หลังจากคืนนั้นที่เขาต้องยอมเรียกลูกน้องมาขับรถให้ พายุก็ยังคงรับส่งเธอเพื่อลองชุดเตรียมตัวถ่ายพรีเวดดิ้งตามที่ได้นัดไว้ ในร้าน พายุนั่งเลื่อนโทรศัพท์นั่งรออยู่ตรงโซฟาแม้ว่าเจ้าสาวตรงหน้าจะกำลังหมุนตัวไปมาเพื่อให้เขาดูชุดที่ถูกใจ
“ชุดนี้เจ้าบ่าวว่ายังไงบ้างคะ? ดิฉันคิดว่าชุดเข้ากับเจ้าสาวมากเลยค่ะ กระโปรงก็...”
“เอาชุดที่ว่านี้แหละ” พายุตอบทั้งที่ตัวเองยังไม่เงยหน้าขึ้นมองเธอเลยสักนิด รอยยิ้มบนใบหน้ายี่หวาที่มีในตอนแรกหุบลงทันทีที่ได้ยิน เขาดูไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อยยังคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหรูอยู่อย่างนั้น
เมื่อพนักงานสาวเห็นอย่างนั้นก็ถึงกับทำหน้าเจื่อนก่อนจะหันไปหยิบชุดเจ้าบ่าวที่คิดว่าเข้าคู่กับชุดเจ้าสาวที่สุดออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มตามมารยาท หวังว่าชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าบ่าวจะหันมาสนใจเสียสักนิดก็ยังดี
“เจ้าบ่าวลองชุดนี้สิคะ ดิฉันว่ามันเข้าคู่กับชุดเจ้าสาวหรือว่าเจ้าบ่าวมีสีไหน...”
“ชุดไหนก็ได้” พายุตอบสวนขึ้นมาและยังคงนั่งอยู่ท่าเดิมไม่เปลี่ยน ก้มหน้าก้มตามองโทรศัพท์ตามเคย ยี่หวาเห็นอย่างนั้นจึงหันไปมองหน้าพนักงานสาวที่ตอนนี้ทำหน้าไม่ถูกไม่รู้ว่าจะไปต่อยังไง
“เอาสองชุดนี้ก็ได้ค่ะ” เธอพูดพร้อมส่งยิ้มให้พนักงานสาวอย่างเป็นมิตรก่อนจะพาตัวเองเดินเข้าห้องแต่งตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเงียบๆ พนักงานสาวก็จัดแจงชุดแยกไว้รอส่งไปในวันงานตามที่ได้รายละเอียดไว้ก่อนจะเข้ามาลองชุด
“เอ่อ...ไม่ทราบว่าเรื่องพรีเวดดิ้งจะเลือกสถานที่...”
“ไม่ต้องถ่าย ผมขอตัดต่อเอไอแทน ผมไม่ว่าง” พายุเก็บโทรศัพทเมื่อหางตาเห็นว่ายี่หวาเดินออกมาจากห้องแต่งตัวหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ยี่หวาถึงกับสะอึกเมื่อได้ยินเขาพูดอย่างนั้น
พายุปลายตามองเธอครู่หนึ่งก่อนจะเดินนำออกจากร้านไปพร้อมกับลูกน้องมือซ้าย ส่วนมือขวายืนรอให้ยี่หวาเดินออกไปจึงจะเดินตาม ทั้งสี่เดินมาถึงรถคันหรูสองคันที่เตรียมมา รถคันหนึ่งของบอดี้การ์ดคันหนึ่งของพายุ เขาหันกลับมาทางยี่หวาที่เดินคอตกตามหลังอย่างเงียบๆ
“ไอ้เมษ มึงไปส่งคุณยี่หวา” พายุเอ่ย
“อ้าว แล้วนายล่ะครับ?”
