รุ่งเช้าวันต่อไป นีสรินสะดุ้งตื่นขึ้นมา นางลืมไปว่าตนเองไม่มีนาฬิกาไว้ดูเวลาจึงคิดว่าวันนี้จะไปหามาสักเรือนหนึ่งเพราะตอนเช้าตื่นขึ้นมาไม่รู้ว่าเวลากี่โมงแล้ว นางรีบหยิบของใช้ส่วนตัวและสวมเสื้อคลุมแล้วรีบไปอาบน้ำทันที เมื่ออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็กลับมาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายชุดใหม่ที่เป็นเครื่องแบบของคนรับใช้ที่ตำหนักนี้ ที่ใส่คล้ายๆกันทุกคน เมื่อแต่งกายเรียบร้อย นีสรินก็รีบออกไปจากห้องนี้แล้วปิดประตูไว้ นางไม่มีกุญแจจะล็อคห้องและก็ไม่มีของมีค่าในห้องนอนน้อยนี้ จึงคิดว่าคงมิเป็นไร
จากนั้นนางก็เดินตรงไปตามทางที่ตรงไปห้องอาหารก่อนเพื่อรีบกินอาหารเช้าก่อน แล้วค่อยไปทำงานที่ได้รับคำสั่งมา นีสรินเดินเข้ามาในห้องอาหารนางเห็นถาดใส่อาหารที่เป็นถาดหลุมวางเรียงรายบนโต๊ะใหญ่นั้น นีสรินเห็นคนอื่นๆเริ่มทะยอยมากินอาหารกันบ้างแล้ว
นางจึงหยิบถาดอาหารตรงหน้า แล้วหยิบแซนวิซที่วางเรียงไว้ใส่ไปในถาดอีกหนึ่งชิ้น แล้วเดินไปรินกาแฟใส่ถ้วย แล้วนำไปนั่งกินที่มุมหนึ่ง นางค่อยๆกินอาหารตรงหน้าที่เป็นแป้งพิต้ากับซุปถั่วลูกไก่ และแซนวิสแฮมชีสที่นางหยิบมาเพิ่ม แล้วยกกาแฟขึ้นจิบช้าๆ เมื่อท้องอิ่มอารมณ์ก็ดีขึ้นมากมาย นีสรินยกถาดไปล้างที่อ่างล้างจานขนาดใหญ่เช่นเดิม แล้วรีบเดินออกจากห้องอาหารนั้นไปรอที่หน้าห้องชุดของชีคหนุ่ม
อัลมาบอกไว้เมื่อวานว่าให้ไปรอที่หน้าห้องชุดจะมีคนมาสอนงานของนางว่าให้้ทำสิ่งไรบ้าง รออยู่สักครู่ก็มีสาวใช้ร่างใหญ่เดินเข้ามาหานางแล้วบอกว่า “ เอาละ ข้าจะเริ่มสอนงานของเจ้า ตอนนี้ท่านชีคยังไม่ออกมาจากห้องนอน เจ้าก็ไปทำความสะอาดบริเวณห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องหนังสือ และที่เหลืออยู่คือห้องนอนของท่านชีคและห้องน้ำที่เจ้าต้องเข้าไปทำความสะอาดภายหลัง แต่ข้าลืมไปห้องนอนมีสองห้อง มีห้องใหญ่ของท่านชีค และมีห้องนอนเล็กที่อยู่ข้างๆ กัน เจ้าต้องทำความสะอาดทั้งหมดนี้ เพียงคนเดียวในทุกวัน หากมีอะไรจะใช้งานเจ้าเพิ่มท่านชีคคงจะบอกเจ้าเอง ข้าชื่อ ลูล่า " หญิงร่างใหญ่ร่ายยาวถึงงานที่นีสรินต้องทำทั้งหมดและแนะนำตนเอง
" และมีอีกอย่าง หากท่านชีคยังไม่ได้เรียกเจ้าเข้าไปในห้องนอนก็มิต้องเข้าไป ในห้องนอนทั้งสองห้อง เพราะห้องนอนเล็กนั้น มักจะมีหญิงในฮาเร็มที่ท่านชีคเรียกขึ้นมาปรนนิบัติอยู่ในห้องเสมอ หากท่านชีคมีธุระยุ่งเจ้าก็อย่าไปรบกวน เพียงทำงานของตนเองในส่วนอื่นๆไปก่อน และเสื้อผ้าของท่านชีคที่ใช้แล้ว เจ้าก็นำตระกร้าออกไปวางไว้หน้าห้องจะมีคนมาเก็บไปซักรีดในทุกวัน แล้วสาวใช้ทีี่มีหน้าที่ดูแลเสื้อผ้าของท่านชีคก็จะนำมันไปแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้าเองทุกวัน ส่วนเจ้าแค่มีหน้าที่เก็บตระกร้าเสื้อผ้าที่ใช้แล้วไปวางไว้หน้าห้องให้เขาก็แค่นั้นเอง
