บทสรุปของเรื่องนี้คือฉันไม่ได้โทรศัพท์คืนจากอลัน เขาไม่ยอมคืนให้ แถมยังบอกว่าตัวเขาออกไปจากห้องเมื่อไหร่จะคืนให้เองตอนนี้ฉันขวัญมินนี่กำลังนั่งดื่มกันอยู่ โดยมีอลันนั่งร่วมวงด้วยทำให้บรรยากาศมันค่อนข้างอึดอัดพอสมควรเพราะท่าทางที่เข้มขึมของอลัน เขาจะรู้ไหมว่าตัวเองน่ะเป็นส่วนเกิน “อาทิตย์หน้าฉันจะไปต่างหากพวกแกจะฝากซื้ออะไรไหม” ขวัญพูดขึ้น เพื่อนฉันคนนี้บินไปต่างประเทศบ่อยยิ่งกว่าอะไร “ฝากหิ้วผู้ชายทีค่ะ” “ของแบบนี้ต้องไปเลือกเองไหมล่ะ” “ฉันฝากด้วย” ฉันพูดขึ้น จู่ๆ ทุกคนก็หันพรึบมามองกันเป็นตาเดียว ไม่เว้นแม้แต่อลันที่จ้องฉันเขม็ง “ฝากหิ้วผู้ชาย ?” อลันถามเสียงเข้ม ทั้งที่ฉันยังไม่ได้พูดเลยสักคำว่าจะฝากอะไร “บ้าหรอ ฉันจะฝากซื้อน้ำหอม”คำตอบของฉันทำให้เพื่อนทั้งสองคนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ลุ้นอะไรกันขนาดนั้นเชียว “แล้วไป” อลันบอกก่อนจะเบือนหน้าหนี “ฉันคิดว่าแกจะฝากหิ้วผู้ชายซะอีก แต่ก็นะแฟนเด็กของแกหล่อขนาดนี้ยังจะสนใจอะไรอีกล่ะ” มินนี่พูดแซว แต่นั่นมันไม่ได้ทำให้รู้สึกยินดีเลยสักนิดที่ได้ยินคำว่าแฟนเด็ก ฉันตัดสินใจว่าจะบอกเพื่อนถึงความสัมพันธ์ เพราะสุดท้ายยังไงพวกมันก็ต้อง
เมื่อได้ฟังคำตอบนั้นฉันเองก็ทำได้แต่มองอลันเงียบๆ โดยไม่โต้ตอบอะไร สิ่งที่เขาทำตอนนี้มันทำให้ฉันรู้สึกวูบไหวในใจแปลกๆ หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งฉันก็ลุกขึ้น ยังไม่ทันจะได้เดินไปไหนอลันก็คว้ามือมารั้งแขนไว้ซะก่อน “จะไปไหน”“ไปเอากุญแจห้องให้นายไง” ฉันพูดโดยที่ไม่ได้มองหน้าเขา เมื่อบอกแล้วอลันก็ค่อยๆ ปล่อยมือจากแขนของฉัน ฉันเดินมาที่ห้องนอนของตัวเองเพื่อหยิบกุญแจอีกห้องเอามายื่นให้อลัน เพื่อนของฉันทั้งสองคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็เงียบไม่มีใครพูดอะไรสักคำ แต่ดูจากสีหน้าแล้วในใจคงจะมีคำถามมากมาย อลันมองหน้าฉันครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพาผู้หญิงคนนั้นไปที่ห้อง “ยัยแพร! แกทำบ้าอะไรลงไปรู้ตัวไหม” ให้หลังจากที่อลันเดินไปแล้วขวัญก็พูดขึ้นมาทันที“นั่นสิ! ไม่ว่าความสัมพันธ์ของแกกับอลันจะเป็นยังไงการให้เขาพาผู้หญิงมาที่ห้องของตัวเองมันสมควรหรือไง” มินนี่พูดเสริม “ฉันพูดเอง” ฉันตอบเพียงสั้นๆ “แกกับน้องมันนี่ยังไงกัน! ตอนแรกฉันเห็นคิดว่าแกคบหาดูใจกับอลันเพราะฉากที่บาดตาบาดใจนั่น แต่แกดันมาบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน หนำซ้ำอลันยังพาผู้หญิงมาที่ห้องแกอีก นี่แกยังนั่งชิวได้อยู่หรอยัยแพร”“แกจะให้ฉันทำอะไร
