เรื่องเงินสินะ ที่ทำให้ลูกสาวของเปี่ยมเดินทางข้ามจังหวัดมาหาเขาถึงที่ไร่ เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา
จะยืมหลักแสนหลักล้านก็ย่อมได้
“ม่านมาขอยืมเงินอาธรรศค่ะ” เห็นธรรศเงียบม่านมุกก็ตัดสินใจบอกเขาไปตรง ๆเชื่อว่าธรรศเองก็คงไม่ใจร้ายใจดำ เขาเป็นเพื่อนพ่อ แม้ตอนนี้พ่อจะลาโลกไปนับสิบปี ทว่าความเป็นเพื่อนก็น่าจะหลงเหลืออยู่
“หนูม่านอยากได้เท่าไหร่ ?”
“1 ล้านค่ะ” จากที่ปรึกษาคุณหมอแจ้งว่ายานอกที่ใช้รักษาเข็มละหนึ่งแสนบาท การรักษาด้วยยานอกครั้งแรกต้องใช้หกเข็ม แต่ที่เอ่ยปากขอยืมธรรศเป็นจำนวนหนึ่งล้านเพราะเธอเองก็ยังไม่รู้ว่าการรักษาจะด้วยจบยากี่เข็ม
ธรรศรับรู้ด้วยใบหน้านิ่ง ๆหลังจากที่เปี่ยมเสีย ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอครอบครัวของเพื่อนก็ตอนที่ไปร่วมไว้อาลัยงานศพ ตอนนั้นม่านมุกยังอายุสิบกว่าขวบ ยังเป็นเด็กถักผมเปียทั้งสองข้าง แต่เค้าโครงความสวยก็มีมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย พอโตเป็นสาวสะพรั่ง ความงดงามก็ปรากฏชัดเจนขึ้น
“ม่านประกาศขายบ้านอยู่ ถ้าขายได้แล้ว ม่านจะรีบเอาเงินมาคืนอาธรรศค่ะ” กว่าจะกล่อมแม่ให้ยอมขายสมบัติเพื่อแลกกับเงินมารักษาตัวได้ ม่านมุกก็ต้องพยายามอยู่นาน ตอนนี้บ้านเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่และอีกไม่นานก็คงขายได้เหมือนสมบัติชิ้นอื่น
“แล้วถ้าเกิดขายบ้านไม่ได้ หนูม่านจะหาเงินที่ไหนมาใช้คืนให้อาล่ะ ?” เขาไม่คิดอยากได้เงินคืน แต่อยากรู้ว่าเด็กน้อยจะแก้ปัญหาด้วยวิธีไหน เงินหนึ่งล้านสำหรับคนที่กำลังเดือดร้อน ไม่ใช่จำนวนน้อยที่จะหามาใช้คืนได้ง่าย ๆ
“อาธรรศทำสัญญากู้ยืมได้ไหมคะ คิดดอกเบี้ยม่านก็ได้ ถ้าขายบ้านไม่ได้ ม่านอยากขอผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนจนกว่าหนี้จะหมดค่ะ” ถ้าธรรศจะกรุณาทำเป็นสัญญากู้ยืมและให้ผ่อนชำระเดือนไม่กี่หลักพันบาท ม่านมุกก็คิดว่าตัวเองน่าจะพอหาเงินมาใช้คืนให้เขาได้ในแต่ละเดือน
“เงินตั้งหนึ่งล้าน กี่ปีหนูม่านจะใช้อาหมด”
พอเห็นสีหน้าคิดหนักของเด็กสาว ริมฝีปากหยักที่มีสีคล้ำนิดก็ยกโค้งก่อนจะขีดเป็นเส้นตรงเมื่อคนที่จับตาอยู่เงยหน้าช้อนตาขึ้นสบกับดวงตาของเขา
“ม่านก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ม่านคงหาเงินมาคืนอาธรรศได้หลักพันต่อเดือน”
พูดเสียงอ่อน สารภาพไปตามจริง ลำพังต้องดูแลแม่ก็แทบไม่มีเวลาได้ออกไปหางานทำนอกบ้านแล้ว ทุกวันนี้ที่ยังพอมีเงินเข้ามาเล็ก ๆน้อย ๆ หลักหมื่นต้น ๆต่อเดือนก็เพราะทำกับข้าวขายให้กับคนในหมู่บ้าน
“เอาอย่างนี้ดีไหมล่ะ ?” ธรรศหยิบบุหรี่ออกมาจากซองหนึ่งมวนแล้วจุดไฟ คีบขึ้นมาดูดพร้อมกับลุกเดินไปที่หน้าต่าง มองสายฝนที่กำลังตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา พ่นควันสีเทาโขมงลอยไปกับสายลม “เรื่องค่ารักษาแม่ อาจะรับผิดชอบเอง”
ม่านมุกที่นั่งหันหน้าไปทางด้านหลังของเจ้าของบ้าน ย่นหัวคิ้วนิดพลางมองร่างสูงใหญ่ที่อายุย่างเข้าสี่สิบปี ทว่ายังดูหนุ่มเกินวัย
“แต่อามีข้อแลกเปลี่ยน” พ่นควันบุหรี่พร้อมโยนบุหรี่ทิ้ง เหลียวหน้ามาหาเด็กสาวอย่างเนิบช้าพร้อมด้วยแววตาที่ทำเอาคนถูกมองใจสั่นสะท้าน ขนลุกวาบไปทั่วกาย ลมหายใจติดขัดอย่างฉับพลัน “เงินค่ารักษาแม่แลกกับ
หนูม่าน”“อาธรรศหมายความว่ายังไงคะ ?”
