เมื่อนีสรินได้ยินดังนั้นนางก็กลับหลังหันเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าใบเล็กนั้น เมื่อเปิดออกดูพบเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวแขวนไว้หนึ่งตัวในนั้น และมีอีกตัวอยู่ในถุงที่วางด้านล่างของตู้ นางจึงเดินกลับที่หน้าห้องแล้วเอ่ยว่า " ขอบใจเจ้ามากนะ ข้าหามันพบแล้ว “ นีสรินยื่นมือไปรับถาดอาหารนั้นมาวางบนโต๊ะปลายเตียง
ลียาเห็นคนตรงหน้าวางถาดลงบนโต๊ะแล้ว จึงได้บอกต่อไปว่า ” หากเจ้ากินอาหารเสร็จแล้ว ก็เดินเอาถาดไปไว้ที่โรงครัวที่อยู่ติดกับห้องอาหาร เดินกลับไปตามทางที่เจ้าเดินเข้ามา แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายมือก็พบแล้ว จะได้สำรวจมันเอาไว้ พรุ่งนี้เจ้าต้องออกไปกินอาหารที่นั่น แล้วจะได้ไปทำงานตามหน้าที่ของแต่ละคน
มื้อกลางวันก็มากินเช่นเดิม ส่วนมื้อเย็นก็เช่นกันให้มากินให้ตรงเวลาเพราะหากเลยเวลามากไป พวกเขาก็จะเก็บอาหารไป แล้วเราก็จะอดกินอาหารมื้อนั้นไปเลย ข้าบอกเจ้าไว้ก่อนเผื่อเจ้าไม่รู้ ทำงานเลยเวลาอาหารก็จะอดกิน คนรับใช้อย่างเรา มันมีทางเลือกไม่มากนัก ทำอะไรเพื่อตนเองได้ก็ต้องทำ ไม่มีใครมาสนใจเราหรอกว่าเราจะได้กินอิ่มท้องหรือไม่ หรือทำงานเหนื่อยไปหรือไม่ เจ้าต้้องใช้ไหวพริบช่วยตนเอง เอาละข้าพูดมากไปเสียแล้ว ต้องรีบไปทำงานก่อน ไว้เจอกันตอนเย็นนะ " จากนั้นลียาก็หัันหลังเดินกลับออกไปตามทางเดิม
นีสรินปิดประตูแล้วล็อคมันอย่างแน่นหนา แล้วนางก็ยกเก้าอี้มานั่งลงที่โต๊ะเล็กนั้น แล้วก็ลงมือกินอาหารก่อนอย่างหิวโหยเหลือเกิน อาหารที่ดูแล้วเป็นอาหารราคาถูกและเป็นอาหารพื้น ๆ ของชาวบ้านทั่วไป นางซึ่งเป็นถึงน้องสาวของชีคของแคว้นความเป็นอยู่สุขสบายมาตั้งแต่เล็ก แต่ดีที่ได้ไปร่ำเรียนที่อังกฤษตั้งแต่ยังรุ่น ๆ จึงได้เรียนรู้การช่วยตนเอง และการทำงานบ้าน ทำอาหารด้วยตนเอง เมื่อยามตกยากเช่นนี้จึงพอมีทักษะติดตัวอยู่บ้าง แต่วันนี้รสชาติของอาหารพื้นๆนี้อร่อยมาก อาจเป็นเพราะนางหิวโหยเหลือเกิน เมื่อท้องอิ่มแล้ว นางก็เก็บถ้วยชามใส่ไว้ในถาดเดิม แล้วเดินไปล้างมือที่อ้างล้างมือมุมห้องนี้ ยังดีที่ห้องเล็กๆเช่นนี้ยังมีอ่างเล็กไว้ให้ล้างหน้าล้างมือไม่ต้องเดินไปอีกตั้งไกลเพื่อล้างมือเพียงเท่านั้น
เมื่อจัดการตนเองเรียบร้อย นีสรินก็ยกถาดนั้นขึ้นแล้วเดินออกจากห้อง แล้วหันมาปิดประตูให้เรียบร้อยแล้วเดินไปตามทางที่ลียาบอกเมื่อครู่ จนพบห้องอาหารใหญ่ที่มีโต๊ะยาวเรียงรายเป็นแนวและมีเก้าอี้เรียงตามโต๊ะยาวนั้นถึงห้าแถว น่าจะเอาไว้ให้คนรับใช้และข้าทาสในตำหนักนี้มานั่งกินข้าวกัน นีสรินเดินเลยไป แล้วตรงเข้าไปในห้องครัวใหญ่นั้น พบแม่ครัวสี่ห้าคนยืนหน้าโต๊ะตัวใหญ่กำลังลงมือเตรียมวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารมื้อต่อไป
เมื่อนางเดินเข้าไปทั้งหมดหันมามองเป็นตาเดียว มีหญิงร่างท้วมคนหนึ่งชี้มือไปที่อ่างล้างจานขนาดใหญ่ เหมือนบอกว่าให้ไปล้างจานที่ตรงนั้น นีสรินจึงเดินไปตามที่นางชี้บอก แล้วก็ลงมือล้างจานและถาดในมือของตนเอง แล้วคว่ำมันเอาไว้ที่ชั้นวางจานชามขนาดใหญ่ๆอยู่อยู่ข้างๆ เมื่อเรียบร้อยนางก็ดึงกระดาษเช็ดมือออกมาเช็ดมือบางจนแห้ง
แล้วก็จะออกเดินเพื่อจะกลับออกไปปที่ห้องอาหารที่เพิ่งเดินผ่านเข้ามา ก็มีเสียงเรียกนางไว้ “ เจ้าคือทาสที่มาใหม่ใช่หรือไม่ ไปอ่านกฏระเบียบการใช้ห้องอาหารและเวลาอาหารให้เรียบร้อยนะจะได้ไม่มากินอาหารผิดเวลา หากไม่รู้เรื่องแล้ว ไม่มากินอาหารตามเวลา พวกข้าไม่รู้เรื่องด้วยนะ ”
