@โต๊ะหินอ่อนใต้ร่มไม้ใหญ่ในมหาลัยชื่อดัง
"เชรด~ น้องแม่งโคตรน่ารักเลยว่ะไอ้ภาม มึงหันไปดูดิ" เจเจสะกิดแขนเพื่อนที่กำลังนั่งก้มหน้าปั่นงานกลุ่มอยู่ ให้หันไปมองหญิงสาวที่เดินผ่าน "ก็งั้นๆ" ภามตอบเสร็จก็ก้มหน้าทำต่อ "ถุย! งั้นๆเหี้ยไรล่ะ นั่นดาวคณะเลยนะมึง" "แล้ว?" "เออก็ไม่แล้วไงหรอก ใครจะไปสวยเท่าน้องคิดตี้มึงล่ะเนอะ" "แน่นอน" ภามไหวไหล่ตอบอย่างเห็นด้วย "แต่น้องจอยของกูไปอัพนมมาใหม่ เต็มไม้เต็มมือเลยนะเว้ยไอ้ภาม ถ้ามึงได้เห็นต้องอิจฉากูแน่ๆ" "มึงมันลามก" "ใครจะไปเหมือนมึงอ่ะ ชอบผู้หญิงหวานๆ น่ารัก เรียบร้อย ถ้าเป็นแบบนั้น ทำไมมึงไม่จับแม่ชีทำเมียเลยวะ ฮ่าๆๆ" "ก็กูชอบของกูแบบนี้" "เอาแบบนั้นไหม?" เจเจใช้สายตามองไปที่วาโย ก่อนจะใช้ปากชี้ไปที่เธอ แต่ภามกลับสายหน้าปฏิเสธรัวๆ "หึ! ดุอย่างกับหมา..." "ฉันได้ยินนะ!" วาโยมองทั้งคู่อย่างเอาเรื่องก่อนจะพูดต่อ "เสร็จหรือยังมัวแต่คุยกันอยู่ได้ รายงานกลุ่มนะ จะให้ฉันทำคนเดียวเลยรึไง" ไอ้พวกนี้นี่ หาเรื่องอู้กันตลอด มัวแต่นั่งแซวสาวกันอยู่ได้ "ก็ทำอยู่นี่ไง ปากคุยแต่มือทำไหมล่ะ" ภามตอบกลับคนขี้บ่น "ทำอะไร ฉันเห็นพวกแกสองคนนั่งคุยกันอยู่เนี่ย รีบเลยนะ! ถ้าฉันไปดูหนังรอบหกโมงไม่ทัน ฉันเอาพวกแกตายแน่!!" เคยได้ยินคำพูดนี้ไหม 'ไม่ตบไม่ตีไม่ดีขึ้นเลย' คำนี้มันใช้ได้กับเพื่อนของเธอจริงๆนะ "ค๊าบ~" เจเจยิ้มเจื่อนก่อนจะรีบก้มหน้าพิมพ์รายงานต่อทันที เพราะถ้ารายงานไม่เสร็จมีหวังโดนหลังแหวนแน่ "ก็ทำอยู่นี่ไงจะรีบไปไหนล่ะ โรงหนังไม่หนีหรอกมั้ง" "ไม่ต้องเลยไอ้ภาม แกอ่ะตัวดี" "ดุแบบนี้ไง ไอ้พี่โอบมันเลย..." ขวับ! วาโยละสายตาจากภาม แล้วจ้องมองไปที่เจเจแทน เพราะคนที่เขาเอ่ยชื่ออยู่ตอนนี้คือแฟนสุดที่รักของเธอ "โอเคๆไม่พูดแล้ว" เจเจยกธงขาวยอมแพ้ แต่ทว่า... "ไอ้ภามมึงรีบทำดิ เดี๋ยวเพื่อนก็ไปหาผู้ไม่ทันหรอกมึง! ฮ่าๆ" "......" ยัง ยังไม่หยุดอีก วาโยหยิบปากกาขึ้นมาควง ถ้าเขายังพูดอีกแค่คำเดียวมีหวังปากกาแท่งนี้ได้ลอยไปปักที่หัวของเจเจแน่ "พี่เจขา~" "อุ๊ย! น้องจอยจ๋า~" "เออ! ใหญ่ขึ้นจริงว่ะ" ภามหันไปกระซิบเจเจ แล้วบอกถึงขนาดหน้าอกหน้าใจที่เปลี่ยนไปของคู่ขาเพื่อนสนิท "กูบอกแล้ว" ทั้งคู่กระซิบกระซาบด้วยน้ำเสียงที่เบาราวกับมดสนทนากันเพราะกลัวเพื่อนอีกคนได้ยิน "เพื่อนโย~ กระผมขอ..." "ไม่ได้! ถ้ารายงานไม่เสร็จ ก็ไม่ต้องไป" "รู้ใจซะด้วยว่าจะพูดอะไร แต่ยังไงน้องเขาก็มาแล้ว~" "มาแล้วก็นั่งรอสิ มันยากตรงไหนไม่ทราบ" "เพื่อนพี่ดุตลอดเลยนะคะ" "ไม่เป็นไรนะจ๊ะ อีกนิดก็เสร็จแล้ว รอพี่แป๊บนะ" เจเจยิ้มหวานส่งให้จอยเมื่อรู้ชะตาชีวิตตัวเองว่าไม่สามารถไปตอนนี้ได้ อุตส่าห์ทำเสียงสองเสียงสามแล้ววาโยก็ยังไม่ใจอ่อน "ก็ได้ค่ะ" จอยตอบเสียงเศร้าก่อนจะเดินมานั่งตักเจเจ พรึ่บ~ "เก้าอี้ก็มีมั้ยหนู นั่งแบบนั้น ไอ้เจมันคงมีกะจิตกะใจทำรายงานหรอกมั้ง" ไม่ใช่แค่นั่งตักธรรมดา แต่เธอนั่งคร่อม ย้ำว่านั่งคร่อมและหันหน้าเข้าหาเจเจก่อนจะยกมือคล้องคอ ดีที่เธอใส่กระโปรงพลีท ถ้าเป็นกระโปรงทรงเอนี่ไม่อยากจะคิดเลย "หวงกูแหละ" "ห่วงงานค่ะ!" เจเจอุ้มหญิงสาวลงจากตักแล้วยกมือหยิกแก้มเธออย่างหยอกเย้า "นั่งข้างๆพี่ก่อนนะ" "ก็ได้ค่ะ~" เธอยิ้มหวานแล้วหอมแก้มเจเจ และในขณะเดียวกัน