หลังจากที่บ่าวสาวมานั่งเคียงคู่กันอยู่บนเตียงกว้างราวแปดฟุต ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายต่างก็พากันเอ่ยคำมงคลที่ล้วนแต่มีความหมายว่าอยากให้อยู่ครองคู่กันไปนานๆ หรือความหมายว่าให้อดทนปรับเข้าหาซึ่งกันและกัน แม้ว่าทั้งสองจะพยายามหาทางที่จะเข้าหามากแค่ไหน ในตอนนี้กลับไม่สามารถหาทางญาติดีกันได้เลย ด้วยทิฐิและหลายๆอย่างทำให้หนทางของทั้งคู่ดูมืดบอดไปชั่วขณะ
“เข้าหอคืนแรกเขาบอกว่าห้ามออกจากห้องหอเด็ดขาดจนกว่าจะเช้า” กันยาผู้เป็นย่าของพายุเอ่ยขึ้น ทำเอาทั้งสองหันมองหน้ากันไปมาครู่หนึ่ง ก่อนที่พายุจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่นด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง เพราะไม่อยากให้บรรดาญาติผู้ใหญ่เห็นว่าเขามีสีหน้าอย่างไร
“เข้าใจไหมพายุ” กันยาเอ่ยถามหลานชายของตนย้ำอีกครั้ง พายุจึงจำใจต้องหันไปพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อเห็นหลานชายตอบรับทั้งครอบครัวก็ต่างพากันออกจากห้องนอนไป
กันยาหันกลับมาทางประตูก่อนจะมองประตูห้องนอนที่พึ่งปิดลงอย่างพินิจพิจารณา กันยารู้จักหลานชายตัวเองดีเธอจะสะเพร่าไม่ได้ และยังคงอยากให้เป็นไปตามที่โบราณเขาถือ
“นังภา แกไปเอาโซ่และกุญเจมาให้ฉันสิ” กันยาเอ่ยขึ้น เล่นเอาบคนอื่นๆยืนมองหน้ากันไปมาอย่างงงๆ
“ค่ะคุณหญิงใหญ่” ภาคนรับใช้เคียงกายของกันยาที่กันยาให้ย้ายมาดูแลพายุหรือพูดง่ายๆว่าจับตามองพายุหลานชายตนแล้วรายงานให้เธอรับรู้ การที่พายุยอมแต่งงานง่ายๆนั้นมันต้องมีอะไรสักอย่างไม่อย่างนั้นมันคงไม่ง่ายดายเกินไปขนาดนี้
โซ่และกุญเจถูกนำมาส่งถึงมือของกันยา คุณหญิงใหญ่ของครอบครัวฝ่ายชายเป็นคนล็อคมันเองกับมือก่อนจะยื่นกุญแจให้ภาคนรับใช้คนที่ไว้วางใจ
“เช้าๆค่อยปลดกุญแจนะ” กันยาสั่งเสียคนรับใช้คนสนิทก่อนจะพาทุกคนกลับไปยังงานเลี้ยงหลังพิธีแต่งงาน ยังมีแขกเหรื่อที่ต้องดูแลอยู่อีกและกันยายังอยากให้หลานชายอยู่กับภรรยาสาวสองต่อสองหวังว่าจะได้อุ้มเหลนในเร็ววัน
บรรยากาศภายในห้องเงียบสะงัดจนรู้สึกอึดอัด ทั้งสองคนยังนั่งที่เดิมตรงข้างเตียงใหญ่กว้าง ก่อนที่จะได้ยินเสียงล็อคหน้าห้องนอนของตัวเองพายุถึงกับขบกรามแน่นอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นัก เขาลุกพรวดขึ้นพร้อมกับถอนหายใจแรง ยี่หวายังคงนั่งนิ่งลอบมองกิริบยาท่าทางของเขาอย่างหวั่นๆ
“อึดอัดชะมัด” ว่าแล้วเขาก็รูดเนกไทด์ที่รัดคออย่างเรียบร้อยออกลงพอหลวมๆ ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตด้านในสองเม็ด ยี่หวาเห็นอย่างนั้นก็เบือนหน้าหนีพร้อมกับขยับร่างกายตัวเองไปติดกับขาเตียงฝั่งตรงข้ามกับเขาที่เธออยู่ทันที พายุปรายสายตามองเธอเล็กน้อยก่อนจะแค่ยรอยยิ้มขึ้น
“หึ...กลัวอะไรกันล่ะครับคุณภรรยา ไหน ๆ เราก็แต่งงานกันแล้วไม่เห็นมีอะไรที่ต้องกลัวนี่” ไม่พูดเปล่าพายุค่อยๆย่างก้าวเข้าไปหายี่หวาที่นั่งอยู่มุมปลายเตียงพร้อมกับโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ๆ ยี่หวานรีบเอนทั้งตัวหนีแทบไม่ทัน
“ไม่ใช่...สักหน่อยค่ะ แค่ในนามเท่านั้น ยังไงก็ให้เกียรติกันหน่อยค่ะ” ยี่หวาเอ่ยเสียงเครือแต่ก็ยังพยายามพูดให้นิ่งและเป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ พายุยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างร้ายกาจอยากจะแกล้งหญิงสาวที่ปากกล้าตรงหน้าเสียจริง
“ผมให้เกียรติคุณตลอดนะ เพราะงั้น...เรามาทำอย่างที่คนเป็นสามีภรรยาทำกันเถอะ” พายุเอ่ยพร้อมกับยื่นใบหน้าและปลายจมูกเข้าไปคลอเคลียข้างแก้มและใบหูเล็ก กลิ่นหอมอ่อนๆจากน้ำหอมแบรนด์หรูคละคลุ้มอยู่ใต้จมูกโด่งเป็นสัน ยิ่งได้กลิ่นก็ยิ่งอยากจะได้กลิ่นมากขึ้นกว่าเดิม
“หอมดี...ฉันชอบ”
“คะ?” ยี่หวาทำตาโตหันไปมองคนตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อหูว่าเขาจะพูดในสิ่งที่เธอไม่คิดว่าเขาจะพูด คำพูดที่ชวนเข้าใจผิดนั้นทำให้ใจดวงน้อยเริ่มเต้นรัวไม่เป็นล่ำเป็นสัน
“ฉันหมายถึงกลิ่นน้ำหอม”
“อ๋อ...”
พายุพูดก่อนจะหยัดตัวตรงดังเดิม ยี่หวาถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะมองเขาที่กำลังถอดเสื้อเชิ้ตออกหลังจากปลดเปลื้องเสื้อสูทและเนกไทด์ออกสมใจแล้ว
“คะ..คุณจะทำอะไรน่ะ!!!” ยี่หวาถึงกับทักท้วงเสียงหลงรีบลุกพรวดจากเตียงยืนขึ้นเต็มความสูงเอามือปิดหน้าแล้วพูดขึ้นเสียงดัง พายหันไปขมวดคิ้วมองท่าทางของเธอก่อนจะแค่นหัวเราะ
“หึ...ก็อาบน้ำน่ะสิ ง่วงจะตายอยู่แล้ว จะให้ผมนั่งถ่างตารออะไรล่ะ พรุ่งนี้ทำงานเช้าอีก” พายุพูดไปพลางเดินผ่านหน้ายี่หวาไปคค้นผ้าเช็ดตัวในตู้เสื้อผ้าใกล้ๆห้องน้ำ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปโดยไม่สนใจยี่หว่าที่ยังคงยืนปิดหน้าปิดตาอย่างเขินๆอยู่
เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูห้องน้ำและเสียงฝักบัวเธอก็ค่อยๆเอามือที่ปิดบังใบหน้าออก เม้มริมฝีปากแน่นชะเง้อคอมองหน้าประตูห้องน้ำก่อนจะหันกลับมาครุ่นคิดว่าเธอจะรอดคืนนี้ไปได้อย่างไร เขาจะทำอะไรห่ามๆเหมือนคืนนั้นไหมในคืนดูตัว
เดินทีนั่งทีนั่งแทบไม่ติดเกือบชั่วโมง กว่าที่ชายหนุ่มจะเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนพนูพันรอบสะโพกสอบ หยดน้ำไหลลงเป็นทางรอยร่องกล้าม ผมสีดำขลับเปียกเล็กน้อยผมที่เคยเซ็ตเสยขึ้นปกลงมาทำให้เขาดูเท่ไปอีกแบบจนเธอต้องมองค้าง เวลาที่ผมของเขาไม่ได้ถูกเซ็ตทำให้เขาดูเป็นคนอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
“จ้องขนาดนี้เดินมาดูใกล้ๆเลยไหม?” พายุที่มองเธออยู่นานถึงกับพูดขึ้น ยี่หวาสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะสะบัดหน้าไปมาก่อนจะรีบเดินเข้าไปคว้าผ้าขนหนูที่อยู่ในตู้ แต่พอหันมาพายุกลับยืนขวางทางไว้อยู่ เขาอยู่ใกล้จนได้กลิ่นสบู่อ่อนๆพลอยทำให้ใจเต้นไม่เป็นล่ำเป็นสัน พายุโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้มือข้างหนึ่งพิงประตูตู้เสื้อผ้าเหนือศีรษะ
“อยากลอง...สัมผัสมันดูหน่อยไหมล่ะ?”
