Share

บทที่ 8

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-19 11:53:48

คนร่างสูงใหญ่ที่ยืนนิ่งบนระเบียงขบกรามแน่น สายตาคมกริบจ้องไปยังหญิงสาวอย่างประเมินและครุ่นคิด ขณะที่นายปั้นกับนายแสงถึงกับตัวสั่น กล้าๆ กลัวๆ ที่จะห้ามเธอ 

“กลับไปได้แล้ว แล้วคืนนี้ไม่ต้องมาอีก” 

เสียงดุกร้าวดังแทรกความเงียบ ปิ่นลดาทำท่าจะค้าน แต่พอเห็นว่าสองคนข้างหลังขยับตัว พากันเดินออกไปอย่างรวดเร็ว เธอเลยถึงบางอ้อ

คิดว่าจะถูกไล่ซ้ำไล่ซ้อนซะอีก เฮ้อ!

เมื่อสองคนนั้นหายไปแล้ว ปิ่นลดาจึงหันมายังชายคนที่หมายตาว่าจะทำให้เธอพบกับตาเฒ่าตัณหากลับที่ทำให้เธออยู่ในสภาพนี้ให้ได้ แต่พอเห็นว่าร่างนั้นกำลังก้าวลงจากบันไดที่ทอดเลื้อย เธอก็ขยับตัว บอกตัวเองไม่ได้ว่าควรดีใจหรือวิ่งหนีกันแน่

ร่างใหญ่ทะมึนหากเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว ดูประเปรียว ทำให้เธอรู้สึกไม่ต่างกับการเผชิญกับเสือดำ!

“ฉัน...ฉันไม่อยากคุยกับคุณ แต่อยากให้เรียกคุณใหญ่มาคุยกับฉัน” 

ปิ่นลดายอมเสียฟอร์ม เมื่อสัมผัสถึงรังสีอันตรายจากผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่ไม่อาจมองเห็นใบหน้า แต่คะเนจากขนาดร่างกายและความคล่องตัวของเขา หล่อนฉลาดพอที่จะไม่ต่อกร

“มีอะไรบอกกับฉันได้”

“ไม่ได้หรอก ฉันมีเรื่องสำคัญ คนนอกไม่เกี่ยว”

“อ๋อ เรื่องระหว่างเธอกับเขา เรื่องลับของสองคน” 

น้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของเจ้าของวาจาดุกร้าวแถมยังมีท่าทางเคร่งขรึมเมื่อไม่กี่นาทีก่อน ทำให้ปิ่นลดาสะท้านอย่างไม่รู้ตัว สัญชาตญาณในกายร่ำร้องให้หาทางหลบจากเขา ยิ่งเมื่อตวัดสายตามองโดยรอบ...ความเงียบสงัดกับความมืดมิดของราตรีกาลยิ่งให้ปิ่นลดาตระหนักว่าไม่ใช่จังหวะเหมาะที่จะคาดคั้นเขาเพื่อจะพบกับเจ้าของคฤหาสน์

“ฉันว่า ฉันควรกลับ” 

หล่อนว่าพลางหันกายกลับ คิดจะจ้ำอ้าวอย่างไม่เหลียวหลังไปยังสถานที่ที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด หากสองเท้าบางต้องชะงักกึก เมื่อได้ยินเสียงทรงอำนาจดังจากข้างหลัง

“ฉันยังไม่อนุญาตให้เธอกลับ” 

แม้จะไม่ดังมาก หากบางอย่างที่เจือกับน้ำเสียงนั้นทำให้ปิ่นลดาตัวเย็นวาบ หายใจติดขัดขึ้นมาดื้อๆ มือเรียวสองข้างกำแน่น หล่อนกำลังตัดสินใจว่าควรทำอย่างไรในห้วงเวลาวิกฤตนี้ แม้ทุกอย่างยังเงียบนิ่ง แต่รู้ว่าภัยอันตรายค่อยๆ แทรกมาหา และเธอคงไม่อาจยืนนิ่งเฉยโดยไม่คิดจะต่อสู้เลย

ปิ่นลดาตัดสินใจวิ่งหนีกลับทิศทางเดิม หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ ท่ามกลางคืนเดือนมืดไร้แม้แสงจันทร์ส่องทาง เสียงตึกตักที่ดังพร้อมจังหวะย่ำเท้าของตัวเองยิ่งทำให้เธอต้องพยายามเร่งหนี ทั้งที่ไม่รู้ว่าเป็นเสียงหัวใจที่กระหน่ำสั่นหรือเสียงจากผู้ชายคนนั้น

หากเธอไม่มีเวลาคิดถึงมันอีกแล้ว เมื่อรู้สึกถึงแรงกระชากจากด้านหลังทำให้ร่างแทบหักกลาง แรงนั้นกระชากเธอปะทะกับกำแพงเนื้อหนาหนั่น

“กรี๊ด! ปล่อยฉัน”

ปิ่นลดาดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง สำเหนียกในวินาทีนั้นว่าทางรอดของตนแทบเป็นศูนย์แล้ว

ท่อนแขนกำยำรัดเอวบางแล้วดึงแนบชิดลำตัวแกร่ง อุปาทานไปเองหรือเปล่าไม่รู้ว่าเขากำลังฉวยโอกาสลวนลามเธออยู่ 

กระทั่งลำแขนข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นสูง ช้อนทรวงอกอิ่มเต็มขึ้น แล้วรัดกระชับแน่นเข้า หญิงสาวหัวใจแทบหยุดเต้นเมื่อได้ยินเสียงหอบแปลกๆ จากคนซ้อนหลัง มันไม่ใช่เสียงหอบเพราะเหนื่อยที่ต้องวิ่งตามเธอแน่นอน 

หญิงสาวกรีดร้องดังสุดเสียงด้วยไม่อาจระงับความกลัว เมื่อความร้อนผ่าวแข็งขึงดุนดันอยู่กับบั้นท้าย เขาจงใจทำมัน คนหยาบคายตั้งใจลวนลามเธอ!

