“เสร็จแล้วค่ะอาธรรศ”
ก่อนที่จะไปหาแม่ ม่านมุกก็จัดการเรื่องที่ธรรศขอไว้ เธอฉีดยาคุมกำเนิดตามที่เขาขอ ธรรศบอกว่าไม่อยากใช้ถุงยางอนามัยเวลาที่ร่วมรักกับเธอ และเธอก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น
“เจ็บไหม”
“ไม่ค่ะ” ส่ายหน้าบอกแล้วโชว์รอยเข็มบนหัวไหล่ให้ธรรศดู
“ขอบใจนะที่หนูม่านยอมทำเพื่ออา” ดึงม่านมุกเข้ามากอดแล้วหอมที่ขมับด้วยความรักและเอ็นดู
ถึงจะอยากมีลูกกับม่านมุกมาก แต่ก็รู้ว่ายังไม่ใช่เวลาของอีกฝ่าย ขณะที่ม่านมุกทุกข์ใจเรื่องแม่ เด็กสาวควรเอาเวลาทั้งหมดทุ่มให้แค่เรื่องแม่ก่อน ถ้าทุกอย่างคลี่คลาย เวลานั้นจะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด
“ม่านทำเพื่อตัวม่านด้วยค่ะ” เธอเป็นแค่ผู้หญิงของธรรศ เป็นแค่ผู้หญิงที่เขามีไว้ประดับกายในเวลาที่เหงา “อาธรรศสบายใจได้เลยนะคะ ม่านจะไม่มีวันปล่อยท้องเพื่อจับอาธรรศแน่นอนค่ะ”
“เด็กดี” ธรรศลูบที่แก้มของม่านมุกแล้วมองด้วยสายตาที่ยากแก่การคาดเดา ม่านมุกจะคิดอย่างไรกับเขาก็สุดแล้วแต่ แต่สำหรับเขา...
เมื่อเดินเข้ามาในชีวิตเขาแล้ว จะไม่มีวันได้เดินออกไปไหนได้อีก
“ค่อยไปหาแม่พรุ่งนี้ก็ได้นะคะ อาธรรศขับรถมาตั้งหลายชั่วโมง ไปพักก่อนดีไหมคะ” ธรรศขับรถพาเธอมากรุงเทพ ฯก็หลายชั่วโมง ไหนจะมานั่งรอเธอฉีดยาคุมกำเนิดอีก อีกอย่างตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว
“เอางั้นเหรอ อายังไงก็ได้ กลัวแต่หนูม่านจะเป็นห่วงแม่น่ะสิ” เขาไม่เหนื่อย อะไรที่ทำเพื่อม่านมุก ไม่มีความเหนื่อยใด ๆทั้งนั้น
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แม่อยู่กับหมออยู่แล้ว” แม่อยู่ใกล้หมอ ไม่มีอะไรต้องห่วงมาก เธอจะเอาแต่ห่วงแม่และละเลยธรรศไม่ได้ อย่างน้อยเขาก็เป็นผู้มีพระคุณ ต่อให้เงินที่ได้มาจากเขาต้องแลกด้วยร่างกายของเธอก็ตาม
“งั้นไปหาข้าวกินกัน อาหิวแล้ว”
“ค่ะ”
ออกมาจากโรงพยาบาล ธรรศก็พาม่านมุกมากินข้าวที่ร้านอาหารที่อยู่ในห้าง กินมื้อเย็นเสร็จก็ยังพาเด็กสาวเดินเที่ยวเพราะอยากจะซื้อของมีค่าไว้ให้ติดตัว
“หนูม่านชอบไหม อาว่าเหมาะกับหนูม่านดี”
ธรรศหยิบแหวนวงเล็กมาจากพนักงานขาย จับมือข้างซ้ายของม่านมุกขึ้นแล้วทาบแหวนลงบนนิ้ว
“ราคามันสูงไปไหมคะ” แหวนวงเล็กนิดเดียว แต่ราคาเหยียบแสน รู้ว่าธรรศไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน
แต่กระนั้นก็ไม่อยากให้เขาทุ่มอะไรกับเธอมาก
“สำหรับหนูม่าน อาให้ได้ทุกอย่าง” สองแก้มของม่านมุกขึ้นสีแดงระเรื่อจนธรรศยกยิ้มด้วยความพึงพอใจ หัวใจของม่านมุกเต้นเร็วขึ้น เมื่อธรรศสวมแหวนเข้ากับนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ “เหมาะกับหนูม่านจริง ๆ”
ธรรศลูบที่หัวแหวน เพชรเม็ดเล็กแต่น้ำงามวาววับ
“เอาวงนี้ครับ” ดึงบัตรเครดิตออกมาจากกระเป๋าเงินแล้วยื่นให้พนักงานขาย ไม่เสียเวลาเลือกดูแหวนวงอื่น
“เอาวงที่ราคาถูกกว่านี้ไม่ได้เหรอคะ” ม่านมุกจับที่มือหนา เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเกรงใจ
“วงนี้แหละ เหมาะให้หนูม่านใส่ติดนิ้ว”
ธรรศยังยืนยันเสียงหนักแน่น แหวนวงนี้น่ารักเหมาะกับม่านมุก เอาไว้ถ้าเป็นแหวนแต่งงาน เขาจะจัดเพชรเม็ดใหญ่กว่านี้อีกหลายเท่า
ออกมาจากร้าน สีหน้าของม่านมุกก็ยังมีความกังวล ทั้งที่บอกตัวเองดิบดีว่าถ้าเสียตัวให้ธรรศ เธอก็ต้องได้ทุกอย่างตอบแทนกลับมาอย่างคุ้มค่า
แค่เขาซื้อแหวนราคาเหยียบแสนให้ ใจก็อยู่ไม่นิ่ง คิดวิตกกังวลไปต่าง ๆนานา
“คิดอะไรอยู่”
“คิดว่าแหวนที่อาธรรศซื้อให้แพงเกินไปค่ะ”
“หนูม่าน” ธรรศดึงแขนม่านมุกให้หยุดอยู่กับที่แล้วให้หันมาหา “อาบอกแล้วนี่ว่าถ้าหนูม่านยอมเป็นของอา อาจะให้หนูม่านทุกอย่าง ตั้งแต่วันนี้ไป อะไรที่อาอยากซื้อให้หนูม่าน อาจะซื้อให้โดยไม่สนใจราคา เลิกคิดมากได้แล้วหนูม่านเป็นเมียอานะ ซื้อของให้เมียเป็นหน้าที่ผัวอยู่แล้ว”
ม่านมุกอายจนเผลอเม้มปากพอเห็นแววตาของธรรศที่มองมาวาววับก็แสร้งทำเป็นนิ่งแล้วเลือกมองแหวนที่อยู่บนนิ้วแทน แค่เห็นสายตาก็รู้แล้วว่า
...ธรรศกำลังคิดอะไรอยู่
“อาธรรศจะนอนที่ไหนคะ”
จะให้ธรรศไปนอนที่บ้าน คิดว่าเขานอนไม่ได้แน่ บ้านเป็นบ้านก็จริง แต่สภาพภายในไม่ต่างจากห้องสี่เหลี่ยม ข้าวของเครื่องใช้ก็แทบไม่เหลือแล้ว
“นอนกับหนูม่าน”
“อาธรรศไปนอนโรงแรมดีกว่าค่ะ”
“ทำไม? หนูม่านไม่อยากให้อานอนที่บ้าน ?”