นีสรินพยักหน้าเข้าใจ แล้วลูล่าก็พานางไปในห้องเก็บของเล็กๆของแม่บ้านแล้วแนะนำเรื่องอุปกรณ์ใช้งานต่างๆเช่นเครื่องดูดฝุ่น และที่เก็บน้ำยาทำความสะอาดต่างๆ ผ้าที่ใช้งานในแต่ละห้อง จากนั้นก็สอนงานนางและมองดูนางเวลาทำความสะอาดห้องรับแขกและห้องนั่งเล่นนั้นตลอดในช่วงเช้าวันนั้น แม้นีสรินทำงานได้ไม่ค่อยคล่องแคล่วนักเพราะนางมิได้เคยรับใช้ใครมาก่อน เพียงแค่เคยทำงานบ้านในอพาร์ทเม้นท์ของตนเองแค่นั้น แต่ก็พอทำได้แม้จะเก้ๆ กัง ๆ พอถึงเวลาอาหารกลางวันก็พากันลงไปกินอาหารเที่ยงกันจนเรียบร้อย
ตอนช่วงบ่ายลูล่าก็ปล่อยให้นีสรินทำความสะอาดด้วยตนเอง เพราะนางคิดว่านีสรินพอทำได้ แม้ไม่คล่องแคล้วแต่ก็พอจะทำได้ ถ้าหากทำงานไปนานเข้าก็คงจะคล่องแคล่วขึ้นมาเอง นีสรินทำความสะอาดห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น และห้องหนังสือจนเรียบร้อยนางก็เดินเลยไปแถวหน้าห้องนอนใหญ่และเล็กนั้นเพื่อฟังเสียงว่ามีใครอยู่ในห้องนั้นบ้าง นางแนบหูฟังทีี่ห้องนอนเล็กก่อนมันเงียบสนิทและคงไม่อยู่ใครอยู่ด้านในนั้น
นางจึงเปิดประตูห้องนอนเล็กเข้าไป ก็พบท่านชีคหนุ่มกำลังเปลือยกายล้อนจ้อนและกำลังก้มลงดูดดึงยอดอกอวบของหญิงผู้หนึ่งอยู่ เมื่อนีสรินเปิดประตูห้องเข้าไปนั้น ร่างล่ำสันเต็มไปด้วยมัดกล้ามก็เงยหน้าขึ้นมองตรงมาที่นาง คิ้วหนาข้างหนึ่งของเขาเลิกขึ้นสูง แต่ก็ก้มลงไล้เลียยอดอกนั้นต่อ แต่ดวงตาคมดุจเหยี่ยวนั้นกลับมองมาที่ใบหน้าหวานของนีสรินนิ่ง หญิงใต้ร่างของเขาร้องครางเบาๆ เอามือของนางอุดปากตนเองไว้แน่น ส่วนนีสรินที่ยืนอึ้งก็ยกมืออุดปากตนเองเช่นกัน
ชีคหนุ่มยกริมฝีปากโค้งขึ้นน้อย ๆ ตายังคงมองไปที่นีสรินเขม็ง แล้วพูดขึ้นว่า “ เจ้าห้ามออกไปจากห้องชุดของข้า ให้ยืนรอข้าอยู่ที่หน้าห้องนอนนี่แหละ ข้าจะรู้เมื่อเจ้าไม่ทำตามคำสั่ง ออกไปยืนที่หน้าห้องแล้วปิดประตูลงด้วย หากข้าต้องการใช้งานเจ้าเมื่อไหร่จะเรียกเจ้าเอง ”
นีสรินเมื่อได้ยินนางก็รีบก้าวออกมาจากห้องนอนเล็กนั้นแล้วปิดประตูลงตามหลัง นางยกมือบางกุมที่อกเอาไว้ หัวใจเต้นตึกตักอย่างห้ามไม่อยู่ “ เจ้าโรคจิต เจ้าบ้า กำลังทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ แต่ให้ข้ายืนรอเจ้าที่หน้าห้องนี่เนี๊ยะนะ บ้า โรคจิตจริงๆเลย ” นางบ่นพึมพำเบาๆ
แต่นีสรินก็มิกล้าขัดคำสั่งเขา ได้แต่ยืนรอที่หน้าห้องนอนเล็กนั้น เวลาผ่านไปเพียงครู่นางก็ได้ยินเสียงครางกระเส่าของหญิงผู้นั้น และเสียงเนื้อกระทบเนื้อ ผสานไปกับเสียงเตียงกระทบผนัง และตามมาด้วยเสียงคำรามก้องของบุรุษ นีสรินครุ่นคิดในใจ เจ้าชีคนี่ท่าจะโรคจิตเสียแล้ว ต้องมากลั่นแกล้งให้นางยืนรอเขาทำกิจกรรมกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ เขาบ้ามันจริงๆ เลย
นางต้องยืนทนฟังเสียงร่วมรักนั้น ที่มันดังขึ้นเรื่อย ๆ ฟังดูก็รู้ว่าทั้งสองสุขสมกันขนาดไหน หญิงผู้นั้นกรีดร้องเสียงดัง เป็นระยะ สลับกับครวญครางอย่างสุขสม นีสรินพลอยรู้สึกวาบหวามไปด้วย ใบหน้าสวยคมแดงระเรื่อ แต่นางพยายามสลัดความรู้สึกนี้ทิ้งไป
นางอยากจะหนีไปจากที่บ้า ๆ นี้เหลือเกิน จะทำเช่นไรดีนะ จะได้ไม่ต้องทนอยู่ที่นี่ ใกล้ชิดกับเจ้าชีคโรคจิตผู้นี้ แต่เขาจับนางมาเพื่อกลั่นแกล้งมันก็ต้องเป็นเช่นนี้แหละ