“ปล่อยฉัน! ปล่อย! ฉันไม่พบคุณใหญ่แล้ว ไม่พบก็ได้ ปล่อยสิ!” 

หล่อนตะโกนพลางดิ้นสุดกำลังหวังจะหลุดพ้นจากการกระทำจาบจ้วง เขาเป็นใครกัน ทำไมถึงได้อุกอาจทำกับเธอในเขตคฤหาสน์แห่งนี้ที่ใครต่อใครก็ต่างกลัวเจ้าของกันทั้งนั้น

“ทำไมยอมง่ายๆ ล่ะ ฉันกำลังสนุก จะว่าไปเธอก็ถูกใจฉันนะ ปิ่นลดา” 

“หยุดพูดนะ นายทำหยาบคายกับฉันไม่ได้ เพราะ...เพราะคุณใหญ่จะโกรธนาย”

“คุณใหญ่?” เสียงห้าวฟังดูประหลาดใจ ก่อนเปลี่ยนเป็นถามเหมือนกำลังขำเธอ “คุณใหญ่เนี่ยนะจะโกรธฉัน แล้วโกรธเรื่องอะไร”

“ฉันเป็นคนของเขา ฉันเป็นผู้หญิงของคุณใหญ่ นายจะทำหยาบคายกับผู้หญิงของนายไม่ได้ ปล่อยฉันลงถ้าไม่อยากตาย”

ปิ่นลดาขู่ฟ่อเท่าที่สติและปัญญาที่เหลืออยู่จะเค้นออกมาได้ แล้วร่างใหญ่นั้นก็หยุดลวนลาม แรงรัดจากลำแขนแกร่งคลายลง 

หญิงสาวหัวใจพองโต...หรือชื่อของ ‘คุณใหญ่’ จะได้ผลจริงๆ

“เธอเป็นผู้หญิงของเขา แล้วเคยเจอเขาหรือเปล่า รู้หรือว่าเขาเป็นคนยังไง”

เสียงถามเหมือนไม่อยากจะเชื่อ ปิ่นลดาได้จังหวะสะบัดตัวออก ถอยห่างราวกับร่างใหญ่ยักษ์นั้นเป็นของร้อน และน่าเจ็บใจที่เขายังยืนได้มั่นคง ส่วนเธอนั้นหรือ...เซแซดๆ ไปสองสามก้าว แทบจะสะดุดเท้าตัวเองล้ม ก่อนตั้งตัวยืน

“ทำไมจะไม่รู้ ถึงเขาจะแก่ แต่ฉันชอบเขา เขาใจดี ไม่หยาบคายอย่างนาย และจำไว้นะ อย่าบังอาจแตะต้องตัวฉันอีก ไม่งั้นฉันจะฟ้องเขาให้สั่งคนจับนายยิงเป้า”

หล่อนประกาศก้อง คนร่างใหญ่ถึงกับยืนจังงัง แม้ไม่เห็นหน้าแต่ปิ่นลดาก็รู้หรอกว่าเขากลัวโทษที่เธอขู่

“อย่าตามมานะ ถ้าไม่อยากตาย”

หล่อนถอยห่างอีกสามก้าว ก่อนหันกายวิ่งหนีสุดฝีเท้า ร่างน้อยในชุดเสื้อคลุมสีขาวที่เห็นรางๆ ในคืนเดือนมืดจากไปอย่างไม่เหลียวหลัง 

คนข้างหลังยกมือเท้าสะเอวมองตาม ดวงตาคมหรี่ลง เรียวปากหยักกระตุกยิ้มอย่างจอมวายร้าย

อย่างนี้จะพึ่งเทคโนโลยีผลิตเลือดเนื้อเชื้อไขให้โง่ทำไม ก็หล่อนร่ำร้องอยากเป็นผู้หญิงของนายใหญ่ใจจะขาดแล้ว!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 9

    โรงแรมใหญ่ที่สุดในเชียงราชซึ่งเป็นพื้นที่ประตูการค้าเปิดใหม่ สามารถเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้านและเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าที่สำคัญ ส่งผลให้กลายเป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ที่นักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศต่างจับตามอง เข้ามาแสวงหาโอกาส จนสร้างความร่ำรวยและยิ่งใหญ่ให้กับหลายราย ไม่ต่างกับเจ้าของโรงแรมหนุ่มเลือดผสมที่เดินเข้ามาในโถงล็อบบีอย่างสง่าและมั่นคง รัชตะ ราชเกียรติกูรกลับมาเมืองไทยเมื่อเจ็ดปีก่อน ในตอนนั้นเขาเป็นคนหนุ่มเลือดร้อนวัยเบญจเพส ความใจถึง กล้าได้กล้าเสีย รวมถึงเงินทุนมหาศาลที่ได้จากแม่ชาวแคนาดาที่เสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุเรือสำราญล่มพร้อมกับพ่อชาวไทย จึงส่งผลให้แค่ไม่กี่ปี ชื่อของเขาก็ผงาดขึ้นเป็นนักธุรกิจชั้นแนวหน้าที่ใครๆ ก็อยากเข้าถึงแต่ดูว่าสิ่งที่หลายคนต้องการไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ รัชตะเก็บเนื้อเก็บตัวยามอยู่เมืองไทย แต่ถ้ามีเวลาว่างพอ สิ่งแรกที่มักทำคือเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นการพักผ่อนในตัวด้วยเครื่องบินส่วนตัว โดยจุดหมายปลายทางอยู่ที่ประเทศแคนาดา บ้านเกิดและสถานที่ที่เขาเติบโตมา แม้ว่าตอนนี้จะไม่เหลือทั้งพ่อและแม่อยู่แล้วก็ตาม แต่ที่แห่งนั้นก็ยังเป็นบ้านที่อบอุ่นสำหรั

