เมื่อนีสรินได้ยินดังนั้นนางก็กลับหลังหันเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าใบเล็กนั้น เมื่อเปิดออกดูพบเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวแขวนไว้หนึ่งตัวในนั้น และมีอีกตัวอยู่ในถุงที่วางด้านล่างของตู้ นางจึงเดินกลับที่หน้าห้องแล้วเอ่ยว่า " ขอบใจเจ้ามากนะ ข้าหามันพบแล้ว “ นีสรินยื่นมือไปรับถาดอาหารนั้นมาวางบนโต๊ะปลายเตียง
ลียาเห็นคนตรงหน้าวางถาดลงบนโต๊ะแล้ว จึงได้บอกต่อไปว่า ” หากเจ้ากินอาหารเสร็จแล้ว ก็เดินเอาถาดไปไว้ที่โรงครัวที่อยู่ติดกับห้องอาหาร เดินกลับไปตามทางที่เจ้าเดินเข้ามา แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายมือก็พบแล้ว จะได้สำรวจมันเอาไว้ พรุ่งนี้เจ้าต้องออกไปกินอาหารที่นั่น แล้วจะได้ไปทำงานตามหน้าที่ของแต่ละคน
มื้อกลางวันก็มากินเช่นเดิม ส่วนมื้อเย็นก็เช่นกันให้มากินให้ตรงเวลาเพราะหากเลยเวลามากไป พวกเขาก็จะเก็บอาหารไป แล้วเราก็จะอดกินอาหารมื้อนั้นไปเลย ข้าบอกเจ้าไว้ก่อนเผื่อเจ้าไม่รู้ ทำงานเลยเวลาอาหารก็จะอดกิน คนรับใช้อย่างเรา มันมีทางเลือกไม่มากนัก ทำอะไรเพื่อตนเองได้ก็ต้องทำ ไม่มีใครมาสนใจเราหรอกว่าเราจะได้กินอิ่มท้องหรือไม่ หรือทำงานเหนื่อยไปหรือไม่ เจ้าต้้องใช้ไหวพริบช่วยตนเอง เอาละข้าพูดมากไปเสียแล้ว ต้องรีบไปทำงานก่อน ไว้เจอกันตอนเย็นนะ " จากนั้นลียาก็หัันหลังเดินกลับออกไปตามทางเดิม
นีสรินปิดประตูแล้วล็อคมันอย่างแน่นหนา แล้วนางก็ยกเก้าอี้มานั่งลงที่โต๊ะเล็กนั้น แล้วก็ลงมือกินอาหารก่อนอย่างหิวโหยเหลือเกิน อาหารที่ดูแล้วเป็นอาหารราคาถูกและเป็นอาหารพื้น ๆ ของชาวบ้านทั่วไป นางซึ่งเป็นถึงน้องสาวของชีคของแคว้นความเป็นอยู่สุขสบายมาตั้งแต่เล็ก แต่ดีที่ได้ไปร่ำเรียนที่อังกฤษตั้งแต่ยังรุ่น ๆ จึงได้เรียนรู้การช่วยตนเอง และการทำงานบ้าน ทำอาหารด้วยตนเอง เมื่อยามตกยากเช่นนี้จึงพอมีทักษะติดตัวอยู่บ้าง แต่วันนี้รสชาติของอาหารพื้นๆนี้อร่อยมาก อาจเป็นเพราะนางหิวโหยเหลือเกิน เมื่อท้องอิ่มแล้ว นางก็เก็บถ้วยชามใส่ไว้ในถาดเดิม แล้วเดินไปล้างมือที่อ้างล้างมือมุมห้องนี้ ยังดีที่ห้องเล็กๆเช่นนี้ยังมีอ่างเล็กไว้ให้ล้างหน้าล้างมือไม่ต้องเดินไปอีกตั้งไกลเพื่อล้างมือเพียงเท่านั้น
เมื่อจัดการตนเองเรียบร้อย นีสรินก็ยกถาดนั้นขึ้นแล้วเดินออกจากห้อง แล้วหันมาปิดประตูให้เรียบร้อยแล้วเดินไปตามทางที่ลียาบอกเมื่อครู่ จนพบห้องอาหารใหญ่ที่มีโต๊ะยาวเรียงรายเป็นแนวและมีเก้าอี้เรียงตามโต๊ะยาวนั้นถึงห้าแถว น่าจะเอาไว้ให้คนรับใช้และข้าทาสในตำหนักนี้มานั่งกินข้าวกัน นีสรินเดินเลยไป แล้วตรงเข้าไปในห้องครัวใหญ่นั้น พบแม่ครัวสี่ห้าคนยืนหน้าโต๊ะตัวใหญ่กำลังลงมือเตรียมวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารมื้อต่อไป
เมื่อนางเดินเข้าไปทั้งหมดหันมามองเป็นตาเดียว มีหญิงร่างท้วมคนหนึ่งชี้มือไปที่อ่างล้างจานขนาดใหญ่ เหมือนบอกว่าให้ไปล้างจานที่ตรงนั้น นีสรินจึงเดินไปตามที่นางชี้บอก แล้วก็ลงมือล้างจานและถาดในมือของตนเอง แล้วคว่ำมันเอาไว้ที่ชั้นวางจานชามขนาดใหญ่ๆอยู่อยู่ข้างๆ เมื่อเรียบร้อยนางก็ดึงกระดาษเช็ดมือออกมาเช็ดมือบางจนแห้ง
