รุ่งเช้าวันต่อไป นีสรินสะดุ้งตื่นขึ้นมา นางลืมไปว่าตนเองไม่มีนาฬิกาไว้ดูเวลาจึงคิดว่าวันนี้จะไปหามาสักเรือนหนึ่งเพราะตอนเช้าตื่นขึ้นมาไม่รู้ว่าเวลากี่โมงแล้ว นางรีบหยิบของใช้ส่วนตัวและสวมเสื้อคลุมแล้วรีบไปอาบน้ำทันที เมื่ออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็กลับมาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายชุดใหม่ที่เป็นเครื่องแบบของคนรับใช้ที่ตำหนักนี้ ที่ใส่คล้ายๆกันทุกคน เมื่อแต่งกายเรียบร้อย นีสรินก็รีบออกไปจากห้องนี้แล้วปิดประตูไว้ นางไม่มีกุญแจจะล็อคห้องและก็ไม่มีของมีค่าในห้องนอนน้อยนี้ จึงคิดว่าคงมิเป็นไร
จากนั้นนางก็เดินตรงไปตามทางที่ตรงไปห้องอาหารก่อนเพื่อรีบกินอาหารเช้าก่อน แล้วค่อยไปทำงานที่ได้รับคำสั่งมา นีสรินเดินเข้ามาในห้องอาหารนางเห็นถาดใส่อาหารที่เป็นถาดหลุมวางเรียงรายบนโต๊ะใหญ่นั้น นีสรินเห็นคนอื่นๆเริ่มทะยอยมากินอาหารกันบ้างแล้ว
นางจึงหยิบถาดอาหารตรงหน้า แล้วหยิบแซนวิซที่วางเรียงไว้ใส่ไปในถาดอีกหนึ่งชิ้น แล้วเดินไปรินกาแฟใส่ถ้วย แล้วนำไปนั่งกินที่มุมหนึ่ง นางค่อยๆกินอาหารตรงหน้าที่เป็นแป้งพิต้ากับซุปถั่วลูกไก่ และแซนวิสแฮมชีสที่นางหยิบมาเพิ่ม แล้วยกกาแฟขึ้นจิบช้าๆ เมื่อท้องอิ่มอารมณ์ก็ดีขึ้นมากมาย นีสรินยกถาดไปล้างที่อ่างล้างจานขนาดใหญ่เช่นเดิม แล้วรีบเดินออกจากห้องอาหารนั้นไปรอที่หน้าห้องชุดของชีคหนุ่ม
อัลมาบอกไว้เมื่อวานว่าให้ไปรอที่หน้าห้องชุดจะมีคนมาสอนงานของนางว่าให้้ทำสิ่งไรบ้าง รออยู่สักครู่ก็มีสาวใช้ร่างใหญ่เดินเข้ามาหานางแล้วบอกว่า “ เอาละ ข้าจะเริ่มสอนงานของเจ้า ตอนนี้ท่านชีคยังไม่ออกมาจากห้องนอน เจ้าก็ไปทำความสะอาดบริเวณห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องหนังสือ และที่เหลืออยู่คือห้องนอนของท่านชีคและห้องน้ำที่เจ้าต้องเข้าไปทำความสะอาดภายหลัง แต่ข้าลืมไปห้องนอนมีสองห้อง มีห้องใหญ่ของท่านชีค และมีห้องนอนเล็กที่อยู่ข้างๆ กัน เจ้าต้องทำความสะอาดทั้งหมดนี้ เพียงคนเดียวในทุกวัน หากมีอะไรจะใช้งานเจ้าเพิ่มท่านชีคคงจะบอกเจ้าเอง ข้าชื่อ ลูล่า " หญิงร่างใหญ่ร่ายยาวถึงงานที่นีสรินต้องทำทั้งหมดและแนะนำตนเอง
" และมีอีกอย่าง หากท่านชีคยังไม่ได้เรียกเจ้าเข้าไปในห้องนอนก็มิต้องเข้าไป ในห้องนอนทั้งสองห้อง เพราะห้องนอนเล็กนั้น มักจะมีหญิงในฮาเร็มที่ท่านชีคเรียกขึ้นมาปรนนิบัติอยู่ในห้องเสมอ หากท่านชีคมีธุระยุ่งเจ้าก็อย่าไปรบกวน เพียงทำงานของตนเองในส่วนอื่นๆไปก่อน และเสื้อผ้าของท่านชีคที่ใช้แล้ว เจ้าก็นำตระกร้าออกไปวางไว้หน้าห้องจะมีคนมาเก็บไปซักรีดในทุกวัน แล้วสาวใช้ทีี่มีหน้าที่ดูแลเสื้อผ้าของท่านชีคก็จะนำมันไปแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้าเองทุกวัน ส่วนเจ้าแค่มีหน้าที่เก็บตระกร้าเสื้อผ้าที่ใช้แล้วไปวางไว้หน้าห้องให้เขาก็แค่นั้นเอง
นีสรินพยักหน้าเข้าใจ แล้วลูล่าก็พานางไปในห้องเก็บของเล็กๆของแม่บ้านแล้วแนะนำเรื่องอุปกรณ์ใช้งานต่างๆเช่นเครื่องดูดฝุ่น และที่เก็บน้ำยาทำความสะอาดต่างๆ ผ้าที่ใช้งานในแต่ละห้อง จากนั้นก็สอนงานนางและมองดูนางเวลาทำความสะอาดห้องรับแขกและห้องนั่งเล่นนั้นตลอดในช่วงเช้าวันนั้น แม้นีสรินทำงานได้ไม่ค่อยคล่องแคล่วนักเพราะนางมิได้เคยรับใช้ใครมาก่อน เพียงแค่เคยทำงานบ้านในอพาร์ทเม้นท์ของตนเองแค่นั้น แต่ก็พอทำได้แม้จะเก้ๆ กัง ๆ พอถึงเวลาอาหารกลางวันก็พากันลงไปกินอาหารเที่ยงกันจนเรียบร้อย