“นอนโรงแรมสบายกว่าค่ะ” ไม่ได้อยากบอกเหตุผลให้ธรรศรู้ เอาเป็นว่าเขาไปพักโรงแรมดีกว่าที่จะนอนค้างที่บ้าน สะดวกสบายต่างกันเยอะ
“อาจะไปนอนที่บ้านกับหนูม่าน ไปเถอะ”
จับที่มือของม่านมุกแล้วพาเดินกลับไปที่รถ ใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงก็มาถึง ม่านมุกลงจากรถมาเปิดประตูรั้วบ้านให้ธรรศขับรถเข้ามาจอด
กายกำยำมองความเปลี่ยนแปลงของบ้าน เขาเคยมาที่นี่อยู่ครั้งเดียวซึ่งก็หลายสิบปีมาแล้ว เปลี่ยนไปมาก
เก่าและทรุดโทรม คงเป็นไปตามกาลเวลา
“อาธรรศนอนได้แน่นะคะ”
เจ้าของบ้านเอ่ยถามเสียงเป็นกังวลมองธรรศด้วยสีหน้าจริงจังอีกครั้ง ประกาศขายบ้านไปแล้วก็จริง แต่ก็ยังใช้เป็นที่ซุกหัวนอนไปก่อน ถ้าขายได้เมื่อไหร่ถึงจะย้ายออก
ภายในบ้านแทบไม่มีข้าวของใด ๆด้วยความที่มีปัญหาเรื่องเงิน หลายปีแล้วที่ม่านมุกไม่ได้ซื้อของเข้าบ้าน นอกจากจะไม่ซื้อของเข้าบ้านแล้ว เธอยังเอาของในบ้านประกาศขายเป็นของมือสองอีกด้วย
“ม่านถอดแอร์ขายหมดเลยค่ะ มีแค่พัดลมอาธรรศจะนอนได้เหรอคะ” อากาศที่กรุงเทพ ฯ ไม่ได้เย็นสบายเหมือนอากาศที่เขาใหญ่ ธรรศอาจจะไม่คุ้นชินกับการนอนโดยไม่มีเครื่องปรับอากาศ “ม่านว่าอาธรรศไปนอนโรงแรมเถอะคะ”
“ถ้าหนูม่านนอนได้ อาก็นอนได้” คิดว่าคงไม่นอน เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจจะนอนอยู่แล้ว มีอย่างอื่นที่น่าสนใจให้ทำกว่า “อากลัวแต่ว่าเราจะไม่ได้นอนกันน่ะสิ”
“เพิ่งฉีดยาคุมวันแรก ไม่ใส่ถุงไม่ได้นะคะ ต้องรอให้ครบหนึ่งอาทิตย์ก่อน”
ม่านมุกหัวไวเสมอ ไม่ต้องให้พูดอะไรมากเด็กสาวก็เข้าใจความต้องการของเขา
น่ารักจริง ๆเลย
“อาเตรียมมาแล้ว” ตบที่กระเป๋ากางเกงยีนที่อยู่ตรงหน้าขาบอกให้อีกฝ่ายรู้ ก่อนที่จะถูกถามกลับด้วยใบหน้านิ่ง ๆ
“อาธรรศพกติดตัวตลอดเลยเหรอคะ ?”
