“ทำไมไม่ปลุกม่านล่ะคะ”
พอลืมตาขึ้นก็เห็นธรรศนอนเท้าคางคำศอกลงบนหมอนโดยที่ตะแคงข้างเข้าหา สองกายเปลือยซุกอยู่ใน
ผ้านวมผืนเดียวกันเมื่อคืน
กว่าทุกอย่างจะสงบลง เธอก็เกือบหลับคาอกของธรรศ ไม่คิดว่าหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบปี พละกำลังจะเหลือล้น ชนิดที่ว่าทำรักได้ยาวนาน
รอบต่อรอบ
“อาเห็นหนูม่านหลับสนิทก็เลยไม่อยากกวน”
ไล้นิ้วมือลงกับช่วงบ่าเล็กแล้วเลื่อนไปยังกระดูก
ไหปลาร้าที่นูนขึ้นมาจากผิวเนื้อนวลละมุนม่านมุกตัวเล็กและผอมบาง สัดส่วนของความเป็นหญิงถือว่าอยู่ในขนาดที่พอเหมาะ
“อาธรรศ”
เห็นประกายตาคู่คมที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหาย ม่านมุกก็เอ่ยชื่อของเขาแผ่วเบา
“กับหนูม่าน อาไม่อิ่มจริง ๆ” ดึงผ้านวมออกไปพ้นกายขาวโพลน เนินอกอวบอิ่มเต็มไปด้วยร่องรอยของความซาบซ่านที่เขาทิ้งไว้
ให้ขลุกตัวอยู่กับม่านมุกทั้งวันทั้งคืน เขาก็ทำได้
“อาทำหนูม่านเป็นรอยหมดเลย”
ม่านมุกหลุบตามองตามระดับสายตาของธรรศ ดวงหน้าสวยหวานตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าหน้าอกทั้งสองข้างมีรอยจ้ำแดง ที่เกิดจากฝีมือของเขา
ริมฝีปากหยักแนบลงบนหัวไหล่เล็ก กายหนายัดตัวขึ้นคร่อมร่างบอบบาง เท้ามือคร่อมคนใต้ร่างไว้
จ้องมองด้วยนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหล
“ให้อากินหนูม่านทั้งวันทั้งคืน อาก็ทำได้”
ใบหน้าของม่านมุกร้อนผ่าว ดวงตาสวยหวานจับอยู่ที่ใบหน้าหล่อคมแล้วค่อย ๆเลื่อนลงไปตามแผงอกกว้าง กล้ามเนื้อท้องที่เห็นเป็นลอน
ธรรศดูแลตัวเองดีมาก ไม่มีพุงย้วย ๆให้เห็น
“ไปอาบน้ำกัน อาจะพาหนูม่านไปทำธุระเรื่องแม่”
ไม่ยอมให้ม่านมุกเดิน ธรรศเป็นฝ่ายช้อนอุ้มเด็กสาวขึ้นแล้วพาไปที่ห้องน้ำ วางกายบางไว้บนอ่างพลางมองอีกฝ่ายด้วยสายตาหวานเยิ้มอีกครั้ง
“ไหนบอกว่าจะพาม่านมาอาบน้ำไงคะ”
แค่เห็นสายตาที่ธรรศมอง ม่านมุกก็รู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ เขากินดุ กินจุจริง
“เอาแล้วค่อยอาบ” แยกเรียวขาเล็กให้อ้าออกกว้างแล้วจับให้พาดบนบ่า ปล่อยอีกข้างพาดลงกับขอบเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า “มีอีกหลายที่ ที่อาอยากเอากับหนูม่าน”
ชำแรกตัวตนกลับเข้าสู่เนินเนื้อหวานอีกครั้ง บทรักดำเนินต่อเนื่อง กว่าจะได้จัดการกับธุระส่วนตัว
ธรรศก็กินเด็กน้อยจนอิ่มปากอิ่มท้องได้ตลอดทั้งวัน
“ม่านขอยืมอาธรรศแค่ล้านเดียวนะคะ”
เห็นจำนวนตัวเลขที่โอนเข้าบัญชีของตัวเอง ม่านมุกก็เอ่ยปากถามด้วยความสงสัย เธอขอยืมธรรศแค่หนึ่งล้าน แต่เขากับโอนมาให้สองล้านบาท
“อาอยากให้”
“แต่มันเยอะเกินไปค่ะ ม่านต้องการแค่ล้านเดียวอาธรรศเอาคืนไปเถอะนะคะ แค่ล้านเดียวม่านก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ใช้คืนอาธรรศเมื่อไหร่” ถ้าขายบ้านไม่ได้ เธอก็ยังไม่มีเงินคืนธรรศ จะผ่อนใช้เป็นรายเดือนอย่างที่เคยบอกเขาก็คงต้องผ่อนนานเป็นหลายสิบปีถึงจะใช้หมด
“อาบอกหนูม่านแล้วนี่ ว่าถ้าหนูม่านยอมเป็นของอา หนูม่านจะได้ทุกอย่าง เก็บไว้เถอะ อาอยากให้หนูม่านจริง ๆ” เหลียวหน้ามามองคนที่นั่งอยู่เบาะข้างแวบเดียวก็หันกลับไปมองท้องถนน เงินแค่ไม่กี่ล้าน เขาให้ม่านมุกได้เสมอ มากกว่านี้ก็ให้ได้
“ม่านอยากขออยู่ดูแลแม่ก่อนสักเดือนได้ไหมคะ ?” ธรรศเสนอให้เธอย้ายมาอยู่กับเขาที่ไร่เพื่อแลกกับเงินและแลกกับการที่เขาจะรับผิดชอบเรื่องแม่ให้ทุกอย่าง แน่นอนว่าม่านมุกรู้ว่าธรรศทำได้ตามที่พูด
ดูจากจำนวนเงินสองล้านนี้ก็ได้
เขาโอนให้โดยไม่ลังเล ไม่ต่อรองใด ๆอีกหลังจากที่คุยกันจนชัดเจนแล้ว
“ได้สิ อาให้ตามที่หนูม่านขอ” แค่เดือนเดียว ไม่นานสำหรับเขา รอมาเป็นสิบปีก็ยังรอได้
อีกอย่างตอนนี้
เขากับม่านมุกผูกพันทางกายกันแล้ว อีกไม่นานหัวใจของเด็กสาวก็ต้องเป็นของเขา
“ขอบคุณค่ะ อาธรรศใจดีกับม่านมาก”
ยกมือไหว้อาหนุ่มด้วยความซาบซึ้งใจ ถ้าการที่เธอต้องเป็นผู้หญิงของธรรศแล้วทำให้ชีวิตของแม่ดีขึ้น ถึงไม่รู้ว่าแม่จะได้รับการรักษาที่ดีมากกว่าเดิมแล้วแม่จะหายหรือไม่หายจากโรคร้าย
แต่อย่างน้อย...