“เรื่องของกู” พายุพูดแค่นั้นก่อนจะขึ้นรถไปโดยมีมือซ้ายอย่างแฟนต้าเปิดประตูให้ เมษถึงกับอ้าปากค้างกับการกระทำของเจ้านายตน บางครั้งก็เหมือนกับว่าเป็นห่วงยี่หวาบางครั้งก็ดูเหมือนไยดีเธอเลย
“เชิญครับคุณยี่หวา” เมษเอ่ยพร้อมกับเปิดประตูรถให้หญิงสาวที่ยังคงมองไปยังรถอีกคัน ยี่หวาหันกลับไปพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปนั่งหลังรถตามที่เมษบอก รถพายุค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปก่อนหน้าเธอโดยไม่มีรีรอ เมษเดินขึ้นรถประจำคนขับก่อนจะคาดเข็มขัดอย่างเงียบๆ
“เอ่อ...คุณ...เมษใช่ไหมคะ?”
“อ๋อ ครับ...ไม่ได้แนะนำตัวเลย ผมเป็นมือขวาของคุณพายุชื่อเมษครับคุณหนู”
“คือว่า...คุณพายุจะไปไหนเหรอคะเวลานี้”
“ผมว่า...ไม่ใช่เรื่องที่คุณหนูควรรู้ครับ” เมษตอบแค่นั้นก่อนจะออกรถไปคนละทางกับพายุทันที ยี่หวายคิดหนักกับคำตอบนั้นและแอบคิดว่าเขาคงจะมีธุระหรือไม่ก็...อาจจะไปหาผู้หญิงคนอื่นก็ได้จากที่เห็นเขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับโทรศัพท์ก็เดาได้ไม่อยาก แม้จะรู้สึกเศร้าแต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับเธออีกต่อไป เธอแค่แต่งงานตามหน้าที่ซ้ำยังเป็นเจ้าสาวที่เขาไม่ชอบขี้หน้าเสียอีก
“อย่าเศร้าไปเลยครับ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นอย่างที่คุณคิดก็เถอะ” เมษพูดพร้อมกับยิ้มร่าส่งให้เธอผ่านกระจกหน้ารถ ยี่หวาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะยิ้มแห้งๆตอบ
“ขอบคุณนะคะ...ไม่ได้ช่วยให้ใจชื้นขึ้นมาเลย” ยี่หวาตอบไปตามความจริงอย่างไม่ปิดบัง
“คุณยี่หวา...ชอบคุณพายุหรือครับ?”
“ก็...มันคงไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ เพราะคุณพายุคงเกลียดฉันไปแล้ว” ยี่หวาเอ่ยขึ้นพลางหันหน้าออกไปมองด้านนอกรถพยายามหลบเลี่ยงใบหน้าที่เศร้าสร้อยของตัวเอง
“ก็คุณเล่นปลอมตัวเป็นผู้หญิงธรรมดาทำงานร้านกาแฟนี่ครับ เป็นใครก็โกรธ”
“ฉันไม่ได้ปลอมตัวสักหน่อย”
“คุณพายุเข้าใจว่าอย่างนั้นครับ”
“ช่างเขาเถอะค่ะ คุณเมษแวะร้านผัดไทยหน่อยได้ไหมคะ?”
“คุณหิวเหรอครับ? ไปร้านในห้างใกล้ๆไหมครับ?”
“ไม่ล่ะค่ะ ขอร้านผัดไทยหน้าปากซอยทางเข้าบ้านก็พอ”
“คุณดูเป็นคนกินง่ายอยู่ง่ายไม่เหมือนคุณหนูเลยนะครับ”
เมษพูดขึ้นพลางหัวเราะเล็กน้อยอย่างไม่อยากเชื่อ ปกติที่เคยเห็นเหล่าคุณหนูมักจะเข้าร้านอาหารแพงๆเสียมากกว่าจะสนใจร้านอาหารข้างทางที่ดูไม่ค่อยถูกสุขอนามัยเสียเท่าไหร่ ยี่หวาไม่ได้ตอบแต่ยิ้มแหยๆให้แล้วมองไปทางอื่นตามเดิม
หลังจากขับรถมาได้สักพักเมษก็ได้จอดรถร้านผัดไทยหน้าปากทางเข้าหมู่บ้านของยี่หวาตามที่เธอบอก ยี่หวาเปิดประตูลงจากรถโดยไม่รอให้เมษมาเปิดให้ เมษชะงักครู่หนึ่งแต่ก็พยักหน้าอย่างเงียบๆแล้วเดินตามเธอไปยังหน้าร้านผัดไทยนั้น
“เอาผัดไทยกุ้งสดสองค่ะ”
“คุณยี่หวาทานคนเดียวสองจานเลยเหรอครับ?”
