ยี่หวาในชุดนอนสีขาวกระโปรงสั้นสายเดี่ยวตัวบางขอบตรงอกระบายลูกไม้เล็กน้อย เธอเดินมาหยุดตรงข้างเตียงฝั่งตรงข้ามกับที่พายุนอนหันหลังอยู่ เธอมองบนเตียงนอนอย่างช่างใจก่อนจะคว้าหมอนใบใหญ่ที่มีไว้พิงหัวเตียงมากั้นระหว่างเธอกับเขา ก่อนจะค่อยๆนั่งลงบนเตียงให้เบาที่สุดพร้อมกับเอาตัวซุกผ้าห่มจนมิดไหล่ ปิดไฟหัวเตียงแล้วพยายามข่มตาหลับเพราะคิดว่าพายุคงหลับไปแล้วจริงๆ
เพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่เธอปิดโคมไฟก็รู้สึกถึงการขยับตัวของพายุ ก่อนจะตกใจจนสะดุ้งสุดตัวจนดวงตาสวยเบิกกว้างขึ้นในความมืดเมื่อพายุหันมาคว้าเอวเธอไปกอดแนบชิดติดกาย
“คิดว่าหมอนแค่ใบเดียวจะขวางทางฉันได้หรือไง” เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหูเล็กด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ยี่หวารีบเปิดโคมไฟทันทีเมื่อรู้สึกว่ามือของเขาเริ่มประปรายไปเรื่อย
&
รถคันหรูแล่นเข้าไปจอดหน้าบริษัทใหญ่อย่างพีวาย ก่อนที่ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งกำยำล่ำสันจะเดินเข้าบริษัทในมาดประธานหนุ่มสุดหล่อพร้อมด้วยลูกน้องที่ติดตามซ้ายขวา แน่นอนว่าสาวๆในบริษัทต่างพากันกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่เหมือนเช่นทุกวัน เพราะเหตุนี้พายุจึงไม่ยอมรับเลขาที่เป็นผู้หญิงเลย เขาไม่อยากปวดหัวไปมากกว่านี้ “อ้อ นายครับ เย็นนี้มีนัดของคุณวาวาครับนาย” ระหว่างเดินไปขึ้นลิฟท์แฟนต้ามือซ้ายของเขาเอ่ยขึ้น พายุเหลียวไปปรายตามองแฟนต้าเล็กน้อยพร้อมกับขมวดคิ้ว “ไม่รับนัด” “แน่ใจหรือครับ? ทางนั้นบอกว่ามีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับคุณยี่หวา..” “ตอบรับไปว่าตกลง”&nb
“เจ้าหลานคนนี้นี่! ย่าอุตส่าห์มาทำข้าวเย็นให้...แต่งงานวันเดียวก็บอกจะไม่กลับบ้าน” กันยาผู้เป็นย่าของพายุเอ่ยขึ้นด้วยอารมณ์หงุดหงิด หลังจากที่ได้ยินเมษบอกกับยี่หวาว่าพายุจะไม่กลับบ้าน กันยาเองก็โทรหาหลานชายหลายสายแต่กลับไม่มีการตอบรับจากปลายสายเลยแม้แต่น้อย “ไม่เป็นไรค่ะคุณย่า ยี่หวาอยู่ได้” “ไม่ได้ลูก ยังไงก็ต้องไปตามกลับมา” “แต่...” “ไปตามให้ย่าทีนะหนูยี่หวา” กันยาพูดพร้อมกับเดินเข้าไปจับไหล่ของยี่หวาด้วยสีหน้าขอร้อง ยี่หวาทำหน้ากระอักกระอ่วนใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมพยักหน้ารับทำตามคำสั่งแม้ว่าในใจไม่อยากตามกลับ แ