“คุณพายุ...ถอยด้วยค่ะ ฉันจะเข้าไปอาบน้ำ” เธอพูดตะกุกตะกักอีกทั้งยังไม่กล้าที่จะมองหน้าเขาโดยตรง ยี่หวาเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อเลี่ยงที่จะจดจ้องมองเรือนร่างของชายหนุ่มตรงหน้า
“หึ...รู้อย่างนี้ฉันน่าจะรอไปอาบน้ำกับเธอให้มันจบๆ จะได้เห็นทุกสัดส่วนโดยไม่ต้องแอบมอง” พายุเอ่ย
“ใครแอบมองคุณกัน”
“อ๋อ ไม่ได้แอบแต่จ้องเลยต่อหน้าต่อตา” พายุยังคงไม่ยอมเลิกกวนประสาทคนตรงหน้า เขาพูดพร้อมยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ยี่หวาเห็นอย่างนั้นก็ใช้สองมือที่ถือผ้าขนหนูอยู่ผลักเขาออกแล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันที
พายุมองตามหลังหญิงสาวอย่างยิ้มๆ เขาส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะดึงสติตัวเองชะงักความคิดที่คิดว่าเธอน่านั้นไป พายุพยายามหาความคิดมาหักล้างห้ามใจตัวเอง คนหลอกลวงอย่างเธอจะดูน่ารักน่าเอ็นดูได้ยังไงกัน
ยี่หวาที่อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยเธอก็พันผ้าขนหนูชะโงกหน้าออกมามองหาพายุ เนื่องจากเธอลืมเอาชุดนอนเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำเพราะรีบหนีจากเขา แต่ก็เห็นว่าพายุนอนเปลือยท่อนบนหลับไปแล้วบนเตียง เธอถอนหายใจก่อนจะค่อยๆย่องออกไปหยิบเสื้อผ้าในตู้อย่างเบามือที่สุด
“นี่มันอะไรกันเนี่ย” ยี่หวาถึงกับตกใจเมื่อเห็นชุดนอนในตู้ล้วนแต่เป็นชุดนอนวาบหวิว คงไม่พ้นฝีมือของพวกผู้ใหญ่แน่ ๆ พายุขยับพลิกตัวเล็กน้อยทำเอายี่หวาถึงกับเอามือปิดปากตัวเองอย่างไวพร้อมกับหันไปมองว่าเขาตื่นหรือเปล่า เธอถอนหายใจโล่งอกเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ตื่นขึ้นมาก่อนจะยอมเอาชุดนอนที่ดูปกปิดอยู่บ้างเข้าห้องน้ำไป แต่หารู้ไม่ว่า...พายุกำลังนอนหลับตาอมยิ้มอยู่...เพราะเขาเห็นชุดพวกนั้นก่อนแล้วตอนหาชุดนอนใส่...
ยี่หวาในชุดนอนสีขาวกระโปรงสั้นสายเดี่ยวตัวบางขอบตรงอกระบายลูกไม้เล็กน้อย เธอเดินมาหยุดตรงข้างเตียงฝั่งตรงข้ามกับที่พายุนอนหันหลังอยู่ เธอมองบนเตียงนอนอย่างช่างใจก่อนจะคว้าหมอนใบใหญ่ที่มีไว้พิงหัวเตียงมากั้นระหว่างเธอกับเขา ก่อนจะค่อยๆนั่งลงบนเตียงให้เบาที่สุดพร้อมกับเอาตัวซุกผ้าห่มจนมิดไหล่ ปิดไฟหัวเตียงแล้วพยายามข่มตาหลับเพราะคิดว่าพายุคงหลับไปแล้วจริงๆ เพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่เธอปิดโคมไฟก็รู้สึกถึงการขยับตัวของพายุ ก่อนจะตกใจจนสะดุ้งสุดตัวจนดวงตาสวยเบิกกว้างขึ้นในความมืดเมื่อพายุหันมาคว้าเอวเธอไปกอดแนบชิดติดกาย “คิดว่าหมอนแค่ใบเดียวจะขวางทางฉันได้หรือไง” เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหูเล็กด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ยี่หวารีบเปิดโคมไฟทันทีเมื่อรู้สึกว่ามือของเขาเริ่มประปรายไปเรื่อย&