“เผื่อคุณไงคะ”
“ครับ? ผมเหรอ?” เมษทำหน้าตางุนงงพร้อมกับชี้นิ้วมาที่ตัวเอง ยี่หวาพยักหน้ายิ้มๆก่อนจะเดินนำไปนั่งที่โต๊ะแสตนเลสที่ว่างอยู่ เมษหันมองตามก่อนจะเดินตามไปนั่งตรงข้ามเธออย่างเงียบๆ
“เห็นคุณมายืนรอฉันกับคุณพายุตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรเลยแม้แต่น้ำ มื้อนี้ฉันเลี้ยงค่ะ” ยี่หวาเอ่ยขึ้นพร้อมกับจัดแจงแก้วน้ำที่อยู่ไม่ไกลนักพร้อมกับรินน้ำในเหยือกพลาสติกใส่แก้วแล้วยื่นให้เมษอย่างคล่องแคล่ว เมษมองตามก่อนจะลอบมองใบหน้าของเธออย่างนึกสงสัย
“คุณยี่หวามาทานที่นี่บ่อยเหรอครับ?”
“ค่ะ”
“ทำไม...ไม่ให้คนรับใช้ในบ้านทำให้ล่ะครับ?”
“เอ่อ...คนรับใช้ทำให้จะอร่อยสู้คนที่ถนัดทำผัดไทยอร่อยๆมาหลายสิบปีได้ยังไงล่ะคะ” ยี่หวาพูดก่อนจะคว้าแก้วน้ำขึ้นมาดื่มพยายามปิดบังความน่าสงสัยไว้
“อ๋อ งั้นเองเหรอครับ” เมษตอบรับ ไม่นานนักผัดไทยก็มาสเสิร์ฟที่โต๊ะสองจาน ทั้งสองนั่งคุยกันไปทานผัดไทยไปราวกับคนคุ้นเคยทั้งที่เคยคุยกันครั้งนี้ครั้งแรก ยี่หวาดูแตกต่างจากที่เขาคิดไว้มากและเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้านายของเขาถึงได้ชอบเธอ แต่ติดตรงที่ว่า...เจ้านายของเขาปากแข็งไปเสียหน่อย
อีกด้านหนึ่ง
พายุวนรถกลับมายังร้านลองชุดเมื่อครู่หลังจากที่สั่งมือซ้ายของตัวเองวนรถรอบซอยอยู่รอบหนึ่ง ชายหนุ่มเดินเข้าร้านมาอย่างเงียบๆ พนักงานสาวคนเดิมเดินเข้าไปทักทายเขาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ในใจกลัวว่าลูกค้าจะยกเลิกเพราะไม่ถูกใจที่เธอแนะนำมากเกินไปหรือเปล่า
“คะ...คุณลูกค้ามีอะไรหรือเปล่าคะ? หรือว่า...”
“ผมมาลองชุดอีกครั้งน่ะครับ”
“คะ?”