แล้วก็จะออกเดินเพื่อจะกลับออกไปปที่ห้องอาหารที่เพิ่งเดินผ่านเข้ามา ก็มีเสียงเรียกนางไว้ “ เจ้าคือทาสที่มาใหม่ใช่หรือไม่ ไปอ่านกฏระเบียบการใช้ห้องอาหารและเวลาอาหารให้เรียบร้อยนะจะได้ไม่มากินอาหารผิดเวลา หากไม่รู้เรื่องแล้ว ไม่มากินอาหารตามเวลา พวกข้าไม่รู้เรื่องด้วยนะ ”
นีสรินหันไปมองหญิงร่างท้วมคนเดิมที่ชี้บอกนางเรื่องอ่างล้างจาน แล้วพยักหน้าให้หญิงนั้นที่อุตส่าห์บอกนางเรื่องนี้ “ ข้ารู้แล้ว ขอบใจเจ้ามากที่บอกข้า ถ้าเช่นนั้นไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวก่อนนะ ” จากนั้นนีสรินก็เดินออกมาจากห้องครัวนั้นแล้วตรงไปอ่านป้ายที่ติดไว้ที่ข้างฝาเรื่องกฏระเบียบการใช้ห้องอาหารของคนรับใช้และข้าทาสในตำหนักนี้
หลังจากเดินออกมาจากห้องอาหารนั้น นีสรินก็เดินเล่นช้าๆ เพื่อย่อยอาหาร แล้วก็กลับไปยังห้องของตนเอง ยังมิกล้าออกนอกเส้นทางไปมากนัก เพราะยังไม่คุ้นเคยกับสถานที่ กลัวหลงทางและกลัวพบคนแปลกหน้าที่อาจเป็นอันตรายได้ นางจึงค่อยๆ เดินกลับไปยังห้องของตนเองจะดีที่สุด นางต้องใช้เวลาปรับตัวในการอยู่ที่นี่
แม้จะไม่อยากอยู่แต่ด้วยคำสั่งของชีคคือกฏหมาย ที่นี่ไม่เหมือนโลกตะวันตกที่มีกฏหมายคุ้มครองทุกคนอย่าเท่าเทียมกัน แต่โลกของพวกนางที่นี่ คำสั่งชีคคือคำศักดิ์สิทธิ์และเด็ดขาด เพราะฉะนั้นนีสรินเองที่ก็มีเชื้อสายอาหรับแม้มารดาจะเป็นคนต่างเชื้อชาติ นางจึงยังพอรู้เรื่องวิถีชีวิตของชนชาติของนางในแคว้นนี้ จึงยังมิกล้าทำอะไรให้เกินขอบเขต แม้ชีคฟาอิดจะจับนางมาเป็นทาสแต่ขณะนี้ก็ยังดีที่เขาไม่ได้ทำร้ายร่างกายนางหรือทรมานให้เจ็บตัว เขาแค่เพียงให้ทำงานรับใช้จนกว่าเขาจะพอใจ แต่นางเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเกิดสิ่งใดต่อไปจากนี้ แต่นางก็จำต้องทนอยู่ที่นี่ไปก่อน เพราะยังไม่สามารถจะทำอะไรได้ไปมากกว่านี้
หากมีหนทางเมื่อใด ค่อยหาทางออกไปจากที่นี่ ส่วนเรื่องจะรอให้พี่ชายส่งคนมาช่วยนั้น นางซึ่งมีพื้นเพเป็นชาวอาหรับเช่นกัน คิดว่ายาก แม้นางจะไปอยู่ที่อังกฤษนานแล้วจนคุ้นเคยกับโลกตะวันตกมากกว่า แต่ก็พอจะรู้ประเพณีคร่าวๆ และอำนาจของชีคของแต่ละแคว้นอยู่บ้าง แคว้นแห่งนี้ค่อนข้างร่ำรวยเพราะมีทรัพยากรเป็นน้ำมันค่อนข้างมาก ร่ำรวยยิ่งกว่าแคว้นของนางด้วยซ้ำไป และเมื่ออำนาจเงินมีมากล้นฟ้า บริวารของเขาก็ย่อมมากตามไปด้วย และบริวารที่เก่งกาจก็ย่อมมากเช่นกัน นางที่คิดจะหนี หรือพี่ชายที่คิดจะเข้ามาช่วยนางในที่แห่งนี้คงยากยิ่งที่จะเป็นไปได้
นางเองก็มิอยากให้พี่ชายเสี่ยงอันตรายเข้ามาช่วยนาง แม้นางจะรักตนเองมากมิอยากให้ตนเองได้รับอันตราย แต่นางก็เป็นห่วงพี่ชายเช่นกัน เพราะเขามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบประชาชนในแคว้นด้วย มิใช่เฉพาะตัวของเขาหรือเพียงแค่ครอบครัวของเขา
