บรรยากาศภายในบ้านหรูของเตอร์เงียบสงบ แต่ก็ดูอึดอัดเล็กน้อย พอเขาขับรถมาถึงก็ตรงดิ่งเข้ามาภายในห้องโถงขนาดใหญ่ที่ประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหรา ทันทีที่ก้าวเข้าสู่ห้องรับประทานอาหาร เขาเห็นพ่อ แม่ และญาติๆ หลายคนกำลังนั่งล้อมโต๊ะอยู่ พวกเขากำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่ก็หยุดเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา "พ่อกับแม่มีอะไรหรือเปล่าครับ?" เตอร์ถามขณะเดินเข้ามานั่งลงที่เก้าอี้ใกล้ๆ โต๊ะ เขามองไปรอบๆ รู้สึกถึงความเงียบที่ตามมาทันทีเมื่อเขาเอ่ยปากถาม แม่ของเตอร์หันมามองลูกชายด้วยสีหน้าที่ยังดูเคร่งขรึมอยู่ "จะคุยกับแกนี่ฉันต้องมีอะไรด้วยเหรอ?" เธอตอบอย่างดุๆ เตอร์รู้ดีว่านี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี ทุกครั้งที่แม่ใช้โทนเสียงแบบนี้ มักมีเรื่องใหญ่รออยู่เสมอ โต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยอาหารหรูหรา แต่บรรยากาศกลับรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างปกคลุม เตอร์รู้สึกถึงสายตาของญาติๆ ที่จับจ้องมาที่เขา ราวกับรอคำตอบอะไรบางอย่าง พี่สาวของเขา พราวฟ้า นั่งอยู่ใกล้แม่ เธอยิ้มให้เตอร์อย่างจางๆ ในขณะที่ โนคลาส พี่ชายคนโตของเขานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสีหน้าที่ดูจะสบายใจที่สุดในกลุ่ม พี่ๆ ของเตอร์ต่างมีครอบครัวไปแล้ว มีชีวิตที่ดูเหมือ
ตอนนี้โนเตอร์รู้สึกเหมือนถูกหักหลังและติดอยู่ในสถานการณ์ที่เขาไม่สามารถควบคุมได้ ความเสียใจค่อยๆ กัดกินเขาจากภายใน เมื่อจ๊าบถามถึงการหมั้น เตอร์พยายามตอบด้วยเสียงเรียบ แต่มันก็ไม่สามารถซ่อนความเจ็บปวดในใจได้ "ก็อย่างที่กูเล่าให้มึงฟังแหละ" เตอร์พูดเสียงเบา แต่ภายในนั้นเต็มไปด้วยความขมขื่น รู้สึกเหมือนถูกบังคับให้ก้าวเข้าสู่การหมั้นที่เขาไม่เต็มใจแม้แต่น้อย ความเงียบเกิดขึ้นสักพัก ก่อนที่จ๊าบจะเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ "แล้วฝั่งนั้นเขารับหมั้นโดยที่มึงไม่ได้เต็มใจเนี่ยนะ" เตอร์พยักหน้า แม้หัวใจจะหนักหน่วงเหมือนถูกบีบ ความรู้สึกสิ้นหวังคล้ายจะท่วมท้น "เออ...ไม่แล้วกูก็ไม่ได้ไปด้วย" เขาพูดจบก็ถอนหายใจลึกๆ พยายามกลั้นอารมณ์ที่เริ่มจะปะทุภายใน จ๊าบมองเพื่อนด้วยความเห็นใจ "แม่มึงนี่เนาะ...อันนี้มันสมัยไหนแล้ววะ" เขาส่ายหัว ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงยังใช้วิธีการบังคับแบบนี้อยู่ ในขณะที่พวกเขากำลังเดินคุยกันไปยังคณะ จู่ๆ ก็มีเสียงเรียกที่คุ้นเคย "พี่เตอร์" เสียงนั้นทำให้เตอร์หยุดเดินและหันไปมอง เป็นเนตรที่เดินเข้ามาหาพร้อมกับเสื้อช็อปในมือ "พี่ลืมเสื้อช็อป...คุณป้าเลยให้เนตรเอามาให้"