ไม่ได้ใส่ใจกับคำตอบของธรรศมากหรอก แค่แปลกใจว่าผู้ชายทุกคนต้องพกของแบบนี้ไว้ติดตัวตลอดเพื่อแค่เรื่องเซ็กส์ เหมือนกับว่าถ้าถึงเวลาที่ต้องใช้ก็ต้องมีพร้อมใช้เลย
“อาเป็นผู้ชาย ของแบบนี้ไม่ควรขาด อาทำให้หนูม่านไม่พอใจหรือเปล่า” ก่อนที่จะมีม่านมุก เขาก็ใช้ชีวิตเหมือนผู้ชายทั่วไป เรื่องผู้หญิงก็เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายโสด
ซื้อกินเมื่ออยาก ไม่ได้คิดจริงจังเลี้ยงดูปู่เสื่อ
“เปล่าค่ะ ม่านแค่ถามเฉย ๆ”“หนูม่านก็น่าจะรู้ว่าความต้องการของอามากขนาดไหน อาแค่ซื้อกิน ไม่ได้มีเป็นตัวเป็นตน ตอนนี้อามีแค่ หนูม่านคนเดียว” ม่านมุกไม่แสดงอาการว่าหึงว่าหวงเขา เด็กสาวคงถามเพราะอยากรู้แบบทั่วไปอย่างน้อยตอนนี้ธรรศก็มั่นใจว่าถ้ามีม่านมุกอยู่ด้วย เขาคงไม่มีทางได้กลับไปใช้บริการสาว ๆพวกนั้นอีกแล้วและอีกอย่าง ถุงยางอนามัยก็อาจจะไม่จำเป็นกับเขาอีกต่อไป“แต่อีกหน่อยอาคงไม่จำเป็นต้องพกมันติดตัวแล้ว” ยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ในหน้า พลางสุมเท้าเข้าหาอีกฝ่ายที่มองมาคล้ายรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นธรรศวาดแขนโอบที่เอวคอด จับมือขาวเล็กทาบลงบนเป้ากางเกงยีน ให้อีกฝ่ายสัมผัสตัวตนที่กำลังแข็งจัดที่ดุนดันกางเกงยีนจนนูนขึ้นชัด“หนูม่านทำให้อาอยากตลอด”เชยคางมนขึ้นแล้วแนบปากจูบด้วยความเรียกร้องให้เด็กสาวเปิดปากรับลิ้นสากฝ่ามือซุกซนลากไล้ไปตามทรวดทรงองค์เอวแล้วไปหยุดอยู่ที่หน้าอกเต่งตูม ธรรศบีบเบา ๆเพื่อกระตุ้นความกระสันซ่านให้อีกฝ่ายม่านมุกวาดแขนกอดที่ลำคอหนา รั้งให้ใบหน้าคมโน้มต่ำ จากนั้นก็จูบตอบอย่างเงอะงะเพราะยังไม่สันทัด แต่ก็เรียกความร้อนรุ่มจากเรือนกายกำยำได้อย่างดีความรัญจวนซาบซ่านถาโถม
“ไม่เจอกันนานเลยนะธรรศ”น้ำเสียงแหบแห้งของคนป่วยเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นหนุ่มใหญ่ที่เคยเป็นเพื่อนสนิทของสามีจำได้ว่าเมื่อหลายสิบปีก่อน ธรรศกับสามีไปไหนไปกัน สนิทชิดเชื้อเหมือนพี่น้อง “ครับ พี่นิด” ธรรศเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหยุดอยู่ข้างเตียงคนป่วย พิศมองใบหน้าซูบตอบของหญิงสูงวัย นัยน์ตาลึกโบ๋พร้อมทั้งร่างกายที่ซูบผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกชวนให้รู้สึกหดหู่ยิ่งนัก ขนาดเขาที่เป็นคนอื่นยังรู้สึกไม่ดี แล้วม่านมุกที่เป็นลูกสาวแท้ ๆจะต้องเจ็บปวดขนาดไหนที่ต้องมาทนเห็นสภาพที่ไม่น่าดูของแม่ในเวลานี้“มาได้ยังไง ม่านบอกเหรอ ?”ม่านมุกขอให้ธรรศช่วยปิดเรื่องระหว่างเธอกับเขาไม่ให้แม่รู้ เพราะไม่อยากให้แม่เกิดความไม่สบายใจ“ครับ” ธรรศบอกด้วยใบหน้านิ่ง ๆเสตามองไปยังม่านมุกอยู่แว็บเดียวก็วกมามองคนป่วย “พี่นิดเป็นยังไงบ้างครับ”“ไม่ค่อยดี” พูดพลางพักเหนื่อยอยู่เป็นพัก ๆระดับลมหายใจเบาหวิว นัยน์ตาดูเหม่อลอย ไม่มีความสดใส“พี่นิดพักเถอะครับ ผมไม่กวนแล้ว” เห็นคนป่วยดูอ่อนเพลีย ธรรศก็ไม่อยากรบกวน เดิมทีตั้งใจแค่จะแวะมาส่งม่านมุกเท่านั้น แต่ไหน ๆก็มาถึงที่นี่แล้วก็อยากมาดูเห็นกับตาว่าแม่ของเด็กสาวอาการหนักมากขนาดไ
“ม่าน”“ค่ะ แม่” นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ข้างเตียงแม่ ได้ยินเสียงแม่เรียก ม่านมุกก็หลุดออกจากภวังค์ความคิด“ไปเจออาธรรศได้ยังไง”“บังเอิญเจอค่ะแม่ อาธรรศจำม่านได้”โกหกพกลมคำโต เป็นเรื่องยากที่ธรรศกับเธอจะมาเจอกันได้ เคยเห็นกันแค่ครั้งเดียวตอนงานศพพ่อ เธอเองก็ยังจำเขาได้เลือนราง เพราะยังเก็บมือถือเครื่องเก่าของพ่อไว้ ม่านมุกเลยค้นเบอร์โทรศัพท์ของธรรศได้ตอนที่ได้เบอร์มา ยังแอบคิดว่าเขาอาจจะเปลี่ยนเบอร์มือถือใหม่ไปแล้วก็ได้ นับว่ายังมีความโชคดีที่ธรรศยังใช้เบอร์เดิมอยู่“ธรรศเป็นคนดี พ่อรักเขามาก”แม้แต่แม่ก็ยังคิดว่าธรรศเป็นคนดี คงมีแค่เธอคนเดียวสินะที่รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นคนแบบไหน“ม่าน”“ค่ะ แม่” สบตาแม่แล้วรอฟังในสิ่งที่แม่จะพูด“ถ้าแม่ตาย ถ้าม่านลำบาก ขอความช่วยเหลือจากอาธรรศนะ อาธรรศช่วยหนูได้”“ทำไมแม่ถึงมั่นใจในตัวอาธรรศมากขนาดนี้คะ เขาไม่ใช่ญาติเรา เขาแค่เคยเป็นเพื่อนกับพ่อ”ใช่อยู่ว่าธรรศให้เงินจำนวนสองล้านเธอง่าย ๆแต่เขาก็ได้ร่างกายของเธอเป็นสิ่งตอบแทนถ้าธรรศเป็นคนดีอย่างที่พ่อกับแม่พูด ทำไมเขาต้องยื่นข้อเสนอนี้ให้เธอด้วย“เชื่อแม่เถอะม่าน อาธรรศเป็นคนดี”ม่านมุกได้แต