เมษเดินนำยี่หวามาที่รถก่อนจะเปิดประตูด้านหลังให้ตามมารยาท ยี่หวาที่เดินตามมากลับยืนกอดตัวเองแน่นลูบแขนตัวเองไปมา เมษเห็นอย่างนั้นก็ถอดชุดสูทตัวนอกของตัวเองออกมาคุมให้เธอด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณค่ะคุณเมษ” “คุณยี่หวาคงจะหนาวเพราะชุดนี้น่ะครับ” เมษเอ่ยก่อนจะผายมือเชิญเธอเข้าไปนั่งด้านหลัง ยี่หวามองตามมือนั้นก่อนจะเงยหน้ามองเขาแล้วพูดขึ้น “ฉันขอนั่งด้านหน้าได้ไหมคะ?” “ครับ? ทำไมล่ะครับ?” “เอ่อ...คือ ฉันไ
“จะเป็นไรไหมครับถ้าผมจะถามชื่อคุณผู้หญิง”“เอ่อ....”“อ๋อ ผมมาคัสครับ”“ฉันยี่หวาค่ะ” ยี่หวาตอบออกไปอย่างเขินๆ พึ่งเคยเจอคนเข้าหาแบบสุภาพแบบนี้นอกจากพายุแล้วก็มีแต่เข้ามาลุ่มล่ามซึ่งเธอไม่ค่อยชอบเสียเท่าไหร่ มือเล็กยกแก้วขึ้นจิบค็อกเทลที่มาคัสเสิร์ฟก่อนจะทำตาโตแล้วหันไปมองหน้าเขา“คุณชงอร่อยจัง ดื่มง่ายจริงด้วย”“ค่อยๆดื่มนะครับ ถึงจะกินง่ายแต่ก็เมาง่ายเหมือนกัน” มาคัสเอ่ยขึ้นอย่างเอ็นดูคนตรงหน้า เธอดูเป็นผู้หญิงซื่อๆจนเขาอยากรู้จัก เพราะตลอดมาที่เขาเคยเจอมีแต่ผู้หญิงเจ้าเสน่ห์“คุณมาคัสทำงานที่นี่นานหรือยังคะ?” ยี่หวาเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นมิตรผิดกับตอนแรกที่เธอดูระแวงเขานิดหน่อย“ครับ ผมทำงานตั้งแต่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง”“เอ๊ะ?...หรือว่าคุณ...”“ผมเป็นหุ้นส่วนที่นี่น่ะครับ คุณพายุอยากได้คนชงดื่มเก่งๆเลยไปทาบทามผมมาจากต่างประเทศ ยังเสียดายอยู่เลยที่ไม่ได้ไปงานแต่งของคุณพายุเพราะผมติดต้องดูแลคลับ”&
ยี่หวางัวเงียตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกหนักอึ้งที่หัว คอแห้งผาดจนต้องมองหาน้ำและก็หันไปเห็นที่โต๊ะข้างเตียง เธอเอื้อมไปหยิบน้ำเปล่าแก้วนั้นที่เหมือนถูกตระเตรียมเอาไว้ขึ้นมาดื่ม ก่อนจะรวบรวมสติมองไปรอบตัวที่ไม่คุ้นเคย ยี่หวาถึงกับตกใจตาเบิกกว้างเมื่อนึกย้อนไปเมื่อคืนว่ามาคัสบอกจะมาส่งเธอ แต่ตอนนี้ที่เธอนอนอยู่กับไม่ใช่บ้านกลายเป็นห้องที่เธอไม่รู้จัก ยี่หวาเปิดผ้าห่มก้มมองดูสภาพที่เปลือยเปล่าของตัวเองก็ทำให้ใจดวงน้อยกระตุกวูบ คิดไปเองว่าตัวเองพลาดท่าเสียทีนอกกายสามีไปเสียแล้ว น้ำตาใสเริ่มเอ่อคลอที่สองเบ้าตาด้วยความรู้สึกผิดก่อนจะเอามือปิดหน้าให้มันไหลออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวด เธอไม่ได้อยากให้มันเป็นอย่างนี้เลย “ฮึกๆ ฮือ...” เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นทำให้คนที่นั่งมองเหม่ออยู่ข้างล่างถึงกับตกใจ ก่อนจะรีบเข้าไปในห้