“พอดีเมื่อครู่ผมติดงานเลยไม่ได้สนใจ”
“อ๋อ ได้สิคะ” ว่าแล้วพนักสาวก็เดินไปหยิบชุดที่เลือกไว้ตอนแรกมาให้พายุดู พายุมองดูชุดคู่นั้นอย่างพิจารณาก่อนจะหันไปเอ่ยถามพนักงานสาว
“ชุดเจ้าสาวมีกระโปรงเรียบๆไม่ฟูฟ่องมาขนาดนี้ไหมครับ? ปิดไหล่ ปิดอกไม่โป๊มาก ขอเป็นสีขาวชุดสูทเจ้าบ่าวก็เป็นสีขาว”
“มีค่ะ เป็นชุดที่ทางร้านพึ่งออกแบบมาอาทิตย์นี้เลยค่ะ ยังไม่เคยมีใครได้ชุดคู่นี้ไป” ว่าจบพนักงานก็นำชุดที่ว่านั้นออกมาให้เขาพิจารณาดู พายุมองชุดนั้นครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า
“เอาชุดนี้ครับ สัดส่วนเจ้าสาวคุณจำได้ใช่ไหมครับ?”
“ได้ค่ะ ทางร้านลงรายละเอียดไว้”
“ถ้าอย่างนั้นผมขอลองชุดหน่อย จะได้ปรับแก้ได้”
“ได้เลยค่ะ” พนักงานยิ้มรับก่อนจะเดินนำเขาไปยังห้องลองเสื้อผ้า พายุจัดการลองชุดสูทนั้นก่อนจะเดินออกมาให้พนักงานวัดตัว เขามองตัวเองในกระจกสำรวจชุดว่ามีตรงไหนที่ต้องแก้หรือไม่ แฟนต้าเห็นอย่างนั้นก็ยืนเอามือปิดปากก้มหน้าลงหัวเราะเบาๆ
“ขำอะไรของมึงไอ้ต้า” พายุปราดสายตามองลูกน้องตัวเองพลางขมวดคิ้ว
“จะเล่นบทโหดไม่สนใจเธอก็ลำบากหน่อยนะครับนาย อุตส่าห์ทำทรงขับรถวนซอยตั้งรอบนึง ฮึๆ” แฟนต้าพูดจบก็หัวเราะอีกครั้ง พายุปรายสายตามองไปรอบๆที่พนักงานที่ได้ยินต่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พายุจึงหันไปส่งสายตาดุใส่ลูกน้องตน
“มึงก็รู้จักหุบปากซะบ้างไอ้ต้า” เค้นคำพูดออกจากไรฟันก่อนจะกระแอมเบาๆ แล้วทำหน้าจริงจังกับการลองชุดเจ้าบ่าวต่อ แม้ว่าลูกน้องของเขายืนหัวเราะอยู่ข้างหลังก็ตาม
“แล้วเรื่องพรีเวดดิ้ง....”
“ขอเป็นร้านกาแฟครับ” พายุเอ่ยแค่นั้นก่อนจะเดินกลับเข้าไปเปลี่ยนชุดอีกครั้งในชุดปกติ หลังจากที่พนักงานจดรายละเอียดที่ต้องแก้ไขชุดให้เรียบร้อยแล้ว
บทนำ หญิงสาวนอนตัวสั่นเทาอยู่ใต้ร่างของชายหนุ่มที่เธอตกหลุมรักมาตลอด เขาคือสามีของเธอที่ไม่เคยกลับเรือนหอเลยตั้งแต่คืนแรกที่เข้าหอ แต่ตอนนี้เขากลับมาทำร้ายจิตใจเธออย่างไม่เหลือชิ้นดี... “คุณพายุ! ฉันบอกให้ปล่อยฉัน!!” แม้ว่าร่างกายจะสั่นเพราะความกลัวคนตรงหน้าที่ตอนนี้ดูแตกต่างจากปกติ แต่เธอก็ยังพยายามข่มเสียงไม่ให้สั่น เก็บกลั้นน้ำตาไว้และจ้องมองเขาอย่างไม่ยอม “หึ! ทีมันยังแตะต้องตัวเธอได้ ทำไมทีผัวตัวเองถึงจะไม่ได้!!” พายุตะคอกเสียงดังลั่นห้องพร้อมทั้งหลุบสายตามองเธอที่อยู่ใต้ร่างด้วยสายตาดุดัน ภาพที่เขาเห็นวันนี้คือภรรยาของตัวเองจับมือถือแขนผู้ชายคนอื่นอย่างไม่ถือตัวราวกับว่าลืมไปแล้วว่าตัวเองมีสามีอยู่ “ทำไมฉันจะทำไม่ได้ ทีคุณ..