นีสรินหันไปมองหญิงร่างท้วมคนเดิมที่ชี้บอกนางเรื่องอ่างล้างจาน แล้วพยักหน้าให้หญิงนั้นที่อุตส่าห์บอกนางเรื่องนี้ “ ข้ารู้แล้ว ขอบใจเจ้ามากที่บอกข้า ถ้าเช่นนั้นไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวก่อนนะ ” จากนั้นนีสรินก็เดินออกมาจากห้องครัวนั้นแล้วตรงไปอ่านป้ายที่ติดไว้ที่ข้างฝาเรื่องกฏระเบียบการใช้ห้องอาหารของคนรับใช้และข้าทาสในตำหนักนี้
หลังจากเดินออกมาจากห้องอาหารนั้น นีสรินก็เดินเล่นช้าๆ เพื่อย่อยอาหาร แล้วก็กลับไปยังห้องของตนเอง ยังมิกล้าออกนอกเส้นทางไปมากนัก เพราะยังไม่คุ้นเคยกับสถานที่ กลัวหลงทางและกลัวพบคนแปลกหน้าที่อาจเป็นอันตรายได้ นางจึงค่อยๆ เดินกลับไปยังห้องของตนเองจะดีที่สุด นางต้องใช้เวลาปรับตัวในการอยู่ที่นี่
แม้จะไม่อยากอยู่แต่ด้วยคำสั่งของชีคคือกฏหมาย ที่นี่ไม่เหมือนโลกตะวันตกที่มีกฏหมายคุ้มครองทุกคนอย่าเท่าเทียมกัน แต่โลกของพวกนางที่นี่ คำสั่งชีคคือคำศักดิ์สิทธิ์และเด็ดขาด เพราะฉะนั้นนีสรินเองที่ก็มีเชื้อสายอาหรับแม้มารดาจะเป็นคนต่างเชื้อชาติ นางจึงยังพอรู้เรื่องวิถีชีวิตของชนชาติของนางในแคว้นนี้ จึงยังมิกล้าทำอะไรให้เกินขอบเขต แม้ชีคฟาอิดจะจับนางมาเป็นทาสแต่ขณะนี้ก็ยังดีที่เขาไม่ได้ทำร้ายร่างกายนางหรือทรมานให้เจ็บตัว เขาแค่เพียงให้ทำงานรับใช้จนกว่าเขาจะพอใจ แต่นางเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเกิดสิ่งใดต่อไปจากนี้ แต่นางก็จำต้องทนอยู่ที่นี่ไปก่อน เพราะยังไม่สามารถจะทำอะไรได้ไปมากกว่านี้
หากมีหนทางเมื่อใด ค่อยหาทางออกไปจากที่นี่ ส่วนเรื่องจะรอให้พี่ชายส่งคนมาช่วยนั้น นางซึ่งมีพื้นเพเป็นชาวอาหรับเช่นกัน คิดว่ายาก แม้นางจะไปอยู่ที่อังกฤษนานแล้วจนคุ้นเคยกับโลกตะวันตกมากกว่า แต่ก็พอจะรู้ประเพณีคร่าวๆ และอำนาจของชีคของแต่ละแคว้นอยู่บ้าง แคว้นแห่งนี้ค่อนข้างร่ำรวยเพราะมีทรัพยากรเป็นน้ำมันค่อนข้างมาก ร่ำรวยยิ่งกว่าแคว้นของนางด้วยซ้ำไป และเมื่ออำนาจเงินมีมากล้นฟ้า บริวารของเขาก็ย่อมมากตามไปด้วย และบริวารที่เก่งกาจก็ย่อมมากเช่นกัน นางที่คิดจะหนี หรือพี่ชายที่คิดจะเข้ามาช่วยนางในที่แห่งนี้คงยากยิ่งที่จะเป็นไปได้
นางเองก็มิอยากให้พี่ชายเสี่ยงอันตรายเข้ามาช่วยนาง แม้นางจะรักตนเองมากมิอยากให้ตนเองได้รับอันตราย แต่นางก็เป็นห่วงพี่ชายเช่นกัน เพราะเขามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบประชาชนในแคว้นด้วย มิใช่เฉพาะตัวของเขาหรือเพียงแค่ครอบครัวของเขา
นางติดกับเสียแล้ว ก็ไม่อยากชักนำให้พี่ชายต้องมาติดกับเช่นเดียวกับนาง จึงยอมเสียสละอยู่ที่นี่ไปก่อน ตัวนางมิได้มีความสำคัญกับแคว้นมากนัก นางไปเรียนตั้งแต่เด็กยังไม่เคยได้ทำงานชดใช้อะไรให้กับทางแคว้น ที่ชีคฟาอิดจับตัวนางมานั้นก็เป็นการดีกว่าจับพี่ชายของนางมาทำร้ายหรืออาจจะถึงกับเข่นฆ่าก็เป็นได้
นางเดินพลางก็ครุ่นคิดไปพลางจนมาถึงหน้าห้องพักของตนเอง นางเปิดประตูเข้าไปแล้วนั่งลงที่เก้าอี้หน้าเตียงนั้น เมื่อเวลาผ่านไปจนเข้าสู่เวลาเย็น ลียาก็นำอาหารส่งให้อีกครั้งแล้วก็ลากลับไป นีสรินลงมือกินอาหารที่เป็นข้าวหมกไก่รสชาติอร่อยมาก นีสรินก็ไม่ได้กินมันมาหลายปีเพราะไปใช้ชีิวิตที่เมืองนอก แม่ครัวที่นี่ฝีมือดีมาก เมื่อนางกินข้าวหมกไก่นั้นจนหมดก็ลงมือกินขนมหวานถ้วยเล็กที่มีมาให้ในถาดนั้น จนเรียบร้อยก็ยกถาดอาหารไปเก็บเช่นเดิม แล้วก็กลับมายังห้องตนเองเพื่อเตรียมตัวออกไปอาบน้ำ
เมื่ออาบน้ำเรียบร้อยแล้วนีสรีนก็กลับเข้าห้องมา จัดการเก็บข้าวของให้เรียบร้อย นำเสื้อผ้าชุดเดิมไปใส่ตระกร้าไว้ก่อนแล้วค่อยถามลียาอีกครั้งว่าเครื่องซักผ้าของคนรับใช้อยู่ที่ไหนกันจะได้นำชุดที่ใส่แล้วไปซัก