ภามก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าแอปสั่งของหวานเพื่อเอามาดับร้อนให้คนขี้โมโห "แล้วแกจะเล่นโทรศัพท์ทำไมไอ้ภาม สาวในแชตคงไม่หนีหายไปไหนหรอกมั้ง" ภามเงยหน้าขึ้นมามองวาโยแล้วทำสายตานิ่งๆ พร้อมกับหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าแล้วแกะมายัดใส่ปากเธอแบบไม่ทันตั้งตัว "เห้ย!" "อุ๊บ!" ลูกอมฮอลล์ไม่ต่ำกว่าสี่เม็ดถูกยัดใส่ปาก ก่อนที่ภามจะเอามือมาปิดไว้ไม่ให้คายออก "อมไว้จะได้เลิกบ่น" "อื้อ!! ไอ้ภาม! ไอ้เพื่อนชั่ว" "ถึงจะชั่วก็เพื่อนมึงไหมล่ะโย กูไม่เอาหินให้อมก็ดีเท่าไหร่แล้ว" ภามรีบดึงมือออกเมื่อวาโยทำท่าจะกัด พอมือหลุดออกจากปาก เธอก็รีบคายทิ้งทันที "แค่กๆถ้าลูกอมติดคอฉันตายขึ้นมาจะทำยังไงห๊ะ!" "เดี๋ยวพาไปวัด" "เอ้า! ไม่พาไปโรงพยาบาลก่อนหรอวะ" เจเจถาม "ไม่ต้องหรอก พาไปวัดทีเดียวเลย ขี้เกียจไปเพิ่มภาระให้หมอที่โรงพยาบาล" "อึ๊ย! นี่แกหาว่าฉันเป็นภาระหรอไอ้ภาม แกตายซะเถอะ!" ภามวิ่งหนีโดยมีวาโยที่ถือไม้บรรทัดฟุตเหล็กวิ่งไล่ตีตามหลัง เจเจแค่แซว มีแต่ภามนี่แหละที่สามารถถึงเนื้อถึงตัววาโยได้ พื้นที่มีเป็นร้อยตารางวา แต่เลือกที่จะวิ่งไล่ตีกันแค่รอบโต๊ะหินอ่อน "โย! ถ้าโดนขึ้นมาจริงๆมันเจ็บนะเว้ย" "ก็ตีให้เจ็บไง! ตีไม่เจ็บแล้วฉันจะตีทำไม" พรึ่บ~ "เห้ย! โย เฉียดหน้าไปนิดเดียวเอง" หมับ! ภามตวัดมือล็อคคอวาโยไว้แบบหลวมๆก่อนที่เธอจะดิ้นแรงๆเพื่อให้หลุดพ้น แต่ทว่า! งับ~ "อ๊ะ!" วาโยถูกคนที่ล็อคคออยู่ด้านหลังกัดเข้าที่หูจนร้องเสียงหลงก่อนที่เธอจะยกมือขึ้นจับ "อี๋~ น้ำลาย! สกปรกที่สุดเลยไอ้ภาม!!""อ้าปากเร็วๆดิ มือกูจะเป็นตะคริวแล้วเนี่ย""ให้ป้อนแค่นี้อย่ามาบ่น เมื่อกี้ฉันไม่เอาไม้บรรทัดฟาดหัวแกแตกก็บุญเท่าไหร่แล้ว""มันน่าจับอุ้มไปนั่งยางจริงๆ~" ภามพึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่มือยังคงป้อนกล้วยปิ้งที่ตัวเองเพิ่งสั่งมาจากแอปเขียวสดๆร้อนๆให้วาโยได้กินไม่หยุดพัก"โอ๊ย! เลอะจมูกฉันแล้วเนี่ย ใจลอยไปหาสาวคนไหนห๊ะ" วาโยทำหน้ามุ่ยใส่คนป้อน พอภามเห็นแบบนั้นก็รีบหยิบกระดาษทิชชู่มาถูจมูกให้ทันที "ไอ้ภาม! ฉันเจ็บนะ ถ้าแกจะเช็ดก็ทำให้มันดีๆสิ""แล้วกูทำไม่ดีตรงไหน?""แกจะถูทำไมเล่า จะเอาเลขไปซื้อหวยหรือไง""เพื่อนพี่สองคนดูเหมือนแฟนกันเลยนะคะ""เป็นปกติของมันสองคนแหละจ้ะ พี่เห็นแบบนี้มาตลอด จนพี่ชินแล้ว" เจเจก้มหน้าทำรายงานต่อ เพราะสิ่งที่เขาเห็นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรสำหรับกลุ่มนี้ "เออไอ้ภาม""ว่า""วันนี้มึงไม่ไปหาน้องคริตตี้หรอวะ""ไม่ไป วันนี้กูนัดน้องกิ๊ฟไว้""ระวังเอดส์นะมึง""ดูปากกูนะไอ้เจ..." ภามยกนิ้วชี้ที่ปากตัวเองก่อนจะพูดกับเจเจที่พยักหน้ารับ "ความสุขของกู! มึงไม่ต้องเสือก""....." เจเจถึงกับอ้าปากค้าง"พี่เจเป็นแบบเพื่อนหรือเปล่าคะ""ไม่ค่ะ พี่มีน้องจอยคนเดียว""มุสา ว
@คอนโดวาโยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโพสต์ไอจี ถ่ายรูปครึ่งตัวลงแคปชั่นว่า 'พริกที่ว่าเผ็ดยังไม่เด็ดเท่าคนโพสต์' ตามด้วยสติกเกอร์แก้วไวน์สีแดง ไม่นานเสียงแชตก็ดังขึ้นติ๊ง~ คุณได้รับข้อความจาก 'ภามเพื่อนชั่ว'"จะไปไหน?" ภามเห็นวาโยไม่ตอบเลยทักเข้าไปในกลุ่มที่มีกันอยู่สามคนแชตกลุ่ม เพื่อน (ไม่) สนิท (3) [ภาม : มาดูเพื่อนมึงดิ @JJ] ส่งข้อความพร้อมแคปหลักฐานที่วาโยโพสต์เข้าไปในกลุ่มด้วย[เจเจ : อะไร! แท็กกูทำห่าอะไรล่ะ กูกำลังทำกิจกรรมอยู่] [วาโย : กิจกรรมอะไร?] เห็นข้อความอยู่ด้านบนเลยตอบแชตกลุ่มก่อน แต่ไม่ได้เมินเฉยกับแชตส่วนตัวที่ภามส่งมา เพราะเธอส่งสติกเกอร์ยิ้มตอบกลับไปแล้ว[เจเจ : กิจกรรมเข้าจังหวะกับน้องจอย เดี๋ยวมาๆ อีกยี่สิดนาทะยัะรยบ่ยซบบย] [วาโย : ทุเรศที่สุดเลยไอ้เจ!] ตอบกลับไปพร้อมส่งสติ๊กเกอร์อ้วกพิมพ์กลับมาแบบนี้รู้ได้ทันทีเลยว่าไอ้เจทับโทรศัพท์ชัวร์วาโยเลยย้ายมาคุยในแชตส่วนตัวแทน 'ภามเพื่อนชั่ว'"เหลือแกคนเดียวแล้วนะภามเพื่อนรัก~" "จะไปไหน ถามก็ไม่ตอบ" "มีคลับเปิดใหม่ตรงข้ามร้านฟรีสไตล์..." "แล้ว?" "เราไปกันไหม~" ส่งสติกเกอร์หมาอ้
@สถานบันเทิงชื่อดัง"กระดกเหล้าดื่มเป็นน้ำเปล่าเลย เมามากูไม่แบกนะบอกไว้ก่อน"วาโยเบ้ปากใส่เพื่อนชายคนสนิท ทำมาเป็นบอกว่าจะไม่แบก เห็นเมาทีไรก็อุ้มกลับคอนโดทุกรอบ ถึงจะตีกันบ่อยแต่ก็ต้องยอมรับเลยว่ามีภามมาด้วยสบายใจสุดแล้ว รู้สึกปลอดภัยโดยไม่ต้องห่วงว่าถ้าเมาแล้วจะมีคนมาทำอันตราย"ไม่แบกกลับก็แล้วแต่ ทิ้งฉันไว้ตรงนี้แหละ ให้โดนผู้ชายลากไปข่มขืนเลย""ไหน? ใครจะข่มขืนมึงเรียกตัวมาดิ เดี๋ยวกูจะอุ้มไปส่งเลย แล้วแถมตังเปิดห้องให้ด้วย""เหอะ~ ถ้าฉันโดนขึ้นมาจริงๆ อย่าวิ่งร้องไห้ไปเคาะประตูแล้วลากผู้ชายคนนั้นออกมากระทืบนะ""อาจจะไปเคาะประตูจริง แต่เคาะเพื่อขอเข้าไปนั่งดูนะ อยากรู้ว่าตอนอยู่บนเตียงจะปากเก่งแบบนี้ไหม""แน่ใจว่าทนดูได้?" วาโยเลิกคิ้วถามขณะที่ภามยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม"พอๆ มึงเมาแล้วพูดจาเลอะเทอะ อ่านนิยายเยอะไปอ่ะดิ เพลาๆลงบ้างนะ""....." ทำมาเป็นบ่นแต่โอนตังมาเติมเหรียญปลดล็อกนิยายให้ตลอด"กูไม่คุยกับมึงละ ไปหาสาวโต๊ะนั้นดีกว่า" วาโยมองตามสายตาภามไปที่โต๊ะฝั่งตรงข้าม"ไหนบอกไม่ชอบผู้หญิงนมใหญ่ๆไง""ก็ไม่ได้ชอบ แต่มันคืออาหารตา เดี๋ยวมานะ" ภามตบไหล่วาโยเบาๆ แล้วเด
@วันต่อมา #สนามบาส"โย โย...วาโย!" โอบยืนเช็ดเหงื่ออยู่หน้าอัฒจันทร์ พร้อมกับยกมือโบกไปมาตรงหน้าแฟนสาว แล้วเรียกชื่อเธออยู่หลายครั้งจนเจ้าตัวสะดุ้งด้วยความตกใจ"พี่โอบ! ตกใจหมดเลยค่ะ พี่ซ้อมเสร็จแล้วหรอคะ""ครับ เสร็จสักพักแล้ว พี่เรียกเราตั้งนาน เป็นอะไรหรือเปล่า ใจลอยไปไหนหื้ม?""....." เธอไม่ตอบแต่มองคนที่ยืนอยู่อย่างมีคำถามบางอย่างอยู่ในใจ"เป็นอะไรครับ ทำไมมองหน้าพี่แบบนั้น""โยมีเรื่องจะถามพี่โอบค่ะ..." เธอทำหน้าตาจริงจังก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน จะได้ไขข้อข้องใจสักที ว่าคนเมื่อคืนใช่แฟนตัวเองหรือเปล่า หรือเธอแค่ตาฝาดและคิดไปเอง"จะถามอะไรพี่หรอครับ?""เมื่อ... คึ...""???" โอบยืนรอคำถามที่แฟนสาวกำลังจะถามแต่เธอกลับทำท่าลังเล"พี่โอบ...เมื่...เมื่อยไหมคะ แล้วเหนื่อยหรือเปล่า โยเห็นพี่ซ้อมบาสมาตั้งแต่เช้าแล้ว" เธอถามพร้อมกับยิ้มจางๆ แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ สุดท้ายก็ไม่กล้าถามสินะ เฮ้อ~"โถ่ พี่ก็คิดว่าเรื่องอะไร พี่ไม่เหนื่อยเลยครับ เพราะคนที่มานั่งเฝ้าน่ารักขนาดนี้..."โอบกำลังจะส่งมือไปลูบผมวาโยแต่เธอกลับเอนตัวหนี จนเขาต้องชะงักแล้วชักมือกลับไปหยิบกระ
