@ชมรม
"แค่กๆ โทษทีฉันลืมสนิทเลย" วาโยวิ่งมาหยุดยืนหายใจหอบเหนื่อยตรงหน้าเพื่อนทั้งสอง ก่อนจะทิ้งก้นลงนั่งที่เก้าอี้หินอ่อน เฮ้อ! ในที่สุดก็วิ่งมาถึงจนได้ "ไปๆ เขาเรียกรวมแล้ว" "ขอนั่งพักก่อนไม่ได้หรือไง" "ถ้าจะนั่งก็ไปนั่งข้างใน" "เดี๋ยวสิ ขอพักตรงนี้แป๊บนึง แค่กๆ เหนื่อยจนหายใจไม่ทันแล้ว" มือซ้ายยกขึ้นปาดเหงื่อ ส่วนมือข้างขวาก็โดนภามดึงให้ยืนขึ้นโดยที่เขาไม่คิดจะสงสารผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอเลยแม้แต่น้อย "ลุก" วาโยขืนตัวไว้สุดแรงและไม่ยอมลุกขึ้นง่ายๆ "อื้อ!!!" "ในเมื่อเมียมึงมาแล้วงั้นกูไปนะ" เจเจพูดขึ้น "จะไปแล้วหรอ มาช่วยห้ามไอ้ภามก่อนดิ มันจะหิ้วปีกฉันอยู่แล้วเนี่ย" "เออจะไปแล้วให้กูอยู่ทำอะไรล่ะ ผัวเมียทะเลาะกันมันเป็นเรื่องภายในครอบครัว" "ไปๆมึงรีบไปเลย" ภามหันมาไล่ เจเจเลยลุกขึ้นยืนเมื่อรู้ว่าตัวเองหมดผลประโยชน์ และเขาก็รู้ดีว่าไม่ควรอยู่เป็นก้างขวางคอ "เห้ย! แกจะไปไหน อย่าเพิ่งไปดิ" "อาทิตย์หน้ามีจัดทริปค่ายอาสา เลยจะไปสืบว่าคณะเราจะพาไปไหน แล้วก็ถือโอกาสนี้แอ๊วสาวด้วยเลย ไปนะ" "เจ เดี๋ยวดิ ไอ้เจ!" "ไม่ต้องไปเรียกคนอื่น มานี่" ภามดึงแขนวาโยให้เดินตาม "ไอ้ภาม! ฉันเป็นผู้หญิงนะเบาหน่อยดิแขนฉันจะหลุดออกมาจากไหล่อยู่แล้วเนี่ย" "มึงเดินช้าคิดว่าขี่หลังเต่าอยู่เถอะ เดินเร็วๆให้เหมือนตอนวิ่งไปกินชาบูกับแฟนหน่อย" "เกี่ยวบ้าอะไรกับเรื่องนี้?" วาโยขืนตัวไว้แล้วมองหน้า ภามที่ไม่รู้จะตอบคำถามยังไงเลยเลิ่กลั่กแล้วดึงแขนเธอให้เดินต่อ "กะ กูก็พูดของกูไปเรื่อยเปื่อย เร็วเถอะเขารอกันอยู่" "เร็วกว่านี้ ก็หายตัวแล้วมั้ย" "พูดมากกูอุ้มนะ" "ก็เดินอยู่เนี่ย ปล่อย!" วาโยสะบัดแขนออกจากมือภาม "คิดว่ากูอยากจับตายแหละ!" "แล้วคิดว่าฉันอยากให้แกจับตายอ่ะ!" ทั้งคู่สะบัดหน้าหนีคนละฝั่งแล้วแยกกันเดินเข้าไปในห้องชมรม แต่สุดท้ายก็ต้องเดินมานั่งข้างกันอยู่ดี และตรงคอนเซ็ปเป๊ะ ทั้งคู่ไปนั่งทะเลาะกันในนั้นต่ออีกรอบ คนหนึ่งแหย่ คนหนึ่งหยิก ภามจี้เอว วาโยตีหลัง ถามว่าได้อะไรจากการประชุมครั้งนี้ไหม ตอบเลยว่าไม่ เพราะสิ่งที่ทั้งคู่ได้มาคือความสะใจส่วนตัวล้วนๆ @หลังประชุมเสร็จ "โคตรจะเบื่อเลย เรียกรวมก็บ่อย เฮ้อ~ ไม่น่าเกิดมาสวยเล๊ย" พูดตัดพ้อความสวยของตัวเองแล้วหนึ่ง "ในโลกนี้ยังมีใครหลงตัวเองเท่ามึงอีกไหม? กูตอบให้เลยก็ได้... ไม่มี" "หรือแกจะบอกว่าฉันไม่สวย?" ภามยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนทั้งคู่เผลอสบตากัน พอตกอยู่ในภวังค์ได้ไม่นาน ภามก็ไล่สายตามองสำรวจใบหน้ารูปไข่ ตาสีน้ำตาลเป็นประกาย แก้มขาวอมชมพูก่อนจะมาหยุดที่ปากอวบอิ่มหน้าจูบ...เห้ย! คิดอะไรวะ ภามรีบผละหน้าออกทันทีเมื่อวาโยหรี่ตามองและเอียงคอถาม "มองอะไรขนาดนั้น จะชมว่าสวยอ่ะดิ" "ไหน? ตรงไหนที่เรียกว่าสวย ชี้ดิ! ตั้งแต่เป็นเพื่อนกับมึงมา ยังไม่เคยเห็นความสวยของมึงเลยสักครั้ง" "โถ~ แล้วคิดว่าตัวเองหล่อมากมั้งพ่อเทพบุตรเดินดิน" "หันไปดูนู้น" ภามยกมือจับหน้าวาโยให้หันไปที่กลุ่มสาวๆ "อะไร" "หล่อไม่หล่อไม่รู้แต่สาวมองไม่ละสายตา" "เขามองเพราะแกไม่รูดซิบหรือเปล่า อย่าหลงตัวเองให้มาก" "....." "เห้ย! แกไม่รูดซิบจริงๆด้วย" วาโยทั้งพูดทั้งชี้และยกมือปิดตา พรึ่บ~ ภามก้มลงมองเป้ากางเกงตัวเองทันที พอเงยหน้าขึ้นมาก็ไม่เจอวาโยแล้ว