างเธอ ผู้หญิงที่แอบรักพี่ชายลูกชายของเพื่อนรักพ่อมาตลอดตั้งแต่วัยเด็ก มันคือความสุขที่ได้มอบสิ่งมีค่าของลูกผู้หญิงให้เขา “ไวน์จะไปหาพี่ จะไปบอกเรื่องลูกของเรา อึก! ฮือ”เธอยกมือเรียวปาดน้ำตาพร้อมลูบท้องเล็กตัวเองไปมา อีกไม่นานท้องคงโตและทุกคนก็จะรู้ว่าเธอกำลังท้อง เธอลุกขึ้นยืนอย่างเข้มแข็งเพื่อไปเก็บกระเป๋าและติดต่อไปหามโนภฤศเพื่อบอกเขาว่าเธอจะเดินทางไปหาเขาที่เมืองไทย แต่พยายามติดต่อเท่าไหร่ก็ไม่มีการตอบรับ เขาไม่รับสายเธอที่โทรข้ามประเทศไปหาเขาเหมือนตลอ
เช้าวันใหม่มาทักทาย อากาศแจ่มใสแต่เช้า แดดแรงแต่เช้า เมื่อเดินมายังชานของเรือนไทยที่เป็นเหมือนที่ชมบรรยากาศของไร่พันแสงเดือนแล้วก็ต้องยิ้มกับภาพตรงหน้าเมื่อตอนนี้เหล่าคนงานกำลังทำงานกันในไร่ มีเสียงร้องดังตะโกนข้ามหากันดูคึกคักทำให้มุมปากเหี่ยวย่นของคนวัย 72 ปี ยกยิ้มตามภาพที่เห็น “คุณแม่ตื่นเช้าจังเลยนะครับวันนี้” เสียงแหบแห้งตามวัยของมนัสวินเอ่ยทักทายคุณแม่ที่รักของตนในตอนเช้า “อือ...ก็บรรยากาศที่บ้านเราดีนี่ ว่าแต่เราเถอะพ่อวิน ไปไหนมาแต่เช้าฮึ” นางสะอางถามลูกชายคนเดียวของนางที่เป็นหม้ายเมียตายจากไปตั้งแต่คลอดหลานตัวดีอย่างมโนภฤศให้นางได้เลี้ยงดู “ไปรับหนูไวน์ ลูกของทรงพลมาน่ะครับแม่ หนูไวน์ไหว้คุณย่าสิลูก นี่แม่ของลุงเอง” เขาบอกพร้อมกับแนะนำคนที่ยืนด้านหลังตนเองให้กับแม่ที่รักได้รู้จัก “สวัสดีค่ะคุณย่า” เธอยกมือไหว้ท่าน แม้จะไปอยู่สวีเดนตั้งแต่เด็กแต่เธอไม่เคยลืมประเพณีไทยบ้านเกิดตัวเอง “อือ...หนูไวน์ลูกพ่อทรงพลกับแม่ลินดานั่นเรอะพ่อวิน โตขนาดนี้แล้วเหรอลูก สวยน่ารักมาก” นางยิ้มอ่อนโยนเอ็นดูเด็กสาวเมื่อนึกถึงครั้งที่เคยเห็นเธอตอนเด็ก “คนนั
ด้านเจ้าของห้องเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องก็รีบลุกเดินมาเปิดประตูห้องทันทีด้วยคิดว่าเป็นป้าพรที่เพิ่งนำขนมตาลมาให้กลับมาอีก แต่พอเปิดประตูออกกว้างก็เห็นคนที่ตนเองคิดถึงและตั้งใจมาหายืนอยู่หน้าห้อง สาวเจ้าก็โถมกายเข้าโอบกอดเขาแน่นทันที ส่วนคนที่โดนจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวก็ดิ้นขัดขืนดันเธอออกห่าง “ปล่อยพี่ก่อนไวน์ ปล่อยพี่ก่อน เดี๋ยวใครมาเห็นเข้ามันไม่ดี” เขาดิ้นและดันเธอออกห่างและเธอก็ยอมปล่อย “ก็ไวน์คิดถึงพี่มาร์ค ทำไมคะ ทำไมไม่รับสายไวน์เลยตั้งแต่กลับมา ไวน์เป็นมะ...