เช้าวันต่อมาวรนิษฐ์ตื่นแต่เช้า แต่ไม่ได้ปลุกคนที่นอนกอดตัวเองทั้งคืน เธอรู้สึกดีที่ได้นอนในวงแขนแข็งแรงของเขา แต่พอเช้ามาก็ต้องยอมรับความจริงว่าเธอมันก็แค่เมียชังไม่ใช่เมียรักของมโนภฤศ หญิงสาวตื่นมาเตรียมของใส่บาตรตอนเช้ากับป้า โดยมีพ่อของเขาและคุณย่าของเขาที่ตื่นมารอใส่บาตรในตอนเช้าด้วยเหมือนกัน ป้าพรก็มาช่วยเตรียมด้วย ตอนนี้ทุกคนยืนรออยู่หน้าบ้าน รอพระเดินผ่านหน้าบ้าน
“ทำไมไม่ปลุกพี่ฮึ” เสียงเข้มดังขึ้นด้านหลังเธอเมื่อเขาเดินมาหยุดซ้อนเธอ
“ไม่อยากรบกวนค่ะ” เธอหันมาตอบเขาพร้อมขยับตัวห่างจากเขาไปหนึ่งก้าวและเขาก็ก้าวตามเธอไปติดๆ
“รบกวนอะไร ตื่นมาใส่บาตรตอนเช้าก็ดีนะ” เขาพูดต่อแล้วมองไปยังคนที่ยืนข้างเธอ คงเป็นป้าของหญิงสาว เขาก็ไม่ลืมยกมือไหว้ท่าน เพราะเมื่อวานไม่ได้เจอท่าน
“สวัสดีครับคุณป้า” พริ้งรับไหว้มองดูหน้าหลานเขยกับหน้าของพ่อหลานเขยสลับกัน ทั้งสองถอดแบบกันมาเป๊ะ
&nbs
“เกี่ยวอะไรกับแพร แพรก็อยู่ส่วนแพร อย่าไปดึงคนอื่นมาวุ่นวายในเรื่องของเราสองคน อีกอย่างอย่ายุ่งกับแพร” “แตะต้องไม่ได้เลยนะคะ งานเยอะก็กลับไปเถอะค่ะ เพราะเดี๋ยวพ่อแม่ไวน์มา ไวน์ก็จะกลับสวีเดนแล้ว” “ไวน์จะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ไวน์ต้องอยู่ที่ไทย เพราะไวน์เป็นเมียพี่” “เมียที่พี่ไม่รักไม่ต้องการแต่แรกน่ะเหรอคะ แค่หย่าให้ไวน์ก็สิ้นเรื่องค่ะ พอเถอะ ไวน์ไม่อยากพูดแล้วเหนื่อย อยากพักผ่อน ส่วนข้าวผัดไข่ขอบคุณนะคะ ถึงเราจะหย่ากัน ไวน์ก็ให้พี่เป็นพ่อเขาเหมือนเดิมค่ะ ไปมาหาสู่เขาได้ค่ะ เขาไม่มีปมแน่นอนค่ะ ไวน์จะสอนเขาอย่างดีเลยค่ะ” พูดจบเธอก็เดินจากไปเข้าไปในบ้าน พร้อมกับปล่อยน้ำตาใสๆ ไหลอาบสองแก้มนวล “โธ่เว้ย! เพล้ง!” มือใหญ่ปัดจานบนโต๊ะทิ้งทันทีพร้อมเดินเข้าไปในบ้าน พริ้ง คุณย่าสะอางและมนัสวินที่นั่งพูดคุยกันในห้องนั่งเล่นหลังมื้อเช้ามองไปทางหน้าห
มโนภฤศกลับมาเพชรบูรณ์ได้ไม่ถึงสี่วันก็มีพัสดุมาส่ง เขาเปิดซองเอกสารออกมาดูว่าเป็นอะไรในซอง เป็นหมายศาลฟ้องหย่า เขากำกระดาษในมือแน่น นี่พ่อของเขาจะไวไปแล้วนะ เดินเรื่องไวไปแล้วนะ และเขาก็ร้อนจนต้องรีบกดต่อสายหาวรนิษฐ์เพื่อถามถึงเรื่องจดหมายศาลที่เพิ่งได้รับตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด!“นี่มันอะไรกันไวน์” เมื่อปลายสายกดรับสาย เขาก็กระชากเสียงถามไปในสายทันที“อะไรคะ?” เธอถามเขาอย่างงงๆ ไม่เข้าใจในความหมายของเขา“ก็หมายศาลไง ฟ้องหย่าเหรอ”“อ้อ...ค่ะ ก็พี่บอกไม่ยอมหย่าเอง ไวน์เลยต้องพึ่งศาล”“นี่เอาจริงเหรอ?”“แล้วไวน์บอกเหรอคะว่าพูดเล่น ถ้าไม่อยากให้ถึงศาลก็ยอมเซ็นใบหย่าให้ไวน์สิคะ เรื่องจะได้จบๆ”“ไม่มีทาง! ยังไงพี่ก็ไม่หย่าหรอก ไม่รักพี่แล้วเหรอ?” เขาถามเธอในท้ายประโยคและหวังว่าเธอจะตอบกลับมาว่า ‘รัก’ แต่กลับตรงกันข้าม“ไม่ค่ะ เรื่องอะไรไวน์ต้องไปรักคนที่ไม่ได้รักไวน์ด้วย ถ้าไม่มีธุระอะไรจะคุยแล้วแค่นี้นะคะ ไวน์จะออกไปซื้อของกับป้าพริ้ง อีกอย่างถ้าจะโทรมาเรื่องนี้ไม่ต้องโท
วันนี้เธอได้ทานข้าวนอกบ้านวันแรกและเป็นวันที่ทานได้เยอะ ไม่แพ้อาหาร เพราะเธอทานแต่ของที่อยากกิน และคุณพ่อกับป้าของเธอก็ตามใจ ท่านทานตามที่เธอสั่งได้ทุกอย่าง พอกลับมาถึงบ้านก็ดึกมากแล้วเกือบสี่ทุ่มกว่า จึงเดินถือของใช้ที่ซื้อกลับห้องตัวเอง และทุกคนก็แยกไปห้องพักตัวเอง พอเปิดประตูเข้ามาในห้องก็แปลกใจที่ห้องเปิดไฟทิ้งไว้ วรนิษฐ์ยกมือเกาหัวเล็กน้อย เพราะจำได้ว่าก่อนออกไปได้ปิดไฟไว้แล้ว“หรือเราลืมปิดไฟ?” ถามตัวเองพร้อมถือของไปวางไว้โต๊ะเครื่องแป้งแล้วก็แปลกใจอีกเมื่อได้ยินเสียงน้ำไหลในห้องน้ำ จะเดินไปผลักประตูที่ปิดแนบสนิทดูว่าตัวเองลืมปิดน้ำรึเปล่า แต่พอเปิดเข้าไปก็เห็นมโนภฤศยืนเปลือยอยู่ใต้ฝักบัวว้าย!ปึก!“ทำไมไม่ล็อกประตู แล้วมาอาบน้ำในห้องของไวน์ได้ยังไงคะ” เธอปิดประตูพร้อมตะโกนถามคนข้างในห้องน้ำ“ก็ห้องส่วนตัวจะล็อกทำไม แล้วทำไมกลับมาดึกขนาดนี้ พี่รอตั้งนานแน่ะ” เขาปิดน้ำพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอวสอบแล้วดึงเปิดประตูอีกครั้ง“อาบเสร็จแล้วใช่ไหมคะ ถ้าเสร็จก็ใส่เสื้อผ้าแล้วออกจากห้อ
ร่างเล็กอวบอิ่มโดนยกอุ้มขึ้นตามแรงกระแทกเด้งเอวสอบที่แอ่นเด้งเร่า มโนภฤศเร่งสาวเอวโยกเร่านำพาตัวเองและเด็กดื้อของตนเองไปให้ถึงฝัน เขาแหงนหน้ามองน้ำที่ไหลในฝักบัวแล้วคำรามกัดฟันแน่นเมื่อภายในของวรนิษฐ์ตอดรัดเขาแรงเหลือเกิน “โอว์...ไม่ไหวแล้ว เสียวเป็นบ้า พี่ไม่ไหวแล้วไวน์ อ่า...คืนนี้ขอสามยกนะ อืม...ให้สมกับที่นอนไม่หลับหลายวัน อ่า...เสียว เสียวเหลือเกิน อืม...” “อ่ะ...อื้อ พะ...