นีสรินลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องแห่งหนึ่ง ข้อมือทั้งสองถูกมัดไขว้ไว้ด้านหลัง นางนอนอยู่บนพื้นเย็นเฉียบ ปากของนางตอนนี้เป็นอิสระพอที่จะหายใจได้สะดวกแล้ว เรานางจำได้ว่าตอนที่ถูกจับตัวมาโดยที่นางถูกมือปริศนาเอาผ้าที่มีกลิ่นแปลก ๆ มาปิดปากนางจากทางด้านหลัง ขณะที่นางกำลังเดินชมข้าวของที่ตลาดกลางเมืองที่คึกคักไปด้วยผู้คน แต่เมื่อนางกำลังมองหาร้านชาดีๆเพื่อจะดื่มชาเย็นๆ
ขณะที่อากาศกำลังร้อนเปรี้ยงนั้น นางมองเห็นไกลๆว่ามีร้านชาขึ้นชื่อที่ดูแล้วน่าจะอร่อย นางจึงพยายามเดินแทรกผู้คนที่คับคั่งนั้นผ่านไปจนใกล้จะถึงร้านชาแห่งนั้น แต่เมื่อก้าวเดินผ่านมุมตึกที่กำลังจะถึงร้านชาอีกไม่ไกลนั้น ก็มีมือหนาๆ เอื้อมมาปิดปากของนางทันทีจากทางด้านหลัง มือนั้นมีผ้าผืนเล็กๆอยู่ในมือ นางได้กลิ่นแปลกๆ จากผ้าผืนนั้นแล้วโลกก็มืดมนลงไปทันที
รู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนที่นอนอยู่ด้านหลังรถคันหนึ่ง และนางนอนอยู่บนพื้นเหล็กแข็งๆ มือทั้งสองข้างถูกมัดไว้ที่ด้านหลัง ปากก็ถูกผ้าปิดเอาไว้ นางได้แต่ร้องอึกอักอยู่ในลำคอ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่ารถกำลังวิ่งด้วยความเร็วพอสมควร และทางที่รถผ่านนั้นมันก็น่าจะขรุขระอยู่
พอสมควรเพราะรถวิ่งกระเด้งกระดอนในบางจังหวะ นีสรินคอแห้งผากนางหิวน้ำมากเหลือเกินเพราะตอนที่เดินอยู่กลางตลาดแห่งนั้น นางก็กระหายน้ำอยู่แล้ว แต่เมื่อถูกจับตัวมายังมิทันได้ดื่มน้ำอยากที่อยากจะดื่ม ในตอนนี้จึงยิ่งกระหายยิ่งนัก แต่ด้วยกระจกที่กั้นระหว่างรถตอนหน้าที่มองไปเห็นมีหัวของคนสองคนนั่งอยู่ในตอนหน้า และนางนอนอยู่ท้ายรถด้านหลัง และนางก็กลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้น จึงสองจิตสองใจที่จะใช้รองเท้ากระแทกกับผนังของตัวรถเพื่อเรียกให้คนด้านหน้าหันมามองนาง เมื่อคิดไปคิดมานางก็ผล็อยหลับไปอีกครั้งหนึ่ง จนกระทั่งมารู้สึกตัวตื่นเต็มที่บนพื้นหินเย็นๆนี้
นีสรินพยายามมองไปมาและพยายามกระเสือกกระสนลุกขึ้นนั่งจนได้ นางเอนตัวพิงกำแพงหินด้านหลัง แล้วกวาดตามองไปรอบๆห้องนี้ มันมีหน้าต่างหนึ่งบานแต่อยู่สูงกว่าตัวของนางไปมาก และไม่มีอะไรปีนขึ้นไปได้ แถมหน้าต่างบานนั้นยังติดลูกเกรงเหล็กอีกด้วย ในห้องนั้นไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรสักชิ้นเดียว นางนอนอยู่บนพื้นโดยไม่มีอะไรมารองด้วยซ้ำไป ขณะที่ครุ่นคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง และทำไมนางจึงต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
ประตูหนาด้านหน้าของนางก็เปิดออกช้า ๆแสงสว่างสองเข้ามาเป็นลำ ร่างอวบของสตรีวัยกลางคนก็เดินเข้ามายืนตรงหน้านางแล้วเอ่ยว่า " เจ้าชื่อนีสรินใช่หรือไม่ ท่านชีคของเราบอกว่าเจ้าจะมาอยู่ที่นี่ในฐานะทาสรับใช้ของท่านชีค
มีหน้าที่ทำความสะอาดห้องชุดของท่านชีคให้สะอาด และทำงานตามคำสั่งของท่านชีคแต่เพียงผู้เดียว “ เมื่อพูดจบนางก็เดินมาแกะเชือกที่มัดมือของนีสรินอยู่นั้นออก นีสรินรีบเอ่ยขึ้นทันทีว่า “ เหตุใดข้าต้องมารับใช้ชีคของเจ้าด้วย ข้ามิได้ขายตัวเป็นทาสเสียหน่อย แล้วข้าเป็นถึงน้องของชีคอะมานแห่งแคว้นยะรอ ทำไมต้องมาเป็นทาสรับใช้ใครด้วย ข้าคิดว่าเจ้าคงจะจับตัวคนมาผิดแล้ว ข้ามิรู้เรื่องอันใด ข้าขอพบท่านชีคของเจ้าจะได้หรือไม่ ”
นีสรินไม่เข้าใจในสิ่งที่หญิงตรงหน้าพูด นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน หญิงวัยกลางคนนั้นจึงบอกนางอย่างใจเย็นว่า “ ท่านชีคก็ให้ข้ามาพาเจ้าไปพบนั่นแหละ หากเจ้ามีอะไรก็ไปถามท่านชีคดูเอาเองก็แล้วกัน ” จากนั้นนางก็เรียกสาวใช้เข้ามาสองคนให้พาตัวของนีสรินไปพบท่านชีคฟาอิดที่ห้องโถงใหญ่ด้านหน้าของตึกใหญ่นี้