@ชมรม"แค่กๆ โทษทีฉันลืมสนิทเลย" วาโยวิ่งมาหยุดยืนหายใจหอบเหนื่อยตรงหน้าเพื่อนทั้งสอง ก่อนจะทิ้งก้นลงนั่งที่เก้าอี้หินอ่อน เฮ้อ! ในที่สุดก็วิ่งมาถึงจนได้"ไปๆ เขาเรียกรวมแล้ว""ขอนั่งพักก่อนไม่ได้หรือไง""ถ้าจะนั่งก็ไปนั่งข้างใน""เดี๋ยวสิ ขอพักตรงนี้แป๊บนึง แค่กๆ เหนื่อยจนหายใจไม่ทันแล้ว" มือซ้ายยกขึ้นปาดเหงื่อ ส่วนมือข้างขวาก็โดนภามดึงให้ยืนขึ้นโดยที่เขาไม่คิดจะสงสารผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอเลยแม้แต่น้อย"ลุก" วาโยขืนตัวไว้สุดแรงและไม่ยอมลุกขึ้นง่ายๆ"อื้อ!!!""ในเมื่อเมียมึงมาแล้วงั้นกูไปนะ" เจเจพูดขึ้น"จะไปแล้วหรอ มาช่วยห้ามไอ้ภามก่อนดิ มันจะหิ้วปีกฉันอยู่แล้วเนี่ย""เออจะไปแล้วให้กูอยู่ทำอะไรล่ะ ผัวเมียทะเลาะกันมันเป็นเรื่องภายในครอบครัว""ไปๆมึงรีบไปเลย" ภามหันมาไล่ เจเจเลยลุกขึ้นยืนเมื่อรู้ว่าตัวเองหมดผลประโยชน์ และเขาก็รู้ดีว่าไม่ควรอยู่เป็นก้างขวางคอ"เห้ย! แกจะไปไหน อย่าเพิ่งไปดิ""อาทิตย์หน้ามีจัดทริปค่ายอาสา เลยจะไปสืบว่าคณะเราจะพาไปไหน แล้วก็ถือโอกาสนี้แอ๊วสาวด้วยเลย ไปนะ" "เจ เดี๋ยวดิ ไอ้เจ!""ไม่ต้องไปเรียกคนอื่น มานี่" ภามดึงแขนวาโยให้เดินตาม"ไอ้ภาม! ฉันเ
@วันต่อมา"ตกใจหมดเลยโย ทำไมหน้าตามึงเป็นแบบนั้นล่ะ" เจเจสะดุ้งตัวตกใจ เมื่อเห็นสีหน้าของวาโยที่เหมือนคนอดหลับอดนอนมาทั้งคืน แถมขอบตาก็ดำยิ่งกว่าหมีแพนด้า"ถามเพื่อนรักแกสิ""....." ภามยักไหล่แทนคำตอบ"โอ้โห! ไอ้ภาม จัดหนักเมียทั้งคืนเลยหรอวะ เบามือหน่อยดิเพื่อน ไอ้โยมันก็ตัวแค่นี้เอง ฮ่าๆ"เจเจจับท้องตัวเองแล้วหัวเราะออกมาเสียงดังส่วนภามไม่แม้แต่จะปฏิเสธ และเขาก็ไม่กลัวว่าสาวคนไหนจะมาได้ยินแล้วเข้าใจเขาผิดด้วยไม่เห็นจะมีอะไรต้องกลัว...ภามตั้งหน้าตั้งตาขำไปพร้อมกับเจเจโดยไม่สนคนที่เดินผ่านไปมา"หัวเราะอะไรไอ้ภาม""ฮ่าๆ เอ้า! กูขำตามไอ้เจ""...." ภามมองหน้าวาโยก่อนจะกลั้นขำ"แต่ก็ตลกหน้ามึงด้วยแหละ ฮ่าๆ~""ตลกมากใช่ไหม...ได้! งั้นไปซื้อกาแฟมาเลย""มึงใช้ใคร?""ใช้แกไง""แล้วมึงคิดว่ากูจะไปไหม?""ไป" เจเจตอบแทน วาโยเลยหันมาพยักหน้าเห็นด้วย เจเจเลยพูดต่อ "เมื่อคืนก็ทำจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน แค่นี้จะใจร้ายไม่ไปซื้อกาแฟให้เมียกินหน่อยหรอวะ""ใช่ไหมไอ้เจ ที่ฉันไม่ได้นอนก็เพราะใคร หัดสำนึกบุญคุณฉันซะบ้างนะ""เออ ถ้าวันไหนกูเอาขึ้นมาจริงๆ มึงไม่ได้แค่อดนอนหรอก แต่จะลุกมาเรียนไม่ไหวด
@ริมระเบียงคอนโดหรู"ค่ะพี่โอบ" "ตอนนี้หรอคะ" "ไม่น่าได้ค่ะ เพราะโยกำลังจะซักผ้า" "ค่ะ ไว้เจอกันนะคะ"พอสายตัดไป วาโยก็วางตะกร้าผ้าที่ตัวเองกอดไว้ลงพื้น พรึ่บ~"เครื่องซักผ้าเสียหรอเนี่ย ทำไมไฟไม่ขึ้น" เธอเห็นว่าเครื่องไม่ตอบสนองเลยเอื้อมมือไปถอดปลั๊กออก กันโดนไฟดูด และหยิบกะละมังมาใส่น้ำเทผงซักฟอกแล้วใช้มือตีให้เกิดฟองแทน"ต้องซักมือสินะ เสื้อผ้าตัวเองก็ไม่ใช่ เฮ้อ~" ตัดพ้อจบก็ค่อยๆหยิบเสื้อผ้าของเพื่อนสนิทลงน้ำทีละตัวๆ จนถึงก้นตะกร้า เธอต้องเบิกตากว้างเพราะมีบางสิ่งนอนขดอยู่ในนั้นหลายชิ้น แล้วรับรู้ได้ทันทีว่านี่คือของใช้ส่วนตัวที่เพื่อนอย่างเธอไม่ควรต้องมาเห็น"อี๋! ไอ้ภาม! แกอยู่ไหนออกมานี้เลยนะ""มีไร อาบน้ำอยู่" ด้วยความที่ห้องน้ำในห้องนอนของภามและระเบียงไม่ได้ไกลกันมาก เลยทำให้ทั้งคู่ตะโกนคุยกันได้และได้ยินเสียงชัดเจน"แกเอาอะไรมาให้ฉันซัก ไหนบอกให้ซักแค่เสื้อผ้าไง แล้วนี่อะไร""ซักให้หน่อย ไม่มีใส่แล้ว""เครื่องซักผ้ามันเสีย แกออกมาซักเองเลย ฉันซักให้แค่เสื้อกับกางเกง นี่มันของใช้ส่วนตัวแกต้องมาซักเอง!""ไอ้ภาม! ไอ้ภะ..." เสียงคนในห้องน้ำเงียบไปเลยตะโกนเรียกชื่ออีก