“ครับ ปลอดภัยไว้ก่อน” เมษตอบ ยี่หวาพยักหน้าอย่างเข้าใจเพราะเมษถูกสั่งให้มาเฝ้าเธอจึงไม่แปลกที่เขาจะตามเธอไปทุกที และเพราะกลัวว่าคนอื่นจะรุมล้อมเธอยี่หวาเดินไปตามทางโดยมีเมษเดินตามมาติดๆไม่ห่าง ก่อนเมษจะหยุดยืนรอเธออยู่ที่หน้าห้องน้ำ มีสาวๆมากมายที่เดินเข้ามาคุยกับเขา เพราะด้วยรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาไม่หยอกจนยี่หวาเดินออกมามองหญิงสาวพวกนั้นอย่างงงงวย“อ้าว คุณยี่หวาไปกันเถอะครับ”“โธ่ มีแฟนแล้วก็ไม่บอกกันนะคะ” หญิงสาวที่เข้ามาคุยพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าเซ็งแล้วเดินจากไป เมษก้มหน้ายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองยี่หวาที่ยืนมองผู้หญิงคนนั้นอย่างงงๆ“อะไรเหรอ? ฉันไม่ได้ยินที่เธอคนนั้นพูดเลย เขามาจีบคุณเหรอ?” ยี่หวาโน้มเข้าไปพูดข้างหู เพราะเสียงตรงนี้มันดังจนแทบไม่ได้ยิน เมษพยักหน้าเป็นคำตอบ“อ้าว ถ้าอย่างนั้นฉันมาผิดเวลาหรือเปล่าเนี่ย?”“ไม่เลยครับ เราไปกันเถอะ” เมษพูดตอบก่อนจะเดินนำเธอไปที่หน้าบาร์ดังเดิม ยี่หวากลับไปนั่งดื่มจนหมดแก้วก่อนจะหันไปบอกลามาคัส“ฉันกล
หญิงสาวนอนตัวสั่นเทาอยู่ใต้ร่างของชายหนุ่มที่เธอตกหลุมรักมาตลอด เขาคือสามีของเธอที่ไม่เคยกลับเรือนหอเลยหลังจากคืนแรกที่เข้าหอ แต่ตอนนี้เขากลับมาทำร้ายจิตใจเธออย่างไม่เหลือชิ้นดี... “คุณพายุ! ฉันบอกให้ปล่อยฉัน!!” แม้ว่าร่างกายจะสั่นเพราะความกลัวคนตรงหน้าที่ตอนนี้ดูแตกต่างจากปกติ แต่เธอก็ยังพยายามข่มเสียงไม่ให้สั่น เก็บกลั้นน้ำตาไว้และจ้องมองเขาอย่างไม่ยอม “หึ! ทีมันยังแตะต้องตัวเธอได้ ทำไมทีผัวตัวเองถึงจะไม่ได้!!” พายุตะคอกเสียงดังลั่นห้องพร้อมทั้งหลุบสายตามองเธอที่อยู่ใต้ร่างด้วยสายตาดุดัน ภาพที่เขาเห็นวันนี้คือภรรยาของตัวเองจับมือถือแขนผู้ชายคนอื่นอย่างไม่ถือตัวราวกับว่าลืมไปแล้วว่าตัวเองมีสามีอยู่ &ldqu