นีสรินคิดว่าก็ดีเหมือนกันนางก็อยากรู้ว่ามันเกิดเรื่องบ้าอะไรกันขึ้น ทำไมเขาถึงจับตัวนางมาแถมหญิงวัยกลางคนนี้ก็เรียกชื่อของนางได้ถูกต้องเสียด้วย เหมือนเขารู้ว่านางคือใครอย่างนั้นแหละ เมื่อทั้งหมดพากันเดินจนถึงห้องโถงหน้าด้านหน้าตึกนั้น สาวใช้ก็พานีสรินเดินเข้าไปทรุดนั่งลงตรงหน้าท่านชีคที่นั่งอยู่ที่โต๊ะรับแขกตัวใหญ่นั้น แล้วสาวใช้ทั้งสองก็ถอยไปยืนทางด้านหลัง เหลือเพียงหญิงวัยกลางคนที่ดูเป็นหัวหน้าของคนรับใช้และนีสรินที่นั่งอยู่กับพื้นด้านหน้าชีคหนุ่มผู้นั้น
นีสรินเงยหน้ามองชีคหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้าของนาง เขามีใบหน้าหล่อเหลาคมเข้ม ดวงตาคมดุจเหยี่ยว คิ้วของเขาคมเข้มัน จมูกโด่งเป็นสัน ตามเชื้อชาติของชายอาหรับทั่วไป ริมฝีปากแดงระเรื่อ ดูรวมๆแล้วเป็นบุรุษที่หล่อเหลาอย่างยิ่ง อายุก็ดูน่าจะสักประมาณสามสิบต้นๆ นีสรินมองใบหน้านั้นเพลิน จนกระทั่งชีคหนุ่มเอ่ยขึ้น
“ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเราจับเจ้ามาเพราะอะไร ” นีสรินส่ายหน้าทันที “ ข้ามิรู้ว่าท่านจับข้ามาด้วยเรื่องอันใด แต่คิดว่าฐานะอย่างท่านคงมิได้จับข้ามาเพื่อเรียกค่าไถ่ใช่หรือไม่ ” นีสรินเอ่ยขึ้น ชีคหนุ่มหัวเราะก้องออกมาทันที
“ เราจะจับเจ้ามาเรียกค่าไถ่ทำไมกัน แต่เพราะเจ้าเป็นน้องสาวคนเดียวของชีคอะมานศัตรูของข้า ที่มันหลอกลวงน้องสาวคนเดียวของข้า ที่ชื่อยาร่า มันพานางหนีไปด้วยกัน แต่ก็มิได้รักนางจริง เมื่อเบื่อนางก็เฉดหัวทิ้งจนนางต้องซมซานกลับมาที่แคว้นนี้ แล้วนางก็ป่วยจนตรอมใจตาย เจ้ารู้ไหมข้ามีน้องสาวเพียงคนเดียวเช่นกัน ข้ารักนางมาก เพราะนางคือครอบครัวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของข้า แต่พี่ชายเจ้ากลับหลอกลวงน้องสาวที่น่ารักและอ่อนต่อโลกของข้า
จนนางเสียใจจนตรอมใจตาย โทษทัณฑ์นี้แม้ข้าจะจับตัวพี่เจ้ามาลงโทษมิได้ แต่ข้าจะจับเจ้ามาเพื่อให้เจ้ามาเป็นทาสรับใช้ของข้าจนกว่าข้าจะพอใจ จึงจะปล่อยเจ้าไป ความผิดของพี่ชายเจ้านี้ เจ้าจงรับไว้เถิด เพราะข้าอยากให้พี่ชายของเจ้ามันรู้ถึงความเจ็บปวดของน้องสาวของข้าและข้าที่ต้องเสียน้องสาวคนเดียวไปอย่าไม่น่าให้อภัย ” นีสรินเมื่อรู้เรื่องทั้งหมดนางตะลึงงัน
แล้วทบทวนเรื่องราวในอดีตที่นางพอจะได้รับรู้มาบ้างเล็กน้อยเพราะนางมิได้อยู่ที่แคว้้นยะรอ หลายปีแล้ว นางไปร่ำเรียนที่ประเทศอังกฤษ แต่ก็เคยได้ยินมาบ้างว่าพี่ชายมีคนรักชื่อยาร่า แต่นางก็ได้ยินพี่ชายบอกว่าเขารักยาร่ายิ่งนัก อยากจะแต่งตั้งนางเป็นชีคคา ด้วยซ้ำไป แต่มันเกิดเรื่องอะไรทำไมถึงได้เกิดเหตุที่ทำให้ผู้หญิงที่ชื่อยาร่าหนีกลับมาที่แคว้นยัมฮา จนต้องมาตรอมใจจนตายที่นี่ และเป็นสาเหตุที่ทำให้นีสรินต้องถูกจับตัวมาเพื่อให้เป็นทาสรับใช้พี่ชายของผู้หญิงคนนั้น
“ ท่านชีคฟาอิด ข้าขอให้ท่านสอบถามไปที่พี่ชายข้าให้ชัดเจนก่อนได้หรือไม่ ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ท่านอย่ามาทำเช่นนี้กับข้าเลย เพราะข้าก็มิได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ” นีสรินเอ่ยขอร้องชีคหนุ่มตรงหน้า
ชีคฟาอิดมองใบหน้าสวยหวานตรงหน้านั้น “ ข้าตัดสินใจแล้ว มิสามารถเปลี่ยนแปลงได้ และข้าได้ฟังความจริงจากปากน้องสาวของข้าเองแล้ว ไม่จำเป็นต้องสอบถามฆาตกรอย่างพี่ชายของเจ้า ไม่ต้องพูดมาก ซัลมา ให้นางไปพักที่ห้องพักของทาสหญิงแล้วให้นางมารับใช้ทำความสะอาดห้องชุดของข้า จัดการให้นางรู้ระเบียบของที่นี่ด้วย