ตอนช่วงบ่ายลูล่าก็ปล่อยให้นีสรินทำความสะอาดด้วยตนเอง เพราะนางคิดว่านีสรินพอทำได้ แม้ไม่คล่องแคล้วแต่ก็พอจะทำได้ ถ้าหากทำงานไปนานเข้าก็คงจะคล่องแคล่วขึ้นมาเอง นีสรินทำความสะอาดห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น และห้องหนังสือจนเรียบร้อยนางก็เดินเลยไปแถวหน้าห้องนอนใหญ่และเล็กนั้นเพื่อฟังเสียงว่ามีใครอยู่ในห้องนั้นบ้าง นางแนบหูฟังทีี่ห้องนอนเล็กก่อนมันเงียบสนิทและคงไม่อยู่ใครอยู่ด้านในนั้น
นางจึงเปิดประตูห้องนอนเล็กเข้าไป ก็พบท่านชีคหนุ่มกำลังเปลือยกายล้อนจ้อนและกำลังก้มลงดูดดึงยอดอกอวบของหญิงผู้หนึ่งอยู่ เมื่อนีสรินเปิดประตูห้องเข้าไปนั้น ร่างล่ำสันเต็มไปด้วยมัดกล้ามก็เงยหน้าขึ้นมองตรงมาที่นาง คิ้วหนาข้างหนึ่งของเขาเลิกขึ้นสูง แต่ก็ก้มลงไล้เลียยอดอกนั้นต่อ แต่ดวงตาคมดุจเหยี่ยวนั้นกลับมองมาที่ใบหน้าหวานของนีสรินนิ่ง หญิงใต้ร่างของเขาร้องครางเบาๆ เอามือของนางอุดปากตนเองไว้แน่น ส่วนนีสรินที่ยืนอึ้งก็ยกมืออุดปากตนเองเช่นกัน
ชีคหนุ่มยกริมฝีปากโค้งขึ้นน้อย ๆ ตายังคงมองไปที่นีสรินเขม็ง แล้วพูดขึ้นว่า “ เจ้าห้ามออกไปจากห้องชุดของข้า ให้ยืนรอข้าอยู่ที่หน้าห้องนอนนี่แหละ ข้าจะรู้เมื่อเจ้าไม่ทำตามคำสั่ง ออกไปยืนที่หน้าห้องแล้วปิดประตูลงด้วย หากข้าต้องการใช้งานเจ้าเมื่อไหร่จะเรียกเจ้าเอง ”
นีสรินเมื่อได้ยินนางก็รีบก้าวออกมาจากห้องนอนเล็กนั้นแล้วปิดประตูลงตามหลัง นางยกมือบางกุมที่อกเอาไว้ หัวใจเต้นตึกตักอย่างห้ามไม่อยู่ “ เจ้าโรคจิต เจ้าบ้า กำลังทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ แต่ให้ข้ายืนรอเจ้าที่หน้าห้องนี่เนี๊ยะนะ บ้า โรคจิตจริงๆเลย ” นางบ่นพึมพำเบาๆ
แต่นีสรินก็มิกล้าขัดคำสั่งเขา ได้แต่ยืนรอที่หน้าห้องนอนเล็กนั้น เวลาผ่านไปเพียงครู่นางก็ได้ยินเสียงครางกระเส่าของหญิงผู้นั้น และเสียงเนื้อกระทบเนื้อ ผสานไปกับเสียงเตียงกระทบผนัง และตามมาด้วยเสียงคำรามก้องของบุรุษ นีสรินครุ่นคิดในใจ เจ้าชีคนี่ท่าจะโรคจิตเสียแล้ว ต้องมากลั่นแกล้งให้นางยืนรอเขาทำกิจกรรมกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ เขาบ้ามันจริงๆ เลย
นางต้องยืนทนฟังเสียงร่วมรักนั้น ที่มันดังขึ้นเรื่อย ๆ ฟังดูก็รู้ว่าทั้งสองสุขสมกันขนาดไหน หญิงผู้นั้นกรีดร้องเสียงดัง เป็นระยะ สลับกับครวญครางอย่างสุขสม นีสรินพลอยรู้สึกวาบหวามไปด้วย ใบหน้าสวยคมแดงระเรื่อ แต่นางพยายามสลัดความรู้สึกนี้ทิ้งไป
นางอยากจะหนีไปจากที่บ้า ๆ นี้เหลือเกิน จะทำเช่นไรดีนะ จะได้ไม่ต้องทนอยู่ที่นี่ ใกล้ชิดกับเจ้าชีคโรคจิตผู้นี้ แต่เขาจับนางมาเพื่อกลั่นแกล้งมันก็ต้องเป็นเช่นนี้แหละ
เมื่อคิดได้นีสรินก็เชิดหน้าขึ้น นางจะอดทนทำเป็นเย็นชาไม่รู้ไม่ชี้ไม่รู้สึกอับอายอย่างที่เจ้าชีคนี่ต้องการให้นางเป็นอย่างแน่นอน เมื่อคิดวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้นางก็สบายใจขึ้น คิดเสียว่าดูหนังติดเรทฟรีก็แล้วกัน ไม่ต้องเสียเงิน และได้เห็นชัดเจนยิ่งกว่าในหนังเสียอีก เมื่อคิดได้นีสรินก็หัวเราะเบา ๆ อย่างพยายามผ่อนคลายความตึงเครียดของตนเอง
เมื่อผ่านไปเกือบชั่วโมง เจ้าชีคนั่นก็เรียกนางเสียงดังออกมาจากห้องนอนเล็กนั้น นีสรินจึงเปิดประตูเข้าไป ทำหน้าตาเฉยชา แล้วเอ่ยถามเขาว่าต้องการให้นางรับใช้อะไร ชีคหนุ่มเลิกคิ้ว แล้วกวักมือเรียกนางเข้าไปใกล้ๆ เขา นีสรินเดินเข้าไป นางทำเป็นใจกล้าแต่ที่จริงก็กลัวเจ้าหมอนี่อยู่ไม่น้อย
เมื่อเดินเข้าไปใกล้เตียงแล้ว เสียงทุ้มของชีคหนุ่มก็ดังขึ้น “ มีอา เจ้าเสร็จกิจแล้วก็รีบออกไปจากห้องนี้เสีย ข้าจะให้ทาสผู้นี้ทำความสะอาดห้องนี้ให้เรียบร้อย ” หญิงร่างอวบอัดนั้นรับคำเบาๆ แล้วก็ก้าวออกไปจากห้อง ก่อนออกไปนางชำเลืองมองมาทางนีสรินเล็กน้อยอย่างสนใจ