พี่มาร์ค อ่ะ...อย่าแรงค่ะ ไวน์ท้องอยู่ อูว์...ไวน์ท้อง อ่ะ...อ่อย”หล่อนบอกเขาให้ผ่อนแรงจ้วงลึก เพราะตอนนี้เขาเริ่มดุดันซอยถี่แล้ว แม้จะชอบที่เขาจ้วงกระแทกกายสอดลึก แต่มันก็รุนแรงเกินไปสำหรับคนท้องอย่างเธอ หล่อนรับรู้ได้ถึงการเสียดสีของเขาที่เบียดเร่ามดลูกของเธอยามเขาแอ่นเด้งสอดลึกหา “อ่า...ได้ พี่จะเบาลง แต่ขอลึกๆ นะ อ่า...พี่อยากได้ไวน์ลึกๆ อืม...อ่า พอดียัง อ่ะ...เสียว” เขาถามเมื่อผ่อนแรงลงแต่ยังคงจ้วงไหวลึกในตัวของสาวเจ้าที่โอบอุ้มอยู่ใต้ฝักบัว 
อือ! มือเล็กปัดสิ่งที่รบกวนตัวเองเวลาหลับออกอย่างนึกรำคาญ แต่เหมือนยิ่งปัดป้องยิ่งถูกรบกวนตรงแก้มจนต้องตื่นมาดูว่าใครกันมากวนตนเองเวลานอนแบบนี้ “อือ...อย่ากวนได้ไหม” บอกคนที่กวนทั้งๆ ที่ยังตื่นไม่เต็มตา พอได้ตื่นเต็มตาปรับการมองเห็นให้คุ้นชินกับแสงแดดที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่างก็ผลักอีกฝ่ายออกทันที “พี่มาร์ค!” “อือ...พี่เอง แล้วคิดว่าไง” “ทำไมพี่มาอยู่ในห้องไวน์” “เอ้า! เมื่อคืนเราก็นอนด้วยกันและมีเซ็กซ์กันด้วย หรือลืมไปแล้ว” คำพูดตรงๆ ของเขาทำให้เธอดึงผ้าห่มขึ้นคลุมหัวตัวเองทันที เมื่อภาพทุกอย่างในห้องน้ำฉายชัดเข้ามาในหัว “ออกไปเลยนะ” “จะให้ไปไหน” “ไปไหนก็ได้ที่ไม
“แม่ของไวน์” “แม่ลินดา” “อือ...แล้วทำไมไม่เปิดห้องคะ” “พี่อยู่ในห้องกับไวน์ จะเปิดได้ยังไง” “งั้นก็ไปโดดออกทางหน้าต่างค่ะ แม่ลินดาจะได้ไม่เห็น” เธอผลักเขาออกจากหน้าประตูแล้วกระชากดึงเปิดกว้างออก ส่วนเขาก็ได้แต่ยืนนิ่งไม่ยอมขยับตัวไปไหน “ทำไมชักช้าลูก แล้วเมื่อกี้แม่เห็นพี่มาร์คอยู่ในห้องเรา อ้อ...ตามาร์คมาทำอะไรที่ห้องน้องลูก” พูดแล้วก็มองไปด้านหลังเห็นชายหนุ่มยืนฉีกยิ้มให้ตนอยู่ “สวัสดีครับน้าลินดา” เขายกมือไหว้ท่าน “ไหว้พระเถอะตามาร์ค ว่ายังไงฮึ ทำไมมาอยู่ด้วยกัน แล้วทำไมตื่นสายแบบนี้ลูก” นางถามวรนิษฐ์ “พอดีไวน์เพลียๆ ค่ะแม่ลินดา แม่มาถึงนานรึยังคะ แล้วพ่อทรงพล?” เธอถามถึงพ่อของตน “คุยกับพี่ว