กว่าม่านมุกจะหาเสียงของตัวเองเจอ ธรรศก็เดินเข้ามายืนค้ำหัว กายหนาโน้มตัวลง ยื่นหน้าเข้าใกล้ดวงหน้าสวยหวานที่บัดนี้ฉายแววตกตะลึง
“เป็นของอาแล้วอาจะให้หนูม่านทุกอย่าง”
ขณะที่นัยน์ตาคู่งามยังประสานกับดวงตาสีนิล ม่านมุกกับรู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วรัวจนคล้ายกับว่าธรรศเองก็เหมือนจะรู้ว่าเธอกำลังกลัวเขา
“ต้องนอนกับอาธรรศเท่านั้นใช่ไหมคะ ม่านถึงจะได้เงิน” ถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความน้อยใจในโชคชะตาและผิดหวังในตัวของอาหนุ่มตรงหน้า
ธรรศที่พ่อเคยบอกว่าเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่พ่อรักและไว้ใจที่สุด เพื่อนรุ่นน้องที่พ่อบอกว่าเขาเป็นคนดี เป็นคนมีความรับผิดชอบ แต่คนที่พ่อเคยยกย่องกำลังอยากได้พรหมจรรย์ของเธอเพื่อมาเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับเงินที่ต้องใช้รักษาแม่
“หนูม่านจะได้ทุกอย่างจากอา”
“ตกลงค่ะ ม่านจะนอนกับอาธรรศ”
ธรรศจ้องลึกไปในดวงตาคู่งามที่ปรากฏแววสั่นระริก ม่านมุกคงกำลังคิดว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ที่เห็นแก่ตัว ถือโอกาสเอาเปรียบคนที่กำลังไร้หนทาง เอาความเป็นความตายมาเป็นข้อบังคับ
...แต่สักวันหนึ่ง
เด็กสาวจะรู้เองว่าเพราะอะไรเขาถึงทำแบบนี้
“อาบน้ำก่อนไหม หนูม่านจะได้สบายตัว”คนที่นั่งนิ่งอยู่ที่ปลายเตียงสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงทุ้มนุ่มดังมาจากด้านหลังหลังจากที่ตกลงกับธรรศว่าจะเป็นของเขาเพื่อแลกกับค่ารักษาของแม่ ม่านมุกก็ต้องค้างคืนอยู่ที่บ้านไม้สักที่อยู่กลางไร่องุ่น เพราะรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นในไม่ช้านี้ ม่านมุกก็ตกอยู่ในอาการหวั่นวิตก คิดไปต่าง ๆนานาเธอกลัวธรรศกลัวที่จะต้องทำเรื่องอย่างว่ากับเขา“กลัวอาเหรอ ?” ธรรศเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วชวนให้อบอุ่นใจ ทว่านัยน์ตาของเขาก็ยังปรากฏความกระสันอยากในตัวของเด็กสาวอย่างชัดเจน “อาไม่ใจร้ายกับหนูม่านหรอก อาใจดี”เสียงระบายลมหายใจของม่านมุกทำเอาแววตาของธรรศมีแววขบขัน คงกำลังแย้งกับคำพูดของเขาอยู่สินะ“ถ้ายังไม่เคยอาจะนุ่มนวลกับหนูม่าน แต่ถ้าเคยแล้วอาจะทำให้หนูม่านลืมผู้ชายทุกคนที่ผ่านมา”ม่านมุกลอบกลืนน้ำลาย อย่าว่าแต่ผ่านการมีเซ็กส์เลย แค่มีแฟนก็ยังไม่เคยมีสักคน ตั้งแต่ที่พ่อเสียไปเมื่อสิบปีก่อน เธอก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียน เป็นเด็กดีของแม่ พอเรียนอยู่มหา’ลัยปีสอง แม่ก็ป่วยเป็นโรคร้าย ม่านมุกไม่มีเวลาไปสนใจใครทั้งนั้น แค่ต้องดูแลแม่ ต้องเป็นเสาหลักของบ้านก็เหนื่อยจนส
“แค่ลิ้นกับนิ้วอา หนูม่านไม่ท้องหรอก”บอกพลางกรีดปลายนิ้วลงบนรอยแยกปิดมิดชิด รับรู้ได้ถึงอาการสั่นระรัวของเด็กสาวกลีบเนื้อนุ่มผลิแยกก่อนที่เม็ดกระสันจะโผล่มาให้ยลโฉม ธรรศใช้ปลายนิ้วบดบี้แผ่วเบา กระตุ้นความอยากในกายสาวให้ลุกโชน ได้ผล...คนที่นอนแข็งเหมือนหิน ขยับสะโพก พยายามที่จะหุบขาทั้งสองข้างเข้าหากัน“ให้อาชิมหนูม่าน” ไม่ว่าเปล่า ธรรศโน้มใบหน้าเข้าใกล้ดอกไม้งามสีชมพูระเรื่อ ความสด ความสะอาดเรียกร้องให้ชายหนุ่มวัยกลัดมันเกิดความซาบซ่านกระสันจนส่วนนั้นแข็งจัดอยู่ภายใต้กางเกงยีนสีเข้ม“อาธรรศ” ม่านมุกกัดริมฝีปากล่างจนรู้สึกเจ็บพร้อมจิกเล็บลงบนผ้าปูที่นอน หายใจเร็วแรงจนหน้าอกกระเพื่อมเมื่อท้องลิ้นสากแนบลงบนเม็ดกระสันที่อยู่ตรงกลางกายสาวเสียงปาดเลีย ดูดดึงทำเอาใจคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์เตลิดจนเผลอเกร็งเท้าเล็กทั้งสองข้าง มือที่ขยุ้มผ้าปูเลื่อนมาจับผมสั้นดกดำจังหวะที่ธรรศกระดกปลายลิ้นขึ้นลง ม่านมุกก็แอ่นสะโพกรับอย่างลืมตัวเสียว...ใจแทบขาดในช่องท้องเกิดความปั่นป่วนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จะว่าดีก็ไม่ จะว่าร้ายก็ไม่ใช่อีกธรรศกำลังทำให้เธอทรมานความกระสันซ่านมันพุ่งเป้าไปที่จุดเดียว.