ส่วนเจ้า นีสรินไม่ต้องคิดจะหนีไปจากที่นี่ เพราะตำหนักของเข้ามีทหารคุ้มกันอย่างแน่นหนาคงมิปล่อยให้หญิงเช่นเจ้าหลุดรอดออกไปได้ง่ายๆ แล้วอีกอย่างข้าได้ออกคำสั่งไปแล้ว หากเจ้าหนีไป และม่ีผู้ใดพบเจ้าก็ให้มันทำอะไรกับเจ้าก็ได้ ข้าจะมิเอาความ เจ้าคงจะรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงสวยๆเช่นเจ้า อย่าให้ทะเลทรายในแคว้นของข้าต้องเป็นที่รองรับซากศพของเลือดชั่วๆเช่นพวกเจ้าเลย ” เขาพูดจบก็เดินออกไปจากห้องโถงนั้น
บทที่ 2นีสรินอึ้งงันไปกับวาจาของชีคหนุ่มแต่นางก็มิสามารถเอ่ยคัดค้านอะไรได้ นางก็รู้คำสั่งของชีคคือที่สุดแล้วมิอาจมีผู้ใดคัดค้านได้ นางจึงหุบปากที่กำลังจะเผยอขึ้นต่อรองนั้น อัลมาหันมามองนีสรีนแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ เอาละเจ้าคงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ข้าเข้าใจเจ้าที่มิได้เป็นผู้กระทำผิด แต่เมื่อท่านชีคตัดสินใจแล้วเจ้าคงต้องทำตามอย่างมิมีข้อต่อรองใดๆทั้งสิ้น ลุกขึ้นแล้วเดินตามข้าไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายของนางทาส พรุ่งนี้ก็เริ่มมาทำงานตามหน้าที่ของเจ้า ในตำหนักแห่งนี้ม่ีวงจรปิดแทบทุกจุด เจ้าคงจะหลบหนีออกไปมิได้ง่ายๆหรอก เพราะฉะนั้นยอมทำตามคำสั่งเสียจะดีกว่า หากเจ้าว่านอนสอนง่ายไม่ทำเรื่องวุ่นวาย ก็ไม่แน่นะ อีกไม่นานถ้าท่านชีคใจอ่อนอาจจะยอมปล่อยตัวของเจ้ากลับไปดีๆก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นจงทำตัวดีๆ และทำตามคำสั่งท่านชีค อย่าให้บกพร่องก็แล้วกัน ” จากนั้นอัลมาก็เดินออกไปจากห้องโถงใหญ่นั้น นีสรินตอนนี้ยังมึนกับเหตุการณ์ที่เพิ่งได้รับรู้มาใหม่ ๆ นางจึงได้แต่เดินตามอัลมาไปโดยมีสาวใช้ร่างใหญ่สองนางนั้นเดินตามหลังมาติดๆ เมื่อทั้งสองเดินไปตามทางเดินที่ทอดยาวผ่านห้องหับหลายๆห้องและทางแยกไปยังห้องที
เมื่อนีสรินได้ยินดังนั้นนางก็กลับหลังหันเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าใบเล็กนั้น เมื่อเปิดออกดูพบเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวแขวนไว้หนึ่งตัวในนั้น และมีอีกตัวอยู่ในถุงที่วางด้านล่างของตู้ นางจึงเดินกลับที่หน้าห้องแล้วเอ่ยว่า " ขอบใจเจ้ามากนะ ข้าหามันพบแล้ว “ นีสรินยื่นมือไปรับถาดอาหารนั้นมาวางบนโต๊ะปลายเตียง ลียาเห็นคนตรงหน้าวางถาดลงบนโต๊ะแล้ว จึงได้บอกต่อไปว่า ” หากเจ้ากินอาหารเสร็จแล้ว ก็เดินเอาถาดไปไว้ที่โรงครัวที่อยู่ติดกับห้องอาหาร เดินกลับไปตามทางที่เจ้าเดินเข้ามา แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายมือก็พบแล้ว จะได้สำรวจมันเอาไว้ พรุ่งนี้เจ้าต้องออกไปกินอาหารที่นั่น แล้วจะได้ไปทำงานตามหน้าที่ของแต่ละคนมื้อกลางวันก็มากินเช่นเดิม ส่วนมื้อเย็นก็เช่นกันให้มากินให้ตรงเวลาเพราะหากเลยเวลามากไป พวกเขาก็จะเก็บอาหารไป แล้วเราก็จะอดกินอาหารมื้อนั้นไปเลย ข้าบอกเจ้าไว้ก่อนเผื่อเจ้าไม่รู้ ทำงานเลยเวลาอาหารก็จะอดกิน คนรับใช้อย่างเรา มันมีทางเลือกไม่มากนัก ทำอะไรเพื่อตนเองได้ก็ต้องทำ ไม่มีใครมาสนใจเราหรอกว่าเราจะได้กินอิ่มท้องหรือไม่ หรือทำงานเหนื่อยไปหรือไม่ เจ้าต้้องใช้ไหวพริบช่วยตนเอง เอาละข้าพูดมากไปเสียแล้ว ต้อ
รุ่งเช้าวันต่อไป นีสรินสะดุ้งตื่นขึ้นมา นางลืมไปว่าตนเองไม่มีนาฬิกาไว้ดูเวลาจึงคิดว่าวันนี้จะไปหามาสักเรือนหนึ่งเพราะตอนเช้าตื่นขึ้นมาไม่รู้ว่าเวลากี่โมงแล้ว นางรีบหยิบของใช้ส่วนตัวและสวมเสื้อคลุมแล้วรีบไปอาบน้ำทันที เมื่ออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็กลับมาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายชุดใหม่ที่เป็นเครื่องแบบของคนรับใช้ที่ตำหนักนี้ ที่ใส่คล้ายๆกันทุกคน เมื่อแต่งกายเรียบร้อย นีสรินก็รีบออกไปจากห้องนี้แล้วปิดประตูไว้ นางไม่มีกุญแจจะล็อคห้องและก็ไม่มีของมีค่าในห้องนอนน้อยนี้ จึงคิดว่าคงมิเป็นไร