อลันลุกขึ้นจากตัวฉัน เขาเดินออกไปจากห้อง ฉันจึงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งแล้วตบหน้าตัวเองเบาๆ เพราะเมื่อครู่เผลอพูดอะไรแบบนั้นออกไป สักพักก็มีเสียงผู้หญิงโวยวายดังขึ้นมาให้ได้ยิน แต่ฉันจับใจความอะไรไม่ได้เพราะได้ยินไม่ชัด รู้แค่ว่าเธอคงไม่พอใจอลันแน่ๆ ผ่านไปครู่หนึ่งอลันก็เดินกลับเข้ามาในห้อง เขาเดินมาหยุดตรงหน้าฉันแล้วก้มลงมาใช้มือจับชายเสื้อที่ฉันสวมใส่ให้เลิกขึ้นมาแล้วถอดมันออกไป โดยที่ฉันเองไม่ได้ขัดขืนอะไร ตอนนี้ท่อนบนของฉันมีเพียงแต่เสื้อชั้นในที่ปิดบังหน้าอกอยู่ “…ผู้หญิงคนนั้นกลับไปแล้วหรอ”“อืม” อลันตอบในลำคอก่อนที่เขาจะถอดเสื้อของตัวเองออกแล้วทิ้งมันลงพื้นอย่างไม่ใยดี ฝ่ามือใหญ่กดตัวฉันให้นอนราบลงมาบนเตียง ร่างหนาของอลันคร่อมบนตัวของฉันอีกครั้ง สายตาคู่นั้นที่จับจ้องมองอยู่มันทำให้ฉันไม่กล้าที่จะสบตาจึงเลือกเบือนหน้าหนี แต่มันกลับเป็นการเปิดโอกาสให้อลันก้มลงมาจูบที่ต้นคอ คำพูดของเพื่อนมันยังวนเวียนอยู่ในหัวของฉัน คำว่า ‘สยบเสือ’ ฉันควรจะทำแบบนั้นหรือจบความสัมพันธ์แบบนี้ซะ ทั้งที่ควรจะเลือกจบความสัมพันธ์อย่างที่ต้องการ แต่เมื่อได้เห็นใบหน้าหวานที่ดุดันของอลันใกล้ๆ แบบนี้มันกลั
เช้าวันต่อมากริ้ง~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้ฉันสะดุ้งตื่นก่อนจะควานมือคลำหาโทรศัพท์ที่ดังรบกวนเวลานอน เมื่อคลำมือเจอโทรศัพท์แล้วฉันก็กดรับสายโดยไม่ได้ดูให้ดีก่อนว่าเป็นเบอร์ของใคร ( ฮัลโหล ) ฉันกรอกเสียงงัวเงียถามปลายสาย ( นั่นแพรหรอ กะ แกทำไมถึงมารับสายอลันได้ ) น้ำเสียงตกใจของปลายสายทำให้ฉันเบิกตากว้างพร้อมกับดีดตัวลุกขึ้นนั่ง ยกโทรศัพท์ขึ้นดูว่าปลายสายคือเบอร์ของใครด้วยหัวใจที่เต้นรัวเมื่อเห็นชื่อที่โชว์อยู่หน้าจอมันก็ทำให้ฉันต้องยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองด้วยความตกใจสุดขีด มันคือเบอร์ของอลิช และที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ โทรศัพท์ที่ฉันถืออยู่มันเป็นโทรศัพท์ของอลัน ไม่ใช่ของฉัน ด้วยความที่ทำอะไรไม่ถูกฉันก็เลยกดตัดสายทิ้งก่อนจะหันมองข้างๆ ตัว เห็นว่าอลันกำลังนอนหลับอยู่ ฉันก้มหน้าลงเอามือยีผมตัวเองจนยุ่งเหยิงไปหมด อลิชทักมาแบบนั้นฉันจะกล้าสู้หน้าเพื่อนได้ยังไงกริ้ง~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้มันคือเสียงโทรศัพท์ของฉันแน่ๆ ฉันหันมองที่โทรศัพท์ของตัวเองแล้วเอื้อมมือหยิบมันขึ้นมา หัวใจดวงน้อยแทบจะหยุดเต้นเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของอลิชที่โทรมา “เอาไงดี!!” ฉันกำโทรศัพท์ในม