เธอก็ยังได้ทำหน้าที่ลูกอย่างเต็มที่
ธรรศยกยิ้ม เขาไม่ใช่คนใจดีหรอก แต่เพราะเป็นม่านมุกถึงได้ยอมทำให้ทุกอย่างต่างหาก
“เสร็จแล้วค่ะอาธรรศ” ก่อนที่จะไปหาแม่ ม่านมุกก็จัดการเรื่องที่ธรรศขอไว้ เธอฉีดยาคุมกำเนิดตามที่เขาขอ ธรรศบอกว่าไม่อยากใช้ถุงยางอนามัยเวลาที่ร่วมรักกับเธอ และเธอก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น“เจ็บไหม”“ไม่ค่ะ” ส่ายหน้าบอกแล้วโชว์รอยเข็มบนหัวไหล่ให้ธรรศดู“ขอบใจนะที่หนูม่านยอมทำเพื่ออา” ดึงม่านมุกเข้ามากอดแล้วหอมที่ขมับด้วยความรักและเอ็นดูถึงจะอยากมีลูกกับม่านมุกมาก แต่ก็รู้ว่ายังไม่ใช่เวลาของอีกฝ่าย ขณะที่ม่านมุกทุกข์ใจเรื่องแม่ เด็กสาวควรเอาเวลาทั้งหมดทุ่มให้แค่เรื่องแม่ก่อน ถ้าทุกอย่างคลี่คลาย เวลานั้นจะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด“ม่านทำเพื่อตัวม่านด้วยค่ะ” เธอเป็นแค่ผู้หญิงของธรรศ เป็นแค่ผู้หญิงที่เขามีไว้ประดับกายในเวลาที่เหงา “อาธรรศสบายใจได้เลยนะคะ ม่านจะไม่มีวันปล่อยท้องเพื่อจับอาธรรศแน่นอนค่ะ”“เด็กดี” ธรรศลูบที่แก้มของม่านมุกแล้วมองด้วยสายตาที่ยากแก่การคาดเดา ม่านมุกจะคิดอย่างไรกับเขาก็สุดแล้วแต่ แต่สำหรับเขา...เมื่อเดินเข้ามาในชีวิตเขาแล้ว จะไม่มีวันได้เดินออกไปไหนได้อีก“ค่อยไปหาแม่พรุ่งนี้ก็ได้นะคะ อาธรรศขับรถมาตั้งหลายชั่วโมง ไปพักก่อนดีไหมคะ” ธรรศขับรถพาเธอมากรุงเทพ
“เปล่าค่ะ ม่านแค่ถามเฉย ๆ”“หนูม่านก็น่าจะรู้ว่าความต้องการของอามากขนาดไหน อาแค่ซื้อกิน ไม่ได้มีเป็นตัวเป็นตน ตอนนี้อามีแค่ หนูม่านคนเดียว” ม่านมุกไม่แสดงอาการว่าหึงว่าหวงเขา เด็กสาวคงถามเพราะอยากรู้แบบทั่วไปอย่างน้อยตอนนี้ธรรศก็มั่นใจว่าถ้ามีม่านมุกอยู่ด้วย เขาคงไม่มีทางได้กลับไปใช้บริการสาว ๆพวกนั้นอีกแล้วและอีกอย่าง ถุงยางอนามัยก็อาจจะไม่จำเป็นกับเขาอีกต่อไป“แต่อีกหน่อยอาคงไม่จำเป็นต้องพกมันติดตัวแล้ว” ยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ในหน้า พลางสุมเท้าเข้าหาอีกฝ่ายที่มองมาคล้ายรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นธรรศวาดแขนโอบที่เอวคอด จับมือขาวเล็กทาบลงบนเป้ากางเกงยีน ให้อีกฝ่ายสัมผัสตัวตนที่กำลังแข็งจัดที่ดุนดันกางเกงยีนจนนูนขึ้นชัด“หนูม่านทำให้อาอยากตลอด”เชยคางมนขึ้นแล้วแนบปากจูบด้วยความเรียกร้องให้เด็กสาวเปิดปากรับลิ้นสากฝ่ามือซุกซนลากไล้ไปตามทรวดทรงองค์เอวแล้วไปหยุดอยู่ที่หน้าอกเต่งตูม ธรรศบีบเบา ๆเพื่อกระตุ้นความกระสันซ่านให้อีกฝ่ายม่านมุกวาดแขนกอดที่ลำคอหนา รั้งให้ใบหน้าคมโน้มต่ำ จากนั้นก็จูบตอบอย่างเงอะงะเพราะยังไม่สันทัด แต่ก็เรียกความร้อนรุ่มจากเรือนกายกำยำได้อย่างดีความรัญจวนซาบซ่านถาโถม
“ไม่เจอกันนานเลยนะธรรศ”น้ำเสียงแหบแห้งของคนป่วยเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นหนุ่มใหญ่ที่เคยเป็นเพื่อนสนิทของสามีจำได้ว่าเมื่อหลายสิบปีก่อน ธรรศกับสามีไปไหนไปกัน สนิทชิดเชื้อเหมือนพี่น้อง “ครับ พี่นิด” ธรรศเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหยุดอยู่ข้างเตียงคนป่วย พิศมองใบหน้าซูบตอบของหญิงสูงวัย นัยน์ตาลึกโบ๋พร้อมทั้งร่างกายที่ซูบผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกชวนให้รู้สึกหดหู่ยิ่งนัก ขนาดเขาที่เป็นคนอื่นยังรู้สึกไม่ดี แล้วม่านมุกที่เป็นลูกสาวแท้ ๆจะต้องเจ็บปวดขนาดไหนที่ต้องมาทนเห็นสภาพที่ไม่น่าดูของแม่ในเวลานี้“มาได้ยังไง ม่านบอกเหรอ ?”