“ม่านอยากเอากระดูกของแม่ไปลอยอังคารที่ทะเลค่ะ” สิ่งสุดท้ายที่จะทำให้แม่ได้ก็คือส่งแม่ไปในที่ที่มีแต่ความสงบ น้ำตาของม่านมุกยังไม่เหือดแห้ง เธอร้องไห้ทุกวันหลังจากที่แม่เสีย“เดี๋ยวอาจัดการให้”“ขอบคุณอาธรรศมากนะคะที่ช่วยม่านทุกอย่าง”ธรรศอยู่เคียงข้างเธอตลอดตั้งแต่ที่แม่เสีย ม่านมุกยอมรับว่าถ้าไม่มีเขา เธอก็คงเคว้ง คงไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ธรรศเป็นผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่เธอรู้จักตั้งแต่เด็กจนโต ม่านมุกไม่เคยเห็นญาติพี่น้องของพ่อกับแม่ และยิ่งกว่านั้นท่านทั้งสองไม่เคยเอ่ยถึงด้วยซ้ำ จำความได้ว่าตอนเด็ก ๆเคยเอ่ยปากถามอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรตอบกลับมา“อายินดีทำให้หนูม่านทุกอย่าง”ชีวิตของม่านมุกเป็นของเขา เด็กสาวเหลือตัวคนเดียวและแน่นอนว่าเขาไม่ปล่อยให้ไปไหนแน่ ไม่มีวันให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว“คืนนี้เราจะค้างที่นี่ พรุ่งนี้เย็นค่อยกลับไร่”คิดเอาว่าถ้าให้ม่านมุกอยู่ในสถานที่เดิม ๆ ที่ที่มีความทรงจำเกี่ยวกับแม่ เด็กสาวอาจจะยิ่งทุกข์และคิดถึงแม่มากจนส่งผลกระทบร้ายแรงกับความรู้สึก“อาธรรศค้างได้เหรอคะ”ธรรศทิ้งไร่มาอยู่เป็นเพื่อนเธอตั้งแต่วันที่แม่เสีย นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ม่านม
“อาธรรศตื่นนานแล้วเหรอคะ ?” หลังจากที่แนบชิดกัน ม่านมุกก็ผล็อยหลับอยู่บนโซฟา ตื่นมาอีกทีก็เห็นว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนแล้ว ธรรศอุ้มเธอมานอนบนเตียงทำเหมือนครั้งก่อนขยับตัวลุกขึ้นมานั่ง ดึงผ้านวมขึ้นมาปิดตัว พลางมองไปยังธรรศที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดตาเขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ“อาตื่นก่อนหนูม่านแป๊บเดียว”ธรรศเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า กายหนาดึงปมสายคาดเอวชุดคลุมอาบน้ำออกแล้วถอดมันออกไปกองที่พื้นเหมือนถูกมนต์สะกด ม่านมุกล็อกสายตาอยู่กับกายกำยำ เห็นแค่ส่วนด้านหลังทว่าใจกับกายกับรู้สึกหวิววาบพอธรรศหันมาทั้งตัว คนที่นั่งอยู่บนเตียงก็รีบก้มหน้างุด สองมือขยุ้มผ้านวมแน่นเห็นมาก็หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่หายตื่นเต้นสักที“อีกหน่อยก็ชิน” ธรรศพูดปนขำ เห็นพวงแก้มที่เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อของม่านมุกแล้วดึงดูดให้ย่างกายเข้าไปหากายหนาคลานเข่าขึ้นไปบนเตียงแล้วยืนด้วยหัวเข่าอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายจับปลายคางเล็กให้เงยขึ้น“ร่างกายของอาเป็นสิทธิ์ของหนูม่าน”รวมถึงหัวใจของเขาด้วยแต่ถึงบอกไป ม่านมุกก็คงไม่เชื่อ เด็กสาวคงคิดว่าเป็นแค่ลมปาก ไม่ได้มีความจริงจังใด ๆ“ร่างกายของหนูม่านก็เป็นสิทธิ์ของอา”ดึง