อื้อ...” “ไปคุยกันในห้อง”เขายกมือขึ้นปิดปากเธอเมื่อเธอจะพูดสิ่งที่เขาไม่อยากได้ยินออกมาพร้อมดันเธอเข้าไปในห้องและปิดล็อกประตูเรียบร้อย ก่อนจะปล่อยมือเธอ “ทำไมคะ ก็ไวน์เป็นเมียพี่มาร์ค ยังไงทุกคนก็ต้องรู้” เธอบอกเขาทันทีเมื่อปากเป็นอิสระ “แต่พี่ไม่ได้รักไวน์ และพี่ก็มีแฟนแล้ว เธอเลิกยุ่งกับพี่สักทีได้ไหม” “ไม่มีทาง ไวน์ไม่มีทางเลิกยุ่งกับพี่มาร์ค พี่เป็นของไวน์แล้ว และไวน์ก็เป็นเมียพี่แล้ว พี่ต้องรับผิดชอบ” เธอตอบอย่างคนดื้อดึง หึ! มโนภฤศแค่นยิ้มแล้วเดินไปทิ้งตัวนั่
“แม่พรไปดูหนูไวน์สิ ส่วนพวกหล่อนตักข้าวให้ฉันได้แล้ว” นางสั่งให้คนสนิทของตนให้ตามหญิงสาวไป พร้อมสั่งให้เด็กรับใช้คนอื่นตักข้าวแทน พรก็รีบทำตามคำสั่งนายท่านของตนทันที “แปลก กับข้าวบนโต๊ะแม่สะอางทำอร่อยทุกอย่าง หอมๆ ทั้งนั้น หนูไวน์บอกว่าเหม็นได้ยังไง” มนัสวินเอ่ยพลางก้มลงไปสูดดมกลิ่นอาหารตรงหน้าตนก็หอมๆ ทั้งนั้น “นั่นสิ แม่ทำเองกับมือเลยนะ ก็ทำเหมือนทุกวัน กลิ่นหอมออกปานนี้ เอ๊ะ! แต่อาการแบบนี้ เหม็นอาหารมันเหมือนคนท้องเลยนะพ่อวิน หรือว่าหนูไวน์ท้อง” เมื่อนึกถึงอาการที่เด็กสาวเป็นแล้วมันชัดเจนเลย อาการแบบนี้แพ้ท้องแน่นอน นางรู้ดี เพราะสมัยตั้งครรภ์มนัสวินก็เหม็นอาหารแบบนี้ ทานอะไรไม่ได้ตั้งสามเดือน “ไม่ใช่หรอกมั้งแม่สะอาง ผมว่าไม่ได้ท้องหรอก หนูไวน์คงเพลียน่ะครับ เดินทางมาตั้งไกลนะครับ อย่าลืมสิ” “ถ้าเพลียไม่เหม็นอาหารหรอกพ่อวิน แม่ว่าหนูไวน์ต้องท้องแน่นอน รีบกินข้าวกันเถอะ กินเสร็จแม่จะให้เด็กชงยาหอมให้หนูไวน์แล้วซักถามหนูไวน์ว่าเป็นอะไรกันแน่ และแม่จะถามด้วยว่าท้องจริงไหม แม่ไม่อยากอยู่กับความสงสัยหรอกนะพ่อวิน” “ครับผม งั้นคุณแม่ทานปลาราดพริกนะครับ”
พลั่ก! ทันทีที่เดินพ้นหัวบันไดเรือนขึ้นมาก็โดนหมัดหนักๆ ของคนเป็นพ่อกระแทกใส่หน้าทันที จนเขาเกือบหงายหลังตกบันได แต่โชคดีที่จับราวบันไดไว้ได้ทัน โอ๊ย! “พ่อมาต่อยผมทำไมเนี่ย ผมพลัดตกบันไดขึ้นมาจะทำยังไง” “ดี ให้มันตายไปไอ้ลูกชั่ว! ไอ้ลูกเวร! กูเคยสั่งเคยสอนให้มึงทำตัวไร้ความรับผิดชอบเหรอไอ้มาร์ค” น้ำเสียงแหบแห้งเปล่งลอดออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด “ดะ...