“คืนนี้ค้างที่นี่ พรุ่งนี้ค่อยกลับ”กายหนาผละออกห่างก่อนจะดึงเด็กสาวให้ลุกขึ้นมานั่ง ไม่ทันที่ม่านมุกจะดึงชายกระโปรงชุดเดรสลง ธรรศก็ชิงทำให้ก่อน อาหนุ่มช้อนตาขึ้นสบกับดวงตาสั่นระริกของเด็กสาวด้วยความรู้สึกหวามไหว นับแต่นี้ไปม่านมุกเป็นของเขาพอถูกอีกฝ่ายมอง ม่านมุกก็ตกอยู่ในอาการประหม่า ยิ่งธรรศแลบลิ้นเลียที่ริมฝีปาก ใจสาวก็ยิ่งหวั่นไหวเขาเจ้าเล่ห์และแพรวพราวนัก รู้ว่าเธออายก็ยังทำกิริยาตอกย้ำให้รู้สึกอายหนักขึ้นอีก“หนูม่านไปอาบน้ำเถอะ เสื้อผ้าอาอยู่ในตู้ อยากใส่ตัวไหนก็หยิบมาใส่ได้เลย” ฝ่ามืออุ่นร้อนยกแนบลงกับพวงแก้มสีชมพูระเรื่อ จากนั้นกายกำยำก็ลุกขึ้นเต็มความสูงแต่ดวงตาดำขลับยังจับอยู่ที่ดวงหน้าแฉล้ม “อามีงานต้องทำ เดี๋ยวอากลับมา”เมื่อเจ้าของห้องออกไปจากห้องแล้ว ม่านมุกก็ระบายความรู้สึกประหม่าและอึดอัดออกมาผ่านลมหายใจอุ่นร้อนเธอบ้าไปแล้วแน่ ๆที่กล้าเอาตัวเข้าแลกแม่…เพราะอยากให้คนที่รักมากที่สุดในชีวิตได้มีโอกาสมีลมหายใจอยู่บนโลกใบนี้ ต่อให้ต้องเอาชีวิตเข้าแลก…เธอก็ยอมอย่างน้อย ธรรศก็ไม่ได้หยาบโลน ไม่เห็นแก่ตัวนอนกับเธอโดยที่ไม่มีถุงยางอนามัยถ้าต้องเสียก็จะไม่ยอมเสียแต่ฝ่าย
คนที่นอนหลับยาวตั้งแต่เมื่อคืนรู้สึกตัวตื่นเพราะมีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ทางด้านหลัง ดวงตาคู่งามเผยอขึ้น กะพริบตาเมื่อต้องกับแสงพระอาทิตย์ในยามเช้าเนื้อตัวอุ่นร้อนกำยำที่แนบอยู่ด้านหลังเรียกความสนใจให้คนที่เพิ่งตื่นเอี้ยวตัวแล้วเอียงใบหน้าไปมอง “อาธรรศ”ปลายจมูกโด่งเล็กจนเข้ากับปลายจมูกโด่งงุ้มของคนที่นอนซ้อนอยู่ข้างหลัง ยังไม่ทันที่ม่านมุกจะเอื้อนเอ่ยคำพูด ธรรศที่รอจังหวะอยู่แล้วก็พลิกตัวขึ้นคร่อมเด็กสาวไว้ม่านมุกจับตาอยู่กับใบหน้าคมเข้ม จากนั้นเลื่อนต่ำจนเห็นว่าธรรศไม่ได้ใส่เสื้อนอนก่อนจะอ้าปากค้าง หลุดทำหน้าตื่นตระหนกเมื่อเขาจงใจแนบส่วนล่างที่กำลังแข็งจัดลงบนระหว่างขาของเธอ“อาซื้อมาแล้ว”“ซื้ออะไรคะ” มองเขาตาแป๋ว ใจเต้นระรัว ยังแอบคิดว่าธรรศอาจจะนุ่งกางเกงผ้าเนื้อบางมาก ๆไว้ แม้ความรู้สึกมันชัดเจนว่าเจ้าสิ่งนั้นที่ถูไถอยู่บนหน้าขามันทั้งอุ่นทั้งแข็งและเหมือนว่ามันสัมผัสบนผิวของเธอโดยไม่มีอะไรมากางกั้น“ถุงยาง” บอกคำสั้น ๆแล้วใช้หัวเข่าดันสองขาเล็กให้อ้าออก เลื่อนมือลงต่ำแหวกกางเกงชั้นในพอให้แก่นกายได้มีช่องเข้าไปทักทายกับความอ่อนนุ่ม“อาธรรศ”กระตุ้นความกระสันจากกายสาวจนน้ำหวานไ
“อาธรรศทำเถอะค่ะ ม่านทนไหว”ถึงธรรศไม่ขยับก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บน้อยลง เธอทั้งเจ็บ ทั้งอึดอัดจนอยากผลักเขาออกไปให้พ้นจากตัวเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ทำได้แค่คิดในเมื่อเสียให้เขาแล้ว ต้องไม่ให้เสียเปล่าธรรศได้ร่างกายของเธอ เธอก็ต้องได้ ‘ทุกอย่าง’ จากเขา“เด็กดี” ธรรศยิ้มแย้มอย่างพึงพอใจ ม่านมุกไม่ใช่คนโง่ หญิงสาวรู้ว่าต้องรับมือเขาอย่างไร ถึงจะเอาเขาอยู่หมัด แบบนี้สิ สมกับที่เขารออย่างใจเย็นความวาบหวามเข้าแทนที่ความเจ็บปวดเมื่อ กายหนาขยับเคลื่อนไหว บางจังหวะเน้นหนัก บางจังหวะเบาบางเหมือนปุยนุ่นหนักแน่นแต่ไม่หยาบโลนอ่อนโยนแต่แฝงด้วยความดุดัน“ดูตอนที่อาเอาหนูม่านสิ โคตรดี” จับใบหน้าของม่านมุกให้หันไปมองกระจกบานใหญ่ที่อยู่หน้าตู้เสื้อผ้า จากนั้นก็เร่งจังหวะรักให้เร็วขึ้นใบหน้าของธรรศฉาบด้วยรอยยิ้มพรายยามที่ตัวตนผสานรุกล้ำเข้าสู่กายนางไม่มีหยุดหย่อนม่านมุกเม้มปาก มองตัวเองที่เคลื่อนไหวเพราะแรงขับเคลื่อนจากคนที่คร่อมทับเธอในตอนนี้เหมือนลูกม้าตัวน้อยที่กำลังถูกธรรศขี่ควบพาวิ่งไปในทุ่งหญ้ากว้าง“หนูม่านสวย สวยไปทั้งตัว” จับคางเล็กให้เชิดขึ้นแล้วตะโบมจูบด้วยความใคร่กระสันลิ้นแลกลิ้น นัวเนีย