รุ่งเช้าวันต่อไป นีสรินสะดุ้งตื่นขึ้นมา นางลืมไปว่าตนเองไม่มีนาฬิกาไว้ดูเวลาจึงคิดว่าวันนี้จะไปหามาสักเรือนหนึ่งเพราะตอนเช้าตื่นขึ้นมาไม่รู้ว่าเวลากี่โมงแล้ว นางรีบหยิบของใช้ส่วนตัวและสวมเสื้อคลุมแล้วรีบไปอาบน้ำทันที เมื่ออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็กลับมาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายชุดใหม่ที่เป็นเครื่องแบบของคนรับใช้ที่ตำหนักนี้ ที่ใส่คล้ายๆกันทุกคน เมื่อแต่งกายเรียบร้อย นีสรินก็รีบออกไปจากห้องนี้แล้วปิดประตูไว้ นางไม่มีกุญแจจะล็อคห้องและก็ไม่มีของมีค่าในห้องนอนน้อยนี้ จึงคิดว่าคงมิเป็นไร จากนั้นนางก็เดินตรงไปตามทางที่ตรงไปห้องอาหารก่อนเพื่อรีบกินอาหารเช้าก่อน แล้วค่อยไปทำงานที่ได้รับคำสั่งมา นีสรินเดินเข้ามาในห้องอาหารนางเห็นถาดใส่อาหารที่เป็นถาดหลุมวางเรียงรายบนโต๊ะใหญ่นั้น นีสรินเห็นคนอื่นๆเริ่มทะยอยมากินอาหารกันบ้างแล้วนางจึงหยิบถาดอาหารตรงหน้า แล้วหยิบแซนวิซที่วางเรียงไว้ใส่ไปในถาดอีกหนึ่งชิ้น แล้วเดินไปรินกาแฟใส่ถ้วย แล้วนำไปนั่งกินที่มุมหนึ่ง นางค่อยๆกินอาหารตรงหน้าที่เป็นแป้งพิต้ากับซุปถั่วลูกไก่ และแซนวิสแฮมชีสที่นางหยิบมาเพิ่ม แล้วยกกาแฟขึ้นจิบช้าๆ เมื่อท้องอิ่มอารมณ์ก็ดีขึ้
จากนั้นร่างล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นๆ ไปทั้งร่างก็ลุกขึ้นแล้วก้าวลงจากเตียงนอนใหญ่นั้น เขาเดินกายเปลือยเปล่ามิได้อนาทรร้อนใจที่นีสรินจ้องมาอย่างตะลึงงันอยู่ตรงหน้า ดวงตาของนางโตจนแทบจะถลนออกมา โอ้ว !! แม่เจ้า นางคิดว่าพระเอกหนังเอวีน่าจะต้องอายเจ้าหมอนี่ นิสรินครุ่นคิด นางมีมารดาที่เป็นชาวไทยและได้รับการเลี้ยงดูจากมารดามาหลายปีก่อนที่มารดาจะย้ายกลับไปอยู่เมืองไทย หลังจากท่านชีคบิดาของนางและท่านพี่อมานเสียชีวิตลงไป นางจึงมีหลายอย่างทั้งภาษาพูดและนิสัยใจคอดังเช่นมารดาของนาง “ เอาละ ลงมือทำความสะอาดห้องนี้ให้เรียบร้อย ข้าจะไปอาบน้ำ ” จากนั้นเขาก็ก้าวออกจากห้องนี้ไป นีสรินเบะปากมองบนเล็กน้อย ฮึ !! ชีวิตท่านหญิงอย่างฉันต้องมาทำงานเป็นแม่บ้านโรงแรมเช่นนั้นหรือ แล้วนางก็เท้าสะเอว ถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างระบายความหงุดหงิดนั้น แล้วลงมือเก็บเตียงของเจ้าชีคหนุ่มนั่นกับแม่นางบำเรอร่างอวบอัดที่ทำไว้เสียยุ่งเหยิงเละเทะไม่น้อย นางเดินออกไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดและถุงมือขึ้นมาสวมแล้วลงมือเก็บผ้าปูเตียงและปลอกหมอนใบใหญ่นั้นโยนใส่ตระกร้าผ้าเพื่อจะนำไปส่งซักอีกที แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าใ
แล้วก้มลงหยิบเสื้อชั้นในที่หล่นอยู่บนพื้นห้องขึ้น แล้วรีบวิ่งออกไปจากห้องของชีคหนุ่มทันที ชีีคหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่งเหยียดยิ้มออกมา เขากำลังจะได้ลิ้มรสเหยื่อสาวเนื้อหวานจนน่าลิ้มลองอยู่แล้วเชียว แต่ไม่เป็นไร วันนี้เขาหมดอารมณ์แล้ว ไว้คราวหลังค่อยจัดการนางก็ยังไม่สายชีคหนุ่มจึงลุกขึ้นไปผลัดเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแล้ว จึงได้ก้าวเดินออกไปจากห้องนอนของเขา แล้วเดินลงไปที่ห้องทำงานด้านล่างแทน เมื่อเดินเข้าไปในห้องนอนพบอาหมัด องครักษ์ของเขานั่งรออยู่และบอกมีเอกสารด่่วนที่ต้องการให้เขาพิจารณาในวันนี้หลายฉบับ ชีคหนุ่มจึงนั่งลงบนโต๊ะทำงานและลงมืออ่านเอกสารตรงหน้าทันที ฝ่ายนีสรินวิ่งลนลานออกมาจากห้องนอนของชีคหนุ่ม นางออกไปยืนตัวสั่นที่หน้าห้องของชีคหนุ่มเพื่อตั้งสติอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็รีบเดินอย่างเร่งรีบกลับห้องพักของนางเพื่อตั้งสติก่อน นางตกใจกับเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นเร็วมาก และตกใจกับปฏิกิริยาของตนเองด้วยที่ยินยอมชีคหนุ่มอย่างง่ายดาย นางเหมือนเคลิบเคลิ้มหลงลืมไปสิ้นว่านางมาที่นี่เพราะอะไร และเขาคือใคร นางกำมือเย็นชืดของตนเองแน่น เร่งรีบเดินกลับห้องพักให้เร็วที่สุด เมื่อเปิดประตูห้องพักน้อยนั้
