จากนั้นร่างล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นๆ ไปทั้งร่างก็ลุกขึ้นแล้วก้าวลงจากเตียงนอนใหญ่นั้น เขาเดินกายเปลือยเปล่ามิได้อนาทรร้อนใจที่นีสรินจ้องมาอย่างตะลึงงันอยู่ตรงหน้า ดวงตาของนางโตจนแทบจะถลนออกมา โอ้ว !! แม่เจ้า นางคิดว่าพระเอกหนังเอวีน่าจะต้องอายเจ้าหมอนี่
นิสรินครุ่นคิด นางมีมารดาที่เป็นชาวไทยและได้รับการเลี้ยงดูจากมารดามาหลายปีก่อนที่มารดาจะย้ายกลับไปอยู่เมืองไทย หลังจากท่านชีคบิดาของนางและท่านพี่อมานเสียชีวิตลงไป นางจึงมีหลายอย่างทั้งภาษาพูดและนิสัยใจคอดังเช่นมารดาของนาง
“ เอาละ ลงมือทำความสะอาดห้องนี้ให้เรียบร้อย ข้าจะไปอาบน้ำ ” จากนั้นเขาก็ก้าวออกจากห้องนี้ไป นีสรินเบะปากมองบนเล็กน้อย ฮึ !! ชีวิตท่านหญิงอย่างฉันต้องมาทำงานเป็นแม่บ้านโรงแรมเช่นนั้นหรือ แล้วนางก็เท้าสะเอว ถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างระบายความหงุดหงิดนั้น แล้วลงมือเก็บเตียงของเจ้าชีคหนุ่มนั่นกับแม่นางบำเรอร่างอวบอัดที่ทำไว้เสียยุ่งเหยิงเละเทะไม่น้อย นางเดินออกไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดและถุงมือขึ้นมาสวมแล้วลงมือเก็บผ้าปูเตียงและปลอกหมอนใบใหญ่นั้นโยนใส่ตระกร้าผ้าเพื่อจะนำไปส่งซักอีกที
แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมผนังนั้น ลงมือค้นหาผ้าปูเตียงใหม่และปลอกหมอนใหม่จนพบ แล้วก็นำออกไปจัดการปูเตียง นางคิดว่ายังดีที่เมื่อก่อนตอนอยู่อังกฤษได้ทำงานบ้านเองมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และยังเคยไปฝึกงานรูมเมดทีี่โรงแรมห้าดาวที่นั่น เพราะนางเรียนการท่องเที่ยวและโรงแรมเมื่อสมัยที่เรียนปริญญาตรีที่นั่น แม้ฝึกงานไม่นานนักแต่ก็พอจะทำงานเหล่านี้ได้บ้าง
เมื่อลงมือปูเตียงนอนใหญ่นั้นแล้ว ก็ลงมือเช็ดทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ในห้องนั้น ทั้งหมด จากนั้นลงมือดูดฝุ่นในห้องนั้น แล้วเช็คความเรียบร้อยอีกครั้งทั่วทั้งห้องนอนนั้น แล้วก็หยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดก้าวเข้าไปในห้องน้ำในห้องนอนเล็กนั้น
จากนั้นก็ลงมือทำความสะอาดอ่างอาบน้ำและชักโครกและล้างห้องน้ำจนเรียบร้อยแล้ว เปิดประตูทิ้งไว้ครู่หนึ่งระหว่างที่ลงมือทำความสะอาดบนซิ้งค์ล้างหน้าและชั้นวางของในห้องน้ำนั้นเมื่อเรียบร้อยแล้วก็เช็ดห้องน้ำให้แห้ง เป็นอันเรียบร้อย
แล้วนีสรินก็แอบหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้บุนวมริมผนัง เพราะนางก็เหน็ดเหนื่อยอยู่ไม่น้อย แต่เมื่อถึงนึกถึงใบหน้าพี่ชายนางก็จำต้องยอมทำ และคิดเสียว่าดีกว่านางถูกทำร้ายร่างกายหรือส่งนางไปเป็นนางในฮาเร็มของใครกันก็ไม่รู้ แค่คิดก็เสียวสันหลังวาบ และมีแรงทำงานขึ้นมาทันที
เมื่อนั่งพักหายเหนื่อยแล้วก็ลงมือเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดใส่ในรถเข็นเล็กๆของแม่บ้านแล้วเข็นมันออกไปที่นอกห้องนอนนั้น พอดีกับเสียงเรียกของชีคหนุ่มที่ให้นางไปทำความสะอาดห้องนอนใหญ่ของเขา