“อาขอโทษ”“อาธรรศไม่จำเป็นต้องขอโทษม่านหรอกนะคะ อาธรรศไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ม่านอยากให้อาธรรศมั่นใจว่าตอนที่ม่านอยู่กับอาธรรศ ม่านไม่มีวันทำผิดต่ออาธรรศค่ะ ม่านรู้หน้าที่ของตัวเองดี”ไม่รู้ว่าต้องอยู่รับใช้ธรรศในฐานะคนร่วมเตียงไปอีกนานแค่ไหน แต่ในระหว่างที่อยู่กับเขาเธอจะซื่อสัตย์ ไม่ทรยศหักหลังเขาแน่“ยังไงอาก็ต้องขอโทษหนูม่านอยู่ดี” เอื้อมมือมาจับที่ศีรษะของม่านมุก ลูบแผ่วเบา ถ้าอยากได้หัวใจของม่านมุก เขาคงต้องใจเย็นให้มากกว่านี้จะบุ่มบ่ามใจร้อน เอาแต่อารมณ์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง…ไม่ได้มาถึงไร่องุ่น พระอาทิตย์ก็ใกล้ตกดินแล้ว ธรรศยกกระเป๋าของม่านมุกขึ้นไปเก็บบนบ้าน ครู่เดียวก็ลงมาพร้อมเอ่ยชวนคนที่ยืนนิ่งอยู่ข้างรถ“ไปเดินเที่ยวสักหน่อยไหม บรรยากาศกำลังดีเลย” ด้วยความที่ย่างเข้าฤดูหนาว ดวงอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้าเร็วกว่าทุกฤดู อากาศก็เริ่มเย็นสบายมากขึ้น สายลมอ่อน ๆที่พัดผ่านในยามเย็นยิ่งทำให้บรรยากาศภายในไร่สวยงามกว่าทุกฤดูแบมือขอมือจากอีกฝ่าย ก่อนที่ม่านมุกจะรู้หน้าที่ ยื่นมือให้ธรรศจับด้วยความเต็มใจก้าวต่อก้าว เดินเคียงคู่กันต่างคนต่างเงียบ แต่มือของธรรศยังกุมมือขาวเล็กไว้ด้วยความทะนุ
“พรุ่งนี้อาจะพาหนูม่านไปทำงานด้วย”อาบน้ำเสร็จ ธรรศก็เดินมายืนอยู่ด้านหน้าของ ม่านมุกในขณะที่เด็กสาวกำลังนั่งหวีผมอยู่ที่ปลายเตียง ดวงตาคมกริบจับไปยังดวงตากลมโตที่ยังคงปรากฏความเศร้าสะท้อนออกมาให้เห็นปลายนิ้วสากเชยคางมนให้เงยขึ้น ใช้เวลาอยู่ด้วยกันแค่ไม่กี่วัน ผ่านความวาบหวามมาก็หลายครั้งเขาเองก็ดูออกว่าเด็กดีของเขาพยายามที่จะเป็นคนเข้มแข็งทั้งที่ใจกำลังเปราะบาง“อยากร้องไห้ไหม หนูม่านร้องออกมาได้เลยนะ ร้องออกมาดัง ๆ”มือขาวเล็กที่จับหวี กำแน่นเข้าจนสั่น ริมฝีปากเล็กบางขยับนิด ต่อจากนั้นเสียงสะอื้นแผ่วเบาถูกปล่อยออกมาพร้อมด้วยหยาดน้ำตาที่ค่อยเอ่อล้นอยู่ที่เบ้าตาก่อนที่จะกลิ้งผ่านขนตาไหลลงมาตามแก้มขาวนวล กายเล็กค่อย ๆไหวเอน หยดน้ำตาไหลรินหยดแล้วหยดเล่า เธอคิดถึงแม่“ม่านคิดถึงแม่”ธรรศทิ้งตัวนั่งชิดกับเด็กสาว สวมกอดแล้วโน้มใบหน้าจูบที่ขมับของอีกฝ่าย ฟังเสียงร่ำไห้จากคนที่พยายามฝืนเป็นคนแข็งแกร่งมาได้ตั้งหลายวัน“แต่งงานกับอานะ อาจะดูแลหนูม่านเอง”“แต่ม่านไม่ได้รักอาธรรศ” รอจนตัวเองสงบแล้ว ม่านมุกก็บอกธรรศไปตรง ๆ บอกธรรศไปแล้วและก็ยินดีจะย้ำให้เขาฟังอีกครั้งโดยที่ไม่มีความลังเลเธอไม
หลังจากที่สั่งการลูกน้อง ธรรศก็ยืนนิ่งมองบ้านพักคนงานที่ถูกไฟไหม้ไปหลายหลัง โชคดีที่คนงานช่วยกันดับไฟทันและไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ“ไอ้หมึกมันติดยากับนาย”ยาเสพติดอีกแล้วสินะเขาเคยสั่งนักสั่งหนา สั่งห้ามลูกน้องยุ่งเกี่ยวกับมัน ถ้าใครฝืนคำสั่งแอบเล่นยา ถ้าเขารู้ เขาไม่ปล่อยให้อยู่ที่ไร่เพื่อจะกลายเป็นปัญหาสำหรับคนอื่น“มันคงตั้งใจเผาห้องพักมันแล้วอาศัยจังหวะที่คนงานออกมาช่วยกันดับไฟเข้าไปขโมยเงิน”“ใครที่โดนขโมยเงินให้ไปแจ้งกับคุณแว๋ว เดี๋ยวผมจะจัดการให้เอง” สร้างเรื่องได้ถูกจังหวะ คนงานเพิ่งได้รับเงินเดือนจากฝ่ายบัญชีเมื่อสองวันก่อนคงมีบางคนที่ยังไม่ทันได้เอาเงินไปฝากธนาคารไอ้สารเลวมันเลยได้โอกาสขโมย“ครับนาย”“เด็กคนนั้น ลูกสาวพี่เปี่ยม...อยู่ที่นี่”“นายไปรับมาแล้วเหรอครับ” ชายชราเอ่ยถามผู้เป็นนายด้วยสีหน้าและแววตานอบน้อมธรรศพยักหน้า สองตายังจับอยู่ที่กลุ่มควันที่ลอยขึ้นมาจากกองเถ้าถ่านที่ไฟมอดแล้วสิบกว่าปี ที่รู้จักกับเปี่ยมตอนนั้น เขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบต้น ๆ รู้จักกับอีกฝ่ายด้วยเหตุบังเอิญล้วน ๆ“ช่วงนี้หลานสาวของลุงปิดเทอมใช่ไหม”“ครับ นายจะใช้อะไรมันรึเปล่าครับ”“ให้มาอยู่เป็
