@ลานจอดรถใต้ตึกคอนโดพอถึงที่หมายภามก็ไม่ยอมปลดล็อครถให้วาโยลง แถมยังนั่งถอนหายใจดังๆอยู่หลายรอบ ก่อนจะเริ่มรู้สึกทนไม่ไหวยกมือขึ้นปลดสายเข็มขัดนิรภัยของตัวเองออก แล้วเอี้ยวตัวไปทางซ้ายดึงท้ายทอยคนนั่งข้างเข้ามาประกบจูบแบบไม่ทันตั้งตัวจ๊วบ~"อื้อ!" จากจูบเนิบนาบก็เริ่มเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนวาโยร้องท้วงในลำคอ ตบแผงอกแกร่งปึกๆ เพราะเริ่มหายใจไม่ทัน แต่ทว่านั่นยังไม่สาแก่ใจชายหนุ่ม เขาเลยส่งมือไปรูดซิบเสื้อเจ็คเก็ตที่วาโยสวมอยู่ลง ฟืด! จนถึงเอวก่อนจะผละจูบออก"แค่กๆ ไอ้บ้าภาม!" คนตัวเล็กรีบกอบโกยออกซิเจนเข้าปอดทันที เธอหอบแฮ่กๆจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะลมหายใจ โดยมีเจ้าของใบหน้าหล่อจ้องมองอยู่อย่างไม่ละสายตาภามใช้จังหวะที่วาโยปลดสายเข็มขัดนิรภัยออกเตรียมจะหนี ช้อนมือโอบแผ่นหลังขาวเนียนของเธอดันเข้าหาตัวเอง ก่อนจะก้มหน้าลงใช้ริมฝีปากดูดเม้มเนินหน้าอกสวยทั้งสองเต้าจนเกิดรอยแดงหลายจุด"ภามหยุด! แกทำบ้าอะไรเนี่ย" วาโยดิ้นแล้วดันไหล่ภามที่กำลังซุกหน้าอกเธอออก เจ้าตัวเลยเงยหน้าขึ้นมามองอย่างคาดโทษ...แต่เขาจะรู้ไหมว่าสายตาแบบนี้มันทำให้เธอรู้สึกร้อนวูบวาบแปลกๆ"ถ้าอยากให้ผู้ชาย
คำค้นหา... Google : นวดนมเมียแบบถูกวิธี...ทำให้ใหญ่ขึ้นจริงไหม?ภามตั้งหน้าตั้งตาค้นหาความรู้ในโทรศัพท์มากกว่าหนังสือบนโต๊ะ พิมพ์หาหลายเว็บไซต์และศึกษาอย่างตั้งใจ ที่เคยบอกว่าไม่ชอบผู้หญิงหน้าอกใหญ่ เขาขอกลับคำพูด เพราะวาโยเธอ..."เออไอ้ภามแล้วมึงรู้หรือยัง ว่าโยยืมเงินไอ้โอบไปทำอะไรตั้งแสนห้า"รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อจางหายไปทันทีเมื่อได้ยินชื่อแฟนเก่าของเพื่อนสนิท ถึงจะไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ที่ได้ยินชื่อนี้ แต่ก็จะตอบคำถามที่เจเจถามให้เคลียร์ไปเลย และหวังว่าจะไม่ได้ยินชื่อไอ้เวรนั่นอีก"กูโทรไปถามน้าบัวมาแล้ว แกบอกว่านาที่บ้านจะถูกยึด เพราะลุงโสเอาที่ไปจำนองไว้ก่อนแกเสีย... ความจริงโยไม่ได้ยืม แต่มันเป็นคนเสนอหน้าไปไถ่ที่ตรงนั้นมาให้เอง เพราะฉะนั้น...โยไม่ผิด!"หลังจากที่สะสางกับโอบเสร็จ ภามก็โทรไปหาแม่ของวาโย ถึงได้รู้ว่าเธอต้องเผชิญกับปัญหามากมายขนาดไหนแล้วภามก็ยังรู้มาอีกว่า โอบวางเงินพนันกับเพื่อนเรื่องการจีบดาวคณะ ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็คือวาโย ใช่! และมันก็ชนะพนันเพราะจีบเธอติด...เหลือแค่ยัดเยียดความเป็นผัวให้ถ้าได้วาโยเมื่อไหร่กูจะเขี่ยเธอทิ้งทันทีนี่คือคำพูดที่โอบบอกกั