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์กว่าที่มโนภฤศจากไปวันนั้น เขาก็ไม่ติดต่อกลับมาอีก ไม่แม้แต่จะมาหา เขาหายไปเลย แม้แต่กับคุณพ่อและคุณย่า เขาก็ไม่ติดต่อหาพวกท่าน แต่เธอบอกตัวเองแล้ว เธอจะไม่อ่อนแอ ไม่เสียน้ำตา ไม่รอเขาอีกแล้ว เธอปล่อยให้แต่ละวันตัวเองอยู่กับความทุกข์ไม่ได้ เรื่องระหว่างเธอกับมโนภฤศ พ่อกับแม่ของเธอก็ทราบเรื่องแล้ว และท่านทั้งสองก็เคารพการตัดสินใจของเธอหากต้องการจะหย่า และด้วยแม่เธอนั้นรู้ดีว่าในใจของลูกสาวมีมโนภฤศมาตลอด แต่เมื่อมโนภฤศไม่เลือกลูกนางและลูกนางก็ยอมรับความจริงข้อนี้ “เมื่อจะหย่าก็หย่า แล้วหมายศาลที่ส่งไปครั้งก่อนเป็นยังไงมั่งพ่อวิน” สะอางถามลูกชายของตนเอง “เดี๋ยวผมให้ทนายผมส่งไปอีกครับแม่สะอาง ถ้ามันไม่ยอมหย่าง่ายๆ คงต้องฟ้องร้องกันจริงๆ” มนัสวินผู้เข้าข้างลูกสะใภ้เอ่ย “อือ...อย่าให้ถึงขั้นนั้นเลยวิน ยังไงมาร์คมันก็ลูกเอ็ง และมันก็หลานฉัน ฉันก็เห็นมาร์คมาตั้งแต่เด็ก เมื่อไม่รักกันอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็ควรจะมาคุยกันดีๆ” ทรงพลเอ่
“พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ติดใจเรื่องที่ผ่านมาหรอกนะ เพราะมันก็เกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้มันก็แล้วแต่มาร์คกับหนูไวน์ว่าจะตกลงกันยังไง รอคุยกันเอาเองเถอะ พ่อกับแม่และทุกคนก็เป็นแค่คนนอก ครอบครัวของมาร์ค มาร์คก็จัดการเองเถอะ สำหรับพ่อกับแม่ก็เห็นมาร์คมาตั้งแต่เด็กรักเหมือนลูกแท้ๆ และดีใจด้วยซ้ำที่จะได้เรามาเป็นลูกเขย มาดูแลแก้วตาดวงใจของเราทั้งสอง” ทรงพลเอ่ยพร้อมกับตบไหล่หนาของลูกเขยที่นั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าตน “ขอบคุณครับ เรื่องน้องไวน์ ผมจะจัดการเอง เด็กดื้อคนนั้นต้องผมเท่านั้นถึงจะเอาอยู่” เขาแหงนเงยหน้ายกยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งให้พ่อตาและแม่ยาย “คงจะยากไอ้ลูกหมา ตอนนี้มึงมีคู่แข่งแล้วและหล่อด้วย บินตรงมาจากสวีเดน แถมตอนนี้ก็ไปดูหนังด้วยกัน จะกลับก็คงดึก” มนัสวินเอ่ยขึ้นอย่างหมั่นไส้ลูกชาย “ว่าไงนะครับ? แล้วทำไมพ่อวินกับคุณย่าไม่กันท่าให้ผมครับ” “จะไปรู้กับมึงเรอะ! เรื่องของใครของมัน” ท่านตอบยียวนกลับ&nbs