รถคันหรูแล่นเข้าไปจอดหน้าบริษัทใหญ่อย่างพีวาย ก่อนที่ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งกำยำล่ำสันจะเดินเข้าบริษัทในมาดประธานหนุ่มสุดหล่อพร้อมด้วยลูกน้องที่ติดตามซ้ายขวา แน่นอนว่าสาวๆในบริษัทต่างพากันกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่เหมือนเช่นทุกวัน เพราะเหตุนี้พายุจึงไม่ยอมรับเลขาที่เป็นผู้หญิงเลย เขาไม่อยากปวดหัวไปมากกว่านี้ “อ้อ นายครับ เย็นนี้มีนัดของคุณวาวาครับนาย” ระหว่างเดินไปขึ้นลิฟท์แฟนต้ามือซ้ายของเขาเอ่ยขึ้น พายุเหลียวไปปรายตามองแฟนต้าเล็กน้อยพร้อมกับขมวดคิ้ว “ไม่รับนัด” “แน่ใจหรือครับ? ทางนั้นบอกว่ามีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับคุณยี่หวา..” “ตอบรับไปว่าตกลง”&nb
“เจ้าหลานคนนี้นี่! ย่าอุตส่าห์มาทำข้าวเย็นให้...แต่งงานวันเดียวก็บอกจะไม่กลับบ้าน” กันยาผู้เป็นย่าของพายุเอ่ยขึ้นด้วยอารมณ์หงุดหงิด หลังจากที่ได้ยินเมษบอกกับยี่หวาว่าพายุจะไม่กลับบ้าน กันยาเองก็โทรหาหลานชายหลายสายแต่กลับไม่มีการตอบรับจากปลายสายเลยแม้แต่น้อย “ไม่เป็นไรค่ะคุณย่า ยี่หวาอยู่ได้” “ไม่ได้ลูก ยังไงก็ต้องไปตามกลับมา” “แต่...” “ไปตามให้ย่าทีนะหนูยี่หวา” กันยาพูดพร้อมกับเดินเข้าไปจับไหล่ของยี่หวาด้วยสีหน้าขอร้อง ยี่หวาทำหน้ากระอักกระอ่วนใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมพยักหน้ารับทำตามคำสั่งแม้ว่าในใจไม่อยากตามกลับ แ
เมษเดินนำยี่หวามาที่รถก่อนจะเปิดประตูด้านหลังให้ตามมารยาท ยี่หวาที่เดินตามมากลับยืนกอดตัวเองแน่นลูบแขนตัวเองไปมา เมษเห็นอย่างนั้นก็ถอดชุดสูทตัวนอกของตัวเองออกมาคุมให้เธอด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณค่ะคุณเมษ” “คุณยี่หวาคงจะหนาวเพราะชุดนี้น่ะครับ” เมษเอ่ยก่อนจะผายมือเชิญเธอเข้าไปนั่งด้านหลัง ยี่หวามองตามมือนั้นก่อนจะเงยหน้ามองเขาแล้วพูดขึ้น “ฉันขอนั่งด้านหน้าได้ไหมคะ?” “ครับ? ทำไมล่ะครับ?” “เอ่อ...คือ ฉันไ
“จะเป็นไรไหมครับถ้าผมจะถามชื่อคุณผู้หญิง”“เอ่อ....”“อ๋อ ผมมาคัสครับ”“ฉันยี่หวาค่ะ” ยี่หวาตอบออกไปอย่างเขินๆ พึ่งเคยเจอคนเข้าหาแบบสุภาพแบบนี้นอกจากพายุแล้วก็มีแต่เข้ามาลุ่มล่ามซึ่งเธอไม่ค่อยชอบเสียเท่าไหร่ มือเล็กยกแก้วขึ้นจิบค็อกเทลที่มาคัสเสิร์ฟก่อนจะทำตาโตแล้วหันไปมองหน้าเขา“คุณชงอร่อยจัง ดื่มง่ายจริงด้วย”“ค่อยๆดื่มนะครับ ถึงจะกินง่ายแต่ก็เมาง่ายเหมือนกัน” มาคัสเอ่ยขึ้นอย่างเอ็นดูคนตรงหน้า เธอดูเป็นผู้หญิงซื่อๆจนเขาอยากรู้จัก เพราะตลอดมาที่เขาเคยเจอมีแต่ผู้หญิงเจ้าเสน่ห์“คุณมาคัสทำงานที่นี่นานหรือยังคะ?” ยี่หวาเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นมิตรผิดกับตอนแรกที่เธอดูระแวงเขานิดหน่อย“ครับ ผมทำงานตั้งแต่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง”“เอ๊ะ?...หรือว่าคุณ...”“ผมเป็นหุ้นส่วนที่นี่น่ะครับ คุณพายุอยากได้คนชงดื่มเก่งๆเลยไปทาบทามผมมาจากต่างประเทศ ยังเสียดายอยู่เลยที่ไม่ได้ไปงานแต่งของคุณพายุเพราะผมติดต้องดูแลคลับ”&