จากนั้นนางก็เดินตรงไปตามทางที่ตรงไปห้องอาหารก่อนเพื่อรีบกินอาหารเช้าก่อน แล้วค่อยไปทำงานที่ได้รับคำสั่งมา นีสรินเดินเข้ามาในห้องอาหารนางเห็นถาดใส่อาหารที่เป็นถาดหลุมวางเรียงรายบนโต๊ะใหญ่นั้น นีสรินเห็นคนอื่นๆเริ่มทะยอยมากินอาหารกันบ้างแล้วนางจึงหยิบถาดอาหารตรงหน้า แล้วหยิบแซนวิซที่วางเรียงไว้ใส่ไปในถาดอีกหนึ่งชิ้น แล้วเดินไปรินกาแฟใส่ถ้วย แล้วนำไปนั่งกินที่มุมหนึ่ง นางค่อยๆกินอาหารตรงหน้าที่เป็นแป้งพิต้ากับซุปถั่วลูกไก่ และแซนวิสแฮมชีสที่นางหยิบมาเพิ่ม แล้วยกกาแฟขึ้นจิบช้าๆ เมื่อท้องอิ่มอารมณ์ก็ดีขึ้
จากนั้นร่างล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นๆ ไปทั้งร่างก็ลุกขึ้นแล้วก้าวลงจากเตียงนอนใหญ่นั้น เขาเดินกายเปลือยเปล่ามิได้อนาทรร้อนใจที่นีสรินจ้องมาอย่างตะลึงงันอยู่ตรงหน้า ดวงตาของนางโตจนแทบจะถลนออกมา โอ้ว !! แม่เจ้า นางคิดว่าพระเอกหนังเอวีน่าจะต้องอายเจ้าหมอนี่ นิสรินครุ่นคิด นางมีมารดาที่เป็นชาวไทยและได้รับการเลี้ยงดูจากมารดามาหลายปีก่อนที่มารดาจะย้ายกลับไปอยู่เมืองไทย หลังจากท่านชีคบิดาของนางและท่านพี่อมานเสียชีวิตลงไป นางจึงมีหลายอย่างทั้งภาษาพูดและนิสัยใจคอดังเช่นมารดาของนาง “ เอาละ ลงมือทำความสะอาดห้องนี้ให้เรียบร้อย ข้าจะไปอาบน้ำ ” จากนั้นเขาก็ก้าวออกจากห้องนี้ไป นีสรินเบะปากมองบนเล็กน้อย ฮึ !! ชีวิตท่านหญิงอย่างฉันต้องมาทำงานเป็นแม่บ้านโรงแรมเช่นนั้นหรือ แล้วนางก็เท้าสะเอว ถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างระบายความหงุดหงิดนั้น แล้วลงมือเก็บเตียงของเจ้าชีคหนุ่มนั่นกับแม่นางบำเรอร่างอวบอัดที่ทำไว้เสียยุ่งเหยิงเละเทะไม่น้อย นางเดินออกไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดและถุงมือขึ้นมาสวมแล้วลงมือเก็บผ้าปูเตียงและปลอกหมอนใบใหญ่นั้นโยนใส่ตระกร้าผ้าเพื่อจะนำไปส่งซักอีกที แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าใ
แล้วก้มลงหยิบเสื้อชั้นในที่หล่นอยู่บนพื้นห้องขึ้น แล้วรีบวิ่งออกไปจากห้องของชีคหนุ่มทันที ชีีคหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่งเหยียดยิ้มออกมา เขากำลังจะได้ลิ้มรสเหยื่อสาวเนื้อหวานจนน่าลิ้มลองอยู่แล้วเชียว แต่ไม่เป็นไร วันนี้เขาหมดอารมณ์แล้ว ไว้คราวหลังค่อยจัดการนางก็ยังไม่สายชีคหนุ่มจึงลุกขึ้นไปผลัดเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแล้ว จึงได้ก้าวเดินออกไปจากห้องนอนของเขา แล้วเดินลงไปที่ห้องทำงานด้านล่างแทน เมื่อเดินเข้าไปในห้องนอนพบอาหมัด องครักษ์ของเขานั่งรออยู่และบอกมีเอกสารด่่วนที่ต้องการให้เขาพิจารณาในวันนี้หลายฉบับ ชีคหนุ่มจึงนั่งลงบนโต๊ะทำงานและลงมืออ่านเอกสารตรงหน้าทันที ฝ่ายนีสรินวิ่งลนลานออกมาจากห้องนอนของชีคหนุ่ม นางออกไปยืนตัวสั่นที่หน้าห้องของชีคหนุ่มเพื่อตั้งสติอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็รีบเดินอย่างเร่งรีบกลับห้องพักของนางเพื่อตั้งสติก่อน นางตกใจกับเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นเร็วมาก และตกใจกับปฏิกิริยาของตนเองด้วยที่ยินยอมชีคหนุ่มอย่างง่ายดาย นางเหมือนเคลิบเคลิ้มหลงลืมไปสิ้นว่านางมาที่นี่เพราะอะไร และเขาคือใคร นางกำมือเย็นชืดของตนเองแน่น เร่งรีบเดินกลับห้องพักให้เร็วที่สุด เมื่อเปิดประตูห้องพักน้อยนั้