โนเตอร์รู้ดีว่าเรื่องที่บ้านกำลังจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ แต่เขาก็ไม่อยากให้ดาหวันรู้เรื่องนี้ เขาตัดสินใจเก็บเรื่องการหมั้นและความขัดแย้งในครอบครัวไว้เป็นความลับ ด้วยความหวังว่ามันจะคลี่คลายไปเอง ช่วงเช้าวันหนึ่งที่มหาวิทยาลัย ดาหวันเดินควงแขนโนเตอร์เข้ามาในคณะ พวกเขายังคงหัวเราะพูดคุยกันเหมือนเดิม ดาหวันไม่มีทีท่าจะสงสัยอะไร แต่ในใจของโนเตอร์กลับรู้สึกตึงเครียดทุกครั้ง "พี่เตอร์เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมดูเงียบ ๆ ไป" ดาหวันถามขึ้นมาขณะที่พวกเขานั่งอยู่ที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ โนเตอร์ฝืนยิ้มแล้วพยักหน้า "ไม่เป็นไรหรอกหวัน พี่แค่คิดอะไรนิดหน่อย" "คิดอะไรอยู่คะ เล่าให้หวันฟังได้ไหม" เธอถามด้วยความห่วงใย "แค่เรื่องงานนิดหน่อยน่ะ ไม่มีอะไรใหญ่โต" โนเตอร์พยายามเบี่ยงประเด็น ดาหวันพยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่ก็ยังไม่คลายความสงสัยนัก เมื่อถึงเวลาที่ต้องไปเรียน โนเตอร์รู้สึกโล่งใจที่เขาสามารถเปลี่ยนหัวข้อไปได้ เขาตั้งใจอย่างมากที่จะทำให้ดาหวันรู้สึกว่าทุกอย่างยังคงปกติ แม้ว่าในใจเขาจะรู้สึกไม่มั่นคงก็ตาม ช่วงเย็นหลังเลิกเรียน ทั้งคู่ก็ออกไปทานข้าวด้วยกันตามปกติ ดาหวันเล่าเรื่องราวในมหาวิทยาลัยอย่างสน
ทะเลรู้สึกอึดอัดใจมาตลอดหลายวันที่รู้ว่าเตอร์มีคู่หมั้น เขาไม่อาจจะเพิกเฉยต่อความจริงที่ได้รับรู้ และยิ่งเมื่อเห็นดาหวันยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย เขายิ่งไม่อาจทนอยู่เฉยได้อีกต่อไป ในเช้าวันนั้น ทะเลตัดสินใจเดินไปที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ของเตอร์โดยไม่ลังเล แม้จะเป็นพื้นที่ที่เขาไม่คุ้นเคยนัก แต่เป้าหมายของเขาคือไปเคลียร์กับเตอร์ให้ชัดเจน ทะเลเดินเข้ามาถึงอาคารเรียน เหลือบมองหาเตอร์ไปตามห้องเรียนและโถงทางเดิน จนในที่สุดเขาก็พบเตอร์ที่นั่งอยู่กับเพื่อน ๆ ที่ลานหน้าตึก "ไอ้เตอร์!" ทะเลตะโกนเรียกเสียงดังจนทุกสายตาหันมามอง รวมถึงกลุ่มเพื่อนของเตอร์ด้วย เตอร์หันมามองทะเลด้วยความประหลาดใจ เห็นท่าทีทะเลที่เดินตรงเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเตอร์ก็เปลี่ยนเป็นเครียดขึ้นมาทันที เขาลุกขึ้นจากที่นั่ง ทิ้งเพื่อน ๆ ไว้ข้างหลังแล้วเดินเข้ามาหาทะเล "มึงมีอะไร" เตอร์ถามเสียงเย็นชา ขณะที่ทั้งคู่ยืนจ้องหน้ากันกลางลาน "เรามีเรื่องต้องคุยกัน" ทะเลพูดออกมาอย่างหนักแน่น พลางสบตาเตอร์ที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ "เรื่องอะไร" เตอร์พูดสวนกลับ รู้สึกไม่สบายใจที่ทะเลเดินมาหาเขาถึงที่แบบนี้ ทะเลไม่เสียเวลาอ้อมค้อม
