รุ่งเช้าวันต่อไป นีสรินสะดุ้งตื่นขึ้นมา นางลืมไปว่าตนเองไม่มีนาฬิกาไว้ดูเวลาจึงคิดว่าวันนี้จะไปหามาสักเรือนหนึ่งเพราะตอนเช้าตื่นขึ้นมาไม่รู้ว่าเวลากี่โมงแล้ว นางรีบหยิบของใช้ส่วนตัวและสวมเสื้อคลุมแล้วรีบไปอาบน้ำทันที เมื่ออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็กลับมาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายชุดใหม่ที่เป็นเครื่องแบบของคนรับใช้ที่ตำหนักนี้ ที่ใส่คล้ายๆกันทุกคน เมื่อแต่งกายเรียบร้อย นีสรินก็รีบออกไปจากห้องนี้แล้วปิดประตูไว้ นางไม่มีกุญแจจะล็อคห้องและก็ไม่มีของมีค่าในห้องนอนน้อยนี้ จึงคิดว่าคงมิเป็นไร
จากนั้นนางก็เดินตรงไปตามทางที่ตรงไปห้องอาหารก่อนเพื่อรีบกินอาหารเช้าก่อน แล้วค่อยไปทำงานที่ได้รับคำสั่งมา นีสรินเดินเข้ามาในห้องอาหารนางเห็นถาดใส่อาหารที่เป็นถาดหลุมวางเรียงรายบนโต๊ะใหญ่นั้น นีสรินเห็นคนอื่นๆเริ่มทะยอยมากินอาหารกันบ้างแล้ว
นางจึงหยิบถาดอาหารตรงหน้า แล้วหยิบแซนวิซที่วางเรียงไว้ใส่ไปในถาดอีกหนึ่งชิ้น แล้วเดินไปรินกาแฟใส่ถ้วย แล้วนำไปนั่งกินที่มุมหนึ่ง นางค่อยๆกินอาหารตรงหน้าที่เป็นแป้งพิต้ากับซุปถั่วลูกไก่ และแซนวิสแฮมชีสที่นางหยิบมาเพิ่ม แล้วยกกาแฟขึ้นจิบช้าๆ เมื่อท้องอิ่มอารมณ์ก็ดีขึ้นมากมาย นีสรินยกถาดไปล้างที่อ่างล้างจานขนาดใหญ่เช่นเดิม แล้วรีบเดินออกจากห้องอาหารนั้นไปรอที่หน้าห้องชุดของชีคหนุ่ม
อัลมาบอกไว้เมื่อวานว่าให้ไปรอที่หน้าห้องชุดจะมีคนมาสอนงานของนางว่าให้้ทำสิ่งไรบ้าง รออยู่สักครู่ก็มีสาวใช้ร่างใหญ่เดินเข้ามาหานางแล้วบอกว่า “ เอาละ ข้าจะเริ่มสอนงานของเจ้า ตอนนี้ท่านชีคยังไม่ออกมาจากห้องนอน เจ้าก็ไปทำความสะอาดบริเวณห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องหนังสือ และที่เหลืออยู่คือห้องนอนของท่านชีคและห้องน้ำที่เจ้าต้องเข้าไปทำความสะอาดภายหลัง แต่ข้าลืมไปห้องนอนมีสองห้อง มีห้องใหญ่ของท่านชีค และมีห้องนอนเล็กที่อยู่ข้างๆ กัน เจ้าต้องทำความสะอาดทั้งหมดนี้ เพียงคนเดียวในทุกวัน หากมีอะไรจะใช้งานเจ้าเพิ่มท่านชีคคงจะบอกเจ้าเอง ข้าชื่อ ลูล่า " หญิงร่างใหญ่ร่ายยาวถึงงานที่นีสรินต้องทำทั้งหมดและแนะนำตนเอง
" และมีอีกอย่าง หากท่านชีคยังไม่ได้เรียกเจ้าเข้าไปในห้องนอนก็มิต้องเข้าไป ในห้องนอนทั้งสองห้อง เพราะห้องนอนเล็กนั้น มักจะมีหญิงในฮาเร็มที่ท่านชีคเรียกขึ้นมาปรนนิบัติอยู่ในห้องเสมอ หากท่านชีคมีธุระยุ่งเจ้าก็อย่าไปรบกวน เพียงทำงานของตนเองในส่วนอื่นๆไปก่อน และเสื้อผ้าของท่านชีคที่ใช้แล้ว เจ้าก็นำตระกร้าออกไปวางไว้หน้าห้องจะมีคนมาเก็บไปซักรีดในทุกวัน แล้วสาวใช้ทีี่มีหน้าที่ดูแลเสื้อผ้าของท่านชีคก็จะนำมันไปแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้าเองทุกวัน ส่วนเจ้าแค่มีหน้าที่เก็บตระกร้าเสื้อผ้าที่ใช้แล้วไปวางไว้หน้าห้องให้เขาก็แค่นั้นเอง
นีสรินพยักหน้าเข้าใจ แล้วลูล่าก็พานางไปในห้องเก็บของเล็กๆของแม่บ้านแล้วแนะนำเรื่องอุปกรณ์ใช้งานต่างๆเช่นเครื่องดูดฝุ่น และที่เก็บน้ำยาทำความสะอาดต่างๆ ผ้าที่ใช้งานในแต่ละห้อง จากนั้นก็สอนงานนางและมองดูนางเวลาทำความสะอาดห้องรับแขกและห้องนั่งเล่นนั้นตลอดในช่วงเช้าวันนั้น แม้นีสรินทำงานได้ไม่ค่อยคล่องแคล่วนักเพราะนางมิได้เคยรับใช้ใครมาก่อน เพียงแค่เคยทำงานบ้านในอพาร์ทเม้นท์ของตนเองแค่นั้น แต่ก็พอทำได้แม้จะเก้ๆ กัง ๆ พอถึงเวลาอาหารกลางวันก็พากันลงไปกินอาหารเที่ยงกันจนเรียบร้อย