ม่านมุกขอให้ธรรศช่วยปิดเรื่องระหว่างเธอกับเขาไม่ให้แม่รู้ เพราะไม่อยากให้แม่เกิดความไม่สบายใจ“ครับ” ธรรศบอกด้วยใบหน้านิ่ง ๆเสตามองไปยังม่านมุกอยู่แว็บเดียวก็วกมามองคนป่วย “พี่นิดเป็นยังไงบ้างครับ”“ไม่ค่อยดี” พูดพลางพักเหนื่อยอยู่เป็นพัก ๆระดับลมหายใจเบาหวิว นัยน์ตาดูเหม่อลอย ไม่มีความสดใส“พี่นิดพักเถอะครับ ผมไม่กวนแล้ว” เห็นคนป่วยดูอ่อนเพลีย ธรรศก็ไม่อยากรบกวน เดิมทีตั้งใจแค่จะแวะมาส่งม่านมุกเท่านั้น แต่ไหน ๆก็มาถึงที่นี่แล้วก็อยากมาดูเห็นกับตาว่าแม่ของเด็กสาวอาการหนักมากขนาดไ
“ม่าน”“ค่ะ แม่” นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ข้างเตียงแม่ ได้ยินเสียงแม่เรียก ม่านมุกก็หลุดออกจากภวังค์ความคิด“ไปเจออาธรรศได้ยังไง”“บังเอิญเจอค่ะแม่ อาธรรศจำม่านได้”โกหกพกลมคำโต เป็นเรื่องยากที่ธรรศกับเธอจะมาเจอกันได้ เคยเห็นกันแค่ครั้งเดียวตอนงานศพพ่อ เธอเองก็ยังจำเขาได้เลือนราง เพราะยังเก็บมือถือเครื่องเก่าของพ่อไว้ ม่านมุกเลยค้นเบอร์โทรศัพท์ของธรรศได้ตอนที่ได้เบอร์มา ยังแอบคิดว่าเขาอาจจะเปลี่ยนเบอร์มือถือใหม่ไปแล้วก็ได้ นับว่ายังมีความโชคดีที่ธรรศยังใช้เบอร์เดิมอยู่“ธรรศเป็นคนดี พ่อรักเขามาก”แม้แต่แม่ก็ยังคิดว่าธรรศเป็นคนดี คงมีแค่เธอคนเดียวสินะที่รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นคนแบบไหน“ม่าน”“ค่ะ แม่” สบตาแม่แล้วรอฟังในสิ่งที่แม่จะพูด“ถ้าแม่ตาย ถ้าม่านลำบาก ขอความช่วยเหลือจากอาธรรศนะ อาธรรศช่วยหนูได้”“ทำไมแม่ถึงมั่นใจในตัวอาธรรศมากขนาดนี้คะ เขาไม่ใช่ญาติเรา เขาแค่เคยเป็นเพื่อนกับพ่อ”ใช่อยู่ว่าธรรศให้เงินจำนวนสองล้านเธอง่าย ๆแต่เขาก็ได้ร่างกายของเธอเป็นสิ่งตอบแทนถ้าธรรศเป็นคนดีอย่างที่พ่อกับแม่พูด ทำไมเขาต้องยื่นข้อเสนอนี้ให้เธอด้วย“เชื่อแม่เถอะม่าน อาธรรศเป็นคนดี”ม่านมุกได้แต
“ม่านอยากเอากระดูกของแม่ไปลอยอังคารที่ทะเลค่ะ” สิ่งสุดท้ายที่จะทำให้แม่ได้ก็คือส่งแม่ไปในที่ที่มีแต่ความสงบ น้ำตาของม่านมุกยังไม่เหือดแห้ง เธอร้องไห้ทุกวันหลังจากที่แม่เสีย“เดี๋ยวอาจัดการให้”“ขอบคุณอาธรรศมากนะคะที่ช่วยม่านทุกอย่าง”ธรรศอยู่เคียงข้างเธอตลอดตั้งแต่ที่แม่เสีย ม่านมุกยอมรับว่าถ้าไม่มีเขา เธอก็คงเคว้ง คงไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ธรรศเป็นผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่เธอรู้จักตั้งแต่เด็กจนโต ม่านมุกไม่เคยเห็นญาติพี่น้องของพ่อกับแม่ และยิ่งกว่านั้นท่านทั้งสองไม่เคยเอ่ยถึงด้วยซ้ำ จำความได้ว่าตอนเด็ก ๆเคยเอ่ยปากถามอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรตอบกลับมา“อายินดีทำให้หนูม่านทุกอย่าง”ชีวิตของม่านมุกเป็นของเขา เด็กสาวเหลือตัวคนเดียวและแน่นอนว่าเขาไม่ปล่อยให้ไปไหนแน่ ไม่มีวันให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว“คืนนี้เราจะค้างที่นี่ พรุ่งนี้เย็นค่อยกลับไร่”คิดเอาว่าถ้าให้ม่านมุกอยู่ในสถานที่เดิม ๆ ที่ที่มีความทรงจำเกี่ยวกับแม่ เด็กสาวอาจจะยิ่งทุกข์และคิดถึงแม่มากจนส่งผลกระทบร้ายแรงกับความรู้สึก“อาธรรศค้างได้เหรอคะ”ธรรศทิ้งไร่มาอยู่เป็นเพื่อนเธอตั้งแต่วันที่แม่เสีย นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ม่านม