เวลา 09 : 56 น.Talk : วาโยฉันนั่งมองโทรศัพท์ที่มีสายเรียกเข้าไม่ต่ำกว่าร้อยสาย แชทที่เด้งมารัวๆจนเครื่องเกือบค้าง ถึงจะปิดเสียงไว้แต่ก็ยังเห็นทุกการแจ้งเตือนครั้นนึกไปถึงตอนโดนพี่โอบบอกเลิกฉันยังไม่มีน้ำตาสักหยด แต่นี่อะไรแค่เห็นเพื่อนตัวเองอยู่กับผู้หญิงคนอื่นต้องร้องไห้หนักขนาดนี้เลยหรอครืด~ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สู้ทนกับเสียงสะอื้นที่ดังอึกๆ ยกมือปาดน้ำตาออกจากสองแก้มก่อนจะกลั้นใจกดรับสาย ติ๊ด!"ว่า..." ฉันพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้"ไม่อยู่ห้องหรอเคาะตั้งนานไม่เห็นเปิด โทรหาก็ไม่ยอมรับสาย ตอนนี้อยู่ไหน...กูเป็นห่วง" "อึก~" ฉันรีบยกมือปิดปากทันทีเมื่อได้ยินเสียงคนปลายสาย เสียงที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกจนทำให้ฉันหลั่งน้ำตาออกมาอีกระลอก ฉันรอสักพักจนเสียงคงที่ค่อยสนทนาต่อ แล้วอ้างกับเขาไปว่าสัญญาณไม่ดี "แกมีอะไรหรือเปล่า" "ก็ตอนแรกคิดว่าจะมีคนมาหลับรอที่โซฟาซะอีก แต่กลับมาดันไม่เจอเลยโทรหา สรุปอยู่ไหน" "....." ฉันเงียบยังไม่ตอบ เพราะกำลังคิดอยู่ว่าสายป่านนี้เขาเพิ่งถึงห้องงั้นหรอ ? มันหนักหน่วงขนาดนั้นเลยหรือยังไงกัน"ตกลงอยู่ไหน กูเป็นห่ว
วันต่อมาTalk : ภามเมื่อคืนผมไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะเป็นห่วงวาโย เธอไม่เคยไปนอนที่อื่นถ้าไม่นับรวมตอนไปเที่ยวต่างจังหวัด ไม่รู้ว่าแปลกที่แบบนี้แล้วเธอจะนอนหลับหรือเปล่า ยิ่งเป็นประจำเดือนอยู่ด้วยคงไม่สบายตัว แล้วน้ำเสียงแบบนั้นผมพอฟังออกว่าโยกำลังโกรธผมอยู่ แต่ที่ผมไม่รู้คือเธอโกรธผมเรื่องอะไรแกร๊ก! เสียงประตูดังขึ้นแสดงว่าเธอกลับมาแล้ว ผมก็รีบดีดตัวลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปรับเธอทันทีทำไมผมรู้สึกว่าตัวเองเหมือนหมารอเจ้าของกลับบ้านอย่างไรอย่างนั้น"กลับมาแล้วหรอ ทำไมไม่บอกจะได้ไปรับ""ฉันจะย้ายไปอยู่กับลูกหมูนะ" ผมถึงกับสตั้นไปหลายวิก่อนจะรัวคำถามใส่เธอ"ย้ายทำไม? ทำไมต้องย้าย เกิดอะไรขึ้น กูทำอะไรให้ไม่พอใจหรือเปล่า" วาโยก้มหน้าลงแล้วส่ายหัวเบาๆ "...หรือกูทำอะไรผิด" ผมพยายามถามหาเหตุผลที่ชัดเจน"แกไม่ผิดอะไรเลย... ฉันผิดเอง ผิดที่จัดการความรู้สึกตัวเองไม่ได้ อึก~" วาโยร้องไห้หรอ น้ำเสียงสั่นเครือแบบนั้นคือเธอร้องไห้ใช่ไหมผมที่อ้ำอึ้งทำตัวไม่ถูกก็ส่งมือไปเชยคางคนตรงหน้าขึ้นให้เงยมาสบตาตัวเอง แววตาเธอเหมือนมีอะไรบางอย่างในใจที่พูดออกมาไม่ได้"เป็นอะไรร้องไห้ทำไม""แกไม่ต้องมา