ยี่หวางัวเงียตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกหนักอึ้งที่หัว คอแห้งผาดจนต้องมองหาน้ำและก็หันไปเห็นที่โต๊ะข้างเตียง เธอเอื้อมไปหยิบน้ำเปล่าแก้วนั้นที่เหมือนถูกตระเตรียมเอาไว้ขึ้นมาดื่ม ก่อนจะรวบรวมสติมองไปรอบตัวที่ไม่คุ้นเคย ยี่หวาถึงกับตกใจตาเบิกกว้างเมื่อนึกย้อนไปเมื่อคืนว่ามาคัสบอกจะมาส่งเธอ แต่ตอนนี้ที่เธอนอนอยู่กับไม่ใช่บ้านกลายเป็นห้องที่เธอไม่รู้จัก ยี่หวาเปิดผ้าห่มก้มมองดูสภาพที่เปลือยเปล่าของตัวเองก็ทำให้ใจดวงน้อยกระตุกวูบ คิดไปเองว่าตัวเองพลาดท่าเสียทีนอกกายสามีไปเสียแล้ว น้ำตาใสเริ่มเอ่อคลอที่สองเบ้าตาด้วยความรู้สึกผิดก่อนจะเอามือปิดหน้าให้มันไหลออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวด เธอไม่ได้อยากให้มันเป็นอย่างนี้เลย “ฮึกๆ ฮือ...” เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นทำให้คนที่นั่งมองเหม่ออยู่ข้างล่างถึงกับตกใจ ก่อนจะรีบเข้าไปในห้
“ครับ ปลอดภัยไว้ก่อน” เมษตอบ ยี่หวาพยักหน้าอย่างเข้าใจเพราะเมษถูกสั่งให้มาเฝ้าเธอจึงไม่แปลกที่เขาจะตามเธอไปทุกที และเพราะกลัวว่าคนอื่นจะรุมล้อมเธอยี่หวาเดินไปตามทางโดยมีเมษเดินตามมาติดๆไม่ห่าง ก่อนเมษจะหยุดยืนรอเธออยู่ที่หน้าห้องน้ำ มีสาวๆมากมายที่เดินเข้ามาคุยกับเขา เพราะด้วยรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาไม่หยอกจนยี่หวาเดินออกมามองหญิงสาวพวกนั้นอย่างงงงวย“อ้าว คุณยี่หวาไปกันเถอะครับ”“โธ่ มีแฟนแล้วก็ไม่บอกกันนะคะ” หญิงสาวที่เข้ามาคุยพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าเซ็งแล้วเดินจากไป เมษก้มหน้ายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองยี่หวาที่ยืนมองผู้หญิงคนนั้นอย่างงงๆ“อะไรเหรอ? ฉันไม่ได้ยินที่เธอคนนั้นพูดเลย เขามาจีบคุณเหรอ?” ยี่หวาโน้มเข้าไปพูดข้างหู เพราะเสียงตรงนี้มันดังจนแทบไม่ได้ยิน เมษพยักหน้าเป็นคำตอบ“อ้าว ถ้าอย่างนั้นฉันมาผิดเวลาหรือเปล่าเนี่ย?”“ไม่เลยครับ เราไปกันเถอะ” เมษพูดตอบก่อนจะเดินนำเธอไปที่หน้าบาร์ดังเดิม ยี่หวากลับไปนั่งดื่มจนหมดแก้วก่อนจะหันไปบอกลามาคัส“ฉันกล
หญิงสาวนอนตัวสั่นเทาอยู่ใต้ร่างของชายหนุ่มที่เธอตกหลุมรักมาตลอด เขาคือสามีของเธอที่ไม่เคยกลับเรือนหอเลยหลังจากคืนแรกที่เข้าหอ แต่ตอนนี้เขากลับมาทำร้ายจิตใจเธออย่างไม่เหลือชิ้นดี... “คุณพายุ! ฉันบอกให้ปล่อยฉัน!!” แม้ว่าร่างกายจะสั่นเพราะความกลัวคนตรงหน้าที่ตอนนี้ดูแตกต่างจากปกติ แต่เธอก็ยังพยายามข่มเสียงไม่ให้สั่น เก็บกลั้นน้ำตาไว้และจ้องมองเขาอย่างไม่ยอม “หึ! ทีมันยังแตะต้องตัวเธอได้ ทำไมทีผัวตัวเองถึงจะไม่ได้!!” พายุตะคอกเสียงดังลั่นห้องพร้อมทั้งหลุบสายตามองเธอที่อยู่ใต้ร่างด้วยสายตาดุดัน ภาพที่เขาเห็นวันนี้คือภรรยาของตัวเองจับมือถือแขนผู้ชายคนอื่นอย่างไม่ถือตัวราวกับว่าลืมไปแล้วว่าตัวเองมีสามีอยู่ &ldqu