“อาธรรศตื่นนานแล้วเหรอคะ ?” หลังจากที่แนบชิดกัน ม่านมุกก็ผล็อยหลับอยู่บนโซฟา ตื่นมาอีกทีก็เห็นว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนแล้ว ธรรศอุ้มเธอมานอนบนเตียงทำเหมือนครั้งก่อนขยับตัวลุกขึ้นมานั่ง ดึงผ้านวมขึ้นมาปิดตัว พลางมองไปยังธรรศที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดตาเขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ“อาตื่นก่อนหนูม่านแป๊บเดียว”ธรรศเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า กายหนาดึงปมสายคาดเอวชุดคลุมอาบน้ำออกแล้วถอดมันออกไปกองที่พื้นเหมือนถูกมนต์สะกด ม่านมุกล็อกสายตาอยู่กับกายกำยำ เห็นแค่ส่วนด้านหลังทว่าใจกับกายกับรู้สึกหวิววาบพอธรรศหันมาทั้งตัว คนที่นั่งอยู่บนเตียงก็รีบก้มหน้างุด สองมือขยุ้มผ้านวมแน่นเห็นมาก็หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่หายตื่นเต้นสักที“อีกหน่อยก็ชิน” ธรรศพูดปนขำ เห็นพวงแก้มที่เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อของม่านมุกแล้วดึงดูดให้ย่างกายเข้าไปหากายหนาคลานเข่าขึ้นไปบนเตียงแล้วยืนด้วยหัวเข่าอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายจับปลายคางเล็กให้เงยขึ้น“ร่างกายของอาเป็นสิทธิ์ของหนูม่าน”รวมถึงหัวใจของเขาด้วยแต่ถึงบอกไป ม่านมุกก็คงไม่เชื่อ เด็กสาวคงคิดว่าเป็นแค่ลมปาก ไม่ได้มีความจริงจังใด ๆ“ร่างกายของหนูม่านก็เป็นสิทธิ์ของอา”ดึง
“อาขอโทษ”“อาธรรศไม่จำเป็นต้องขอโทษม่านหรอกนะคะ อาธรรศไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ม่านอยากให้อาธรรศมั่นใจว่าตอนที่ม่านอยู่กับอาธรรศ ม่านไม่มีวันทำผิดต่ออาธรรศค่ะ ม่านรู้หน้าที่ของตัวเองดี”ไม่รู้ว่าต้องอยู่รับใช้ธรรศในฐานะคนร่วมเตียงไปอีกนานแค่ไหน แต่ในระหว่างที่อยู่กับเขาเธอจะซื่อสัตย์ ไม่ทรยศหักหลังเขาแน่“ยังไงอาก็ต้องขอโทษหนูม่านอยู่ดี” เอื้อมมือมาจับที่ศีรษะของม่านมุก ลูบแผ่วเบา ถ้าอยากได้หัวใจของม่านมุก เขาคงต้องใจเย็นให้มากกว่านี้จะบุ่มบ่ามใจร้อน เอาแต่อารมณ์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง…ไม่ได้มาถึงไร่องุ่น พระอาทิตย์ก็ใกล้ตกดินแล้ว ธรรศยกกระเป๋าของม่านมุกขึ้นไปเก็บบนบ้าน ครู่เดียวก็ลงมาพร้อมเอ่ยชวนคนที่ยืนนิ่งอยู่ข้างรถ“ไปเดินเที่ยวสักหน่อยไหม บรรยากาศกำลังดีเลย” ด้วยความที่ย่างเข้าฤดูหนาว ดวงอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้าเร็วกว่าทุกฤดู อากาศก็เริ่มเย็นสบายมากขึ้น สายลมอ่อน ๆที่พัดผ่านในยามเย็นยิ่งทำให้บรรยากาศภายในไร่สวยงามกว่าทุกฤดูแบมือขอมือจากอีกฝ่าย ก่อนที่ม่านมุกจะรู้หน้าที่ ยื่นมือให้ธรรศจับด้วยความเต็มใจก้าวต่อก้าว เดินเคียงคู่กันต่างคนต่างเงียบ แต่มือของธรรศยังกุมมือขาวเล็กไว้ด้วยความทะนุ