แม้ว่าคนที่นอนข้างกายจะเหนื่อยล้าจนหลับไปแล้ว แต่ยี่หวายังคงลืมตาตื่นอยู่ถึงจะไม่มีน้ำตาสักหยดแต่ความรู้สึกมันกลับสับสนไปหมด คิดมากจนนอนไม่หลับกับสิ่งที่เขาทำกับเธอ...ไหนบอกว่าจะไม่รักคนโกหกแบบเธอ ไหนว่าจะไม่แตะต้องแต่ตอนนี้เขากลับกลืนคำพูดนั้นไปเสียแล้ว ยี่หวาค่อยๆหยัดตัวลุกขึ้นนั่งมือข้างหนึ่งกำผ้าห่มปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าเอาไว้ จะยิ้มก็ยิ้มไม่ออกได้แต่ทำหน้าเรียบเฉย เธอชอบเขามาตลอดก็จริงแต่ทำไมตอนนี้ในใจกลับรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก ตกเป็นของเล่นของเขาไปเสียแล้วนั่นคือสิ่งที่ยี่หวาคิด เธอไม่กล้าคิดเลยว่าวันต่อๆไปเขาจะทำตัวแย่กับเธออีกแค่ไหน หรือเขาจะเปลี่ยนไปดีขึ้นกันนะ “คิดจะหนีฉันหรือไง?” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างๆ ยี่หวาหันไปทางเขาด้วยความตกใจ คิดว่าเขาหลับไปแล้วเสียอีกแต่เขากลับลืมตาจ้องมองเธออยู่ด้วยสี
ราวกับเจอศึกหนักก็ไม่ปาน เธออยู่กับเขาในห้องนอนยันเย็นกว่าจะได้ออกมาจากห้องเพราะสลบเมือดคาอกเขาอย่างน่าอาย คนใจร้ายไม่ยอมปล่อยให้เธอได้พักเลยซ้ำยังเอาแต่พูดว่าเพราะเธอบอกกับเขาว่าจะหย่า ยี่หวาคิดอยู่หลายตลบก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงดึงดันที่จะปฏิเสธการขอหย่าของเธอทั้งที่เขาเองก็ไม่ได้รักเธอ แถมยังทำทีเกลียดขี้หน้าเธอด้วยซ้ำ มือถือทัพพีมองเหม่อด้วยความที่คิดไม่ตก คิดถึงเรื่องเขาเพราะเธอคิดว่านั่นคือทางที่ดีที่สุดสำหรับเข้าแล้วแท้ๆ “ไหม้แล้วมังแกงน่ะ” เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลังเรียกให้หญิงสาวที่ยืนถือทัพพีอย่างเหม่อลอยถึงกับสะดุ้ง ยี่หวาดเหลียวกลับไปมองด้านหลังยังต้นเสียงก็เห็นพายุยืนกอดอกพิงขอบประตูจ้องมองเธอด้วยสีหน้า
คำพูดของเขาทำให้ยี่หวาหวั่นใจไม่น้อย แววตาที่จ้องมองสั่นไหวราวกับเข้าใจความหมายในสิ่งที่เขาต้องการ สายตาคมฉายแววโกรธจนรู้สึกขนลุก แค่เมื่อคืนที่เขาโกรธก็ทำให้ร่างกายเธออ่อนล้าไปหมด เธอยังเจ็บไม่ทันหายดีเลยด้วยซ้ำ “ฉันไม่รู้จักคุณหรอกค่ะ และฉันไม่รู้ด้วยว่าคุณต้องการอะไร” ยี่หว่าพยายามตอบเลี่ยงคำถามของเขาเพราะคิดว่าเธอจะหนีเขาพ้น พายุที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับยกยิ้มแล้วพยักหน้าราวกับประชดประชัน “เธอไม่เคยรู้จักฉันเลยสินะ ขนาดไม่รู้จักเมื่อคืนยังตอบรับฉันดีขนาดนั้น” “เลิกพูดเรื่องบ้าๆนี่สักทีเถอะค่ะ! ฉันไม่ต้องการรู้จักคุณอีกต่อไปแล้ว ฉันจะหย่า!” ยี่หวาเน้นย้ำคำพูดนั้นด้วยความรู้สึกโกรธและอับอาย เรื่องเมื่อคืนเธอไม่ได้สมยอมเขาเสียหน่อยแล้วทำไมเขาถึงได้มาพูดราวกับว่าเธอเต็มใจแบบนี้...