วันต่อมา ขณะที่นีสรินกำลังจะเดินขึ้นบันไดโค้งเพื่อไปทำความสะอาดห้องของชีคหนุ่ม แม้นางไม่ได้อยากจะไปเลยก็ตามเพราะนางเกรงว่านางจะไม่รอดเงื้อมมือของเขา แต่ก็ไม่สามารถจะทำอย่างไรได้ ก็คงจะต้องแล้วแต่โชคชะตาและวันนั้นเขาอาจจะแค่แกล้งนางเล่นก็เป็นได้ ขณะที่กำลังจะก้าวเดินขึ้นบันไดไป ก็ได้ยินเสียงร้องเรียกดังขึ้นทางด้านหลัง “ นี่เจ้า ท่านชีคลงมาจากข้างบนแล้วหรือไม่ ” นีสรินจึงได้หันไปตามเสียงนั้น แต่นางก็ไม่แน่ใจว่าเสียงทุ้มนั่นเขาพูดกับนางหรือไม่ แต่เมื่อหันไปสบตากับชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมเค้ม ดวงตาของเขามีแววขี้เล่นอยู่ในนั้น และคนผู้นี้ก็ดูท่าทางดีการแต่งกายหรูหราคงไม่ใช่คนรับใช้ในตำหนักนี้อย่างแน่นอน “ ท่านถามข้าใช่หรือไม่ ” นางถามเขาให้แน่ใจ “ ใช่สิ ในห้องนี้ไม่มีคนอื่นนอกจากเจ้า ข้าก็ต้องถามเจ้าแน่นอนอยู่แล้ว ” นีสรินอึ้งงันไป นางมองไปรอบๆ มันก็จริงอย่างที่เขาว่า “ ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าท่านชีคลงมาจากด้านบนแล้วหรือยังเจ้าคะ เพราะข้าเพิ่งเดินมาจากทางด้านหลังกำลังจะขึ้นไปทำความสะอาดห้องพักด้านบน ” สีหน้าแปลกใจฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างเห็นได้ชัด “ เจ้าคือสาวใช้ของตำหนักน
นีสรินตกใจที่อยู่ๆเขาก็เดินมาหาเรื่อง เธอไม่ได้คิดอะไรกับเพื่อนรักของเขาเสียหน่อย แค่จะเลียบเคียงถามเพื่อจะขอความช่วยเหลือแต่เขากลับคิดไปว่าเธอกำลังจะหว่านเสน่ห์เพื่อนของเขา คนบ้าบอ คิดไปได้อย่างไรกัน คนเพิ่งพบกันแค่ครั้งเดียว แต่เขากลับคิดไปไกลว่าเธออยากจะหว่านเสน่ห์ผู้ชายไปเสียได้ คนคิดอกุศลจริงๆ เลย “ ท่านชีค ข้าไม่ได้คิดจะหว่านเสน่ห์เพื่อนของท่านเสียหน่อย แต่ถึงจะหว่านเสน่ห์ใครก็ไม่เกี่ยวกับท่าน ข้ามีหัวใจเป็นของตัวเอง แม้กายจะเป็นทาสแต่หัวใจรักก็ยังเป็นของข้า จะสนใจใคร จะรักใคร จะหว่านเสน่ห์ใครไม่เห็นจะเกี่ยวกับท่านเสียหน่อย ” ชีคหนุ่มเมื่อได้ฟังคำพูดหยิ่งยะโสทั้งๆที่ตอนนี้ตัวเองเป็นลูกไก่ในกำมือผู่้อื่นนั้นยิ่งทำให้โมโห “ มันคงจะไม่เกี่ยวหรอกนะ ถ้าพี่ชายของเจ้าไม่ใช่ศัตรูตัวฉกาจของข้า และข้าไม่ไว้ใจเจ้า คิดจะหว่านเสน่ห์และหลอกลวงสหายของข้าเช่นนั้นหรือ อย่าคิดว่าข้าจะรู้ไม่ทันเจ้านะ นีสริน ” เขาเอ่ยจบก็ประกบจูบนีสรินทันที แต่นางพยายามเม้มปากเอาไว้เน่นไม่ยอมให้คนตรงหน้าสอดลิ้นสากของเขาเข้ามาได้อย่างแน่นอน เจ้าชีคบ้าตัณหา ตัวเองไม่ใช่ไว้ใจข้า เห็นว่าข้าเป็นน้องสาวของศัตรู
ยิ่งคิดว่าจะมีผู้ชายคนไหนมันเก็บเอานางไปฝัน เขายิ่งหวงแหน แต่พวกมันก็ได้เพียงแค่ฝัน แต่เขาสิ เขาจะทำให้นางเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว ยิ่งคิดจึงยิ่งทั้งฟอนเฟ้นทั้งดูดดื่มอกอวบใหญ่อย่างหนัก มือหนาเลื่อนฟอนเฟ้นไปมาจนแทบจะทั่วร่างอวบขาวที่เต็มไม้เต็มมือของเขาอย่างยิ่ง ขณะที่ทั้งสองหนุ่มสาวกำลังเคลิบเคลิ้มกับบทรักที่ชีคหนุ่มกำลังปรนเปรอร่างอวบของชายาเอกของเขาอยู่ในรถม้าที่บรรยากาศกำลังเร่าร้อนเต็มที่จนทั้งสองต่างหลงลืมไปสิ้นว่ากำลังอยู่ที่ไหน จู่ ๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “ ท่านชีคเพคะ ฟาร่าเข้าไปได้หรือไม่ ” เสียงหวานของฟาร่าดังขึ้นที่หน้าประตูห้อง และมันทำให้ชีีคหนุ่มหงุดหงิดกรุ่นขึ้นมาทันที สนมนางนี้ของเขาชักจะเหิมเกริมไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขา ใบหน้าหล่อที่กำลังก้มฟอนเฟ้นอกอวบตรงหน้าอย่างเมามันก็พลันต้องเงยหน้าขึ้น “ ฟาร่า ออกไป หากข้าไม่เรียกหาไม่ต้องเสนอหน้ามาพบข้า หากเจ้าไม่เชื่อฟังข้าจะให้เจ้าออกไปจากที่นี่ ” และเมื่อสิ้นสุดเสียงของชีคหนุ่ม เสียงที่หน้าประตูก็พลันเงียบมีเสียงฝีเท้าเบาๆเดินจากไปและทุกสิ่งก็พลันเงียบสงบลงดังเดิม นีสรินที่เริ่มตั้งสติได้นางลืืมตาที่หรี่ปรือเพราะ