ฮึก...ยังทำได้เลย!” “เธอเป็นเมียฉันเข้าใจไหมยี่หวา! เธอเป็นของฉัน!” “ฉันไม่ใช่เมียคุณ! นั่นมันก็แค่ในนามอย่าได้เข้าใจผิด!!” “งั้นเหรอ? อย่างนั้นเองสินะ...งั้นวันนี้ก็ทำหน้าที่ของเธอซะสิ!!” “ไม่!! อย่านะ!! กรี๊ดดดดดด!!” ไม่ฟังเ
ห้องอาหารโรงแรมดังในเครือของบริษัทพีวาย แต่คนไม่ค่อยรู้เท่าไหร่นักเพราะมันอยู่ในเครือบริษัทขนส่งต่างประเทศนอกเสียจากพนักงานที่เข้ามาอบรมถึงจะได้รู้ว่าเป็นสายเครือเดียวกันกับบริษัทพีวายที่พายุเป็นประธานบริษัทอยู่ การขนส่งนำเข้าข้าวของเครื่องใช้วัตถุดิบล้วนมาจากบริษัทพีวายทั้งหมด โรงแรม คลับ บาร์ ในย่านนี้ ย่านที่โรงแรมตั้งอยู่ล้วนแต่เป็นของพายุประธานบริษัทพีวายทั้งสิ้น เขาสร้างมันขึ้นมาหลังจากรับตำแหน่งประธานบริษัทใหม่ๆ เพื่อให้ธุรกิจมันก้าวหน้าไปได้ทุกทาง เพราะมัวแต่ยุ่งๆเรื่องงานถึงยังไม่ได้แต่งงานสักที ที่ผ่านมาก็มีแต่ดารา นางแบบที่เข้าหาเขาเพื่อหวังจะสุขสบายไปทั้งชีวิต แต่กลับไม่มีหญิงสาวที่ทำให้เขาถูกใจได้เลยสักคนส่วนมากเข้าหาเขาเพราะเงินทั้งนั้น จึงทำได้แค่สนองในสิ่งที่หญิงสาวเหล่านั้นเสนอให้ก็เท่านั้นและจบลงที่จำนวนเงินอย่างที่หญิงสาวเหล่านั้นต้องการก็เท่านั้น “พร้อมหรือยังหลานย่า” คุ
บรรยากาศภายในรถเงียบสนิท ไม่มีใครกล้าเอ่ยคำใดแม้แต่ลูกน้องมือซ้ายและมือขวาจอมกวนประสาทของพายุ ทั้งสองได้แต่ลอบมองพายุและยี่หวาผ่านกระจกมองหลังเท่านั้น ทั้งเธอและเขาต่างหันหน้าไปกันคนละทางเหม่อมองออกไปยังหน้าต่าง คนที่ดูสีหน้าไม่ค่อยดีนักคงไม่พ้นพายุเจ้านายของพวกเขา “เอ่อ...จะไปที่ไหนครับนาย” เมษที่ขับรถให้เขาเอ่ยถามขึ้น พายุหันไปมองลูกน้องของตนก่อนจะเหลือบไปเห็นป้ายด้านหน้าว่าโฮเต็ลจึงคิดแผนบางอย่างออก “เลี้ยวเข้าโรงแรมด้านหน้า” “ครับ?” เมษถามย้ำอีกครั้งก่อนที่พายุจะขมวดคิ้วแน่นจ้องมองลูกน้องของตน เขาจึงพยักหน้าแล้วเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านยรูดอย่างที่เจ้านายต้องการ ยี่หวาเห็นรอบข้างแปลกไปก็รีบหันก