“พรุ่งนี้อาจะพาหนูม่านไปทำงานด้วย”อาบน้ำเสร็จ ธรรศก็เดินมายืนอยู่ด้านหน้าของ ม่านมุกในขณะที่เด็กสาวกำลังนั่งหวีผมอยู่ที่ปลายเตียง ดวงตาคมกริบจับไปยังดวงตากลมโตที่ยังคงปรากฏความเศร้าสะท้อนออกมาให้เห็นปลายนิ้วสากเชยคางมนให้เงยขึ้น ใช้เวลาอยู่ด้วยกันแค่ไม่กี่วัน ผ่านความวาบหวามมาก็หลายครั้งเขาเองก็ดูออกว่าเด็กดีของเขาพยายามที่จะเป็นคนเข้มแข็งทั้งที่ใจกำลังเปราะบาง“อยากร้องไห้ไหม หนูม่านร้องออกมาได้เลยนะ ร้องออกมาดัง ๆ”มือขาวเล็กที่จับหวี กำแน่นเข้าจนสั่น ริมฝีปากเล็กบางขยับนิด ต่อจากนั้นเสียงสะอื้นแผ่วเบาถูกปล่อยออกมาพร้อมด้วยหยาดน้ำตาที่ค่อยเอ่อล้นอยู่ที่เบ้าตาก่อนที่จะกลิ้งผ่านขนตาไหลลงมาตามแก้มขาวนวล กายเล็กค่อย ๆไหวเอน หยดน้ำตาไหลรินหยดแล้วหยดเล่า เธอคิดถึงแม่“ม่านคิดถึงแม่”ธรรศทิ้งตัวนั่งชิดกับเด็กสาว สวมกอดแล้วโน้มใบหน้าจูบที่ขมับของอีกฝ่าย ฟังเสียงร่ำไห้จากคนที่พยายามฝืนเป็นคนแข็งแกร่งมาได้ตั้งหลายวัน“แต่งงานกับอานะ อาจะดูแลหนูม่านเอง”“แต่ม่านไม่ได้รักอาธรรศ” รอจนตัวเองสงบแล้ว ม่านมุกก็บอกธรรศไปตรง ๆ บอกธรรศไปแล้วและก็ยินดีจะย้ำให้เขาฟังอีกครั้งโดยที่ไม่มีความลังเลเธอไม
“ผมเตรียมโต๊ะให้แล้วครับนาย” ลุงสุขเดินเข้ามาหาธรรศ ดวงตาฝ้าฟางของชายสูงวัยเลื่อนมองไปยังหญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยสะอาดสะอ้านโตเป็นสาวเต็มตัวแล้ว สวยเสียด้วย“ขอบคุณครับลุง”ม่านมุกยิ้มน้อย ๆให้ชายชราผู้ซึ่งที่กำลังมองมาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน เหมือนจะเคยเจอ แต่คิดว่าคงไม่ใช่เพราะเพิ่งเคยมาไร่องุ่นของธรรศ ไม่น่าจะเคยเห็นหรือเคยรู้จักคุณลุงคนนี้“ไปตักข้าวกัน” ธรรศแตะที่หลังศอกของม่านมุก บอกให้อีกฝ่ายเดินไปยังเคาน์เตอร์ที่มีถาดอาหารวางเรียงรายอยู่หลายถาด“นายรับอะไรดีคะ”“หนูม่านเลือกก่อนเลย” เหลียวหน้าบอกคนที่ยืนอยู่ข้างกาย ม่านมุกมองถาดอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วจึงบอกแม่ครัวที่รอตักอาหารให้อยู่“เอาผัดผักคะน้ากับไข่เจียวค่ะ เอาข้าวนิดเดียวนะคะ” ไม่ได้รู้สึกหิวมาก แต่กินเพราะเกรงใจธรรศ“เอาแบบนี้อีกจาน แต่เอาข้าวเยอะกว่านี้”ธรรศสั่งเหมือนม่านมุก ยืนรอแค่เดี๋ยวเดียวก็ถือจานข้าวกลับมาที่โต๊ะที่ลุงสุขเตรียมทไว้ให้ ยังไม่ทันได้ลุกไปเอาน้ำดื่ม วิมาลาก็เดินเอาแก้วน้ำมาเสิร์ฟให้แล้ว“แว๋วไม่รู้ว่าคุณธรรศจะมากินข้าวกลางวันด้วย ไม่งั้นก็คงให้แม่ครัวเตรียมอาหารดี ๆให้แล้วค่ะ”วางแก้วน้ำดื่มลงบนโต๊ะให
“ห้องทำงานอา”แม้แต่ห้องทำงานก็ยังเงียบง่าย มีโต๊ะทำงาน มีชั้นวางเอกสาร เรียบง่ายเหมือนห้องนอนที่บ้านม่านมุกกวาดตามองสำรวจ สะดุดตาเข้ากับบานประตูบานใหญ่ที่อยู่ติดผนังด้านหลังโต๊ะทำงานของธรรศ คงเป็นห้องน้ำละมั้ง“ห้องนอน อาทำไว้เผื่ออยากนอนพัก เข้าไปดูกันไหม อาให้คนมาทำความสะอาดแล้ว” เพราะเห็นว่าเด็กดีมองไปยังห้องนอนห้องเล็กที่ทำไว้เผื่อขี้เกียจกลับไปนอนที่บ้าน เขาก็จะนอนที่ห้องนี้แทน แต่ก็นาน ๆทีถึงจะนอนจูงมือม่านมุกเดินไปหลังโต๊ะทำงาน เปิดประตูแล้วให้เด็กสาวเดินเข้าไปก่อน ธรรศเปิดไฟจนสว่างทั่วห้อง เป็นห้องที่ไม่กว้างมาก มีเตียงขนาดสามฟุตและมีห้องน้ำเล็ก ๆอยู่ข้างในด้วยเล็กแต่ก็ไม่ได้ชวนให้อึดอัด“ให้หนูม่านมานอนรอตอนอาทำงาน”“ม่านอยากช่วยงานอาธรรศค่ะ” คิดไว้แล้วว่าจะของานธรรศทำ งานอะไรก็ได้ ขอแค่ได้แบ่งเบาภาระของอีกฝ่ายบ้างก็ยังดี “ม่านไม่เอาเงินเดือนค่ะ ม่านแค่อยากช่วยงานอาธรรศบ้าง”“เป็นเมียเจ้าของไร่ ใครให้ทำงานกันเล่า”“อาธรรศ ม่านจริงจังนะคะ”พอเห็นธรรศยิ้มเหมือนไม่จริงจังกับสิ่งที่เธอบอก ม่านมุกก็ทำหน้าตึงมองเขาแบบเคือง ๆ“อาก็จริงจังกับหนูม่าน จริงจังมาก ๆด้วย”“อาธรรศ” น้ำ