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-19
  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 10

    รัชตะหงุดหงิดทั้งวันเมื่อต้องทำงานอยู่ในโรงแรม ช่วงบ่ายเขามีนัดกับนักธุรกิจจีนที่จะมาคุยรายละเอียดในกิจการประกอบรถยนต์ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างเขาและผู้ร่วมหุ้นอีกสองคนถ้าจะเลื่อนนัด รัชตะสามารถทำได้ เพราะความที่ค่อนข้างสนิทสนมและยังรู้ว่านักธุรกิจคนนี้จะพักอยู่ในโรงแรมอีกสามวันกับครอบครัว แต่เขาไม่ต้องการทำ ไม่อยากทำในสิ่งที่ตอกย้ำว่าปิ่นลดามาอยู่เหนือความคิดเขาไปแล้ว“คุณดูใจลอย” คำพูดดังแว่วของมิสเตอร์จางทำให้รัชตะรู้สึกตัว เขายังสามารถควบคุมตัวเองไม่ให้สะดุ้งจนขายหน้า ชายหนุ่มมองชายร่างใหญ่หากจะเทียบกับเชื้อชาติพันธุ์ของเขา แล้วตีหน้าจริงจัง หลังจากเรียกสติคืน“คุณพร้อมดูโรงงานเมื่อไหร่ บอกผมล่วงหน้าสักวัน แล้วจะจัดการให้”“ผมต้องดูแน่ แต่เพื่อศึกษานะ ไม่ใช่ตรวจสอบเพราะไม่วางใจ ผมรู้รายละเอียดคนที่คุณดึงมาร่วมงานในฝ่ายการผลิตแล้ว ยังทึ่งว่าคุณทำได้อย่างไร รู้ทั้งรู้ว่าพวกมีฝีมือ องค์กรเดิมดึงตัวไว้เหนียวหนึบ แกะไม่หลุดเชียว”“แค่เรารู้ว่าเขาต้องการอะไร ก็ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้แล้วครับ”รัชตะตอบอย่างมีเชิง มิสเตอร์จางหัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ เขาพอใจที่ได้ร่วมธุรกิจกับสิงห์หนุ่

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-19
  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 11

    แต่ที่ไหนได้...สิ่งที่เธอวาดหวังไว้ ไม่ได้เกิดขึ้นเลย“เราถูกหลอก” เธอให้คำตอบกับตัวเอง แต่ถ้าถามต่อว่าคนทำมีเหตุจูงใจอะไร เธอก็มืดแปดด้าน“เราตัวคนเดียว ทรัพย์สินก็ไม่มี จะว่าเก็บเราไว้ต่อรองกับพ่อแม่ก็ไม่ใช่” พูดถึงตอนนี้ขอบตาเธอร้อนผ่าว แม้ได้รับการดูแลอย่างดี แต่ปิ่นลดาก็รู้ว่าไม่อาจเทียบลูกสาวในไส้อย่างคุณแหวว แต่ความน้อยใจก็คลายลงเมื่อรับรู้ถึงความไม่พร้อมของครอบครัว ปิ่นลดารู้ความจริงในบ้าน มากกว่าที่คุณแหววจะรู้พ่อแม่มีหนี้สินตั้งมากมาย หนี้ที่เกิดจากความผิดพลาดในการลงทุนและส่งคุณแหววเรียนเมืองนอก แถมยังต้องส่งเธอเรียนจนจบมหาวิทยาลัยอีกแล้วจะมีเหตุอะไรให้เจ้าของบ้านหลอกเธอมากักตัวด้วยล่ะ!หญิงสาวส่ายหน้า เมื่อทุกอย่างวนกลับมาที่เดิม สิ่งที่เกิดกับเธอเหมือนมีคนคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง ปิ่นลดารู้สึกว่าตนถูกปั่นหัวจากใครสักคน และมั่นใจว่าหนึ่งในนั้นต้องมีคนร่างสูงใหญ่ในสูทสีดำเมื่อครู่รวมอยู่ด้วยเธอไม่ได้ใส่ร้ายใคร หากความมั่นใจเกิดขึ้นหลังจากทบทวนเหตุการณ์เมื่อคืน รวมถึงสีหน้าและแววตาของเขา อีกทั้งท่าทางของหญิงสาวสวยสะดุดตาที่เกาะติดเขา“ผู้ชายคนนั้นเกี่ยวข้องยังไงกับคุณใหญ่”

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-19
  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 12