จากนั้นร่างล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นๆ ไปทั้งร่างก็ลุกขึ้นแล้วก้าวลงจากเตียงนอนใหญ่นั้น เขาเดินกายเปลือยเปล่ามิได้อนาทรร้อนใจที่นีสรินจ้องมาอย่างตะลึงงันอยู่ตรงหน้า ดวงตาของนางโตจนแทบจะถลนออกมา โอ้ว !! แม่เจ้า นางคิดว่าพระเอกหนังเอวีน่าจะต้องอายเจ้าหมอนี่ นิสรินครุ่นคิด นางมีมารดาที่เป็นชาวไทยและได้รับการเลี้ยงดูจากมารดามาหลายปีก่อนที่มารดาจะย้ายกลับไปอยู่เมืองไทย หลังจากท่านชีคบิดาของนางและท่านพี่อมานเสียชีวิตลงไป นางจึงมีหลายอย่างทั้งภาษาพูดและนิสัยใจคอดังเช่นมารดาของนาง “ เอาละ ลงมือทำความสะอาดห้องนี้ให้เรียบร้อย ข้าจะไปอาบน้ำ ” จากนั้นเขาก็ก้าวออกจากห้องนี้ไป นีสรินเบะปากมองบนเล็กน้อย ฮึ !! ชีวิตท่านหญิงอย่างฉันต้องมาทำงานเป็นแม่บ้านโรงแรมเช่นนั้นหรือ แล้วนางก็เท้าสะเอว ถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างระบายความหงุดหงิดนั้น แล้วลงมือเก็บเตียงของเจ้าชีคหนุ่มนั่นกับแม่นางบำเรอร่างอวบอัดที่ทำไว้เสียยุ่งเหยิงเละเทะไม่น้อย นางเดินออกไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดและถุงมือขึ้นมาสวมแล้วลงมือเก็บผ้าปูเตียงและปลอกหมอนใบใหญ่นั้นโยนใส่ตระกร้าผ้าเพื่อจะนำไปส่งซักอีกที แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าใ
แล้วก้มลงหยิบเสื้อชั้นในที่หล่นอยู่บนพื้นห้องขึ้น แล้วรีบวิ่งออกไปจากห้องของชีคหนุ่มทันที ชีีคหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่งเหยียดยิ้มออกมา เขากำลังจะได้ลิ้มรสเหยื่อสาวเนื้อหวานจนน่าลิ้มลองอยู่แล้วเชียว แต่ไม่เป็นไร วันนี้เขาหมดอารมณ์แล้ว ไว้คราวหลังค่อยจัดการนางก็ยังไม่สายชีคหนุ่มจึงลุกขึ้นไปผลัดเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแล้ว จึงได้ก้าวเดินออกไปจากห้องนอนของเขา แล้วเดินลงไปที่ห้องทำงานด้านล่างแทน เมื่อเดินเข้าไปในห้องนอนพบอาหมัด องครักษ์ของเขานั่งรออยู่และบอกมีเอกสารด่่วนที่ต้องการให้เขาพิจารณาในวันนี้หลายฉบับ ชีคหนุ่มจึงนั่งลงบนโต๊ะทำงานและลงมืออ่านเอกสารตรงหน้าทันที ฝ่ายนีสรินวิ่งลนลานออกมาจากห้องนอนของชีคหนุ่ม นางออกไปยืนตัวสั่นที่หน้าห้องของชีคหนุ่มเพื่อตั้งสติอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็รีบเดินอย่างเร่งรีบกลับห้องพักของนางเพื่อตั้งสติก่อน นางตกใจกับเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นเร็วมาก และตกใจกับปฏิกิริยาของตนเองด้วยที่ยินยอมชีคหนุ่มอย่างง่ายดาย นางเหมือนเคลิบเคลิ้มหลงลืมไปสิ้นว่านางมาที่นี่เพราะอะไร และเขาคือใคร นางกำมือเย็นชืดของตนเองแน่น เร่งรีบเดินกลับห้องพักให้เร็วที่สุด เมื่อเปิดประตูห้องพักน้อยนั้
วันต่อมา ขณะที่นีสรินกำลังจะเดินขึ้นบันไดโค้งเพื่อไปทำความสะอาดห้องของชีคหนุ่ม แม้นางไม่ได้อยากจะไปเลยก็ตามเพราะนางเกรงว่านางจะไม่รอดเงื้อมมือของเขา แต่ก็ไม่สามารถจะทำอย่างไรได้ ก็คงจะต้องแล้วแต่โชคชะตาและวันนั้นเขาอาจจะแค่แกล้งนางเล่นก็เป็นได้ ขณะที่กำลังจะก้าวเดินขึ้นบันไดไป ก็ได้ยินเสียงร้องเรียกดังขึ้นทางด้านหลัง “ นี่เจ้า ท่านชีคลงมาจากข้างบนแล้วหรือไม่ ” นีสรินจึงได้หันไปตามเสียงนั้น แต่นางก็ไม่แน่ใจว่าเสียงทุ้มนั่นเขาพูดกับนางหรือไม่ แต่เมื่อหันไปสบตากับชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมเค้ม ดวงตาของเขามีแววขี้เล่นอยู่ในนั้น และคนผู้นี้ก็ดูท่าทางดีการแต่งกายหรูหราคงไม่ใช่คนรับใช้ในตำหนักนี้อย่างแน่นอน “ ท่านถามข้าใช่หรือไม่ ” นางถามเขาให้แน่ใจ “ ใช่สิ ในห้องนี้ไม่มีคนอื่นนอกจากเจ้า ข้าก็ต้องถามเจ้าแน่นอนอยู่แล้ว ” นีสรินอึ้งงันไป นางมองไปรอบๆ มันก็จริงอย่างที่เขาว่า “ ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าท่านชีคลงมาจากด้านบนแล้วหรือยังเจ้าคะ เพราะข้าเพิ่งเดินมาจากทางด้านหลังกำลังจะขึ้นไปทำความสะอาดห้องพักด้านบน ” สีหน้าแปลกใจฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างเห็นได้ชัด “ เจ้าคือสาวใช้ของตำหนักน