วันต่อมา ขณะที่นีสรินกำลังจะเดินขึ้นบันไดโค้งเพื่อไปทำความสะอาดห้องของชีคหนุ่ม แม้นางไม่ได้อยากจะไปเลยก็ตามเพราะนางเกรงว่านางจะไม่รอดเงื้อมมือของเขา แต่ก็ไม่สามารถจะทำอย่างไรได้ ก็คงจะต้องแล้วแต่โชคชะตาและวันนั้นเขาอาจจะแค่แกล้งนางเล่นก็เป็นได้ ขณะที่กำลังจะก้าวเดินขึ้นบันไดไป ก็ได้ยินเสียงร้องเรียกดังขึ้นทางด้านหลัง “ นี่เจ้า ท่านชีคลงมาจากข้างบนแล้วหรือไม่ ” นีสรินจึงได้หันไปตามเสียงนั้น แต่นางก็ไม่แน่ใจว่าเสียงทุ้มนั่นเขาพูดกับนางหรือไม่ แต่เมื่อหันไปสบตากับชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมเค้ม ดวงตาของเขามีแววขี้เล่นอยู่ในนั้น และคนผู้นี้ก็ดูท่าทางดีการแต่งกายหรูหราคงไม่ใช่คนรับใช้ในตำหนักนี้อย่างแน่นอน “ ท่านถามข้าใช่หรือไม่ ” นางถามเขาให้แน่ใจ “ ใช่สิ ในห้องนี้ไม่มีคนอื่นนอกจากเจ้า ข้าก็ต้องถามเจ้าแน่นอนอยู่แล้ว ” นีสรินอึ้งงันไป นางมองไปรอบๆ มันก็จริงอย่างที่เขาว่า “ ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าท่านชีคลงมาจากด้านบนแล้วหรือยังเจ้าคะ เพราะข้าเพิ่งเดินมาจากทางด้านหลังกำลังจะขึ้นไปทำความสะอาดห้องพักด้านบน ” สีหน้าแปลกใจฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างเห็นได้ชัด “ เจ้าคือสาวใช้ของตำหนักน
นีสรินตกใจที่อยู่ๆเขาก็เดินมาหาเรื่อง เธอไม่ได้คิดอะไรกับเพื่อนรักของเขาเสียหน่อย แค่จะเลียบเคียงถามเพื่อจะขอความช่วยเหลือแต่เขากลับคิดไปว่าเธอกำลังจะหว่านเสน่ห์เพื่อนของเขา คนบ้าบอ คิดไปได้อย่างไรกัน คนเพิ่งพบกันแค่ครั้งเดียว แต่เขากลับคิดไปไกลว่าเธออยากจะหว่านเสน่ห์ผู้ชายไปเสียได้ คนคิดอกุศลจริงๆ เลย “ ท่านชีค ข้าไม่ได้คิดจะหว่านเสน่ห์เพื่อนของท่านเสียหน่อย แต่ถึงจะหว่านเสน่ห์ใครก็ไม่เกี่ยวกับท่าน ข้ามีหัวใจเป็นของตัวเอง แม้กายจะเป็นทาสแต่หัวใจรักก็ยังเป็นของข้า จะสนใจใคร จะรักใคร จะหว่านเสน่ห์ใครไม่เห็นจะเกี่ยวกับท่านเสียหน่อย ” ชีคหนุ่มเมื่อได้ฟังคำพูดหยิ่งยะโสทั้งๆที่ตอนนี้ตัวเองเป็นลูกไก่ในกำมือผู่้อื่นนั้นยิ่งทำให้โมโห “ มันคงจะไม่เกี่ยวหรอกนะ ถ้าพี่ชายของเจ้าไม่ใช่ศัตรูตัวฉกาจของข้า และข้าไม่ไว้ใจเจ้า คิดจะหว่านเสน่ห์และหลอกลวงสหายของข้าเช่นนั้นหรือ อย่าคิดว่าข้าจะรู้ไม่ทันเจ้านะ นีสริน ” เขาเอ่ยจบก็ประกบจูบนีสรินทันที แต่นางพยายามเม้มปากเอาไว้เน่นไม่ยอมให้คนตรงหน้าสอดลิ้นสากของเขาเข้ามาได้อย่างแน่นอน เจ้าชีคบ้าตัณหา ตัวเองไม่ใช่ไว้ใจข้า เห็นว่าข้าเป็นน้องสาวของศัตรู
ยิ่งคิดว่าจะมีผู้ชายคนไหนมันเก็บเอานางไปฝัน เขายิ่งหวงแหน แต่พวกมันก็ได้เพียงแค่ฝัน แต่เขาสิ เขาจะทำให้นางเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว ยิ่งคิดจึงยิ่งทั้งฟอนเฟ้นทั้งดูดดื่มอกอวบใหญ่อย่างหนัก มือหนาเลื่อนฟอนเฟ้นไปมาจนแทบจะทั่วร่างอวบขาวที่เต็มไม้เต็มมือของเขาอย่างยิ่ง ขณะที่ทั้งสองหนุ่มสาวกำลังเคลิบเคลิ้มกับบทรักที่ชีคหนุ่มกำลังปรนเปรอร่างอวบของชายาเอกของเขาอยู่ในรถม้าที่บรรยากาศกำลังเร่าร้อนเต็มที่จนทั้งสองต่างหลงลืมไปสิ้นว่ากำลังอยู่ที่ไหน จู่ ๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “ ท่านชีคเพคะ ฟาร่าเข้าไปได้หรือไม่ ” เสียงหวานของฟาร่าดังขึ้นที่หน้าประตูห้อง และมันทำให้ชีีคหนุ่มหงุดหงิดกรุ่นขึ้นมาทันที สนมนางนี้ของเขาชักจะเหิมเกริมไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขา ใบหน้าหล่อที่กำลังก้มฟอนเฟ้นอกอวบตรงหน้าอย่างเมามันก็พลันต้องเงยหน้าขึ้น “ ฟาร่า ออกไป หากข้าไม่เรียกหาไม่ต้องเสนอหน้ามาพบข้า หากเจ้าไม่เชื่อฟังข้าจะให้เจ้าออกไปจากที่นี่ ” และเมื่อสิ้นสุดเสียงของชีคหนุ่ม เสียงที่หน้าประตูก็พลันเงียบมีเสียงฝีเท้าเบาๆเดินจากไปและทุกสิ่งก็พลันเงียบสงบลงดังเดิม นีสรินที่เริ่มตั้งสติได้นางลืืมตาที่หรี่ปรือเพราะ