แต่ที่จริงแล้วมีนารู้ว่าคนที่คิดอย่างจริงจังมีเพียงเธอเท่านั้น เธอแอบจินตนาการว่าตัวเองกับบอสหนุ่มแต่งงานกันใหม่ๆ และใช้ชีวิตดังเช่นคู่ผัวตัวเมียอื่นๆ แต่เธอก็รู้อยู่ในใจของตัวเองเสมอว่านั่นเป็นเพียงแค่เธอที่คิดเช่นนั้น เพราะบอสหนุ่มก็คงจะเป็นเช่นผู้ชายทั่วไป เขาแค่หลงไหลผู้หญิงสดใหม่เพราะเขาบังเอิญได้เป็นผู้ชายคนแรกของเธอและเขาเองก็ติดใจในตัวของเธอ มีนารู้ว่าชายหนุ่มเหมือนติดใจและหลงไหลในตัวของเธออย่างไม่น่าเชื่อ และเลี้ยงดูเธอเป็นคนแรกที่เป็นแบบเป็นตัวเป็นตน แถมยังอยู่ด้วยกันแทบทุกวัน เหมือนเช่นผัวเมียทั่วไป เพราะตั้งแต่เธอไปอยู่กับเขา เจ้านายหนุ่มไม่เคยเรียกใช้บริการผู้หญิงคนไหนอีก แถมไม่เคยไปนอนที่ไหนเลย นอกจากนอนกับเธอแทบทุกคืน มีแค่ที่เขาไปต่างประเทศแค่สองสามคืนเท่านั้นที่ทั้งสองห่างกันมีนาเมื่อคิดได้ก็รีบลุกขึ้นไปจัดการหากาแฟและน้ำดื่มยกเข้าไปในห้องของเจ้านายหนุ่ม เธอเคาะประตูเบาๆแล้วเปิดเข้าไป ก็เห็นเจ้านายหนุ่มนั่งคุยกับคุณมาริสาและผู้หญิงคนนั้นที่โซฟา และเมื่อเธอนำกาแฟและน้ำไปวางไว้ตรงหน้า เขาก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าเธอ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย“ เป็นอันว่าอีกห
ขณะที่มีนาก็ค่อยๆพยุงร่างที่ระบมไปทั้งตัวของตนเองขึ้นจากเตียงแล้วหันไปดึงผ้าปูที่นอนรวบเอาไว้จะส่งให้คนเอาไปซัก แล้วหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันตัวเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำกับสามีของตนเองเพราะตอนนี้ทั้งสองคนเคยชินที่จะอาบน้ำด้วยกันแล้วเมื่อเข้าไปอาบน้ำก็ถูกสามีจับกระแทกร่องอวบใต้ฝักบัวอีกยกจึงยอมให้หล่อนอาบน้ำ เมื่ออาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเสร็จแล้ว มีนาก็มาจัดการเปลี่ยนผ้าปูจนเรียบร้อย หอบผ้าปูใส่ไว้ในตระกร้าจะส่งให้แม่บ้านซัก มีนาเปลี่ยนชุดที่ใกล้เคียงกับชุดเดิมมากที่สุดเพราะสามีฉีกเสื้อผ้าของเธอแทบจะขาดเป็นริ้ว เพราะเขาโมโหหึงอย่างมาก เขาตีก้นอวบอัดของเธอจนแดงไปหมด และบีบเค้นอกอวบใหญ่และดูดอย่างรุนแรงกว่าทุกครั้งเพราะความหึงหวงอย่างรุนแรง แม้จะเสียวซ่านเหลือเกิน แต่ก็เจ็บแสบไม่น้อย ตอนนี้ในตู้เสื่อผ้ามีเสื้อผ้าของนายหนุ่มและของเธอที่สำรองเอาไว้แขวนอยู่ในตู้ เพราะเธอไม่แน่ใจในอารมณ์ที่แปรปรวนของสามี วันไหนที่เขาอยากจะรักเธอขึ้นมากก็เรียกเธอมาเริงรักกันในห้องทำงานของเขา จนตอนนี้แทบทุกมุมในห้องทำงานและในห้องนอนที่เขาใช้นอนพักผ่อนนั้นก็เป็นที่เริงสวาทของทั้งคู่ แม้กระทั่งในห้องน้
“ เกซาสยืนพิงโต๊ะทำงานและคุยกับเธออย่างแจ่มใส ” ผมกินมาแล้วครับ ไม่ต้องลุกไปหรอก แค่แวะมาทักทายเพียงไม่นาน และจะชวนไปกินอาหารเที่ยงด้วยกัน มีนาจะว่ายังไงครับ “ มีนายิ้มให้เขาน้อยๆ ” มีนาไปไม่ได้จริงๆค่ะ ตอนนี้งานยุ่งมาก เพราะต้องส่งรายงานให้บอสตอนบ่ายสองโมงนี้ ตอนนี้ยังไม่เสร็จเลย ไว้คราวหน้าดีไหมคะ หากวันไหนมีนาว่างจะทักบอกไปนะคะ " เธอก็ตอบไปแบบแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะตอนนี้เธอเป็นภรรยาลับของบอสอยู่ หากเธอขืนออกไปทานอาหารเที่ยงกับเกซาสไม่รู้ว่าอัสมาจะว่าอย่างไร แม้เขาจะไม่ได้เป็นแฟนหรือสามจริงๆ แต่มีนาก็คิดว่ามันคงจะไม่เหมาะสมหากเขารู้เข้า ขณะที่เกซาสนั้นยืนคุยเล่นกับมีนาต่อแม้เธอจะปฏิเสธ แต่ก็ยังตอบเหมือนไม่ได้รังเกียจเขาว่าเธอจะทักไปหาเขาหากเธอมีเวลาว่าง นั่นทำให้เขามีความหวังไม่น้อย จึงขอทู่ซี้คุยกับเธออีกครู่หนึ่งแล้วค่อยกลับเข้าออฟฟิศของตนเอง อัสมาที่เพิ่งเดินออกมาจากลิฟท์เพราะเขาไปพบลูกค้าตามนัดแต่วันนี้ไม่ได้พาเลขาไปด้วย และเมื่อเดินเลี้ยวโค้งเพื่อจะเดินตรงไปห้องทำงานของตนเองก็พบ เกซาสยืนคุยกับมีนาเมียในความลับของเขาอย่างสนุกสนานทั้งสองหัวเราะกันและคุยกันเหมือนสนิทสนมกันมาก