    “ตอนนี้ยังนึกไม่ออก เพราะกลิ่นกับข้าวของศจีมันตีขึ้นจมูกจนน้ำลายสอแล้ว”“งั้นคุณกินตามสบายนะ กินเสร็จวางไว้ ฉันจะมาจัดการพรุ่งนี้เช้า” คนหน้านิ่งบอก ดวงตามีความเห็นใจและปรารถนาดีจนปิ่นลดาสัมผัสได้ แต่พอเดินมาถึงประตูห้องครัว เจ้าตัวกลับหยุดลง แล้วหันกลับไปหาคนนั่งมอง ถือช้อนในมือค้างตรงโต๊ะอาหาร“อยู่ให้สบายใจ อย่าพยายามคิดทำอะไร โดยเฉพาะเรื่องขัดใจคุณใหญ่”“ศจีรู้อะไรบ้าง บอกฉันหน่อย ขอร้องล่ะ ฉันจะอกแตกตายอยู่แล้ว รับรองจะทำตัวดีๆ ไม่ทำให้เดือดร้อนถึงศจี”“ที่เตือนคุณ ฉันไม่ได้กลัวว่าตัวเองเดือดร้อน คุณใหญ่ใจดีกับคนในบ้าน เธอมีเหตุผลและใจกว้างพอ”“แต่ไม่ใช่กับฉันใช่ไหม ฉันเป็นคนนอกที่ถูกหลอกให้มาติดอยู่ในนี้ โดยมีศจีเป็นผู้คุม” ปิ่นลดาวางช้อนลงจาน แล้วต่อว่าเสียงขึ้นจมูก “ฉันพูดถูกสินะ ศจีถึงไม่เถียงสักคำ”“ฉันบอกคุณได้แค่ว่าคุณใหญ่ใจดีกับพวกเราทุกคน ถ้าคุณทำตัวดีๆ เธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะร้ายกับคุณ”“พูดเหมือนคุณใหญ่เป็นคนเอาแต่ใจที่หนึ่ง คนแก่อารมณ์ฉุนเฉียว ลูกหลานจะเข้าหน้าติดหรือ ฉันเห็นผู้ชายตัวโตๆ ตาสีน้ำตาลก็ดูเอาแต่ใจไม่น้อยเหมือนกัน พวกเขาอยู่ด้วยกันได้ยังไง” “คุณว่าอะไรนะ”

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-21
  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 13

    ใกล้ค่ำอากาศเย็น แต่ปิ่นลดาไม่อนาทรกับมัน หล่อนลากกระเป๋าเดินทางที่เพิ่งรู้สึกว่าช่างหนักเอาการไปตามพงหญ้า เลียบกำแพงคอนกรีตสูงท่วมหัวเป็นสองเท่าออกห่างจากบ้านสีฟ้าไปเรื่อยๆ กำแพงเป็นแนวยาวที่หล่อนก็ไม่รู้ว่าไปจบตรงจุดไหน หรือทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ขอให้ออกไปจากที่แห่งนี้ได้เป็นพอ หล่อนพยายามไม่คิดไปทางเลวร้ายเพราะจะบั่นทอนกำลังใจตัวเอง ทั้งที่งูเงี้ยวเขี้ยวขอ ตลอดจนสิงสาราสัตว์ตัวใหญ่ผ่านแวบไปแวบมาในสมอง แต่รีบปัดมันออก ระยะทางคงหลายร้อยเมตรที่หญิงสาวต้องออกแรงลากกระเป๋าใบโต มันเหนื่อยจนเธอต้องหยุดพัก มองรอบตัวสัมผัสแต่ความเงียบนิ่ง คงยังไม่มีใครรู้ว่าเธอหลบออกมา ปิ่นลดานั่งบนกระเป๋า พักเหนื่อย แล้วเมื่อเขม้นมองข้างหน้าเห็นเหมือนทางโล่ง ไร้ขอบกำแพงกั้น เรียวปากสวยแย้มกว้าง อุทานอย่างมีความหวัง “กำแพง กำแพงสุดแค่นี้เอง โอย รอดตายแล้วเรา” อารามดีใจทำให้หลงลืมความเหนื่อย หญิงสาวออกแรงฮึดอีกครั้งเพื่อลากกระเป๋าอันเป็นสมบัติชิ้นเดียวติดตัวไปด้วย ด้วยระยะทางไม่ถึงร้อยเมตรกับความมืดครึ้มและเส้นทางที่ปูด้วยต้นหญ้าสูงแค่เข่าทำให้ปิ่นลดาแทบขาดใจกว่าจะฝ่าไปถึง ด้านล่างขอบกำแพง เป็

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-21
  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 14

    “ฉันพาเธอเดินชมไร่ เห็นว่าอยากเดินนักไม่ใช่หรือ” คำตอบของเขาทำให้เธอต้องอุทานอย่างไม่อยากเชื่อหู“อะไรนะ นี่ฉันไม่ได้เดินกลับเหรอ”“ใช่ แล้วยังไง หรือตอนนี้อยากกลับแล้ว ฉันจะพาไป”“บ้าที่สุด ทำไมต้องทำอย่างนี้ คุณไม่ต้องพาฉันไปแล้ว ฉันจะกลับของฉันเอง” ปิ่นลดาแทบกระทืบเท้า ลืมสิ้นความกลัว นึกอยากให้ตนตัวโตกว่านี้สักเท่า จะได้จับคนป่าเถื่อนทุ่มให้แขนขาหักเมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกให้เดินวนอย่างไม่รู้ทิศทาง หญิงสาวจึงตัดสินใจหันไปทางหนึ่งซึ่งเชื่อมั่นว่าเป็นทางกลับบ้านหลังสีฟ้า เมื่อหนีไม่ได้ กลับไปตั้งหลักจะเป็นไรไป ดีกว่าทนอยู่กับผู้ชายบ้ากลางป่ากลางเขาหากต้นแขนกลมกลึงก็ถูกคว้ากระชับแน่น หล่อนเกือบออกแรงดิ้นอีกรอบ แต่เห็นเขาชี้ไปทางตรงกันข้าม เมื่อมองตามจึงเห็นคฤหาสน์เป็นเงาทะมึนอยู่ไกลๆหญิงสาวสะบัดแขนออก เชิดหน้าเดินโดยไม่รอให้ใครส่องไฟนำทาง เพราะตอนนี้รู้ทิศทางของตัวเองแล้วเสียงหัวเราะดังจากด้านหลัง ปิ่นลดาคอแข็ง ไม่ยอมเสียสายตาหันมอง ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น นึกแช่งชักหักกระดูกคนบ้าบอไปตลอดทางเขาเดินมาส่งถึงบ้านหลังสีฟ้าที่มีคนของเขายืนรออยู่ก่อน พร้อมกับกระเป๋าของปิ่นลดา หญิงสาวปรี่ไ