“ม่านไม่เหงาหรอกค่ะ”“อารู้ว่าหนูม่านเก่ง เก่งมาก ๆด้วย” ยกมือลูบศีรษะของม่านมุก ต้องเหงาอยู่แล้ว ทำไมเขาจะไม่รู้ ม่านมุกแค่พูดเพื่อให้เขาสบายใจจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลม่านมุกยิ้มอ่อน รู้สึกสบายใจทุกครั้งเวลาที่ธรรศลูบศีรษะ เขาดูอ่อนโยน แววตามีแต่ความอบอุ่นถ้าไม่ติดว่าเขายื่นข้อเสนอให้เธอเอาตัวเข้าแลกกับเงิน ไม่แน่ เธออาจจะลองเปิดใจให้ธรรศก็ได้เลือกเดินซื้อของที่จะเอาไปทำกินมื้อกลางวันกับมื้อเย็นได้จนครบ ธรรศเป็นฝ่ายหิ้วของเต็มไม้เต็มมือทั้งสองข้าง โดยที่ม่านมุกเสนอตัวจะช่วยหิ้ว เขาก็ไม่ยอม“อาธรรศแบ่งให้ม่านหิ้วบ้างสิคะ มืออาธรรศแดงหมดแล้ว” เห็นนิ้วมือทั้งสิบนิ้วของธรรศที่ถูกหูหิ้วรัดแน่นจนเนื้อเปลี่ยนเป็นสีแดง ม่านมุกก็เป็นห่วง เอ่ยขอจะช่วยหิ้วของตั้งหลายที อีกฝ่ายก็ตีมึน ทำไม่สนใจ หิ้วของเดินหนีอยู่นั่นแหละ“จะถึงรถแล้ว หนูม่านช่วยล้วงกุญแจรถในกระเป๋ากางเกงให้อาหน่อยสิ”“ได้ค่ะ”“ล้วงดี ๆนะ เดี๋ยวจับโดนอย่างอื่น”กำลังจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของธรรศ ทว่าสิ่งที่เขาพูดตามมาเล่นเอาม่านมุกชะงักพร้อมช้อนตาขึ้นสบด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อยม่านมุกระบายลมหายใจเนิบช้า ค่อย ๆล้วงมือเข้
“หนูม่านทำอะไร”ม่านมุกที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาพับเสื้อผ้าของธรรศเก็บเข้าตู้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยสะดุ้งนิดเมื่อได้ยินเสียงของธรรศพูดขึ้น“ม่านเก็บเสื้อผ้าให้อาธรรศค่ะ”ด้วยความที่ถูกแม่สอนตั้งแต่เด็กว่าให้จัดเก็บเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อย แยกเสื้อกับกางเกงไว้คนละส่วน เวลาที่จะหยิบออกมาใส่จะได้ง่ายและสะดวก“เละเทะมากใช่ไหม”ธรรศถามยิ้ม ๆ เขาเป็นผู้ชาย เสื้อผ้าตัวไหนอยู่ใกล้มือก็หยิบมาใส่ไว้ก่อน ไม่ได้เลือกมาก เน้นที่เร็วและง่ายที่สุดเป็นหลักเด็กดีของเขาเห็นแล้วคงขัดใจหรือไม่ก็รำคาญตากับความไม่เป็นระเบียบ ถึงได้เก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ แยกสี แยกกางเกงกับเสื้ออย่างเรียบร้อยแบบนี้“ผู้ชายก็แบบนี้แหละค่ะ” ดันประตูตู้เสื้อผ้าปิดก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ธรรศเดินเข้ามาใกล้ “ธุระของอาธรรศเสร็จแล้วเหรอคะ”“เสร็จแล้ว หนูม่านหิวรึยัง”“ในตู้เย็นไม่มีอะไรเลยค่ะ” หลังจากที่ธรรศออกไปจากบ้าน ม่านมุกก็นอนเกลือกกลิ้งไปมาอยู่แป๊บหนึ่ง ตั้งใจว่าจะลุกมาทำข้าวเช้าไว้รอเขา แม้ธรรศจะบอกว่าอาจจะกลับมาสาย แต่พอไปเปิดตู้เย็นดู ไม่มีอะไรนอกจากน้ำเปล่ากับเบียร์“อาทำกับข้าวไม่เป็น อยากมีคนทำใ