คำพูดของเขาทำให้ยี่หวาหวั่นใจไม่น้อย แววตาที่จ้องมองสั่นไหวราวกับเข้าใจความหมายในสิ่งที่เขาต้องการ สายตาคมฉายแววโกรธจนรู้สึกขนลุก แค่เมื่อคืนที่เขาโกรธก็ทำให้ร่างกายเธออ่อนล้าไปหมด เธอยังเจ็บไม่ทันหายดีเลยด้วยซ้ำ “ฉันไม่รู้จักคุณหรอกค่ะ และฉันไม่รู้ด้วยว่าคุณต้องการอะไร” ยี่หว่าพยายามตอบเลี่ยงคำถามของเขาเพราะคิดว่าเธอจะหนีเขาพ้น พายุที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับยกยิ้มแล้วพยักหน้าราวกับประชดประชัน “เธอไม่เคยรู้จักฉันเลยสินะ ขนาดไม่รู้จักเมื่อคืนยังตอบรับฉันดีขนาดนั้น” “เลิกพูดเรื่องบ้าๆนี่สักทีเถอะค่ะ! ฉันไม่ต้องการรู้จักคุณอีกต่อไปแล้ว ฉันจะหย่า!” ยี่หวาเน้นย้ำคำพูดนั้นด้วยความรู้สึกโกรธและอับอาย เรื่องเมื่อคืนเธอไม่ได้สมยอมเขาเสียหน่อยแล้วทำไมเขาถึงได้มาพูดราวกับว่าเธอเต็มใจแบบนี้...นี่สินะที่เขาเรียกกันว่าของเล่น...ยี่หวาคิด “ฉันไม่หย่า!! ต่อให้เธออยากจะหย่าแค่ไหนก็อย่าหวังว่าจะได้ลายเซ็นของฉัน!!” “แล้วคุณเป็นบ้าอะไรถึงไม่ปล่อยฉันไป! ทั้งที่คุณเกลียดฉัน!” “ฉันเป็นผัวเธอไงยี่หวา!!” พาย
“คุณวาวามีธุระอะไรหรือเปล่าคะถึงได้มาหาฉันถึงที่นี่”ยี่หวาเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเจ้านายของครอบครัวเดิมที่เธอเคยรับใช้อยู่ได้มาเยี่ยมเยือนเธอถึงที่บ้านเรือนหอ วาวายังคงมองรอบๆบ้านด้วยความตื่นตาตื่นใจ ก่อนจะหันไปมองยี่หวาแล้วเอามือกอดอกเอนตัวพิงพนักโซฟาห้องรับแขกด้วยสีหน้าที่ไม่แยแสยี่หว่าเท่าไหร่นัก“ดูเธอคงจะโชคดีน่าดู ราวกับหนูตกถังข้าวสาร...ฉันแค่มาเยี่ยมน่ะ ไม่ได้เหรอ?”พูดพลางปั้นหน้าสร้างรอยยิ้มที่เสแสร้งอย่างจงใจให้ยี่หวารับรู้ ยี่หวาได้แต่นั่งเงียบไม่ได้ตอบโต้คำใดออกไป“ยี่หวา เห็นว่าเธออยู่บ้านนี้คนเดียวคงเหงาแย่ใช่ไหม? เพราะคุณพายุไม่กลับบ้านที่เรียกว่าเรือนหอเลยไม่ใช่เหรอ?”วาวายังคงจงใจพูดจี้ใจดำของยี่หวาอย่างไม่ลดละแม้ยี่หวาจะรู้สึกอึดอัดแต่ก็ไม่มีความกล้าพอที่จะไล่ผู้หญิงตรงหน้าให้กลับไปได้ ด้วยความที่เธอคิดเสมอว่าวาวาคือน้องสาว เธอถึงได้ยอมแต่งงานแทนแบบนี้...ถึงแม้ว่าวาวาจะไม่เคยมองเธอเป็นพี่สาวเลยก็ตาม เพราะวาวาไม่อยากนับญาติกับคนใช้อย่างเธอ แต่ถึงอย่างนั้นวา