ตอนช่วงบ่ายลูล่าก็ปล่อยให้นีสรินทำความสะอาดด้วยตนเอง เพราะนางคิดว่านีสรินพอทำได้ แม้ไม่คล่องแคล้วแต่ก็พอจะทำได้ ถ้าหากทำงานไปนานเข้าก็คงจะคล่องแคล่วขึ้นมาเอง นีสรินทำความสะอาดห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น และห้องหนังสือจนเรียบร้อยนางก็เดินเลยไปแถวหน้าห้องนอนใหญ่และเล็กนั้นเพื่อฟังเสียงว่ามีใครอยู่ในห้องนั้นบ้าง นางแนบหูฟังทีี่ห้องนอนเล็กก่อนมันเงียบสนิทและคงไม่อยู่ใครอยู่ด้านในนั้น
นางจึงเปิดประตูห้องนอนเล็กเข้าไป ก็พบท่านชีคหนุ่มกำลังเปลือยกายล้อนจ้อนและกำลังก้มลงดูดดึงยอดอกอวบของหญิงผู้หนึ่งอยู่ เมื่อนีสรินเปิดประตูห้องเข้าไปนั้น ร่างล่ำสันเต็มไปด้วยมัดกล้ามก็เงยหน้าขึ้นมองตรงมาที่นาง คิ้วหนาข้างหนึ่งของเขาเลิกขึ้นสูง แต่ก็ก้มลงไล้เลียยอดอกนั้นต่อ แต่ดวงตาคมดุจเหยี่ยวนั้นกลับมองมาที่ใบหน้าหวานของนีสรินนิ่ง หญิงใต้ร่างของเขาร้องครางเบาๆ เอามือของนางอุดปากตนเองไว้แน่น ส่วนนีสรินที่ยืนอึ้งก็ยกมืออุดปากตนเองเช่นกัน
ชีคหนุ่มยกริมฝีปากโค้งขึ้นน้อย ๆ ตายังคงมองไปที่นีสรินเขม็ง แล้วพูดขึ้นว่า “ เจ้าห้ามออกไปจากห้องชุดของข้า ให้ยืนรอข้าอยู่ที่หน้าห้องนอนนี่แหละ ข้าจะรู้เมื่อเจ้าไม่ทำตามคำสั่ง ออกไปยืนที่หน้าห้องแล้วปิดประตูลงด้วย หากข้าต้องการใช้งานเจ้าเมื่อไหร่จะเรียกเจ้าเอง ”
นีสรินเมื่อได้ยินนางก็รีบก้าวออกมาจากห้องนอนเล็กนั้นแล้วปิดประตูลงตามหลัง นางยกมือบางกุมที่อกเอาไว้ หัวใจเต้นตึกตักอย่างห้ามไม่อยู่ “ เจ้าโรคจิต เจ้าบ้า กำลังทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ แต่ให้ข้ายืนรอเจ้าที่หน้าห้องนี่เนี๊ยะนะ บ้า โรคจิตจริงๆเลย ” นางบ่นพึมพำเบาๆ
แต่นีสรินก็มิกล้าขัดคำสั่งเขา ได้แต่ยืนรอที่หน้าห้องนอนเล็กนั้น เวลาผ่านไปเพียงครู่นางก็ได้ยินเสียงครางกระเส่าของหญิงผู้นั้น และเสียงเนื้อกระทบเนื้อ ผสานไปกับเสียงเตียงกระทบผนัง และตามมาด้วยเสียงคำรามก้องของบุรุษ นีสรินครุ่นคิดในใจ เจ้าชีคนี่ท่าจะโรคจิตเสียแล้ว ต้องมากลั่นแกล้งให้นางยืนรอเขาทำกิจกรรมกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ เขาบ้ามันจริงๆ เลย
นางต้องยืนทนฟังเสียงร่วมรักนั้น ที่มันดังขึ้นเรื่อย ๆ ฟังดูก็รู้ว่าทั้งสองสุขสมกันขนาดไหน หญิงผู้นั้นกรีดร้องเสียงดัง เป็นระยะ สลับกับครวญครางอย่างสุขสม นีสรินพลอยรู้สึกวาบหวามไปด้วย ใบหน้าสวยคมแดงระเรื่อ แต่นางพยายามสลัดความรู้สึกนี้ทิ้งไป
นางอยากจะหนีไปจากที่บ้า ๆ นี้เหลือเกิน จะทำเช่นไรดีนะ จะได้ไม่ต้องทนอยู่ที่นี่ ใกล้ชิดกับเจ้าชีคโรคจิตผู้นี้ แต่เขาจับนางมาเพื่อกลั่นแกล้งมันก็ต้องเป็นเช่นนี้แหละ
เมื่อคิดได้นีสรินก็เชิดหน้าขึ้น นางจะอดทนทำเป็นเย็นชาไม่รู้ไม่ชี้ไม่รู้สึกอับอายอย่างที่เจ้าชีคนี่ต้องการให้นางเป็นอย่างแน่นอน เมื่อคิดวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้นางก็สบายใจขึ้น คิดเสียว่าดูหนังติดเรทฟรีก็แล้วกัน ไม่ต้องเสียเงิน และได้เห็นชัดเจนยิ่งกว่าในหนังเสียอีก เมื่อคิดได้นีสรินก็หัวเราะเบา ๆ อย่างพยายามผ่อนคลายความตึงเครียดของตนเอง
เมื่อผ่านไปเกือบชั่วโมง เจ้าชีคนั่นก็เรียกนางเสียงดังออกมาจากห้องนอนเล็กนั้น นีสรินจึงเปิดประตูเข้าไป ทำหน้าตาเฉยชา แล้วเอ่ยถามเขาว่าต้องการให้นางรับใช้อะไร ชีคหนุ่มเลิกคิ้ว แล้วกวักมือเรียกนางเข้าไปใกล้ๆ เขา นีสรินเดินเข้าไป นางทำเป็นใจกล้าแต่ที่จริงก็กลัวเจ้าหมอนี่อยู่ไม่น้อย
เมื่อเดินเข้าไปใกล้เตียงแล้ว เสียงทุ้มของชีคหนุ่มก็ดังขึ้น “ มีอา เจ้าเสร็จกิจแล้วก็รีบออกไปจากห้องนี้เสีย ข้าจะให้ทาสผู้นี้ทำความสะอาดห้องนี้ให้เรียบร้อย ” หญิงร่างอวบอัดนั้นรับคำเบาๆ แล้วก็ก้าวออกไปจากห้อง ก่อนออกไปนางชำเลืองมองมาทางนีสรินเล็กน้อยอย่างสนใจ