เนตรเดินเข้ามาในมหาวิทยาลัยด้วยท่าทางมั่นใจ พร้อมรอยยิ้มที่ดูมีเลศนัยบนใบหน้า เธอเลือกเสื้อผ้าชุดสวยที่สุด สะพายกระเป๋าแบรนด์เนม เผยความเป็นผู้หญิงที่ดูดีทุกกระเบียดนิ้ว พร้อมจะเผชิญหน้ากับทุกคนโดยเฉพาะดาหวัน วันนี้คือวันที่เธอจะเปิดเผยทุกอย่างให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นคู่หมั้นของโนเตอร์ ไม่ว่าใครก็จะไม่สามารถแย่งเขาไปจากเธอได้ บรรยากาศรอบ ๆ คณะแพยท์ดูเหมือนจะเป็นปกติ แต่เมื่อเธอเดินเข้าไป นักศึกษาหลายคนเริ่มหันมามองด้วยความสนใจ และเริ่มซุบซิบกัน เนตรไม่สนใจว่าใครจะพูดอะไร เธอมีเพียงแผนเดียวในใจ นั่นก็คือการแสดงตัวตนอย่างเต็มที่ "นั่นใครน่ะ ดูมีคลาสมากเลย" นักศึกษาคนหนึ่งพึมพำกับเพื่อนข้าง ๆ "อ้อ เขาบอกว่าเป็นคู่หมั้นพี่เตอร์ไม่ใช่เหรอ?" เพื่อนอีกคนตอบเบา ๆ ข่าวลือเกี่ยวกับเนตรที่เป็นคู่หมั้นของโนเตอร์เริ่มแพร่กระจายออกไปตั้งแต่วันแรกที่เธอก้าวเข้ามาในมหาวิทยาลัย แต่ในวันนี้มันจะไม่ใช่แค่ข่าวลืออีกต่อไป เนตรตั้งใจจะทำให้ทุกคนได้เห็นความจริง ขณะที่เนตรเดินเข้ามาถึงกลุ่มเพื่อนดาหวัน เธอก็เห็นดาหวันนั่งอยู่กับเพื่อนๆ อย่างสนุกสนาน เนตรยิ้มอย่างเยือกเย็น ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหา "สวัสดีค่ะ
ึ โนเตอร์ยืนอยู่หน้าประตูห้องของดาหวันในคอนโด สายตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวลและเสียใจอย่างที่สุด เขายืนมองประตูบานนั้นอย่างไร้หนทาง ขณะที่หัวใจเต้นแรงด้วยความกลัวว่าจะสูญเสียเธอไปจริง ๆ "หวัน...เปิดประตูให้พี่หน่อยได้ไหม" เสียงของโนเตอร์สั่นเล็กน้อย ขณะที่เขาพยายามกลั้นความรู้สึกกดดันที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ แต่ในห้องของดาหวันกลับเงียบสนิท ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝั่งของประตู หัวใจของโนเตอร์รู้สึกหนักอึ้ง เขารู้ดีว่าตัวเองทำผิดและเป็นต้นเหตุให้ดาหวันเจ็บปวด แต่ตอนนี้เขาต้องการให้เธอรับฟังความจริงและเหตุผลที่เขาปิดบังเรื่องคู่หมั้นของเขาไว้ "หวัน...พี่รู้ว่าพี่ทำให้หวันเสียใจ พี่ยอมรับว่าพี่ปิดบัง...แต่พี่อยากให้หวันเข้าใจว่าเรื่องนี้มันซับซ้อนมาก พี่ไม่เคยมีใจให้กับเนตรเลย เธอแค่เป็นคู่หมั้นที่พี่ถูกบังคับให้หมั้นด้วย แต่คนที่พี่รัก คนที่อยู่ในใจพี่เสมอ...คือหวัน" เขาพูดต่อไปขณะที่หัวใจของเขาเริ่มรู้สึกถึงความอึดอัดที่มากขึ้น "หวันช่วยรับฟังพี่หน่อยได้ไหม? พี่ขอร้อง อย่าโกรธพี่แบบนี้เลย พี่ทำให้ทุกอย่างมันแย่ไปหมด แต่พี่ขอโทษจริง ๆ" โนเตอร์ทิ้งตัวลงพิงกับประตู หัวใจของเขาหนักอึ้งเหมือน
