Home / รักโบราณ / เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80 / บทที่ 1 ลูกสะใภ้ปะทะแม่ผัว

Share

เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80
เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80
Author: จันทร์สว่าง

บทที่ 1 ลูกสะใภ้ปะทะแม่ผัว

last update Last Updated: 2025-02-11 14:11:10

ภายในอพาร์ทเม้นท์มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนอนหลับอยู่ ข้างๆ มีเด็กน้อยวัยสามขวบครึ่งกำลังเขย่าแขนเรียวของแม่เพื่อปลุกให้อีกฝ่ายตื่นขึ้นมา

"แม่คะ อิงอิงหิว" หลี่อิงอิงเป็นลูกสาวของโจวลี่อินกับหลี่เหว่ยซึ่งตอนนี้ชายหนุ่มไปเป็นทหารอยู่ที่ค่าย นานๆ ถึงจะได้กลับมาเยี่ยมบ้านที

"นี่แกจะเรียกฉันทำไมนักหนาหะ! หิวก็ไปหาอะไรกินเองสิ ฉันจะนอน อย่ามากวน" โจวลี่อินตื่นขึ้นมาก่อนจะตะคอกเสียงใส่หลี่อิงอิงลูกสาวของตนเอง ก่อนจะนอนต่ออย่างไม่สนใจอะไร

หลี่อิงอิงได้ยินแม่เสียงดังใส่ก็เบะปากก่อนจะส่งเสียงร้องออกมาทำเอาโจวลี่อินเกิดความรำคาญลุกขึ้นมาแล้วฟาดฝ่ามือที่ไปที่ร่างเล็กอย่างแรง

"แกจะร้องทำไม ฉันจะตีแกให้ตายเลย" โจวลี่อินตะคอกเสียงใส่ลูกสาวพร้อมกับฟาดมือใส่ร่างเล็กไม่ยั้งด้วยความโมโห

"แม่คะ อิงอิงเจ็บ ฮือๆ" หลี่อิงอิงร้องบอกแม่เมื่อรู้สึกเจ็บไปทั้งตัว ไม่คิดว่าแม่จะใจร้ายถึงขนาดลงไม้ลงมือกับตนเองได้

"ฉันก็ตีให้แกเจ็บไง จะได้จำว่าอย่ามากวนใจฉันอีก" โจวลี่อินเอ่ยบอกเมื่อตีลูกสาวจนพอใจแล้วก็ลากร่างเล็กเดินตรงไปที่ประตูห้องก่อนจะเปิดประตูแล้วผลักเด็กน้อยออกไปแล้วปิดประตูก่อนจะเดินกลับมานั่งที่เตียง

ทำไมชีวิตของเธอจะต้องเป็นอย่างนี้ด้วย ได้แต่งงานกับทหารอย่างหลี่เหว่ยแทนที่จะได้เป็นคุณนายใช้ชีวิตสบายกลับต้องมาลำบากตั้งท้องคลอดตัวไร้ประโยชน์อย่างหลี่อิงอิงออกมา เธอไม่ชอบเด็กมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วแต่นี่กลับต้องมาเลี้ยงเด็กคนหนึ่ง ช่างน่ารำคาญจริงๆ

แม่สามีอย่างเยว่ซื่อก็เป็นผู้หญิงร้ายกาจ สามีของเธอส่งเงินมาเท่าไรแม่สามีก็ไม่ยอมแบ่งมาให้เธอเลยสักหยวน แล้วแบบนี้จะไม่ให้เธอโมโหได้อย่างไง

เยว่ซื่อนั้นเอาแต่ลำเอียงรักหลานสองคนที่เกิดจากหนิงเหมยสะใภ้ใหญ่กับหลี่หยวนลูกชายคนโตที่ทำงานเป็นครู

ถ้าหากจะต้องมาเจอแม่สามีอย่างเยว่ซื่อให้ตายเธอก็จะไม่ยอมแต่งงานเข้ามาในสกุลนี้เด็ดขาด ยิ่งคิดโจวลี่อินก็ยิ่งโมโห

เธอทำงานในโรงงานเย็บรองเท้าซึ่งวันนี้เป็นวันหยุดคิดว่าจะนอนสบาย ที่ไหนได้ดันเจอตัวไร้ประโยชน์อย่างหลี่อิงอิงมากวนใจเสียได้

เมื่อคิดได้ดังนั้นร่างบางจึงล้มตัวลงนอนบนเตียงก่อนจะห่มผ้าแล้วหลับตาลงไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

ด้านนอกห้องหลี่อิงอิงที่ถูกผลักออกมาจนล้มก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บ เยว่ซื่อที่ได้ยินเสียงร้องก็เปิดประตูห้องนอนออกมาดู พอเห็นว่าเป็นหลี่อิงอิงก็ตวาดเสียงดังออกมาทันทีด้วยความโมโห

"มีใครตายหรือไง ถึงได้ร้องไห้เสียงดังไปทั่วบ้านอย่างนี้ แม่เธอไม่เคยสอนมารยาทมาเลยหรือไง"

"คุณย่าอิงอิงเจ็บ" เด็กหญิงเอ่ยบอกเยว่ซื่อทั้งน้ำ

"อย่ามาสำออย หยุดร้องเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นฉันจะหยิกให้เนื้อเขียวเลย" เยว่ซื่อพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด รู้สึกรำคาญเสียงร้องเป็นอย่างมาก

"อิงอิงจะไม่ร้องแล้วค่ะ" เด็กหญิงที่กลัวโดนทำโทษจึงหยุดร้องแล้วเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