“อ่า...ไวน์ครับ ไวน์ของพี่ ครอบครองพี่ได้โปรด อืม...” เขายกเด้งเอวสอบกระแทกเสียดสีกายแข็งร้อนไปกับอุ้งมือน้อยที่รุดเร่าคลึงขยำจังหวะอยู่ในตอนนี้ “อ่า...ชอบไหมคะ ทรมานไหมคะ วันนี้ไวน์จะใช้ปากบนและปากล่างของไวน์ครอบครองพี่ ไวน์จะตอดรัดพี่ให้แตกในตัวไวน์ อ่ะ...อืม” แล้วปากน้อยที่พูดจบก็โน้มลงไปดูดเร่าคลอเคลียปลายลิ้นตวัดไล้เลียไปตามส่วนปลายร้อนรุ่มอวบใหญ่ในมือตน และมืออีกข้างก็นวดคลึงเร่าพวงสวรรค์ของมโนภฤศไปด้วยเช่นกันกับมือที่รูดไถท่อนลำกายของมัน “อ่า...ไม่ไหวแล้วไวน์ อ่า...เสียว ผัวเสียว อือ...” “ไวน์ก็เสียวค่ะ และอยากทำให้พี่มาร์คแตกในปากด้วยตอนนี้ อืม...” ไม่ใช่แค่เขาต้องการปรารถนาเธอ เธอเองก็ต้องการปรารถนาเขา แต่ก็อยากดัดนิสัยสามีที่เซ็กซ์จัดเกินงาม เธอเคืองมาก เขามีเซ็กซ์จนวันที่เธอเจ็บท้องคลอดด้วย เขามันหื่น หื่นแบบเธอไม่ได้พักสักคืน แต่นี่ก็สามเดือนแล้ว น่าจะพอแล้วสำหรับการดัดนิสัยเขา เพราะเธอเองก็ต้องการสามีมากเหมือนกันตลอดสามเดือน ก็คนนอนด้วยกัน
“พี่มาร์ค ฟังก่อนได้ไหมคะว่าไวน์จะพูดอะไร” เธอดันหน้าของเขาที่ตอนนี้ขึ้นมาคร่อมเธอบนเตียงทั้งๆ ที่เนื้อตัวเขามอมแมมสกปรกเต็มไปด้วยดิน “ไวน์จะบอกว่าเดือนหน้าเวลจะมาเที่ยวที่ไร่เราค่ะ และ...” ยังพูดไม่สุดประโยคความดี คนขี้หึงก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน “มันจะมาทำไม ไวน์ก็คลอดลูกแล้ว เรารักกันดีขนาดนี้ มันยังจะมาอีกเหรอ มันยังคิดว่ามันมีหวังอีกเหรอไวน์” “พูดไม่เพราะอีกแล้วนะพี่มาร์ค เป็นพ่อคนแล้วนะคะพี่น่ะ ไม่ใช่เด็กแล้ว” “ก็คนมันหวงเมียนี่ อีกอย่างเมียสวยด้วย และนี่มดลูกเข้าอู่แล้วใช่ไหม พี่รู้นะ พี่ถามคุณย่ามาแล้ว ปกติมันแค่ห้าหกสัปดาห์และพี่ก็ถามหมอมาแล้วด้วย ไวน์ยอมรับมาเลยนะว่าตอนนี้พี่เข้าไปได้แล้วใช่ไหมฮึ น้องมาร์ชลูกเราสามเดือนแล้วด้วย ไม่ต้องบ่ายเบี่ยงเลยนะ พี่หิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย จะลงแดงอยู่แล้วเนี่ย” “ไวน์ดีใจนะที่พี่มาร์คหวงไวน์ แต่ช่วยฟังให้จบก่อนได้ไหมคะ เวลจะพาแ
เผียะ! มือเล็กตีมือสามีทันทีเมื่อมโนภฤศกลับมาถึงก็จะอุ้มลูกน้อยที่นอนในเปล “ล้างมือยังคะถึงจะมาอุ้มลูก” นี่ผ่านมาจนคลอดเจ้าตัวเล็กได้สามเดือนแล้ว และงานแต่งงานที่ว่าจะจัดก็ยังคงไม่ได้จัด เพราะหลังจากเข้าใจกันดีแล้วทั้งสองก็พูดคุยกันเรื่องฤกษ์แต่งงานบอกคุณย่าและพ่อกับแม่ว่าขอจัดตอนลูกโต เพราะอยากมีเขาในวันสำคัญด้วย และก็คือรอให้เด็กชายมหัทธน พันแสงเดือน หรือน้องมาร์ช โตเสียก่อน “ยังครับ” เขาตอบคนตัวเล็ก แม้จะลูกหนึ่ง