เดี๋ยวก่อนนะครับ พ่อโกรธอะไรผม ผมทำอะไรอีกครับ” เขายกมือขึ้นห้ามกำปั้นของคนเป็นพ่อที่ตั้งท่าจะต่อยซ้ำอีกครั้ง “มึงยังไม่รู้อีกเหรอว่ากูต่อยมึงทำไมไอ้มาร์ค มึงคิดให้ดีซิว่าพ่อต่อยมึงทำไมไอ้ลูกหมา! พลั่ก!” แล้วมนัสวินก็กระแทกหมัดไปอีกครั้ง โอ๊ย! “พ่อโกรธอะไรผมเนี่ย แล้วเนี่ยต่อยผมทำไม ผมจะบอกคุณย่า” เขายกคุณย่าขึ้นมาขู่พ่อของตน “เออ! ไปฟ้องเลย ครั้งนี้คุณย่าให้กูจัดการมึงได้ตามใจ พรุ่งนี้ไปจดทะเบียนสมรสกับหนูไวน์ซะ แล้วงานแต่งงานของมึงกับหนูไวน์ กูกับคุณย่าจะจัดให้มึงและหนูไวน์เร็วที่สุด ก่อนที่หลานกูจะเกิด” คำสั่งเฉียบขาดของพ่อทำให้เขาเดือดดาลไม่แพ้กัน “ยัยนั่นบอกเหรอครับว
ปัง! ปัง! ปัง! เสียงทุบประตูหน้าห้องดังขึ้นรัวๆ จนเธอต้องรีบลุกมาเปิดประตูห้อง “สมใจแล้วใช่ไหม ที่ทำให้ฉันจดทะเบียนสมรสกับเธอได้ไวน์” น้ำเสียงห้วนแข็งกระด้างกระแทกใส่หน้าทันทีเมื่อประตูเปิดกว้างออก “หน้าพี่มาร์คไปโดนอะไรมาคะ” เธอไม่ตอบแต่ยื่นมือหมายจะจับแก้มที่แตกช้ำของเขา “เสือก! อย่ามายุ่ง” เขาปัดมือเธอออกแล้วก็พูดต่ออีก... “จำไว้...ให้ตายพี่ก็ไม่รักเธอไวน์ ถึงจะให้พ่อกับคุณย่าบังคับพี่ได้ พี่ก็ไม่เหลียวแลเธอ จำไว้ว่าพี่เกลียดเธอ พี่รักแค่แพรคนเดียว” พูดจบเขาก็เดินไปหน้าห้องตัวเองบิดลูกบิดประตูกระชากแรงๆ เปิดออกทันที ปัง! เสียงกระแทกประตูห้องข้างๆ ทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย เธอปิดประตูห้องนอนของตัวเองแล้วเดินไปทิ้ง
สะอางมองลูกชายที่เพิ่งวางสายจากหลานตัวดีก็อดยิ้มให้กับความชอบแกล้งของมนัสวินไม่ได้ แต่ก็เห็นด้วย อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้หลานตัวดีจะทำยังไงถ้ามาถึง และเหมือนว่าวรนิษฐ์จะไม่อยากเจอด้วย เพราะตั้งแต่มาถึงหลานสะใภ้ก็บอกว่าอยากหย่ากับหลานชายอย่างเดียว “หนูไวน์ไม่รักพี่เขาเหรอลูก ทำไมถึงอยากหย่า” นางถาม เพราะนางกับลูกชายและพรเพิ่งเดินทางมาถึง ออกจากเพชรบูรณ์ตั้งแต่สิบเอ็ดโมง “บางทีความรักก็ไม่จำเป็นต้องสมหวังก็ได้ค่ะคุณย่า เขาไม่ได้รักไวน์ เขาไม่ได้สนใจไวน์ ออกจะเกลียดหนูเสียด้วยซ้ำ และเขาพาแฟนของเขามาอยู่บ้าน พามาเหยียบหัวใจไวน์ ไวน์อยู่ไม่ได้หรอกนะคะ หัวใจเขาไม่แม้แต่จะมองไวน์ ไม่เคยคิดจะสนใจไวน์ด้วย” เธอบอกเสียงสั่นเครือพร้อมหยิบทิชชูขึ้นซับน้ำตาตัวเองไปด้วย ส่วนพริ้งก็นั่งลูบหลังหลานสาวที่ไหวสะอื้นไห้ นางเองเพิ่งได้รู้ความจริงว่าตอนนี้หลานสาวกำลังตั้งครรภ์อยู่ ซึ่งน้องเขยกับน้องสาวยังไม่รู้ด้วย “มันทำขนาดนั้นเลยเหรอลูก ย่ากับพ่อวินไม่อยู่ ม