จากนั้นร่างล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นๆ ไปทั้งร่างก็ลุกขึ้นแล้วก้าวลงจากเตียงนอนใหญ่นั้น เขาเดินกายเปลือยเปล่ามิได้อนาทรร้อนใจที่นีสรินจ้องมาอย่างตะลึงงันอยู่ตรงหน้า ดวงตาของนางโตจนแทบจะถลนออกมา โอ้ว !! แม่เจ้า นางคิดว่าพระเอกหนังเอวีน่าจะต้องอายเจ้าหมอนี่ นิสรินครุ่นคิด นางมีมารดาที่เป็นชาวไทยและได้รับการเลี้ยงดูจากมารดามาหลายปีก่อนที่มารดาจะย้ายกลับไปอยู่เมืองไทย หลังจากท่านชีคบิดาของนางและท่านพี่อมานเสียชีวิตลงไป นางจึงมีหลายอย่างทั้งภาษาพูดและนิสัยใจคอดังเช่นมารดาของนาง “ เอาละ ลงมือทำความสะอาดห้องนี้ให้เรียบร้อย ข้าจะไปอาบน้ำ ” จากนั้นเขาก็ก้าวออกจากห้องนี้ไป นีสรินเบะปากมองบนเล็กน้อย ฮึ !! ชีวิตท่านหญิงอย่างฉันต้องมาทำงานเป็นแม่บ้านโรงแรมเช่นนั้นหรือ แล้วนางก็เท้าสะเอว ถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างระบายความหงุดหงิดนั้น แล้วลงมือเก็บเตียงของเจ้าชีคหนุ่มนั่นกับแม่นางบำเรอร่างอวบอัดที่ทำไว้เสียยุ่งเหยิงเละเทะไม่น้อย นางเดินออกไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดและถุงมือขึ้นมาสวมแล้วลงมือเก็บผ้าปูเตียงและปลอกหมอนใบใหญ่นั้นโยนใส่ตระกร้าผ้าเพื่อจะนำไปส่งซักอีกที แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าใ
แล้วก้มลงหยิบเสื้อชั้นในที่หล่นอยู่บนพื้นห้องขึ้น แล้วรีบวิ่งออกไปจากห้องของชีคหนุ่มทันที ชีีคหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่งเหยียดยิ้มออกมา เขากำลังจะได้ลิ้มรสเหยื่อสาวเนื้อหวานจนน่าลิ้มลองอยู่แล้วเชียว แต่ไม่เป็นไร วันนี้เขาหมดอารมณ์แล้ว ไว้คราวหลังค่อยจัดการนางก็ยังไม่สายชีคหนุ่มจึงลุกขึ้นไปผลัดเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแล้ว จึงได้ก้าวเดินออกไปจากห้องนอนของเขา แล้วเดินลงไปที่ห้องทำงานด้านล่างแทน เมื่อเดินเข้าไปในห้องนอนพบอาหมัด องครักษ์ของเขานั่งรออยู่และบอกมีเอกสารด่่วนที่ต้องการให้เขาพิจารณาในวันนี้หลายฉบับ ชีคหนุ่มจึงนั่งลงบนโต๊ะทำงานและลงมืออ่านเอกสารตรงหน้าทันที ฝ่ายนีสรินวิ่งลนลานออกมาจากห้องนอนของชีคหนุ่ม นางออกไปยืนตัวสั่นที่หน้าห้องของชีคหนุ่มเพื่อตั้งสติอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็รีบเดินอย่างเร่งรีบกลับห้องพักของนางเพื่อตั้งสติก่อน นางตกใจกับเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นเร็วมาก และตกใจกับปฏิกิริยาของตนเองด้วยที่ยินยอมชีคหนุ่มอย่างง่ายดาย นางเหมือนเคลิบเคลิ้มหลงลืมไปสิ้นว่านางมาที่นี่เพราะอะไร และเขาคือใคร นางกำมือเย็นชืดของตนเองแน่น เร่งรีบเดินกลับห้องพักให้เร็วที่สุด เมื่อเปิดประตูห้องพักน้อยนั้
วันต่อมา ขณะที่นีสรินกำลังจะเดินขึ้นบันไดโค้งเพื่อไปทำความสะอาดห้องของชีคหนุ่ม แม้นางไม่ได้อยากจะไปเลยก็ตามเพราะนางเกรงว่านางจะไม่รอดเงื้อมมือของเขา แต่ก็ไม่สามารถจะทำอย่างไรได้ ก็คงจะต้องแล้วแต่โชคชะตาและวันนั้นเขาอาจจะแค่แกล้งนางเล่นก็เป็นได้ ขณะที่กำลังจะก้าวเดินขึ้นบันไดไป ก็ได้ยินเสียงร้องเรียกดังขึ้นทางด้านหลัง “ นี่เจ้า ท่านชีคลงมาจากข้างบนแล้วหรือไม่ ” นีสรินจึงได้หันไปตามเสียงนั้น แต่นางก็ไม่แน่ใจว่าเสียงทุ้มนั่นเขาพูดกับนางหรือไม่ แต่เมื่อหันไปสบตากับชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมเค้ม ดวงตาของเขามีแววขี้เล่นอยู่ในนั้น และคนผู้นี้ก็ดูท่าทางดีการแต่งกายหรูหราคงไม่ใช่คนรับใช้ในตำหนักนี้อย่างแน่นอน “ ท่านถามข้าใช่หรือไม่ ” นางถามเขาให้แน่ใจ “ ใช่สิ ในห้องนี้ไม่มีคนอื่นนอกจากเจ้า ข้าก็ต้องถามเจ้าแน่นอนอยู่แล้ว ” นีสรินอึ้งงันไป นางมองไปรอบๆ มันก็จริงอย่างที่เขาว่า “ ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าท่านชีคลงมาจากด้านบนแล้วหรือยังเจ้าคะ เพราะข้าเพิ่งเดินมาจากทางด้านหลังกำลังจะขึ้นไปทำความสะอาดห้องพักด้านบน ” สีหน้าแปลกใจฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างเห็นได้ชัด “ เจ้าคือสาวใช้ของตำหนักน