หลังจากที่สั่งการลูกน้อง ธรรศก็ยืนนิ่งมองบ้านพักคนงานที่ถูกไฟไหม้ไปหลายหลัง โชคดีที่คนงานช่วยกันดับไฟทันและไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ“ไอ้หมึกมันติดยากับนาย”ยาเสพติดอีกแล้วสินะเขาเคยสั่งนักสั่งหนา สั่งห้ามลูกน้องยุ่งเกี่ยวกับมัน ถ้าใครฝืนคำสั่งแอบเล่นยา ถ้าเขารู้ เขาไม่ปล่อยให้อยู่ที่ไร่เพื่อจะกลายเป็นปัญหาสำหรับคนอื่น“มันคงตั้งใจเผาห้องพักมันแล้วอาศัยจังหวะที่คนงานออกมาช่วยกันดับไฟเข้าไปขโมยเงิน”“ใครที่โดนขโมยเงินให้ไปแจ้งกับคุณแว๋ว เดี๋ยวผมจะจัดการให้เอง” สร้างเรื่องได้ถูกจังหวะ คนงานเพิ่งได้รับเงินเดือนจากฝ่ายบัญชีเมื่อสองวันก่อนคงมีบางคนที่ยังไม่ทันได้เอาเงินไปฝากธนาคารไอ้สารเลวมันเลยได้โอกาสขโมย“ครับนาย”“เด็กคนนั้น ลูกสาวพี่เปี่ยม...อยู่ที่นี่”“นายไปรับมาแล้วเหรอครับ” ชายชราเอ่ยถามผู้เป็นนายด้วยสีหน้าและแววตานอบน้อมธรรศพยักหน้า สองตายังจับอยู่ที่กลุ่มควันที่ลอยขึ้นมาจากกองเถ้าถ่านที่ไฟมอดแล้วสิบกว่าปี ที่รู้จักกับเปี่ยมตอนนั้น เขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบต้น ๆ รู้จักกับอีกฝ่ายด้วยเหตุบังเอิญล้วน ๆ“ช่วงนี้หลานสาวของลุงปิดเทอมใช่ไหม”“ครับ นายจะใช้อะไรมันรึเปล่าครับ”“ให้มาอยู่เป็
“พรุ่งนี้อาจะพาหนูม่านไปทำงานด้วย”อาบน้ำเสร็จ ธรรศก็เดินมายืนอยู่ด้านหน้าของ ม่านมุกในขณะที่เด็กสาวกำลังนั่งหวีผมอยู่ที่ปลายเตียง ดวงตาคมกริบจับไปยังดวงตากลมโตที่ยังคงปรากฏความเศร้าสะท้อนออกมาให้เห็นปลายนิ้วสากเชยคางมนให้เงยขึ้น ใช้เวลาอยู่ด้วยกันแค่ไม่กี่วัน ผ่านความวาบหวามมาก็หลายครั้งเขาเองก็ดูออกว่าเด็กดีของเขาพยายามที่จะเป็นคนเข้มแข็งทั้งที่ใจกำลังเปราะบาง“อยากร้องไห้ไหม หนูม่านร้องออกมาได้เลยนะ ร้องออกมาดัง ๆ”มือขาวเล็กที่จับหวี กำแน่นเข้าจนสั่น ริมฝีปากเล็กบางขยับนิด ต่อจากนั้นเสียงสะอื้นแผ่วเบาถูกปล่อยออกมาพร้อมด้วยหยาดน้ำตาที่ค่อยเอ่อล้นอยู่ที่เบ้าตาก่อนที่จะกลิ้งผ่านขนตาไหลลงมาตามแก้มขาวนวล กายเล็กค่อย ๆไหวเอน หยดน้ำตาไหลรินหยดแล้วหยดเล่า เธอคิดถึงแม่“ม่านคิดถึงแม่”ธรรศทิ้งตัวนั่งชิดกับเด็กสาว สวมกอดแล้วโน้มใบหน้าจูบที่ขมับของอีกฝ่าย ฟังเสียงร่ำไห้จากคนที่พยายามฝืนเป็นคนแข็งแกร่งมาได้ตั้งหลายวัน“แต่งงานกับอานะ อาจะดูแลหนูม่านเอง”“แต่ม่านไม่ได้รักอาธรรศ” รอจนตัวเองสงบแล้ว ม่านมุกก็บอกธรรศไปตรง ๆ บอกธรรศไปแล้วและก็ยินดีจะย้ำให้เขาฟังอีกครั้งโดยที่ไม่มีความลังเลเธอไม
“อาขอโทษ”“อาธรรศไม่จำเป็นต้องขอโทษม่านหรอกนะคะ อาธรรศไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ม่านอยากให้อาธรรศมั่นใจว่าตอนที่ม่านอยู่กับอาธรรศ ม่านไม่มีวันทำผิดต่ออาธรรศค่ะ ม่านรู้หน้าที่ของตัวเองดี”ไม่รู้ว่าต้องอยู่รับใช้ธรรศในฐานะคนร่วมเตียงไปอีกนานแค่ไหน แต่ในระหว่างที่อยู่กับเขาเธอจะซื่อสัตย์ ไม่ทรยศหักหลังเขาแน่“ยังไงอาก็ต้องขอโทษหนูม่านอยู่ดี” เอื้อมมือมาจับที่ศีรษะของม่านมุก ลูบแผ่วเบา ถ้าอยากได้หัวใจของม่านมุก เขาคงต้องใจเย็นให้มากกว่านี้จะบุ่มบ่ามใจร้อน เอาแต่อารมณ์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง…ไม่ได้มาถึงไร่องุ่น พระอาทิตย์ก็ใกล้ตกดินแล้ว ธรรศยกกระเป๋าของม่านมุกขึ้นไปเก็บบนบ้าน ครู่เดียวก็ลงมาพร้อมเอ่ยชวนคนที่ยืนนิ่งอยู่ข้างรถ“ไปเดินเที่ยวสักหน่อยไหม บรรยากาศกำลังดีเลย” ด้วยความที่ย่างเข้าฤดูหนาว ดวงอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้าเร็วกว่าทุกฤดู อากาศก็เริ่มเย็นสบายมากขึ้น สายลมอ่อน ๆที่พัดผ่านในยามเย็นยิ่งทำให้บรรยากาศภายในไร่สวยงามกว่าทุกฤดูแบมือขอมือจากอีกฝ่าย ก่อนที่ม่านมุกจะรู้หน้าที่ ยื่นมือให้ธรรศจับด้วยความเต็มใจก้าวต่อก้าว เดินเคียงคู่กันต่างคนต่างเงียบ แต่มือของธรรศยังกุมมือขาวเล็กไว้ด้วยความทะนุ