“ผมเตรียมโต๊ะให้แล้วครับนาย” ลุงสุขเดินเข้ามาหาธรรศ ดวงตาฝ้าฟางของชายสูงวัยเลื่อนมองไปยังหญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยสะอาดสะอ้านโตเป็นสาวเต็มตัวแล้ว สวยเสียด้วย“ขอบคุณครับลุง”ม่านมุกยิ้มน้อย ๆให้ชายชราผู้ซึ่งที่กำลังมองมาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน เหมือนจะเคยเจอ แต่คิดว่าคงไม่ใช่เพราะเพิ่งเคยมาไร่องุ่นของธรรศ ไม่น่าจะเคยเห็นหรือเคยรู้จักคุณลุงคนนี้“ไปตักข้าวกัน” ธรรศแตะที่หลังศอกของม่านมุก บอกให้อีกฝ่ายเดินไปยังเคาน์เตอร์ที่มีถาดอาหารวางเรียงรายอยู่หลายถาด“นายรับอะไรดีคะ”“หนูม่านเลือกก่อนเลย” เหลียวหน้าบอกคนที่ยืนอยู่ข้างกาย ม่านมุกมองถาดอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วจึงบอกแม่ครัวที่รอตักอาหารให้อยู่“เอาผัดผักคะน้ากับไข่เจียวค่ะ เอาข้าวนิดเดียวนะคะ” ไม่ได้รู้สึกหิวมาก แต่กินเพราะเกรงใจธรรศ“เอาแบบนี้อีกจาน แต่เอาข้าวเยอะกว่านี้”ธรรศสั่งเหมือนม่านมุก ยืนรอแค่เดี๋ยวเดียวก็ถือจานข้าวกลับมาที่โต๊ะที่ลุงสุขเตรียมทไว้ให้ ยังไม่ทันได้ลุกไปเอาน้ำดื่ม วิมาลาก็เดินเอาแก้วน้ำมาเสิร์ฟให้แล้ว“แว๋วไม่รู้ว่าคุณธรรศจะมากินข้าวกลางวันด้วย ไม่งั้นก็คงให้แม่ครัวเตรียมอาหารดี ๆให้แล้วค่ะ”วางแก้วน้ำดื่มลงบนโต๊ะให
“ห้องทำงานอา”แม้แต่ห้องทำงานก็ยังเงียบง่าย มีโต๊ะทำงาน มีชั้นวางเอกสาร เรียบง่ายเหมือนห้องนอนที่บ้านม่านมุกกวาดตามองสำรวจ สะดุดตาเข้ากับบานประตูบานใหญ่ที่อยู่ติดผนังด้านหลังโต๊ะทำงานของธรรศ คงเป็นห้องน้ำละมั้ง“ห้องนอน อาทำไว้เผื่ออยากนอนพัก เข้าไปดูกันไหม อาให้คนมาทำความสะอาดแล้ว” เพราะเห็นว่าเด็กดีมองไปยังห้องนอนห้องเล็กที่ทำไว้เผื่อขี้เกียจกลับไปนอนที่บ้าน เขาก็จะนอนที่ห้องนี้แทน แต่ก็นาน ๆทีถึงจะนอนจูงมือม่านมุกเดินไปหลังโต๊ะทำงาน เปิดประตูแล้วให้เด็กสาวเดินเข้าไปก่อน ธรรศเปิดไฟจนสว่างทั่วห้อง เป็นห้องที่ไม่กว้างมาก มีเตียงขนาดสามฟุตและมีห้องน้ำเล็ก ๆอยู่ข้างในด้วยเล็กแต่ก็ไม่ได้ชวนให้อึดอัด“ให้หนูม่านมานอนรอตอนอาทำงาน”“ม่านอยากช่วยงานอาธรรศค่ะ” คิดไว้แล้วว่าจะของานธรรศทำ งานอะไรก็ได้ ขอแค่ได้แบ่งเบาภาระของอีกฝ่ายบ้างก็ยังดี “ม่านไม่เอาเงินเดือนค่ะ ม่านแค่อยากช่วยงานอาธรรศบ้าง”“เป็นเมียเจ้าของไร่ ใครให้ทำงานกันเล่า”“อาธรรศ ม่านจริงจังนะคะ”พอเห็นธรรศยิ้มเหมือนไม่จริงจังกับสิ่งที่เธอบอก ม่านมุกก็ทำหน้าตึงมองเขาแบบเคือง ๆ“อาก็จริงจังกับหนูม่าน จริงจังมาก ๆด้วย”“อาธรรศ” น้ำ
“ม่านไม่เหงาหรอกค่ะ”“อารู้ว่าหนูม่านเก่ง เก่งมาก ๆด้วย” ยกมือลูบศีรษะของม่านมุก ต้องเหงาอยู่แล้ว ทำไมเขาจะไม่รู้ ม่านมุกแค่พูดเพื่อให้เขาสบายใจจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลม่านมุกยิ้มอ่อน รู้สึกสบายใจทุกครั้งเวลาที่ธรรศลูบศีรษะ เขาดูอ่อนโยน แววตามีแต่ความอบอุ่นถ้าไม่ติดว่าเขายื่นข้อเสนอให้เธอเอาตัวเข้าแลกกับเงิน ไม่แน่ เธออาจจะลองเปิดใจให้ธรรศก็ได้เลือกเดินซื้อของที่จะเอาไปทำกินมื้อกลางวันกับมื้อเย็นได้จนครบ ธรรศเป็นฝ่ายหิ้วของเต็มไม้เต็มมือทั้งสองข้าง โดยที่ม่านมุกเสนอตัวจะช่วยหิ้ว เขาก็ไม่ยอม“อาธรรศแบ่งให้ม่านหิ้วบ้างสิคะ มืออาธรรศแดงหมดแล้ว” เห็นนิ้วมือทั้งสิบนิ้วของธรรศที่ถูกหูหิ้วรัดแน่นจนเนื้อเปลี่ยนเป็นสีแดง ม่านมุกก็เป็นห่วง เอ่ยขอจะช่วยหิ้วของตั้งหลายที อีกฝ่ายก็ตีมึน ทำไม่สนใจ หิ้วของเดินหนีอยู่นั่นแหละ“จะถึงรถแล้ว หนูม่านช่วยล้วงกุญแจรถในกระเป๋ากางเกงให้อาหน่อยสิ”“ได้ค่ะ”“ล้วงดี ๆนะ เดี๋ยวจับโดนอย่างอื่น”กำลังจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของธรรศ ทว่าสิ่งที่เขาพูดตามมาเล่นเอาม่านมุกชะงักพร้อมช้อนตาขึ้นสบด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อยม่านมุกระบายลมหายใจเนิบช้า ค่อย ๆล้วงมือเข้