นางติดกับเสียแล้ว ก็ไม่อยากชักนำให้พี่ชายต้องมาติดกับเช่นเดียวกับนาง จึงยอมเสียสละอยู่ที่นี่ไปก่อน ตัวนางมิได้มีความสำคัญกับแคว้นมากนัก นางไปเรียนตั้งแต่เด็กยังไม่เคยได้ทำงานชดใช้อะไรให้กับทางแคว้น ที่ชีคฟาอิดจับตัวนางมานั้นก็เป็นการดีกว่าจับพี่ชายของนางมาทำร้ายหรืออาจจะถึงกับเข่นฆ่าก็เป็นได้
นางเดินพลางก็ครุ่นคิดไปพลางจนมาถึงหน้าห้องพักของตนเอง นางเปิดประตูเข้าไปแล้วนั่งลงที่เก้าอี้หน้าเตียงนั้น เมื่อเวลาผ่านไปจนเข้าสู่เวลาเย็น ลียาก็นำอาหารส่งให้อีกครั้งแล้วก็ลากลับไป นีสรินลงมือกินอาหารที่เป็นข้าวหมกไก่รสชาติอร่อยมาก นีสรินก็ไม่ได้กินมันมาหลายปีเพราะไปใช้ชีิวิตที่เมืองนอก แม่ครัวที่นี่ฝีมือดีมาก เมื่อนางกินข้าวหมกไก่นั้นจนหมดก็ลงมือกินขนมหวานถ้วยเล็กที่มีมาให้ในถาดนั้น จนเรียบร้อยก็ยกถาดอาหารไปเก็บเช่นเดิม แล้วก็กลับมายังห้องตนเองเพื่อเตรียมตัวออกไปอาบน้ำ
เมื่ออาบน้ำเรียบร้อยแล้วนีสรีนก็กลับเข้าห้องมา จัดการเก็บข้าวของให้เรียบร้อย นำเสื้อผ้าชุดเดิมไปใส่ตระกร้าไว้ก่อนแล้วค่อยถามลียาอีกครั้งว่าเครื่องซักผ้าของคนรับใช้อยู่ที่ไหนกันจะได้นำชุดที่ใส่แล้วไปซัก
รุ่งเช้าวันต่อไป นีสรินสะดุ้งตื่นขึ้นมา นางลืมไปว่าตนเองไม่มีนาฬิกาไว้ดูเวลาจึงคิดว่าวันนี้จะไปหามาสักเรือนหนึ่งเพราะตอนเช้าตื่นขึ้นมาไม่รู้ว่าเวลากี่โมงแล้ว นางรีบหยิบของใช้ส่วนตัวและสวมเสื้อคลุมแล้วรีบไปอาบน้ำทันที เมื่ออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็กลับมาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายชุดใหม่ที่เป็นเครื่องแบบของคนรับใช้ที่ตำหนักนี้ ที่ใส่คล้ายๆกันทุกคน เมื่อแต่งกายเรียบร้อย นีสรินก็รีบออกไปจากห้องนี้แล้วปิดประตูไว้ นางไม่มีกุญแจจะล็อคห้องและก็ไม่มีของมีค่าในห้องนอนน้อยนี้ จึงคิดว่าคงมิเป็นไร จากนั้นนางก็เดินตรงไปตามทางที่ตรงไปห้องอาหารก่อนเพื่อรีบกินอาหารเช้าก่อน แล้วค่อยไปทำงานที่ได้รับคำสั่งมา นีสรินเดินเข้ามาในห้องอาหารนางเห็นถาดใส่อาหารที่เป็นถาดหลุมวางเรียงรายบนโต๊ะใหญ่นั้น นีสรินเห็นคนอื่นๆเริ่มทะยอยมากินอาหารกันบ้างแล้วนางจึงหยิบถาดอาหารตรงหน้า แล้วหยิบแซนวิซที่วางเรียงไว้ใส่ไปในถาดอีกหนึ่งชิ้น แล้วเดินไปรินกาแฟใส่ถ้วย แล้วนำไปนั่งกินที่มุมหนึ่ง นางค่อยๆกินอาหารตรงหน้าที่เป็นแป้งพิต้ากับซุปถั่วลูกไก่ และแซนวิสแฮมชีสที่นางหยิบมาเพิ่ม แล้วยกกาแฟขึ้นจิบช้าๆ เมื่อท้องอิ่มอารมณ์ก็ดีขึ้
จากนั้นร่างล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นๆ ไปทั้งร่างก็ลุกขึ้นแล้วก้าวลงจากเตียงนอนใหญ่นั้น เขาเดินกายเปลือยเปล่ามิได้อนาทรร้อนใจที่นีสรินจ้องมาอย่างตะลึงงันอยู่ตรงหน้า ดวงตาของนางโตจนแทบจะถลนออกมา โอ้ว !! แม่เจ้า นางคิดว่าพระเอกหนังเอวีน่าจะต้องอายเจ้าหมอนี่ นิสรินครุ่นคิด นางมีมารดาที่เป็นชาวไทยและได้รับการเลี้ยงดูจากมารดามาหลายปีก่อนที่มารดาจะย้ายกลับไปอยู่เมืองไทย หลังจากท่านชีคบิดาของนางและท่านพี่อมานเสียชีวิตลงไป นางจึงมีหลายอย่างทั้งภาษาพูดและนิสัยใจคอดังเช่นมารดาของนาง “ เอาละ ลงมือทำความสะอาดห้องนี้ให้เรียบร้อย ข้าจะไปอาบน้ำ ” จากนั้นเขาก็ก้าวออกจากห้องนี้ไป นีสรินเบะปากมองบนเล็กน้อย