แต่ทรวดทรงองค์เอวของวรนิษฐ์ยังคงสวยยั่วยวน “ไปล้างมือเลยค่ะ ตัวเองไปทำไร่ทำสวนมาทั้งวันจะมาอุ้มลูกไม่ได้นะคะ บอกกี่ครั้งแล้วไม่รู้จักจำ หรือว่าแก่แล้วเลยความจำไม่ดีคะ” “นี่ไง ชอบว่าพี่แก่ ถ้าพี่แก่ พี่จะเอาเราทุกคืนได้เหรอไวน์ อย่าพูดอีกนะว่าพี่แก่ พี่ไม่ได้แก่ พี่ยังฟิตปึ๋งปั๋ง ไม่เชื่อก็จัดเลยไหม” เขาไม
“ลองทำกับคนอื่นดูสิคะ ไวน์ตัดขาดแน่” “ไม่ทำกับใครแล้ว เพราะเก็บไว้ทำกับแม่ของลูกคนเดียว รักนะ” “รักเหมือนกันค่ะ อ่ะ...อื้อ” แล้วเสียงหวานก็ถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอเมื่อปากหนาบดทาบทับลงมาพร้อมสอดเร่าลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากหวานฉ่ำของวรนิษฐ์ สองมือเล็กโอบกอดคนเหนือร่างรัดรั้งลงมาบดเบียดร่างเปลือยตัวเอง เรียวขาเล็กก็ยกเร่ากอดเกี่ยวเอวหนาแอ่นเด้งเร่ายกบิดเอวกระแทกเบียดสีไปกับท่อนเนื้อบุรุษที่แนบถูไถอยู่บริเวณหน้าท้องตัวเอง “อ่า...หวานเหลือเกิน จูบกี่ครั้งก็ยังหวาน อืม...” เขาผละออกมาละเลียปลายลิ้นกับริมฝีปากสีระเรื่อพร้อมกับบดจูบอีกครั้งและอีกครั้ง “อ่ะ...อื้อ” เสียงครางเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากของทั้งสองที่คลอเคลียกัน สองแขนของมโนภฤศโอบรัดร่างเปลือยของคนตัวเล็กใต้ร่างขึ้นหาตัวเองพร้อมกดแนบเอวสอบแทรกกายใหญ่โตอวบร้อนของตัวเองสอดเร่าเสียดสีเข้าไปในความคับแคบของสาวเจ้า&n
แม้จะเป็นความจริง แต่มันความจริงที่เกิดฝัน ไม่เคยคิดว่าการแอบรักคนใจร้ายจะสมหวัง ไม่เคยคิดว่าเขาจะรักตัวเองตอบ ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ วันที่มีเขานอนตระกองกอดแบบนี้ มือเล็กลูบไล้แผงอกเปลือยของสามีไปมา หลังจากที่เขาพร่ำบอกรักตลอดการหลอมรวมประสานร่างกัน “บอกรักไวน์อีกได้ไหมคะ ไวน์อยากได้ยินอีก” เธอแหงนหน้าจากหน้าอกของเขามองจ้องดวงตาสีทมิฬที่จ้องมองตัวเองอยู่เหมือนกันตอนนี้ วรนิษฐ์ไม่ยอมให้เขาปิดไฟ เพราะอยากนอนมองเขาแบบนี้ อยากมั่นใจว่าไม่ใช่ความฝัน อยากมั่นใจว่าคือความจริง “ไม่เบื่อเหรอ?”น้ำเสียงทุ้มอ่อนโยนเอ่ยถามแม่คนดื้อรั้นนิสัยไม่ดีของตนเอง และก็ยกยิ้มกลั้วขำในลำคอเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อหลายปีก่อน ทำไมเขาต้องมาตกหลุมรักเด็กคนนี้ด้วย เมื่อก่อนไม่ว่าจะคบใครตอนที่ไปเรียนต่อปริญญาโทที่สวีเดน วรนิษฐ์ก็ตามไปสร้างความวุ่นวายอาละวาดตลอดจนผู้หญิงทุกคนที่คบด้วยขอเลิก เพราะทนน้องสาวตัวแสบของเขาไม่ได้ “ไม่เบื่อค่ะ เพราะเป็น