“อาธรรศตื่นนานแล้วเหรอคะ ?” หลังจากที่แนบชิดกัน ม่านมุกก็ผล็อยหลับอยู่บนโซฟา ตื่นมาอีกทีก็เห็นว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนแล้ว ธรรศอุ้มเธอมานอนบนเตียงทำเหมือนครั้งก่อนขยับตัวลุกขึ้นมานั่ง ดึงผ้านวมขึ้นมาปิดตัว พลางมองไปยังธรรศที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดตาเขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ“อาตื่นก่อนหนูม่านแป๊บเดียว”ธรรศเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า กายหนาดึงปมสายคาดเอวชุดคลุมอาบน้ำออกแล้วถอดมันออกไปกองที่พื้นเหมือนถูกมนต์สะกด ม่านมุกล็อกสายตาอยู่กับกายกำยำ เห็นแค่ส่วนด้านหลังทว่าใจกับกายกับรู้สึกหวิววาบพอธรรศหันมาทั้งตัว คนที่นั่งอยู่บนเตียงก็รีบก้มหน้างุด สองมือขยุ้มผ้านวมแน่นเห็นมาก็หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่หายตื่นเต้นสักที“อีกหน่อยก็ชิน” ธรรศพูดปนขำ เห็นพวงแก้มที่เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อของม่านมุกแล้วดึงดูดให้ย่างกายเข้าไปหากายหนาคลานเข่าขึ้นไปบนเตียงแล้วยืนด้วยหัวเข่าอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายจับปลายคางเล็กให้เงยขึ้น“ร่างกายของอาเป็นสิทธิ์ของหนูม่าน”รวมถึงหัวใจของเขาด้วยแต่ถึงบอกไป ม่านมุกก็คงไม่เชื่อ เด็กสาวคงคิดว่าเป็นแค่ลมปาก ไม่ได้มีความจริงจังใด ๆ“ร่างกายของหนูม่านก็เป็นสิทธิ์ของอา”ดึง
“ม่านอยากเอากระดูกของแม่ไปลอยอังคารที่ทะเลค่ะ” สิ่งสุดท้ายที่จะทำให้แม่ได้ก็คือส่งแม่ไปในที่ที่มีแต่ความสงบ น้ำตาของม่านมุกยังไม่เหือดแห้ง เธอร้องไห้ทุกวันหลังจากที่แม่เสีย“เดี๋ยวอาจัดการให้”“ขอบคุณอาธรรศมากนะคะที่ช่วยม่านทุกอย่าง”ธรรศอยู่เคียงข้างเธอตลอดตั้งแต่ที่แม่เสีย ม่านมุกยอมรับว่าถ้าไม่มีเขา เธอก็คงเคว้ง คงไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ธรรศเป็นผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่เธอรู้จักตั้งแต่เด็กจนโต ม่านมุกไม่เคยเห็นญาติพี่น้องของพ่อกับแม่ และยิ่งกว่านั้นท่านทั้งสองไม่เคยเอ่ยถึงด้วยซ้ำ จำความได้ว่าตอนเด็ก ๆเคยเอ่ยปากถามอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรตอบกลับมา“อายินดีทำให้หนูม่านทุกอย่าง”ชีวิตของม่านมุกเป็นของเขา เด็กสาวเหลือตัวคนเดียวและแน่นอนว่าเขาไม่ปล่อยให้ไปไหนแน่ ไม่มีวันให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว“คืนนี้เราจะค้างที่นี่ พรุ่งนี้เย็นค่อยกลับไร่”คิดเอาว่าถ้าให้ม่านมุกอยู่ในสถานที่เดิม ๆ ที่ที่มีความทรงจำเกี่ยวกับแม่ เด็กสาวอาจจะยิ่งทุกข์และคิดถึงแม่มากจนส่งผลกระทบร้ายแรงกับความรู้สึก“อาธรรศค้างได้เหรอคะ”ธรรศทิ้งไร่มาอยู่เป็นเพื่อนเธอตั้งแต่วันที่แม่เสีย นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ม่านม