“ทำไมไม่ปลุกม่านล่ะคะ”พอลืมตาขึ้นก็เห็นธรรศนอนเท้าคางคำศอกลงบนหมอนโดยที่ตะแคงข้างเข้าหา สองกายเปลือยซุกอยู่ใน ผ้านวมผืนเดียวกันเมื่อคืนกว่าทุกอย่างจะสงบลง เธอก็เกือบหลับคาอกของธรรศ ไม่คิดว่าหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบปี พละกำลังจะเหลือล้น ชนิดที่ว่าทำรักได้ยาวนานรอบต่อรอบ“อาเห็นหนูม่านหลับสนิทก็เลยไม่อยากกวน”ไล้นิ้วมือลงกับช่วงบ่าเล็กแล้วเลื่อนไปยังกระดูก ไหปลาร้าที่นูนขึ้นมาจากผิวเนื้อนวลละมุนม่านมุกตัวเล็กและผอมบาง สัดส่วนของความเป็นหญิงถือว่าอยู่ในขนาดที่พอเหมาะ“อาธรรศ”เห็นประกายตาคู่คมที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหาย ม่านมุกก็เอ่ยชื่อของเขาแผ่วเบา“กับหนูม่าน อาไม่อิ่มจริง ๆ” ดึงผ้านวมออกไปพ้นกายขาวโพลน เนินอกอวบอิ่มเต็มไปด้วยร่องรอยของความซาบซ่านที่เขาทิ้งไว้ให้ขลุกตัวอยู่กับม่านมุกทั้งวันทั้งคืน เขาก็ทำได้“อาทำหนูม่านเป็นรอยหมดเลย”ม่านมุกหลุบตามองตามระดับสายตาของธรรศ ดวงหน้าสวยหวานตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าหน้าอกทั้งสองข้างมีรอยจ้ำแดง ที่เกิดจากฝีมือของเขาริมฝีปากหยักแนบลงบนหัวไหล่เล็ก กายหนายัดตัวขึ้นคร่อมร่างบอบบาง เท้ามือคร่อมคนใต้ร่างไว้จ้องมองด้วยนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความหลง
“เสร็จแล้วค่ะอาธรรศ” ก่อนที่จะไปหาแม่ ม่านมุกก็จัดการเรื่องที่ธรรศขอไว้ เธอฉีดยาคุมกำเนิดตามที่เขาขอ ธรรศบอกว่าไม่อยากใช้ถุงยางอนามัยเวลาที่ร่วมรักกับเธอ และเธอก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น“เจ็บไหม”“ไม่ค่ะ” ส่ายหน้าบอกแล้วโชว์รอยเข็มบนหัวไหล่ให้ธรรศดู“ขอบใจนะที่หนูม่านยอมทำเพื่ออา” ดึงม่านมุกเข้ามากอดแล้วหอมที่ขมับด้วยความรักและเอ็นดูถึงจะอยากมีลูกกับม่านมุกมาก แต่ก็รู้ว่ายังไม่ใช่เวลาของอีกฝ่าย ขณะที่ม่านมุกทุกข์ใจเรื่องแม่ เด็กสาวควรเอาเวลาทั้งหมดทุ่มให้แค่เรื่องแม่ก่อน ถ้าทุกอย่างคลี่คลาย เวลานั้นจะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด“ม่านทำเพื่อตัวม่านด้วยค่ะ” เธอเป็นแค่ผู้หญิงของธรรศ เป็นแค่ผู้หญิงที่เขามีไว้ประดับกายในเวลาที่เหงา “อาธรรศสบายใจได้เลยนะคะ ม่านจะไม่มีวันปล่อยท้องเพื่อจับอาธรรศแน่นอนค่ะ”“เด็กดี” ธรรศลูบที่แก้มของม่านมุกแล้วมองด้วยสายตาที่ยากแก่การคาดเดา ม่านมุกจะคิดอย่างไรกับเขาก็สุดแล้วแต่ แต่สำหรับเขา...เมื่อเดินเข้ามาในชีวิตเขาแล้ว จะไม่มีวันได้เดินออกไปไหนได้อีก“ค่อยไปหาแม่พรุ่งนี้ก็ได้นะคะ อาธรรศขับรถมาตั้งหลายชั่วโมง ไปพักก่อนดีไหมคะ” ธรรศขับรถพาเธอมากรุงเทพ