โดนหลอกงั้นหรอ ? มันน่านัก ยัยตัวแสบ... @กลางดึก "อื้อ~" เสียงเพลงที่ดังมาจากอีกห้องได้ปลุกคนหลับฝันดีให้ตื่นขึ้น "ไอ้ภาม! ไม่ไหวแล้วเว้ย!!" พลิกตัวไปมาอยู่หลายรอบ ทั้งเอาหมอนมาปิดหน้าก็แล้ว ทั้งเอานิ้วอุดหูก็แล้ว เสียงเพลงที่ดังก็ไม่มีท่าทีจะเบาลงสักที ปึก! วาโยดีดตัวนั่ง แล้วลุกขึ้นยืนด้วยความโมโหก่อนจะเปิดประตูออกมาจากห้องตัวเอง แล้วเดินไปยังห้องเพื่อนสนิท ปังๆ! (เสียงเคาะประตู) "ไอ้ภาม! เปิดประตู!!" ปัง ปังๆๆๆ!! "ฉันบอกให้เปิดประตู ไม่งั้นฉันพังเข้าไปแน่" แกร๊ก~ "ว่าไง?" "แกช่วยเบาเสียงเพลงหน่อยได้ไหม หนวกหู" "มันเบาไม่ได้..." "ทำไมจะเบาไม่ได้" "ถ้าให้เบาเพลง มึงก็จะได้ยินเสียงอย่างอื่นนะ" "....." "หรือมึงอยากฟัง?" เสียงที่มันพูดจะเป็นเสียงอะไรได้นอกจากมันกำลัง...อึ๊ย! ไม่รู้ว่าแอบไปหิ้วผู้หญิงมาตอนไหน แต่ที่รู้ตอนนี้ คือมันกำลังรบกวนเวลานอนของฉันอยู่ "ไม่อยากฟัง แต่เพลงมันดังเกินไปจนฉันนอนไม่หลับ" "แล้วจะเอายังไง จะฟังเสียงอะไร?" "จิ๊! แกก็ทำให้มันเบาๆหน่อยไม่ได้หรือไง" "ไม่ได้หรอก พอดีกูซาดิสต์" ภามกัดปากร้องซี๊ดแล้วพูดขึ้น "โอ๊ย! อยากจะบ้าตาย นี่มันเวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย" "อ๊ะ เอานี่ไปอิ๋หนู" "อะไรอี๊ก!" "เอาตังไปซื้อขนมกินสักสองสามชั่วโมงป่ะ แล้วค่อยกลับเข้ามานะ ตอนนั้นเพลงคงปิดพอดี" วาโยถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วหยิบเงินจากมือภามมาแบบไม่เต็มใจ "เออ ปิดเพลงแล้วโทรมาด้วย ถ้าให้ฝืนนอนต่อ คงนอนไม่หลับ" "โอเคครับเพื่อนรัก"@วันต่อมา"ตกใจหมดเลยโย ทำไมหน้าตามึงเป็นแบบนั้นล่ะ" เจเจสะดุ้งตัวตกใจ เมื่อเห็นสีหน้าของวาโยที่เหมือนคนอดหลับอดนอนมาทั้งคืน แถมขอบตาก็ดำยิ่งกว่าหมีแพนด้า"ถามเพื่อนรักแกสิ""....." ภามยักไหล่แทนคำตอบ"โอ้โห! ไอ้ภาม จัดหนักเมียทั้งคืนเลยหรอวะ เบามือหน่อยดิเพื่อน ไอ้โยมันก็ตัวแค่นี้เอง ฮ่าๆ"เจเจจับท้องตัวเองแล้วหัวเราะออกมาเสียงดังส่วนภามไม่แม้แต่จะปฏิเสธ และเขาก็ไม่กลัวว่าสาวคนไหนจะมาได้ยินแล้วเข้าใจเขาผิดด้วยไม่เห็นจะมีอะไรต้องกลัว...ภามตั้งหน้าตั้งตาขำไปพร้อมกับเจเจโดยไม่สนคนที่เดินผ่านไปมา"หัวเราะอะไรไอ้ภาม""ฮ่าๆ เอ้า! กูขำตามไอ้เจ""...." ภามมองหน้าวาโยก่อนจะกลั้นขำ"แต่ก็ตลกหน้ามึงด้วยแหละ ฮ่าๆ~""ตลกมากใช่ไหม...ได้! งั้นไปซื้อกาแฟมาเลย""มึงใช้ใคร?""ใช้แกไง""แล้วมึงคิดว่ากูจะไปไหม?""ไป" เจเจตอบแทน วาโยเลยหันมาพยักหน้าเห็นด้วย เจเจเลยพูดต่อ "เมื่อคืนก็ทำจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน แค่นี้จะใจร้ายไม่ไปซื้อกาแฟให้เมียกินหน่อยหรอวะ""ใช่ไหมไอ้เจ ที่ฉันไม่ได้นอนก็เพราะใคร หัดสำนึกบุญคุณฉันซะบ้างนะ""เออ ถ้าวันไหนกูเอาขึ้นมาจริงๆ มึงไม่ได้แค่อดนอนหรอก แต่จะลุกมาเรียนไม่ไหวด