เมื่อคิดได้นีสรินก็เชิดหน้าขึ้น นางจะอดทนทำเป็นเย็นชาไม่รู้ไม่ชี้ไม่รู้สึกอับอายอย่างที่เจ้าชีคนี่ต้องการให้นางเป็นอย่างแน่นอน เมื่อคิดวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้นางก็สบายใจขึ้น คิดเสียว่าดูหนังติดเรทฟรีก็แล้วกัน ไม่ต้องเสียเงิน และได้เห็นชัดเจนยิ่งกว่าในหนังเสียอีก เมื่อคิดได้นีสรินก็หัวเราะเบา ๆ อย่างพยายามผ่อนคลายความตึงเครียดของตนเอง
เมื่อผ่านไปเกือบชั่วโมง เจ้าชีคนั่นก็เรียกนางเสียงดังออกมาจากห้องนอนเล็กนั้น นีสรินจึงเปิดประตูเข้าไป ทำหน้าตาเฉยชา แล้วเอ่ยถามเขาว่าต้องการให้นางรับใช้อะไร ชีคหนุ่มเลิกคิ้ว แล้วกวักมือเรียกนางเข้าไปใกล้ๆ เขา นีสรินเดินเข้าไป นางทำเป็นใจกล้าแต่ที่จริงก็กลัวเจ้าหมอนี่อยู่ไม่น้อย
เมื่อเดินเข้าไปใกล้เตียงแล้ว เสียงทุ้มของชีคหนุ่มก็ดังขึ้น “ มีอา เจ้าเสร็จกิจแล้วก็รีบออกไปจากห้องนี้เสีย ข้าจะให้ทาสผู้นี้ทำความสะอาดห้องนี้ให้เรียบร้อย ” หญิงร่างอวบอัดนั้นรับคำเบาๆ แล้วก็ก้าวออกไปจากห้อง ก่อนออกไปนางชำเลืองมองมาทางนีสรินเล็กน้อยอย่างสนใจ
จากนั้นร่างล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นๆ ไปทั้งร่างก็ลุกขึ้นแล้วก้าวลงจากเตียงนอนใหญ่นั้น เขาเดินกายเปลือยเปล่ามิได้อนาทรร้อนใจที่นีสรินจ้องมาอย่างตะลึงงันอยู่ตรงหน้า ดวงตาของนางโตจนแทบจะถลนออกมา โอ้ว !! แม่เจ้า นางคิดว่าพระเอกหนังเอวีน่าจะต้องอายเจ้าหมอนี่ นิสรินครุ่นคิด นางมีมารดาที่เป็นชาวไทยและได้รับการเลี้ยงดูจากมารดามาหลายปีก่อนที่มารดาจะย้ายกลับไปอยู่เมืองไทย หลังจากท่านชีคบิดาของนางและท่านพี่อมานเสียชีวิตลงไป นางจึงมีหลายอย่างทั้งภาษาพูดและนิสัยใจคอดังเช่นมารดาของนาง “ เอาละ ลงมือทำความสะอาดห้องนี้ให้เรียบร้อย ข้าจะไปอาบน้ำ ” จากนั้นเขาก็ก้าวออกจากห้องนี้ไป นีสรินเบะปากมองบนเล็กน้อย ฮึ !! ชีวิตท่านหญิงอย่างฉันต้องมาทำงานเป็นแม่บ้านโรงแรมเช่นนั้นหรือ แล้วนางก็เท้าสะเอว ถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างระบายความหงุดหงิดนั้น แล้วลงมือเก็บเตียงของเจ้าชีคหนุ่มนั่นกับแม่นางบำเรอร่างอวบอัดที่ทำไว้เสียยุ่งเหยิงเละเทะไม่น้อย นางเดินออกไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดและถุงมือขึ้นมาสวมแล้วลงมือเก็บผ้าปูเตียงและปลอกหมอนใบใหญ่นั้นโยนใส่ตระกร้าผ้าเพื่อจะนำไปส่งซักอีกที แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าใ
แล้วก้มลงหยิบเสื้อชั้นในที่หล่นอยู่บนพื้นห้องขึ้น แล้วรีบวิ่งออกไปจากห้องของชีคหนุ่มทันที ชีีคหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่งเหยียดยิ้มออกมา เขากำลังจะได้ลิ้มรสเหยื่อสาวเนื้อหวานจนน่าลิ้มลองอยู่แล้วเชียว แต่ไม่เป็นไร วันนี้เขาหมดอารมณ์แล้ว ไว้คราวหลังค่อยจัดการนางก็ยังไม่สายชีคหนุ่มจึงลุกขึ้นไปผลัดเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแล้ว จึงได้ก้าวเดินออกไปจากห้องนอนของเขา แล้วเดินลงไปที่ห้องทำงานด้านล่างแทน เมื่อเดินเข้าไปในห้องนอนพบอาหมัด องครักษ์ของเขานั่งรออยู่และบอกมีเอกสารด่่วนที่ต้องการให้เขาพิจารณาในวันนี้หลายฉบับ ชีคหนุ่มจึงนั่งลงบนโต๊ะทำงานและลงมืออ่านเอกสารตรงหน้าทันที ฝ่ายนีสรินวิ่งลนลานออกมาจากห้องนอนของชีคหนุ่ม นางออกไปยืนตัวสั่นที่หน้าห้องของชีคหนุ่มเพื่อตั้งสติอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็รีบเดินอย่างเร่งรีบกลับห้องพักของนางเพื่อตั้งสติก่อน นางตกใจกับเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นเร็วมาก และตกใจกับปฏิกิริยาของตนเองด้วยที่ยินยอมชีคหนุ่มอย่างง่ายดาย นางเหมือนเคลิบเคลิ้มหลงลืมไปสิ้นว่านางมาที่นี่เพราะอะไร และเขาคือใคร นางกำมือเย็นชืดของตนเองแน่น เร่งรีบเดินกลับห้องพักให้เร็วที่สุด เมื่อเปิดประตูห้องพักน้อยนั้
วันต่อมา ขณะที่นีสรินกำลังจะเดินขึ้นบันไดโค้งเพื่อไปทำความสะอาดห้องของชีคหนุ่ม แม้นางไม่ได้อยากจะไปเลยก็ตามเพราะนางเกรงว่านางจะไม่รอดเงื้อมมือของเขา แต่ก็ไม่สามารถจะทำอย่างไรได้ ก็คงจะต้องแล้วแต่โชคชะตาและวันนั้นเขาอาจจะแค่แกล้งนางเล่นก็เป็นได้ ขณะที่กำลังจะก้าวเดินขึ้นบันไดไป ก็ได้ยินเสียงร้องเรียกดังขึ้นทางด้านหลัง “ นี่เจ้า ท่านชีคลงมาจากข้างบนแล้วหรือไม่ ” นีสรินจึงได้หันไปตามเสียงนั้น แต่นางก็ไม่แน่ใจว่าเสียงทุ้มนั่นเขาพูดกับนางหรือไม่ แต่เมื่อหันไปสบตากับชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมเค้ม ดวงตาของเขามีแววขี้เล่นอยู่ในนั้น และคนผู้นี้ก็ดูท่าทางดีการแต่งกายหรูหราคงไม่ใช่คนรับใช้ในตำหนักนี้อย่างแน่นอน “ ท่านถามข้าใช่หรือไม่ ” นางถามเขาให้แน่ใจ “ ใช่สิ ในห้องนี้ไม่มีคนอื่นนอกจากเจ้า ข้าก็ต้องถามเจ้าแน่นอนอยู่แล้ว ” นีสรินอึ้งงันไป นางมองไปรอบๆ มันก็จริงอย่างที่เขาว่า “ ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าท่านชีคลงมาจากด้านบนแล้วหรือยังเจ้าคะ เพราะข้าเพิ่งเดินมาจากทางด้านหลังกำลังจะขึ้นไปทำความสะอาดห้องพักด้านบน ” สีหน้าแปลกใจฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างเห็นได้ชัด “ เจ้าคือสาวใช้ของตำหนักน
นีสรินลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องแห่งหนึ่ง ข้อมือทั้งสองถูกมัดไขว้ไว้ด้านหลัง นางนอนอยู่บนพื้นเย็นเฉียบ ปากของนางตอนนี้เป็นอิสระพอที่จะหายใจได้สะดวกแล้ว เรานางจำได้ว่าตอนที่ถูกจับตัวมาโดยที่นางถูกมือปริศนาเอาผ้าที่มีกลิ่นแปลก ๆ มาปิดปากนางจากทางด้านหลัง ขณะที่นางกำลังเดินชมข้าวของที่ตลาดกลางเมืองที่คึกคักไปด้วยผู้คน แต่เมื่อนางกำลังมองหาร้านชาดีๆเพื่อจะดื่มชาเย็นๆขณะที่อากาศกำลังร้อนเปรี้ยงนั้น นางมองเห็นไกลๆว่ามีร้านชาขึ้นชื่อที่ดูแล้วน่าจะอร่อย นางจึงพยายามเดินแทรกผู้คนที่คับคั่งนั้นผ่านไปจนใกล้จะถึงร้านชาแห่งนั้น แต่เมื่อก้าวเดินผ่านมุมตึกที่กำลังจะถึงร้านชาอีกไม่ไกลนั้น ก็มีมือหนาๆ เอื้อมมาปิดปากของนางทันทีจากทางด้านหลัง มือนั้นมีผ้าผืนเล็กๆอยู่ในมือ นางได้กลิ่นแปลกๆ จากผ้าผืนนั้นแล้วโลกก็มืดมนลงไปทันทีรู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนที่นอนอยู่ด้านหลังรถคันหนึ่ง และนางนอนอยู่บนพื้นเหล็กแข็งๆ มือทั้งสองข้างถูกมัดไว้ที่ด้านหลัง ปากก็ถูกผ้าปิดเอาไว้ นางได้แต่ร้องอึกอักอยู่ในลำคอ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่ารถกำลังวิ่งด้วยความเร็วพอสมควร และทางที่รถผ่านนั้นมันก็น่าจะขรุขระอยู่พอสมควรเพราะรถวิ่งกระเด้งกระ
บทที่ 2นีสรินอึ้งงันไปกับวาจาของชีคหนุ่มแต่นางก็มิสามารถเอ่ยคัดค้านอะไรได้ นางก็รู้คำสั่งของชีคคือที่สุดแล้วมิอาจมีผู้ใดคัดค้านได้ นางจึงหุบปากที่กำลังจะเผยอขึ้นต่อรองนั้น อัลมาหันมามองนีสรีนแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ เอาละเจ้าคงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ข้าเข้าใจเจ้าที่มิได้เป็นผู้กระทำผิด แต่เมื่อท่านชีคตัดสินใจแล้วเจ้าคงต้องทำตามอย่างมิมีข้อต่อรองใดๆทั้งสิ้น ลุกขึ้นแล้วเดินตามข้าไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายของนางทาส พรุ่งนี้ก็เริ่มมาทำงานตามหน้าที่ของเจ้า ในตำหนักแห่งนี้ม่ีวงจรปิดแทบทุกจุด เจ้าคงจะหลบหนีออกไปมิได้ง่ายๆหรอก เพราะฉะนั้นยอมทำตามคำสั่งเสียจะดีกว่า หากเจ้าว่านอนสอนง่ายไม่ทำเรื่องวุ่นวาย ก็ไม่แน่นะ อีกไม่นานถ้าท่านชีคใจอ่อนอาจจะยอมปล่อยตัวของเจ้ากลับไปดีๆก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นจงทำตัวดีๆ และทำตามคำสั่งท่านชีค อย่าให้บกพร่องก็แล้วกัน ” จากนั้นอัลมาก็เดินออกไปจากห้องโถงใหญ่นั้น นีสรินตอนนี้ยังมึนกับเหตุการณ์ที่เพิ่งได้รับรู้มาใหม่ ๆ นางจึงได้แต่เดินตามอัลมาไปโดยมีสาวใช้ร่างใหญ่สองนางนั้นเดินตามหลังมาติดๆ เมื่อทั้งสองเดินไปตามทางเดินที่ทอดยาวผ่านห้องหับหลายๆห้องและทางแยกไปยังห้องที
เมื่อนีสรินได้ยินดังนั้นนางก็กลับหลังหันเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าใบเล็กนั้น เมื่อเปิดออกดูพบเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวแขวนไว้หนึ่งตัวในนั้น และมีอีกตัวอยู่ในถุงที่วางด้านล่างของตู้ นางจึงเดินกลับที่หน้าห้องแล้วเอ่ยว่า " ขอบใจเจ้ามากนะ ข้าหามันพบแล้ว “ นีสรินยื่นมือไปรับถาดอาหารนั้นมาวางบนโต๊ะปลายเตียง ลียาเห็นคนตรงหน้าวางถาดลงบนโต๊ะแล้ว จึงได้บอกต่อไปว่า ” หากเจ้ากินอาหารเสร็จแล้ว ก็เดินเอาถาดไปไว้ที่โรงครัวที่อยู่ติดกับห้องอาหาร เดินกลับไปตามทางที่เจ้าเดินเข้ามา แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายมือก็พบแล้ว จะได้สำรวจมันเอาไว้ พรุ่งนี้เจ้าต้องออกไปกินอาหารที่นั่น แล้วจะได้ไปทำงานตามหน้าที่ของแต่ละคนมื้อกลางวันก็มากินเช่นเดิม ส่วนมื้อเย็นก็เช่นกันให้มากินให้ตรงเวลาเพราะหากเลยเวลามากไป พวกเขาก็จะเก็บอาหารไป แล้วเราก็จะอดกินอาหารมื้อนั้นไปเลย ข้าบอกเจ้าไว้ก่อนเผื่อเจ้าไม่รู้ ทำงานเลยเวลาอาหารก็จะอดกิน คนรับใช้อย่างเรา มันมีทางเลือกไม่มากนัก ทำอะไรเพื่อตนเองได้ก็ต้องทำ ไม่มีใครมาสนใจเราหรอกว่าเราจะได้กินอิ่มท้องหรือไม่ หรือทำงานเหนื่อยไปหรือไม่ เจ้าต้้องใช้ไหวพริบช่วยตนเอง เอาละข้าพูดมากไปเสียแล้ว ต้อ