“เปล่าค่ะ ม่านแค่ถามเฉย ๆ”“หนูม่านก็น่าจะรู้ว่าความต้องการของอามากขนาดไหน อาแค่ซื้อกิน ไม่ได้มีเป็นตัวเป็นตน ตอนนี้อามีแค่ หนูม่านคนเดียว” ม่านมุกไม่แสดงอาการว่าหึงว่าหวงเขา เด็กสาวคงถามเพราะอยากรู้แบบทั่วไปอย่างน้อยตอนนี้ธรรศก็มั่นใจว่าถ้ามีม่านมุกอยู่ด้วย เขาคงไม่มีทางได้กลับไปใช้บริการสาว ๆพวกนั้นอีกแล้วและอีกอย่าง ถุงยางอนามัยก็อาจจะไม่จำเป็นกับเขาอีกต่อไป“แต่อีกหน่อยอาคงไม่จำเป็นต้องพกมันติดตัวแล้ว” ยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ในหน้า พลางสุมเท้าเข้าหาอีกฝ่ายที่มองมาคล้ายรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นธรรศวาดแขนโอบที่เอวคอด จับมือขาวเล็กทาบลงบนเป้ากางเกงยีน ให้อีกฝ่ายสัมผัสตัวตนที่กำลังแข็งจัดที่ดุนดันกางเกงยีนจนนูนขึ้นชัด“หนูม่านทำให้อาอยากตลอด”เชยคางมนขึ้นแล้วแนบปากจูบด้วยความเรียกร้องให้เด็กสาวเปิดปากรับลิ้นสากฝ่ามือซุกซนลากไล้ไปตามทรวดทรงองค์เอวแล้วไปหยุดอยู่ที่หน้าอกเต่งตูม ธรรศบีบเบา ๆเพื่อกระตุ้นความกระสันซ่านให้อีกฝ่ายม่านมุกวาดแขนกอดที่ลำคอหนา รั้งให้ใบหน้าคมโน้มต่ำ จากนั้นก็จูบตอบอย่างเงอะงะเพราะยังไม่สันทัด แต่ก็เรียกความร้อนรุ่มจากเรือนกายกำยำได้อย่างดีความรัญจวนซาบซ่านถาโถม
“ผมเตรียมโต๊ะให้แล้วครับนาย” ลุงสุขเดินเข้ามาหาธรรศ ดวงตาฝ้าฟางของชายสูงวัยเลื่อนมองไปยังหญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยสะอาดสะอ้านโตเป็นสาวเต็มตัวแล้ว สวยเสียด้วย“ขอบคุณครับลุง”ม่านมุกยิ้มน้อย ๆให้ชายชราผู้ซึ่งที่กำลังมองมาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน เหมือนจะเคยเจอ แต่คิดว่าคงไม่ใช่เพราะเพิ่งเคยมาไร่องุ่นของธรรศ ไม่น่าจะเคยเห็นหรือเคยรู้จักคุณลุงคนนี้“ไปตักข้าวกัน” ธรรศแตะที่หลังศอกของม่านมุก บอกให้อีกฝ่ายเดินไปยังเคาน์เตอร์ที่มีถาดอาหารวางเรียงรายอยู่หลายถาด“นายรับอะไรดีคะ”“หนูม่านเลือกก่อนเลย” เหลียวหน้าบอกคนที่ยืนอยู่ข้างกาย ม่านมุกมองถาดอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วจึงบอกแม่ครัวที่รอตักอาหารให้อยู่“เอาผัดผักคะน้ากับไข่เจียวค่ะ เอาข้าวนิดเดียวนะคะ” ไม่ได้รู้สึกหิวมาก แต่กินเพราะเกรงใจธรรศ“เอาแบบนี้อีกจาน แต่เอาข้าวเยอะกว่านี้”ธรรศสั่งเหมือนม่านมุก ยืนรอแค่เดี๋ยวเดียวก็ถือจานข้าวกลับมาที่โต๊ะที่ลุงสุขเตรียมทไว้ให้ ยังไม่ทันได้ลุกไปเอาน้ำดื่ม วิมาลาก็เดินเอาแก้วน้ำมาเสิร์ฟให้แล้ว“แว๋วไม่รู้ว่าคุณธรรศจะมากินข้าวกลางวันด้วย ไม่งั้นก็คงให้แม่ครัวเตรียมอาหารดี ๆให้แล้วค่ะ”วางแก้วน้ำดื่มลงบนโต๊ะให
“ห้องทำงานอา”แม้แต่ห้องทำงานก็ยังเงียบง่าย มีโต๊ะทำงาน มีชั้นวางเอกสาร เรียบง่ายเหมือนห้องนอนที่บ้านม่านมุกกวาดตามองสำรวจ สะดุดตาเข้ากับบานประตูบานใหญ่ที่อยู่ติดผนังด้านหลังโต๊ะทำงานของธรรศ คงเป็นห้องน้ำละมั้ง“ห้องนอน อาทำไว้เผื่ออยากนอนพัก เข้าไปดูกันไหม อาให้คนมาทำความสะอาดแล้ว” เพราะเห็นว่าเด็กดีมองไปยังห้องนอนห้องเล็กที่ทำไว้เผื่อขี้เกียจกลับไปนอนที่บ้าน เขาก็จะนอนที่ห้องนี้แทน แต่ก็นาน ๆทีถึงจะนอนจูงมือม่านมุกเดินไปหลังโต๊ะทำงาน เปิดประตูแล้วให้เด็กสาวเดินเข้าไปก่อน ธรรศเปิดไฟจนสว่างทั่วห้อง เป็นห้องที่ไม่กว้างมาก มีเตียงขนาดสามฟุตและมีห้องน้ำเล็ก ๆอยู่ข้างในด้วยเล็กแต่ก็ไม่ได้ชวนให้อึดอัด“ให้หนูม่านมานอนรอตอนอาทำงาน”“ม่านอยากช่วยงานอาธรรศค่ะ” คิดไว้แล้วว่าจะของานธรรศทำ งานอะไรก็ได้ ขอแค่ได้แบ่งเบาภาระของอีกฝ่ายบ้างก็ยังดี “ม่านไม่เอาเงินเดือนค่ะ ม่านแค่อยากช่วยงานอาธรรศบ้าง”“เป็นเมียเจ้าของไร่ ใครให้ทำงานกันเล่า”“อาธรรศ ม่านจริงจังนะคะ”พอเห็นธรรศยิ้มเหมือนไม่จริงจังกับสิ่งที่เธอบอก ม่านมุกก็ทำหน้าตึงมองเขาแบบเคือง ๆ“อาก็จริงจังกับหนูม่าน จริงจังมาก ๆด้วย”“อาธรรศ” น้ำ