โนเตอร์นั่งอยู่ในห้องรับแขกของบ้านตัวเอง สายตาของเขาเคร่งเครียดและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบงัน เขารู้ดีว่าการตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าจะรักษาความรักของเขาและดาหวันไว้ เขาต้องกล้าหาญพอที่จะทำในสิ่งที่เขาเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง “แม่ครับ ผมมีเรื่องอยากจะพูดด้วย” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แม่ของเขา นั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ สีหน้าแสดงถึงความสงบ แต่แววตาของท่านเต็มไปด้วยความคาดหวัง “มีอะไรล่ะ เรื่องงานหมั้นกับยายเนตรน่ะเหรอ” โนเตอร์สูดลมหายใจลึก หัวใจเต้นแรงด้วยความกังวล แต่เขาไม่แสดงมันออกมา “ใช่ครับ ผมต้องการให้ยกเลิกงานหมั้นนี้” แม่ของเขาขมวดคิ้วทันที “หมายความว่ายังไง ที่บ้านเราและบ้านของเนตรตกลงกันเรียบร้อยแล้ว แกไม่มีสิทธิ์มายกเลิกอะไรทั้งนั้น” เสียงของมารดาดังขึ้นจนทำให้โนเตอร์รู้สึกถึงแรงกดดัน แต่เขาไม่ยอมปล่อยให้ความกลัวเข้าครอบงำ “แม่ครับ งานหมั้นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นจริงในความรู้สึกของผมเลย ผมไม่เคยเต็มใจที่จะหมั้นกับเนตร ผมต้องการยกเลิกเพื่อความชัดเจน ไม่อยากให้มันกลายเป็นปัญหาที่จะส่งผลเสียกับทุกคน” คำพูดของเขาทำให้บรรยากาศในห้องยิ่งตึงเ
หลังจากที่ครอบครัวของโนเตอร์ได้ตัดสินใจบากหน้าไปขอถอนหมั้นกับครอบครัวของเนตร สถานการณ์ที่ตึงเครียดระหว่างสองตระกูลยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ครอบครัวของเนตรไม่พอใจอย่างชัดเจน พ่อของเธอถึงกับขบฟันแน่น ส่วนแม่ของเธอนั้นแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าครอบครัวของโนเตอร์จะกล้าทำเช่นนี้ ในห้องนั่งเล่นของบ้านเนตร บรรยากาศอึดอัดปกคลุมไปทั่ว ขณะที่ครอบครัวของเนตรนั่งฟังการอธิบายเหตุผลจากพ่อแม่ของโนเตอร์ ใบหน้าของพ่อแม่เนตรเต็มไปด้วยความโกรธเคือง แต่เมื่อเห็นความแน่วแน่ในคำขอถอนหมั้น สุดท้ายพวกเขาก็ต้องจำยอมอย่างไม่เต็มใจ “ในเมื่อพวกคุณต้องการแบบนั้น...ก็ให้มันจบไปเถอะ” พ่อของเนตรพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา สายตาของเขาจ้องไปที่พ่อแม่ของโนเตอร์ด้วยความข่มใจ เมื่อคำตัดสินนั้นหลุดออกมา บรรยากาศในห้องเงียบลงชั่วขณะ แต่ในใจของเนตรกลับพลุ่งพล่านด้วยความโกรธ เธอหันไปมองพ่อแม่ของเธอที่นั่งนิ่งด้วยความโกรธเกรี้ยว ก่อนจะก้มหน้าก้มตาไปอย่างยอมจำนน แม่ของเนตรพยายามข่มความรู้สึกไว้ ทั้งๆ ที่ไม่อยากยอมแพ้ หลังจากครอบครัวของโนเตอร์กลับไปแล้ว เนตรยังคงนั่งเงียบอยู่ในห้อง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเคียดแค้น เธอกำมือแน่น จนเล็บ