ฮึ !! ชีวิตท่านหญิงอย่างฉันต้องมาทำงานเป็นแม่บ้านโรงแรมเช่นนั้นหรือ แล้วนางก็เท้าสะเอว ถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างระบายความหงุดหงิดนั้น แล้วลงมือเก็บเตียงของเจ้าชีคหนุ่มนั่นกับแม่นางบำเรอร่างอวบอัดที่ทำไว้เสียยุ่งเหยิงเละเทะไม่น้อย นางเดินออกไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดและถุงมือขึ้นมาสวมแล้วลงมือเก็บผ้าปูเตียงและปลอกหมอนใบใหญ่นั้นโยนใส่ตระกร้าผ้าเพื่อจะนำไปส่งซักอีกที แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าใ
แล้วก้มลงหยิบเสื้อชั้นในที่หล่นอยู่บนพื้นห้องขึ้น แล้วรีบวิ่งออกไปจากห้องของชีคหนุ่มทันที ชีีคหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่งเหยียดยิ้มออกมา เขากำลังจะได้ลิ้มรสเหยื่อสาวเนื้อหวานจนน่าลิ้มลองอยู่แล้วเชียว แต่ไม่เป็นไร วันนี้เขาหมดอารมณ์แล้ว ไว้คราวหลังค่อยจัดการนางก็ยังไม่สายชีคหนุ่มจึงลุกขึ้นไปผลัดเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแล้ว จึงได้ก้าวเดินออกไปจากห้องนอนของเขา แล้วเดินลงไปที่ห้องทำงานด้านล่างแทน เมื่อเดินเข้าไปในห้องนอนพบอาหมัด องครักษ์ของเขานั่งรออยู่และบอกมีเอกสารด่่วนที่ต้องการให้เขาพิจารณาในวันนี้หลายฉบับ ชีคหนุ่มจึงนั่งลงบนโต๊ะทำงานและลงมืออ่านเอกสารตรงหน้าทันที ฝ่ายนีสรินวิ่งลนลานออกมาจากห้องนอนของชีคหนุ่ม นางออกไปยืนตัวสั่นที่หน้าห้องของชีคหนุ่มเพื่อตั้งสติอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็รีบเดินอย่างเร่งรีบกลับห้องพักของนางเพื่อตั้งสติก่อน นางตกใจกับเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นเร็วมาก และตกใจกับปฏิกิริยาของตนเองด้วยที่ยินยอมชีคหนุ่มอย่างง่ายดาย นางเหมือนเคลิบเคลิ้มหลงลืมไปสิ้นว่านางมาที่นี่เพราะอะไร และเขาคือใคร นางกำมือเย็นชืดของตนเองแน่น เร่งรีบเดินกลับห้องพักให้เร็วที่สุด เมื่อเปิดประตูห้องพักน้อยนั้
วันต่อมา ขณะที่นีสรินกำลังจะเดินขึ้นบันไดโค้งเพื่อไปทำความสะอาดห้องของชีคหนุ่ม แม้นางไม่ได้อยากจะไปเลยก็ตามเพราะนางเกรงว่านางจะไม่รอดเงื้อมมือของเขา แต่ก็ไม่สามารถจะทำอย่างไรได้ ก็คงจะต้องแล้วแต่โชคชะตาและวันนั้นเขาอาจจะแค่แกล้งนางเล่นก็เป็นได้ ขณะที่กำลังจะก้าวเดินขึ้นบันไดไป ก็ได้ยินเสียงร้องเรียกดังขึ้นทางด้านหลัง “ นี่เจ้า ท่านชีคลงมาจากข้างบนแล้วหรือไม่ ” นีสรินจึงได้หันไปตามเสียงนั้น แต่นางก็ไม่แน่ใจว่าเสียงทุ้มนั่นเขาพูดกับนางหรือไม่ แต่เมื่อหันไปสบตากับชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมเค้ม ดวงตาของเขามีแววขี้เล่นอยู่ในนั้น และคนผู้นี้ก็ดูท่าทางดีการแต่งกายหรูหราคงไม่ใช่คนรับใช้ในตำหนักนี้อย่างแน่นอน “ ท่านถามข้าใช่หรือไม่ ” นางถามเขาให้แน่ใจ “ ใช่สิ ในห้องนี้ไม่มีคนอื่นนอกจากเจ้า ข้าก็ต้องถามเจ้าแน่นอนอยู่แล้ว ” นีสรินอึ้งงันไป นางมองไปรอบๆ มันก็จริงอย่างที่เขาว่า “ ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าท่านชีคลงมาจากด้านบนแล้วหรือยังเจ้าคะ เพราะข้าเพิ่งเดินมาจากทางด้านหลังกำลังจะขึ้นไปทำความสะอาดห้องพักด้านบน ” สีหน้าแปลกใจฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างเห็นได้ชัด “ เจ้าคือสาวใช้ของตำหนักน
นีสรินลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องแห่งหนึ่ง ข้อมือทั้งสองถูกมัดไขว้ไว้ด้านหลัง นางนอนอยู่บนพื้นเย็นเฉียบ ปากของนางตอนนี้เป็นอิสระพอที่จะหายใจได้สะดวกแล้ว เรานางจำได้ว่าตอนที่ถูกจับตัวมาโดยที่นางถูกมือปริศนาเอาผ้าที่มีกลิ่นแปลก ๆ มาปิดปากนางจากทางด้านหลัง ขณะที่นางกำลังเดินชมข้าวของที่ตลาดกลางเมืองที่คึกคักไปด้วยผู้คน แต่เมื่อนางกำลังมองหาร้านชาดีๆเพื่อจะดื่มชาเย็นๆขณะที่อากาศกำลังร้อนเปรี้ยงนั้น นางมองเห็นไกลๆว่ามีร้านชาขึ้นชื่อที่ดูแล้วน่าจะอร่อย นางจึงพยายามเดินแทรกผู้คนที่คับคั่งนั้นผ่านไปจนใกล้จะถึงร้านชาแห่งนั้น แต่เมื่อก้าวเดินผ่านมุมตึกที่กำลังจะถึงร้านชาอีกไม่ไกลนั้น ก็มีมือหนาๆ เอื้อมมาปิดปากของนางทันทีจากทางด้านหลัง มือนั้นมีผ้าผืนเล็กๆอยู่ในมือ นางได้กลิ่นแปลกๆ จากผ้าผืนนั้นแล้วโลกก็มืดมนลงไปทันทีรู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนที่นอนอยู่ด้านหลังรถคันหนึ่ง และนางนอนอยู่บนพื้นเหล็กแข็งๆ มือทั้งสองข้างถูกมัดไว้ที่ด้านหลัง ปากก็ถูกผ้าปิดเอาไว้ นางได้แต่ร้องอึกอักอยู่ในลำคอ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่ารถกำลังวิ่งด้วยความเร็วพอสมควร และทางที่รถผ่านนั้นมันก็น่าจะขรุขระอยู่พอสมควรเพราะรถวิ่งกระเด้งกระ
บทที่ 2นีสรินอึ้งงันไปกับวาจาของชีคหนุ่มแต่นางก็มิสามารถเอ่ยคัดค้านอะไรได้ นางก็รู้คำสั่งของชีคคือที่สุดแล้วมิอาจมีผู้ใดคัดค้านได้ นางจึงหุบปากที่กำลังจะเผยอขึ้นต่อรองนั้น อัลมาหันมามองนีสรีนแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ เอาละเจ้าคงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ข้าเข้าใจเจ้าที่มิได้เป็นผู้กระทำผิด แต่เมื่อท่านชีคตัดสินใจแล้วเจ้าคงต้องทำตามอย่างมิมีข้อต่อรองใดๆทั้งสิ้น ลุกขึ้นแล้วเดินตามข้าไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายของนางทาส พรุ่งนี้ก็เริ่มมาทำงานตามหน้าที่ของเจ้า ในตำหนักแห่งนี้ม่ีวงจรปิดแทบทุกจุด เจ้าคงจะหลบหนีออกไปมิได้ง่ายๆหรอก เพราะฉะนั้นยอมทำตามคำสั่งเสียจะดีกว่า หากเจ้าว่านอนสอนง่ายไม่ทำเรื่องวุ่นวาย ก็ไม่แน่นะ อีกไม่นานถ้าท่านชีคใจอ่อนอาจจะยอมปล่อยตัวของเจ้ากลับไปดีๆก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นจงทำตัวดีๆ และทำตามคำสั่งท่านชีค อย่าให้บกพร่องก็แล้วกัน ” จากนั้นอัลมาก็เดินออกไปจากห้องโถงใหญ่นั้น นีสรินตอนนี้ยังมึนกับเหตุการณ์ที่เพิ่งได้รับรู้มาใหม่ ๆ นางจึงได้แต่เดินตามอัลมาไปโดยมีสาวใช้ร่างใหญ่สองนางนั้นเดินตามหลังมาติดๆ เมื่อทั้งสองเดินไปตามทางเดินที่ทอดยาวผ่านห้องหับหลายๆห้องและทางแยกไปยังห้องที