นีสรินถอยหนีเขาแต่นางกลับหงายหลังลงไปบนฟูกหนานุ่มนั้นเสียเอง เพราะยังไม่คุ้นกับสถานที่ เมื่อหงายหลังลงไปและกำลังจะยกแขนขึ้นเพื่อผลักเขาให้ออกไป แต่ก็ถูกร่างหนานั้นกดร่างอวบของนางลงกับฟูกหนานุ่มนั้น จะยกขาเขาก็ใช้ท่อนขาแข็งแรงกดนางเอาไว้ นางพยายามดิ้นรนและจะใช้กำลังเท่าที่มีดันร่างหนาของเขาออกไป แต่นางถูกเขาทับเอาไว้ทั้งร่างอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันที่นางจะจัดการเขาดังเช่นที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะเขานั้นร่างกายสูงใหญ่กว่านางมากเขาคว้าร่างอวบของนีสรินเอาไว้ได้ และเลยไปดีึงทิ้งเสื้อผ้าเนื้อบางของนางจนฉีกขาดเป็นทางยาวและเขาก็กระชากนมันออกจากร่างอวบ บัดนี้ลำตัวด้านบนของนีสรินเปลือยเปล่า และกางเกงเอวรูดผ้าเนื้อบางเช่นเดียวกันถูกเขาดึงรั้งมันออกจนเลื่อนลงไปอยู่ที่ปลายเท้าทั้งสองข้า บัดนี้ร่างอวบนั้นเปลือยเปล่า เพราะเสื้อชั้นในเธอไม่ได้สวม ส่วนกางเกงชั้นในตัวจิ่วนั้นมันติดไปกับกางเกงที่ถูกเขาดึงรั้งลงไป ปลายถันสีชมพูที่สั่นระริกอยู่บนเต้าหวานอวบใหญ่ มันไหวสะท้านเพราะนางหายใจเข้าออกอย่างแรงเพราะตกใจที่ตอนนี้นางตกเป็นเบี้ยล่างเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว นั่นทำให้ตบะของชีคหนุ่มขาดสะบั้น ชีคหน
“ ข้าร่าน ร่านเหลือเกิน ร่านจนทนไม่ไหวแล้ว อ๊าย อ๊าา อ๊าาา เอาข้าเสียที ได้โปรด ท่านชีคเพคะ ช่วยข้าด้วย ขย่มข้าเสียที อ๊าา อ๊ายย อ๊าาาา ” นางทนเสียวซ่านต่อไปไม่ไหว เอ่ยปากอ้อนวอนคนที่นางไม่เคยคิดจะรักเขา และทั้งเกลียดและกลัวเขาเหลือเกิน แต่บัดนี้มันต้องการเขาแทบขาดใจ ทำไมร่างกายของนางมันปรารถนาเพียงเขามากขนาดนี้ และต้องเป็นเขาเท่านั้น ที่จะมาโยกขย่มบนร่างของนางได้ “ ท่านชีคเพคะ ช่วยข้าด้วย ท่านชีคเพคะ รักเมียเสียที ได้โปรด ได้โปรดเพคะ ” นางจะเคยรู้สึกกับเขาอย่างไรก็ช่าง แต่ตอนนี้นางต้องการ นางอยากให้เขาเป็นผู้เติมเต็มนางเพียงเท่านั้น นีสริสปรือตาขึ้นเล็กน้อยเพื่อสบตาของเขา ชีคหนุ่มจ้องมองร่างอวบขาวของนีสรินที่นอนทอดร่างบนผ้าปูสีครีมมันระยับนั้น นางดูเหมือนนางเสือดาวที่ยั่วยวนเหลือเกิน สติยับยั้งของเขาขาดสะบั้นลง กระชากอาภรณ์ของตนเองออกอย่างลุกลน เมื่อเจ้าลูกชายตาเดียวเป็นอิสระมันผงาดง้ำทันที น้ำรักไหลยืดเพราะเขาเองก็เสียวซ่านจนทนแทบไม่ไหว เขาจับเจ้้าลูกชายที่พรักพร้อมเหลือเกินสอดเข้าในร่องอวบของนีสรินทันที นางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด พยายามโยกสะโพกอวบหนีเขา แต่ถูกมื
บัดนี้เธอไม่สนใจสิ่งใด เพียงต้องการให้เขาปลดปล่อยหล่อนจากความเสียวซ่านที่ทวีขึ้นอย่างรุนแรงนี้ ทั้งสองต่างโยกสะโพกเข้าหากันด้วยจังหวะที่มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้ บั้นเอวของสามีหนุ่มเหมือนมีชีวิตของมันเอง มันโยก อย่างบ้้าคลั่งเร่งทิ่มแทงร่องอวบของคนใต้ร่างอย่างรุนแรงเสียงเนื้อกระทบเนื้อเสียงดังก้องไปทั่วบริเวณที่เงียบสงบไม่มีผู้คนพลุกพล่านเพราะเป็นวิลล่าที่ราคาแพงลิบ ชายหาดตรงหน้านั้นเป็นชายหาดส่วนตัวของวิลล่าแต่ละหลังแบ่งอาณาเขตกันชัดเจนไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมาก ท่านประธานหนุ่มจึงชอบมาก