@ริมระเบียงคอนโดหรู"ค่ะพี่โอบ" "ตอนนี้หรอคะ" "ไม่น่าได้ค่ะ เพราะโยกำลังจะซักผ้า" "ค่ะ ไว้เจอกันนะคะ"พอสายตัดไป วาโยก็วางตะกร้าผ้าที่ตัวเองกอดไว้ลงพื้น พรึ่บ~"เครื่องซักผ้าเสียหรอเนี่ย ทำไมไฟไม่ขึ้น" เธอเห็นว่าเครื่องไม่ตอบสนองเลยเอื้อมมือไปถอดปลั๊กออก กันโดนไฟดูด และหยิบกะละมังมาใส่น้ำเทผงซักฟอกแล้วใช้มือตีให้เกิดฟองแทน"ต้องซักมือสินะ เสื้อผ้าตัวเองก็ไม่ใช่ เฮ้อ~" ตัดพ้อจบก็ค่อยๆหยิบเสื้อผ้าของเพื่อนสนิทลงน้ำทีละตัวๆ จนถึงก้นตะกร้า เธอต้องเบิกตากว้างเพราะมีบางสิ่งนอนขดอยู่ในนั้นหลายชิ้น แล้วรับรู้ได้ทันทีว่านี่คือของใช้ส่วนตัวที่เพื่อนอย่างเธอไม่ควรต้องมาเห็น"อี๋! ไอ้ภาม! แกอยู่ไหนออกมานี้เลยนะ""มีไร อาบน้ำอยู่" ด้วยความที่ห้องน้ำในห้องนอนของภามและระเบียงไม่ได้ไกลกันมาก เลยทำให้ทั้งคู่ตะโกนคุยกันได้และได้ยินเสียงชัดเจน"แกเอาอะไรมาให้ฉันซัก ไหนบอกให้ซักแค่เสื้อผ้าไง แล้วนี่อะไร""ซักให้หน่อย ไม่มีใส่แล้ว""เครื่องซักผ้ามันเสีย แกออกมาซักเองเลย ฉันซักให้แค่เสื้อกับกางเกง นี่มันของใช้ส่วนตัวแกต้องมาซักเอง!""ไอ้ภาม! ไอ้ภะ..." เสียงคนในห้องน้ำเงียบไปเลยตะโกนเรียกชื่ออีก
"ร้องไห้เลยหรอ" มือที่จับหน้าคนตัวเล็กอยู่ต้องชะงักด้วยความตกใจแล้วเอ่ยออกมาเสียงเบาด้วยความรู้สึกผิด "ขอโทษ...""อึก~ แกไม่ต้องมาโดนตัวฉันเลย" คนตัวเล็กสะอื้นไห้น้ำตาไหลเต็มสองแก้ม ทำให้ภามทำหน้าไม่ถูก ไม่รู้จะทำยังไงต่อเลยค่อยๆลดมือที่จับแก้มลงช้าๆ"ก็ขอโทษแล้วไง...""ขอโทษแล้วมันหายไหม"".....""จู่ๆแกก็มาหาว่าฉันเป็นแม่แก แถมเอาบ็อกเซอร์ที่เป็นของใช้ส่วนตัวมาให้ฉันซักอีก อึก~ รู้อยู่ว่ารับปากแล้วอาทิตย์นึง แต่ฉันปวดท้องอยู่แกก็เห็น"วาโยยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาตัวเองแล้วพูดสิ่งที่อัดอั้นตันใจออกมาเป็นชุดตอนนี้เธอเหมือนเด็กน้อยที่ต้องการคนตามใจ แล้วคนๆนั้นจะเป็นใครได้ ถ้าไม่ใช่เพื่อนอย่างเขา"เออๆ ไม่พูดแล้ว ก็ลืมดูปฏิทินเลยไม่รู้" ภามจะรู้วันมาของประจำเดือนวาโยว่าแต่ละเดือนจะมาช่วงไหน เป๊ะบ้างเคลื่อนบ้างแต่ก็ไม่เกินวันที่ยี่สิบหรืออาจจะหลังจากนั้นไม่เกินเจ็ดวัน"ฉันไม่อยากกินข้าวแกก็บังคับ""แต่มันต้องกินไง!" น้ำตาที่เหือดแห้งไปกำลังจะไหลออกมาอีกระรอกเมื่ออีกคนกำลังทำท่าจะดุอีกครั้ง"แกขึ้นเสียงใส่ฉันอีกแล้วนะ""ก็มันต้องกินไง~" ภามกดเสียงให้ต่ำลง แล้วหยิบทิชชู่มาส่งให้ว
"พวกแกเล่นอะไรกัน!"ชายหนุ่มทั้งสองสะดุ้งตัวโหย่งแล้วหันมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย"ฉันไม่ตลกนะ โตแล้วยังเล่นกันเป็นเด็ก นี่พวกแกเอาความเป็นห่วงของฉันมาล้อเล่นแบบนี้หรอ""กูว่ายังไงก็ไม่รอด" เจเจหยิบที่อุดหูช่วยลดเสียงดังจากภายนอกส่งให้ภามพร้อมกับลุกขึ้นไปยืนใกล้ๆ"อย่ามาใกล้กู กูไม่เกี่ยว! เพื่อนเมนส์มามึงไม่รู้ซะตาแล้วไอ้เจ""ทั้งคู่เลย! มีอะไรไหนพูดมาสิ ทำไมต้องเล่นอะไรแบบนี้ด้วย แกรู้ไหมว่าฉันวิ่งมาไกลแค่ไหน จากตึกพี่โอบกับคณะเรามันไม่ได้ใกล้ๆเลยนะเว้ย""กูโดนไปด้วยเลยไอ้เจ" ภามอยากจะยกมือตบหัวเพื่อนที่ยืนข้างๆให้สั่นแต่ก็เกรงใจ"พักนี้พวกแกชอบทำตัวแปลกๆ เวลาฉันอยู่กับพี่โอบ แกก็ชอบไปตามฉันมา มันมีอะไรไหนพูดมาสิ ไอ้ภามพูดดิ" ภามยกนิ้วชี้ตัวเอง"กูหรอ? กูยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไอ้เจมันเป็นคนไปตามมา ทำไมไม่ถามมันอ่ะ" หน้าเจเจตอนนี้ซีดเผือดยิ่งกว่าคนป่วย ยืนหันซ้ายหันขวาเนื้อตัวเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข"ก็ตอนแรกมึงเป็นอ่ะ แล้วมึงก็หาย...""เจ๊!!" เจเจมองไปที่เจ้าของเสียงแล้วผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเสียงเด็กหนุ่มดังขึ้น"บอกว่าเดี๋ยวโอนให้ไง""ไม่ต้องแล้วเจ๊ พอดีผมได้งานพิเศษท