วันต่อมา ขณะที่นีสรินกำลังจะเดินขึ้นบันไดโค้งเพื่อไปทำความสะอาดห้องของชีคหนุ่ม แม้นางไม่ได้อยากจะไปเลยก็ตามเพราะนางเกรงว่านางจะไม่รอดเงื้อมมือของเขา แต่ก็ไม่สามารถจะทำอย่างไรได้ ก็คงจะต้องแล้วแต่โชคชะตาและวันนั้นเขาอาจจะแค่แกล้งนางเล่นก็เป็นได้ ขณะที่กำลังจะก้าวเดินขึ้นบันไดไป ก็ได้ยินเสียงร้องเรียกดังขึ้นทางด้านหลัง “ นี่เจ้า ท่านชีคลงมาจากข้างบนแล้วหรือไม่ ” นีสรินจึงได้หันไปตามเสียงนั้น แต่นางก็ไม่แน่ใจว่าเสียงทุ้มนั่นเขาพูดกับนางหรือไม่ แต่เมื่อหันไปสบตากับชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมเค้ม ดวงตาของเขามีแววขี้เล่นอยู่ในนั้น และคนผู้นี้ก็ดูท่าทางดีการแต่งกายหรูหราคงไม่ใช่คนรับใช้ในตำหนักนี้อย่างแน่นอน “ ท่านถามข้าใช่หรือไม่ ” นางถามเขาให้แน่ใจ “ ใช่สิ ในห้องนี้ไม่มีคนอื่นนอกจากเจ้า ข้าก็ต้องถามเจ้าแน่นอนอยู่แล้ว ” นีสรินอึ้งงันไป นางมองไปรอบๆ มันก็จริงอย่างที่เขาว่า “ ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าท่านชีคลงมาจากด้านบนแล้วหรือยังเจ้าคะ เพราะข้าเพิ่งเดินมาจากทางด้านหลังกำลังจะขึ้นไปทำความสะอาดห้องพักด้านบน ” สีหน้าแปลกใจฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างเห็นได้ชัด “ เจ้าคือสาวใช้ของตำหนักน
แล้วก้มลงหยิบเสื้อชั้นในที่หล่นอยู่บนพื้นห้องขึ้น แล้วรีบวิ่งออกไปจากห้องของชีคหนุ่มทันที ชีีคหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่งเหยียดยิ้มออกมา เขากำลังจะได้ลิ้มรสเหยื่อสาวเนื้อหวานจนน่าลิ้มลองอยู่แล้วเชียว แต่ไม่เป็นไร วันนี้เขาหมดอารมณ์แล้ว ไว้คราวหลังค่อยจัดการนางก็ยังไม่สายชีคหนุ่มจึงลุกขึ้นไปผลัดเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแล้ว จึงได้ก้าวเดินออกไปจากห้องนอนของเขา แล้วเดินลงไปที่ห้องทำงานด้านล่างแทน เมื่อเดินเข้าไปในห้องนอนพบอาหมัด องครักษ์ของเขานั่งรออยู่และบอกมีเอกสารด่่วนที่ต้องการให้เขาพิจารณาในวันนี้หลายฉบับ ชีคหนุ่มจึงนั่งลงบนโต๊ะทำงานและลงมืออ่านเอกสารตรงหน้าทันที ฝ่ายนีสรินวิ่งลนลานออกมาจากห้องนอนของชีคหนุ่ม นางออกไปยืนตัวสั่นที่หน้าห้องของชีคหนุ่มเพื่อตั้งสติอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็รีบเดินอย่างเร่งรีบกลับห้องพักของนางเพื่อตั้งสติก่อน นางตกใจกับเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นเร็วมาก และตกใจกับปฏิกิริยาของตนเองด้วยที่ยินยอมชีคหนุ่มอย่างง่ายดาย นางเหมือนเคลิบเคลิ้มหลงลืมไปสิ้นว่านางมาที่นี่เพราะอะไร และเขาคือใคร นางกำมือเย็นชืดของตนเองแน่น เร่งรีบเดินกลับห้องพักให้เร็วที่สุด เมื่อเปิดประตูห้องพักน้อยนั้
จากนั้นร่างล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นๆ ไปทั้งร่างก็ลุกขึ้นแล้วก้าวลงจากเตียงนอนใหญ่นั้น เขาเดินกายเปลือยเปล่ามิได้อนาทรร้อนใจที่นีสรินจ้องมาอย่างตะลึงงันอยู่ตรงหน้า ดวงตาของนางโตจนแทบจะถลนออกมา โอ้ว !! แม่เจ้า นางคิดว่าพระเอกหนังเอวีน่าจะต้องอายเจ้าหมอนี่ นิสรินครุ่นคิด นางมีมารดาที่เป็นชาวไทยและได้รับการเลี้ยงดูจากมารดามาหลายปีก่อนที่มารดาจะย้ายกลับไปอยู่เมืองไทย หลังจากท่านชีคบิดาของนางและท่านพี่อมานเสียชีวิตลงไป