วันต่อมา ขณะที่นีสรินกำลังจะเดินขึ้นบันไดโค้งเพื่อไปทำความสะอาดห้องของชีคหนุ่ม แม้นางไม่ได้อยากจะไปเลยก็ตามเพราะนางเกรงว่านางจะไม่รอดเงื้อมมือของเขา แต่ก็ไม่สามารถจะทำอย่างไรได้ ก็คงจะต้องแล้วแต่โชคชะตาและวันนั้นเขาอาจจะแค่แกล้งนางเล่นก็เป็นได้ ขณะที่กำลังจะก้าวเดินขึ้นบันไดไป ก็ได้ยินเสียงร้องเรียกดังขึ้นทางด้านหลัง “ นี่เจ้า ท่านชีคลงมาจากข้างบนแล้วหรือไม่ ” นีสรินจึงได้หันไปตามเสียงนั้น แต่นางก็ไม่แน่ใจว่าเสียงทุ้มนั่นเขาพูดกับนางหรือไม่ แต่เมื่อหันไปสบตากับชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมเค้ม ดวงตาของเขามีแววขี้เล่นอยู่ในนั้น และคนผู้นี้ก็ดูท่าทางดีการแต่งกายหรูหราคงไม่ใช่คนรับใช้ในตำหนักนี้อย่างแน่นอน “ ท่านถามข้าใช่หรือไม่ ” นางถามเขาให้แน่ใจ “ ใช่สิ ในห้องนี้ไม่มีคนอื่นนอกจากเจ้า ข้าก็ต้องถามเจ้าแน่นอนอยู่แล้ว ” นีสรินอึ้งงันไป นางมองไปรอบๆ มันก็จริงอย่างที่เขาว่า “ ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าท่านชีคลงมาจากด้านบนแล้วหรือยังเจ้าคะ เพราะข้าเพิ่งเดินมาจากทางด้านหลังกำลังจะขึ้นไปทำความสะอาดห้องพักด้านบน ” สีหน้าแปลกใจฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างเห็นได้ชัด “ เจ้าคือสาวใช้ของตำหนักน
แล้วก้มลงหยิบเสื้อชั้นในที่หล่นอยู่บนพื้นห้องขึ้น แล้วรีบวิ่งออกไปจากห้องของชีคหนุ่มทันที ชีีคหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่งเหยียดยิ้มออกมา เขากำลังจะได้ลิ้มรสเหยื่อสาวเนื้อหวานจนน่าลิ้มลองอยู่แล้วเชียว แต่ไม่เป็นไร วันนี้เขาหมดอารมณ์แล้ว ไว้คราวหลังค่อยจัดการนางก็ยังไม่สายชีคหนุ่มจึงลุกขึ้นไปผลัดเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแล้ว จึงได้ก้าวเดินออกไปจากห้องนอนของเขา แล้วเดินลงไปที่ห้องทำงานด้านล่างแทน เมื่อเดินเข้าไปในห้องนอนพบอาหมัด องครักษ์ของเขานั่งรออยู่และบอกมีเอกสารด่่วนที่ต้องการให้เขาพิจารณาในวันนี้หลายฉบับ ชีคหนุ่มจึงนั่งลงบนโต๊ะทำงานและลงมืออ่านเอกสารตรงหน้าทันที ฝ่ายนีสรินวิ่งลนลานออกมาจากห้องนอนของชีคหนุ่ม นางออกไปยืนตัวสั่นที่หน้าห้องของชีคหนุ่มเพื่อตั้งสติอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็รีบเดินอย่างเร่งรีบกลับห้องพักของนางเพื่อตั้งสติก่อน นางตกใจกับเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นเร็วมาก และตกใจกับปฏิกิริยาของตนเองด้วยที่ยินยอมชีคหนุ่มอย่างง่ายดาย นางเหมือนเคลิบเคลิ้มหลงลืมไปสิ้นว่านางมาที่นี่เพราะอะไร และเขาคือใคร นางกำมือเย็นชืดของตนเองแน่น เร่งรีบเดินกลับห้องพักให้เร็วที่สุด เมื่อเปิดประตูห้องพักน้อยนั้
จากนั้นร่างล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นๆ ไปทั้งร่างก็ลุกขึ้นแล้วก้าวลงจากเตียงนอนใหญ่นั้น เขาเดินกายเปลือยเปล่ามิได้อนาทรร้อนใจที่นีสรินจ้องมาอย่างตะลึงงันอยู่ตรงหน้า ดวงตาของนางโตจนแทบจะถลนออกมา โอ้ว !! แม่เจ้า นางคิดว่าพระเอกหนังเอวีน่าจะต้องอายเจ้าหมอนี่ นิสรินครุ่นคิด นางมีมารดาที่เป็นชาวไทยและได้รับการเลี้ยงดูจากมารดามาหลายปีก่อนที่มารดาจะย้ายกลับไปอยู่เมืองไทย