นีสรินตกใจที่อยู่ๆเขาก็เดินมาหาเรื่อง เธอไม่ได้คิดอะไรกับเพื่อนรักของเขาเสียหน่อย แค่จะเลียบเคียงถามเพื่อจะขอความช่วยเหลือแต่เขากลับคิดไปว่าเธอกำลังจะหว่านเสน่ห์เพื่อนของเขา คนบ้าบอ คิดไปได้อย่างไรกัน คนเพิ่งพบกันแค่ครั้งเดียว แต่เขากลับคิดไปไกลว่าเธออยากจะหว่านเสน่ห์ผู้ชายไปเสียได้ คนคิดอกุศลจริงๆ เลย “ ท่านชีค ข้าไม่ได้คิดจะหว่านเสน่ห์เพื่อนของท่านเสียหน่อย แต่ถึงจะหว่านเสน่ห์ใครก็ไม่เกี่ยวกับท่าน ข้ามีหัวใจเป็นของตัวเอง แม้กายจะเป็นทาสแต่หัวใจรักก็ยังเป็นของข้า จะสนใจใคร จะรักใคร จะหว่านเสน่ห์ใครไม่เห็นจะเกี่ยวกับท่านเสียหน่อย ” ชีคหนุ่มเมื่อได้ฟังคำพูดหยิ่งยะโสทั้งๆที่ตอนนี้ตัวเองเป็นลูกไก่ในกำมือผู่้อื่นนั้นยิ่งทำให้โมโห “ มันคงจะไม่เกี่ยวหรอกนะ ถ้าพี่ชายของเจ้าไม่ใช่ศัตรูตัวฉกาจของข้า และข้าไม่ไว้ใจเจ้า คิดจะหว่านเสน่ห์และหลอกลวงสหายของข้าเช่นนั้นหรือ อย่าคิดว่าข้าจะรู้ไม่ทันเจ้านะ นีสริน ” เขาเอ่ยจบก็ประกบจูบนีสรินทันที แต่นางพยายามเม้มปากเอาไว้เน่นไม่ยอมให้คนตรงหน้าสอดลิ้นสากของเขาเข้ามาได้อย่างแน่นอน เจ้าชีคบ้าตัณหา ตัวเองไม่ใช่ไว้ใจข้า เห็นว่าข้าเป็นน้องสาวของศัตรู
ยิ่งคิดว่าจะมีผู้ชายคนไหนมันเก็บเอานางไปฝัน เขายิ่งหวงแหน แต่พวกมันก็ได้เพียงแค่ฝัน แต่เขาสิ เขาจะทำให้นางเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว ยิ่งคิดจึงยิ่งทั้งฟอนเฟ้นทั้งดูดดื่มอกอวบใหญ่อย่างหนัก มือหนาเลื่อนฟอนเฟ้นไปมาจนแทบจะทั่วร่างอวบขาวที่เต็มไม้เต็มมือของเขาอย่างยิ่ง ขณะที่ทั้งสองหนุ่มสาวกำลังเคลิบเคลิ้มกับบทรักที่ชีคหนุ่มกำลังปรนเปรอร่างอวบของชายาเอกของเขาอยู่ในรถม้าที่บรรยากาศกำลังเร่าร้อนเต็มที่จนทั้งสองต่างหลงลืมไปสิ้นว่ากำลังอยู่ที่ไหน จู่ ๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “ ท่านชีคเพคะ ฟาร่าเข้าไปได้หรือไม่ ” เสียงหวานของฟาร่าดังขึ้นที่หน้าประตูห้อง และมันทำให้ชีีคหนุ่มหงุดหงิดกรุ่นขึ้นมาทันที สนมนางนี้ของเขาชักจะเหิมเกริมไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขา ใบหน้าหล่อที่กำลังก้มฟอนเฟ้นอกอวบตรงหน้าอย่างเมามันก็พลันต้องเงยหน้าขึ้น “ ฟาร่า ออกไป หากข้าไม่เรียกหาไม่ต้องเสนอหน้ามาพบข้า หากเจ้าไม่เชื่อฟังข้าจะให้เจ้าออกไปจากที่นี่ ” และเมื่อสิ้นสุดเสียงของชีคหนุ่ม เสียงที่หน้าประตูก็พลันเงียบมีเสียงฝีเท้าเบาๆเดินจากไปและทุกสิ่งก็พลันเงียบสงบลงดังเดิม นีสรินที่เริ่มตั้งสติได้นางลืืมตาที่หรี่ปรือเพราะ
นีสรินถอยหนีเขาแต่นางกลับหงายหลังลงไปบนฟูกหนานุ่มนั้นเสียเอง เพราะยังไม่คุ้นกับสถานที่ เมื่อหงายหลังลงไปและกำลังจะยกแขนขึ้นเพื่อผลักเขาให้ออกไป แต่ก็ถูกร่างหนานั้นกดร่างอวบของนางลงกับฟูกหนานุ่มนั้น จะยกขาเขาก็ใช้ท่อนขาแข็งแรงกดนางเอาไว้ นางพยายามดิ้นรนและจะใช้กำลังเท่าที่มีดันร่างหนาของเขาออกไป แต่นางถูกเขาทับเอาไว้ทั้งร่างอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันที่นางจะจัดการเขาดังเช่นที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะเขานั้นร่างกายสูงใหญ่กว่านางมากเขาคว้าร่างอวบของนีสรินเอาไว้ได้ และเลยไปดีึงทิ้งเสื้อผ้าเนื้อบางของนางจนฉีกขาดเป็นทางยาวและเขาก็กระชากนมันออกจากร่างอวบ บัดนี้ลำตัวด้านบนของนีสรินเปลือยเปล่า และกางเกงเอวรูดผ้าเนื้อบางเช่นเดียวกันถูกเขาดึงรั้งมันออกจนเลื่อนลงไปอยู่ที่ปลายเท้าทั้งสองข้า บัดนี้ร่างอวบนั้นเปลือยเปล่า เพราะเสื้อชั้นในเธอไม่ได้สวม ส่วนกางเกงชั้นในตัวจิ่วนั้นมันติดไปกับกางเกงที่ถูกเขาดึงรั้งลงไป ปลายถันสีชมพูที่สั่นระริกอยู่บนเต้าหวานอวบใหญ่ มันไหวสะท้านเพราะนางหายใจเข้าออกอย่างแรงเพราะตกใจที่ตอนนี้นางตกเป็นเบี้ยล่างเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว นั่นทำให้ตบะของชีคหนุ่มขาดสะบั้น ชีคหน