"พี่เตอร์มาหรือยังค่ะ"ดาหวันยกโทรศัพท์โทรหาเขาแต่เช้า วันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดเธอกะจะไปใส่บาตรแต่เช้าจากนั้นค่อยไปบ้านสวนเพราะนัดกับเตอร์ไว้แล้ว"พี่ใกล้จะถึงแล้วครับ หวันจะลงมารอพี่เลยไหมหรือให้พี่ขึ้นไปรับ""ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหวันลงไปรอข้างล่างเลย"เพราะถ้าให้เขาขึ้นมาก็จะเสียเวลาไปกันใหญ่อีกอย่างเธอก็ไม่ได้ป่วยหรือมองไม่เห็นนิพอเขาขับรถมาถึงเธอก็อ้อมไปขึ้นฝั่งคนนั่งข้างเขาทันที"พี่เตอร์เราไปใส่บาตรกันตรงไหนดีค่ะ"เธอเอ่ยถามเขา"แถวหมู่บ้านใกล้ๆ นี่ก็ได้ครับ"ตรงนี้เป็นแหล่งชุมชนมีคนขายอาหารหลากหลายเมนู เขากับเธอจึงลงไปซื้ออาหารคาวหวานพร้อมทั้งน้ำและดอกไม้แล้วก็ใส่บาตรเลยเมื่อพระท่านเดินบิณฑบาตรมาพอดี"เป็นไงบ้างรู้สึกดีไหมครับ""รู้สึกดีมากค่ะ""งั้นไปกันเถอะถ้าหิวก็บอกนะจะได้แวะหาอะไรทาน""ได้ค่ะ ป่ะขึ้นรถ"ดาหวันรู้สึกคิดถึงบ้านสวนมากตั้งแต่ผ่าตัดตาเธอก็ไม่ได้มาเหยียบที่นี่เลย เพราะทะเลไม่อยู่ด้วยและ อีกอย่างแม่ก็ไปทำงานต่างประเทศบ่อยด้วย ขับรถจากกรุงเทพไปราชบุรีใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงเพราะรถติด "นึกถึงตอนนั้นที่หวันอยู่ที่นี่ พี่ได้แต่แอบมองหวันจากไกลๆ และโกรธที่ตัวเองขี้ขลาด
ดาหวันตัดสินใจเรียนปริญญาโทต่อ กว่าจะผ่านความเจ็บปวดทางใจมาได้ก็หนักเอาการ เธอไม่ควรยึดติดกับสิ่งที่ทำให้ทุกข์ใจ เวลาผ่านไปจิตใจของเธอก็แข็งแกร่งขึ้น เธอไม่โทษทะเลหรอกนะไม่โทษเขาแล้ว อย่างน้อยเขาก็เคยเป็นเพื่อนและเป็นแฟนที่แสนดีของเธอ ชีวิตคนเรามันต้องเดินไปข้างหน้า"หวัน...เราลองกลับมาคบกันอีกสักครั้งได้ไหม ให้โอกาสพี่จีบหวันใหม่ พี่รับรองว่าจะไม่ทำให้หวันเสียใจ"เตอร์คุกเข่าลงต่อหน้าเธอพร้อมดอกกุหลาบช่อหนึ่ง "ก็ได้ค่ะ"ไหนๆ แล้วก็ให้โอกาสเขาอีกสักครั้งก็แล้วกันเห็นกับที่เขาพยายามมานานเตอร์อึ้งกับคำตอบที่เธอตอบรับไม่คิดว่าคนตัวเล็กจะยอมกลับมาคบกับเขา นี่เขาคงไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม"เมื่อกี้หวันว่าไงนะ"แหงนหน้ามองเธอน้ำตาคลอ"หวันบอกว่าก็ได้ค่ะ หวันให้โอกาสพี่จีบหวันอีกครั้ง"เธอรับดอกไม้ช่อนั้นขึ้นมาดมและยื่นมือให้เขาจับ เตอร์จับมือบางแล้วลุกขึ้นยืนเต็มตัวก่อนจะก้มลงจุมพิตที่หน้าผากของเธออย่างแผ่วเบาในช่วงที่เธอเรียนต่อเขาค่อยไปรับไปส่งทำตัวเป็นแฟนที่ดีที่สุดเขาอย่างให้เธอกลับมารักเขาหมดใจถึงแม้จะรับรู้ได้ว่าในส่วนลึกเธอไม่เคยลืมทะเลเลยก็ตามถึงแม้ในบางทีที่เธอหลับยังคงละเมอเพ้อถึงเขาสั