“ม่านไม่เหงาหรอกค่ะ”“อารู้ว่าหนูม่านเก่ง เก่งมาก ๆด้วย” ยกมือลูบศีรษะของม่านมุก ต้องเหงาอยู่แล้ว ทำไมเขาจะไม่รู้ ม่านมุกแค่พูดเพื่อให้เขาสบายใจจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลม่านมุกยิ้มอ่อน รู้สึกสบายใจทุกครั้งเวลาที่ธรรศลูบศีรษะ เขาดูอ่อนโยน แววตามีแต่ความอบอุ่นถ้าไม่ติดว่าเขายื่นข้อเสนอให้เธอเอาตัวเข้าแลกกับเงิน ไม่แน่ เธออาจจะลองเปิดใจให้ธรรศก็ได้เลือกเดินซื้อของที่จะเอาไปทำกินมื้อกลางวันกับมื้อเย็นได้จนครบ ธรรศเป็นฝ่ายหิ้วของเต็มไม้เต็มมือทั้งสองข้าง โดยที่ม่านมุกเสนอตัวจะช่วยหิ้ว เขาก็ไม่ยอม“อาธรรศแบ่งให้ม่านหิ้วบ้างสิคะ มืออาธรรศแดงหมดแล้ว” เห็นนิ้วมือทั้งสิบนิ้วของธรรศที่ถูกหูหิ้วรัดแน่นจนเนื้อเปลี่ยนเป็นสีแดง ม่านมุกก็เป็นห่วง เอ่ยขอจะช่วยหิ้วของตั้งหลายที อีกฝ่ายก็ตีมึน ทำไม่สนใจ หิ้วของเดินหนีอยู่นั่นแหละ“จะถึงรถแล้ว หนูม่านช่วยล้วงกุญแจรถในกระเป๋ากางเกงให้อาหน่อยสิ”“ได้ค่ะ”“ล้วงดี ๆนะ เดี๋ยวจับโดนอย่างอื่น”กำลังจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของธรรศ ทว่าสิ่งที่เขาพูดตามมาเล่นเอาม่านมุกชะงักพร้อมช้อนตาขึ้นสบด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อยม่านมุกระบายลมหายใจเนิบช้า ค่อย ๆล้วงมือเข้
“หนูม่านทำอะไร”ม่านมุกที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาพับเสื้อผ้าของธรรศเก็บเข้าตู้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยสะดุ้งนิดเมื่อได้ยินเสียงของธรรศพูดขึ้น“ม่านเก็บเสื้อผ้าให้อาธรรศค่ะ”ด้วยความที่ถูกแม่สอนตั้งแต่เด็กว่าให้จัดเก็บเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อย แยกเสื้อกับกางเกงไว้คนละส่วน เวลาที่จะหยิบออกมาใส่จะได้ง่ายและสะดวก“เละเทะมากใช่ไหม”ธรรศถามยิ้ม ๆ เขาเป็นผู้ชาย เสื้อผ้าตัวไหนอยู่ใกล้มือก็หยิบมาใส่ไว้ก่อน ไม่ได้เลือกมาก เน้นที่เร็วและง่ายที่สุดเป็นหลักเด็กดีของเขาเห็นแล้วคงขัดใจหรือไม่ก็รำคาญตากับความไม่เป็นระเบียบ ถึงได้เก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ แยกสี แยกกางเกงกับเสื้ออย่างเรียบร้อยแบบนี้“ผู้ชายก็แบบนี้แหละค่ะ” ดันประตูตู้เสื้อผ้าปิดก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ธรรศเดินเข้ามาใกล้ “ธุระของอาธรรศเสร็จแล้วเหรอคะ”“เสร็จแล้ว หนูม่านหิวรึยัง”“ในตู้เย็นไม่มีอะไรเลยค่ะ” หลังจากที่ธรรศออกไปจากบ้าน ม่านมุกก็นอนเกลือกกลิ้งไปมาอยู่แป๊บหนึ่ง ตั้งใจว่าจะลุกมาทำข้าวเช้าไว้รอเขา แม้ธรรศจะบอกว่าอาจจะกลับมาสาย แต่พอไปเปิดตู้เย็นดู ไม่มีอะไรนอกจากน้ำเปล่ากับเบียร์“อาทำกับข้าวไม่เป็น อยากมีคนทำใ