“หนูม่านทำอะไร”ม่านมุกที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาพับเสื้อผ้าของธรรศเก็บเข้าตู้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยสะดุ้งนิดเมื่อได้ยินเสียงของธรรศพูดขึ้น“ม่านเก็บเสื้อผ้าให้อาธรรศค่ะ”ด้วยความที่ถูกแม่สอนตั้งแต่เด็กว่าให้จัดเก็บเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อย แยกเสื้อกับกางเกงไว้คนละส่วน เวลาที่จะหยิบออกมาใส่จะได้ง่ายและสะดวก“เละเทะมากใช่ไหม”ธรรศถามยิ้ม ๆ เขาเป็นผู้ชาย เสื้อผ้าตัวไหนอยู่ใกล้มือก็หยิบมาใส่ไว้ก่อน ไม่ได้เลือกมาก เน้นที่เร็วและง่ายที่สุดเป็นหลักเด็กดีของเขาเห็นแล้วคงขัดใจหรือไม่ก็รำคาญตากับความไม่เป็นระเบียบ ถึงได้เก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ แยกสี แยกกางเกงกับเสื้ออย่างเรียบร้อยแบบนี้“ผู้ชายก็แบบนี้แหละค่ะ” ดันประตูตู้เสื้อผ้าปิดก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ธรรศเดินเข้ามาใกล้ “ธุระของอาธรรศเสร็จแล้วเหรอคะ”“เสร็จแล้ว หนูม่านหิวรึยัง”“ในตู้เย็นไม่มีอะไรเลยค่ะ” หลังจากที่ธรรศออกไปจากบ้าน ม่านมุกก็นอนเกลือกกลิ้งไปมาอยู่แป๊บหนึ่ง ตั้งใจว่าจะลุกมาทำข้าวเช้าไว้รอเขา แม้ธรรศจะบอกว่าอาจจะกลับมาสาย แต่พอไปเปิดตู้เย็นดู ไม่มีอะไรนอกจากน้ำเปล่ากับเบียร์“อาทำกับข้าวไม่เป็น อยากมีคนทำใ
หลังจากที่สั่งการลูกน้อง ธรรศก็ยืนนิ่งมองบ้านพักคนงานที่ถูกไฟไหม้ไปหลายหลัง โชคดีที่คนงานช่วยกันดับไฟทันและไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ“ไอ้หมึกมันติดยากับนาย”ยาเสพติดอีกแล้วสินะเขาเคยสั่งนักสั่งหนา สั่งห้ามลูกน้องยุ่งเกี่ยวกับมัน ถ้าใครฝืนคำสั่งแอบเล่นยา ถ้าเขารู้ เขาไม่ปล่อยให้อยู่ที่ไร่เพื่อจะกลายเป็นปัญหาสำหรับคนอื่น“มันคงตั้งใจเผาห้องพักมันแล้วอาศัยจังหวะที่คนงานออกมาช่วยกันดับไฟเข้าไปขโมยเงิน”“ใครที่โดนขโมยเงินให้ไปแจ้งกับคุณแว๋ว เดี๋ยวผมจะจัดการให้เอง” สร้างเรื่องได้ถูกจังหวะ คนงานเพิ่งได้รับเงินเดือนจากฝ่ายบัญชีเมื่อสองวันก่อนคงมีบางคนที่ยังไม่ทันได้เอาเงินไปฝากธนาคารไอ้สารเลวมันเลยได้โอกาสขโมย“ครับนาย”“เด็กคนนั้น ลูกสาวพี่เปี่ยม...อยู่ที่นี่”“นายไปรับมาแล้วเหรอครับ” ชายชราเอ่ยถามผู้เป็นนายด้วยสีหน้าและแววตานอบน้อมธรรศพยักหน้า สองตายังจับอยู่ที่กลุ่มควันที่ลอยขึ้นมาจากกองเถ้าถ่านที่ไฟมอดแล้วสิบกว่าปี ที่รู้จักกับเปี่ยมตอนนั้น เขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบต้น ๆ รู้จักกับอีกฝ่ายด้วยเหตุบังเอิญล้วน ๆ“ช่วงนี้หลานสาวของลุงปิดเทอมใช่ไหม”“ครับ นายจะใช้อะไรมันรึเปล่าครับ”“ให้มาอยู่เป็
“พรุ่งนี้อาจะพาหนูม่านไปทำงานด้วย”อาบน้ำเสร็จ ธรรศก็เดินมายืนอยู่ด้านหน้าของ ม่านมุกในขณะที่เด็กสาวกำลังนั่งหวีผมอยู่ที่ปลายเตียง ดวงตาคมกริบจับไปยังดวงตากลมโตที่ยังคงปรากฏความเศร้าสะท้อนออกมาให้เห็นปลายนิ้วสากเชยคางมนให้เงยขึ้น ใช้เวลาอยู่ด้วยกันแค่ไม่กี่วัน ผ่านความวาบหวามมาก็หลายครั้งเขาเองก็ดูออกว่าเด็กดีของเขาพยายามที่จะเป็นคนเข้มแข็งทั้งที่ใจกำลังเปราะบาง“อยากร้องไห้ไหม หนูม่านร้องออกมาได้เลยนะ ร้องออกมาดัง ๆ”มือขาวเล็กที่จับหวี กำแน่นเข้าจนสั่น ริมฝีปากเล็กบางขยับนิด ต่อจากนั้นเสียงสะอื้นแผ่วเบาถูกปล่อยออกมาพร้อมด้วยหยาดน้ำตาที่ค่อยเอ่อล้นอยู่ที่เบ้าตาก่อนที่จะกลิ้งผ่านขนตาไหลลงมาตามแก้มขาวนวล กายเล็กค่อย ๆไหวเอน หยดน้ำตาไหลรินหยดแล้วหยดเล่า เธอคิดถึงแม่“ม่านคิดถึงแม่”ธรรศทิ้งตัวนั่งชิดกับเด็กสาว สวมกอดแล้วโน้มใบหน้าจูบที่ขมับของอีกฝ่าย ฟังเสียงร่ำไห้จากคนที่พยายามฝืนเป็นคนแข็งแกร่งมาได้ตั้งหลายวัน“แต่งงานกับอานะ อาจะดูแลหนูม่านเอง”“แต่ม่านไม่ได้รักอาธรรศ” รอจนตัวเองสงบแล้ว ม่านมุกก็บอกธรรศไปตรง ๆ บอกธรรศไปแล้วและก็ยินดีจะย้ำให้เขาฟังอีกครั้งโดยที่ไม่มีความลังเลเธอไม