“ ข้าร่าน ร่านเหลือเกิน ร่านจนทนไม่ไหวแล้ว อ๊าย อ๊าา อ๊าาา เอาข้าเสียที ได้โปรด ท่านชีคเพคะ ช่วยข้าด้วย ขย่มข้าเสียที อ๊าา อ๊ายย อ๊าาาา ” นางทนเสียวซ่านต่อไปไม่ไหว เอ่ยปากอ้อนวอนคนที่นางไม่เคยคิดจะรักเขา และทั้งเกลียดและกลัวเขาเหลือเกิน แต่บัดนี้มันต้องการเขาแทบขาดใจ ทำไมร่างกายของนางมันปรารถนาเพียงเขามากขนาดนี้ และต้องเป็นเขาเท่านั้น ที่จะมาโยกขย่มบนร่างของนางได้ “ ท่านชีคเพคะ ช่วยข้าด้วย ท่านชีคเพคะ รักเมียเสียที ได้โปรด ได้โปรดเพคะ ” นางจะเคยรู้สึกกับเขาอย่างไรก็ช่าง แต่ตอนนี้นางต้องการ นางอยากให้เขาเป็นผู้เติมเต็มนางเพียงเท่านั้น นีสริสปรือตาขึ้นเล็กน้อยเพื่อสบตาของเขา ชีคหนุ่มจ้องมองร่างอวบขาวของนีสรินที่นอนทอดร่างบนผ้าปูสีครีมมันระยับนั้น นางดูเหมือนนางเสือดาวที่ยั่วยวนเหลือเกิน สติยับยั้งของเขาขาดสะบั้นลง กระชากอาภรณ์ของตนเองออกอย่างลุกลน เมื่อเจ้าลูกชายตาเดียวเป็นอิสระมันผงาดง้ำทันที น้ำรักไหลยืดเพราะเขาเองก็เสียวซ่านจนทนแทบไม่ไหว เขาจับเจ้้าลูกชายที่พรักพร้อมเหลือเกินสอดเข้าในร่องอวบของนีสรินทันที นางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด พยายามโยกสะโพกอวบหนีเขา แต่ถูกมื
ฟาร่าร้อนใจยิ่งนัก นางไม่เคยเห็นว่าท่านชีคจะหลงไหลใครมาเช่นนี้ แต่นี่มันแค่เพียงเริ่มต้น เขาอาจจะเห่อของสดใหม่ก็เป็นได้ นังนั่นมันอาจจะเป็นแค่เพียงของเล่นใหม่ของเขาก็ได้ นางจะเฝ้าดูเหตุการณ์ไปก่อน แต่หากเขามีท่าทีหลงไหลมันมากกว่านี้ นางจะต้องส่งข่าวให้กับคู่หมั้นของเขารู้ คุณฮันนาจะต้องได้รู้ว่าท่านชีคหลงไหลน้องสาวของศัตรูที่ทำให้ท่านหญิงยาร่าเสียชีวิตไป ที่จริงแล้วฟาร่าก็ไม่ได้ชื่นชอบคู่หมั้นของท่านชีคที่ชื่อฮันนานัก แต่ด้วยนางเป็นคู่หมั้นที่มีโอกาสที่จะขึ้นเป็นชีคคาอย่างแน่นอน ฟาร่าจึงแค่ต้องการผูกมิตรเอาไว้ เพราะนางเป็นสนมของท่านชีคหากตัวของฟาร่าเองไม่มีโอกาสจะได้ขึ้นเป็นใหญ่กว่านี้ หรือมีโอกาสได้เป็นชีคคาขอท่านชีค ก็คงต้องหาพวกเอาไว้ เผื่อว่านางอาจจะต้องใช้คุณฮันนาในอนาคตก็ได้ แม้ฟาร่าอยากจะกรีดร้องออกมาอย่างขัดใจแต่ก็ไม่อาจจะทำได้ จึงได้แต่พยายามสงบใจเฝ้ารอดูเหตุการณ์ต่อไปเพียงเท่านั้นด้านในห้องนอนด้านบน ชีคหนุ่มกับนีสรินที่บัดนี้หมดเรี่ยวแรงเพราะโรมรันกันข้ามวันข้ามคืน ตอนนี้นอนกอดกันอยู่ใต้ผ้านวมหนานุ่ม นีสรินซุกกายอยู่ในอ้อมกอดของเขา ทั้งสองนอดกอดก่ายกันด้วยกาย
บัดนี้เธอไม่สนใจสิ่งใด เพียงต้องการให้เขาปลดปล่อยหล่อนจากความเสียวซ่านที่ทวีขึ้นอย่างรุนแรงนี้ ทั้งสองต่างโยกสะโพกเข้าหากันด้วยจังหวะที่มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้ บั้นเอวของสามีหนุ่มเหมือนมีชีวิตของมันเอง มันโยก อย่างบ้้าคลั่งเร่งทิ่มแทงร่องอวบของคนใต้ร่างอย่างรุนแรงเสียงเนื้อกระทบเนื้อเสียงดังก้องไปทั่วบริเวณที่เงียบสงบไม่มีผู้คนพลุกพล่านเพราะเป็นวิลล่าที่ราคาแพงลิบ ชายหาดตรงหน้านั้นเป็นชายหาดส่วนตัวของวิลล่าแต่ละหลังแบ่งอาณาเขตกันชัดเจนไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมาก ท่านประธานหนุ่มจึงชอบมาก และคิดว่าจะเริงรักกับเมียหมาดๆของเขาด้านนอกวิลล่าไปจนทั่ว