นีสรินจึงได้เข็นรถเข็นเล็กที่ใส่อุปกรณ์ทำความสะอาดของนางไปที่ห้องนอนของชีคหนุ่มทันที นีสรินเคาะห้องนอนนั้นเบาๆ แล้วจึงเปิดมันเข้าไป ชีคหนุ่มอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำตัวใหญ่เขาผูกสายรัดเอวไว้หลวมๆ เผยอกที่เต็มไปด้วยกล้ามแน่นๆ นั่น ผิวของเขาสีแทนสวยมาก นีสรินมองหน้าอกนั้นแล้วนึกในใจ
แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบกับใบหน้าหล่อเหลานั่นที่กำลังมองนางตาเขม็งดวงตาคมนั้นจ้องนางนิ่งเหมือนสะกดให้สบตาเขาเช่นนั้น ชีคหนุ่มเดินตรงเข้ามาหานางช้าๆ ท่าทางของเขาเหมือนเสือดาวที่กำลังจะเข้าตะปบเหยื่อ มันก้าวช้าๆเขาหาเหยื่ออย่างจะลองเชิงและหยอกเย้าเหยื่อของมัน
เมื่อเหยื่อเผลอเมื่อไหร่ก็พร้อมจะเข้าตะปบทันทีกระนั้น ขณะที่นีสรินตะลึงงันมองเขานิ่งนั้น ชีคหนุ่มก็ก้าวถึงตัวของนางมือหนานั้นจับที่ศีรษะของนาง แล้วประกบจูบทันที นีสรินพยายามปิดปากของนางไว้ แต่เขาก็ใช้ฟันขบเข้าที่ริมฝีปากล่างที่อวบอิ่มของนางจนยอมเผยอปากออกน้อยๆ ลิ้นสากได้จังหวะจึงเข้ารุกไล่ลิ้นเล็กในปากของนางนั้น
จนกระทั่งลิ้นเล็กยอมจำนนให้ลิ้นสากของเขาเข้าเกี่ยวพันลิ้นเล็กนั้นอย่าเมามัว จูบนั้นดูดดื่มยาวนานยิ่งนัก จนนีสรินแทบจะขาดอากาศหายใจ เมื่อเขายอมปล่อยปากจิ้มลิ้มของนาง นีสรินหอบหายใจทันที ใบหน้าคมคายซุกไซร้คอระหงนั้นจนกระทั่งถึงเนินอกอวบที่มองเห็นรำไรจมูกโด่งของชีคหนุ่มสูดดมร่องอกนั้น
เขารู้สึกติดใจกลิ่นกายของนางยิ่งนัก มือหนาดึงคอเสื้อที่กว้างอยู่แล้วนั้นจนมันหลุดจากไหล่ขาวมนนั้น เปิดเผยอกอวบใหญ่นั้นเกือบจะหมดทั้งเต้า ชีีคหนุ่มสูดหายใจแรงขึ้น จ้องมองอกอวบใหญ่ขาวผ่องนั้นเขม็ง แล้วก้มลงไล้เลียมัน หยอกเย้าไปมา
นีสรินพยายามดิ้นรนออกจากอ้อมแขนแกร่งนั้น แต่ดิ้นไม่หลุด เหมือนเขาตะครุบตัวนางไว้แล้ว และกำลังเลาะเล็มและค่อยๆละเลียดชิมอกอวบใหญ่ของนางทีละน้อยเช่นนั้น ชีคหนุ่มลืมตัวมัวเมากับอกอวบใหญนั้น เขาไล้เลียมันจนทั่วจนถึงยอดอกที่ดุนดันออกมาจากบราเซียผ้าฝ้ายราคาถูกเนื้อผ้าบางเบานั้น
เขาอ้าปากดูดดื่มมันทั้งที่อยู่ในบราเซียตัวบางนั้น ดูดจนแก้มตอบ ดูดจนนีสรินร้องครวญครางกระเส่าอย่างหยุดไม่อยู่อีกต่อไป นางแอ่นร่างส่ายไปมาในอ้อมกอดแกร่งนั้น แล้วครวญครางเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ชีคหนุ่มดูดดึงยอดอกในบราเซียทั้งสองข้างจนบราเซียนั้นเปียกเป็นวงกว้าง จากนั้นเขายกตัวของนีสรินขึ้นแล้วเดินไปที่เตียงใหญ่ของเขา
เมื่อเดินไปถึงเขาวางนางลงบนเตียงใหญ่หนานุ่มนั้น แล้วก็ลงมือถอดบราเซียของนางโยนลงบนพื้นด้านล่าง ดันเสื้อตัวบนที่มันโชว์หน้าท้องขาวผ่องของนางลงไปที่ท้องของนาง เปิดเผยอกอวบใหญ่ให้เขาเห็นจนเต็มตา ชีคหนุ่มอดใจไม่ไหวก้มลงดูดดื่มยอดอกที่ชูชันสั่นระริกนั้นอีกครั้ง
เขาดูดดื่มมันเช่นทารกดูดนมมารดากระนั้น จากนั้นก็ฟอนเฟ้นมันอย่างเมามันและหลงไหลยิ่งนัก นีสรินก็หลงลืมตน นางร้องครวญครางเสียงกระเส่า แอ่นหลังดันอกอวบเข้าปากชีคหนุ่มอย่างเต็มอกเต็มใจ “ อ๊าย อ๊าย อย่า อย่านะ อย่าดูดมัน อย่า อ๊ะ อ๊าย อ๊ายย” นีสรินร้องครวญครางแอ่นอกส่ายไปมาอย่างเร่าร้อน