และคิดว่าจะเริงรักกับเมียหมาดๆของเขาด้านนอกวิลล่าไปจนทั่ว ตามแต่เขาจะต้องการหล่อนตอนไหน และมีนาก็เต็มอกเต็มใจที่ปรนเปรอสามีที่หล่อนรัก เพราะลึกๆในใจแล้วมีเองก็ไม่รู้ว่า เขานั้นจะเบื่อหน่ายเธอไปในวันใด แม้เขาจะสัญญากับเธอว่าจะมีเธอเพียงคนเดียว แต่มีนาก็คิดว่่าจะปรนนิบัติเขาและตามใจสามีที่รักของหล่อนทุกอย่างเพื่อให้เขาพอใจและอิ่มเอมจนไม่คิดจะไปหาจากผู้หญิงคนไหนอีก จนบัดนี้ร่างล่ำสันของสามีหนุ่มที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามหนั่นแน่นก็กำลังโยกขย่มอยู่บนร่างอวบของเธออย่างเร่าร้อน เหมือน
ประธานหนุ่มยกยิ้ม เขาปล่อยแขนล่ำสันที่รัดเอวบางของหล่อนจนแนบชิดอกแกร่ง แล้วจับร่างอวบหันมาเผชิญหน้ากัน ขณะที่มีนากำลังจะอ้าปากร้องกรี๊ดนั้น ใบหน้าหล่อคมก็ก้มลงประกบจูบริมฝีปากอวบอิ่มของเธอทันที ลิ้นสากที่ร้อนรุ่มนั้นก็สอดเข้าไปในปากจิ้มลิ้มนั้นทันทีอย่างไม่ให้เธอได้ทันตั้งตัว มันควานหาลิ้นเล็กของหล่อนจนพบแล้วเข้าเกี่ยวพันอย่างดูดดื่มทันที จนกระทั่งลิ้นสากนั่นเข้าพัวพันกับลิ้นเล็กที่อ่อนนุ่มของหล่อน ประธานหนุ่มทั้งดูด ทั้งดุน ทั้งเกี่ยวพันจนกระทั่งจากจูบที่ดุดันรุนแรงกลายเป็นร้อนรุ่มอย่างรวดเร็ว เขาจูบหล่อนอย่างโหยหาและยาวนานจนกระทั่งร่างอวบของมีนาอ่อนระทวยลงเอนกายพิงอกแกร่งของเขาอย่างไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขืน สามีหนุ่มจึงได้ไล้เลียไปจนทั่วใบหน้าหวานจนเลื่อนลงมาถึงซอกคอหอมกรุ่นของเมียรัก มือหนาเลื่อนถอดชุดว่ายน้ำแบบทูพีซตัวบนของหล่อนออกจนมันหลุดแล้วลอยไปตามน้ำในสระสีฟ้าสดใสนั้น ทรวงอกอวบใหญ่ขาวผ่องจึงปรากฏแก่สายตาของประธานหนุ่ม เขาก้มลงไล้เลียเนินอกอวบใหญ่ที่เขาจับจองเอาไว้แล้ว และจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนใดมาซ้ำรอยอย่างแน่นอน เขาทั้งดูดทั้งไล้เลียจนทั่วเนินอกอวบ ทำรอยรักเอาไว้จนทั่
หลังจากที่ฟาริดาสะบัดก้นจากไปแล้ว คุณมาริสาก็ตะลึงงันอยู่กับที่ครู่หนึ่ง “ เอาละ ในเมื่อเธอยืนยันจะเลือกมีนาก็ตามใจเธอก็แล้วกัน ชีวิตเป็นของเธอและเธอก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว หากเธอยืนยันอย่างนั้นก็ตามใจ ส่วนมีนาฉันยินดีที่ได้รู้จักเธอในฐานะลูกสาวของการีม แม้จะไม่ชอบใจนัก แต่ไม่ใช่ความผิดของเธอที่เขามีเธอก่อนที่จะมาแต่งงานกับฉัน เอาาละอาไปก่อนแล้วกันนะการีม ”แล้วมาริสาก็เดินออกจากห้องไปอีกคน ทิ้งให้สองสามีภรรยาหันมามองหน้ากัน และตอนนั้นรูมเซอร์วิสก็มาส่งอาหารที่สั่งเอาไว้พอดี เขาเข็นรถเข้ามาในห้อง แล้วลงมือจัดโต๊ะอาหารที่ริมหน้าต่างให้กับคนทั้งสอง เมื่อเสร็จแล้วอัสมายื่นทิปให้กับเขาแล้วบอกว่าไม่ต้องเปิดไวน์หรอกเขาจะจัดการเอง แล้วรูมเซอร์วิสก็เข็นรถเข็นจากไปก่อนจะปิดประตูห้องลงให้ตามเดิม “ มีนาจ๋า ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว เราไปกินอาหารกันดีกว่าพี่หิวมากแล้ว ” แล้วทั้งสองก็ไปนั่งลงกินอาหารด้วยกัน ด้วยอารมณ์ที่แช่มชื่นขึ้น หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงไลน์ดังขึ้นอัสมาก้มหน้าลงอ่าน แล้วพิมพ์ข้อความตอบกลับไป “ ชีคฟาอิดน่ะ เขาชวนไปตีกอล์ฟ พี่ปฏิเสธไปแล้ว อยากจะพักผ่อนกับมีนาที่ห้องนี้มากกว่า ”เขามองส