ตามแต่เขาจะต้องการหล่อนตอนไหน และมีนาก็เต็มอกเต็มใจที่ปรนเปรอสามีที่หล่อนรัก เพราะลึกๆในใจแล้วมีเองก็ไม่รู้ว่า เขานั้นจะเบื่อหน่ายเธอไปในวันใด แม้เขาจะสัญญากับเธอว่าจะมีเธอเพียงคนเดียว แต่มีนาก็คิดว่่าจะปรนนิบัติเขาและตามใจสามีที่รักของหล่อนทุกอย่างเพื่อให้เขาพอใจและอิ่มเอมจนไม่คิดจะไปหาจากผู้หญิงคนไหนอีก จนบัดนี้ร่างล่ำสันของสามีหนุ่มที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามหนั่นแน่นก็กำลังโยกขย่มอยู่บนร่างอวบของเธออย่างเร่าร้อน เหมือน
ประธานหนุ่มยกยิ้ม เขาปล่อยแขนล่ำสันที่รัดเอวบางของหล่อนจนแนบชิดอกแกร่ง แล้วจับร่างอวบหันมาเผชิญหน้ากัน ขณะที่มีนากำลังจะอ้าปากร้องกรี๊ดนั้น ใบหน้าหล่อคมก็ก้มลงประกบจูบริมฝีปากอวบอิ่มของเธอทันที ลิ้นสากที่ร้อนรุ่มนั้นก็สอดเข้าไปในปากจิ้มลิ้มนั้นทันทีอย่างไม่ให้เธอได้ทันตั้งตัว มันควานหาลิ้นเล็กของหล่อนจนพบแล้วเข้าเกี่ยวพันอย่างดูดดื่มทันที จนกระทั่งลิ้นสากนั่นเข้าพัวพันกับลิ้นเล็กที่อ่อนนุ่มของหล่อน ประธานหนุ่มทั้งดูด ทั้งดุน ทั้งเกี่ยวพันจนกระทั่งจากจูบที่ดุดันรุนแรงกลายเป็นร้อนรุ่มอย่างรวดเร็ว เขาจูบหล่อนอย่างโหยหาและยาวนานจนกระทั่งร่างอวบของมีนาอ่อนระทวยลงเอนกายพิงอกแกร่งของเขาอย่างไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขืน สามีหนุ่มจึงได้ไล้เลียไปจนทั่วใบหน้าหวานจนเลื่อนลงมาถึงซอกคอหอมกรุ่นของเมียรัก มือหนาเลื่อนถอดชุดว่ายน้ำแบบทูพีซตัวบนของหล่อนออกจนมันหลุดแล้วลอยไปตามน้ำในสระสีฟ้าสดใสนั้น ทรวงอกอวบใหญ่ขาวผ่องจึงปรากฏแก่สายตาของประธานหนุ่ม เขาก้มลงไล้เลียเนินอกอวบใหญ่ที่เขาจับจองเอาไว้แล้ว และจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนใดมาซ้ำรอยอย่างแน่นอน เขาทั้งดูดทั้งไล้เลียจนทั่วเนินอกอวบ ทำรอยรักเอาไว้จนทั่
หลังจากที่ฟาริดาสะบัดก้นจากไปแล้ว คุณมาริสาก็ตะลึงงันอยู่กับที่ครู่หนึ่ง “ เอาละ ในเมื่อเธอยืนยันจะเลือกมีนาก็ตามใจเธอก็แล้วกัน ชีวิตเป็นของเธอและเธอก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว หากเธอยืนยันอย่างนั้นก็ตามใจ ส่วนมีนาฉันยินดีที่ได้รู้จักเธอในฐานะลูกสาวของการีม แม้จะไม่ชอบใจนัก แต่ไม่ใช่ความผิดของเธอที่เขามีเธอก่อนที่จะมาแต่งงานกับฉัน เอาาละอาไปก่อนแล้วกันนะการีม ”แล้วมาริสาก็เดินออกจากห้องไปอีกคน ทิ้งให้สองสามีภรรยาหันมามองหน้ากัน และตอนนั้นรูมเซอร์วิสก็มาส่งอาหารที่สั่งเอาไว้พอดี เขาเข็นรถเข้ามาในห้อง แล้วลงมือจัดโต๊ะอาหารที่ริมหน้าต่างให้กับคนทั้งสอง เมื่อเสร็จแล้วอัสมายื่นทิปให้กับเขาแล้วบอกว่าไม่ต้องเปิดไวน์หรอกเขาจะจัดการเอง แล้วรูมเซอร์วิสก็เข็นรถเข็นจากไปก่อนจะปิดประตูห้องลงให้ตามเดิม “ มีนาจ๋า ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว เราไปกินอาหารกันดีกว่าพี่หิวมากแล้ว ” แล้วทั้งสองก็ไปนั่งลงกินอาหารด้วยกัน ด้วยอารมณ์ที่แช่มชื่นขึ้น หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงไลน์ดังขึ้นอัสมาก้มหน้าลงอ่าน แล้วพิมพ์ข้อความตอบกลับไป “ ชีคฟาอิดน่ะ เขาชวนไปตีกอล์ฟ พี่ปฏิเสธไปแล้ว อยากจะพักผ่อนกับมีนาที่ห้องนี้มากกว่า ”เขามองส