นางจึงมีหลายอย่างทั้งภาษาพูดและนิสัยใจคอดังเช่นมารดาของนาง “ เอาละ ลงมือทำความสะอาดห้องนี้ให้เรียบร้อย ข้าจะไปอาบน้ำ ” จากนั้นเขาก็ก้าวออกจากห้องนี้ไป นีสรินเบะปากมองบนเล็กน้อย ฮึ !! ชีวิตท่านหญิงอย่างฉันต้องมาทำงานเป็นแม่บ้านโรงแรมเช่นนั้นหรือ แล้วนางก็เท้าสะเอว ถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างระบายความหงุดหงิดนั้น แล้วลงมือเก็บเตียงของเจ้าชีคหนุ่มนั่นกับแม่นางบำเรอร่างอวบอัดที่ทำไว้เสียยุ่งเหยิงเละเทะไม่น้อย นางเดินออกไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดและถุงมือขึ้นมาสวมแล้วลงมือเก็บผ้าปูเตียงและปลอกหมอนใบใหญ่นั้นโยนใส่ตระกร้าผ้าเพื่อจะนำไปส่งซักอีกที แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าใ
รุ่งเช้าวันต่อไป นีสรินสะดุ้งตื่นขึ้นมา นางลืมไปว่าตนเองไม่มีนาฬิกาไว้ดูเวลาจึงคิดว่าวันนี้จะไปหามาสักเรือนหนึ่งเพราะตอนเช้าตื่นขึ้นมาไม่รู้ว่าเวลากี่โมงแล้ว นางรีบหยิบของใช้ส่วนตัวและสวมเสื้อคลุมแล้วรีบไปอาบน้ำทันที เมื่ออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็กลับมาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายชุดใหม่ที่เป็นเครื่องแบบของคนรับใช้ที่ตำหนักนี้ ที่ใส่คล้ายๆกันทุกคน เมื่อแต่งกายเรียบร้อย นีสรินก็รีบออกไปจากห้องนี้แล้วปิดประตูไว้ นางไม่มีกุญแจจะล็อคห้องและก็ไม่มีของมีค่าในห้องนอนน้อยนี้ จึงคิดว่าคงมิเป็นไร จากนั้นนางก็เดินตรงไปตามทางที่ตรงไปห้องอาหารก่อนเพื่อรีบกินอาหารเช้าก่อน แล้วค่อยไปทำงานที่ได้รับคำสั่งมา นีสรินเดินเข้ามาในห้องอาหารนางเห็นถาดใส่อาหารที่เป็นถาดหลุมวางเรียงรายบนโต๊ะใหญ่นั้น นีสรินเห็นคนอื่นๆเริ่มทะยอยมากินอาหารกันบ้างแล้วนางจึงหยิบถาดอาหารตรงหน้า แล้วหยิบแซนวิซที่วางเรียงไว้ใส่ไปในถาดอีกหนึ่งชิ้น แล้วเดินไปรินกาแฟใส่ถ้วย แล้วนำไปนั่งกินที่มุมหนึ่ง นางค่อยๆกินอาหารตรงหน้าที่เป็นแป้งพิต้ากับซุปถั่วลูกไก่ และแซนวิสแฮมชีสที่นางหยิบมาเพิ่ม แล้วยกกาแฟขึ้นจิบช้าๆ เมื่อท้องอิ่มอารมณ์ก็ดีขึ้
เมื่อนีสรินได้ยินดังนั้นนางก็กลับหลังหันเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าใบเล็กนั้น เมื่อเปิดออกดูพบเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวแขวนไว้หนึ่งตัวในนั้น และมีอีกตัวอยู่ในถุงที่วางด้านล่างของตู้ นางจึงเดินกลับที่หน้าห้องแล้วเอ่ยว่า " ขอบใจเจ้ามากนะ ข้าหามันพบแล้ว “ นีสรินยื่นมือไปรับถาดอาหารนั้นมาวางบนโต๊ะปลายเตียง ลียาเห็นคนตรงหน้าวางถาดลงบนโต๊ะแล้ว จึงได้บอกต่อไปว่า ” หากเจ้ากินอาหารเสร็จแล้ว ก็เดินเอาถาดไปไว้ที่โรงครัวที่อยู่ติดกับห้องอาหาร เดินกลับไปตามทางที่เจ้าเดินเข้ามา แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายมือก็พบแล้ว จะได้สำรวจมันเอาไว้ พรุ่งนี้เจ้าต้องออกไปกินอาหารที่นั่น แล้วจะได้ไปทำงานตามหน้าที่ของแต่ละคนมื้อกลางวันก็มากินเช่นเดิม ส่วนมื้อเย็นก็เช่นกันให้มากินให้ตรงเวลาเพราะหากเลยเวลามากไป พวกเขาก็จะเก็บอาหารไป แล้วเราก็จะอดกินอาหารมื้อนั้นไปเลย ข้าบอกเจ้าไว้ก่อนเผื่อเจ้าไม่รู้ ทำงานเลยเวลาอาหารก็จะอดกิน คนรับใช้อย่างเรา มันมีทางเลือกไม่มากนัก ทำอะไรเพื่อตนเองได้ก็ต้องทำ ไม่มีใครมาสนใจเราหรอกว่าเราจะได้กินอิ่มท้องหรือไม่ หรือทำงานเหนื่อยไปหรือไม่ เจ้าต้้องใช้ไหวพริบช่วยตนเอง เอาละข้าพูดมากไปเสียแล้ว ต้อ