วันต่อมา @คลับ วันนี้ฉันมาดื่มกับเพื่อนเพราะพวกนางงอแง จะไม่มาด้วยก็คงดูใจร้ายเกินไป อีกอย่างหลายวันมานี้ในหัวมีแต่เรื่องเครียดๆ ด้วย ฉันคิดไว้แล้วแหละว่าวันนี้อาจจะเจออลันเพราะเขากับเพื่อนชอบมาดื่มกันที่คลับนี้ เป็นคลับของเฮียเฟยน่ะ ฉันกับเพื่อนมาตั้งแต่สามทุ่มกว่าคนยังไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ตอนนี้สี่ทุ่มครึ่งคนเริ่มทยอยมากันจนเกือบจะแน่นคลับแล้ว “เดี๋ยวฉันไปห้องน้ำก่อนนะ” มินนี่บอกก่อนจะหยิบโทรแล้วเดินแยกตัวไป ตอนนี้จึงเหลือแค่ฉันกับขวัญที่นั่งดื่มที่โต๊ะ “แกนี่อาการเหมือนคนอกหักเลยนะยัยแพร ไหนบอกไม่ชอบเด็กไง” ขวัญท้วงเมื่อเห็นสีหน้าของฉัน “ก็ไม่ชอบ” ฉันตอบเพื่อนก่อนจะยกเหล้าดื่ม “ฉันจะเชื่อคำพูดแกได้ยังไง” “คำพูดฉันมันไม่น่าเชื่อขนาดนั้นเลยหรอ” “การกระทำแกต่างหากที่ไม่น่าเชื่อ” “…….” ฉันทำอะไร ก็ปกตินี่ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย “แกบอกว่าไม่ชอบเด็กแต่กับน้องอลันคือข้อยกเว้นสินะ” “มะ ไม่ใช่สักหน่อย” ฉันยกเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้งพร้อมกับหลบสายตาจับพิรุธของขวัญ “นี่ยัยแพร! ฉันเป็นเพื่อนแกนะทำไมจะดูอาการของเพื่อนไม่ออก แกน่ะกำลังหลงรักน้องมันอยู่ แต่ตอนนี้แกกำลังต่อต้านคว
มันสัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ฉันที่เคยพูดมาตลอดว่าไม่ชอบผู้ชายที่อายุน้อยกว่า แต่ตอนนี้ความรู้สึกเหล่านั้นมันกำลังเกิดขึ้นกับผู้ชายที่ชื่อ ‘อลัน’ ยอมรับว่าอลันคือคนที่ทำให้ฉันเลิกจมปักกับพี่เพิร์ท เขาคือคนที่ทำให้ฉันดีขึ้นโดยการเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของฉันและดึงฉันเข้ามาพัวพันกับความสัมพันธ์ที่ไม่มีสถานะบ้าๆ นั่น ฉันควรหยุดมันซะ! ก่อนที่ตัวเองจะต้องเจ็บปวดอีกครั้ง “พวกแกมาวัดกันหรอคะนั่งนิ่งกันเชียว” เสียงของมินนี่ท้วงขึ้นมาทำให้ฉันหลุดจากวังวนความคิดของตัวเอง “รอแกเปิดไงคะ” ขวัญพูด “โทษทีฉันคุยโทรศัพท์นานไปหน่อย” “คุยกับผู้ชาย ?” ฉันถามเชิงแซว มินนี่จึงยิ้มกริ่มโดยไม่ได้ตอบอะไร เพื่อนฉันคนนี้ร้ายกาจยิ่งกว่าผู้ชายซะอีก คงจะมีแค่ฉันกับขวัญที่ใสๆ เอะ! ไม่สิ ตอนนี้คงมีแค่ขวัญเพราะฉัน….!! ฉันจะคิดถึงเรื่องนั้นในเวลานี้ทำไมกัน!! “เอะ! นั่นน้องอลันนี่” มินนี่มองไปที่โต๊ะของอลันก่อนจะตวัดสายตามองหน้าฉัน “แกทนเห็นน้องมันโอบผู้หญิงต่อหน้าต่อตาได้ยังไง” “มันเรื่องของอลันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน” “คนมีอะไรกันแล้วจะไม่เกี่ยวได้ยังไง” มินนี่ดูขุ่นเคืองมา