มนัสวินรู้แล้วว่าลูกสะใภ้ตนเองอยู่ไหนเลยสบายใจไม่เป็นห่วง เพราะเธอยังอยู่เมืองไทย และอยู่กับป้าของเธอ ส่วนลูกชายของเขานั้นเหรอ ไม่รู้หายหัวไปไหนตั้งแต่เมื่อวานจนตอนนี้ยังไม่กลับมาบ้านเลย และเช้านี้แม่ของเขาก็กลับมาจากวัดพร้อมกับพรคนสนิท“ยิ้มอะไรพ่อวิน”“ก็ไม่มีอะไรหรอกครับแม่สะอาง ก็แค่เมียหลานชายคุณแม่หนีไปน่ะ”“ตายจริง! แล้วมานั่งยิ้มทำไมฮึ! แล้วทำไมไม่ไปตามหาล่ะพ่อวิน”“ตามทำไมครับ หนูไวน์ไม่ได้ไปไหนไกลหรอก และหนูไวน์จะหย่ากับไอ้ลูกหมาของเราด้วยนะครับ ผมโทรหาหนูไวน์เมื่อเช้านี้ หนูไวน์บอกแบบนั้น” เขาบอกคนเป็นแม่ พอได้รู้ว่าเธออยู่ไหนก็โทรหาเธอทันทีเพื่อถามว่าเป็นอย่างไรบ้างอยู่กับคุณป้า“แล้วตามาร์ครู้รึยังว่าเมียอยากจะหย่า” นางพูดพร้อมหยิบชาร้อนตรงหน้าขึ้นมาจิบดื่ม“รู้ครับ รู้ตั้งแต่วันที่หนูไวน์จะหนีแล้ว”“แล้วมันไปไหน ไอ้ลูกหมาของเรา”“ไม่รู้สิครับ ไปตั้งแต่เมื่อวานจนตอนนี้ยังไม่กลับ ไม่รู้ไปอกหักที่ไหน ผมว่ามันต้องรักหนูไวน์แล้วแน่ๆ แม่สะอาง”“มันรักนานแล้วนะ แต่มันน่ะไม่รู้ใจตัวเอง ตามาร์คมันพว
กว่าจะมาถึงกรุงเทพฯ ก็ดึก ดีที่มาถึงป้าพริ้งมารอรับที่ บขส. เธอกับป้าใช้เวลาเดินหากันนานเกือบชั่วโมง ด้วยที่เธอวิงเวียนศีรษะและอาเจียนด้วยตลอดทาง แต่ดีที่ไม่เป็นลมเป็นแล้ง เหนื่อยเหลือเกินกับการนั่งรถทัวร์ครั้งแรก และไม่เคยคิดมาก่อนในชีวิตว่าจะต้องมาลำบากแบบนี้ “หนูไวน์อาบน้ำพักผ่อนนะลูก ว่าแต่หิวไหม เดี๋ยวป้าให้เด็กทำกับข้าวให้” เพราะนี่มันดึกแล้ว “ไม่เป็นไรป้าพริ้ง วันนี้ไวน์ไม่หิวแล้วค่ะ ไวน์ขอแค่นมร้อนสักแก้วได้ไหมคะ”เธอบอกป้าที่รัก แม้จะเจอกันปีละครั้งที่ป้าเดินทางไปเยี่ยมที่สวีเดน ป้าพริ้งเป็นสาวแก่ ไม่มีสามีและลูก และเป็นพี่สาวคนเดียวของแม่ เป็นครอบครัวคนเดียวของแม่ที่เหลืออยู่ แม้อายุจะใกล้หกสิบปีแล้ว แต่ยังเปรี้ยว เฟี้ยว ซ่าและแข็งแรง มองเผินๆ ท่านเหมือนคนอายุสี่สิบต้นๆ เอง“ขอบคุณนะคะป้าพริ้ง”“อือ...รีบอาบน้ำพักเถอะจะได้สบายตัว เห็นบอกว่าอ้วกมาตลอดทางเลย คงเพลียน่าดู แล้วนี่มาเมืองไทยไม่บอกป้า ป้างอนอยู่นะเรื่องนี้”“งื้อ...ขอโทษนะคะป