"ร้องไห้เลยหรอ" มือที่จับหน้าคนตัวเล็กอยู่ต้องชะงักด้วยความตกใจแล้วเอ่ยออกมาเสียงเบาด้วยความรู้สึกผิด "ขอโทษ...""อึก~ แกไม่ต้องมาโดนตัวฉันเลย" คนตัวเล็กสะอื้นไห้น้ำตาไหลเต็มสองแก้ม ทำให้ภามทำหน้าไม่ถูก ไม่รู้จะทำยังไงต่อเลยค่อยๆลดมือที่จับแก้มลงช้าๆ"ก็ขอโทษแล้วไง...""ขอโทษแล้วมันหายไหม"".....""จู่ๆแกก็มาหาว่าฉันเป็นแม่แก แถมเอาบ็อกเซอร์ที่เป็นของใช้ส่วนตัวมาให้ฉันซักอีก อึก~ รู้อยู่ว่ารับปากแล้วอาทิตย์นึง แต่ฉันปวดท้องอยู่แกก็เห็น"วาโยยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาตัวเองแล้วพูดสิ่งที่อัดอั้นตันใจออกมาเป็นชุดตอนนี้เธอเหมือนเด็กน้อยที่ต้องการคนตามใจ แล้วคนๆนั้นจะเป็นใครได้ ถ้าไม่ใช่เพื่อนอย่างเขา"เออๆ ไม่พูดแล้ว ก็ลืมดูปฏิทินเลยไม่รู้" ภามจะรู้วันมาของประจำเดือนวาโยว่าแต่ละเดือนจะมาช่วงไหน เป๊ะบ้างเคลื่อนบ้างแต่ก็ไม่เกินวันที่ยี่สิบหรืออาจจะหลังจากนั้นไม่เกินเจ็ดวัน"ฉันไม่อยากกินข้าวแกก็บังคับ""แต่มันต้องกินไง!" น้ำตาที่เหือดแห้งไปกำลังจะไหลออกมาอีกระรอกเมื่ออีกคนกำลังทำท่าจะดุอีกครั้ง"แกขึ้นเสียงใส่ฉันอีกแล้วนะ""ก็มันต้องกินไง~" ภามกดเสียงให้ต่ำลง แล้วหยิบทิชชู่มาส่งให้ว
หลายปีต่อมา... ตอนนี้ลูกสาวตัวน้อยอดนมแม่อย่างเป็นทางการแล้ว ก็เหลือแต่ตัวพ่อเนี่ยแหละที่ร้องขอกินนมก่อนนอนเกือบทุกคืน ไหนใครบอกว่าแต่งงานอยู่ด้วยกันนานๆแล้วผัวจะเบื่อ แต่นี่ไม่เลย... รู้สึกว่าภามรักและหลงเธอมากกว่าเดิมเสียอีก ถึงบางวันทั้งคู่จะไม่ได้ทำรัก เขาก็ขอแค่ได้กอดได้หอมเมียให้ชื่นใจก่อนไปทำงานแค่นี้เขาก็มีความสุขมากแล้ววันนี้เป็นวันที่หมอนัดสาวน้อยอย่างวรินทร์มารับวัคซีนครบสี่ขวบที่โรงพยาบาล แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่วาโยเจอรุ่นพี่อย่างแทนที่เคยเรียนร่วมคณะเดียวกันสมัยมหาลัย"น้องวาโยนี่เองพี่ก็คิดว่าใคร^_^" "พี่แทน มาหาหมอหรอคะ""ครับ พี่พา เอ่อ... พาน้องสาวมาฝากครรภ์ ว่าแต่เรามาทำอะไรที่แผนกเด็กเล็กหรอครับ?""โยพาลูกสาวมาฉีดวัคซีนค่ะ""อ้าว นี่เรามีลูกแล้วหรอ แล้วไหนล่ะสามี? ทำไมถึงไม่มาด้วย ปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล็กๆมากับลูกสาวตามลำพังแบบนี้ได้ยังไงกัน ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย" "เขามาด้วยนะคะพี่แทน..." แทนแกล้งชะเง้อคอมองข้ามผ่านคนตัวเล็กไปทางด้านหลังก็ไม่เจอใคร วาโยเลยหันมองข้างๆที่มีภามยืนอยู่ แล้วทำหน้างงๆว่าพี่แทนไม่เห็นภามจริงๆหรอ หรือเขาแค่แกล้งเล่น? วรินทร