หลังจากที่สั่งการลูกน้อง ธรรศก็ยืนนิ่งมองบ้านพักคนงานที่ถูกไฟไหม้ไปหลายหลัง โชคดีที่คนงานช่วยกันดับไฟทันและไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ“ไอ้หมึกมันติดยากับนาย”ยาเสพติดอีกแล้วสินะเขาเคยสั่งนักสั่งหนา สั่งห้ามลูกน้องยุ่งเกี่ยวกับมัน ถ้าใครฝืนคำสั่งแอบเล่นยา ถ้าเขารู้ เขาไม่ปล่อยให้อยู่ที่ไร่เพื่อจะกลายเป็นปัญหาสำหรับคนอื่น“มันคงตั้งใจเผาห้องพักมันแล้วอาศัยจังหวะที่คนงานออกมาช่วยกันดับไฟเข้าไปขโมยเงิน”“ใครที่โดนขโมยเงินให้ไปแจ้งกับคุณแว๋ว เดี๋ยวผมจะจัดการให้เอง” สร้างเรื่องได้ถูกจังหวะ คนงานเพิ่งได้รับเงินเดือนจากฝ่ายบัญชีเมื่อสองวันก่อนคงมีบางคนที่ยังไม่ทันได้เอาเงินไปฝากธนาคารไอ้สารเลวมันเลยได้โอกาสขโมย“ครับนาย”“เด็กคนนั้น ลูกสาวพี่เปี่ยม...อยู่ที่นี่”“นายไปรับมาแล้วเหรอครับ” ชายชราเอ่ยถามผู้เป็นนายด้วยสีหน้าและแววตานอบน้อมธรรศพยักหน้า สองตายังจับอยู่ที่กลุ่มควันที่ลอยขึ้นมาจากกองเถ้าถ่านที่ไฟมอดแล้วสิบกว่าปี ที่รู้จักกับเปี่ยมตอนนั้น เขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบต้น ๆ รู้จักกับอีกฝ่ายด้วยเหตุบังเอิญล้วน ๆ“ช่วงนี้หลานสาวของลุงปิดเทอมใช่ไหม”“ครับ นายจะใช้อะไรมันรึเปล่าครับ”“ให้มาอยู่เป็
“พรุ่งนี้อาจะพาหนูม่านไปทำงานด้วย”อาบน้ำเสร็จ ธรรศก็เดินมายืนอยู่ด้านหน้าของ ม่านมุกในขณะที่เด็กสาวกำลังนั่งหวีผมอยู่ที่ปลายเตียง ดวงตาคมกริบจับไปยังดวงตากลมโตที่ยังคงปรากฏความเศร้าสะท้อนออกมาให้เห็นปลายนิ้วสากเชยคางมนให้เงยขึ้น ใช้เวลาอยู่ด้วยกันแค่ไม่กี่วัน ผ่านความวาบหวามมาก็หลายครั้งเขาเองก็ดูออกว่าเด็กดีของเขาพยายามที่จะเป็นคนเข้มแข็งทั้งที่ใจกำลังเปราะบาง“อยากร้องไห้ไหม หนูม่านร้องออกมาได้เลยนะ ร้องออกมาดัง ๆ”มือขาวเล็กที่จับหวี กำแน่นเข้าจนสั่น ริมฝีปากเล็กบางขยับนิด ต่อจากนั้นเสียงสะอื้นแผ่วเบาถูกปล่อยออกมาพร้อมด้วยหยาดน้ำตาที่ค่อยเอ่อล้นอยู่ที่เบ้าตาก่อนที่จะกลิ้งผ่านขนตาไหลลงมาตามแก้มขาวนวล กายเล็กค่อย ๆไหวเอน หยดน้ำตาไหลรินหยดแล้วหยดเล่า เธอคิดถึงแม่“ม่านคิดถึงแม่”ธรรศทิ้งตัวนั่งชิดกับเด็กสาว สวมกอดแล้วโน้มใบหน้าจูบที่ขมับของอีกฝ่าย ฟังเสียงร่ำไห้จากคนที่พยายามฝืนเป็นคนแข็งแกร่งมาได้ตั้งหลายวัน“แต่งงานกับอานะ อาจะดูแลหนูม่านเอง”“แต่ม่านไม่ได้รักอาธรรศ” รอจนตัวเองสงบแล้ว ม่านมุกก็บอกธรรศไปตรง ๆ บอกธรรศไปแล้วและก็ยินดีจะย้ำให้เขาฟังอีกครั้งโดยที่ไม่มีความลังเลเธอไม
“อาขอโทษ”“อาธรรศไม่จำเป็นต้องขอโทษม่านหรอกนะคะ อาธรรศไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ม่านอยากให้อาธรรศมั่นใจว่าตอนที่ม่านอยู่กับอาธรรศ ม่านไม่มีวันทำผิดต่ออาธรรศค่ะ ม่านรู้หน้าที่ของตัวเองดี”ไม่รู้ว่าต้องอยู่รับใช้ธรรศในฐานะคนร่วมเตียงไปอีกนานแค่ไหน แต่ในระหว่างที่อยู่กับเขาเธอจะซื่อสัตย์ ไม่ทรยศหักหลังเขาแน่“ยังไงอาก็ต้องขอโทษหนูม่านอยู่ดี” เอื้อมมือมาจับที่ศีรษะของม่านมุก ลูบแผ่วเบา ถ้าอยากได้หัวใจของม่านมุก เขาคงต้องใจเย็นให้มากกว่านี้จะบุ่มบ่ามใจร้อน เอาแต่อารมณ์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง…ไม่ได้มาถึงไร่องุ่น พระอาทิตย์ก็ใกล้ตกดินแล้ว ธรรศยกกระเป๋าของม่านมุกขึ้นไปเก็บบนบ้าน ครู่เดียวก็ลงมาพร้อมเอ่ยชวนคนที่ยืนนิ่งอยู่ข้างรถ“ไปเดินเที่ยวสักหน่อยไหม บรรยากาศกำลังดีเลย” ด้วยความที่ย่างเข้าฤดูหนาว ดวงอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้าเร็วกว่าทุกฤดู อากาศก็เริ่มเย็นสบายมากขึ้น สายลมอ่อน ๆที่พัดผ่านในยามเย็นยิ่งทำให้บรรยากาศภายในไร่สวยงามกว่าทุกฤดูแบมือขอมือจากอีกฝ่าย ก่อนที่ม่านมุกจะรู้หน้าที่ ยื่นมือให้ธรรศจับด้วยความเต็มใจก้าวต่อก้าว เดินเคียงคู่กันต่างคนต่างเงียบ แต่มือของธรรศยังกุมมือขาวเล็กไว้ด้วยความทะนุ