@ชายทะเลวันเวลาล่วงเลยมาจนถึงวันที่พวกเราสามคนต้องมาค่ายอาสา ตอนนี้เราอยู่กันที่ภาคใต้ ทะเลที่นี่เป็นหาดทรายสีขาวสะอาด น้ำทะเลสีฟ้าใสมองเห็นแนวปะการังน้ำตื่นชัดเจน เห็นแบบนี้แล้วใจฟูสุดๆการเดินทางจากกรุงเทพมาภูเก็ตใช้เวลายาวนานกว่า 12 ชั่วโมง ทางคณะมีรถบัสให้ แต่พวกเรามาไม่ทันเพราะดูเวลาล้อหมุนผิด ภามเลยใช้รถตัวเองในการเดินทางครั้งนี้แทนภามและเจเจสลับกันขับคนละสองสามชั่วโมง ทำให้ไม่เหนื่อยมากจนเกินไป แต่คนที่เหนื่อยคือฉันนี่แหละ กำลังจะเคลิ้มหลับก็โดนปลุกให้ตื่น ทำไมน่ะหรอ? ก็ไอ้เพื่อนตัวดีของฉันไงพอมันเป็นคนขับก็ให้ฉันนั่งหน้าช่วยดูจีพีเอส พอเปลี่ยนให้ไอ้เจไปขับก็ลากฉันไปนั่งข้างหลังด้วย อ้างว่ากลัวผี ถึงที่หมายก็เป็นเวลาเช้ามืด กลุ่มเรามาช้ากว่าเพื่อนประมาณชั่วโมงกว่าๆ ถึงปุ๊บก็แยกย้ายกันไปเช็คเอาท์และพักผ่อนนอนเอาแรงเพื่อมาทำกิจกรรมช่วงบ่าย"โอเค ทุกคนเอากระเป๋าไปเก็บเข้าที่พักมาเรียบร้อยแล้วใช่ไหม เก็บกุญแจและจำเบอร์ห้องให้ดีนะครับ อย่าเผลอเข้าห้องผิดกันล่ะน้องๆ" เสียงที่ป่าวประกาศอยู่ตอนนี้คือเสียงของรุ่นพี่ปีสี่ที่ชื่อ 'แทน' และที่สำคัญเขาก็เป็นประธานร
เสียงดนตรีสดประกอบกับเสียงคลื่นทะเลกระทบชายฝั่ง สร้างบรรยากาศสุดแสนจะผ่อนคลายให้กับกลุ่มวัยรุ่นในช่วงมหาลัยได้เป็นอย่างดี"เท้าเป็นยังไงบ้างครับน้องโย""ดีขึ้นแล้วค่ะพี่แทน แผลเล็กนิดเดียวเอง" วาโยตอบกลับรุ่นพี่แบบยิ้มๆ"ดีแล้วครับ ตอนแรกพี่ก็เป็นห่วงแทบแย่""คะ?""อย่าเพิ่งตกใจไปครับ พี่เป็นเพื่อนไอ้โอบ สนิทกันตอนไปซ้อมบาส มันเลยฝากให้พี่ช่วยดูแลน้องแทนมันหน่อย""อ๋อค่ะ""พอพี่ทักไปบอกว่าน้องโยบาดเจ็บ มันก็จะรีบตามมาเลยนะ แต่ติดตรงที่ว่า... คณะมันขึ้นไปอาสาบนดอย""ความจริงไม่ต้องบอกพี่โอบก็ได้ค่ะ โยไม่ได้เป็นอะไรมาก""ไม่ได้หรอกครับ เพราะเพื่อนพี่หวงน้องมาก ไม่งั้นคงไม่ฝากให้พี่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้หรอก""......" ฉันรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เหมือนพี่โอบไม่ไว้ใจฉันจนต้องส่งคนมาตามดู คุยกับพี่แทนได้ไม่นานเขาก็เดินกลับโต๊ะไปฉันละสายตาจากกลุ่มเพื่อนมองลงไปที่ทะเลในยามกลางคืนแล้วคิดบางอย่างในหัว ฉันเป็นแฟนแต่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่โอบขึ้นไปอาสาบนดอย แล้วเขาสนิทกับใครบ้างฉันก็ไม่รู้ หรือเป็นเพราะช่วงนี้เราคุยกันน้อยลง แต่รู้สึกว่าพักหลังมานี้พี่โอบชอบทำตัวแปลกๆ ชอบถึงเนื้อถึงตัวฉันอยู่
@เช้าวันต่อมา...เมื่อคืนหลังออกมาจากห้องน้ำ ภามก็กลับมานอนที่เดิม นอนมองคนข้างกายอยู่นานจนไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตอนไหน จนกระทั่งรุ่งขึ้นที่ทั้งคู่นอนกอดกันกลมยิ่งกว่าคู่รักข้าวใหม่ปลามัน"อื้อ~" วาโยขยับตัวเล็กน้อย ภามเลยกระชับกอดให้แน่นกว่าเดิมแล้วก้มลงหอมหัวทั้งที่เปลือกตายังคงปิดสนิท"อื้อ!" เป็นอีกครั้งที่วาโยงัวเงียรู้สึกอึดอัดจากแรงกอด จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองหาสาเหตุ ตาที่สะลึมสะลือรีบเบิกกว้างทันที จมูกหยุดหายใจไปชั่วขณะ เมื่อสัมผัสถึงความอุ่นและเสียงเต้นตุบๆของหัวใจที่อยู่ใกล้หู และจุดที่ตาโฟกัสคือหัวนมชมพูสีคุ้นตา อย่าบอกนะว่า..."ไอ้ภาม..." วาโยรีบเงยหน้ามองเจ้าของอ้อมกอดแล้วยกมือปิดปากพูดอย่างตกใจ นี่เธออยู่ในอ้อมกอดของเพื่อนสนิทอย่างนั้นหรอ มองดูรอบๆก็รู้ว่านี่ไม่ใช่ห้องพักของตัวเอง เพราะไม่มีกระเป๋าเดินทางของเธออยู่ในนี้แล้วเมื่อคืนเกิดอะไร เธอมาอยู่ที่นี่ได้ไง พยายามนึกประมวลผลเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก จำได้แค่ว่า... เธอฝัน ฝันว่ามีอะไรกับภาม ทั้งกอด ทั้งจูบ ทั้งนัวเนียกันอยู่บนเตียงที่คอนโดซึ่งในฝันไม่ใช่ที่นี่อย่าบอกนะว่า...ฝันเป็นจริง ! วาโยรีบเปิดผ้าห่มดูเสื้อผ้าท