หลังจากที่พายุมาส่งเธอถึงหน้าบ้านหลังใหญ่พร้อมกับให้เสื้อสูทมาคุมไหล่เธอปกปิดเสื้อผ้าที่ขาดรุ่ยเพราะน้ำมือเขา พายุไม่ได้เอ่ยคำบอกลาใดๆเหมือนครั้งก่อนที่เธอเป็นสาวร้านกาแฟ รถของเขาแล่นออกจากเธอไปเงียบๆ โดยที่พายุไม่ได้สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย ยี่หวาเดินเข้าบ้านมาด้วยท่าทีเศร้าสร้อยแต่เมื่อเห็นคุณหญิงและคุณผู้ชายที่รับบทเป็นพ่อแม่ของเธอนั่งรออยู่ก็รีบปั้นหน้าให้เป็นปกติที่สุด ในใจคิดไว้แล้วว่าจะขอท่านทั้งสองให้ยกเลิกงานหมั้นแม้ว่าจะมีความเป็นไปได้น้อยแค่ไหนก็อยากจะลองขอดูก่อน “เป็นยังไงบ้างยี่หวา เขาไม่ได้ทำอะไรใช่ไหม?” มุกดาเดินเข้ามาถามไถ่เธอด้วยสีหน้าเป็นห่วง ยี่หวาดึงเสื้อสูทมาปิดรอยแดงให้มิดก่อนจะส่ายหน้าไปมาแล้วส่งยิ้มให้บางๆ&nb
บรรยากาศภายในโต๊ะอาหารร้านหรูช่างเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงเพลงที่เอ่อคลอเบาๆภายในร้าน พายุเอาแต่นั่งไขว่ห้างจิบไวน์ในมือพร้อมกับเบือนหน้าไปทางอื่น แค่หันไปมองเธอสักครั้งยังไม่มีเลย ขนาดนั่งรถคันเดียวกันเขายังไม่ยอมพูดอะไรกับเธอสักคำ ความอึดอัดแทรกเข้าระหว่างพายุแลยะยี่หวาจนเธอเองก็ทำหน้าไม่ถูก ได้แต่ลอบมองใบหน้าของเขาเป็นระยะๆเท่านั้น อาหารเต็มโต๊ะแต่กลับไม่ได้ทำให้ความอยากอาหารเพิ่มขึ้นเลยแม้แต่น้อย “อะ...เอ่อ...” “ทำไมไม่กิน? หรือว่าอาหารพวกนี้มันถูกไปสำหรับคุณหนูวาวา...ไม่สิ ยี่หวา..” “.......” “หึ...เปลี่ยนชื่อกลับไปกลับมาเป็นว
หลังจากคืนนั้นที่เขาต้องยอมเรียกลูกน้องมาขับรถให้ พายุก็ยังคงรับส่งเธอเพื่อลองชุดเตรียมตัวถ่ายพรีเวดดิ้งตามที่ได้นัดไว้ ในร้าน พายุนั่งเลื่อนโทรศัพท์นั่งรออยู่ตรงโซฟาแม้ว่าเจ้าสาวตรงหน้าจะกำลังหมุนตัวไปมาเพื่อให้เขาดูชุดที่ถูกใจ “ชุดนี้เจ้าบ่าวว่ายังไงบ้างคะ? ดิฉันคิดว่าชุดเข้ากับเจ้าสาวมากเลยค่ะ กระโปรงก็...” “เอาชุดที่ว่านี้แหละ” พายุตอบทั้งที่ตัวเองยังไม่เงยหน้าขึ้นมองเธอเลยสักนิด รอยยิ้มบนใบหน้ายี่หวาที่มีในตอนแรกหุบลงทันทีที่ได้ยิน เขาดูไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อยยังคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหรูอยู่อย่างนั้น เมื่อพนักงานสาวเห็นอย่างนั้นก็ถึงกับทำหน้าเจื่อนก่อนจะหันไปหยิบชุดเจ้าบ่าวที่คิดว