พูดจบชายร่างกำยำก็หยัดตัวขึ้นไปถอดเสื้อออกโชว์ซิกแพค คนตัวเล็กที่นอนอยู่ถึงกับเบือนหน้าหนีเมื่อรู้ตัวว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะต้องเจอกับอะไรพอท่อนบนเปลือยเปล่า ภามก็ขึ้นไปคร่อมร่างเล็กไว้ แล้วจับหน้าเธอให้หันมาสบตาตัวเอง ยกมือสัมผัสดวงตาที่บวมช้ำจากการร้องไห้ "อย่าร้องไห้อีกนะ" จุ๊บ~ ภามจูบลงบนหน้าผากของวาโยอย่างอ่อนโยนพร้อมกับจับผมที่ปรกหน้าหวานทัดหู"แกรำคาญไหมที่ฉันงี่เง่าแบบนี้" ภามส่ายหน้าแล้วยิ้มตอบ"ไม่เคยมีความคิดนั้นอยู่ในหัว" คนตัวสูงพูดพร้อมกับส่งมือลงไปลูบเอวก่อนจะเลื่อนขึ้นมาถึงหน้าอก ขยำอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากขอ "ขอถอดเสื้อนะ" "....." เป็นอีกครั้งที่เธอไม่ตอบ แต่น้ำเสียงและแววตาแบบนั้นของภาม ทำให้วาโยยอมจำนนโดยไม่คิดจะปฏิเสธ"หายเป็นประจำเดือนหรือยัง" ที่ถามไม่ใช่ว่ารังเกียจแต่อย่างใด แค่กลัวเธอปวดท้องอยู่เท่านั้นเอง"หายแล้ว รอบนี้มาแค่สองวัน... " ภามถึงกับยกยิ้มมุมปาก ยกมือไปบีบจมูกเธอเบาๆ"รู้ตัวหรือเปล่า ว่าเวลาเขินจนหน้าแดงแบบนี้มันน่ารักขนาดไหน...""ถ้าแกพูดแบบนี้ฉันไม่ทำแล้ว" หมับ! วาโยกำลังจะลุกหนีแต่กลับถูกกดไหล่ไว้ให้นอนลงไปแบบเดิม ก่อนจะโดน
เวลา 07:45 น. วันนี้เป็นวันที่ภามตื่นเช้ากว่าวันไหนๆ เพราะเมื่อคืนเขามีความสุขกับสถานะใหม่ที่แต่งตั้งด้วยตัวเองมาก ไม่รู้ว่าวาโยตกลงหรือเปล่า แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธเขาสักหน่อยสถานะเพื่อนสัมพันธ์ ที่เป็นมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน แบบนี้เรียกเฟื่อนได้ไหม แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มีความสุขอยู่ดี และหวังว่าจะชนะใจวาโยแล้วเอาเธอมาเป็นแฟนให้ได้เร็วๆนี้ภามนอนมองวาโยอยู่นานก่อนจะยกนิ้วบีบจมูกเธอเบาๆด้วยความเอ็นดู"ทำไมถึงขี้เซาขนาดนี้... ถ้าเกิดโดนลักหลับจะตื่นหรือเปล่าน้า~" ไม่ใช่แค่คำพูด เพราะภามก้มหน้าลงจูบปากคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดทันที เขาจูบย้ำๆไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มแต่วาโยก็ยังไม่ตื่น เลยจูบส่งท้ายจนเกิดเสียงดัง จ๊วบ~ ไปอีกหนึ่งทีและวาโยก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะตื่น... สุดท้ายภามเกิดอดใจไม่ไหว จำต้องดึงวาโยเข้ามากอดจนจมอกแล้วก้มหน้าลงอีกครั้ง หอมแก้มซ้าย หอมแก้มขวา ฟัดเธออยู่แบบนั้นนานหลายนาทีจนเธอตื่นมางัวเงีย"โอ๊ย! แกเป็นบ้าอะไรเนี่ย" วาโยยกมือดันหน้าภามออก แต่เขากลับไม่ยอมหยุดง่ายๆ มีแต่จะพุ่งเข้าใส่เธอท่าเดียว "ภามหยุด! ฉันบอกให้หยุดไง" "หือ!! หมั่นเขี้ยวว่ะ!""อ