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-21
  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 15

    “งาน...งานอะไร” ปิ่นลดาถามเสียงขาดห้วง หล่อนจำเสียงตัวเองแทบไม่ได้ กระนั้นยังพยายามระงับความกลัวที่แล่นปราดทั่วกาย...เพื่อจะแก้ความเข้าใจผิด “ฉันมาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก แต่ไม่มี...ฉันไม่เห็นว่าที่นี่มีเด็ก แล้วฉันไม่ได้ทำงาน ถามใครก็ไม่มีคำตอบ ฉันเลยต้องถามหาคุณ”“ก่อนเธอจะได้เลี้ยงเด็ก เราต้องช่วยกันทำให้มีเด็กขึ้นมาก่อนยังไงล่ะ ปิ่นลดา และฉันคิดว่าเธอพร้อมแล้ว ถึงได้ไปหาฉัน”“ไม่ ไม่ใช่” หล่อนตะโกนก้องเมื่อรู้เจตนาเขา โผวิ่งอ้อมกำแพงหนาที่ขวางหน้าอยู่เพื่อตรงไปยังประตูที่ถูกปิดสนิทโดยที่ไม่ทันสังเกตหากว่าร่างบางเซถลากลับมาชนกำแพงเนื้อหนาหนั่นทั้งตัวด้วยแรงกระชากมหาศาล เธอดิ้นรนสุดแรงเพื่อจะหลุดพ้นจากปลอกเหล็กกล้าซึ่งกำลังรัดแน่นอยู่กลางลำตัว “ไม่ อย่า อย่าทำฉัน” เสียงร้องขอสลับกับเสียงหัวเราะห้าวที่บอกว่าเจ้าตัวสนุกกับการหยอกล้อเหยื่อให้หวั่นกลัวจนหัวใจแทบหยุดเต้น ปิ่นลดาดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งเมื่อถูกผลักจนล้มบนเตียงนอน ก่อนร่างหนาจะคร่อมอยู่ด้านบน กำราบสองมือน้อยที่ทุบตีผลักไสเขา ด้วยมือหนาเพียงข้างเดียว แล้วกดทับขึ้นเหนือศีรษะเธอก้อนสะอื้นวิ่งขึ้นจุกถึงลำคอ ปิ่นลดาดวงตาเหลือกลาน พย

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-21
  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 16

    แต่สิ่งที่เธอร้องขอไม่เกิดขึ้น ซ้ำสิ่งนั้นยังเคลื่อนเข้ามาเรื่อยๆ ความอุ่นร้อนชำแรกลงมา จนเธอสั่นสะท้านด้วยความซ่านเสียวและเจ็บปวด ปะปนกันไปหมด สุดท้ายของความทรมาน ปิ่นลดาผวากรีดร้องเมื่อความใหญ่โตถูกผลักดันเข้ามาจนลึกสุด ร่างกายเธอกำลังถูกฉีกร้าว ไม่อาจทนกับมันได้อีกแล้ว“ไม่ พอแล้ว เจ็บ...ไม่ไหวแล้ว ได้โปรด” กำปั้นน้อยระดมทุบบนไหลกำยำ ใบหน้าสวยแดงก่ำสะบัดไปมา สะอื้นไห้ด้วยความเจ็บปวด “อย่า พอ ฮือๆ” ร่างกายกำลังถูกบางสิ่งตอกลิ่มเข้ามา ปิ่นลดาอยากหลุดพ้นจากมันเหลือเกิน“อย่าดิ้น ไม่งั้นเธอจะเจ็บกว่านี้” เสียงแหบพร่ากระซิบชิดหู หญิงสาวขนลุกซู่ด้วยความปั่นป่วนในช่องท้อง มือหนาเคลื่อนมากอบกุมอกอวบ บีบเคล้นเบาๆ จนเธอเริ่มผ่อนคลาย ความเสียวซ่านแทรกซึมทั่วทุกอณูเนื้อ สองมือหนาเฟ้นฟอนเต็มอารมณ์ หญิงสาวผวาเฮือก เรือนกายสั่นระริก แต่คราวนี้ด้วยความรู้สึกต่างจากเดิมใบหน้าคมเคลื่อนลงตรงซอกคอระหง ริมฝีปากได้รูปพรมจูบแผ่วเบา ปัดไล้ตามผิวอ่อน หากแค่หล่อนหลงตาม เรียวปากหยักก็ขบเม้ม ดูดดึงเต็มแรง จนได้ยินเสียงหวานครางในลำคอเขาเคลื่อนใบหน้าออกห่าง สายตาจับดวงหน้านวล เฝ้ามองอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของ

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-21

Bab terbaru

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 50

    “คุณจะไปไหนคะ”“อย่าบอกนะว่าคิดถึงฉันจนไม่อยากให้ห่างตัว”“ไม่ใช่สักหน่อย แค่จะบอกว่าฉันเปลี่ยนใจ” หล่อนอุบอิบบอกชายหนุ่มเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เจ้าหล่อนช้อนตามอง กลั้นใจพูดต่อ “ที่บอกว่าอิ่มผลไม้จนตื้อน่ะ ตอนนี้มันย่อยหมดแล้ว ฉันหิวมากเลย”พอรู้ปัญหาของเธอ รัชตะก็หัวเราะอย่างกลั้นไว้ไม่ไหว ผู้หญิงคนนี้หลากหลายอารมณ์จนตามไม่ทันจริงๆ“เอาสิ ลงไปด้วยกัน อยากกินอะไรเดี๋ยวให้คนหามาให้ รับรองอร่อยไม่แพ้แม่ครัวในโรงแรม”“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นค่ะ ฉันไม่ใช่คนกินยากสักหน่อย แค่กับข้าวพื้นๆ สองอย่างก็พอแล้ว”หล่อนออกตัวได้อย่างน่ารักในความรู้สึกของคนฟัง!แล้วนายใหญ่แห่งคฤหาสน์ราชเกียรติกูรถึงกับงุนงง ไปไม่เป็นเอาเสียเลยเมื่อเจอกับปัญหาที่คาดไม่ถึงบนโต๊ะอาหารที่พาหญิงสาวลงมารับประทานในมื้อเที่ยงของวันนั้นแค่เห็นอาหารเมนคอร์สที่จัดไว้อย่างน่ารับประทาน เจ้าหล่อนก็โผเข้าห้องน้ำที่อยู่ใกล้ที่สุด แล้วอาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุง!“บอกแล้วว่าอยากกินกับข้าวพื้นๆ สองอย่าง”

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 49

    “แอบฟังไม่พอ ยังจับไปตีความผิดๆ อีก”“หาว่าฉันเป็นพวกฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียดหรือไง”“ใช่เลย คำนี้เลย ฉันคิดไม่ทัน”รัชตะดีดนิ้วเปาะ รับสมอ้างไปเสียอย่างนั้น อยากรู้ว่าแม่คุณจะโพล่งอะไรออกมาให้เขารู้อีก“ฉันเกลียดคุณ”ถ้อยคำหลุดมาแผ่วเบาจากคนที่นั่งเบี่ยงกายหันหลังให้ เธอไม่รู้หรอกว่าทำให้คนตัวใหญ่แทบเสียหลัก แม้จะพยายามคิดเข้าข้างตัวเองว่าเพียงเป็นคำพูดของผู้หญิงที่กำลังน้อยใจ ไม่ได้มีความจริงสักเท่าไหร่เลยก็ตามรัชตะพาหญิงสาวมายังโรงแรมหรูระดับห้าดาว สถานที่เขานั่งทำงานประจำเกือบทุกวัน หลังจากพาเธอไปยังห้องรับรองส่วนตัวชั้นบนสุด แล้วสั่งให้เลขานุการดูแลอย่างดี แบบไม่ให้คลาดสายตา ก่อนจะลงมาพบลูกค้าคนสำคัญที่นัดไว้ในห้องด้านล่างที่จัดไว้โดยเฉพาะปิ่นลดาเหลียวมองรอบตัว สัมผัสถึงความโอ่อ่าหรูหรา มันน่าทึ่งไม่ต่างจากหลายสถานที่ที่หล่อนเห็นมาในวันนี้ แต่ตอนนี้เธอหมดอารมณ์จะชื่นชมมันแล้วมือบางยกมาวางบนหน้าท้องแบนราบ หัวใจอุ่นวาบขึ้นมา ก่อนนี้มีแต่ความสับสนเมื่อรู้ว่าตัวเองตั้งท

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 48

    “ไม่ต้องการหรอก”“ฉันต้องการเธอฝ่ายเดียวก็ได้ ไม่เป็นไร”เขาพูดกำกวม ทำเหมือนใจป้ำ แต่ดวงตาคมแวววามนั้นปิดความคิดไม่มิด หรืออาจตั้งใจให้หล่อนรู้ปิ่นลดาหน้าร้อนวูบ อย่างไรเสียเธอก็ไม่มีทางชินกับเรื่องทำนองนี้กับเขา และดูว่าสองสามวันมานี้ รัชตะเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคน เปิดเผยตัวตน เปลี่ยนท่าทีกับหล่อนแต่สำหรับหญิงสาวนอกจากความน่ากลัวของเขาจะไม่ลดลงจากเดิม แต่เธอกลับต้องกลัวใจตัวเองเพิ่มขึ้นรถแล่นบนถนนเลียบเขตเมืองเพื่อไปสู่เป้าหมายอันเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดของเมือง เมื่อมาถึงปิ่นลดาก็นึกทึ่งอีกหน ตึกใหญ่ที่ทันสมัยแทรกอยู่ในความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ รายล้อมด้วยผืนป่าได้อย่างกลมกลืนรัชตะจับมือหญิงสาว หลังจากสองคนก้าวลงจากตอนหลังของรถเมื่อแล่นมาจอดเทียบหน้าตึก ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในนั้น พยาบาลสองคนที่มายืนรอรับก็เดินนำไปขึ้นลิฟต์ แล้วตรงไปยังห้องหนึ่งที่มองยังไงก็เหมือนห้องรับรองในโรงแรมห้าดาวมากกว่าห้องตรวจในโรงพยาบาลไม่ถึงนาทีที่รอคอย ประตูห้องนั้นก็เปิดออก ร่างสูงเพรียวในเสื้อกาวน์สีขาวก็เข้ามา ปิ่นล