นี่สินะที่เขาเรียกกันว่าของเล่น...ยี่หวาคิด “ฉันไม่หย่า!! ต่อให้เธออยากจะหย่าแค่ไหนก็อย่าหวังว่าจะได้ลายเซ็นของฉัน!!” “แล้วคุณเป็นบ้าอะไรถึงไม่ปล่อยฉันไป! ทั้งที่คุณเกลียดฉัน!” “ฉันเป็นผัวเธอไงยี่หวา!!” พาย
“คุณวาวามีธุระอะไรหรือเปล่าคะถึงได้มาหาฉันถึงที่นี่”ยี่หวาเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเจ้านายของครอบครัวเดิมที่เธอเคยรับใช้อยู่ได้มาเยี่ยมเยือนเธอถึงที่บ้านเรือนหอ วาวายังคงมองรอบๆบ้านด้วยความตื่นตาตื่นใจ ก่อนจะหันไปมองยี่หวาแล้วเอามือกอดอกเอนตัวพิงพนักโซฟาห้องรับแขกด้วยสีหน้าที่ไม่แยแสยี่หว่าเท่าไหร่นัก“ดูเธอคงจะโชคดีน่าดู ราวกับหนูตกถังข้าวสาร...ฉันแค่มาเยี่ยมน่ะ ไม่ได้เหรอ?”พูดพลางปั้นหน้าสร้างรอยยิ้มที่เสแสร้งอย่างจงใจให้ยี่หวารับรู้ ยี่หวาได้แต่นั่งเงียบไม่ได้ตอบโต้คำใดออกไป“ยี่หวา เห็นว่าเธออยู่บ้านนี้คนเดียวคงเหงาแย่ใช่ไหม? เพราะคุณพายุไม่กลับบ้านที่เรียกว่าเรือนหอเลยไม่ใช่เหรอ?”วาวายังคงจงใจพูดจี้ใจดำของยี่หวาอย่างไม่ลดละแม้ยี่หวาจะรู้สึกอึดอัดแต่ก็ไม่มีความกล้าพอที่จะไล่ผู้หญิงตรงหน้าให้กลับไปได้ ด้วยความที่เธอคิดเสมอว่าวาวาคือน้องสาว เธอถึงได้ยอมแต่งงานแทนแบบนี้...ถึงแม้ว่าวาวาจะไม่เคยมองเธอเป็นพี่สาวเลยก็ตาม เพราะวาวาไม่อยากนับญาติกับคนใช้อย่างเธอ แต่ถึงอย่างนั้นวา
แม้ว่าคนที่นอนข้างกายจะเหนื่อยล้าจนหลับไปแล้ว แต่ยี่หวายังคงลืมตาตื่นอยู่ถึงจะไม่มีน้ำตาสักหยดแต่ความรู้สึกมันกลับสับสนไปหมด คิดมากจนนอนไม่หลับกับสิ่งที่เขาทำกับเธอ...ไหนบอกว่าจะไม่รักคนโกหกแบบเธอ ไหนว่าจะไม่แตะต้องแต่ตอนนี้เขากลับกลืนคำพูดนั้นไปเสียแล้ว ยี่หวาค่อยๆหยัดตัวลุกขึ้นนั่งมือข้างหนึ่งกำผ้าห่มปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าเอาไว้ จะยิ้มก็ยิ้มไม่ออกได้แต่ทำหน้าเรียบเฉย เธอชอบเขามาตลอดก็จริงแต่ทำไมตอนนี้ในใจกลับรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก ตกเป็นของเล่นของเขาไปเสียแล้วนั่นคือสิ่งที่ยี่หวาคิด เธอไม่กล้าคิดเลยว่าวันต่อๆไปเขาจะทำตัวแย่กับเธออีกแค่ไหน หรือเขาจะเปลี่ยนไปดีขึ้นกันนะ “คิดจะหนีฉันหรือไง?” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างๆ ยี่หวาหันไปทางเขาด้วยความตกใจ คิดว่าเขาหลับไปแล้วเสียอีกแต่เขากลับลืมตาจ้องมองเธออยู่ด้วยสี