วาโยใช้จังหวะที่ภามอยู่ในห้องน้ำ เดินออกไปจากห้องเงียบๆทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอเปิดประตูออกมาก็เจอกับเพื่อนอีกคน เจเจเลยยื่นคีย์การ์ดคืนวาโย และยอมรับว่าเป็นคนสลับไป เธอเลยเคลียร์กับความคิดตัวเองที่ว่า...เข้าห้องภามไปได้ยังไง ตอนนี้เธอเข้าใจทุกอย่างแล้ว ทว่าเจเจกลับไม่ได้รู้สึกผิดอะไรที่ทำแบบนั้น เพราะไม่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง คิดว่าทั้งคู่แค่นอนหลับไปเฉยๆ อยู่คอนโดเดียวกันมาตั้งนาน นอนห้องเดียวกันแค่คืนเดียวคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้งและนี่คือความคิดของเจเจ -_-* หลังจากอาบน้ำเสร็จ วาโยก็เดินออกมาสูดอากาศริมหาดให้ผ่อนคลายจะได้ไม่ต้องคิดถึงเรื่องเมื่อคืนให้รู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาอีก"วาโย" เธอหันไปตามเสียงของคนเรียกชื่อแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย จู่ๆก็มีแขกโผล่มาแบบไม่ได้รับเชิญ"อ้าวพี่โอบ มาได้ยังไงคะ" "พี่มารับโยกลับไปทำธุระด้วยกันครับ แล้วนี่เท้าเราเป็นยังไงบ้าง" โอบละสายตาจากใบหน้าสวย มองลงหาแผลที่ได้รับบาดเจ็บ"เท้า...อ๋อ หายแล้วค่ะ ว่าแต่พี่โอบจะมารับโยไปไหนหรอคะ" มัวแต่คิดเรื่องเพื่อนสนิท จนลืมไปเลยว่าตัวเองเท้าเจ็บ"โยจำป้าพรที่พี่เคยเล่าให้ฟังได้ไหม""จำได้ค่
หลายปีต่อมา... ตอนนี้ลูกสาวตัวน้อยอดนมแม่อย่างเป็นทางการแล้ว ก็เหลือแต่ตัวพ่อเนี่ยแหละที่ร้องขอกินนมก่อนนอนเกือบทุกคืน ไหนใครบอกว่าแต่งงานอยู่ด้วยกันนานๆแล้วผัวจะเบื่อ แต่นี่ไม่เลย... รู้สึกว่าภามรักและหลงเธอมากกว่าเดิมเสียอีก ถึงบางวันทั้งคู่จะไม่ได้ทำรัก เขาก็ขอแค่ได้กอดได้หอมเมียให้ชื่นใจก่อนไปทำงานแค่นี้เขาก็มีความสุขมากแล้ววันนี้เป็นวันที่หมอนัดสาวน้อยอย่างวรินทร์มารับวัคซีนครบสี่ขวบที่โรงพยาบาล แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่วาโยเจอรุ่นพี่อย่างแทนที่เคยเรียนร่วมคณะเดียวกันสมัยมหาลัย"น้องวาโยนี่เองพี่ก็คิดว่าใคร^_^" "พี่แทน มาหาหมอหรอคะ""ครับ พี่พา เอ่อ... พาน้องสาวมาฝากครรภ์ ว่าแต่เรามาทำอะไรที่แผนกเด็กเล็กหรอครับ?""โยพาลูกสาวมาฉีดวัคซีนค่ะ""อ้าว นี่เรามีลูกแล้วหรอ แล้วไหนล่ะสามี? ทำไมถึงไม่มาด้วย ปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล็กๆมากับลูกสาวตามลำพังแบบนี้ได้ยังไงกัน ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย" "เขามาด้วยนะคะพี่แทน..." แทนแกล้งชะเง้อคอมองข้ามผ่านคนตัวเล็กไปทางด้านหลังก็ไม่เจอใคร วาโยเลยหันมองข้างๆที่มีภามยืนอยู่ แล้วทำหน้างงๆว่าพี่แทนไม่เห็นภามจริงๆหรอ หรือเขาแค่แกล้งเล่น? วรินทร