นีสรินตกใจที่อยู่ๆเขาก็เดินมาหาเรื่อง เธอไม่ได้คิดอะไรกับเพื่อนรักของเขาเสียหน่อย แค่จะเลียบเคียงถามเพื่อจะขอความช่วยเหลือแต่เขากลับคิดไปว่าเธอกำลังจะหว่านเสน่ห์เพื่อนของเขา คนบ้าบอ คิดไปได้อย่างไรกัน คนเพิ่งพบกันแค่ครั้งเดียว แต่เขากลับคิดไปไกลว่าเธออยากจะหว่านเสน่ห์ผู้ชายไปเสียได้ คนคิดอกุศลจริงๆ เลย “ ท่านชีค ข้าไม่ได้คิดจะหว่านเสน่ห์เพื่อนของท่านเสียหน่อย แต่ถึงจะหว่านเสน่ห์ใครก็ไม่เกี่ยวกับท่าน ข้ามีหัวใจเป็นของตัวเอง แม้กายจะเป็นทาสแต่หัวใจรักก็ยังเป็นของข้า จะสนใจใคร จะรักใคร จะหว่านเสน่ห์ใครไม่เห็นจะเกี่ยวกับท่านเสียหน่อย ” ชีคหนุ่มเมื่อได้ฟังคำพูดหยิ่งยะโสทั้งๆที่ตอนนี้ตัวเองเป็นลูกไก่ในกำมือผู่้อื่นนั้นยิ่งทำให้โมโห “ มันคงจะไม่เกี่ยวหรอกนะ ถ้าพี่ชายของเจ้าไม่ใช่ศัตรูตัวฉกาจของข้า และข้าไม่ไว้ใจเจ้า คิดจะหว่านเสน่ห์และหลอกลวงสหายของข้าเช่นนั้นหรือ อย่าคิดว่าข้าจะรู้ไม่ทันเจ้านะ นีสริน ” เขาเอ่ยจบก็ประกบจูบนีสรินทันที แต่นางพยายามเม้มปากเอาไว้เน่นไม่ยอมให้คนตรงหน้าสอดลิ้นสากของเขาเข้ามาได้อย่างแน่นอน เจ้าชีคบ้าตัณหา ตัวเองไม่ใช่ไว้ใจข้า เห็นว่าข้าเป็นน้องสาวของศัตรู
ยิ่งคิดว่าจะมีผู้ชายคนไหนมันเก็บเอานางไปฝัน เขายิ่งหวงแหน แต่พวกมันก็ได้เพียงแค่ฝัน แต่เขาสิ เขาจะทำให้นางเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว ยิ่งคิดจึงยิ่งทั้งฟอนเฟ้นทั้งดูดดื่มอกอวบใหญ่อย่างหนัก มือหนาเลื่อนฟอนเฟ้นไปมาจนแทบจะทั่วร่างอวบขาวที่เต็มไม้เต็มมือของเขาอย่างยิ่ง ขณะที่ทั้งสองหนุ่มสาวกำลังเคลิบเคลิ้มกับบทรักที่ชีคหนุ่มกำลังปรนเปรอร่างอวบของชายาเอกของเขาอยู่ในรถม้าที่บรรยากาศกำลังเร่าร้อนเต็มที่จนทั้งสองต่างหลงลืมไปสิ้นว่ากำลังอยู่ที่ไหน จู่ ๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “ ท่านชีคเพคะ ฟาร่าเข้าไปได้หรือไม่ ” เสียงหวานของฟาร่าดังขึ้นที่หน้าประตูห้อง และมันทำให้ชีีคหนุ่มหงุดหงิดกรุ่นขึ้นมาทันที สนมนางนี้ของเขาชักจะเหิมเกริมไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขา ใบหน้าหล่อที่กำลังก้มฟอนเฟ้นอกอวบตรงหน้าอย่างเมามันก็พลันต้องเงยหน้าขึ้น “ ฟาร่า ออกไป หากข้าไม่เรียกหาไม่ต้องเสนอหน้ามาพบข้า หากเจ้าไม่เชื่อฟังข้าจะให้เจ้าออกไปจากที่นี่ ” และเมื่อสิ้นสุดเสียงของชีคหนุ่ม เสียงที่หน้าประตูก็พลันเงียบมีเสียงฝีเท้าเบาๆเดินจากไปและทุกสิ่งก็พลันเงียบสงบลงดังเดิม นีสรินที่เริ่มตั้งสติได้นางลืืมตาที่หรี่ปรือเพราะ
นีสรินถอยหนีเขาแต่นางกลับหงายหลังลงไปบนฟูกหนานุ่มนั้นเสียเอง เพราะยังไม่คุ้นกับสถานที่ เมื่อหงายหลังลงไปและกำลังจะยกแขนขึ้นเพื่อผลักเขาให้ออกไป แต่ก็ถูกร่างหนานั้นกดร่างอวบของนางลงกับฟูกหนานุ่มนั้น จะยกขาเขาก็ใช้ท่อนขาแข็งแรงกดนางเอาไว้ นางพยายามดิ้นรนและจะใช้กำลังเท่าที่มีดันร่างหนาของเขาออกไป แต่นางถูกเขาทับเอาไว้ทั้งร่างอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันที่นางจะจัดการเขาดังเช่นที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะเขานั้นร่างกายสูงใหญ่กว่านางมากเขาคว้าร่างอวบของนีสรินเอาไว้ได้ และเลยไปดีึงทิ้งเสื้อผ้าเนื้อบางของนางจนฉีกขาดเป็นทางยาวและเขาก็กระชากนมันออกจากร่างอวบ บัดนี้ลำตัวด้านบนของนีสรินเปลือยเปล่า และกางเกงเอวรูดผ้าเนื้อบางเช่นเดียวกันถูกเขาดึงรั้งมันออกจนเลื่อนลงไปอยู่ที่ปลายเท้าทั้งสองข้า บัดนี้ร่างอวบนั้นเปลือยเปล่า เพราะเสื้อชั้นในเธอไม่ได้สวม ส่วนกางเกงชั้นในตัวจิ่วนั้นมันติดไปกับกางเกงที่ถูกเขาดึงรั้งลงไป ปลายถันสีชมพูที่สั่นระริกอยู่บนเต้าหวานอวบใหญ่ มันไหวสะท้านเพราะนางหายใจเข้าออกอย่างแรงเพราะตกใจที่ตอนนี้นางตกเป็นเบี้ยล่างเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว นั่นทำให้ตบะของชีคหนุ่มขาดสะบั้น ชีคหน
“ ข้าร่าน ร่านเหลือเกิน ร่านจนทนไม่ไหวแล้ว อ๊าย อ๊าา อ๊าาา เอาข้าเสียที ได้โปรด ท่านชีคเพคะ ช่วยข้าด้วย ขย่มข้าเสียที อ๊าา อ๊ายย อ๊าาาา ” นางทนเสียวซ่านต่อไปไม่ไหว เอ่ยปากอ้อนวอนคนที่นางไม่เคยคิดจะรักเขา และทั้งเกลียดและกลัวเขาเหลือเกิน แต่บัดนี้มันต้องการเขาแทบขาดใจ ทำไมร่างกายของนางมันปรารถนาเพียงเขามากขนาดนี้ และต้องเป็นเขาเท่านั้น ที่จะมาโยกขย่มบนร่างของนางได้ “ ท่านชีคเพคะ ช่วยข้าด้วย ท่านชีคเพคะ รักเมียเสียที ได้โปรด ได้โปรดเพคะ ” นางจะเคยรู้สึกกับเขาอย่างไรก็ช่าง แต่ตอนนี้นางต้องการ นางอยากให้เขาเป็นผู้เติมเต็มนางเพียงเท่านั้น นีสริสปรือตาขึ้นเล็กน้อยเพื่อสบตาของเขา ชีคหนุ่มจ้องมองร่างอวบขาวของนีสรินที่นอนทอดร่างบนผ้าปูสีครีมมันระยับนั้น นางดูเหมือนนางเสือดาวที่ยั่วยวนเหลือเกิน สติยับยั้งของเขาขาดสะบั้นลง กระชากอาภรณ์ของตนเองออกอย่างลุกลน เมื่อเจ้าลูกชายตาเดียวเป็นอิสระมันผงาดง้ำทันที น้ำรักไหลยืดเพราะเขาเองก็เสียวซ่านจนทนแทบไม่ไหว เขาจับเจ้้าลูกชายที่พรักพร้อมเหลือเกินสอดเข้าในร่องอวบของนีสรินทันที นางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด พยายามโยกสะโพกอวบหนีเขา แต่ถูกมื
ฟาร่าร้อนใจยิ่งนัก นางไม่เคยเห็นว่าท่านชีคจะหลงไหลใครมาเช่นนี้ แต่นี่มันแค่เพียงเริ่มต้น เขาอาจจะเห่อของสดใหม่ก็เป็นได้ นังนั่นมันอาจจะเป็นแค่เพียงของเล่นใหม่ของเขาก็ได้ นางจะเฝ้าดูเหตุการณ์ไปก่อน แต่หากเขามีท่าทีหลงไหลมันมากกว่านี้ นางจะต้องส่งข่าวให้กับคู่หมั้นของเขารู้ คุณฮันนาจะต้องได้รู้ว่าท่านชีคหลงไหลน้องสาวของศัตรูที่ทำให้ท่านหญิงยาร่าเสียชีวิตไป ที่จริงแล้วฟาร่าก็ไม่ได้ชื่นชอบคู่หมั้นของท่านชีคที่ชื่อฮันนานัก แต่ด้วยนางเป็นคู่หมั้นที่มีโอกาสที่จะขึ้นเป็นชีคคาอย่างแน่นอน ฟาร่าจึงแค่ต้องการผูกมิตรเอาไว้ เพราะนางเป็นสนมของท่านชีคหากตัวของฟาร่าเองไม่มีโอกาสจะได้ขึ้นเป็นใหญ่กว่านี้ หรือมีโอกาสได้เป็นชีคคาขอท่านชีค ก็คงต้องหาพวกเอาไว้ เผื่อว่านางอาจจะต้องใช้คุณฮันนาในอนาคตก็ได้ แม้ฟาร่าอยากจะกรีดร้องออกมาอย่างขัดใจแต่ก็ไม่อาจจะทำได้ จึงได้แต่พยายามสงบใจเฝ้ารอดูเหตุการณ์ต่อไปเพียงเท่านั้นด้านในห้องนอนด้านบน ชีคหนุ่มกับนีสรินที่บัดนี้หมดเรี่ยวแรงเพราะโรมรันกันข้ามวันข้ามคืน ตอนนี้นอนกอดกันอยู่ใต้ผ้านวมหนานุ่ม นีสรินซุกกายอยู่ในอ้อมกอดของเขา ทั้งสองนอดกอดก่ายกันด้วยกาย
แต่ที่จริงแล้วมีนารู้ว่าคนที่คิดอย่างจริงจังมีเพียงเธอเท่านั้น เธอแอบจินตนาการว่าตัวเองกับบอสหนุ่มแต่งงานกันใหม่ๆ และใช้ชีวิตดังเช่นคู่ผัวตัวเมียอื่นๆ แต่เธอก็รู้อยู่ในใจของตัวเองเสมอว่านั่นเป็นเพียงแค่เธอที่คิดเช่นนั้น เพราะบอสหนุ่มก็คงจะเป็นเช่นผู้ชายทั่วไป เขาแค่หลงไหลผู้หญิงสดใหม่เพราะเขาบังเอิญได้เป็นผู้ชายคนแรกของเธอและเขาเองก็ติดใจในตัวของเธอ มีนารู้ว่าชายหนุ่มเหมือนติดใจและหลงไหลในตัวของเธออย่างไม่น่าเชื่อ และเลี้ยงดูเธอเป็นคนแรกที่เป็นแบบเป็นตัวเป็นตน