เขาติดใจลีลารักที่เร่าร้อนของเลขาสาว มีนากลายเป็นนางแมวยั่วสวาท กลายเป็นผู้หญิงร่านเหลือเกินเวลาอยู่บนเตียง เป็นผู้หญิงที่เขาเฝ้าหามานานแล้ว เพราะมีนารองรับอารมณ์ที่รุนแรงของเขาได้ถึงใจกว่าผู้หญิงคนไหน ๆ ที่ผ่านมา เขาจึงได้ตัดสินใจผูกปิ่นโตกับมีนาหลังจากเริงรักกับหล่อนในห้องนอนเล็กในห้องทำงานของอาเขยของเขา จากตลอดบ่ายวันนั้นจนผ่านมาถึงรุ่งสางของอีกวัน และยังติดใจอยู่ไม่คลาย เขาถึงกับยอมให้หล่อนย้ายเข้าไปอยู่ในคอนโดส่วนตัวของเขา เพื่อที่เวลาเขาอยากขย่มร่องอวบร่านๆ ของมีนาเวลาไหนก็จะขย่ม เงินเดือนที่เขาจ่ายให้หล่อนคุ้มค่ามากมาย เขาจะซื้อรถหรู และจ่ายค่าคอนโดและให้บัตรเครดิตกับมีนาอีกสองใบ เพราเขาถูกใจในตัวของเลขาสาวมากมาย ไม่น่าเชื่อว่าเสืออย่างเขาจะติดใจกวางสาวไร้ประสบการณ์อย่างมีนาจนโงหัวไม่ขึ้น ขณะที่ขย่มร่องอวบร่าน ๆ ของมีนาอย่างเมามันบอสหนุ่มก็ครุ่นคิดว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยหล่อนไปง่ายๆ หรอกเพราะเขายังไม่มีทีท่าว่าจะเบื่อหล่อนเลยแม้แต่น้อยหลังจากวันนั้นมีนาก็กลายเป็นเลขาที่มีประสิทธิ์ภาพของเขา และเขาก็เป็นบอสผู้คร่ำเคร่งและทำงานจริงจังเช่นเดิมในตอนกลางวันแต่พอออกจากบริษัทโดยที
ขณะที่ก้นอวบอั๋นของเลขาสาวก็ยกขึ้นแล้วขย่มบอสหนุ่มของตนเองด้วยจังหวะที่รุนแรงและรัวเร็วเพิ่มขึ้น ปากก็ร้องครวญครางเสียงดังเพราะเสียวจนเกินจะบรรยาย บอสหนุ่มคำรามก้อง เขาก็เร่งเสยร่องอวบของเลขาสาวด้วยจังหวะที่รุนแรงและรัวถี่ๆ ” บอสขา อู๊ยยย ซี๊ดด อู๊ยยย บอส มีนาจะเสร็จแล้ว มีนาจะเสร็จ อ๊าา อ๊าาา อ๊ายยย “สะโพกอวบของเลขาสาวกระตุกถี่หลายๆครั้ง แล้วเสร็จสมออกมาอย่างรุนแรงปล่อยน้ำรักออกมาอย่างมากมาย ขณะที่คนใต้ร่างเร่งเสยลำกายอวบใหญ่ที่แข็งขึงจนแทบปริแตกทิ่มแทงร่องอวบที่ตอดเขาถี่ยิบนั่นด้วยจังหวะที่รัวเร็วยิ่งขึ้น บั้นเอวหนาโยกไหวอย่างบ้าคลั่งจนกระทั่งเขากระตุกเกร็งอย่างรุนแรงและยาวนานและแตกพ่ายไปในที่สุด บอสหนุ่มหายใจหอบเหนื่อยแต่สุขสมอิ่มเอมเหลือเกิน ลำแขนล่ำสันโอบร่างอวบที่นอนซบที่อกแกร่งของเขาเอาไว้หลวมๆ ริมฝีปากหนาจูบที่แก้มนวลชื่นเหงื่อนั้นเบาๆ ” มีนาจ๋า เมียจ๋า ผัวมีความสุขที่สุดเลย เมียจ๋า “ มีนาสุขใจเหลือเกิน สุขใจมาก ที่บอสหนุ่ม เรียกเธอด้วยเสียงหวานนักว่าเมีย เธออยู่ในอารมณ์ที่เคลิบเคลิ้มไปกับบทรักที่เร่าร้อนของเจ้านายหนุ่่ม จึงรู้สึกพอใจที่เขาเรียกเธอว่าเมีย ” บอสข
เธอจึงได้ตัดสินใจเอ่ยขึ้นว่า “ ก็ได้ ฉันยอมเป็นเมียเก็บของคุณก็ได้ แต่ขอเงินเดือนสิบเท่าและทุกอย่างที่คุณเสนอทั้งหมดนั้น คุณตกลงไหมล่ะ และหากว่าคุณทิ้งฉันก็ต้องให้เงินฉันก้อนใหญ่เพื่อเอาไว้เลี้ยงดูตัวเองด้วย ถือว่าเป็นค่าเลี้ยงดูเวลาที่คุณเบื่อฉันแล้ว ” มีนายื่นข้อเสนอ เรื่องอะไร ไหนๆเป็นเมียเก็บก็ต้องได้ผลประโยชน์ให้คุ้มค่ากับที่เสียตัวให้เขา อัสมายิ้มอย่างสมใจ " ได้อยู่แล้ว ผมให้ตามที่คุณขอ แต่ตอนนี้คุณต้องเริ่มงานเลยนะ ผมคิดถึงเสียงครางของมีนาจะแย่แล้ว วันนี้อยากจะได้ยินมันอีก ได้ไหมจ๊ะที่รักของผม ที่รักร้องครวญครางอยู่ใต้ร่างผมแทบจะทั้งคืน ผมทั้งจูบ ทั้งลูบ ทั้ง….มาแทบจะทั้งคืนแล้ว และตอนนี้ก็อยากได้อย่างวันนั้นอีก ” เขากระซิบใกล้หูเธอด้วยเสียงกระเส่า มีนาสบตาที่จ้องเธอด้วยดวงตาที่มีประกายเจ้าเล่ห์นั่น มือหนาของเขาสอดเข้ามาในเสื้อของเธอแล้วกุมลงที่อกอวบใหญ่ของหล่อนในทันที “ บอส อย่าเพิ่งคะ อย่านะ อย่านะคะ ” แต่เขาไม่ได้สนใจเสียงร้องห้ามของหล่อนเลยเพราะเสียงนั้นมันสั่น ๆ และเบาเหลือเกินในความรู้สึกของเขา มือหนาออกแรงฟอนเฟ้นอกอวบของเธออย่างเมามัน เขาฟอนเฟ้นมันหนักเบา