@หนึ่งปีต่อมา...ตอนนี้วาโยคลอดลูกสาวได้สี่เดือนแล้ว และเดือนนี้ก็เป็นเดือนสุดท้ายในการสอบปลายภาคสำหรับนักศึกษาปีสี่ ทั้งภามและวาโยเลยต้องเรียนหนักเป็นพิเศษ แต่หน้าที่เลี้ยงลูกส่วนใหญ่จะเป็นคุณพ่อลูกอ่อนอย่างภาม เขาอยากให้วาโยโฟกัสกับเรื่องเรียนให้เต็มที่ ไม่ต้องห่วงวรินทร์เดี๋ยวเขาจะดูแลให้เองอย่างเช่นวันนี้คนที่เลี้ยงลูกอยู่ในห้องก็เป็นภาม ส่วนวาโยเธอออกมานั่งเรียนอยู่โซนด้านนอกกับอาจารย์ที่แม่สามีจ้างมาสอนพิเศษให้ถึงเพนท์เฮาส์ แต่ทว่า! นั่งเรียนยังไม่ถึงชั่วโมงภามก็เดินออกมาตามด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ เพราะเขาเห็นอาจารย์ที่มาสอนวาโยวันนี้ไม่ใช่คนเดิม"โย ลูกร้องหิวนม เข้าไปดูลูกในห้องหน่อย" "ตอนนี้เลยหรอ แต่ฉันยังเรียนไม่จบครอสเลยนะ" ปกติภามไม่เคยปล่อยให้ลูกร้องนี่นา นมก็ปั๊มไว้ให้ตั้งเยอะมาบอกว่าลูกร้องหิวนมได้ยังไง ไม่ใช่ว่าวาโยไม่เป็นห่วงลูกนะ แต่ปัญหาแค่นี้เธอเชื่อว่าภามจัดการได้สบายอยู่แล้ว"นมที่ปั๊มแช่ไว้ในตู้เย็นละลายไม่ทัน""อ๋อ โอเค..." ที่แท้ก็นมละลายไม่ทันนี่เอง วาโยเลยละสายตาจากภามหันกลับมามองอาจารย์ก่อนจะพูดต่อ "งั้นเดี๋ยวโยขอเข้าไป
หลังจากที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันเรื่องสินสอดเรียบร้อยแล้วก็พากันกลับบ้านไปดูฤกษ์ วาโยเลยขอกลับมาอยู่คอนโดก่อน รอจนกว่าจะแต่งงานแล้วค่อยย้ายไปอยู่เพนท์เฮาส์ที่ภามซื้อให้ และเธอมองว่ามันไม่ใช่ของเธอแต่เพียงผู้เดียว แต่เป็นเรือนหอของเราสองคนต่างหาก'โยจำคำแม่ไว้นะลูก... ผู้ชายร้อยทั้งร้อยแพ้ผู้หญิงขี้อ้อน หมั่นเอาใจลูกเขยแม่ให้มากๆ อย่าปล่อยให้ผู้ชายดีๆแบบภามหลุดมือไปเด็ดขาด'วาโยหวนนึกถึงคำพูดของแม่แล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ฮึบ!เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน อ้อนแฟนตัวเองไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสักหน่อย พอคิดได้ดังนั้นวาโยก็เดินมาหาภามที่นั่งอยู่บนโซฟา ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งบนตักของแฟนหนุ่มจนเขาต้องวางไอแพดในมือลงข้างตัวแล้วยกมือมาโอบเอวเธอไว้แทน"แกดูอะไรอยู่หรอ" "ดูแพ็คเกจคลอดลูก กินข้าวอิ่มแล้วหรือไง" ความจริงทั้งคู่กินข้าวด้วยกันไปแล้วรอบนึง แต่ผ่านมายังไม่ถึงชั่วโมงวาโยก็ร้องหิวอีก ภามเลยทำให้กินอีกรอบ ส่วนตัวเขาก็มานั่งดูโปรแกรมคลอดลูกรอเธอไปพลางๆ"อิ่มแล้ว..." "แล้วทำไมยังไม่ไปอาบน้ำอีก""รอแฟนไปอาบให้""ฮึ?""ก็ช่วงนี้ฉันหน้ามืดบ่อยๆ กลัวตัวเองจะเป็นลมในห้องน้ำ แกอาบให้ฉันหน่อ
"อย่าเพิ่งเป็นลม เพราะยังไม่หมดแค่นั้น""ยังมีอีกหรอ!?" แค่นี้เธอก็จะเป็นลมอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรที่เซอร์ไพรส์มากกว่านี้อีกมีหวังได้วูบไปจริงๆแน่"...." ภามที่ยืนช้อนหลังวาโยอยู่ในตอนนี้สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีออกมาใช้ ก่อนจะสอดมือล้วงกระเป๋าหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงขึ้นมายื่นไปด้านหน้าของวาโยแล้วเปิดกล่องดังป๊อก! โชว์แหวนเพชรน้ำดีด้านในให้คนตัวเล็กที่ตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ได้เห็น"อะ อะไรของแกเนี่ยO_O" "แต่งงานกันนะโย..." วาโยมองแหวนเพชรเม็ดโตในกล่องที่มีความเปล่งประกายวิบวับสวยงามเล่นกับแสงไฟภายในห้องอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ถึงจะแอบหวังให้เขาขอแต่งงานแต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆทำให้เธอตั้งตัวรับไม่ทัน เธอมองแหวนในกล่องอีกครั้งก่อนที่ภาพจะตัดไปราวกับมีคนมาสับสวิตซ์ พรึ่บ! "เห้ย! โย ทุกคน! เมียผมเป็นลม" ภามรีบย่อตัวลงอุ้มคนตัวเล็กที่หมดสติขึ้นทันที แล้วภาพก็ตัดมาทางฝั่งของอาโป... "จะปล่อยฉันไปได้รึยัง" นี่เป็นคำถามที่ร้อยของวันนี้ที่นิเนยเอ่ยถามอาโป เขาเล่นขังเธอไว้ในห้องกับเขาตั้งแต่จับตัวเธอมาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมปล่อยตัวเธอไป"จะให้ผมปล่อยป