อยู่ๆ ก็มีเสียงเปิดประตูห้องนอนเข้ามา “ ท่านชีคเจ้าคะ ท่านจะให้ฟาร่าปรนนิบัติหรือไม่เจ้าคะ ” เมื่อฟาร่าเห็นร่างสองร่างบนเตียงที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกันอยู่ นางก็หยุดชะงักเสียงไปทันที จ้องมองภาพตรงหน้านิ่งอย่างตกตะลึง ชีคหนุ่มเงยหน้าจากอกอวบที่เขากำลังฟอนเฟ้นอย่างเมามันอยู่นั้น หันไปมองฟาร่าอย่างหงุดหงิดกรุ่นขึ้นมาที่นางมาขัดจังหวะ
“ เจ้าเข้ามาในห้องของข้าทำไมไม่เคาะประตูก่อน และหากข้าไม่เรียกให้เจ้ามาพบ คราวหลังอย่าได้เสนอหน้ามาให้ข้าเห็นอีก ออกไปได้แล้ว ” เขาเอ็ดนางเสียงดัง มองนางอย่างไม่พอใจอย่างยิ่ง ฟาร่าตัวสั่นงันงกรีบเอ่ยปากขอโทษแล้วก็รีบเดินออกไปทันที แต่เมื่อนางเดินไปจนเกือบถึงประตูห้อง นางก็หันมามองหญิงที่นอนเปลือยท่อนบนให้ท่านชีคเชยชมอยู่บนเตียงนั้น นังนั่นใส่ชุดของข้ารับใช้ในตำหนักนี้
นังนั่นเป็นใครกันที่บังอาจเสนอตัวให้ท่านชีคถึงบนห้องนอน แล้วท่านชีคก็กำลังฟอนเฟ้นมันด้วย หากนางเข้าไปช้ากว่านี้คงจะเลยเถิดไปถึงไหนๆ ถึงวันนี้นางจะถูกเขาเอ็ดเอา แต่อย่างน้อยก็ได้ขัดจังหวะของเขากับหญิงอื่น นางยิ้มมุมปากอย่างสมใจ นางเป็นสนมของเขาแต่นางอยากจะเลื่อนตำแหน่งให้สูงกว่านี้ เพราะอย่างน้อยเขาก็โปรดปรานนางที่สุด เรียกนางขึ้นไปหาบ่อยครั้งกว่าหญิงคนอื่นในฮาเร็ม
ฝ่ายนีสรินเมื่อได้ยินเสียงชีคหนุ่มเอ็ดคนที่เข้ามาในห้องโดยไม่ได้รับอนุญาติ นางก็พลันได้สติรีบผุดลุกขึ้นแล้วดึงเสื้อที่เขาดึงมันลงไปที่เอวของนางขึ้นมาสวมดังเดิม แม้ไม่ได้ใส่เสื้อชั้นในเพราะเขาถอดมันออกไปโยนทิ้งไว้บนพื้นด้้านล่างก็ตาม นางรีบลนลานลงจากเตียงนั่นทันที
แล้วก้มลงหยิบเสื้อชั้นในที่หล่นอยู่บนพื้นห้องขึ้น แล้วรีบวิ่งออกไปจากห้องของชีคหนุ่มทันที ชีีคหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่งเหยียดยิ้มออกมา เขากำลังจะได้ลิ้มรสเหยื่อสาวเนื้อหวานจนน่าลิ้มลองอยู่แล้วเชียว แต่ไม่เป็นไร วันนี้เขาหมดอารมณ์แล้ว ไว้คราวหลังค่อยจัดการนางก็ยังไม่สายชีคหนุ่มจึงลุกขึ้นไปผลัดเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแล้ว จึงได้ก้าวเดินออกไปจากห้องนอนของเขา แล้วเดินลงไปที่ห้องทำงานด้านล่างแทน เมื่อเดินเข้าไปในห้องนอนพบอาหมัด องครักษ์ของเขานั่งรออยู่และบอกมีเอกสารด่่วนที่ต้องการให้เขาพิจารณาในวันนี้หลายฉบับ ชีคหนุ่มจึงนั่งลงบนโต๊ะทำงานและลงมืออ่านเอกสารตรงหน้าทันที ฝ่ายนีสรินวิ่งลนลานออกมาจากห้องนอนของชีคหนุ่ม นางออกไปยืนตัวสั่นที่หน้าห้องของชีคหนุ่มเพื่อตั้งสติอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็รีบเดินอย่างเร่งรีบกลับห้องพักของนางเพื่อตั้งสติก่อน นางตกใจกับเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นเร็วมาก และตกใจกับปฏิกิริยาของตนเองด้วยที่ยินยอมชีคหนุ่มอย่างง่ายดาย นางเหมือนเคลิบเคลิ้มหลงลืมไปสิ้นว่านางมาที่นี่เพราะอะไร และเขาคือใคร นางกำมือเย็นชืดของตนเองแน่น เร่งรีบเดินกลับห้องพักให้เร็วที่สุด เมื่อเปิดประตูห้องพักน้อยนั้