บรรยากาศภายในโต๊ะอาหารร้านหรูช่างเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงเพลงที่เอ่อคลอเบาๆภายในร้าน พายุเอาแต่นั่งไขว่ห้างจิบไวน์ในมือพร้อมกับเบือนหน้าไปทางอื่น แค่หันไปมองเธอสักครั้งยังไม่มีเลย ขนาดนั่งรถคันเดียวกันเขายังไม่ยอมพูดอะไรกับเธอสักคำ ความอึดอัดแทรกเข้าระหว่างพายุแลยะยี่หวาจนเธอเองก็ทำหน้าไม่ถูก ได้แต่ลอบมองใบหน้าของเขาเป็นระยะๆเท่านั้น อาหารเต็มโต๊ะแต่กลับไม่ได้ทำให้ความอยากอาหารเพิ่มขึ้นเลยแม้แต่น้อย “อะ...เอ่อ...” “ทำไมไม่กิน? หรือว่าอาหารพวกนี้มันถูกไปสำหรับคุณหนูวาวา...ไม่สิ ยี่หวา..” “.......” “หึ...เปลี่ยนชื่อกลับไปกลับมาเป็นว
หลังจากที่พายุมาส่งเธอถึงหน้าบ้านหลังใหญ่พร้อมกับให้เสื้อสูทมาคุมไหล่เธอปกปิดเสื้อผ้าที่ขาดรุ่ยเพราะน้ำมือเขา พายุไม่ได้เอ่ยคำบอกลาใดๆเหมือนครั้งก่อนที่เธอเป็นสาวร้านกาแฟ รถของเขาแล่นออกจากเธอไปเงียบๆ โดยที่พายุไม่ได้สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย ยี่หวาเดินเข้าบ้านมาด้วยท่าทีเศร้าสร้อยแต่เมื่อเห็นคุณหญิงและคุณผู้ชายที่รับบทเป็นพ่อแม่ของเธอนั่งรออยู่ก็รีบปั้นหน้าให้เป็นปกติที่สุด ในใจคิดไว้แล้วว่าจะขอท่านทั้งสองให้ยกเลิกงานหมั้นแม้ว่าจะมีความเป็นไปได้น้อยแค่ไหนก็อยากจะลองขอดูก่อน “เป็นยังไงบ้างยี่หวา เขาไม่ได้ทำอะไรใช่ไหม?” มุกดาเดินเข้ามาถามไถ่เธอด้วยสีหน้าเป็นห่วง ยี่หวาดึงเสื้อสูทมาปิดรอยแดงให้มิดก่อนจะส่ายหน้าไปมาแล้วส่งยิ้มให้บางๆ&nb
บรรยากาศภายในรถเงียบสนิท ไม่มีใครกล้าเอ่ยคำใดแม้แต่ลูกน้องมือซ้ายและมือขวาจอมกวนประสาทของพายุ ทั้งสองได้แต่ลอบมองพายุและยี่หวาผ่านกระจกมองหลังเท่านั้น ทั้งเธอและเขาต่างหันหน้าไปกันคนละทางเหม่อมองออกไปยังหน้าต่าง คนที่ดูสีหน้าไม่ค่อยดีนักคงไม่พ้นพายุเจ้านายของพวกเขา “เอ่อ...จะไปที่ไหนครับนาย” เมษที่ขับรถให้เขาเอ่ยถามขึ้น พายุหันไปมองลูกน้องของตนก่อนจะเหลือบไปเห็นป้ายด้านหน้าว่าโฮเต็ลจึงคิดแผนบางอย่างออก “เลี้ยวเข้าโรงแรมด้านหน้า” “ครับ?” เมษถามย้ำอีกครั้งก่อนที่พายุจะขมวดคิ้วแน่นจ้องมองลูกน้องของตน เขาจึงพยักหน้าแล้วเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านยรูดอย่างที่เจ้านายต้องการ ยี่หวาเห็นรอบข้างแปลกไปก็รีบหันก