แม้ว่าคนที่นอนข้างกายจะเหนื่อยล้าจนหลับไปแล้ว แต่ยี่หวายังคงลืมตาตื่นอยู่ถึงจะไม่มีน้ำตาสักหยดแต่ความรู้สึกมันกลับสับสนไปหมด คิดมากจนนอนไม่หลับกับสิ่งที่เขาทำกับเธอ...ไหนบอกว่าจะไม่รักคนโกหกแบบเธอ ไหนว่าจะไม่แตะต้องแต่ตอนนี้เขากลับกลืนคำพูดนั้นไปเสียแล้ว ยี่หวาค่อยๆหยัดตัวลุกขึ้นนั่งมือข้างหนึ่งกำผ้าห่มปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าเอาไว้ จะยิ้มก็ยิ้มไม่ออกได้แต่ทำหน้าเรียบเฉย เธอชอบเขามาตลอดก็จริงแต่ทำไมตอนนี้ในใจกลับรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก ตกเป็นของเล่นของเขาไปเสียแล้วนั่นคือสิ่งที่ยี่หวาคิด เธอไม่กล้าคิดเลยว่าวันต่อๆไปเขาจะทำตัวแย่กับเธออีกแค่ไหน หรือเขาจะเปลี่ยนไปดีขึ้นกันนะ “คิดจะหนีฉันหรือไง?” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างๆ ยี่หวาหันไปทางเขาด้วยความตกใจ คิดว่าเขาหลับไปแล้วเสียอีกแต่เขากลับลืมตาจ้องมองเธออยู่ด้วยสี
หญิงสาวนอนตัวสั่นเทาอยู่ใต้ร่างของชายหนุ่มที่เธอตกหลุมรักมาตลอด เขาคือสามีของเธอที่ไม่เคยกลับเรือนหอเลยหลังจากคืนแรกที่เข้าหอ แต่ตอนนี้เขากลับมาทำร้ายจิตใจเธออย่างไม่เหลือชิ้นดี... “คุณพายุ! ฉันบอกให้ปล่อยฉัน!!” แม้ว่าร่างกายจะสั่นเพราะความกลัวคนตรงหน้าที่ตอนนี้ดูแตกต่างจากปกติ แต่เธอก็ยังพยายามข่มเสียงไม่ให้สั่น เก็บกลั้นน้ำตาไว้และจ้องมองเขาอย่างไม่ยอม “หึ! ทีมันยังแตะต้องตัวเธอได้ ทำไมทีผัวตัวเองถึงจะไม่ได้!!” พายุตะคอกเสียงดังลั่นห้องพร้อมทั้งหลุบสายตามองเธอที่อยู่ใต้ร่างด้วยสายตาดุดัน ภาพที่เขาเห็นวันนี้คือภรรยาของตัวเองจับมือถือแขนผู้ชายคนอื่นอย่างไม่ถือตัวราวกับว่าลืมไปแล้วว่าตัวเองมีสามีอยู่ &ldqu
“ครับ ปลอดภัยไว้ก่อน” เมษตอบ ยี่หวาพยักหน้าอย่างเข้าใจเพราะเมษถูกสั่งให้มาเฝ้าเธอจึงไม่แปลกที่เขาจะตามเธอไปทุกที และเพราะกลัวว่าคนอื่นจะรุมล้อมเธอยี่หวาเดินไปตามทางโดยมีเมษเดินตามมาติดๆไม่ห่าง ก่อนเมษจะหยุดยืนรอเธออยู่ที่หน้าห้องน้ำ มีสาวๆมากมายที่เดินเข้ามาคุยกับเขา เพราะด้วยรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาไม่หยอกจนยี่หวาเดินออกมามองหญิงสาวพวกนั้นอย่างงงงวย“อ้าว คุณยี่หวาไปกันเถอะครับ”“โธ่ มีแฟนแล้วก็ไม่บอกกันนะคะ” หญิงสาวที่เข้ามาคุยพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าเซ็งแล้วเดินจากไป เมษก้มหน้ายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองยี่หวาที่ยืนมองผู้หญิงคนนั้นอย่างงงๆ“อะไรเหรอ? ฉันไม่ได้ยินที่เธอคนนั้นพูดเลย เขามาจีบคุณเหรอ?” ยี่หวาโน้มเข้าไปพูดข้างหู เพราะเสียงตรงนี้มันดังจนแทบไม่ได้ยิน เมษพยักหน้าเป็นคำตอบ“อ้าว ถ้าอย่างนั้นฉันมาผิดเวลาหรือเปล่าเนี่ย?”“ไม่เลยครับ เราไปกันเถอะ” เมษพูดตอบก่อนจะเดินนำเธอไปที่หน้าบาร์ดังเดิม ยี่หวากลับไปนั่งดื่มจนหมดแก้วก่อนจะหันไปบอกลามาคัส“ฉันกล