วันต่อมา ขณะที่นีสรินกำลังจะเดินขึ้นบันไดโค้งเพื่อไปทำความสะอาดห้องของชีคหนุ่ม แม้นางไม่ได้อยากจะไปเลยก็ตามเพราะนางเกรงว่านางจะไม่รอดเงื้อมมือของเขา แต่ก็ไม่สามารถจะทำอย่างไรได้ ก็คงจะต้องแล้วแต่โชคชะตาและวันนั้นเขาอาจจะแค่แกล้งนางเล่นก็เป็นได้ ขณะที่กำลังจะก้าวเดินขึ้นบันไดไป ก็ได้ยินเสียงร้องเรียกดังขึ้นทางด้านหลัง “ นี่เจ้า ท่านชีคลงมาจากข้างบนแล้วหรือไม่ ” นีสรินจึงได้หันไปตามเสียงนั้น แต่นางก็ไม่แน่ใจว่าเสียงทุ้มนั่นเขาพูดกับนางหรือไม่ แต่เมื่อหันไปสบตากับชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมเค้ม ดวงตาของเขามีแววขี้เล่นอยู่ในนั้น และคนผู้นี้ก็ดูท่าทางดีการแต่งกายหรูหราคงไม่ใช่คนรับใช้ในตำหนักนี้อย่างแน่นอน “ ท่านถามข้าใช่หรือไม่ ” นางถามเขาให้แน่ใจ “ ใช่สิ ในห้องนี้ไม่มีคนอื่นนอกจากเจ้า ข้าก็ต้องถามเจ้าแน่นอนอยู่แล้ว ” นีสรินอึ้งงันไป นางมองไปรอบๆ มันก็จริงอย่างที่เขาว่า “ ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าท่านชีคลงมาจากด้านบนแล้วหรือยังเจ้าคะ เพราะข้าเพิ่งเดินมาจากทางด้านหลังกำลังจะขึ้นไปทำความสะอาดห้องพักด้านบน ” สีหน้าแปลกใจฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างเห็นได้ชัด “ เจ้าคือสาวใช้ของตำหนักน
นีสรินลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องแห่งหนึ่ง ข้อมือทั้งสองถูกมัดไขว้ไว้ด้านหลัง นางนอนอยู่บนพื้นเย็นเฉียบ ปากของนางตอนนี้เป็นอิสระพอที่จะหายใจได้สะดวกแล้ว เรานางจำได้ว่าตอนที่ถูกจับตัวมาโดยที่นางถูกมือปริศนาเอาผ้าที่มีกลิ่นแปลก ๆ มาปิดปากนางจากทางด้านหลัง ขณะที่นางกำลังเดินชมข้าวของที่ตลาดกลางเมืองที่คึกคักไปด้วยผู้คน แต่เมื่อนางกำลังมองหาร้านชาดีๆเพื่อจะดื่มชาเย็นๆขณะที่อากาศกำลังร้อนเปรี้ยงนั้น นางมองเห็นไกลๆว่ามีร้านชาขึ้นชื่อที่ดูแล้วน่าจะอร่อย นางจึงพยายามเดินแทรกผู้คนที่คับคั่งนั้นผ่านไปจนใกล้จะถึงร้านชาแห่งนั้น แต่เมื่อก้าวเดินผ่านมุมตึกที่กำลังจะถึงร้านชาอีกไม่ไกลนั้น ก็มีมือหนาๆ เอื้อมมาปิดปากของนางทันทีจากทางด้านหลัง มือนั้นมีผ้าผืนเล็กๆอยู่ในมือ นางได้กลิ่นแปลกๆ จากผ้าผืนนั้นแล้วโลกก็มืดมนลงไปทันทีรู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนที่นอนอยู่ด้านหลังรถคันหนึ่ง และนางนอนอยู่บนพื้นเหล็กแข็งๆ มือทั้งสองข้างถูกมัดไว้ที่ด้านหลัง ปากก็ถูกผ้าปิดเอาไว้ นางได้แต่ร้องอึกอักอยู่ในลำคอ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่ารถกำลังวิ่งด้วยความเร็วพอสมควร และทางที่รถผ่านนั้นมันก็น่าจะขรุขระอยู่พอสมควรเพราะรถวิ่งกระเด้งกระ
บทที่ 2นีสรินอึ้งงันไปกับวาจาของชีคหนุ่มแต่นางก็มิสามารถเอ่ยคัดค้านอะไรได้ นางก็รู้คำสั่งของชีคคือที่สุดแล้วมิอาจมีผู้ใดคัดค้านได้ นางจึงหุบปากที่กำลังจะเผยอขึ้นต่อรองนั้น อัลมาหันมามองนีสรีนแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ เอาละเจ้าคงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ข้าเข้าใจเจ้าที่มิได้เป็นผู้กระทำผิด แต่เมื่อท่านชีคตัดสินใจแล้วเจ้าคงต้องทำตามอย่างมิมีข้อต่อรองใดๆทั้งสิ้น ลุกขึ้นแล้วเดินตามข้าไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายของนางทาส พรุ่งนี้ก็เริ่มมาทำงานตามหน้าที่ของเจ้า ในตำหนักแห่งนี้ม่ีวงจรปิดแทบทุกจุด เจ้าคงจะหลบหนีออกไปมิได้ง่ายๆหรอก