@หนึ่งปีต่อมา...ตอนนี้วาโยคลอดลูกสาวได้สี่เดือนแล้ว และเดือนนี้ก็เป็นเดือนสุดท้ายในการสอบปลายภาคสำหรับนักศึกษาปีสี่ ทั้งภามและวาโยเลยต้องเรียนหนักเป็นพิเศษ แต่หน้าที่เลี้ยงลูกส่วนใหญ่จะเป็นคุณพ่อลูกอ่อนอย่างภาม เขาอยากให้วาโยโฟกัสกับเรื่องเรียนให้เต็มที่ ไม่ต้องห่วงวรินทร์เดี๋ยวเขาจะดูแลให้เองอย่างเช่นวันนี้คนที่เลี้ยงลูกอยู่ในห้องก็เป็นภาม ส่วนวาโยเธอออกมานั่งเรียนอยู่โซนด้านนอกกับอาจารย์ที่แม่สามีจ้างมาสอนพิเศษให้ถึงเพนท์เฮาส์ แต่ทว่า! นั่งเรียนยังไม่ถึงชั่วโมงภามก็เดินออกมาตามด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ เพราะเขาเห็นอาจารย์ที่มาสอนวาโยวันนี้ไม่ใช่คนเดิม"โย ลูกร้องหิวนม เข้าไปดูลูกในห้องหน่อย" "ตอนนี้เลยหรอ แต่ฉันยังเรียนไม่จบครอสเลยนะ" ปกติภามไม่เคยปล่อยให้ลูกร้องนี่นา นมก็ปั๊มไว้ให้ตั้งเยอะมาบอกว่าลูกร้องหิวนมได้ยังไง ไม่ใช่ว่าวาโยไม่เป็นห่วงลูกนะ แต่ปัญหาแค่นี้เธอเชื่อว่าภามจัดการได้สบายอยู่แล้ว"นมที่ปั๊มแช่ไว้ในตู้เย็นละลายไม่ทัน""อ๋อ โอเค..." ที่แท้ก็นมละลายไม่ทันนี่เอง วาโยเลยละสายตาจากภามหันกลับมามองอาจารย์ก่อนจะพูดต่อ "งั้นเดี๋ยวโยขอเข้าไป
หลังจากที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันเรื่องสินสอดเรียบร้อยแล้วก็พากันกลับบ้านไปดูฤกษ์ วาโยเลยขอกลับมาอยู่คอนโดก่อน รอจนกว่าจะแต่งงานแล้วค่อยย้ายไปอยู่เพนท์เฮาส์ที่ภามซื้อให้ และเธอมองว่ามันไม่ใช่ของเธอแต่เพียงผู้เดียว แต่เป็นเรือนหอของเราสองคนต่างหาก'โยจำคำแม่ไว้นะลูก... ผู้ชายร้อยทั้งร้อยแพ้ผู้หญิงขี้อ้อน หมั่นเอาใจลูกเขยแม่ให้มากๆ อย่าปล่อยให้ผู้ชายดีๆแบบภามหลุดมือไปเด็ดขาด'วาโยหวนนึกถึงคำพูดของแม่แล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ฮึบ!เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน อ้อนแฟนตัวเองไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสักหน่อย พอคิดได้ดังนั้นวาโยก็เดินมาหาภามที่นั่งอยู่บนโซฟา ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งบนตักของแฟนหนุ่มจนเขาต้องวางไอแพดในมือลงข้างตัวแล้วยกมือมาโอบเอวเธอไว้แทน"แกดูอะไรอยู่หรอ" "ดูแพ็คเกจคลอดลูก กินข้าวอิ่มแล้วหรือไง" ความจริงทั้งคู่กินข้าวด้วยกันไปแล้วรอบนึง แต่ผ่านมายังไม่ถึงชั่วโมงวาโยก็ร้องหิวอีก ภามเลยทำให้กินอีกรอบ ส่วนตัวเขาก็มานั่งดูโปรแกรมคลอดลูกรอเธอไปพลางๆ"อิ่มแล้ว..." "แล้วทำไมยังไม่ไปอาบน้ำอีก""รอแฟนไปอาบให้""ฮึ?""ก็ช่วงนี้ฉันหน้ามืดบ่อยๆ กลัวตัวเองจะเป็นลมในห้องน้ำ แกอาบให้ฉันหน่อ
"อย่าเพิ่งเป็นลม เพราะยังไม่หมดแค่นั้น""ยังมีอีกหรอ!?" แค่นี้เธอก็จะเป็นลมอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรที่เซอร์ไพรส์มากกว่านี้อีกมีหวังได้วูบไปจริงๆแน่"...." ภามที่ยืนช้อนหลังวาโยอยู่ในตอนนี้สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีออกมาใช้ ก่อนจะสอดมือล้วงกระเป๋าหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงขึ้นมายื่นไปด้านหน้าของวาโยแล้วเปิดกล่องดังป๊อก! โชว์แหวนเพชรน้ำดีด้านในให้คนตัวเล็กที่ตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ได้เห็น"อะ อะไรของแกเนี่ยO_O" "แต่งงานกันนะโย..." วาโยมองแหวนเพชรเม็ดโตในกล่องที่มีความเปล่งประกายวิบวับสวยงามเล่นกับแสงไฟภายในห้องอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ถึงจะแอบหวังให้เขาขอแต่งงานแต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆทำให้เธอตั้งตัวรับไม่ทัน เธอมองแหวนในกล่องอีกครั้งก่อนที่ภาพจะตัดไปราวกับมีคนมาสับสวิตซ์ พรึ่บ! "เห้ย! โย ทุกคน! เมียผมเป็นลม" ภามรีบย่อตัวลงอุ้มคนตัวเล็กที่หมดสติขึ้นทันที แล้วภาพก็ตัดมาทางฝั่งของอาโป... "จะปล่อยฉันไปได้รึยัง" นี่เป็นคำถามที่ร้อยของวันนี้ที่นิเนยเอ่ยถามอาโป เขาเล่นขังเธอไว้ในห้องกับเขาตั้งแต่จับตัวเธอมาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมปล่อยตัวเธอไป"จะให้ผมปล่อยป