แถมยังอยู่ด้วยกันแทบทุกวัน เหมือนเช่นผัวเมียทั่วไป เพราะตั้งแต่เธอไปอยู่กับเขา เจ้านายหนุ่มไม่เคยเรียกใช้บริการผู้หญิงคนไหนอีก แถมไม่เคยไปนอนที่ไหนเลย นอกจากนอนกับเธอแทบทุกคืน มีแค่ที่เขาไปต่างประเทศแค่สองสามคืนเท่านั้นที่ทั้งสองห่างกันมีนาเมื่อคิดได้ก็รีบลุกขึ้นไปจัดการหากาแฟและน้ำดื่มยกเข้าไปในห้องของเจ้านายหนุ่ม เธอเคาะประตูเบาๆแล้วเปิดเข้าไป ก็เห็นเจ้านายหนุ่มนั่งคุยกับคุณมาริสาและผู้หญิงคนนั้นที่โซฟา และเมื่อเธอนำกาแฟและน้ำไปวางไว้ตรงหน้า เขาก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าเธอ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย“ เป็นอันว่าอีกห
ขณะที่มีนาก็ค่อยๆพยุงร่างที่ระบมไปทั้งตัวของตนเองขึ้นจากเตียงแล้วหันไปดึงผ้าปูที่นอนรวบเอาไว้จะส่งให้คนเอาไปซัก แล้วหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันตัวเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำกับสามีของตนเองเพราะตอนนี้ทั้งสองคนเคยชินที่จะอาบน้ำด้วยกันแล้วเมื่อเข้าไปอาบน้ำก็ถูกสามีจับกระแทกร่องอวบใต้ฝักบัวอีกยกจึงยอมให้หล่อนอาบน้ำ เมื่ออาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเสร็จแล้ว มีนาก็มาจัดการเปลี่ยนผ้าปูจนเรียบร้อย หอบผ้าปูใส่ไว้ในตระกร้าจะส่งให้แม่บ้านซัก มีนาเปลี่ยนชุดที่ใกล้เคียงกับชุดเดิมมากที่สุดเพราะสามีฉีกเสื้อผ้าของเธอแทบจะขาดเป็นริ้ว เพราะเขาโมโหหึงอย่างมาก เขาตีก้นอวบอัดของเธอจนแดงไปหมด และบีบเค้นอกอวบใหญ่และดูดอย่างรุนแรงกว่าทุกครั้งเพราะความหึงหวงอย่างรุนแรง แม้จะเสียวซ่านเหลือเกิน แต่ก็เจ็บแสบไม่น้อย ตอนนี้ในตู้เสื่อผ้ามีเสื้อผ้าของนายหนุ่มและของเธอที่สำรองเอาไว้แขวนอยู่ในตู้ เพราะเธอไม่แน่ใจในอารมณ์ที่แปรปรวนของสามี วันไหนที่เขาอยากจะรักเธอขึ้นมากก็เรียกเธอมาเริงรักกันในห้องทำงานของเขา จนตอนนี้แทบทุกมุมในห้องทำงานและในห้องนอนที่เขาใช้นอนพักผ่อนนั้นก็เป็นที่เริงสวาทของทั้งคู่ แม้กระทั่งในห้องน้
“ เกซาสยืนพิงโต๊ะทำงานและคุยกับเธออย่างแจ่มใส ” ผมกินมาแล้วครับ ไม่ต้องลุกไปหรอก แค่แวะมาทักทายเพียงไม่นาน และจะชวนไปกินอาหารเที่ยงด้วยกัน มีนาจะว่ายังไงครับ “ มีนายิ้มให้เขาน้อยๆ ” มีนาไปไม่ได้จริงๆค่ะ ตอนนี้งานยุ่งมาก เพราะต้องส่งรายงานให้บอสตอนบ่ายสองโมงนี้ ตอนนี้ยังไม่เสร็จเลย ไว้คราวหน้าดีไหมคะ หากวันไหนมีนาว่างจะทักบอกไปนะคะ " เธอก็ตอบไปแบบแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะตอนนี้เธอเป็นภรรยาลับของบอสอยู่ หากเธอขืนออกไปทานอาหารเที่ยงกับเกซาสไม่รู้ว่าอัสมาจะว่าอย่างไร แม้เขาจะไม่ได้เป็นแฟนหรือสามจริงๆ แต่มีนาก็คิดว่ามันคงจะไม่เหมาะสมหากเขารู้เข้า ขณะที่เกซาสนั้นยืนคุยเล่นกับมีนาต่อแม้เธอจะปฏิเสธ แต่ก็ยังตอบเหมือนไม่ได้รังเกียจเขาว่าเธอจะทักไปหาเขาหากเธอมีเวลาว่าง นั่นทำให้เขามีความหวังไม่น้อย จึงขอทู่ซี้คุยกับเธออีกครู่หนึ่งแล้วค่อยกลับเข้าออฟฟิศของตนเอง อัสมาที่เพิ่งเดินออกมาจากลิฟท์เพราะเขาไปพบลูกค้าตามนัดแต่วันนี้ไม่ได้พาเลขาไปด้วย และเมื่อเดินเลี้ยวโค้งเพื่อจะเดินตรงไปห้องทำงานของตนเองก็พบ เกซาสยืนคุยกับมีนาเมียในความลับของเขาอย่างสนุกสนานทั้งสองหัวเราะกันและคุยกันเหมือนสนิทสนมกันมาก