เพราะฉะนั้นยอมทำตามคำสั่งเสียจะดีกว่า หากเจ้าว่านอนสอนง่ายไม่ทำเรื่องวุ่นวาย ก็ไม่แน่นะ อีกไม่นานถ้าท่านชีคใจอ่อนอาจจะยอมปล่อยตัวของเจ้ากลับไปดีๆก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นจงทำตัวดีๆ และทำตามคำสั่งท่านชีค อย่าให้บกพร่องก็แล้วกัน ” จากนั้นอัลมาก็เดินออกไปจากห้องโถงใหญ่นั้น นีสรินตอนนี้ยังมึนกับเหตุการณ์ที่เพิ่งได้รับรู้มาใหม่ ๆ นางจึงได้แต่เดินตามอัลมาไปโดยมีสาวใช้ร่างใหญ่สองนางนั้นเดินตามหลังมาติดๆ เมื่อทั้งสองเดินไปตามทางเดินที่ทอดยาวผ่านห้องหับหลายๆห้องและทางแยกไปยังห้องที
เมื่อนีสรินได้ยินดังนั้นนางก็กลับหลังหันเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าใบเล็กนั้น เมื่อเปิดออกดูพบเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวแขวนไว้หนึ่งตัวในนั้น และมีอีกตัวอยู่ในถุงที่วางด้านล่างของตู้ นางจึงเดินกลับที่หน้าห้องแล้วเอ่ยว่า " ขอบใจเจ้ามากนะ ข้าหามันพบแล้ว “ นีสรินยื่นมือไปรับถาดอาหารนั้นมาวางบนโต๊ะปลายเตียง ลียาเห็นคนตรงหน้าวางถาดลงบนโต๊ะแล้ว จึงได้บอกต่อไปว่า ” หากเจ้ากินอาหารเสร็จแล้ว ก็เดินเอาถาดไปไว้ที่โรงครัวที่อยู่ติดกับห้องอาหาร เดินกลับไปตามทางที่เจ้าเดินเข้ามา แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายมือก็พบแล้ว จะได้สำรวจมันเอาไว้ พรุ่งนี้เจ้าต้องออกไปกินอาหารที่นั่น แล้วจะได้ไปทำงานตามหน้าที่ของแต่ละคนมื้อกลางวันก็มากินเช่นเดิม ส่วนมื้อเย็นก็เช่นกันให้มากินให้ตรงเวลาเพราะหากเลยเวลามากไป พวกเขาก็จะเก็บอาหารไป แล้วเราก็จะอดกินอาหารมื้อนั้นไปเลย ข้าบอกเจ้าไว้ก่อนเผื่อเจ้าไม่รู้ ทำงานเลยเวลาอาหารก็จะอดกิน คนรับใช้อย่างเรา มันมีทางเลือกไม่มากนัก ทำอะไรเพื่อตนเองได้ก็ต้องทำ ไม่มีใครมาสนใจเราหรอกว่าเราจะได้กินอิ่มท้องหรือไม่ หรือทำงานเหนื่อยไปหรือไม่ เจ้าต้้องใช้ไหวพริบช่วยตนเอง เอาละข้าพูดมากไปเสียแล้ว ต้อ
รุ่งเช้าวันต่อไป นีสรินสะดุ้งตื่นขึ้นมา นางลืมไปว่าตนเองไม่มีนาฬิกาไว้ดูเวลาจึงคิดว่าวันนี้จะไปหามาสักเรือนหนึ่งเพราะตอนเช้าตื่นขึ้นมาไม่รู้ว่าเวลากี่โมงแล้ว นางรีบหยิบของใช้ส่วนตัวและสวมเสื้อคลุมแล้วรีบไปอาบน้ำทันที เมื่ออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็กลับมาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายชุดใหม่ที่เป็นเครื่องแบบของคนรับใช้ที่ตำหนักนี้ ที่ใส่คล้ายๆกันทุกคน เมื่อแต่งกายเรียบร้อย นีสรินก็รีบออกไปจากห้องนี้แล้วปิดประตูไว้ นางไม่มีกุญแจจะล็อคห้องและก็ไม่มีของมีค่าในห้องนอนน้อยนี้ จึงคิดว่าคงมิเป็นไร จากนั้นนางก็เดินตรงไปตามทางที่ตรงไปห้องอาหารก่อนเพื่อรีบกินอาหารเช้าก่อน แล้วค่อยไปทำงานที่ได้รับคำสั่งมา นีสรินเดินเข้ามาในห้องอาหารนางเห็นถาดใส่อาหารที่เป็นถาดหลุมวางเรียงรายบนโต๊ะใหญ่นั้น นีสรินเห็นคนอื่นๆเริ่มทะยอยมากินอาหารกันบ้างแล้วนางจึงหยิบถาดอาหารตรงหน้า แล้วหยิบแซนวิซที่วางเรียงไว้ใส่ไปในถาดอีกหนึ่งชิ้น แล้วเดินไปรินกาแฟใส่ถ้วย แล้วนำไปนั่งกินที่มุมหนึ่ง นางค่อยๆกินอาหารตรงหน้าที่เป็นแป้งพิต้ากับซุปถั่วลูกไก่ และแซนวิสแฮมชีสที่นางหยิบมาเพิ่ม แล้วยกกาแฟขึ้นจิบช้าๆ เมื่อท้องอิ่มอารมณ์ก็ดีขึ้