“ขอโทษด้วยนะมาร์ค แม่ของแพรท่านก็เป็นแบบนี้แหละ”“ไม่เป็นไรครับ ผมก็หวังว่าท่านจะเห็นใจแพร สงสารแพร ผมกลับแล้วนะแพร ตอนนี้ท่านก็กลับมาแล้ว”“อือ...ขอบใจนะที่ช่วยตลอดมาและช่วยทุกอย่าง”“มาร์คเต็มใจ และเงินถ้าไม่มีก็ไม่ต้องคืนก็ได้ มาร์คช่วยเหลือด้วยใจ”“แต่เงินมันไม่ใช่น้อยๆ นะมาร์ค และมันก็หลายครั้งแล้ว”“งั้นแพรก็ทยอยใช้คืนไปเรื่อยๆ ก็แล้วกันจนกว่าจะหมด มาร์คไม่เร่งรัดหรอก เพราะมาร์คไม่ได้จำเป็นต้องใช้เงินอยู่แล้ว” เขาบอกเธอก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วหยิบแก้วน้ำที่เหลือครึ่งแก้วบนโต๊ะขึ้นมาดื่มหมดแก้วแล้วเดินออกจากคาเฟ่ไปทันที และทันทีที่เขาจากไป แม่ของแพรไหมก็เดินออกมาจากหลังร้าน“ไหนบอกเลิกกันแล้ว ทำไมคุณมาร์คยังมาใช้หนี้ให้แกอีกนังแพร” นางถามทันที“เลิกกันค่ะ แต่เขาใจดีสงสารแพรเลยมาช่วยค่ะ”“นังโง่! ทำไมไม่ปล่อยให้ท้องจับเขาให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไปฮึ”“แพรทำไม่ได้หรอกค่ะ อีกอย่างตอนนี้มาร์คก็มีเมียและลูกแล้ว”“นังลูกโง่! เพราะแกดีแบบนี้ไงถึงได้โดนคนอื่นฉกไปแบบนี้ นังลูกโง่!” พูดจบก็เดินไปยังประตูร้านทันที
เสียงช้อนที่ตักข้าววางกระแทกกับจานทันที“งั้นก็เชิญ กินให้หมดล่ะ”“ค่ะ” แล้วเธอก็หยิบถาดที่หน้าตักเขามาวางไว้ที่หน้าตักตัวเองแล้วตักทานเงียบๆ ไม่พูดอะไรต่ออีก และทานไปหลายคำก็นึกสงสัยรสชาติ มันไม่เหมือนกับคนในบ้านเขาทำให้กินจึงถามขึ้น“ไม่ใช่ฝีมือพี่น้อยและคนอื่น ใครทำคะ หรือว่าพี่มาร์ค”“พี่ทำเอง ไม่อร่อยเหรอ?”“พอกินได้ค่ะ” เธอตอบแล้วก็ตักกินต่อแล้วก็เงยหน้ามองเขาที่จ้องเธอตลอดการกิน“มองอะไรคะ เอาข้าวมาให้แล้วจะไปไหนก็ไปสิคะ”“พี่จะรอเรากินหมดจานและกินยานอนถึงจะไป”ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!วรนิษฐ์ยังไม่ทันได้ตอบกลับก็มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นจนเขาลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูห้องและออกไปจากห้อง ไม่เดินกลับมาหาเธอ และเธอก็ได้ยินเสียงพูดคุยกันหน้าห้องไม่ชัด แต่เสียงนั่นคือเสียงของแฟนเขาที่มาตาม“คนใจร้าย!”เธอยกถาดข้าวผัดไข่ไปวางไว้โต๊ะข้างหัวเตียงและดื่มน้ำกับเดินลงไปหยิบยาบำรุงครรภ์ตัวเองมาทานและยาลดไข้ที่วางใกล้ๆ กันมากินด้วย และเมื่อกินยาเสร็จก็เดินกลับไปล้มตัวลงนอนบนเตียงพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ในลิ