บทที่ 2นีสรินอึ้งงันไปกับวาจาของชีคหนุ่มแต่นางก็มิสามารถเอ่ยคัดค้านอะไรได้ นางก็รู้คำสั่งของชีคคือที่สุดแล้วมิอาจมีผู้ใดคัดค้านได้ นางจึงหุบปากที่กำลังจะเผยอขึ้นต่อรองนั้น อัลมาหันมามองนีสรีนแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ เอาละเจ้าคงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ข้าเข้าใจเจ้าที่มิได้เป็นผู้กระทำผิด แต่เมื่อท่านชีคตัดสินใจแล้วเจ้าคงต้องทำตามอย่างมิมีข้อต่อรองใดๆทั้งสิ้น ลุกขึ้นแล้วเดินตามข้าไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายของนางทาส พรุ่งนี้ก็เริ่มมาทำงานตามหน้าที่ของเจ้า ในตำหนักแห่งนี้ม่ีวงจรปิดแทบทุกจุด เจ้าคงจะหลบหนีออกไปมิได้ง่ายๆหรอก เพราะฉะนั้นยอมทำตามคำสั่งเสียจะดีกว่า หากเจ้าว่านอนสอนง่ายไม่ทำเรื่องวุ่นวาย ก็ไม่แน่นะ อีกไม่นานถ้าท่านชีคใจอ่อนอาจจะยอมปล่อยตัวของเจ้ากลับไปดีๆก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นจงทำตัวดีๆ และทำตามคำสั่งท่านชีค อย่าให้บกพร่องก็แล้วกัน ” จากนั้นอัลมาก็เดินออกไปจากห้องโถงใหญ่นั้น นีสรินตอนนี้ยังมึนกับเหตุการณ์ที่เพิ่งได้รับรู้มาใหม่ ๆ นางจึงได้แต่เดินตามอัลมาไปโดยมีสาวใช้ร่างใหญ่สองนางนั้นเดินตามหลังมาติดๆ เมื่อทั้งสองเดินไปตามทางเดินที่ทอดยาวผ่านห้องหับหลายๆห้องและทางแยกไปยังห้องที
นีสรินลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องแห่งหนึ่ง ข้อมือทั้งสองถูกมัดไขว้ไว้ด้านหลัง นางนอนอยู่บนพื้นเย็นเฉียบ ปากของนางตอนนี้เป็นอิสระพอที่จะหายใจได้สะดวกแล้ว เรานางจำได้ว่าตอนที่ถูกจับตัวมาโดยที่นางถูกมือปริศนาเอาผ้าที่มีกลิ่นแปลก ๆ มาปิดปากนางจากทางด้านหลัง ขณะที่นางกำลังเดินชมข้าวของที่ตลาดกลางเมืองที่คึกคักไปด้วยผู้คน แต่เมื่อนางกำลังมองหาร้านชาดีๆเพื่อจะดื่มชาเย็นๆขณะที่อากาศกำลังร้อนเปรี้ยงนั้น นางมองเห็นไกลๆว่ามีร้านชาขึ้นชื่อที่ดูแล้วน่าจะอร่อย นางจึงพยายามเดินแทรกผู้คนที่คับคั่งนั้นผ่านไปจนใกล้จะถึงร้านชาแห่งนั้น แต่เมื่อก้าวเดินผ่านมุมตึกที่กำลังจะถึงร้านชาอีกไม่ไกลนั้น ก็มีมือหนาๆ เอื้อมมาปิดปากของนางทันทีจากทางด้านหลัง มือนั้นมีผ้าผืนเล็กๆอยู่ในมือ นางได้กลิ่นแปลกๆ จากผ้าผืนนั้นแล้วโลกก็มืดมนลงไปทันทีรู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนที่นอนอยู่ด้านหลังรถคันหนึ่ง และนางนอนอยู่บนพื้นเหล็กแข็งๆ มือทั้งสองข้างถูกมัดไว้ที่ด้านหลัง ปากก็ถูกผ้าปิดเอาไว้ นางได้แต่ร้องอึกอักอยู่ในลำคอ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่ารถกำลังวิ่งด้วยความเร็วพอสมควร และทางที่รถผ่านนั้นมันก็น่าจะขรุขระอยู่พอสมควรเพราะรถวิ่งกระเด้งกระ