วันต่อมา ขณะที่นีสรินกำลังจะเดินขึ้นบันไดโค้งเพื่อไปทำความสะอาดห้องของชีคหนุ่ม แม้นางไม่ได้อยากจะไปเลยก็ตามเพราะนางเกรงว่านางจะไม่รอดเงื้อมมือของเขา แต่ก็ไม่สามารถจะทำอย่างไรได้ ก็คงจะต้องแล้วแต่โชคชะตาและวันนั้นเขาอาจจะแค่แกล้งนางเล่นก็เป็นได้ ขณะที่กำลังจะก้าวเดินขึ้นบันไดไป ก็ได้ยินเสียงร้องเรียกดังขึ้นทางด้านหลัง “ นี่เจ้า ท่านชีคลงมาจากข้างบนแล้วหรือไม่ ” นีสรินจึงได้หันไปตามเสียงนั้น แต่นางก็ไม่แน่ใจว่าเสียงทุ้มนั่นเขาพูดกับนางหรือไม่ แต่เมื่อหันไปสบตากับชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมเค้ม ดวงตาของเขามีแววขี้เล่นอยู่ในนั้น และคนผู้นี้ก็ดูท่าทางดีการแต่งกายหรูหราคงไม่ใช่คนรับใช้ในตำหนักนี้อย่างแน่นอน “ ท่านถามข้าใช่หรือไม่ ” นางถามเขาให้แน่ใจ “ ใช่สิ ในห้องนี้ไม่มีคนอื่นนอกจากเจ้า ข้าก็ต้องถามเจ้าแน่นอนอยู่แล้ว ” นีสรินอึ้งงันไป นางมองไปรอบๆ มันก็จริงอย่างที่เขาว่า “ ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าท่านชีคลงมาจากด้านบนแล้วหรือยังเจ้าคะ เพราะข้าเพิ่งเดินมาจากทางด้านหลังกำลังจะขึ้นไปทำความสะอาดห้องพักด้านบน ” สีหน้าแปลกใจฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างเห็นได้ชัด “ เจ้าคือสาวใช้ของตำหนักน
แล้วก้มลงหยิบเสื้อชั้นในที่หล่นอยู่บนพื้นห้องขึ้น แล้วรีบวิ่งออกไปจากห้องของชีคหนุ่มทันที ชีีคหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่งเหยียดยิ้มออกมา เขากำลังจะได้ลิ้มรสเหยื่อสาวเนื้อหวานจนน่าลิ้มลองอยู่แล้วเชียว แต่ไม่เป็นไร วันนี้เขาหมดอารมณ์แล้ว ไว้คราวหลังค่อยจัดการนางก็ยังไม่สายชีคหนุ่มจึงลุกขึ้นไปผลัดเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแล้ว จึงได้ก้าวเดินออกไปจากห้องนอนของเขา แล้วเดินลงไปที่ห้องทำงานด้านล่างแทน เมื่อเดินเข้าไปในห้องนอนพบอาหมัด องครักษ์ของเขานั่งรออยู่และบอกมีเอกสารด่่วนที่ต้องการให้เขาพิจารณาในวันนี้หลายฉบับ ชีคหนุ่มจึงนั่งลงบนโต๊ะทำงานและลงมืออ่านเอกสารตรงหน้าทันที ฝ่ายนีสรินวิ่งลนลานออกมาจากห้องนอนของชีคหนุ่ม นางออกไปยืนตัวสั่นที่หน้าห้องของชีคหนุ่มเพื่อตั้งสติอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็รีบเดินอย่างเร่งรีบกลับห้องพักของนางเพื่อตั้งสติก่อน นางตกใจกับเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นเร็วมาก และตกใจกับปฏิกิริยาของตนเองด้วยที่ยินยอมชีคหนุ่มอย่างง่ายดาย นางเหมือนเคลิบเคลิ้มหลงลืมไปสิ้นว่านางมาที่นี่เพราะอะไร และเขาคือใคร นางกำมือเย็นชืดของตนเองแน่น เร่งรีบเดินกลับห้องพักให้เร็วที่สุด เมื่อเปิดประตูห้องพักน้อยนั้