เขาติดใจลีลารักที่เร่าร้อนของเลขาสาว มีนากลายเป็นนางแมวยั่วสวาท กลายเป็นผู้หญิงร่านเหลือเกินเวลาอยู่บนเตียง เป็นผู้หญิงที่เขาเฝ้าหามานานแล้ว เพราะมีนารองรับอารมณ์ที่รุนแรงของเขาได้ถึงใจกว่าผู้หญิงคนไหน ๆ ที่ผ่านมา เขาจึงได้ตัดสินใจผูกปิ่นโตกับมีนาหลังจากเริงรักกับหล่อนในห้องนอนเล็กในห้องทำงานของอาเขยของเขา จากตลอดบ่ายวันนั้นจนผ่านมาถึงรุ่งสางของอีกวัน และยังติดใจอยู่ไม่คลาย เขาถึงกับยอมให้หล่อนย้ายเข้าไปอยู่ในคอนโดส่วนตัวของเขา เพื่อที่เวลาเขาอยากขย่มร่องอวบร่านๆ ของมีนาเวลาไหนก็จะขย่ม เงินเดือนที่เขาจ่ายให้หล่อนคุ้มค่ามากมาย เขาจะซื้อรถหรู และจ่ายค่าคอนโดและให้บัตรเครดิตกับมีนาอีกสองใบ เพราเขาถูกใจในตัวของเลขาสาวมากมาย ไม่น่าเชื่อว่าเสืออย่างเขาจะติดใจกวางสาวไร้ประสบการณ์อย่างมีนาจนโงหัวไม่ขึ้น ขณะที่ขย่มร่องอวบร่าน ๆ ของมีนาอย่างเมามันบอสหนุ่มก็ครุ่นคิดว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยหล่อนไปง่ายๆ หรอกเพราะเขายังไม่มีทีท่าว่าจะเบื่อหล่อนเลยแม้แต่น้อยหลังจากวันนั้นมีนาก็กลายเป็นเลขาที่มีประสิทธิ์ภาพของเขา และเขาก็เป็นบอสผู้คร่ำเคร่งและทำงานจริงจังเช่นเดิมในตอนกลางวันแต่พอออกจากบริษัทโดยที
ขณะที่ก้นอวบอั๋นของเลขาสาวก็ยกขึ้นแล้วขย่มบอสหนุ่มของตนเองด้วยจังหวะที่รุนแรงและรัวเร็วเพิ่มขึ้น ปากก็ร้องครวญครางเสียงดังเพราะเสียวจนเกินจะบรรยาย บอสหนุ่มคำรามก้อง เขาก็เร่งเสยร่องอวบของเลขาสาวด้วยจังหวะที่รุนแรงและรัวถี่ๆ ” บอสขา อู๊ยยย ซี๊ดด อู๊ยยย บอส มีนาจะเสร็จแล้ว มีนาจะเสร็จ อ๊าา อ๊าาา อ๊ายยย “สะโพกอวบของเลขาสาวกระตุกถี่หลายๆครั้ง แล้วเสร็จสมออกมาอย่างรุนแรงปล่อยน้ำรักออกมาอย่างมากมาย ขณะที่คนใต้ร่างเร่งเสยลำกายอวบใหญ่ที่แข็งขึงจนแทบปริแตกทิ่มแทงร่องอวบที่ตอดเขาถี่ยิบนั่นด้วยจังหวะที่รัวเร็วยิ่งขึ้น บั้นเอวหนาโยกไหวอย่างบ้าคลั่งจนกระทั่งเขากระตุกเกร็งอย่างรุนแรงและยาวนานและแตกพ่ายไปในที่สุด บอสหนุ่มหายใจหอบเหนื่อยแต่สุขสมอิ่มเอมเหลือเกิน ลำแขนล่ำสันโอบร่างอวบที่นอนซบที่อกแกร่งของเขาเอาไว้หลวมๆ ริมฝีปากหนาจูบที่แก้มนวลชื่นเหงื่อนั้นเบาๆ ” มีนาจ๋า เมียจ๋า ผัวมีความสุขที่สุดเลย เมียจ๋า “ มีนาสุขใจเหลือเกิน สุขใจมาก ที่บอสหนุ่ม เรียกเธอด้วยเสียงหวานนักว่าเมีย เธออยู่ในอารมณ์ที่เคลิบเคลิ้มไปกับบทรักที่เร่าร้อนของเจ้านายหนุ่่ม จึงรู้สึกพอใจที่เขาเรียกเธอว่าเมีย ” บอสข
เธอจึงได้ตัดสินใจเอ่ยขึ้นว่า “ ก็ได้ ฉันยอมเป็นเมียเก็บของคุณก็ได้ แต่ขอเงินเดือนสิบเท่าและทุกอย่างที่คุณเสนอทั้งหมดนั้น คุณตกลงไหมล่ะ และหากว่าคุณทิ้งฉันก็ต้องให้เงินฉันก้อนใหญ่เพื่อเอาไว้เลี้ยงดูตัวเองด้วย ถือว่าเป็นค่าเลี้ยงดูเวลาที่คุณเบื่อฉันแล้ว ” มีนายื่นข้อเสนอ เรื่องอะไร ไหนๆเป็นเมียเก็บก็ต้องได้ผลประโยชน์ให้คุ้มค่ากับที่เสียตัวให้เขา อัสมายิ้มอย่างสมใจ " ได้อยู่แล้ว ผมให้ตามที่คุณขอ แต่ตอนนี้คุณต้องเริ่มงานเลยนะ ผมคิดถึงเสียงครางของมีนาจะแย่แล้ว วันนี้อยากจะได้ยินมันอีก ได้ไหมจ๊ะที่รักของผม ที่รักร้องครวญครางอยู่ใต้ร่างผมแทบจะทั้งคืน ผมทั้งจูบ ทั้งลูบ ทั้ง….มาแทบจะทั้งคืนแล้ว และตอนนี้ก็อยากได้อย่างวันนั้นอีก ” เขากระซิบใกล้หูเธอด้วยเสียงกระเส่า มีนาสบตาที่จ้องเธอด้วยดวงตาที่มีประกายเจ้าเล่ห์นั่น มือหนาของเขาสอดเข้ามาในเสื้อของเธอแล้วกุมลงที่อกอวบใหญ่ของหล่อนในทันที “ บอส อย่าเพิ่งคะ อย่านะ อย่านะคะ ” แต่เขาไม่ได้สนใจเสียงร้องห้ามของหล่อนเลยเพราะเสียงนั้นมันสั่น ๆ และเบาเหลือเกินในความรู้สึกของเขา มือหนาออกแรงฟอนเฟ้นอกอวบของเธออย่างเมามัน เขาฟอนเฟ้นมันหนักเบา