หลังจากท่านชีคบิดาของนางและท่านพี่อมานเสียชีวิตลงไป นางจึงมีหลายอย่างทั้งภาษาพูดและนิสัยใจคอดังเช่นมารดาของนาง “ เอาละ ลงมือทำความสะอาดห้องนี้ให้เรียบร้อย ข้าจะไปอาบน้ำ ” จากนั้นเขาก็ก้าวออกจากห้องนี้ไป นีสรินเบะปากมองบนเล็กน้อย ฮึ !! ชีวิตท่านหญิงอย่างฉันต้องมาทำงานเป็นแม่บ้านโรงแรมเช่นนั้นหรือ แล้วนางก็เท้าสะเอว ถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างระบายความหงุดหงิดนั้น แล้วลงมือเก็บเตียงของเจ้าชีคหนุ่มนั่นกับแม่นางบำเรอร่างอวบอัดที่ทำไว้เสียยุ่งเหยิงเละเทะไม่น้อย นางเดินออกไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดและถุงมือขึ้นมาสวมแล้วลงมือเก็บผ้าปูเตียงและปลอกหมอนใบใหญ่นั้นโยนใส่ตระกร้าผ้าเพื่อจะนำไปส่งซักอีกที แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าใ
รุ่งเช้าวันต่อไป นีสรินสะดุ้งตื่นขึ้นมา นางลืมไปว่าตนเองไม่มีนาฬิกาไว้ดูเวลาจึงคิดว่าวันนี้จะไปหามาสักเรือนหนึ่งเพราะตอนเช้าตื่นขึ้นมาไม่รู้ว่าเวลากี่โมงแล้ว นางรีบหยิบของใช้ส่วนตัวและสวมเสื้อคลุมแล้วรีบไปอาบน้ำทันที เมื่ออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็กลับมาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายชุดใหม่ที่เป็นเครื่องแบบของคนรับใช้ที่ตำหนักนี้ ที่ใส่คล้ายๆกันทุกคน เมื่อแต่งกายเรียบร้อย นีสรินก็รีบออกไปจากห้องนี้แล้วปิดประตูไว้ นางไม่มีกุญแจจะล็อคห้องและก็ไม่มีของมีค่าในห้องนอนน้อยนี้ จึงคิดว่าคงมิเป็นไร จากนั้นนางก็เดินตรงไปตามทางที่ตรงไปห้องอาหารก่อนเพื่อรีบกินอาหารเช้าก่อน แล้วค่อยไปทำงานที่ได้รับคำสั่งมา นีสรินเดินเข้ามาในห้องอาหารนางเห็นถาดใส่อาหารที่เป็นถาดหลุมวางเรียงรายบนโต๊ะใหญ่นั้น นีสรินเห็นคนอื่นๆเริ่มทะยอยมากินอาหารกันบ้างแล้วนางจึงหยิบถาดอาหารตรงหน้า แล้วหยิบแซนวิซที่วางเรียงไว้ใส่ไปในถาดอีกหนึ่งชิ้น แล้วเดินไปรินกาแฟใส่ถ้วย แล้วนำไปนั่งกินที่มุมหนึ่ง นางค่อยๆกินอาหารตรงหน้าที่เป็นแป้งพิต้ากับซุปถั่วลูกไก่ และแซนวิสแฮมชีสที่นางหยิบมาเพิ่ม แล้วยกกาแฟขึ้นจิบช้าๆ เมื่อท้องอิ่มอารมณ์ก็ดีขึ้
เมื่อนีสรินได้ยินดังนั้นนางก็กลับหลังหันเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าใบเล็กนั้น เมื่อเปิดออกดูพบเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวแขวนไว้หนึ่งตัวในนั้น และมีอีกตัวอยู่ในถุงที่วางด้านล่างของตู้ นางจึงเดินกลับที่หน้าห้องแล้วเอ่ยว่า " ขอบใจเจ้ามากนะ ข้าหามันพบแล้ว “ นีสรินยื่นมือไปรับถาดอาหารนั้นมาวางบนโต๊ะปลายเตียง ลียาเห็นคนตรงหน้าวางถาดลงบนโต๊ะแล้ว จึงได้บอกต่อไปว่า ” หากเจ้ากินอาหารเสร็จแล้ว ก็เดินเอาถาดไปไว้ที่โรงครัวที่อยู่ติดกับห้องอาหาร เดินกลับไปตามทางที่เจ้าเดินเข้ามา แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายมือก็พบแล้ว จะได้สำรวจมันเอาไว้ พรุ่งนี้เจ้าต้องออกไปกินอาหารที่นั่น แล้วจะได้ไปทำงานตามหน้าที่ของแต่ละคนมื้อกลางวันก็มากินเช่นเดิม ส่วนมื้อเย็นก็เช่นกันให้มากินให้ตรงเวลาเพราะหากเลยเวลามากไป พวกเขาก็จะเก็บอาหารไป แล้วเราก็จะอดกินอาหารมื้อนั้นไปเลย ข้าบอกเจ้าไว้ก่อนเผื่อเจ้าไม่รู้ ทำงานเลยเวลาอาหารก็จะอดกิน คนรับใช้อย่างเรา มันมีทางเลือกไม่มากนัก ทำอะไรเพื่อตนเองได้ก็ต้องทำ ไม่มีใครมาสนใจเราหรอกว่าเราจะได้กินอิ่มท้องหรือไม่ หรือทำงานเหนื่อยไปหรือไม่ เจ้าต้้องใช้ไหวพริบช่วยตนเอง เอาละข้าพูดมากไปเสียแล้ว ต้อ