อึก! อ้วก~"โย!" ภามลืมตาตื่นจากฝันดียังไม่ทันถึงเสี้ยววิ ก็รีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงวิ่งตรงไปหาเสียงโอ้กอ้ากในห้องน้ำทันที พอเข้ามาถึงเขาก็เร่งฝีเท้าเดินเข้าไปช่วยลูบหลังให้วาโยที่นั่งกอดโถส้วมอ้วกอยู่อย่างหมดสภาพด้วยความเป็นห่วง "ไหวมั้ย""ฉันไหว อ้วก~" วาโยชูนิ้วโอเคตอบกลับมาทั้งที่ยังก้มหน้าอ้วกไม่หยุด"ตัวแสบทำไมแกล้งแม่แต่เช้าเลย ถ้าคลอดออกมาเมื่อไหร่พ่อจะตีให้" มาโหมดดุลูกซะแล้วเมื่อเห็นเมียอ้วกจนเหนื่อย"ดุแค่ฉันก็พอ เว้นลูกไว้คนนึง" วาโยอ้วกเสร็จก็หันมายิ้มหวานให้ภาม เชิงบอกเป็นนัยๆว่าแค่นี้เองสบายมาก "หึ ลูกคงดื้อเหมือนแม่สินะ" พูดจบภามก็ช้อนตัวอุ้มวาโยมานั่งที่ขอบอ่างอาบน้ำ เปิดน้ำจากฝักบัวใส่มือแล้วเอามาลูบหน้าให้วาโย แต่ทว่า! สายตาเขาดันเกเรไม่ได้มองแค่หน้าสวยๆของเธอ แต่ดันมองต่ำลงไปกว่านั้นอีก...เนินหน้าอกขาวๆที่ล้นออกมาจากชุดนอนสุดวาบหวิวที่เธอแอบลุกขึ้นไปใส่มาเมื่อคืน มันชวนมองซะจนภามลอบกลืนน้ำลายลงคอดัง อึก!ยิ่งเปียกน้ำยิ่งเห็นไปถึงไหนต่อไหน... "จะมองอีกนานไหม" เสียงหวานเอ่ยขึ้นทำให้ภามเลื่อนสายตากลับมามองหน้าเธอก่อนจะเอื้อมมือไปปิดน้ำแล้วเก็บฝักบัวเข้าที่ "
พอมาถึงโรงพยาบาลภามก็ขอรถเข็นมาให้ฉันนั่งแล้วเข็นฉันเข้าห้องตรวจ แต่พอเจอหมอผู้ชายก็บอกว่าไม่สะดวกใจเลยต้องเปลี่ยนมาเป็นหมอผู้หญิงแทน และคิดว่าเรื่องจะจบ แต่ไม่เลย ภามไม่ยอมให้อัลตร้าซาวด์ผ่านช่องคลอดบอกว่ากลัวโดนหัวลูก ให้ตายเถอะ! หมอเลยต้องอธิบายหลักการทั้งหมดที่มีให้คุณพ่อมือใหม่ได้ฟังกว่าจะยอมได้หมอถึงกับยกมือกุมขมับ... ผลตรวจเลือดออกมาว่าฉันท้องจริงๆ และอัลตร้าซาวด์เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ลูกในท้องยังเล็กมากขนาดเท่ากับเมล็ดถั่ว อายุครรภ์แค่ 6 สัปดาห์ถือว่าโตตามเกณฑ์ พอหมอบอกว่าแข็งแรงทั้งแม่และลูก เท่านั้นแหละ! ผู้เป็นพ่อก็ยิ้มออกมาไม่หุบ ดีใจยิ่งกว่าฉันที่เป็นแม่เสียอีกหาหมอเสร็จภามก็พาฉันไปช็อปปิ้งต่อ ขนาดท้องฉันแบนราบจนแทบจะมองไม่ออกด้วยซ้ำแต่เขาก็ยังซื้อชุดคลุมท้องให้ บอกว่าในอนาคตก็ต้องใช้ ตอนแรกจะซื้อของลูกมาด้วยนะ ฉันเลยห้ามไว้ก่อนบอกเขาว่ารอรู้เพศก่อนค่อยซื้อก็ได้ พอกลับมาถึงคอนโดก็ยังไม่วายนั่งดูรูปอัลตร้าซาวด์แล้วยิ้มอยู่คนเดียวไม่ค่อยจะเห่อเท่าไหร่เลย...อ๋อ! ยังมีอีกเรื่องที่หมอย้ำ คือช่วงนี้ให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนจนกว่าอายุครรภ์จะครบ 3 เดือนขึ