หลังจากอิ่มเอมแล้วก็ช่วยกันอาบน้ำจนสะอาดแล้วก็ออกมาเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมที่ด้านนอก “เมียจ๋า สั่งอาหารขึ้นมากินกันดีกว่าพี่หิวแล้ว เราจะนอนกันที่นี่อีกคืนนะ พรุ่งนี้เราค่อยกลับคอนโดกัน ส่วนข้าวของของมีนา ให้คนไปเก็บให้ดีกว่า พี่ไม่อยากให้เธอเหนื่อยเกินไป ” มีนาสวมเสื้อคลุมแล้วจึงได้เดินไปหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรสั่งรูมเซอร์วิสให้สามีและตนเองข้างบนห้อง เธอไม่อยากแต่งตัวลงไปกินอาหารข้างล่างอยู่แล้ว ฉะนั้นกินที่ข้างบนก็สะดวกกว่า ขณะที่เธอวางโทรศัพท์ลงหลังจากสั่งอาหารให้สามีเสร็จแล้ว ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง เธอก็แปลกใจว่าทำไมเสียงเคาะประตูดังขึ้นเร็วนัก หรือจะเป็นอีริคกลับมาเคาะประตูห้อง แต่ก็ไม่น่าจะใช่นะ ป่านนี้มันมืดค่ำแล้ว เขาคงจะกลับบ้านของเขาไปแล้ว คงไม่มาเคาะประตูอีกหรอกแล้วมีนาก็เดินมองมองที่ตาแมวด้านในห้องก็เห็นคุณมาริสากับคุณฟาริดายืนอยู่ด้านนอก เธอจึงได้ยืนนิ่งคิดว่าจะเปิดประตูให้เขาดีหรือไม่ และเสียงออดก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ ที่รัก ใครมาหรือ ” เสียงร้องถามของสามีดังขึ้นในห้อง และทำให้เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกพร้อมกับเสียงของคุณมาริสาที่ด้านนอก “ นังแมวขโมย เปิดประตูห้องนะ ขโมยขอ
เมื่ออดีตสามีหนุ่มทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว เขาต้อง……ได้หล่อน ในที่สุดลำกายอวบใหญ่ที่แข็งขึงจนแทบจะปริแตกของอัสมาก็สอดเข้าไปในร่องอวบของมีนาทันที เขาค่อยๆดันมันเขาไป “ อ๊ายย อ๊าายยย เจ็บ เจ็บเหลือเกิน เจ็บ เอาออกไปนะ เอาออกไป ” มีนนากรีดร้องขึ้นมาเพราะนางเจ็บเหลือเกิน นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกเขาสอดประสานหลังจากผ่านไปเกือบหนึ่งเดือน ร่างหนาค่อยๆชำแรกลำกายอวบใหญ่ช้าๆเข้าไปในร่องอวบของนาง มันช่างฉ่ำเยิ้มเหลือเกิน แต่ก็คับแน่นถูกใจเขามาก อัสมากัดฟันแน่น เส้นเลือดที่ต้นแขนและบ่าหนาของเขาปูดโปนแต่เมื่อส่วนปลายบานนั้นสัมผัสอยู่กับร่องชุ่มฉ่ำของนาง สติของเขาก็พลันขาดสะบั้น จากที่ค่อยๆทำช้าๆอย่างนุ่มนวล ก็กลับกลายเป็นดุดันและป่าเถื่อน เขาดันอย่างแรงจนเข้าไปสุดลำกาย แม้หล่อนจะดิ้นรนและกรีดร้องเพียงใดเขาก็ไม่ยอมถอนลำกายออกไปอย่างที่หล่อนร้องขอ เขาบีบเค้นเต้าหวานของนางอย่างมันมือ ปากหนาก็ประกบจูบริมฝีปากอวบของนางทันทีเขาจูบนางอย่างเร่าร้อน ดูดดื่มและยาวนานเพื่อหลอกล่อนาง ขณะที่บั้นเอวก็ค่อยๆขยับโยกช้าๆ ด้วยจังหวะที่เนิบนาบ เข้าสุดออกสุดอย่างช้าๆ สัมผัสร่องอวบของนางอย่างดื่มด่ำจนหลุดเสียงคราง
มือหนาข้างที่ยังว่างนั้นที่มันเฝ้าลูบไล้ไปจนทั่วร่างอวบของคนในอ้อมกอด เขาลูบไล้ไปจนทั่วร่าง ทั้งบีบทั้งเค้นร่างอวบขาวผ่องของหล่อนอย่างเมามัน และค่อยเลื่อนสอดเข้าไปในกระโปรงผ้ายืดเนื้อนุ่มที่หล่อนสวมในวันนี้ และเขาคิดว่ามันเย้ายวนเหลือเกิน ตอนนี้มันปิดบังเรือนร่างของหล่อนแทบจะไม่มิดแล้ว มือหนาควานหาจนพบเนินอวบใหญ่ของหล่อน เขาบีบเค้นมันอย่างพึงใจ มันใหญ่จนล้นฝ่ามือของเขา “ มีนา คุณช่างงดงามเหลือเกิน จนผัวแทบจะอดใจไม่ไหวอีกแล้ว ” อดีตสามีหนุ่มรำพึงเขาบีบเค้นมันจนพอใจจึงค่อยๆสอดนิ้วแกร่งเข้าไปในร่องอวบของนั้นทีละนิด แล้วหยุดเอาไว้ที่ข้อนิ้วแล้วถอกเข้าถอกออกช้าๆ สลับกับสะกิดเมล็ดดอกไม้ของหล่อนไปมา นิ้วหนานั้นครูดผ่านเมล็ดดอกไม้นั้นไปมา จนร่องอวบของมีนาตอดตุบๆ ด้วยความเสียวซ่าน ร่องสวาทของหล่อนนั้นตอดรัดนิ้วแกร่งของเขาอย่างร่านร้อน อดีตบอสหนุ่มครางเบาๆอย่างเสียวซ่าน ใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนขึ้นไปประกบจูบหล่อนอีกครั้ง มีนาที่บัดนี้หัวสมองขาวโพลน ร้องครวญครางเสียงกระเส่าอย่างเสียวซ่าน หล่อนลืมเลือนไปทุกสิ่ง ปากจิ้มลิ้มอ้าปากรับลิ้นสากของเขาอย่างเต็มใจ สติของหล่อนนั้นหลุดลอยไปจนสิ้นบ