หลังจากอิ่มเอมแล้วก็ช่วยกันอาบน้ำจนสะอาดแล้วก็ออกมาเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมที่ด้านนอก “เมียจ๋า สั่งอาหารขึ้นมากินกันดีกว่าพี่หิวแล้ว เราจะนอนกันที่นี่อีกคืนนะ พรุ่งนี้เราค่อยกลับคอนโดกัน ส่วนข้าวของของมีนา ให้คนไปเก็บให้ดีกว่า พี่ไม่อยากให้เธอเหนื่อยเกินไป ” มีนาสวมเสื้อคลุมแล้วจึงได้เดินไปหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรสั่งรูมเซอร์วิสให้สามีและตนเองข้างบนห้อง เธอไม่อยากแต่งตัวลงไปกินอาหารข้างล่างอยู่แล้ว ฉะนั้นกินที่ข้างบนก็สะดวกกว่า ขณะที่เธอวางโทรศัพท์ลงหลังจากสั่งอาหารให้สามีเสร็จแล้ว ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง เธอก็แปลกใจว่าทำไมเสียงเคาะประตูดังขึ้นเร็วนัก หรือจะเป็นอีริคกลับมาเคาะประตูห้อง แต่ก็ไม่น่าจะใช่นะ ป่านนี้มันมืดค่ำแล้ว เขาคงจะกลับบ้านของเขาไปแล้ว คงไม่มาเคาะประตูอีกหรอกแล้วมีนาก็เดินมองมองที่ตาแมวด้านในห้องก็เห็นคุณมาริสากับคุณฟาริดายืนอยู่ด้านนอก เธอจึงได้ยืนนิ่งคิดว่าจะเปิดประตูให้เขาดีหรือไม่ และเสียงออดก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ ที่รัก ใครมาหรือ ” เสียงร้องถามของสามีดังขึ้นในห้อง และทำให้เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกพร้อมกับเสียงของคุณมาริสาที่ด้านนอก “ นังแมวขโมย เปิดประตูห้องนะ ขโมยขอ
เมื่ออดีตสามีหนุ่มทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว เขาต้อง……ได้หล่อน ในที่สุดลำกายอวบใหญ่ที่แข็งขึงจนแทบจะปริแตกของอัสมาก็สอดเข้าไปในร่องอวบของมีนาทันที เขาค่อยๆดันมันเขาไป “ อ๊ายย อ๊าายยย เจ็บ เจ็บเหลือเกิน เจ็บ เอาออกไปนะ เอาออกไป ” มีนนากรีดร้องขึ้นมาเพราะนางเจ็บเหลือเกิน นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกเขาสอดประสานหลังจากผ่านไปเกือบหนึ่งเดือน ร่างหนาค่อยๆชำแรกลำกายอวบใหญ่ช้าๆเข้าไปในร่องอวบของนาง มันช่างฉ่ำเยิ้มเหลือเกิน แต่ก็คับแน่นถูกใจเขามาก อัสมากัดฟันแน่น เส้นเลือดที่ต้นแขนและบ่าหนาของเขาปูดโปนแต่เมื่อส่วนปลายบานนั้นสัมผัสอยู่กับร่องชุ่มฉ่ำของนาง สติของเขาก็พลันขาดสะบั้น จากที่ค่อยๆทำช้าๆอย่างนุ่มนวล ก็กลับกลายเป็นดุดันและป่าเถื่อน เขาดันอย่างแรงจนเข้าไปสุดลำกาย แม้หล่อนจะดิ้นรนและกรีดร้องเพียงใดเขาก็ไม่ยอมถอนลำกายออกไปอย่างที่หล่อนร้องขอ เขาบีบเค้นเต้าหวานของนางอย่างมันมือ ปากหนาก็ประกบจูบริมฝีปากอวบของนางทันทีเขาจูบนางอย่างเร่าร้อน ดูดดื่มและยาวนานเพื่อหลอกล่อนาง ขณะที่บั้นเอวก็ค่อยๆขยับโยกช้าๆ ด้วยจังหวะที่เนิบนาบ เข้าสุดออกสุดอย่างช้าๆ สัมผัสร่องอวบของนางอย่างดื่มด่ำจนหลุดเสียงคราง
มือหนาข้างที่ยังว่างนั้นที่มันเฝ้าลูบไล้ไปจนทั่วร่างอวบของคนในอ้อมกอด เขาลูบไล้ไปจนทั่วร่าง ทั้งบีบทั้งเค้นร่างอวบขาวผ่องของหล่อนอย่างเมามัน และค่อยเลื่อนสอดเข้าไปในกระโปรงผ้ายืดเนื้อนุ่มที่หล่อนสวมในวันนี้ และเขาคิดว่ามันเย้ายวนเหลือเกิน ตอนนี้มันปิดบังเรือนร่างของหล่อนแทบจะไม่มิดแล้ว มือหนาควานหาจนพบเนินอวบใหญ่ของหล่อน เขาบีบเค้นมันอย่างพึงใจ มันใหญ่จนล้นฝ่ามือของเขา “ มีนา คุณช่างงดงามเหลือเกิน จนผัวแทบจะอดใจไม่ไหวอีกแล้ว ” อดีตสามีหนุ่มรำพึงเขาบีบเค้นมันจนพอใจจึงค่อยๆสอดนิ้วแกร่งเข้าไปในร่องอวบของนั้นทีละนิด แล้วหยุดเอาไว้ที่ข้อนิ้วแล้วถอกเข้าถอกออกช้าๆ สลับกับสะกิดเมล็ดดอกไม้ของหล่อนไปมา นิ้วหนานั้นครูดผ่านเมล็ดดอกไม้นั้นไปมา จนร่องอวบของมีนาตอดตุบๆ ด้วยความเสียวซ่าน ร่องสวาทของหล่อนนั้นตอดรัดนิ้วแกร่งของเขาอย่างร่านร้อน อดีตบอสหนุ่มครางเบาๆอย่างเสียวซ่าน ใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนขึ้นไปประกบจูบหล่อนอีกครั้ง มีนาที่บัดนี้หัวสมองขาวโพลน ร้องครวญครางเสียงกระเส่าอย่างเสียวซ่าน หล่อนลืมเลือนไปทุกสิ่ง ปากจิ้มลิ้มอ้าปากรับลิ้นสากของเขาอย่างเต็มใจ สติของหล่อนนั้นหลุดลอยไปจนสิ้นบ