@คอนโดสรุปยาคุมที่บอกว่าจะซื้อก็ไม่ได้ซื้อ เพราะไอ้เพื่อนตัวดีมันเดินตามติดฉันแจเลย ยิ่งกว่าปลาท่องโก๋ที่ขายตามท้องตลาดเสียอีก จะเข้าร้านไหนหรือจะเดินไปตรงไหนก็ต้องเดินตาม ทั้งๆที่ขาของเราสองคนก็ไม่ได้มัดติดกันไว้สักหน่อย ขนาดฉันบอกว่าปวดฉี่มันยังไปยืนเฝ้าหน้าห้องน้ำเลย...แบบนี้จะขอแทรกเวลาตรงไหนแอบไปซื้อได้เล่าพอกลับมาถึงคอนโด ฉันก็เดินมาหย่อนก้นนั่งที่โซฟาอย่างเหนื่อยล้า พร้อมกับยกมือปัดลมขึ้นลงตรงหน้าบ่งบอกว่าร้อน ภามเลยเดินไปเปิดแอร์และคั้นน้ำส้มเย็นๆมาให้ฉันดื่มแก้กระหายจะแสนดีไปไหนก่อน"กินมะม่วงยัง จะได้ไปปอกมาให้"พูดยังไม่ทันขาดคำก็เพิ่มความแสนดีเข้ามาอีกหนึ่งกรุบ"ยัง แค่น้ำส้มก็พอแล้ว..." พอเห็นฉันส่ายหน้าปฏิเสธ ภามเลยเดินมานั่งข้างๆก่อนจะทิ้งตัวลง พรึ่บ! นอนบนตักฉันในท่าหันหน้าไปหาทีวี ส่วนฉันที่เอนหลังพิงพนักโซฟาอยู่ก็ต้องยืดหลังตรง นั่งตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ"เพิ่งรู้ว่าตักนิ่มขนาดนี้ รู้งี้นอนตั้งนานแล้ว" ภามพูดพร้อมกับลูบขาฉันไปด้วยเบาๆ ทำให้ขนอ่อนตามร่างกายของฉันลุกซู่ จนทำสีหน้าไม่ถูกกันเลยทีเดียว"กะ...แกจะมานอนตักฉันทำไม โซฟามีพื้นที่ตั้งเยอะ
"ทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกมา!"วาโยตวาดถามเมื่อเห็นว่าภามวิ่งออกมาด้วยผ้าขนหนูพันรอบเอวเพียงผืนเดียวโชว์กล้ามอกแน่นๆชวนมอง ไหนจะร่องซิกแพคที่มีหยดน้ำเม็ดเล็กๆติดอยู่นั้นอีก ถ้าอยู่กันสองคนแล้วใส่แบบนี้เธอจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่มีบุคคลที่สามยืนมองตาค้างน้ำลายหกอยู่หน้าประตูห้องด้วยไง"ก็เห็นเรียกอ่ะ เลยรีบวิ่งออกมา... " พอได้ยินเสียงภามเท่านั้นแหละ จิมมี่ก็เดินแทรกตัวกระแทกไหล่วาโยเข้ามาในห้องทันที "อ้าวเฮ้ย!" วาโยหมุนตัวหันตามไปมองผู้หญิงอีกคนเพราะไม่คิดว่าเธอจะเสียมารยาทขนาดนี้ ถึงจะไม่ได้ชนแรงมากแต่ก็ทำให้เซได้เหมือนกัน"ภามคะ จิมเอาของมาคืนค่ะ^^""ของอะไร?" ถึงจะถามจิมแต่สายตาของภามกลับจดจ้องไปที่ใบหน้าสวยของวาโย "นี่ไงคะ ภามทำตกไว้บนเตียงจิม" ภามมองข้อมือของตัวเองก่อนจะเอื้อมมือไปคว้ามา พร้อมกับเอ่ยปากไล่เธออย่างไม่ใยดี"กลับไปได้แล้ว""อะไรกันคะ จิมเพิ่งมาถึงเองนะ จะไล่กลับแล้วหรอ" จิมมี่ย้ายตัวเองไปยืนข้างภาม ทำทีจะยกมือคล้องแขนแต่ภามไหวตัวทันและขยับหนีไปเสียก่อน"เธอไม่ควรอยู่ที่นี่นาน ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้วก็รีบกลับไปซะ" ที่ต้องพูดไปแบบนั้นเพราะตัวเขาเองก็รู้สึกร้อ
หลายปีต่อมา... ตอนนี้ลูกสาวตัวน้อยอดนมแม่อย่างเป็นทางการแล้ว ก็เหลือแต่ตัวพ่อเนี่ยแหละที่ร้องขอกินนมก่อนนอนเกือบทุกคืน ไหนใครบอกว่าแต่งงานอยู่ด้วยกันนานๆแล้วผัวจะเบื่อ แต่นี่ไม่เลย... รู้สึกว่าภามรักและหลงเธอมากกว่าเดิมเสียอีก ถึงบางวันทั้งคู่จะไม่ได้ทำรัก เขาก็ขอแค่ได้กอดได้หอมเมียให้ชื่นใจก่อนไปทำงานแค่นี้เขาก็มีความสุขมากแล้ววันนี้เป็นวันที่หมอนัดสาวน้อยอย่างวรินทร์มารับวัคซีนครบสี่ขวบที่โรงพยาบาล แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่วาโยเจอรุ่นพี่อย่างแทนที่เคยเรียนร่วมคณะเดียวกันสมัยมหาลัย"น้องวาโยนี่เองพี่ก็คิดว่าใคร^_^" "พี่แทน มาหาหมอหรอคะ""ครับ พี่พา เอ่อ... พาน้องสาวมาฝากครรภ์ ว่าแต่เรามาทำอะไรที่แผนกเด็กเล็กหรอครับ?""