วันเวลาล่วงเลยผ่านไป สำหรับคนอื่นอาจจะไวแต่สำหรับเธอกว่าจะผ่านมันมาได้ในแต่ละวัน ทุกเวลาทุกนาทียังคงรอคอยทะเลอยู่เสมอ เหตุใดเขาจึงใจร้ายได้เพียงนี้"หวันยินดีด้วยนะครับ"เตอร์ถือดอกไม้ช่อใหญ่มาร่วมยินดี"ขอบคุณค่ะพี่เตอร์"เธอยื่นมือไปรับช่อดอกไม้นั้นทุกวันเวลาที่ผ่านมาเตอร์พยายามตามง้อขอคืนดีเธอนับครั้งไม่ถ้วนแต่เธอก็ปฎิเสธให้เรื่องเพียงความสัมพันธ์ที่แสนดีถึงแม้จะทราบถึงเหตุผลที่เขาเจอมาก็ตาม อีกอย่างเรื่องราวในอดีตทำให้เธอรู้ว่าเขาอ่อนแอเกินไปหากมีวันหนึ่งเกิดเรื่องขึ้นเหมือนในอดีตเขาคงเลือกที่จะปล่อยมือเธอต่างจากทะเลที่ไม่มีวันทำเช่นนั้นแน่แต่ว่าตอนนี้ทะเลกำลังทำมันกับเธอ เธอเหนื่อยที่ต้องรออย่างไร้จุดหมาย น้ำตาที่ไหลรินด้วยความเสียใจเริ่มจะชินชา"มึง วันนี้ไปฉลองไหนดี"ต้นหอมถามเพื่อนสาว ถึงต้นหอมกับมิเกลจะเรียนจบและทำงานก่อนก็ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอลดลงไปเลย"ร้านเดิมแหละ"ดาหวันบอกเพื่อนสาวสองคนเพราะเธอเองก็ไม่รู้จะไปที่ไหน"ร้านเดิมอีกแหละ มึงไปร้านใหม่กัน ร้านนี้เขาบอกเล่นเพลงสนุกมากคนไปเยอะ"มิเกลทำหน้าสดใสเมื่อพูดถึงร้านใหม่ที่มีคนชักชวนมาอีกที"จะดีเหรอกูอยากไปร
วันนี้ถึงวันที่ต้องเปิดตา มันเป็นอะไรที่ทำให้หัวใจของดาหวันหวั่นไหวเป็นอย่างมาก หากเปิดมาแล้วเธอยังมองไม่เห็นล่ะ ก็คงไม่เป็นไรหรอกนะยังไงเธอก็มองไม่เห็นมาเป็นปีๆ อยู่แล้วนิ ที่สำคัญตอนนี้คืออยากติดต่อทะเลให้ได้ เขาจะรู้ไหมว่าเธอไม่ต้องการอะไรอีกแล้วนอกจากให้เขากลับมาอยู่ข้างกาย"พร้อมนะครับ หมอจะเปิดแล้วนะ"ดาหวันพยักหน้ารับคำ มิเกลต้นหอมพร้อมกับแม่ของเธอต่างนั่งไม่ไกลให้กำลังใจเธอคุณหมอค่อยๆ ถอดผ้าปิดตาและใช้แอลกอฮอล์เช็ดแผลค่อยๆ ทำความสะอาดรอบดวงตาและบอกให้เธอลืมตาได้เธอค่อยๆ ปรือตาช้าๆ ตามที่หมอบอกหัวใจสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะ เธอมองเห็นแล้วมองเห็นจริงๆ ด้วย ภาพแรกที่อยู่เบื้องหน้าคือหน้าของทะเลผู้ชายที่เธอรักเขามากเธอยิ้มด้วยความดีใจ"ทะเล" เมื่อม่านตาขยายภาพตรงหน้ากับค่อยๆ จางหายไปและภาพทุกอย่างตรงหน้าก็ชัดขึ้นเรื่อยๆ น้ำตาที่เอ่อล้นไหลลงอาบแก้มทันทีเพียงแต่กระพริบตา"ทะเลๆๆๆ"เสียงสะอื้นไห้จุกภายในอก มือก็คว้าอากาศเบี้ยงหน้า ทำให้ทุกคนอดสงสารคนตัวเล็กไม่ได้"ไหนลองบอกหมอได้ไหม ภาพแรกที่คุณมองเห็นคืออะไร""ภาพแรกของฉันคือเขาฮือๆ คือทะเล...ตะแต่ความเป็นจริงกับไม่ใช่เพราะอะไร...เพรา
ถึงวันนัดผ่าตัดเมื่อเดินทางมาถึงโรงพยาบาลดาหวันก็มีอาการตื่นเต้นจนมือเท้าเย็นไปหมด"ที่รักทำใจให้ร่มๆ ไม่มีอะไรน่ากลัวเขาจะอยู่กับที่รักเสมอ ไม่ต้องกลัวนะคนดี"ทะเลโอบหลังคนตัวเล็กเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอเป็นกังวลมากเกินไป "รู้สึกกลัวนิดหน่อย""ไม่เป็นไรนะ ที่รักมองหน้าเขา จำสัมผัสนี้ไว้เขาจะอยู่กับเธอเสมอ"ทะเลก้มจูบหน้าผากเธอเบาๆการผ่าตัดดำเนินไปหลายชั่วโมงจนกระทั่งสำเร็จ ทีมแพทย์ออกมาจากห้องผ่าตัดพร้อมรอยยิ้ม"การผ่าตัดสำเร็จด้วยดีครับ ตอนนี้ต้องรอการฟื้นตัวและดูผลในไม่กี่วัน"หมอบอกแม่ของดาหวัน เธอยกมือไหว้หมอยิ้มทั้งน้ำตาปากก็ขอบคุณซ้ำๆ ในที่สุดลูกสาวก็จะกลับมามองเห็นดาหวันอยู่ห้องพักฟื้นซึ่งเป็นห้องพิเศษที่ทะเลจัดเตรียมไว้ให้ ไม่นานแม่เธอก็เดินเข้ามาด้วยความที่ยังมองไม่เห็นจึงคิดว่าเป็นแฟนหนุ่ม"ที่รัก ที่รักใช่ไหมไปไหนมาเหรอ เขาออกมาจากห้องผ่าตัดตั้งนาน""แม่เองหวัน""อ้าว แม่เองเหรอแล้วทะเลไปไหนค่ะ""ที่บ้านทะเลมีปัญหานิดหน่อยนะลูก เขาเลยต้องรีบกลับไป""แต่ครอบครัวทะเลย้ายไปอยู่อเมริกากันหมดแล้วนะคะ อย่าบอกนะเขาบินไปแล้ว""ใช่ลูกเป็นธุระด่วนเลย พ่อกับแม่ทะเลคงจะเกิดเรื่องไม่งั้นคง
สามเดือนถัดมาวันนี้เป็นวันเกิดของดาหวัน ซึ่งทะเลก็เตรียมของขวัญให้เจ้าตัวอย่างลับๆ โดยการแอบออกไปข้างนอกตอนเธอหลับ แม่ของเธอกลับจากงานที่ต่างประเทศก็มาร่วมฉลองวันเกิดให้เธอและที่ขาดไม่ได้ก็คือเพื่อนสุดสวยสองคนนั้นที่กำลังเตรียมของกินกันใหญ่"พวกมึงไม่ต้องเตรียมอะไรเยอะหรอก เดี๋ยวกินไม่หมด"ดาหวันบอกเพื่อนสาวเพราะกินกันแค่นี้ถ้าไม่หมดเสียดายแย่อีกอย่างก็ไม่อยากให้เหนื่อยกันตอนเก็บด้วย"เออๆ เดี๋ยวกูจะย่างกุ้งตัวใหญ่ๆ ให้มึงกินด้วยแหละ มีหมึกกับปูด้วยนะ"ต้มหอมบอกดาหวันพร้อมยกของในมือให้เธอดูแม้จะรู้ว่าเธอมองไม่เห็นก็ตาม"อืมม์ได้กลิ่นแล้วหอมมาก สู้สู้กูรอกินอยู่"เธอได้กลิ่นของอาหารทะเลลอยมาพาให้น้ำลายไหล"ได้เลยจ้าคุณหนูของบ่าว เดี๋ยวบ่าวไปตำน้ำจิ้มรสเด็ดสักครู่ก่อนนะจ๊ะ"มิเกลตบไหล่เพื่อนสาวพร้อมพูดหยอกเย้าอย่างอารมณ์ดีดาหวันนั่งยิ้มหน้าบานแฉ่งจะได้กินของอร่อย อยู่ๆ ก็มีมือหนาใหญ่เอื้อมมือเธอไปจับ"ว่าไงพ่อครัววันนี้ไม่ลงมือทำกับข้าวเองเหรอ"ดาหวันเอ่ยปากเพราะรู้ว่าสัมผัสนั้นเป็นแฟนของเธอ"เดี๋ยวก่อนสิ เขาจะพาที่รักไปเปลี่ยนชุดก่อน""ชุดอะไรบอกใบ้ได้ไหมค่ะ""ชุดวันเกิดครับ""ชุดวันเกิด
"อยากได้พี่ทะเลเป็นผัวแล้ว" รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาผุดขึ้นทันทีเมื่อคำที่อยากได้ยินหลุดออกมาจากปากคนตัวเล็ก ทะเลลุกขึ้นมาคร่อมร่างเล็กทันทีเขาจับส่วนนั้นถูกไถกับปากทางและค่อยๆ ดันเข้าไปทีละนิดแต่มันก็เข้ายากหน่อยเพราะความคับแน่นของเธอ อีกอย่างของเขาก็ใหญ่พอตัวเช่นกัน ดันเข้าไปได้แค่ครึ่งเธอก็รู้สึกเสียวในมวลท้องน้อยเป็นอย่างมาก จึงกำผ้าปูเตียงเพื่อระบายความเสียวซ่าน สีหน้าของเธอตอนนี้ทำให้เขามีอารมณ์มากมันช่างเซ็กซี่และเย้ายวนใจเหลือเกิน ทะเลดันท่อนเอ็นพรวดเข้าไปที่เดียวจนสุดลำทำให้เธอสะดุ้งนิดหน่อย เขาแช่ทิ้งไว้สักครู่โดยไม่ได้ขยับเขยื้อน ภายในของเธอตอดรัดของเขาจนสัมผัสได้ถึงความเสียว ทะเลเริ่มขยับเล็กน้อยและโน้มตัวลงไปจูบปากสวยได้รูปเธอตอบสนองจูบนั้นได้เป็นอย่างดี ตอนนี้ร่างกายร้อนผ่าวถึงขีดสุด ยิ่งได้ยินเสียงครางเสียวของเธอแรงกระแทกกระทั้นนั้นยิ่งเพิ่มขึ้นตามแรงอารมณ์ แม้มันจะทำให้เธอจุกแต่ก็ทำให้รู้สึกดีมากๆ เป็นเวลาเดียวกัน สองมือบดขยี้เต้าอวบอึ๋มอย่างบ้าคลั่งช่วงล่างก็ขยับเข้าออกไปมาไม่ได้ให้ว่างเว้น คอขาวเนียนถูกดูดจนเป็นรอยแดง ในตอนที่เธอใกล้จะเสร็จเขายิ่งเร่งจังหวะให้ถี่แ