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 47

    ปิ่นลดาได้ออกจากบ้านเป็นครั้งแรก นับจากย่างเข้ามาในเขตคฤหาสน์ราชเกียรติกูร หากการออกไปในครั้งนี้ไม่ใช่ด้วยความตั้งใจเหมือนสองครั้งแรกที่เธอพยายามหนี แต่ล้มเหลวไม่เป็นท่าหญิงสาวทอดสายตาออกนอกรถที่แล่นบนถนนลาดยาง นานๆ ถึงจะมีรถแล่นสวนมาสักคัน ทิวทัศน์นั้นช่างดูงดงาม ปิ่นลดาเคยค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับเมืองนี้ทันทีที่รู้ว่าจะต้องเดินทางมา และสิ่งที่เห็นก็ไม่ต่างจากที่เคยรู้จริงๆ“ชอบหรือเปล่า”“สวยดีค่ะ”“แถวนี้ยังเป็นนอกเมือง บ้านที่เราอยู่เรียกว่าเนินคุ้มหมอก มีหมอกคลุมหนาตาเพราะภูเขาล้อมรอบ เห็นชัดในช่วงหน้าหนาว ตอนนี้เป็นปลายฝนต้นหนาวพอดี ไม่นานเธอจะได้เห็นมัน แล้วจะรู้ว่าที่ฉันบอกไม่ไกลเกินจริง”ปิ่นลดาเหลือบมองคนพูด เห็นสีหน้ายิ้มๆ เหมือนคนกำลังอวดของถูกใจก็อดรู้สึกแปลกในท่าทีเขาไม่ได้ หากปนไปด้วยความรู้สึกที่ดีกว่าแต่ก่อนจนรถแล่นเข้าเขตเมือง เห็นตึกสูงปลูกเป็นแนวกลืนกับทิวเขา รัชตะเบนสายตาตามคนที่เกาะหน้าต่างมองอย่างให้ความสนใจ“สวยจังเลยค่ะ เหมือนไม่ใช่เมืองไทย”“เชีย

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 48

    “แล้วจะทำอะไร นี่ยังเช้ามืดอยู่”“คุณไม่ต้องมายุ่งหรอก ฉันมีอะไรให้ทำเยอะแยะ”“เช่น...” เขาถาม เห็นท่าทางเหลียวมองรอบกายแล้วกลับมาทำท่าอ้ำอึ้งของเธอก็หัวเราะขึ้น ความอ่อนโยนกำลังเกาะหนึบในหัวใจเขารัชตะจูงมือหญิงสาวพาไปยังมุมหนึ่งของห้องที่หล่อนเพิ่งเห็นว่าเป็นมุมพักผ่อนอย่างดี มีทั้งทีวีและตู้หนังสือติดผนังขนาดย่อม“อยู่ในนี้แล้วกัน เบื่อหรือง่วงเมื่อไหร่ก็ตามมา”จัดการให้เธอเสร็จ ชายหนุ่มก็กลับไปยังเตียงนอนนุ่มกว้าง ปล่อยคนร่างบางให้มองตามด้วยความรู้สึกหลากหลาย สุดท้ายทั้งทีวีและหนังสือที่คิดว่าจะสนใจกลับไม่สามารถจูงใจเธอได้เลย เมื่ออยู่ตามลำพัง ความเงียบก็ทำให้ความรู้สึกเธอเปลี่ยนไปปิ่นลดาซุกตัวบนโซฟา เหลือบมองคนที่นอนบนเตียงเหมือนไม่สนใจเธอ ยกมือปาดน้ำตาแล้วนอนขดตัวบนโซฟาบ้างหญิงสาวหลับตา เธอไม่เข้าใจตัวเอง หงุดหงิดกับอาการที่กำลังเป็น บางทีเหมือนเรียกร้องความสนใจจากเขา หล่อนรู้สึกตัวดี แต่ถ้าไม่ทำ เธอก็ถูกความโหยหาโถมเข้าใส่ ปิ่นลดาไม่อยากจมอยู่กับความรู้สึกว่าทุกคนในโลกใบนี้หันหลัง

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 47

    คนตัวใหญ่ปลอบด้วยสีหน้าร้อนรนเมื่อเจอเหตุการณ์ที่ยากจะรับมือ ก่อนลุกจากเตียง เดินลิ่วไปทางประตู จากนั้นปิ่นลดาก็ได้ยินเขาสั่งคนรับใช้เสียงเข้มอย่างที่เธอต้องหยุดฟังแล้วประเมินค่ำคืนนั้นปิ่นลดาเจอสถานการณ์ที่เดาไว้ก่อนแล้ว การจะขยับตัวไปทางไหน โดยไม่มีสายตาเขาจับมอง เป็นอันว่าเป็นไปได้ยากเหลือเกิน“ในไร่ยังมีผลไม้อีกหลายอย่าง นอกจากลูกพลับ”รัชตะบอก ย้ำเสียงในตอนท้ายเหมือนยังติดใจที่กว่าหล่อนจะยอมกินก็วุ่นกันทั้งบ้าน‘ฉันจะกินที่เก็บใหม่จากต้น แต่ในจานนี้ไม่ใช่ ฉันรู้ว่าไม่ใช่’ไม่มีใครรู้ว่าหล่อนรู้ได้อย่างไร แม้แต่รัชตะ แต่เมื่อมันเป็นจริงตามหล่อนว่า ผลไม้เหล่านี้ถูกเก็บมาไว้ในครัวตั้งแต่เมื่อวาน สำหรับคนปกติถือว่ายังเป็นผลไม้สดใหม่ แต่ไม่นับรวมถึงคนท้องคนนี้‘ไปบอกนายปั้นให้ไปเก็บมาใหม่’รัชตะสั่งเด็กทันทีอย่างต้องการเอาใจเธอ แต่แล้วกลับต้องอึ้ง‘ฉันไม่ไว้ใจนายปั้น ฉันอยากให้คุณไปเก็บเอง’‘อะไรนะ เธอจะให้ฉันไปเก็บลูกพลับในไร่มาให้เธอกินหรือ’‘ใช่ ถ้าคุ