โยพาลูกสาวมาฉีดวัคซีนค่ะ""อ้าว นี่เรามีลูกแล้วหรอ แล้วไหนล่ะสามี? ทำไมถึงไม่มาด้วย ปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล็กๆมากับลูกสาวตามลำพังแบบนี้ได้ยังไงกัน ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย" "เขามาด้วยนะคะพี่แทน..." แทนแกล้งชะเง้อคอมองข้ามผ่านคนตัวเล็กไปทางด้านหลังก็ไม่เจอใคร วาโยเลยหันมองข้างๆที่มีภามยืนอยู่ แล้วทำหน้างงๆว่าพี่แทนไม่เห็นภามจริงๆหรอ หรือเขาแค่แกล้งเล่น? วรินทร
@หนึ่งปีต่อมา...ตอนนี้วาโยคลอดลูกสาวได้สี่เดือนแล้ว และเดือนนี้ก็เป็นเดือนสุดท้ายในการสอบปลายภาคสำหรับนักศึกษาปีสี่ ทั้งภามและวาโยเลยต้องเรียนหนักเป็นพิเศษ แต่หน้าที่เลี้ยงลูกส่วนใหญ่จะเป็นคุณพ่อลูกอ่อนอย่างภาม เขาอยากให้วาโยโฟกัสกับเรื่องเรียนให้เต็มที่ ไม่ต้องห่วงวรินทร์เดี๋ยวเขาจะดูแลให้เองอย่างเช่นวันนี้คนที่เลี้ยงลูกอยู่ในห้องก็เป็นภาม ส่วนวาโยเธอออกมานั่งเรียนอยู่โซนด้านนอกกับอาจารย์ที่แม่สามีจ้างมาสอนพิเศษให้ถึงเพนท์เฮาส์ แต่ทว่า! นั่งเรียนยังไม่ถึงชั่วโมงภามก็เดินออกมาตามด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ เพราะเขาเห็นอาจารย์ที่มาสอนวาโยวันนี้ไม่ใช่คนเดิม"โย ลูกร้องหิวนม เข้าไปดูลูกในห้องหน่อย" "ตอนนี้เลยหรอ แต่ฉันยังเรียนไม่จบครอสเลยนะ" ปกติภามไม่เคยปล่อยให้ลูกร้องนี่นา นมก็ปั๊มไว้ให้ตั้งเยอะมาบอกว่าลูกร้องหิวนมได้ยังไง ไม่ใช่ว่าวาโยไม่เป็นห่วงลูกนะ แต่ปัญหาแค่นี้เธอเชื่อว่าภามจัดการได้สบายอยู่แล้ว"นมที่ปั๊มแช่ไว้ในตู้เย็นละลายไม่ทัน""อ๋อ โอเค..." ที่แท้ก็นมละลายไม่ทันนี่เอง วาโยเลยละสายตาจากภามหันกลับมามองอาจารย์ก่อนจะพูดต่อ "งั้นเดี๋ยวโยขอเข้าไป
หลังจากที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันเรื่องสินสอดเรียบร้อยแล้วก็พากันกลับบ้านไปดูฤกษ์ วาโยเลยขอกลับมาอยู่คอนโดก่อน รอจนกว่าจะแต่งงานแล้วค่อยย้ายไปอยู่เพนท์เฮาส์ที่ภามซื้อให้ และเธอมองว่ามันไม่ใช่ของเธอแต่เพียงผู้เดียว แต่เป็นเรือนหอของเราสองคนต่างหาก'โยจำคำแม่ไว้นะลูก... ผู้ชายร้อยทั้งร้อยแพ้ผู้หญิงขี้อ้อน หมั่นเอาใจลูกเขยแม่ให้มากๆ อย่าปล่อยให้ผู้ชายดีๆแบบภามหลุดมือไปเด็ดขาด'วาโยหวนนึกถึงคำพูดของแม่แล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ฮึบ!เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน อ้อนแฟนตัวเองไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสักหน่อย พอคิดได้ดังนั้นวาโยก็เดินมาหาภามที่นั่งอยู่บนโซฟา ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งบนตักของแฟนหนุ่มจนเขาต้องวางไอแพดในมือลงข้างตัวแล้วยกมือมาโอบเอวเธอไว้แทน"แกดูอะไรอยู่หรอ" "ดูแพ็คเกจคลอดลูก กินข้าวอิ่มแล้วหรือไง" ความจริงทั้งคู่กินข้าวด้วยกันไปแล้วรอบนึง แต่ผ่านมายังไม่ถึงชั่วโมงวาโยก็ร้องหิวอีก ภามเลยทำให้กินอีกรอบ ส่วนตัวเขาก็มานั่งดูโปรแกรมคลอดลูกรอเธอไปพลางๆ"อิ่มแล้ว..." "แล้วทำไมยังไม่ไปอาบน้ำอีก""รอแฟนไปอาบให้""ฮึ?""ก็ช่วงนี้ฉันหน้ามืดบ่อยๆ กลัวตัวเองจะเป็นลมในห้องน้ำ แกอาบให้ฉันหน่อ
"อย่าเพิ่งเป็นลม เพราะยังไม่หมดแค่นั้น""ยังมีอีกหรอ!?" แค่นี้เธอก็จะเป็นลมอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรที่เซอร์ไพรส์มากกว่านี้อีกมีหวังได้วูบไปจริงๆแน่"...." ภามที่ยืนช้อนหลังวาโยอยู่ในตอนนี้สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีออกมาใช้ ก่อนจะสอดมือล้วงกระเป๋าหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงขึ้นมายื่นไปด้านหน้าของวาโยแล้วเปิดกล่องดังป๊อก! โชว์แหวนเพชรน้ำดีด้านในให้คนตัวเล็กที่ตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ได้เห็น"อะ อะไรของแกเนี่ยO_O" "แต่งงานกันนะโย..." วาโยมองแหวนเพชรเม็ดโตในกล่องที่มีความเปล่งประกายวิบวับสวยงามเล่นกับแสงไฟภายในห้องอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ถึงจะแอบหวังให้เขาขอแต่งงานแต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆทำให้เธอตั้งตัวรับไม่ทัน เธอมองแหวนในกล่องอีกครั้งก่อนที่ภาพจะตัดไปราวกับมีคนมาสับสวิตซ์ พรึ่บ! "เห้ย! โย ทุกคน! เมียผมเป็นลม" ภามรีบย่อตัวลงอุ้มคนตัวเล็กที่หมดสติขึ้นทันที แล้วภาพก็ตัดมาทางฝั่งของอาโป... "จะปล่อยฉันไปได้รึยัง" นี่เป็นคำถามที่ร้อยของวันนี้ที่นิเนยเอ่ยถามอาโป เขาเล่นขังเธอไว้ในห้องกับเขาตั้งแต่จับตัวเธอมาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมปล่อยตัวเธอไป"จะให้ผมปล่อยป
อึก! อ้วก~"โย!" ภามลืมตาตื่นจากฝันดียังไม่ทันถึงเสี้ยววิ ก็รีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงวิ่งตรงไปหาเสียงโอ้กอ้ากในห้องน้ำทันที พอเข้ามาถึงเขาก็เร่งฝีเท้าเดินเข้าไปช่วยลูบหลังให้วาโยที่นั่งกอดโถส้วมอ้วกอยู่อย่างหมดสภาพด้วยความเป็นห่วง "ไหวมั้ย""ฉันไหว อ้วก~" วาโยชูนิ้วโอเคตอบกลับมาทั้งที่ยังก้มหน้าอ้วกไม่หยุด"ตัวแสบทำไมแกล้งแม่แต่เช้าเลย ถ้าคลอดออกมาเมื่อไหร่พ่อจะตีให้" มาโหมดดุลูกซะแล้วเมื่อเห็นเมียอ้วกจนเหนื่อย"ดุแค่ฉันก็พอ เว้นลูกไว้คนนึง" วาโยอ้วกเสร็จก็หันมายิ้มหวานให้ภาม เชิงบอกเป็นนัยๆว่าแค่นี้เองสบายมาก "หึ ลูกคงดื้อเหมือนแม่สินะ" พูดจบภามก็ช้อนตัวอุ้มวาโยมานั่งที่ขอบอ่างอาบน้ำ เปิดน้ำจากฝักบัวใส่มือแล้วเอามาลูบหน้าให้วาโย แต่ทว่า! สายตาเขาดันเกเรไม่ได้มองแค่หน้าสวยๆของเธอ แต่ดันมองต่ำลงไปกว่านั้นอีก...