หญิงสาวนอนตัวสั่นเทาอยู่ใต้ร่างของชายหนุ่มที่เธอตกหลุมรักมาตลอด เขาคือสามีของเธอที่ไม่เคยกลับเรือนหอเลยหลังจากคืนแรกที่เข้าหอ แต่ตอนนี้เขากลับมาทำร้ายจิตใจเธออย่างไม่เหลือชิ้นดี... “คุณพายุ! ฉันบอกให้ปล่อยฉัน!!” แม้ว่าร่างกายจะสั่นเพราะความกลัวคนตรงหน้าที่ตอนนี้ดูแตกต่างจากปกติ แต่เธอก็ยังพยายามข่มเสียงไม่ให้สั่น เก็บกลั้นน้ำตาไว้และจ้องมองเขาอย่างไม่ยอม “หึ! ทีมันยังแตะต้องตัวเธอได้ ทำไมทีผัวตัวเองถึงจะไม่ได้!!” พายุตะคอกเสียงดังลั่นห้องพร้อมทั้งหลุบสายตามองเธอที่อยู่ใต้ร่างด้วยสายตาดุดัน ภาพที่เขาเห็นวันนี้คือภรรยาของตัวเองจับมือถือแขนผู้ชายคนอื่นอย่างไม่ถือตัวราวกับว่าลืมไปแล้วว่าตัวเองมีสามีอยู่ &ldqu
“ครับ ปลอดภัยไว้ก่อน” เมษตอบ ยี่หวาพยักหน้าอย่างเข้าใจเพราะเมษถูกสั่งให้มาเฝ้าเธอจึงไม่แปลกที่เขาจะตามเธอไปทุกที และเพราะกลัวว่าคนอื่นจะรุมล้อมเธอยี่หวาเดินไปตามทางโดยมีเมษเดินตามมาติดๆไม่ห่าง ก่อนเมษจะหยุดยืนรอเธออยู่ที่หน้าห้องน้ำ มีสาวๆมากมายที่เดินเข้ามาคุยกับเขา เพราะด้วยรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาไม่หยอกจนยี่หวาเดินออกมามองหญิงสาวพวกนั้นอย่างงงงวย“อ้าว คุณยี่หวาไปกันเถอะครับ”“โธ่ มีแฟนแล้วก็ไม่บอกกันนะคะ” หญิงสาวที่เข้ามาคุยพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าเซ็งแล้วเดินจากไป เมษก้มหน้ายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองยี่หวาที่ยืนมองผู้หญิงคนนั้นอย่างงงๆ“อะไรเหรอ? ฉันไม่ได้ยินที่เธอคนนั้นพูดเลย เขามาจีบคุณเหรอ?” ยี่หวาโน้มเข้าไปพูดข้างหู เพราะเสียงตรงนี้มันดังจนแทบไม่ได้ยิน เมษพยักหน้าเป็นคำตอบ“อ้าว ถ้าอย่างนั้นฉันมาผิดเวลาหรือเปล่าเนี่ย?”“ไม่เลยครับ เราไปกันเถอะ” เมษพูดตอบก่อนจะเดินนำเธอไปที่หน้าบาร์ดังเดิม ยี่หวากลับไปนั่งดื่มจนหมดแก้วก่อนจะหันไปบอกลามาคัส“ฉันกล