“ อัสมา ที่ย้ายเลขาเป็นเพราะเรื่องของผมหรือเปล่า ไม่ต้องกังวลนะ มาริสาคิดมากเกินไป ผมไม่ได้คิดอะไรกับเด็กเลขานั่นหรอก เอ็นดูแกอย่างกับลูกสาวเท่านั้น เพราะเขาแก่กว่าอิชช่ากับราณีไม่กี่ปีเอง คงมีคนไปบอกมาริสา เขาก็เลยคิดไปเอง ผมไม่ได้คิดอะไรกับมีนาและเด็กสาวนั่นก็ไม่ได้คิดอะไรกับผม เด็กสาวที่งดงามขนาดนั้นเขาไม่่มองคนแก่อย่างผมหรอก มาริสาคิดมากเกินไป ” อัสมาเงยหน้าจากเอกสารตรงหน้า แล้วยิ้มให้กับคนที่เพิ่งเข้ามา“ ผมรู้แล้วครับ ว่าคุณอาไม่ได้มีอะไรกับมีนา แต่ผมย้ายเธอมาเพื่อตัดปัญหาไม่อยากให้คุณอาหญิงคิดมาก ย้ายให้มันจบๆ ไป แค่เลขาใครทำได้ก็ให้คนนั้นทำไป หากมีปัญหาเราก็แก้ไขเสีย ผมไม่ได้ไล่มีนาออกเสียหน่อย ย้ายมาเป็นเลขาผมตำแหน่งดูจะก้าวหน้ากว่าเดิมด้วยซ้ำไป คุณอาไม่ต้องกังวลหรอกครับ มีนาเขาก็พอใจ และไม่มีปัญหาอะไร ” เขาบอกกับการีมและคิดผู้สูงวัยกว่าคงจะคิดมากเรื่องภรรยามาอาละวาดที่นี่“ อาไม่มีปัญหาหรอก ลีน่าเป็นเลขาที่ดีก็ใช้ได้เหมือนกัน แค่สงสารเด็กกลัวเขาจะเดือดร้อนเพราะความคิดมากเกินไปของมาริสาเท่านั้นเอง ถ้าอัสมาต้องการเลขาคนนี้ อาก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่อยากจะถามอีกอย่างหนึ่งว่า
“ เป็นอย่างไงเกซาส กลับมาแล้วหรือ คิดว่าจะตั้งรกรากที่โน่นเสียอีก ” อัสมาทักทายเพื่อนสนิททันทีที่เงยหน้าขึ้นมาพบหน้าของเขา “ เพิ่งกลับมาเมื่อวานนี้ คิดถึงแก ก็เลยมาหา ว่าแต่เปลี่ยนเลขาใหม่หรือ คนนี้เด็ดมากนะ น่าสนใจมากเลย ฉันขอจีบได้ไหมแกคงไม่ว่าอะไรหรอกนะ ถ้าฉันจะจีบเลขาแกเป็นแฟน เขามีแฟนหรือยัง ”เมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อนสนิท ใบหน้าของอัสมาเปลี่ยนสีไปทันที เพราะเพื่อนสนิทขอจีบเลขาของเขา ใช่หล่อนเป็นเลขาหน้าห้อง แต่หล่อนตกเป็นเมียของเขาแล้ว และเขายังไม่เบื่อแถมเขายังเป็นผู้ชายคนแรกของหล่อนอีกด้วย ตอนนี้เขากำลังหาทางจะเก็บหล่อนเข้าฮาเร็มอยู่ ไม่มีทางจะปล่อยให้ผู้ชายคนไหนมายุ่งเกี่ยว แม้จะเป็นเพื่อนสนิทก็ตาม“ ใช่เป็นเลขาและอีกตำแหน่งก็เป็นผู้หญิงของฉันด้วย กำลังจะให้ไปอยู่ที่ฮาเร็ม หรือไม่ก็คอนโดอยู่ แล้วแต่ว่าเขาจะเลือกไปอยู่ที่ไหน ” เกซาสมีสีหน้าตกใจมาก เขาแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เพื่อนสนิทเพิ่งจะพูดออกมา “ ไหนแกบอกว่าไม่เคยกินเด็กในบริษัทอย่างไงเล่า ที่ผ่านมาก็ไม่เห็นแกจะกินเลขาของตัวเองสักที ทำไมกับคนนี้ถึงอดใจไม่ไหว กินกันก่อน หรือว่าเป็นเลขาแล้วถึงมากินหล่อนเข้าไปล่ะ ” เกซ
ท่านประธานหนุ่มเหลือบตามองร่างที่อยู่ข้างๆเขา “ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าคุณไม่ได้เป็นเมียน้อยของอาการีม ” เขาเอ่ยปากขึ้นก่อน “ แล้วยังไงคะ ฉันก็บอกคุณแล้วว่าฉันไม่ได้เป็นเมียน้อยใคร ” แล้วมีนาก็ค่อยๆยันกายลุกขึ้นช้าๆ แม้จะเสียใจที่ตนเองใจง่ายยอมทอดร่างให้ผู้ชายที่เพิ่งพบกันครั้งแรกจนตกเป็นของเขาอย่างง่ายดาย แต่ทำอย่างไรได้มันเกิดขึ้นแล้ว ไม่สามารถจะเรียกสิ่งที่เสียไปกลับคืนมาได้ และเธอเองก็อายุ 22 ปีแล้ว ยังไม่เคยมีแฟนเลยสักคน ยังไม่เคยจูบกับผู้ชายคนไหนเลยด้วยซ้ำ ทั้งๆที่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็มีคนมาจีบมากมาย แต่เธอก็ไม่ได้ตกลงปลงใจที่จะคบหากับใครเพราะไม่มีเวลาและเธอกลัวว่าตนเองจะหลงระเริงจนเรียนไม่จบ จึงขีดเส้นตัวเองไว้อย่างเข้มงวดจนไม่น่าเชื่อว่าวันนี้จะเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าโดยง่ายเช่นนี้ มีนาเองก็ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลย ว่าจะปล่อยกายปล่อยใจให้ผู้ชายที่เพิ่งเคยพบกันเชยชมง่ายๆเช่นนี้ และเธอเองก็จดจำได้ทุกอย่างจึงไม่ได้โทษเขาว่าปลุกปล้ำเธอได้เต็มปาก เขาแค่เพียงหลอกล่อด้วยชั้นเชิงของผู้ชายที่ช่ำชองเพียงเท่านั้น ไม่ได้ถึงกับข่มขืนเธอ“ ในเมื่อคุณก็รู้แล้วว่าฉันไม่ได้เป็นเมียน้อยของอาเขยค