“จะกลับสวีเดนค่ะ สนุกพอแล้วและเบื่อแล้วตอนนี้ ส่วนใบหย่าและงานแต่งงานก็ไม่ต้องห่วงนะคะ ใบหย่าไวน์จะเซ็นให้ค่ะ ส่วนงานแต่งงาน พี่ก็แต่งกับคุณแพรที่รักนักรักหนาเลยค่ะ รักกันมากนักนี่ถึงได้พากันมาอยู่ที่บ้านตอนที่พ่อวินกับคุณย่าไม่อยู่”“อย่ามาทำนิสัยเด็กๆ กับพี่นะไวน์” เขาคว้าข้อมือเล็กพร้อมกระชากร่างเล็กของหล่อนเข้ามาหาตนอุ๊ย!เธอดันมือตัวเองกับหน้าอกของเขาไว้เพื่อไม่ให้ร่างตัวเองบดเบียดไปกับร่างใหญ่ของเขา“ถึงจะหย่าให้ไงคะ และจะกลับสวีเดนด้วย”คำพูดของวรนิษฐ์ทำให้เขารู้สึกใจหายวาบและเจ็บปวดแปลบๆ ขึ้นมาในอก“แล้วลูกล่ะ? เธอจะบอกพ่อกับแม่เธอยังไงถ้าท้องเธอโต แถมเธอก็แพ้ท้องด้วย”“ลูกไม่เห็นมีอะไรนี่คะ เพราะลูกก็อยู่ในท้องไวน์ อีกอย่างเรื่องพ่อกับแม่ของไวน์ พี่มาร์คไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ เดี๋ยวไวน์จะอธิบายเอง พี่มาร์คไม่ได้อยากรับผิดชอบเราสองคนอยู่แล้ว เพราะคนที่รักและห่วงใยคือคนที่อยู่ในครัว และก็ปล่อยได้แล้วค่ะ” เธอขืนตัวเองในอ้อมกอดเขา แต่เขากลับรัดแน่นกว่าเดิม“ไม่ปล่อย ตัวก็ยังรุมๆ อยู่ ไปพักเถอะ และห้ามไปไหนทั
ความเจ็บจุกกระแทกอกเมื่อตอนเช้าตั้งใจจะมาทำมื้อเช้าให้ตนและสามีอย่างมโนภฤศ แต่เดินมายังไม่ถึงห้องครัวก็ได้ยินเสียงหัวเราะต่อกระซิกดังลอดออกมาจากห้องครัวข้างหน้าตน เธอเลิกคิ้วสงสัยว่ามันเป็นเสียงใครกัน แต่อีกเสียงพูดที่ได้ยินคือเสียงของมโนภฤศแน่นอน เธอจำได้ เท้าเล็กจึงเร่งสาวเท้าไปยังห้องครัวเพื่อจะไปดูให้เห็นกับตา และพอเดินมาถึงหน้าประตูห้องครัวที่เปิดกว้างอยู่ก็ถึงกับหน้าชา ขาชาก้าวเดินไม่ออก เป็นใบ้ขึ้นมาทันทีเมื่อภาพที่เห็นมันตำตาตำใจของหล่อนเหลือเกิน วรนิษฐ์เม้มปากแน่นแล้วสูดลมหายใจแรงๆ ตั้งสติแล้วเอ่ยถามทั้งสองที่กำลังโอบกอดกันอยู่ในครัวทันที “ทำอะไรกันคะ?” น้ำเสียงเล็กแต่กระแสเสียงของเธอบอกได้ชัดว่าไม่พอใจกับทั้งสองคนที่โอบกอดกันอยู่ มโนภฤศผละออกห่างแพรไหมทันทีเมื่อได้ยินเสียงเล็ก เมื่อกี้แพรไหมเธอจะล้ม เขาเลยรับไว้ก็เท่านั้นเอง นี่คือความจริงที่เขาอธิบายในใจไม่ได้บอกหล่อน “ทำกับข้าว” เขาตอบสั้นๆ “เหรอคะ ปกติตอนเช้าพี่มาร์คจะไปวิ่