อึก! อ้วก~"โย!" ภามลืมตาตื่นจากฝันดียังไม่ทันถึงเสี้ยววิ ก็รีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงวิ่งตรงไปหาเสียงโอ้กอ้ากในห้องน้ำทันที พอเข้ามาถึงเขาก็เร่งฝีเท้าเดินเข้าไปช่วยลูบหลังให้วาโยที่นั่งกอดโถส้วมอ้วกอยู่อย่างหมดสภาพด้วยความเป็นห่วง "ไหวมั้ย""ฉันไหว อ้วก~" วาโยชูนิ้วโอเคตอบกลับมาทั้งที่ยังก้มหน้าอ้วกไม่หยุด"ตัวแสบทำไมแกล้งแม่แต่เช้าเลย ถ้าคลอดออกมาเมื่อไหร่พ่อจะตีให้" มาโหมดดุลูกซะแล้วเมื่อเห็นเมียอ้วกจนเหนื่อย"ดุแค่ฉันก็พอ เว้นลูกไว้คนนึง" วาโยอ้วกเสร็จก็หันมายิ้มหวานให้ภาม เชิงบอกเป็นนัยๆว่าแค่นี้เองสบายมาก "หึ ลูกคงดื้อเหมือนแม่สินะ" พูดจบภามก็ช้อนตัวอุ้มวาโยมานั่งที่ขอบอ่างอาบน้ำ เปิดน้ำจากฝักบัวใส่มือแล้วเอามาลูบหน้าให้วาโย แต่ทว่า! สายตาเขาดันเกเรไม่ได้มองแค่หน้าสวยๆของเธอ แต่ดันมองต่ำลงไปกว่านั้นอีก...เนินหน้าอกขาวๆที่ล้นออกมาจากชุดนอนสุดวาบหวิวที่เธอแอบลุกขึ้นไปใส่มาเมื่อคืน มันชวนมองซะจนภามลอบกลืนน้ำลายลงคอดัง อึก!ยิ่งเปียกน้ำยิ่งเห็นไปถึงไหนต่อไหน... "จะมองอีกนานไหม" เสียงหวานเอ่ยขึ้นทำให้ภามเลื่อนสายตากลับมามองหน้าเธอก่อนจะเอื้อมมือไปปิดน้ำแล้วเก็บฝักบัวเข้าที่ "
พอมาถึงโรงพยาบาลภามก็ขอรถเข็นมาให้ฉันนั่งแล้วเข็นฉันเข้าห้องตรวจ แต่พอเจอหมอผู้ชายก็บอกว่าไม่สะดวกใจเลยต้องเปลี่ยนมาเป็นหมอผู้หญิงแทน และคิดว่าเรื่องจะจบ แต่ไม่เลย ภามไม่ยอมให้อัลตร้าซาวด์ผ่านช่องคลอดบอกว่ากลัวโดนหัวลูก ให้ตายเถอะ! หมอเลยต้องอธิบายหลักการทั้งหมดที่มีให้คุณพ่อมือใหม่ได้ฟังกว่าจะยอมได้หมอถึงกับยกมือกุมขมับ... ผลตรวจเลือดออกมาว่าฉันท้องจริงๆ และอัลตร้าซาวด์เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ลูกในท้องยังเล็กมากขนาดเท่ากับเมล็ดถั่ว อายุครรภ์แค่ 6 สัปดาห์ถือว่าโตตามเกณฑ์ พอหมอบอกว่าแข็งแรงทั้งแม่และลูก เท่านั้นแหละ! ผู้เป็นพ่อก็ยิ้มออกมาไม่หุบ ดีใจยิ่งกว่าฉันที่เป็นแม่เสียอีกหาหมอเสร็จภามก็พาฉันไปช็อปปิ้งต่อ ขนาดท้องฉันแบนราบจนแทบจะมองไม่ออกด้วยซ้ำแต่เขาก็ยังซื้อชุดคลุมท้องให้ บอกว่าในอนาคตก็ต้องใช้ ตอนแรกจะซื้อของลูกมาด้วยนะ ฉันเลยห้ามไว้ก่อนบอกเขาว่ารอรู้เพศก่อนค่อยซื้อก็ได้ พอกลับมาถึงคอนโดก็ยังไม่วายนั่งดูรูปอัลตร้าซาวด์แล้วยิ้มอยู่คนเดียวไม่ค่อยจะเห่อเท่าไหร่เลย...อ๋อ! ยังมีอีกเรื่องที่หมอย้ำ คือช่วงนี้ให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนจนกว่าอายุครรภ์จะครบ 3 เดือนขึ