เนินหน้าอกขาวๆที่ล้นออกมาจากชุดนอนสุดวาบหวิวที่เธอแอบลุกขึ้นไปใส่มาเมื่อคืน มันชวนมองซะจนภามลอบกลืนน้ำลายลงคอดัง อึก!ยิ่งเปียกน้ำยิ่งเห็นไปถึงไหนต่อไหน... "จะมองอีกนานไหม" เสียงหวานเอ่ยขึ้นทำให้ภามเลื่อนสายตากลับมามองหน้าเธอก่อนจะเอื้อมมือไปปิดน้ำแล้วเก็บฝักบัวเข้าที่ "
พอมาถึงโรงพยาบาลภามก็ขอรถเข็นมาให้ฉันนั่งแล้วเข็นฉันเข้าห้องตรวจ แต่พอเจอหมอผู้ชายก็บอกว่าไม่สะดวกใจเลยต้องเปลี่ยนมาเป็นหมอผู้หญิงแทน และคิดว่าเรื่องจะจบ แต่ไม่เลย ภามไม่ยอมให้อัลตร้าซาวด์ผ่านช่องคลอดบอกว่ากลัวโดนหัวลูก ให้ตายเถอะ! หมอเลยต้องอธิบายหลักการทั้งหมดที่มีให้คุณพ่อมือใหม่ได้ฟังกว่าจะยอมได้หมอถึงกับยกมือกุมขมับ... ผลตรวจเลือดออกมาว่าฉันท้องจริงๆ และอัลตร้าซาวด์เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ลูกในท้องยังเล็กมากขนาดเท่ากับเมล็ดถั่ว อายุครรภ์แค่ 6 สัปดาห์ถือว่าโตตามเกณฑ์ พอหมอบอกว่าแข็งแรงทั้งแม่และลูก เท่านั้นแหละ! ผู้เป็นพ่อก็ยิ้มออกมาไม่หุบ ดีใจยิ่งกว่าฉันที่เป็นแม่เสียอีกหาหมอเสร็จภามก็พาฉันไปช็อปปิ้งต่อ ขนาดท้องฉันแบนราบจนแทบจะมองไม่ออกด้วยซ้ำแต่เขาก็ยังซื้อชุดคลุมท้องให้ บอกว่าในอนาคตก็ต้องใช้ ตอนแรกจะซื้อของลูกมาด้วยนะ ฉันเลยห้ามไว้ก่อนบอกเขาว่ารอรู้เพศก่อนค่อยซื้อก็ได้ พอกลับมาถึงคอนโดก็ยังไม่วายนั่งดูรูปอัลตร้าซาวด์แล้วยิ้มอยู่คนเดียวไม่ค่อยจะเห่อเท่าไหร่เลย...อ๋อ! ยังมีอีกเรื่องที่หมอย้ำ คือช่วงนี้ให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนจนกว่าอายุครรภ์จะครบ 3 เดือนขึ
อยู่ไม่ได้แล้วโว๊ย... ฉันรีบหมุนตัววิ่งหนีเข้าห้องทันที ขอโทษนะนิเนยเรื่องแกคงไม่น่าตกใจเท่าเรื่องฉันตอนนี้หรอก ดูแลตัวเองไปก่อนแล้วกัน ตอนนี้ฉันก็ลำบากไม่ต่างจากแก"จะหนีไปไหน" ภามวิ่งตามมาดันประตูไว้ไม่ให้ปิด"แกเอามือออกจากประตูเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันปิดประตูหนีบนิ้วแกแน่" เขาไม่ยอม ฉันก็ไม่ยอม เลยเกิดการยื้อแย่งประตูกันเกิดขึ้น จนในที่สุดภามก็ผลักประตูเข้ามาได้จนสำเร็จ ฉันที่กำลังจะวิ่งหนีเข้าห้องน้ำก็โดนเขาล็อคตัวไว้แบบหลวมๆ"บอกให้เอาไอ้นี่ไปตรวจ""ไม่! ฉันไม่ตรวจ" ฉันดิ้นจนหลุดออกจากวงแขนแกร่งแล้วหันไปจ้องหน้าภามอย่างเอาเรื่อง"จะดื้อให้ได้อะไรขึ้นมาโย ตอนนี้อาจจะท้องอยู่ก็ได้ ไม่สังเกตุตัวเองบ้างเลยรึไง" ไม่ใช่ว่าฉันไม่สังเกตุตัวเอง แต่แค่ตอนนี้ยังไม่อยากยอมรับความจริงก็เท่านั้น ถ้าตรวจแล้วผลออกมาว่าฉันท้องขึ้นมาจริงๆจะทำยังไง"จะบ้าหรอ ฉันจะท้องได้ยังไงแกเอาอะไรมาพูด""ทำไมจะท้องไม่ได้ ผัวก็ยืนหัวโด่อยู่นี่ทั้งคน ลืมไปแล้วหรือไงว่าตัวเองมีผัว หรือต้องให้ลื้อฟื้นความทรงจำก่อนตรวจ?""ไม่ต้อง ถอยออกไปเลยนะ!" ฉันยกมือดันแผงอกคนที่โน้มตัวเข้ามาหา ภามเท้าแขนสองข้างลงกับโต๊