วันนี้อากาศดีแต่เช้าแถมมีเพื่อนรักอย่างต้นหอมและมิเกลมาเยี่ยมถึงที่โดยหอบหิวของฝากมาเยอะแยะ "โอ้โห...นี่พวกมึงกะจะไม่ให้กูออกไปซื้อของข้างนอกเลยใช่ไหม" ทะเลตกใจกับสิ่งของที่สองสาวเอามา "ของจำเป็นทั้งนั้นแหละ ..อีกอย่างกว่าพวกกูจะมีเวลาได้มา" "มาๆ ช่วยกัน" ต้นหอมรีบเร่งเพื่อนก่อนจะหิ้วของเข้าบ้านไปเก็บ และออกมาเอาส่วนที่ยังเหลือเข้าไปใหม่ "หวันเป็นไงบ้างมึง" "ยังสบายดี...แต่วันนี้พวกมึงมากูโครตดีใจเลยวะคิดถึงมาก" ดาหวันยิ้มให้ทุกคนแต่ก็ไม่รู้หรอกว่าเพื่อนอยู่จุดไหนกันบ้างโปรยยิ้มไปงั้นแหละ "คิดถึงมึงเหมือนกัน...เห้ยไอ้หวันกูมีเรื่องจะถามมึงหน่อย" ต้นหอมเดินเข้ามาใกล้และนั่งลงข้างเธอ "ว่าไงมึงจะถามอะไรกู" สายตาดาหวันเปล่งประกายระยิบระยับราวกับเธอมองเห็น "ได้กับไอ้ทะเลยัง" "เฮ้ยบ้า..ไอ้หอมทะลึ่ง" ดาหวันเบือนหน้าหนีแก้มแดงเด่นชัดด้วยความเขินอาย "อ้าวอย่าบอกนะมึงยังไม่เปิดซิงมันอีก" "ไอ้หอม...มึงนี่นะ" ทุกคนหัวเราะคิกคักกันอย่างเคย "กูแม่งรอจนเหี่ยวเฉาจนไม่รู้จะเฉายังไงแล้วเนี่ย" ทะเลพูดติดตลกกับบรรดาเพื่อนสาวของเขาอย่างมีความสุขแต่ในใจก็อยากจะโดนแบบนั้นอยากโดนเธอเปิดซิง
บรรยากาศในสถานีตำรวจเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด เนตรถูกพาตัวเข้ามาโดยตำรวจสองนาย มือของเธอถูกใส่กุญแจ ขณะที่เพื่อนชายของเธอนั้นก็คือเสกซึ่งเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ถูกคุมตัวไว้ในอีกห้องหนึ่ง ทั้งสองมีสีหน้าตื่นตระหนกและหวาดหวั่น “พวกคุณจับฉันมาทำไม! ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด! ก็บอกไปหลายรอบแล้ว”เนตรพูดเสียงสั่นแววตาลุกลี้ลุกลนจิตใจลนลานไม่มีความสุขราวคนเสียสติ“เรามีหลักฐานจากภาพวงจรปิด และพยานที่ยืนยันว่าคุณเป็นผู้วางแผนขับรถชนเป้าหมายอย่างจงใจ คุณยังจะปฏิเสธอีกเหรอ?”นายตำรวจคนหนึ่งพูดเสียงนิ่งใส่เธอ“ไม่จริง! ฉันแค่บังเอิญขับรถผ่านตรงนั้น!”เธอมีน้ำเสียงร้อนรนอุตส่าห์วางแผนเสียดิบดีแต่สุดท้ายก็โดนจนได้ แต่ถึงยังไงบ้านเธอก็มีเงินอาจจะประกันตัวออกไปได้ในเร็วๆ นี้ อีกอย่างทำให้ดาหวันตาบอดถือว่าคุ้มสำหรับคนเจ้าแผนการอย่างเธอตำรวจเปิดแฟ้มเอกสารและเลื่อนภาพจากกล้องวงจรปิดไปที่เธอ ภาพชัดเจนว่าเธอขับรถคันนั้นในวันที่เกิดเหตุ และยังมีหลักฐานเป็นข้อความในโทรศัพท์ที่เธอส่งหาเพื่อนชาย โดยระบุแผนการว่าจะใส่ความโนเตอร์จนลามถึงไปทำร้ายร่างกายแฟนสาวของเขาอย่างเลือดเย็น“นี่คือข้อความที่คุณส่งถึงเพื่อนชายของค