อยู่ไม่ได้แล้วโว๊ย... ฉันรีบหมุนตัววิ่งหนีเข้าห้องทันที ขอโทษนะนิเนยเรื่องแกคงไม่น่าตกใจเท่าเรื่องฉันตอนนี้หรอก ดูแลตัวเองไปก่อนแล้วกัน ตอนนี้ฉันก็ลำบากไม่ต่างจากแก"จะหนีไปไหน" ภามวิ่งตามมาดันประตูไว้ไม่ให้ปิด"แกเอามือออกจากประตูเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันปิดประตูหนีบนิ้วแกแน่" เขาไม่ยอม ฉันก็ไม่ยอม เลยเกิดการยื้อแย่งประตูกันเกิดขึ้น จนในที่สุดภามก็ผลักประตูเข้ามาได้จนสำเร็จ ฉันที่กำลังจะวิ่งหนีเข้าห้องน้ำก็โดนเขาล็อคตัวไว้แบบหลวมๆ"บอกให้เอาไอ้นี่ไปตรวจ""ไม่! ฉันไม่ตรวจ" ฉันดิ้นจนหลุดออกจากวงแขนแกร่งแล้วหันไปจ้องหน้าภามอย่างเอาเรื่อง"จะดื้อให้ได้อะไรขึ้นมาโย ตอนนี้อาจจะท้องอยู่ก็ได้ ไม่สังเกตุตัวเองบ้างเลยรึไง" ไม่ใช่ว่าฉันไม่สังเกตุตัวเอง แต่แค่ตอนนี้ยังไม่อยากยอมรับความจริงก็เท่านั้น ถ้าตรวจแล้วผลออกมาว่าฉันท้องขึ้นมาจริงๆจะทำยังไง"จะบ้าหรอ ฉันจะท้องได้ยังไงแกเอาอะไรมาพูด""ทำไมจะท้องไม่ได้ ผัวก็ยืนหัวโด่อยู่นี่ทั้งคน ลืมไปแล้วหรือไงว่าตัวเองมีผัว หรือต้องให้ลื้อฟื้นความทรงจำก่อนตรวจ?""ไม่ต้อง ถอยออกไปเลยนะ!" ฉันยกมือดันแผงอกคนที่โน้มตัวเข้ามาหา ภามเท้าแขนสองข้างลงกับโต๊
"....." มือที่เคยถือยาดมค้างอยู่กลางอากาศ สมองเริ่มอื้ออึง ตามองตรงไม่มีจุดโฟกัส รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ภามส่งมือมาลูบท้องฉันผ่านชุดเดรสแล้ว "สรุปประจำเดือนไม่มาใช่ไหม? หรือว่าท้อ... ""มาแล้ว!" ฉันตอบออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่เป็นก็ตาม แต่ประจำเดือนฉันอาจจะคาดเคลื่อนก็ได้ ใครจะไปรู้ ถ้ายังไม่ถึงสิ้นเดือนอย่าเพิ่งด่วนตัดสิน ขอปลอบใจตัวเองไปก่อนแล้วกัน... "จะบอกว่าตอนนี้เป็นประจำเดือนอยู่หรือยังไง?""...." ฉันพยักหน้า"เป็นตอนไหนแล้วทำไมไม่รู้? ไม่เห็นปวดท้องร้องกินของหวานเลย เห็นนั่งกินแต่มะม่วงเปรี้ยว ไหนจะอ้วก ไหนจะเป็นลม แถมนมยังใหญ่ขึ้นขนาดนี้ ต้องท้องแน่ๆ ป่ะ! ไปโรงพยาบาลกัน ลองให้หมอตรวจดู" หมับ! ภามจับมือฉันตั้งท่าเตรียมลุกแต่ฉันชักมือกลับแล้วดึงเขาให้นั่งลงแบบเดิม ฉันไม่อยากไปโรงพยาบาลเพราะกลัวเจอความจริงแล้วรับไม่ได้เราสองคนอยู่ปีสาม เพิ่งสอบปลายภาคเสร็จยังไม่ถึงอาทิตย์ ซึ่งเหลือเวลาอีกเป็นปีกว่าจะจบมหาลัย ฉันจะมาท้องตอนนี้ได้ยังไง ไม่ได้เด็ดขาด ที่บ้านคงผิดหวังในตัวเราสองคนมาก ฉันทำงานเสริมเขียนนิยายขายอยู่บ้างแต่รายได้ก็น้อยนิด จะ
@วันต่อมา...Talk : ภามคิดถึงเมีย...นี่เป็นคำที่อยู่ในหัวผมตั้งแต่เมื่อวานเย็นจนถึงตอนนี้ ผมรู้สึกว่าเวลาเมื่อคืนมันยาวนานกว่าคืนไหนๆ กว่าจะข่มตาหลับได้ก็เกือบเช้า และใช่! ผมนอนกอดเสื้อแทนกอดวาโย คิดแล้วก็เศร้า ขนาดตอนนี้ผมยังนั่งมองประตูห้องนอนของวาโยด้วยสายตาละห้อย แล้วถามกับตัวเองซ้ำๆว่าเมื่อไหร่เธอจะตื่นสักที คิดถึงไม่ไหวแล้วโว๊ยยยย!! อยากเห็นหน้าจะตายห่าแล้วเนี่ย... แกร๊ก! สิ้นสุดการรอคอย เพราะ 'แฟน' ของผมได้เปิดประตูออกมาแล้ว แต่ผมต้องคีพลุคนิ่งไว้ก่อน เดี๋ยวเธอจะมาหาว่าผมคลั่งรักอีก -_-*ผมมองวาโยด้วยสายตาราบเรียบไม่บอกความรู้สึก เธอเดินออกมาด้วยชุดเดรสสีขาวสายเดี่ยวปาดไหล่กระโปรงสั้นเลยเข่าขึ้นไปสองนิ้ว น่ารักดีแต่ผมแอบหงุดหงิดตรงที่ชุดดันโชว์เนินหน้าอกขาวๆของเธอเนี่ยแหละ ถึงเพื่อนเธอจะเป็นผู้หญิงแต่ผมก็อดหวงไม่ได้ผมมองสำรวจชุดไปเลื่อยๆจนสบสายตาเข้ากับวาโยทำให้ผมตกใจ เลยละสายตาจากเธอหันไปมองจอ ทำเหมือนว่าออกมานั่งดูทีวีเฉยๆ ไม่ได้ออกมานั่งรอใครทั้งนั้น"ทำไมแกตื่นเช้าจังเพิ่งเจ็ดโมงครึ่งเองนะ วันนี้ไม่มีเรียนไม่ใช่หรอ" วาโยเห็นผมไม่ตอบเลยเดินเข้ามาใกล้