หล่อนบิดเร่าครางซ่านสวาทพร้อมกับเอวเล็กที่ถูกยกอุ้มขึ้นลงเป็นจังหวะก็ถูกเอวสอบกระแทกหนักหน่วงขึ้นหาจนกระเด็นกระดอนตามแรงไปเลยทีเดียว เธอชอบให้เขาสอดแทรกในกายแบบนี้ มันทำให้เธอรู้สึกว่าเขารักตนเองบ้าง ทำให้รู้สึกว่าเขาเริ่มมีใจให้ตนเองไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องการแบบนี้ “อ่า...พร้อมกันไวน์ พร้อมกัน อ่า...พี่จะพาเราไปให้ถึงฝั่ง อ่า...อืม” แล้วมือใหญ่ก็ยกอุ้มดันเธอขึ้นลงจนสองเต้าอวบหยุ่นเบียดสีไปกับหน้าของเขาและเอวสอบก็เคลื่อนไหวยกเร่าตอบสนองหมุนควงร้อนอยู่ใต้น้ำ ตอนนี้สองร่างเปียกปอนและสายน้ำก็กระเด็นกระเซ็นตลอดการเคลื่อนไหวสวาทของทั้งคู่ “โอว์...ไวน์ อ่า...” เสียงครางกระเส่าเสียวยังคงดังออกมาเป็นระยะพร้อมกับทั้งสองเคลื่อนไหวบดเร่ากันในน้ำ หัวใจของมโนภฤศยากจะฉุดกลับ ตอนนี้มันโดนสาวเจ้าที่แอ่นเด้งเร่าขึ้นหาตอนนี้ตกไปเรียบร้อยแล้ว โดนตกไปแบบไม่รู้ตัว และสำหรับวรนิษฐ์แล้วยิ่งรักและหวงชายหนุ่ม ยิ่งไม่อยากเสียเขาไปให้ผู้หญิงคนไหน&nbs
พอเจอลำธารใสสะอาดน่าเล่น วรนิษฐ์ก็ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น“ว้าว! น่าเล่นจังเลยค่ะ น้ำใสจัง” เธอเห็นน้ำใสน่าเล่นก็ถอดรองเท้าผ้าใบและถุงเท้ากองไว้ข้างลำธารแล้วลงไปเล่นน้ำทันที ไม่สนใจคนที่ก้มหน้าวิดน้ำใส่หน้าตัวเองข้างลำธาร“ระวังด้วยล่ะ อย่าไปตรงนั้นมันลึก” เขาชี้มือไปทางอีกฝั่งด้วยกลัวเธอจะเล่นไปถึงตรงนั้นด้วยความเป็นห่วง“ไวน์ว่ายน้ำเป็นค่ะ เป็นนักกีฬามหา’ลัยด้วย”“อวดเก่ง” เขาบอกแค่นั้นแล้วลุกขึ้นถอดเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตสีน้ำเงินดำตัวเองออกมาซักกับน้ำในลำธารที่ไหลตลอดเวลา“พี่มาร์คมาเล่นน้ำด้วยกันค่ะ” เธอกวักมือเรียกเขา และมโนภฤศก็มองคนที่กวักมือเรียกตัวเองแล้วก็กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ เสื้อเชิ้ตสีขาวของเธอเวลามันเปียกน้ำมันบางจนเห็นข้างในและมันก็แนบไปกับเนื้อและหน้าอกอวบอูมของหล่อน“ถ้าฉันไม่อยากแค่เล่นน้ำล่ะ” เขาบอกเธอ“ก็เรื่องของพี่สิคะ อยากทำอะไรก็ทำ แต่ไวน์จะเล่นน้ำ” คนไม่เข้าใจในความหมายเอ่ยตอบแล้วดำลงไปใต้น้ำแหวกว่ายเล่นอย่างสบายใจหึหึมโนภฤศถอดกางเกงยีนส์สีดำขาดเข่าตัวเองวางไว้ที่ข้างล