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 46

    งุนงงแป๊บเดียว แฟรงค์ก็ไหวไหล่ ทำท่าเหมือนศาสดาผู้หยั่งรู้ทุกสิ่งในโลก ไม่ใช่หมอที่เชี่ยวชาญจากการเรียนรู้และฝึกฝน“นายจะว่าอะไรไหม ถ้าฉันคิดว่าเธอแค่อ้างเพื่อไม่ให้นายแตะต้องตัวเธอ”“พูดอย่างนี้หมายความว่าไง ทำไมเธอต้องอ้างอย่างนั้นด้วย นายเป็นคนนอก อย่าอวดรู้ไปหน่อยเลย” รัชตะกัดฟันกรอด ไม่ชอบหน้าเพื่อนที่คบกันมาเกือบยี่สิบก็คราวนี้ละ“นายนอนกับเธอบ่อยแค่ไหน”“บ่อย เกือบทุกคืน” ไม่อยากตอบ แต่ก็ต้องตอบ เพราะสำนึกอีกส่วนบอกว่าเพื่อนที่รั้งตำแหน่งหมอประจำตัวของปิ่นลดากำลังทำหน้าที่อยู่“นานแค่ไหน”“น่าจะสองเดือน”“ก่อนนี้เธอมีประจำเดือนไหม หมายถึงนายต้องงดเว้นการหลับนอนกับเธอเพราะสาเหตุนี้บ้างหรือเปล่า”“ไม่นะ ไม่มี” รัชตะตอบอย่างไม่เสียเวลาคิด แล้วก็เบิกตาโต “นาย...นายหมายความว่า…”“ก็ตรงกัน ความเข้าใจฉันไม่ผิด เมื่อวานตรวจร่างกายคุณปิ่นลดา ฉันสงสัยบางอย่าง แต่วันนี้มั่นใจมากขึ้นหลังจากคุยกับเธอและตรวจปัสสาวะ&rdquo

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 45

    ภาพของหมอหนุ่มต่างจากภาพในความคิดของปิ่นลดาโดยสิ้นเชิง ผู้ชายวัยกลางคนใส่แว่นตาท่าทางอ่อนโยนไม่มีให้เห็นในตัวของคนตรงหน้าที่ยืนยิ้มอย่างพร้อมทำความรู้จัก“ปิ่นลดา นี่หมอแฟรงค์ เพื่อนของฉัน”“ค่ะ สวัสดีค่ะ”ปิ่นลดายกมือไหว้แทบไม่ทัน เมื่อได้ยินคำแนะนำและเพิ่งรู้สึกตัวว่ามองคนมาใหม่มากไป แล้วเหลือบเห็นเจ้าของเสียงที่ปลุกเธอตื่นจากความสงสัยและประหลาดใจ เขาตีสีหน้าบึ้งตึงเหมือนไม่พอใจอยู่ จะด้วยสาเหตุใดเธอก็ไม่รู้ หรือติดพันจากการเถียงกันเมื่อครู่ก็สุดจะเดา“เป็นยังไงบ้างครับ ได้ข่าวว่าแข็งแรง ดีขึ้นมากแล้ว”“ฉันสบายดีค่ะคุณหมอ ไม่ได้ป่วยไข้อะไร”“ได้ยินอย่างนี้หมอก็สบายใจครับ”ปิ่นลดายิ้มโล่งอก เหมือนหมอจะไม่ติดใจอาการของเธอแล้ว แต่เสี้ยววินาที รอยยิ้มเธอก็หายวับ“ใหญ่ นายออกไปก่อน ฉันขออยู่กับคุณปิ่นลดาตามลำพัง”“ได้ยังไง นายจะตรวจก็ตรวจไปสิ ห้องตั้งกว้าง ฉันเกะกะนายตรงไหน”“หวงมากหรือ งั้นไปเรียกเด็กมาอยู่ในห้องสักคน แล้วเชิญนายออกไป&

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 44

    “งั้นเธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วออกมาทานข้าว ฉันจะให้คนยกมาในห้อง ส่วนเสื้อผ้าเธอ ให้ศจีขนมาให้ทั้งหมดนั่นละ ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มก็บอก”“ตกลงว่าฉันกลายเป็นนักโทษขังเดี่ยวไปแล้วใช่ไหมคะ”“ขังเดี่ยวที่ไหน ขังคู่กับฉันต่างหาก”รัชตะว่าเสียงเรียบ ใบหน้าหล่อเหลานิ่งขรึม ไร้ร่องรอยล้อเลียน แต่ปิ่นลดารู้หรอกว่าเขาแสร้งทำ เพราะดวงตาสีสนิมเหล็กนั่นพราวระยับทั้งวันรัชตะคอยป้วนเปี้ยนใกล้ปิ่นลดา โดยเธอคิดว่าเป็นเพราะเขาว่างจากงาน จึงลงทุนเฝ้าเธอด้วยตัวเอง คงกลัวว่าจะหนีพอตกบ่ายหญิงสาวผล็อยหลับ ด้วยสาเหตุที่เจ้าตัวรู้ดี...อาการจากความเปลี่ยนแปลงของร่างกายคงปรากฏแล้วแต่พอตื่นในเวลาใกล้เย็น เธอกลับเห็นชายหนุ่มนั่งทำงานง่วนอยู่กับโต๊ะทำงานชั่วคราวที่จำได้ว่าเมื่อเช้าไม่มีมันอยู่ตรงนี้“ตื่นแล้วหรือ หิวไหม จะกินอะไรหรือเปล่า” เขาวางปากกา เงยหน้ามองเธอ เพราะอาจรู้ว่าตกเป็นเป้าสายตาอยู่“คนเพิ่งตื่นนอน จะหิวได้ยังไง ทำยังกับไปวิ่งข้ามเขามาอย่างนั้นละ” คนถูกถามตี

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status