“อาขอโทษ”“อาธรรศไม่จำเป็นต้องขอโทษม่านหรอกนะคะ อาธรรศไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ม่านอยากให้อาธรรศมั่นใจว่าตอนที่ม่านอยู่กับอาธรรศ ม่านไม่มีวันทำผิดต่ออาธรรศค่ะ ม่านรู้หน้าที่ของตัวเองดี”ไม่รู้ว่าต้องอยู่รับใช้ธรรศในฐานะคนร่วมเตียงไปอีกนานแค่ไหน แต่ในระหว่างที่อยู่กับเขาเธอจะซื่อสัตย์ ไม่ทรยศหักหลังเขาแน่“ยังไงอาก็ต้องขอโทษหนูม่านอยู่ดี” เอื้อมมือมาจับที่ศีรษะของม่านมุก ลูบแผ่วเบา ถ้าอยากได้หัวใจของม่านมุก เขาคงต้องใจเย็นให้มากกว่านี้จะบุ่มบ่ามใจร้อน เอาแต่อารมณ์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง…ไม่ได้มาถึงไร่องุ่น พระอาทิตย์ก็ใกล้ตกดินแล้ว ธรรศยกกระเป๋าของม่านมุกขึ้นไปเก็บบนบ้าน ครู่เดียวก็ลงมาพร้อมเอ่ยชวนคนที่ยืนนิ่งอยู่ข้างรถ“ไปเดินเที่ยวสักหน่อยไหม บรรยากาศกำลังดีเลย” ด้วยความที่ย่างเข้าฤดูหนาว ดวงอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้าเร็วกว่าทุกฤดู อากาศก็เริ่มเย็นสบายมากขึ้น สายลมอ่อน ๆที่พัดผ่านในยามเย็นยิ่งทำให้บรรยากาศภายในไร่สวยงามกว่าทุกฤดูแบมือขอมือจากอีกฝ่าย ก่อนที่ม่านมุกจะรู้หน้าที่ ยื่นมือให้ธรรศจับด้วยความเต็มใจก้าวต่อก้าว เดินเคียงคู่กันต่างคนต่างเงียบ แต่มือของธรรศยังกุมมือขาวเล็กไว้ด้วยความทะนุ
“อาธรรศตื่นนานแล้วเหรอคะ ?” หลังจากที่แนบชิดกัน ม่านมุกก็ผล็อยหลับอยู่บนโซฟา ตื่นมาอีกทีก็เห็นว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนแล้ว ธรรศอุ้มเธอมานอนบนเตียงทำเหมือนครั้งก่อนขยับตัวลุกขึ้นมานั่ง ดึงผ้านวมขึ้นมาปิดตัว พลางมองไปยังธรรศที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดตาเขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ“อาตื่นก่อนหนูม่านแป๊บเดียว”ธรรศเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า กายหนาดึงปมสายคาดเอวชุดคลุมอาบน้ำออกแล้วถอดมันออกไปกองที่พื้นเหมือนถูกมนต์สะกด ม่านมุกล็อกสายตาอยู่กับกายกำยำ เห็นแค่ส่วนด้านหลังทว่าใจกับกายกับรู้สึกหวิววาบพอธรรศหันมาทั้งตัว คนที่นั่งอยู่บนเตียงก็รีบก้มหน้างุด สองมือขยุ้มผ้านวมแน่นเห็นมาก็หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่หายตื่นเต้นสักที“อีกหน่อยก็ชิน” ธรรศพูดปนขำ เห็นพวงแก้มที่เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อของม่านมุกแล้วดึงดูดให้ย่างกายเข้าไปหากายหนาคลานเข่าขึ้นไปบนเตียงแล้วยืนด้วยหัวเข่าอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายจับปลายคางเล็กให้เงยขึ้น“ร่างกายของอาเป็นสิทธิ์ของหนูม่าน”รวมถึงหัวใจของเขาด้วยแต่ถึงบอกไป ม่านมุกก็คงไม่เชื่อ เด็กสาวคงคิดว่าเป็นแค่ลมปาก ไม่ได้มีความจริงจังใด ๆ“ร่างกายของหนูม่านก็เป็นสิทธิ์ของอา”ดึง
“ม่านอยากเอากระดูกของแม่ไปลอยอังคารที่ทะเลค่ะ” สิ่งสุดท้ายที่จะทำให้แม่ได้ก็คือส่งแม่ไปในที่ที่มีแต่ความสงบ น้ำตาของม่านมุกยังไม่เหือดแห้ง เธอร้องไห้ทุกวันหลังจากที่แม่เสีย“เดี๋ยวอาจัดการให้”“ขอบคุณอาธรรศมากนะคะที่ช่วยม่านทุกอย่าง”ธรรศอยู่เคียงข้างเธอตลอดตั้งแต่ที่แม่เสีย ม่านมุกยอมรับว่าถ้าไม่มีเขา เธอก็คงเคว้ง คงไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ธรรศเป็นผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่เธอรู้จักตั้งแต่เด็กจนโต ม่านมุกไม่เคยเห็นญาติพี่น้องของพ่อกับแม่ และยิ่งกว่านั้นท่านทั้งสองไม่เคยเอ่ยถึงด้วยซ้ำ จำความได้ว่าตอนเด็ก ๆเคยเอ่ยปากถามอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรตอบกลับมา“อายินดีทำให้หนูม่านทุกอย่าง”ชีวิตของม่านมุกเป็นของเขา เด็กสาวเหลือตัวคนเดียวและแน่นอนว่าเขาไม่ปล่อยให้ไปไหนแน่ ไม่มีวันให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว“คืนนี้เราจะค้างที่นี่ พรุ่งนี้เย็นค่อยกลับไร่”คิดเอาว่าถ้าให้ม่านมุกอยู่ในสถานที่เดิม ๆ ที่ที่มีความทรงจำเกี่ยวกับแม่ เด็กสาวอาจจะยิ่งทุกข์และคิดถึงแม่มากจนส่งผลกระทบร้ายแรงกับความรู้สึก“อาธรรศค้างได้เหรอคะ”ธรรศทิ้งไร่มาอยู่เป็นเพื่อนเธอตั้งแต่วันที่แม่เสีย นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ม่านม