@สหรัฐอเมริกา เดินทางยี่สิบกว่าชั่วโมงในที่สุดฉันและขวัญก็มาถึงที่อเมริกา เราไม่ต้องยุ่งยากหาโรงแรมพักเพราะขวัญมีบ้านที่นี่ พ่อของเธอมีธุรกิจที่นี่จึงซื้อบ้านไว้ เป็นไงล่ะเพื่อนของฉันไม่ธรรมดาเลยใช่ไหม เราจะมาอยู่ที่อเมริกากันสองอาทิตย์ จริงๆ ยัยขวัญจะมาแค่อาทิตย์เดียวแต่ฉันบอกไปว่าอยากมาสักสองอาทิตย์นางเลยตามใจ ส่วนร้านกาแฟที่ไทยฉันฝากให้มินนี่ช่วยเข้าไปดูแลให้ นานมากแล้วที่ฉันไม่ได้มาต่างประเทศ ตอนนี้มองอะไรมันก็สวยแปลกตาไปหมด #บ้านของขวัญ “จะไปช๊อปปิ้งกันเลยไหม ?” มินนี่ถามเมื่อเราเอากระเป๋ามาไว้ที่บ้านกันแล้ว ที่บ้านเป็นหลังขนาดกลางไม่เล็กและไม่ใหญ่ มีสระว่ายน้ำ “วันนี้ขอพักก่อนดีกว่า นั่งเครื่องมาเหนื่อยๆ” “อื้อฉันก็รู้สึกเหนื่อยเหมือนกัน” “มาไกลขนาดนี้แกต้องดูแลหัวใจให้หายเร็วๆ ล่ะ” ขวัญพูดหลังจากที่เราเงียบกันไปครู่หนึ่ง “ทำไมต้องดูแลฉันปกติดี” “แกนี่ชอบปากแข็ง ฉันดูออกค่ะ” “คิดว่าฉันมาที่นี่เพราะอลันจริงๆ น่ะหรอ” “มันคงเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ผู้หญิงขี้งกอย่างแกยอมเหมาจ่ายเครื่องบิน บินมาไกลถึงอเมริกา” “…….” ฉันเถียงไม่ออกจริงๆ เพราะที่ขวัญพูดมามันถูกต้อง อลันค
“ฉันจะทำแบบนั้นเพื่ออะไร จะเอาคืนนายเพื่ออะไร” “ถามตัวเองดูว่าทำเพื่ออะไร” อลันถามยอกย้อนฉัน “นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้นายไม่มีสิทธิ์มาที่ห้องของฉันอีก ฉันจะเปลี่ยนรหัส!!” ด้วยความหงุดหงิดที่ถูกทำให้เจ็บตัวแถมยังโดนตวาดใส่ ทำให้ฉันตะเบ็งเสียงบอกเด็กผู้ชายตรงหน้าไปดังๆ “ลองเปลี่ยนดู” เขาไม่ได้เดือดร้อนอะไร ก็ใช่นะสิ! ฉันไม่สำคัญอยู่แล้วไง ถ้าวันนี้มันไม่ดึกแล้วฉันคงจะขอเปลี่ยนรหัสห้องมันตอนนี้เลย “ออกไปจากห้องฉัน ต่อไปนี้นายกับฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก” ฉันกำมือแน่นจ้องอลันเขม็งอย่างไร้ความเกรงกลัว “ถ้าไม่บอกว่าไปไหนมาก็ไม่กลับ” อลันนั่งลงบนโซฟาข้างๆ กับตัวฉัน พอเขานั่งลงมาข้างๆ ฉันก็รีบขยับหนีด้วยท่าทางที่รังเกียจทันที ฉันคิดหาวิธีจะทำให้อลันเลิกยุ่งเพราะทนความโมโหร้ายแบบนี้ไม่ไหว ถ้าเรามีสถานะแล้วเขาโกรธฉันจะไม่ว่าอะไรเลยสักคำ แต่นี่เขามองฉันเป็นอะไร “ฉันไปอยู่กับแฟนมา” ฉันตัดสินใจอ้างออกไปทั้งที่ไม่ใช่ความจริงพออลันได้ยินคำตอบก็จ้องหน้าฉันเขม็ง ก่อนจะทวนคำถาม “แฟน ?”“ใช่! ฉันมีแฟนแล้ว ที่ฉันหนีหน้านายเพราะไม่อยากจะมีปัญหากับเขา” ลมหายใจของอลันมันเริ่มดังขึ้น เขาขบกามแน่นพร