ยี่หวางัวเงียตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกหนักอึ้งที่หัว คอแห้งผาดจนต้องมองหาน้ำและก็หันไปเห็นที่โต๊ะข้างเตียง เธอเอื้อมไปหยิบน้ำเปล่าแก้วนั้นที่เหมือนถูกตระเตรียมเอาไว้ขึ้นมาดื่ม ก่อนจะรวบรวมสติมองไปรอบตัวที่ไม่คุ้นเคย ยี่หวาถึงกับตกใจตาเบิกกว้างเมื่อนึกย้อนไปเมื่อคืนว่ามาคัสบอกจะมาส่งเธอ แต่ตอนนี้ที่เธอนอนอยู่กับไม่ใช่บ้านกลายเป็นห้องที่เธอไม่รู้จัก ยี่หวาเปิดผ้าห่มก้มมองดูสภาพที่เปลือยเปล่าของตัวเองก็ทำให้ใจดวงน้อยกระตุกวูบ คิดไปเองว่าตัวเองพลาดท่าเสียทีนอกกายสามีไปเสียแล้ว น้ำตาใสเริ่มเอ่อคลอที่สองเบ้าตาด้วยความรู้สึกผิดก่อนจะเอามือปิดหน้าให้มันไหลออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวด เธอไม่ได้อยากให้มันเป็นอย่างนี้เลย “ฮึกๆ ฮือ...” เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นทำให้คนที่นั่งมองเหม่ออยู่ข้างล่างถึงกับตกใจ ก่อนจะรีบเข้าไปในห้
“จะเป็นไรไหมครับถ้าผมจะถามชื่อคุณผู้หญิง”“เอ่อ....”“อ๋อ ผมมาคัสครับ”“ฉันยี่หวาค่ะ” ยี่หวาตอบออกไปอย่างเขินๆ พึ่งเคยเจอคนเข้าหาแบบสุภาพแบบนี้นอกจากพายุแล้วก็มีแต่เข้ามาลุ่มล่ามซึ่งเธอไม่ค่อยชอบเสียเท่าไหร่ มือเล็กยกแก้วขึ้นจิบค็อกเทลที่มาคัสเสิร์ฟก่อนจะทำตาโตแล้วหันไปมองหน้าเขา“คุณชงอร่อยจัง ดื่มง่ายจริงด้วย”“ค่อยๆดื่มนะครับ ถึงจะกินง่ายแต่ก็เมาง่ายเหมือนกัน” มาคัสเอ่ยขึ้นอย่างเอ็นดูคนตรงหน้า เธอดูเป็นผู้หญิงซื่อๆจนเขาอยากรู้จัก เพราะตลอดมาที่เขาเคยเจอมีแต่ผู้หญิงเจ้าเสน่ห์“คุณมาคัสทำงานที่นี่นานหรือยังคะ?” ยี่หวาเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นมิตรผิดกับตอนแรกที่เธอดูระแวงเขานิดหน่อย“ครับ ผมทำงานตั้งแต่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง”“เอ๊ะ?...หรือว่าคุณ...”“ผมเป็นหุ้นส่วนที่นี่น่ะครับ คุณพายุอยากได้คนชงดื่มเก่งๆเลยไปทาบทามผมมาจากต่างประเทศ ยังเสียดายอยู่เลยที่ไม่ได้ไปงานแต่งของคุณพายุเพราะผมติดต้องดูแลคลับ”&
เมษเดินนำยี่หวามาที่รถก่อนจะเปิดประตูด้านหลังให้ตามมารยาท ยี่หวาที่เดินตามมากลับยืนกอดตัวเองแน่นลูบแขนตัวเองไปมา เมษเห็นอย่างนั้นก็ถอดชุดสูทตัวนอกของตัวเองออกมาคุมให้เธอด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณค่ะคุณเมษ” “คุณยี่หวาคงจะหนาวเพราะชุดนี้น่ะครับ” เมษเอ่ยก่อนจะผายมือเชิญเธอเข้าไปนั่งด้านหลัง ยี่หวามองตามมือนั้นก่อนจะเงยหน้ามองเขาแล้วพูดขึ้น “ฉันขอนั่งด้านหน้าได้ไหมคะ?” “ครับ? ทำไมล่ะครับ?” “เอ่อ...คือ ฉันไ
“เจ้าหลานคนนี้นี่! ย่าอุตส่าห์มาทำข้าวเย็นให้...แต่งงานวันเดียวก็บอกจะไม่กลับบ้าน” กันยาผู้เป็นย่าของพายุเอ่ยขึ้นด้วยอารมณ์หงุดหงิด หลังจากที่ได้ยินเมษบอกกับยี่หวาว่าพายุจะไม่กลับบ้าน กันยาเองก็โทรหาหลานชายหลายสายแต่กลับไม่มีการตอบรับจากปลายสายเลยแม้แต่น้อย “ไม่เป็นไรค่ะคุณย่า ยี่หวาอยู่ได้” “ไม่ได้ลูก ยังไงก็ต้องไปตามกลับมา” “แต่...” “ไปตามให้ย่าทีนะหนูยี่หวา” กันยาพูดพร้อมกับเดินเข้าไปจับไหล่ของยี่หวาด้วยสีหน้าขอร้อง ยี่หวาทำหน้ากระอักกระอ่วนใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมพยักหน้ารับทำตามคำสั่งแม้ว่าในใจไม่อยากตามกลับ แ