อยู่ไม่ได้แล้วโว๊ย... ฉันรีบหมุนตัววิ่งหนีเข้าห้องทันที ขอโทษนะนิเนยเรื่องแกคงไม่น่าตกใจเท่าเรื่องฉันตอนนี้หรอก ดูแลตัวเองไปก่อนแล้วกัน ตอนนี้ฉันก็ลำบากไม่ต่างจากแก"จะหนีไปไหน" ภามวิ่งตามมาดันประตูไว้ไม่ให้ปิด"แกเอามือออกจากประตูเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันปิดประตูหนีบนิ้วแกแน่" เขาไม่ยอม ฉันก็ไม่ยอม เลยเกิดการยื้อแย่งประตูกันเกิดขึ้น จนในที่สุดภามก็ผลักประตูเข้ามาได้จนสำเร็จ ฉันที่กำลังจะวิ่งหนีเข้าห้องน้ำก็โดนเขาล็อคตัวไว้แบบหลวมๆ"บอกให้เอาไอ้นี่ไปตรวจ""ไม่! ฉันไม่ตรวจ" ฉันดิ้นจนหลุดออกจากวงแขนแกร่งแล้วหันไปจ้องหน้าภามอย่างเอาเรื่อง"จะดื้อให้ได้อะไรขึ้นมาโย ตอนนี้อาจจะท้องอยู่ก็ได้ ไม่สังเกตุตัวเองบ้างเลยรึไง" ไม่ใช่ว่าฉันไม่สังเกตุตัวเอง แต่แค่ตอนนี้ยังไม่อยากยอมรับความจริงก็เท่านั้น ถ้าตรวจแล้วผลออกมาว่าฉันท้องขึ้นมาจริงๆจะทำยังไง"จะบ้าหรอ ฉันจะท้องได้ยังไงแกเอาอะไรมาพูด""ทำไมจะท้องไม่ได้ ผัวก็ยืนหัวโด่อยู่นี่ทั้งคน ลืมไปแล้วหรือไงว่าตัวเองมีผัว หรือต้องให้ลื้อฟื้นความทรงจำก่อนตรวจ?""ไม่ต้อง ถอยออกไปเลยนะ!" ฉันยกมือดันแผงอกคนที่โน้มตัวเข้ามาหา ภามเท้าแขนสองข้างลงกับโต๊
"....." มือที่เคยถือยาดมค้างอยู่กลางอากาศ สมองเริ่มอื้ออึง ตามองตรงไม่มีจุดโฟกัส รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ภามส่งมือมาลูบท้องฉันผ่านชุดเดรสแล้ว "สรุปประจำเดือนไม่มาใช่ไหม? หรือว่าท้อ... ""มาแล้ว!" ฉันตอบออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่เป็นก็ตาม แต่ประจำเดือนฉันอาจจะคาดเคลื่อนก็ได้ ใครจะไปรู้ ถ้ายังไม่ถึงสิ้นเดือนอย่าเพิ่งด่วนตัดสิน ขอปลอบใจตัวเองไปก่อนแล้วกัน... "จะบอกว่าตอนนี้เป็นประจำเดือนอยู่หรือยังไง?""...." ฉันพยักหน้า"เป็นตอนไหนแล้วทำไมไม่รู้? ไม่เห็นปวดท้องร้องกินของหวานเลย เห็นนั่งกินแต่มะม่วงเปรี้ยว ไหนจะอ้วก ไหนจะเป็นลม แถมนมยังใหญ่ขึ้นขนาดนี้ ต้องท้องแน่ๆ ป่ะ! ไปโรงพยาบาลกัน ลองให้หมอตรวจดู" หมับ! ภามจับมือฉันตั้งท่าเตรียมลุกแต่ฉันชักมือกลับแล้วดึงเขาให้นั่งลงแบบเดิม ฉันไม่อยากไปโรงพยาบาลเพราะกลัวเจอความจริงแล้วรับไม่ได้เราสองคนอยู่ปีสาม เพิ่งสอบปลายภาคเสร็จยังไม่ถึงอาทิตย์ ซึ่งเหลือเวลาอีกเป็นปีกว่าจะจบมหาลัย ฉันจะมาท้องตอนนี้ได้ยังไง ไม่ได้เด็ดขาด ที่บ้านคงผิดหวังในตัวเราสองคนมาก ฉันทำงานเสริมเขียนนิยายขายอยู่บ้างแต่รายได้ก็น้อยนิด จะ
@วันต่อมา...Talk : ภามคิดถึงเมีย...นี่เป็นคำที่อยู่ในหัวผมตั้งแต่เมื่อวานเย็นจนถึงตอนนี้ ผมรู้สึกว่าเวลาเมื่อคืนมันยาวนานกว่าคืนไหนๆ กว่าจะข่มตาหลับได้ก็เกือบเช้า และใช่! ผมนอนกอดเสื้อแทนกอดวาโย คิดแล้วก็เศร้า ขนาดตอนนี้ผมยังนั่งมองประตูห้องนอนของวาโยด้วยสายตาละห้อย แล้วถามกับตัวเองซ้ำๆว่าเมื่อไหร่เธอจะตื่นสักที คิดถึงไม่ไหวแล้วโว๊ยยยย!! อยากเห็นหน้าจะตายห่าแล้วเนี่ย... แกร๊ก! สิ้นสุดการรอคอย เพราะ 'แฟน' ของผมได้เปิดประตูออกมาแล้ว แต่ผมต้องคีพลุคนิ่งไว้ก่อน เดี๋ยวเธอจะมาหาว่าผมคลั่งรักอีก -_-*ผมมองวาโยด้วยสายตาราบเรียบไม่บอกความรู้สึก เธอเดินออกมาด้วยชุดเดรสสีขาวสายเดี่ยวปาดไหล่กระโปรงสั้นเลยเข่าขึ้นไปสองนิ้ว น่ารักดีแต่ผมแอบหงุดหงิดตรงที่ชุดดันโชว์เนินหน้าอกขาวๆของเธอเนี่ยแหละ ถึงเพื่อนเธอจะเป็นผู้หญิงแต่ผมก็อดหวงไม่ได้ผมมองสำรวจชุดไปเลื่อยๆจนสบสายตาเข้ากับวาโยทำให้ผมตกใจ เลยละสายตาจากเธอหันไปมองจอ ทำเหมือนว่าออกมานั่งดูทีวีเฉยๆ ไม่ได้ออกมานั่งรอใครทั้งนั้น"ทำไมแกตื่นเช้าจังเพิ่งเจ็ดโมงครึ่งเองนะ วันนี้ไม่มีเรียนไม่ใช่หรอ" วาโยเห็นผมไม่ตอบเลยเดินเข้ามาใกล้