ยี่หวางัวเงียตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกหนักอึ้งที่หัว คอแห้งผาดจนต้องมองหาน้ำและก็หันไปเห็นที่โต๊ะข้างเตียง เธอเอื้อมไปหยิบน้ำเปล่าแก้วนั้นที่เหมือนถูกตระเตรียมเอาไว้ขึ้นมาดื่ม ก่อนจะรวบรวมสติมองไปรอบตัวที่ไม่คุ้นเคย ยี่หวาถึงกับตกใจตาเบิกกว้างเมื่อนึกย้อนไปเมื่อคืนว่ามาคัสบอกจะมาส่งเธอ แต่ตอนนี้ที่เธอนอนอยู่กับไม่ใช่บ้านกลายเป็นห้องที่เธอไม่รู้จัก ยี่หวาเปิดผ้าห่มก้มมองดูสภาพที่เปลือยเปล่าของตัวเองก็ทำให้ใจดวงน้อยกระตุกวูบ คิดไปเองว่าตัวเองพลาดท่าเสียทีนอกกายสามีไปเสียแล้ว น้ำตาใสเริ่มเอ่อคลอที่สองเบ้าตาด้วยความรู้สึกผิดก่อนจะเอามือปิดหน้าให้มันไหลออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวด เธอไม่ได้อยากให้มันเป็นอย่างนี้เลย “ฮึกๆ ฮือ...” เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นทำให้คนที่นั่งมองเหม่ออยู่ข้างล่างถึงกับตกใจ ก่อนจะรีบเข้าไปในห้
“จะเป็นไรไหมครับถ้าผมจะถามชื่อคุณผู้หญิง”“เอ่อ....”“อ๋อ ผมมาคัสครับ”“ฉันยี่หวาค่ะ” ยี่หวาตอบออกไปอย่างเขินๆ พึ่งเคยเจอคนเข้าหาแบบสุภาพแบบนี้นอกจากพายุแล้วก็มีแต่เข้ามาลุ่มล่ามซึ่งเธอไม่ค่อยชอบเสียเท่าไหร่ มือเล็กยกแก้วขึ้นจิบค็อกเทลที่มาคัสเสิร์ฟก่อนจะทำตาโตแล้วหันไปมองหน้าเขา“คุณชงอร่อยจัง ดื่มง่ายจริงด้วย”“ค่อยๆดื่มนะครับ ถึงจะกินง่ายแต่ก็เมาง่ายเหมือนกัน” มาคัสเอ่ยขึ้นอย่างเอ็นดูคนตรงหน้า เธอดูเป็นผู้หญิงซื่อๆจนเขาอยากรู้จัก เพราะตลอดมาที่เขาเคยเจอมีแต่ผู้หญิงเจ้าเสน่ห์“คุณมาคัสทำงานที่นี่นานหรือยังคะ?” ยี่หวาเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นมิตรผิดกับตอนแรกที่เธอดูระแวงเขานิดหน่อย“ครับ ผมทำงานตั้งแต่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง”“เอ๊ะ?...หรือว่าคุณ...”“ผมเป็นหุ้นส่วนที่นี่น่ะครับ คุณพายุอยากได้คนชงดื่มเก่งๆเลยไปทาบทามผมมาจากต่างประเทศ ยังเสียดายอยู่เลยที่ไม่ได้ไปงานแต่งของคุณพายุเพราะผมติดต้องดูแลคลับ”&
เมษเดินนำยี่หวามาที่รถก่อนจะเปิดประตูด้านหลังให้ตามมารยาท ยี่หวาที่เดินตามมากลับยืนกอดตัวเองแน่นลูบแขนตัวเองไปมา เมษเห็นอย่างนั้นก็ถอดชุดสูทตัวนอกของตัวเองออกมาคุมให้เธอด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณค่ะคุณเมษ” “คุณยี่หวาคงจะหนาวเพราะชุดนี้น่ะครับ” เมษเอ่ยก่อนจะผายมือเชิญเธอเข้าไปนั่งด้านหลัง ยี่หวามองตามมือนั้นก่อนจะเงยหน้ามองเขาแล้วพูดขึ้น “ฉันขอนั่งด้านหน้าได้ไหมคะ?” “ครับ? ทำไมล่ะครับ?” “เอ่อ...คือ ฉันไ