บทที่ 2นีสรินอึ้งงันไปกับวาจาของชีคหนุ่มแต่นางก็มิสามารถเอ่ยคัดค้านอะไรได้ นางก็รู้คำสั่งของชีคคือที่สุดแล้วมิอาจมีผู้ใดคัดค้านได้ นางจึงหุบปากที่กำลังจะเผยอขึ้นต่อรองนั้น อัลมาหันมามองนีสรีนแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ เอาละเจ้าคงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ข้าเข้าใจเจ้าที่มิได้เป็นผู้กระทำผิด แต่เมื่อท่านชีคตัดสินใจแล้วเจ้าคงต้องทำตามอย่างมิมีข้อต่อรองใดๆทั้งสิ้น ลุกขึ้นแล้วเดินตามข้าไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายของนางทาส พรุ่งนี้ก็เริ่มมาทำงานตามหน้าที่ของเจ้า ในตำหนักแห่งนี้ม่ีวงจรปิดแทบทุกจุด เจ้าคงจะหลบหนีออกไปมิได้ง่ายๆหรอก เพราะฉะนั้นยอมทำตามคำสั่งเสียจะดีกว่า หากเจ้าว่านอนสอนง่ายไม่ทำเรื่องวุ่นวาย ก็ไม่แน่นะ อีกไม่นานถ้าท่านชีคใจอ่อนอาจจะยอมปล่อยตัวของเจ้ากลับไปดีๆก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นจงทำตัวดีๆ และทำตามคำสั่งท่านชีค อย่าให้บกพร่องก็แล้วกัน ” จากนั้นอัลมาก็เดินออกไปจากห้องโถงใหญ่นั้น นีสรินตอนนี้ยังมึนกับเหตุการณ์ที่เพิ่งได้รับรู้มาใหม่ ๆ นางจึงได้แต่เดินตามอัลมาไปโดยมีสาวใช้ร่างใหญ่สองนางนั้นเดินตามหลังมาติดๆ เมื่อทั้งสองเดินไปตามทางเดินที่ทอดยาวผ่านห้องหับหลายๆห้องและทางแยกไปยังห้องที
นีสรินลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องแห่งหนึ่ง ข้อมือทั้งสองถูกมัดไขว้ไว้ด้านหลัง นางนอนอยู่บนพื้นเย็นเฉียบ ปากของนางตอนนี้เป็นอิสระพอที่จะหายใจได้สะดวกแล้ว เรานางจำได้ว่าตอนที่ถูกจับตัวมาโดยที่นางถูกมือปริศนาเอาผ้าที่มีกลิ่นแปลก ๆ มาปิดปากนางจากทางด้านหลัง ขณะที่นางกำลังเดินชมข้าวของที่ตลาดกลางเมืองที่คึกคักไปด้วยผู้คน แต่เมื่อนางกำลังมองหาร้านชาดีๆเพื่อจะดื่มชาเย็นๆขณะที่อากาศกำลังร้อนเปรี้ยงนั้น นางมองเห็นไกลๆว่ามีร้านชาขึ้นชื่อที่ดูแล้วน่าจะอร่อย นางจึงพยายามเดินแทรกผู้คนที่คับคั่งนั้นผ่านไปจนใกล้จะถึงร้านชาแห่งนั้น แต่เมื่อก้าวเดินผ่านมุมตึกที่กำลังจะถึงร้านชาอีกไม่ไกลนั้น ก็มีมือหนาๆ เอื้อมมาปิดปากของนางทันทีจากทางด้านหลัง มือนั้นมีผ้าผืนเล็กๆอยู่ในมือ นางได้กลิ่นแปลกๆ จากผ้าผืนนั้นแล้วโลกก็มืดมนลงไปทันทีรู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนที่นอนอยู่ด้านหลังรถคันหนึ่ง และนางนอนอยู่บนพื้นเหล็กแข็งๆ มือทั้งสองข้างถูกมัดไว้ที่ด้านหลัง ปากก็ถูกผ้าปิดเอาไว้ นางได้แต่ร้องอึกอักอยู่ในลำคอ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่ารถกำลังวิ่งด้วยความเร็วพอสมควร และทางที่รถผ่านนั้นมันก็น่าจะขรุขระอยู่พอสมควรเพราะรถวิ่งกระเด้งกระ