เธอเม้มปากแน่นไม่ตอบ แต่เดินหนีไปยังห้องน้ำแทน “ไวน์ทำไมไม่ตอบพี่ เดินหนีแบบนี้พี่จะคิดเข้าข้างตัวเองว่าไวน์ไม่เกลียดพี่และยังรักพี่นะ” “แล้วพูดไม่พูดมันมีประโยชน์อะไรคะ ในเมื่อพี่มาร์คไม่ได้รักไวน์ และสิ่งที่พี่มาร์คทำตอนนี้ก็แค่ทำเพื่อลูกในท้องไวน์เท่านั้น” เธอตอบกลับทันทีเมื่อเขาพูดสุดความ แม้จะบอกตัวเองไม่ให้อ่อนแอ แต่น้ำตามันก็เกเรไหลออกมาให้อับอายอีกแล้ว เธอแหงนเงยหน้ามองบนพร้อมยกมือปาดเช็ดน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นดวงตาออกทิ้ง อึก! ฮือๆๆ “ไม่เอา ไม่ร้องไห้ทูนหัว ฟังพี่นะ ฟังอีกรอบ” เขาเดินไปรั้งเธอเข้ามากอดพร้อมลูบหลังเล็กที่สั่นตามแรงสะอื้นปลอบประโลมไปด้วย “ชูว์...ฟังนะเด็กโง่ของพี่ ที่พี่บอกว่าไม่ได้เกลียดก็คือพี่รักไวน์ และที่บอกไม่ได้รำคาญนั่นหมายความว่าพี่ชอบให้ไวน์มาวุ่นวายในชีวิตพี่” คนที่เพิ่งรู้ใจตัวเองว่าหลงรักน้องน้อยที่ทำตัววุ่นวายในชีว
“พี่บอกแล้วไงว่าไม่หย่า ส่วนมึงไอ้หัวทอง ไปไหนก็ไปไป๊! ถ้าไม่ไปกูถีบแน่” เขาพูดพร้อมกับยกเท้ากระทืบพื้นแรงๆ ขู่อีกฝ่ายตึ้บ! เสียงกระทืบเท้าของคนที่สูงน้อยกว่าตนเองทำให้เวลยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้น“เจอกันพรุ่งนี้นะไวน์”“ขอโทษด้วยนะเวล” เธอขอโทษเวลที่เดินขึ้นบันไดบ้านไปแล้วหันมาแหงนเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตที่โอบกอดตัวเองแน่นพร้อมกับสั่งเขา“ปล่อยได้แล้วค่ะ อย่ามาทำแบบนี้กับไวน์” เธอพูดพร้อมแกะมือใหญ่ออกจากเอวอวบของตัวเอง“ชอบมันเหรอถึงให้มันจูบหลังมือ” เขาไม่ยอมปล่อย แต่กลับถามกลับ“ค่ะ เวลน่ารักดี”“ไม่รักพี่แล้ว?”“ค่ะ พี่มาร์คจะมาถามอะไรคะ ดึกแล้วไวน์ง่วง แล้วปล่อยได้แล้วค่ะ อย่ามาทำเหมือนหึงไวน์หน่อยเลยค่ะ แล้วนี่มาได้ยังไงคะ เมียพี่ไม่ว่าเหรอ?”“ก็คุยกับเมียอยู่นี่ไงล่ะ แล้วคิดว่าว่าพี่ไหมล่ะ” เขาตอบกลับพร้อมกับปล่อยเธอเป็นอิสระ และทันทีที่น้องน้อยได้อิสระก็เดินขึ้นบันไดบ้านไปทันที เขาเองก็สาวเท้ายาวๆ ตามหลังเธอไปติดๆ“ไวน์...เรามีเรื่องต้องคุยกัน”“พรุ่งนี้ค่อยคุยเรื่องหย่าข
“พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ติดใจเรื่องที่ผ่านมาหรอกนะ เพราะมันก็เกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้มันก็แล้วแต่มาร์คกับหนูไวน์ว่าจะตกลงกันยังไง รอคุยกันเอาเองเถอะ พ่อกับแม่และทุกคนก็เป็นแค่คนนอก ครอบครัวของมาร์ค มาร์คก็จัดการเองเถอะ สำหรับพ่อกับแม่ก็เห็นมาร์คมาตั้งแต่เด็กรักเหมือนลูกแท้ๆ และดีใจด้วยซ้ำที่จะได้เรามาเป็นลูกเขย มาดูแลแก้วตาดวงใจของเราทั้งสอง” ทรงพลเอ่ยพร้อมกับตบไหล่หนาของลูกเขยที่นั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าตน “ขอบคุณครับ เรื่องน้องไวน์ ผมจะจัดการเอง เด็กดื้อคนนั้นต้องผมเท่านั้นถึงจะเอาอยู่” เขาแหงนเงยหน้ายกยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งให้พ่อตาและแม่ยาย “คงจะยากไอ้ลูกหมา ตอนนี้มึงมีคู่แข่งแล้วและหล่อด้วย บินตรงมาจากสวีเดน แถมตอนนี้ก็ไปดูหนังด้วยกัน จะกลับก็คงดึก” มนัสวินเอ่ยขึ้นอย่างหมั่นไส้ลูกชาย “ว่าไงนะครับ? แล้วทำไมพ่อวินกับคุณย่าไม่กันท่าให้ผมครับ” “จะไปรู้กับมึงเรอะ! เรื่องของใครของมัน” ท่านตอบยียวนกลับ&nbs
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์กว่าที่มโนภฤศจากไปวันนั้น เขาก็ไม่ติดต่อกลับมาอีก ไม่แม้แต่จะมาหา เขาหายไปเลย แม้แต่กับคุณพ่อและคุณย่า เขาก็ไม่ติดต่อหาพวกท่าน แต่เธอบอกตัวเองแล้ว เธอจะไม่อ่อนแอ ไม่เสียน้ำตา ไม่รอเขาอีกแล้ว เธอปล่อยให้แต่ละวันตัวเองอยู่กับความทุกข์ไม่ได้ เรื่องระหว่างเธอกับมโนภฤศ พ่อกับแม่ของเธอก็ทราบเรื่องแล้ว และท่านทั้งสองก็เคารพการตัดสินใจของเธอหากต้องการจะหย่า และด้วยแม่เธอนั้นรู้ดีว่าในใจของลูกสาวมีมโนภฤศมาตลอด แต่เมื่อมโนภฤศไม่เลือกลูกนางและลูกนางก็ยอมรับความจริงข้อนี้ “เมื่อจะหย่าก็หย่า แล้วหมายศาลที่ส่งไปครั้งก่อนเป็นยังไงมั่งพ่อวิน” สะอางถามลูกชายของตนเอง “เดี๋ยวผมให้ทนายผมส่งไปอีกครับแม่สะอาง ถ้ามันไม่ยอมหย่าง่ายๆ คงต้องฟ้องร้องกันจริงๆ” มนัสวินผู้เข้าข้างลูกสะใภ้เอ่ย “อือ...อย่าให้ถึงขั้นนั้นเลยวิน ยังไงมาร์คมันก็ลูกเอ็ง และมันก็หลานฉัน ฉันก็เห็นมาร์คมาตั้งแต่เด็ก เมื่อไม่รักกันอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็ควรจะมาคุยกันดีๆ” ทรงพลเอ่