“ อัสมา ที่ย้ายเลขาเป็นเพราะเรื่องของผมหรือเปล่า ไม่ต้องกังวลนะ มาริสาคิดมากเกินไป ผมไม่ได้คิดอะไรกับเด็กเลขานั่นหรอก เอ็นดูแกอย่างกับลูกสาวเท่านั้น เพราะเขาแก่กว่าอิชช่ากับราณีไม่กี่ปีเอง คงมีคนไปบอกมาริสา เขาก็เลยคิดไปเอง ผมไม่ได้คิดอะไรกับมีนาและเด็กสาวนั่นก็ไม่ได้คิดอะไรกับผม เด็กสาวที่งดงามขนาดนั้นเขาไม่่มองคนแก่อย่างผมหรอก มาริสาคิดมากเกินไป ” อัสมาเงยหน้าจากเอกสารตรงหน้า แล้วยิ้มให้กับคนที่เพิ่งเข้ามา“ ผมรู้แล้วครับ ว่าคุณอาไม่ได้มีอะไรกับมีนา แต่ผมย้ายเธอมาเพื่อตัดปัญหาไม่อยากให้คุณอาหญิงคิดมาก ย้ายให้มันจบๆ ไป แค่เลขาใครทำได้ก็ให้คนนั้นทำไป หากมีปัญหาเราก็แก้ไขเสีย ผมไม่ได้ไล่มีนาออกเสียหน่อย ย้ายมาเป็นเลขาผมตำแหน่งดูจะก้าวหน้ากว่าเดิมด้วยซ้ำไป คุณอาไม่ต้องกังวลหรอกครับ มีนาเขาก็พอใจ และไม่มีปัญหาอะไร ” เขาบอกกับการีมและคิดผู้สูงวัยกว่าคงจะคิดมากเรื่องภรรยามาอาละวาดที่นี่“ อาไม่มีปัญหาหรอก ลีน่าเป็นเลขาที่ดีก็ใช้ได้เหมือนกัน แค่สงสารเด็กกลัวเขาจะเดือดร้อนเพราะความคิดมากเกินไปของมาริสาเท่านั้นเอง ถ้าอัสมาต้องการเลขาคนนี้ อาก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่อยากจะถามอีกอย่างหนึ่งว่า
“ เป็นอย่างไงเกซาส กลับมาแล้วหรือ คิดว่าจะตั้งรกรากที่โน่นเสียอีก ” อัสมาทักทายเพื่อนสนิททันทีที่เงยหน้าขึ้นมาพบหน้าของเขา “ เพิ่งกลับมาเมื่อวานนี้ คิดถึงแก ก็เลยมาหา ว่าแต่เปลี่ยนเลขาใหม่หรือ คนนี้เด็ดมากนะ น่าสนใจมากเลย ฉันขอจีบได้ไหมแกคงไม่ว่าอะไรหรอกนะ ถ้าฉันจะจีบเลขาแกเป็นแฟน เขามีแฟนหรือยัง ”เมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อนสนิท ใบหน้าของอัสมาเปลี่ยนสีไปทันที เพราะเพื่อนสนิทขอจีบเลขาของเขา ใช่หล่อนเป็นเลขาหน้าห้อง แต่หล่อนตกเป็นเมียของเขาแล้ว และเขายังไม่เบื่อแถมเขายังเป็นผู้ชายคนแรกของหล่อนอีกด้วย ตอนนี้เขากำลังหาทางจะเก็บหล่อนเข้าฮาเร็มอยู่ ไม่มีทางจะปล่อยให้ผู้ชายคนไหนมายุ่งเกี่ยว แม้จะเป็นเพื่อนสนิทก็ตาม“ ใช่เป็นเลขาและอีกตำแหน่งก็เป็นผู้หญิงของฉันด้วย กำลังจะให้ไปอยู่ที่ฮาเร็ม หรือไม่ก็คอนโดอยู่ แล้วแต่ว่าเขาจะเลือกไปอยู่ที่ไหน ” เกซาสมีสีหน้าตกใจมาก เขาแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เพื่อนสนิทเพิ่งจะพูดออกมา “ ไหนแกบอกว่าไม่เคยกินเด็กในบริษัทอย่างไงเล่า ที่ผ่านมาก็ไม่เห็นแกจะกินเลขาของตัวเองสักที ทำไมกับคนนี้ถึงอดใจไม่ไหว กินกันก่อน หรือว่าเป็นเลขาแล้วถึงมากินหล่อนเข้าไปล่ะ ” เกซ
ท่านประธานหนุ่มเหลือบตามองร่างที่อยู่ข้างๆเขา “ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าคุณไม่ได้เป็นเมียน้อยของอาการีม ” เขาเอ่ยปากขึ้นก่อน “ แล้วยังไงคะ ฉันก็บอกคุณแล้วว่าฉันไม่ได้เป็นเมียน้อยใคร ” แล้วมีนาก็ค่อยๆยันกายลุกขึ้นช้าๆ แม้จะเสียใจที่ตนเองใจง่ายยอมทอดร่างให้ผู้ชายที่เพิ่งพบกันครั้งแรกจนตกเป็นของเขาอย่างง่ายดาย แต่ทำอย่างไรได้มันเกิดขึ้นแล้ว ไม่สามารถจะเรียกสิ่งที่เสียไปกลับคืนมาได้ และเธอเองก็อายุ 22 ปีแล้ว ยังไม่เคยมีแฟนเลยสักคน ยังไม่เคยจูบกับผู้ชายคนไหนเลยด้วยซ้ำ ทั้งๆที่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็มีคนมาจีบมากมาย แต่เธอก็ไม่ได้ตกลงปลงใจที่จะคบหากับใครเพราะไม่มีเวลาและเธอกลัวว่าตนเองจะหลงระเริงจนเรียนไม่จบ จึงขีดเส้นตัวเองไว้อย่างเข้มงวดจนไม่น่าเชื่อว่าวันนี้จะเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าโดยง่ายเช่นนี้ มีนาเองก็ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลย ว่าจะปล่อยกายปล่อยใจให้ผู้ชายที่เพิ่งเคยพบกันเชยชมง่ายๆเช่นนี้ และเธอเองก็จดจำได้ทุกอย่างจึงไม่ได้โทษเขาว่าปลุกปล้ำเธอได้เต็มปาก เขาแค่เพียงหลอกล่อด้วยชั้นเชิงของผู้ชายที่ช่ำชองเพียงเท่านั้น ไม่ได้ถึงกับข่มขืนเธอ“ ในเมื่อคุณก็รู้แล้วว่าฉันไม่ได้เป็นเมียน้อยของอาเขยค