“อาธรรศตื่นนานแล้วเหรอคะ ?” หลังจากที่แนบชิดกัน ม่านมุกก็ผล็อยหลับอยู่บนโซฟา ตื่นมาอีกทีก็เห็นว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนแล้ว ธรรศอุ้มเธอมานอนบนเตียงทำเหมือนครั้งก่อนขยับตัวลุกขึ้นมานั่ง ดึงผ้านวมขึ้นมาปิดตัว พลางมองไปยังธรรศที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดตาเขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ“อาตื่นก่อนหนูม่านแป๊บเดียว”ธรรศเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า กายหนาดึงปมสายคาดเอวชุดคลุมอาบน้ำออกแล้วถอดมันออกไปกองที่พื้นเหมือนถูกมนต์สะกด ม่านมุกล็อกสายตาอยู่กับกายกำยำ เห็นแค่ส่วนด้านหลังทว่าใจกับกายกับรู้สึกหวิววาบพอธรรศหันมาทั้งตัว คนที่นั่งอยู่บนเตียงก็รีบก้มหน้างุด สองมือขยุ้มผ้านวมแน่นเห็นมาก็หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่หายตื่นเต้นสักที“อีกหน่อยก็ชิน” ธรรศพูดปนขำ เห็นพวงแก้มที่เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อของม่านมุกแล้วดึงดูดให้ย่างกายเข้าไปหากายหนาคลานเข่าขึ้นไปบนเตียงแล้วยืนด้วยหัวเข่าอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายจับปลายคางเล็กให้เงยขึ้น“ร่างกายของอาเป็นสิทธิ์ของหนูม่าน”รวมถึงหัวใจของเขาด้วยแต่ถึงบอกไป ม่านมุกก็คงไม่เชื่อ เด็กสาวคงคิดว่าเป็นแค่ลมปาก ไม่ได้มีความจริงจังใด ๆ“ร่างกายของหนูม่านก็เป็นสิทธิ์ของอา”ดึง
“ม่านอยากเอากระดูกของแม่ไปลอยอังคารที่ทะเลค่ะ” สิ่งสุดท้ายที่จะทำให้แม่ได้ก็คือส่งแม่ไปในที่ที่มีแต่ความสงบ น้ำตาของม่านมุกยังไม่เหือดแห้ง เธอร้องไห้ทุกวันหลังจากที่แม่เสีย“เดี๋ยวอาจัดการให้”“ขอบคุณอาธรรศมากนะคะที่ช่วยม่านทุกอย่าง”ธรรศอยู่เคียงข้างเธอตลอดตั้งแต่ที่แม่เสีย ม่านมุกยอมรับว่าถ้าไม่มีเขา เธอก็คงเคว้ง คงไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ธรรศเป็นผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่เธอรู้จักตั้งแต่เด็กจนโต ม่านมุกไม่เคยเห็นญาติพี่น้องของพ่อกับแม่ และยิ่งกว่านั้นท่านทั้งสองไม่เคยเอ่ยถึงด้วยซ้ำ จำความได้ว่าตอนเด็ก ๆเคยเอ่ยปากถามอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรตอบกลับมา“อายินดีทำให้หนูม่านทุกอย่าง”ชีวิตของม่านมุกเป็นของเขา เด็กสาวเหลือตัวคนเดียวและแน่นอนว่าเขาไม่ปล่อยให้ไปไหนแน่ ไม่มีวันให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว“คืนนี้เราจะค้างที่นี่ พรุ่งนี้เย็นค่อยกลับไร่”คิดเอาว่าถ้าให้ม่านมุกอยู่ในสถานที่เดิม ๆ ที่ที่มีความทรงจำเกี่ยวกับแม่ เด็กสาวอาจจะยิ่งทุกข์และคิดถึงแม่มากจนส่งผลกระทบร้ายแรงกับความรู้สึก“อาธรรศค้างได้เหรอคะ”ธรรศทิ้งไร่มาอยู่เป็นเพื่อนเธอตั้งแต่วันที่แม่เสีย นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ม่านม