"....." มือที่เคยถือยาดมค้างอยู่กลางอากาศ สมองเริ่มอื้ออึง ตามองตรงไม่มีจุดโฟกัส รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ภามส่งมือมาลูบท้องฉันผ่านชุดเดรสแล้ว "สรุปประจำเดือนไม่มาใช่ไหม? หรือว่าท้อ... ""มาแล้ว!" ฉันตอบออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่เป็นก็ตาม แต่ประจำเดือนฉันอาจจะคาดเคลื่อนก็ได้ ใครจะไปรู้ ถ้ายังไม่ถึงสิ้นเดือนอย่าเพิ่งด่วนตัดสิน ขอปลอบใจตัวเองไปก่อนแล้วกัน... "จะบอกว่าตอนนี้เป็นประจำเดือนอยู่หรือยังไง?""...." ฉันพยักหน้า"เป็นตอนไหนแล้วทำไมไม่รู้? ไม่เห็นปวดท้องร้องกินของหวานเลย เห็นนั่งกินแต่มะม่วงเปรี้ยว ไหนจะอ้วก ไหนจะเป็นลม แถมนมยังใหญ่ขึ้นขนาดนี้ ต้องท้องแน่ๆ ป่ะ! ไปโรงพยาบาลกัน ลองให้หมอตรวจดู" หมับ! ภามจับมือฉันตั้งท่าเตรียมลุกแต่ฉันชักมือกลับแล้วดึงเขาให้นั่งลงแบบเดิม ฉันไม่อยากไปโรงพยาบาลเพราะกลัวเจอความจริงแล้วรับไม่ได้เราสองคนอยู่ปีสาม เพิ่งสอบปลายภาคเสร็จยังไม่ถึงอาทิตย์ ซึ่งเหลือเวลาอีกเป็นปีกว่าจะจบมหาลัย ฉันจะมาท้องตอนนี้ได้ยังไง ไม่ได้เด็ดขาด ที่บ้านคงผิดหวังในตัวเราสองคนมาก ฉันทำงานเสริมเขียนนิยายขายอยู่บ้างแต่รายได้ก็น้อยนิด จะ
@วันต่อมา...Talk : ภามคิดถึงเมีย...นี่เป็นคำที่อยู่ในหัวผมตั้งแต่เมื่อวานเย็นจนถึงตอนนี้ ผมรู้สึกว่าเวลาเมื่อคืนมันยาวนานกว่าคืนไหนๆ กว่าจะข่มตาหลับได้ก็เกือบเช้า และใช่! ผมนอนกอดเสื้อแทนกอดวาโย คิดแล้วก็เศร้า ขนาดตอนนี้ผมยังนั่งมองประตูห้องนอนของวาโยด้วยสายตาละห้อย แล้วถามกับตัวเองซ้ำๆว่าเมื่อไหร่เธอจะตื่นสักที คิดถึงไม่ไหวแล้วโว๊ยยยย!! อยากเห็นหน้าจะตายห่าแล้วเนี่ย... แกร๊ก! สิ้นสุดการรอคอย เพราะ 'แฟน' ของผมได้เปิดประตูออกมาแล้ว แต่ผมต้องคีพลุคนิ่งไว้ก่อน เดี๋ยวเธอจะมาหาว่าผมคลั่งรักอีก -_-*ผมมองวาโยด้วยสายตาราบเรียบไม่บอกความรู้สึก เธอเดินออกมาด้วยชุดเดรสสีขาวสายเดี่ยวปาดไหล่กระโปรงสั้นเลยเข่าขึ้นไปสองนิ้ว น่ารักดีแต่ผมแอบหงุดหงิดตรงที่ชุดดันโชว์เนินหน้าอกขาวๆของเธอเนี่ยแหละ ถึงเพื่อนเธอจะเป็นผู้หญิงแต่ผมก็อดหวงไม่ได้ผมมองสำรวจชุดไปเลื่อยๆจนสบสายตาเข้ากับวาโยทำให้ผมตกใจ เลยละสายตาจากเธอหันไปมองจอ ทำเหมือนว่าออกมานั่งดูทีวีเฉยๆ ไม่ได้ออกมานั่งรอใครทั้งนั้น"ทำไมแกตื่นเช้าจังเพิ่งเจ็ดโมงครึ่งเองนะ วันนี้ไม่มีเรียนไม่ใช่หรอ" วาโยเห็นผมไม่ตอบเลยเดินเข้ามาใกล้