” อัสมายกริมฝีปากขึ้นนิดหนึ่ง “ คุณเลขาเอาใจใส่งานดีมากเลยนะครับ มีความรับผิดชอบดีมาก จนผมอยากจะให้คุณกลับไปเป็นเลขาของผมอย่างเดิม เสียดายเลขาที่มีประสิทธิภาพมากอย่างนี้ ” อัสมาไม่วายจะยียวนคนตรงหน้าที่ร่ำๆว่าจะเดือดปุดๆ เขาชอบเย้าแหย่หล่อนยิ่งเห็นใบหน้าหวานเริ่มแดงก่ำแล้ว เขาก็ยิ่งชอบใจ “ คนบ้า คุณต้องการอะไรกันแน่ ฉันก็ออกมาจากชีวิตพวกคุณแล้วอย่างไรเล่า ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอีก คุณจะเอาอย่างไรกัน ” อัสมายิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเดินมาจนแทบจะถึงตัวของมีนาที่ถอดกรูดไปทางด้านหลังแล้วร่างอวบของเธอก็ถูกรวบแล้วแบกพาดบ่าเดินเข้าไปในห้องนอนทันที ร่างล่ำสันแบกร่างอดีตเมียรักที่กำลังจะกลับมาเป็นเมียของเขาตามเดิมลงบนฟูกนอนหนานุ่มแล้วก็ตามขึ้นไปคร่อมร่างหล่อนเอาไว้ “ ผมอยากจะรักเมียจะได้ไหมครับ อยากจะรักเมียหลายๆครั้งและตลอดคืนนี้ คิดถึงผัวบ้างไหมครับ ” เขาเอ่ยถามชิดใบหน้าหวาน มีนารู้สึกได้ถึงลมหายใจที่ร้อนผ่าว “ ไม่นะ ฉันไม่คิดถึงคุณ อย่ามายุ่งกับฉันนะ ปล่อย ” แต่สิ่งที่ได้รับจากคนบนร่างก็คือจูบที่รุนแรงและจาบจ้วงอย่างที่ไม่ทันให้เธอได้ตั้งตัวเล็กแม้แต่น้อย “ ไม่นะ ไม่ ปล่อย อื้อ…. ไม่ …..” มือหนาน
มีนาย้ายกลับไปอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์เดิมของตนเอง และตอนนี้ก็เริ่มปรับตัวได้มากขึ้น ตอนแรกเธอไม่ได้ทำงานอะไรแค่เพียงอยู่เฉยๆ และนั่งทบทวนตัวเองเงียบๆ และได้ส่งเรซูเม่สมัครงานเอาไว้แล้ว และสองอาทิตย์ต่อมาก็มีอีเมล์แจ้งให้เธอไปสัมภาษณ์งาน หลังจากนั้นมีนาก็ได้งานเป็นเลขาของเจ้าของบริษทขนาดกลางแห่งหนึ่ง เงินเดือนพอใช้ได้แม้จะไม่มากเท่ากับบริษัทเดิม แต่ก็พอใช้จ่ายและเหลือเก็บอยู่บ้าง มีนาเริ่มต้นไปทำงานใหม่และพบเจอเพื่อนร่วมงานใหม่ๆ เจ้านายเป็นหนุ่มโสดที่หน้าตาดีและอัธยาศัยดี แต่เขาไม่มีท่าทีการ่อกอติกกับเธอ เขาดูเป็นคนบ้างานมาก มีนากับพ่อของเธอก็ได้คุยกันบ้าง พ่อมักจะโทรมาถามข่าวคราวของเธอ ส่วนลูน่าก็โทรมาเช่นกัน แต่มีนาบอกกับเธอไม่ให้พูดถึงเรื่องอื่นนอกจากเรื่องของเราสองคนเท่านั้น หล่อนไม่อยากจะรู้ข่าวคราวของคนบางคน เพราะกำลังทำใจให้ลืมเขาอยู่ และมันก็เป็นไปด้วยดี ในทุกวันเธอเริ่มต้นวันใหม่เหมือนเช่นเคยที่ผ่านมาสมัยที่ยังอยู่ที่นี่ใหม่ๆ ไม่ต้องคอยดูแลใคร แค่เพียงชงกาแฟมานั่งดื่มถ้วยเดียวกับขนมชิ้นเล็ก ในตอนเช้าและหลังจากนั้นก็อาบน้ำอย่างไม่ได้เร่งรีบมากนัก เพราะที่ทำงานอยู่ไม่ไกลจากอ
“ คุณไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันลาออกแล้วจะไม่มาให้พวกคุณเห็นหน้าอีก ” มีนาพยายามบอกให้เขาสบายใจ แต่อัสมาที่หึงจนจะบ้าอยู่แล้วเขากลัวหล่อนไปนอนกับอาการีมเพื่อประชดเขา ตลอดเวลาที่นั่งรออยู่ในห้องทำงานไม่ได้กินอะไรเลยเพราะกินไม่ลง ระแวงว่าเมียจะคบชู้และยิ่งเห็นหล่อนลงมาจากรถของอาการีม เขาแทบจะบ้า อยากจะลงไปอาละวาดทั้งหล่อนและอาการีม เขาทนไม่ไหว ในหัวมีแต่ภาพที่พวกเขามีอะไรกัน เขาทนไม่ได้ ไม่ว่าหล่อนจะไปกับใคร จะคบกับใครเขาก็ไม่ยอมทั้งนั้นแหละ หล่อนเป็นเมียของเขา เขาไม่ยอม เรื่องอะไร หล่อนจะเลิกแต่เขาไม่เลิกแล้ว “ ไม่เลิก ผมไม่เลิกกับคุณแล้ว ผมกลัวคุณจะไปมีอะไรกับอาการีมผมไม่อยากให้ครอบครัวอามาริสามีปัญหา ” เขาไม่กล้าบอกว่าเขาหลงหล่อนจนโงหัวไม่ขึ้น หึงหล่อนจนแทบจะบ้า รักเขาจนจะคลั่งตายเมื่อคิดว่าหล่อนจะไปมีผู่้ชายคนอื่นมาแทนที่เขา แต่ก็ยังปากแข็งทำเป็นห่วงใยครอบครัวของอามาริสา แก้เก้อที่ตัวเองบอกกับหล่อนไปว่าไม่แคร์ว่าหล่อนจะเลิกกับเขาและเขามีผู้หญิงตั้งหลายคนให้เลือก แต่ที่จริงเขาไม่อยากจะเลือกต่างหากเล่าเจ้าลูกชายของเขามันร่ำๆ แต่อยากจะรักหล่อนแทบจะบ้าอยู่แล้ว มันไม่อยากจะได้คนอื่น