ห้องอาหารโรงแรมดังในเครือของบริษัทพีวาย แต่คนไม่ค่อยรู้เท่าไหร่นักเพราะมันอยู่ในเครือบริษัทขนส่งต่างประเทศนอกเสียจากพนักงานที่เข้ามาอบรมถึงจะได้รู้ว่าเป็นสายเครือเดียวกันกับบริษัทพีวายที่พายุเป็นประธานบริษัทอยู่ การขนส่งนำเข้าข้าวของเครื่องใช้วัตถุดิบล้วนมาจากบริษัทพีวายทั้งหมด โรงแรม คลับ บาร์ ในย่านนี้ ย่านที่โรงแรมตั้งอยู่ล้วนแต่เป็นของพายุประธานบริษัทพีวายทั้งสิ้น เขาสร้างมันขึ้นมาหลังจากรับตำแหน่งประธานบริษัทใหม่ๆ เพื่อให้ธุรกิจมันก้าวหน้าไปได้ทุกทาง เพราะมัวแต่ยุ่งๆเรื่องงานถึงยังไม่ได้แต่งงานสักที ที่ผ่านมาก็มีแต่ดารา นางแบบที่เข้าหาเขาเพื่อหวังจะสุขสบายไปทั้งชีวิต แต่กลับไม่มีหญิงสาวที่ทำให้เขาถูกใจได้เลยสักคนส่วนมากเข้าหาเขาเพราะเงินทั้งนั้น จึงทำได้แค่สนองในสิ่งที่หญิงสาวเหล่านั้นเสนอให้ก็เท่านั้นและจบลงที่จำนวนเงินอย่างที่หญิงสาวเหล่านั้นต้องการก็เท่านั้น “พร้อมหรือยังหลานย่า” คุ
บทนำ หญิงสาวนอนตัวสั่นเทาอยู่ใต้ร่างของชายหนุ่มที่เธอตกหลุมรักมาตลอด เขาคือสามีของเธอที่ไม่เคยกลับเรือนหอเลยตั้งแต่คืนแรกที่เข้าหอ แต่ตอนนี้เขากลับมาทำร้ายจิตใจเธออย่างไม่เหลือชิ้นดี... “คุณพายุ! ฉันบอกให้ปล่อยฉัน!!” แม้ว่าร่างกายจะสั่นเพราะความกลัวคนตรงหน้าที่ตอนนี้ดูแตกต่างจากปกติ แต่เธอก็ยังพยายามข่มเสียงไม่ให้สั่น เก็บกลั้นน้ำตาไว้และจ้องมองเขาอย่างไม่ยอม “หึ! ทีมันยังแตะต้องตัวเธอได้ ทำไมทีผัวตัวเองถึงจะไม่ได้!!” พายุตะคอกเสียงดังลั่นห้องพร้อมทั้งหลุบสายตามองเธอที่อยู่ใต้ร่างด้วยสายตาดุดัน ภาพที่เขาเห็นวันนี้คือภรรยาของตัวเองจับมือถือแขนผู้ชายคนอื่นอย่างไม่ถือตัวราวกับว่าลืมไปแล้วว่าตัวเองมีสามีอยู่ “ทำไมฉันจะทำไม่ได้ ทีคุณ..ฮึก...ยังทำได้เลย!” “เธอเป็นเมียฉันเข้าใจไหมยี่หวา! เธอเป็นของฉัน!” “ฉันไม่ใช่เมียคุณ! นั่นมันก็แค่ในนามอย่าได้เข้าใจผิด!!” “งั้นเหรอ? อย่างนั้นเองสินะ...งั้นวันนี้ก็ทำหน้าที่ของเธอซะสิ!!” “ไม่!! อย่านะ!! กรี๊ดดดดดด!!” ไม่ฟังเ