จากนั้นร่างล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นๆ ไปทั้งร่างก็ลุกขึ้นแล้วก้าวลงจากเตียงนอนใหญ่นั้น เขาเดินกายเปลือยเปล่ามิได้อนาทรร้อนใจที่นีสรินจ้องมาอย่างตะลึงงันอยู่ตรงหน้า ดวงตาของนางโตจนแทบจะถลนออกมา โอ้ว !! แม่เจ้า นางคิดว่าพระเอกหนังเอวีน่าจะต้องอายเจ้าหมอนี่ นิสรินครุ่นคิด นางมีมารดาที่เป็นชาวไทยและได้รับการเลี้ยงดูจากมารดามาหลายปีก่อนที่มารดาจะย้ายกลับไปอยู่เมืองไทย หลังจากท่านชีคบิดาของนางและท่านพี่อมานเสียชีวิตลงไป นางจึงมีหลายอย่างทั้งภาษาพูดและนิสัยใจคอดังเช่นมารดาของนาง “ เอาละ ลงมือทำความสะอาดห้องนี้ให้เรียบร้อย ข้าจะไปอาบน้ำ ” จากนั้นเขาก็ก้าวออกจากห้องนี้ไป นีสรินเบะปากมองบนเล็กน้อย ฮึ !! ชีวิตท่านหญิงอย่างฉันต้องมาทำงานเป็นแม่บ้านโรงแรมเช่นนั้นหรือ แล้วนางก็เท้าสะเอว ถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างระบายความหงุดหงิดนั้น แล้วลงมือเก็บเตียงของเจ้าชีคหนุ่มนั่นกับแม่นางบำเรอร่างอวบอัดที่ทำไว้เสียยุ่งเหยิงเละเทะไม่น้อย นางเดินออกไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดและถุงมือขึ้นมาสวมแล้วลงมือเก็บผ้าปูเตียงและปลอกหมอนใบใหญ่นั้นโยนใส่ตระกร้าผ้าเพื่อจะนำไปส่งซักอีกที แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าใ
รุ่งเช้าวันต่อไป นีสรินสะดุ้งตื่นขึ้นมา นางลืมไปว่าตนเองไม่มีนาฬิกาไว้ดูเวลาจึงคิดว่าวันนี้จะไปหามาสักเรือนหนึ่งเพราะตอนเช้าตื่นขึ้นมาไม่รู้ว่าเวลากี่โมงแล้ว นางรีบหยิบของใช้ส่วนตัวและสวมเสื้อคลุมแล้วรีบไปอาบน้ำทันที เมื่ออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็กลับมาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายชุดใหม่ที่เป็นเครื่องแบบของคนรับใช้ที่ตำหนักนี้ ที่ใส่คล้ายๆกันทุกคน เมื่อแต่งกายเรียบร้อย นีสรินก็รีบออกไปจากห้องนี้แล้วปิดประตูไว้ นางไม่มีกุญแจจะล็อคห้องและก็ไม่มีของมีค่าในห้องนอนน้อยนี้ จึงคิดว่าคงมิเป็นไร จากนั้นนางก็เดินตรงไปตามทางที่ตรงไปห้องอาหารก่อนเพื่อรีบกินอาหารเช้าก่อน แล้วค่อยไปทำงานที่ได้รับคำสั่งมา นีสรินเดินเข้ามาในห้องอาหารนางเห็นถาดใส่อาหารที่เป็นถาดหลุมวางเรียงรายบนโต๊ะใหญ่นั้น นีสรินเห็นคนอื่นๆเริ่มทะยอยมากินอาหารกันบ้างแล้วนางจึงหยิบถาดอาหารตรงหน้า แล้วหยิบแซนวิซที่วางเรียงไว้ใส่ไปในถาดอีกหนึ่งชิ้น แล้วเดินไปรินกาแฟใส่ถ้วย แล้วนำไปนั่งกินที่มุมหนึ่ง นางค่อยๆกินอาหารตรงหน้าที่เป็นแป้งพิต้ากับซุปถั่วลูกไก่ และแซนวิสแฮมชีสที่นางหยิบมาเพิ่ม แล้วยกกาแฟขึ้นจิบช้าๆ เมื่อท้องอิ่มอารมณ์ก็ดีขึ้
เมื่อนีสรินได้ยินดังนั้นนางก็กลับหลังหันเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าใบเล็กนั้น เมื่อเปิดออกดูพบเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวแขวนไว้หนึ่งตัวในนั้น และมีอีกตัวอยู่ในถุงที่วางด้านล่างของตู้ นางจึงเดินกลับที่หน้าห้องแล้วเอ่ยว่า " ขอบใจเจ้ามากนะ ข้าหามันพบแล้ว “ นีสรินยื่นมือไปรับถาดอาหารนั้นมาวางบนโต๊ะปลายเตียง ลียาเห็นคนตรงหน้าวางถาดลงบนโต๊ะแล้ว จึงได้บอกต่อไปว่า ” หากเจ้ากินอาหารเสร็จแล้ว ก็เดินเอาถาดไปไว้ที่โรงครัวที่อยู่ติดกับห้องอาหาร เดินกลับไปตามทางที่เจ้าเดินเข้ามา แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายมือก็พบแล้ว จะได้สำรวจมันเอาไว้ พรุ่งนี้เจ้าต้องออกไปกินอาหารที่นั่น แล้วจะได้ไปทำงานตามหน้าที่ของแต่ละคนมื้อกลางวันก็มากินเช่นเดิม ส่วนมื้อเย็นก็เช่นกันให้มากินให้ตรงเวลาเพราะหากเลยเวลามากไป พวกเขาก็จะเก็บอาหารไป แล้วเราก็จะอดกินอาหารมื้อนั้นไปเลย ข้าบอกเจ้าไว้ก่อนเผื่อเจ้าไม่รู้ ทำงานเลยเวลาอาหารก็จะอดกิน คนรับใช้อย่างเรา มันมีทางเลือกไม่มากนัก ทำอะไรเพื่อตนเองได้ก็ต้องทำ ไม่มีใครมาสนใจเราหรอกว่าเราจะได้กินอิ่มท้องหรือไม่ หรือทำงานเหนื่อยไปหรือไม่ เจ้าต้้องใช้ไหวพริบช่วยตนเอง เอาละข้าพูดมากไปเสียแล้ว ต้อ