” อัสมายกริมฝีปากขึ้นนิดหนึ่ง “ คุณเลขาเอาใจใส่งานดีมากเลยนะครับ มีความรับผิดชอบดีมาก จนผมอยากจะให้คุณกลับไปเป็นเลขาของผมอย่างเดิม เสียดายเลขาที่มีประสิทธิภาพมากอย่างนี้ ” อัสมาไม่วายจะยียวนคนตรงหน้าที่ร่ำๆว่าจะเดือดปุดๆ เขาชอบเย้าแหย่หล่อนยิ่งเห็นใบหน้าหวานเริ่มแดงก่ำแล้ว เขาก็ยิ่งชอบใจ “ คนบ้า คุณต้องการอะไรกันแน่ ฉันก็ออกมาจากชีวิตพวกคุณแล้วอย่างไรเล่า ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอีก คุณจะเอาอย่างไรกัน ” อัสมายิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเดินมาจนแทบจะถึงตัวของมีนาที่ถอดกรูดไปทางด้านหลังแล้วร่างอวบของเธอก็ถูกรวบแล้วแบกพาดบ่าเดินเข้าไปในห้องนอนทันที ร่างล่ำสันแบกร่างอดีตเมียรักที่กำลังจะกลับมาเป็นเมียของเขาตามเดิมลงบนฟูกนอนหนานุ่มแล้วก็ตามขึ้นไปคร่อมร่างหล่อนเอาไว้ “ ผมอยากจะรักเมียจะได้ไหมครับ อยากจะรักเมียหลายๆครั้งและตลอดคืนนี้ คิดถึงผัวบ้างไหมครับ ” เขาเอ่ยถามชิดใบหน้าหวาน มีนารู้สึกได้ถึงลมหายใจที่ร้อนผ่าว “ ไม่นะ ฉันไม่คิดถึงคุณ อย่ามายุ่งกับฉันนะ ปล่อย ” แต่สิ่งที่ได้รับจากคนบนร่างก็คือจูบที่รุนแรงและจาบจ้วงอย่างที่ไม่ทันให้เธอได้ตั้งตัวเล็กแม้แต่น้อย “ ไม่นะ ไม่ ปล่อย อื้อ…. ไม่ …..” มือหนาน
มีนาย้ายกลับไปอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์เดิมของตนเอง และตอนนี้ก็เริ่มปรับตัวได้มากขึ้น ตอนแรกเธอไม่ได้ทำงานอะไรแค่เพียงอยู่เฉยๆ และนั่งทบทวนตัวเองเงียบๆ และได้ส่งเรซูเม่สมัครงานเอาไว้แล้ว และสองอาทิตย์ต่อมาก็มีอีเมล์แจ้งให้เธอไปสัมภาษณ์งาน หลังจากนั้นมีนาก็ได้งานเป็นเลขาของเจ้าของบริษทขนาดกลางแห่งหนึ่ง เงินเดือนพอใช้ได้แม้จะไม่มากเท่ากับบริษัทเดิม แต่ก็พอใช้จ่ายและเหลือเก็บอยู่บ้าง มีนาเริ่มต้นไปทำงานใหม่และพบเจอเพื่อนร่วมงานใหม่ๆ เจ้านายเป็นหนุ่มโสดที่หน้าตาดีและอัธยาศัยดี แต่เขาไม่มีท่าทีการ่อกอติกกับเธอ เขาดูเป็นคนบ้างานมาก มีนากับพ่อของเธอก็ได้คุยกันบ้าง พ่อมักจะโทรมาถามข่าวคราวของเธอ ส่วนลูน่าก็โทรมาเช่นกัน แต่มีนาบอกกับเธอไม่ให้พูดถึงเรื่องอื่นนอกจากเรื่องของเราสองคนเท่านั้น หล่อนไม่อยากจะรู้ข่าวคราวของคนบางคน เพราะกำลังทำใจให้ลืมเขาอยู่ และมันก็เป็นไปด้วยดี ในทุกวันเธอเริ่มต้นวันใหม่เหมือนเช่นเคยที่ผ่านมาสมัยที่ยังอยู่ที่นี่ใหม่ๆ ไม่ต้องคอยดูแลใคร แค่เพียงชงกาแฟมานั่งดื่มถ้วยเดียวกับขนมชิ้นเล็ก ในตอนเช้าและหลังจากนั้นก็อาบน้ำอย่างไม่ได้เร่งรีบมากนัก เพราะที่ทำงานอยู่ไม่ไกลจากอ
“ คุณไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันลาออกแล้วจะไม่มาให้พวกคุณเห็นหน้าอีก ” มีนาพยายามบอกให้เขาสบายใจ แต่อัสมาที่หึงจนจะบ้าอยู่แล้วเขากลัวหล่อนไปนอนกับอาการีมเพื่อประชดเขา ตลอดเวลาที่นั่งรออยู่ในห้องทำงานไม่ได้กินอะไรเลยเพราะกินไม่ลง ระแวงว่าเมียจะคบชู้และยิ่งเห็นหล่อนลงมาจากรถของอาการีม เขาแทบจะบ้า อยากจะลงไปอาละวาดทั้งหล่อนและอาการีม เขาทนไม่ไหว ในหัวมีแต่ภาพที่พวกเขามีอะไรกัน เขาทนไม่ได้ ไม่ว่าหล่อนจะไปกับใคร จะคบกับใครเขาก็ไม่ยอมทั้งนั้นแหละ หล่อนเป็นเมียของเขา เขาไม่ยอม เรื่องอะไร หล่อนจะเลิกแต่เขาไม่เลิกแล้ว “ ไม่เลิก ผมไม่เลิกกับคุณแล้ว ผมกลัวคุณจะไปมีอะไรกับอาการีมผมไม่อยากให้ครอบครัวอามาริสามีปัญหา ” เขาไม่กล้าบอกว่าเขาหลงหล่อนจนโงหัวไม่ขึ้น หึงหล่อนจนแทบจะบ้า รักเขาจนจะคลั่งตายเมื่อคิดว่าหล่อนจะไปมีผู่้ชายคนอื่นมาแทนที่เขา แต่ก็ยังปากแข็งทำเป็นห่วงใยครอบครัวของอามาริสา แก้เก้อที่ตัวเองบอกกับหล่อนไปว่าไม่แคร์ว่าหล่อนจะเลิกกับเขาและเขามีผู้หญิงตั้งหลายคนให้เลือก แต่ที่จริงเขาไม่อยากจะเลือกต่างหากเล่าเจ้าลูกชายของเขามันร่ำๆ แต่อยากจะรักหล่อนแทบจะบ้าอยู่แล้ว มันไม่อยากจะได้คนอื่น