บทที่ 2นีสรินอึ้งงันไปกับวาจาของชีคหนุ่มแต่นางก็มิสามารถเอ่ยคัดค้านอะไรได้ นางก็รู้คำสั่งของชีคคือที่สุดแล้วมิอาจมีผู้ใดคัดค้านได้ นางจึงหุบปากที่กำลังจะเผยอขึ้นต่อรองนั้น อัลมาหันมามองนีสรีนแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ เอาละเจ้าคงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ข้าเข้าใจเจ้าที่มิได้เป็นผู้กระทำผิด แต่เมื่อท่านชีคตัดสินใจแล้วเจ้าคงต้องทำตามอย่างมิมีข้อต่อรองใดๆทั้งสิ้น ลุกขึ้นแล้วเดินตามข้าไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายของนางทาส พรุ่งนี้ก็เริ่มมาทำงานตามหน้าที่ของเจ้า ในตำหนักแห่งนี้ม่ีวงจรปิดแทบทุกจุด เจ้าคงจะหลบหนีออกไปมิได้ง่ายๆหรอก เพราะฉะนั้นยอมทำตามคำสั่งเสียจะดีกว่า หากเจ้าว่านอนสอนง่ายไม่ทำเรื่องวุ่นวาย ก็ไม่แน่นะ อีกไม่นานถ้าท่านชีคใจอ่อนอาจจะยอมปล่อยตัวของเจ้ากลับไปดีๆก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นจงทำตัวดีๆ และทำตามคำสั่งท่านชีค อย่าให้บกพร่องก็แล้วกัน ” จากนั้นอัลมาก็เดินออกไปจากห้องโถงใหญ่นั้น นีสรินตอนนี้ยังมึนกับเหตุการณ์ที่เพิ่งได้รับรู้มาใหม่ ๆ นางจึงได้แต่เดินตามอัลมาไปโดยมีสาวใช้ร่างใหญ่สองนางนั้นเดินตามหลังมาติดๆ เมื่อทั้งสองเดินไปตามทางเดินที่ทอดยาวผ่านห้องหับหลายๆห้องและทางแยกไปยังห้องที
นีสรินลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องแห่งหนึ่ง ข้อมือทั้งสองถูกมัดไขว้ไว้ด้านหลัง นางนอนอยู่บนพื้นเย็นเฉียบ ปากของนางตอนนี้เป็นอิสระพอที่จะหายใจได้สะดวกแล้ว เรานางจำได้ว่าตอนที่ถูกจับตัวมาโดยที่นางถูกมือปริศนาเอาผ้าที่มีกลิ่นแปลก ๆ มาปิดปากนางจากทางด้านหลัง ขณะที่นางกำลังเดินชมข้าวของที่ตลาดกลางเมืองที่คึกคักไปด้วยผู้คน แต่เมื่อนางกำลังมองหาร้านชาดีๆเพื่อจะดื่มชาเย็นๆขณะที่อากาศกำลังร้อนเปรี้ยงนั้น นางมองเห็นไกลๆว่ามีร้านชาขึ้นชื่อที่ดูแล้วน่าจะอร่อย นางจึงพยายามเดินแทรกผู้คนที่คับคั่งนั้นผ่านไปจนใกล้จะถึงร้านชาแห่งนั้น แต่เมื่อก้าวเดินผ่านมุมตึกที่กำลังจะถึงร้านชาอีกไม่ไกลนั้น ก็มีมือหนาๆ เอื้อมมาปิดปากของนางทันทีจากทางด้านหลัง มือนั้นมีผ้าผืนเล็กๆอยู่ในมือ นางได้กลิ่นแปลกๆ จากผ้าผืนนั้นแล้วโลกก็มืดมนลงไปทันทีรู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนที่นอนอยู่ด้านหลังรถคันหนึ่ง และนางนอนอยู่บนพื้นเหล็กแข็งๆ มือทั้งสองข้างถูกมัดไว้ที่ด้านหลัง ปากก็ถูกผ้าปิดเอาไว้ นางได้แต่ร้องอึกอักอยู่ในลำคอ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่ารถกำลังวิ่งด้วยความเร็วพอสมควร และทางที่รถผ่านนั้นมันก็น่าจะขรุขระอยู่พอสมควรเพราะรถวิ่งกระเด้งกระ