"นังเด็กเวร แล้วแม่ของแกยังไม่ตื่นหรือไง ทำไมถึงไม่ลุกมาทำงานบ้าน นอนจนตะวันสายโด่งขนาดนี้แล้ว ไม่รู้ว่าลูกชายฉันเอาผู้หญิงอย่างนี้มาเป็นภรรยาได้อย่างไรกัน" เยว่ซื่อเอ่ยออกมาด้วยความหงุดหงิดเมื่อไม่เห็นโจวลี่อินออกมาจากห้องเสียที เยว่ซื่อจึงเดินไปหยุดหน้าห้องของโจวลี่อิน ก่อนจะเคาะประตูเสียงดังลั่น

ปังๆๆ

"โจวลี่อิน ตื่นได้แล้ว ออกมาทำงานบ้านเดี๋ยวนี้นะ" เยว่ซื่อตะโกนบอกเสียงดังด้วยความโมโห โจวลี่อินเป็นตัวขี้เกียจจริงๆ วันหยุดแทนที่จะออกมาช่วยงานบ้าน เอาแต่นอนอยู่ในห้อง อย่างนี้มันใช้ได้ที่ไหน

ร่างบางบนเตียงได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายดังมาจากนอกห้องก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด เป็นนังแก่เยว่ซื่ออีกแล้วที่มาเคาะประตูห้องของเธอ จะมีวันไหนบ้างที่ชีวิตของเธอจะสงบสุข

"คนจะหลับจะนอน มาเสียงดังอะไรอยู่หน้าห้องของฉันกัน" โจวลี่อินเปิดประตูพร้อมกับเอ่ยออกมาเสียงดังด้วยความโมโหแล้วจ้องมองเยว่ซื่อด้วยความไม่พอใจ

"จะนอนอะไรกันนักกันหนา ออกมาทำงานบ้านได้แล้ว" เยว่ซื่อเอ่ยบอกเสียงดัง

"ทำไมฉันต้องทำ วันนี้มันวันหยุดของฉันนะ" โจวลี่อินเถียงเยว่ซื่อเสียงดัง หนึ่งอาทิตย์จะมีวันหยุดแค่สองวัน ทำไมเธอจะต้องไปทำงานบ้านให้เหนื่อยด้วย

"ก็เป็นวันหยุดไง ฉันถึงได้บอกให้เธอออกมาทำงานบ้าน จะมาให้ฉันทำงานงกๆ คนเดียวไม่ได้หรอกนะ"

"ทำไมแม่จะทำไม่ได้ ในเมื่อแม่ก็ไม่ได้ทำงานนอกบ้าน มีเวลาเยอะแยะก็เอาไปทำงานบ้านสิ จะมาให้คนทำงานนอกบ้านมาทำงานบ้านได้อย่างไง" จะเอาเปรียบกันเกินไปแล้ว แม่สามีเป็นแม่บ้านก็สมควรแล้วที่ต้องทำงานบ้าน 

"นี่แกกล้าเถียงฉันหรอ ฉันบอกให้แกทำแกก็ต้องทำ" เยว่ซื่อเอ่ยว่าลูกสะใภ้คนเล็กด้วยความโมโห

"ฉันไม่ทำ ถ้าอยากมีคนช่วยงานบ้านนักก็ไปตามสะใภ้ใหญ่ของแม่มาทำสิ" เรื่องอะไรที่เธอจะต้องไปทำงานบ้านอยู่คนเดียวในเมื่อบ้านนี้ก็มีสะใภ้อีกคนหนึ่ง

"หนิงเหมยกำลังนอนพักผ่อนอยู่ จะไปรบกวนสะใภ้ใหญ่ไปทำไมกัน"

"ฉันก็กำลังนอนพักผ่อนอยู่ แม่ยังมาเคาะประตูเรียกฉันให้ไปทำงานบ้านได้เลย ทำไมสะใภ้ใหญ่ถึงจะลุกขึ้นมาทำบ้างไม่ได้" เธอละเกลียดเยว่ซื่อเหลือเกิน ช่างเป็นแม่สามีที่ลำเอียงซะจริงๆ

"แกอย่ามาต่อล้อต่อเถียงกับฉันนะ ฉันสั่งให้แกไปทำแกก็ต้องไปทำ" เยว่ซื่อขึ้นเสียงใส่โจวลี่อินด้วยความโมโห ถ้าหากทำได้เธอล่ะอยากจะไล่นังตัวขี้เกียจนี่ออกจากบ้านซะจริงๆ

"นังแก่ ฟังนะว่าฉันไม่ทำ แล้วอย่ามายุ่งกับฉันอีก" โจวลี่อินเอ่ยบอกจบก็เตรียมจะเดินกลับเข้าไปในห้อง

"นี่แก่กล้าดีอย่างไงมาเรียกแม่สามีอย่างนี้ วันนี้ถ้าฉันไม่ได้จัดการแกอย่ามาเรียกฉันว่าเยว่ซื่อเลย" หญิงวัยกลางคนเอ่ยบอกด้วยความโมโหก่อนจะปรี่เข้าไปตบหน้าของโจวลี่อินอย่างแรงจนเกิดเสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าดังลั่น

เพี๊ยะ!!

"โอ๊ย! นังแก่ แกกล้าตบฉันหรือไง ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่" โจวลี่อินโมโหสุดขีด เดินเข้าไปจะตบเยว่ซื่อ ทั้งสองฉุดรั้งกันไปมาก่อนที่เยว่ซื่อจะผลักโจวลี่อินออกไปอย่างแรงเพราะไม่อยากโดนอีกฝ่ายตบ

โผล๊ะ! 

แต่ใครจะคาดคิดว่าเยว่ซื่อจะใช้แรงทั้งหมดผลักโจวลี่อินจนล้มหัวไปชนกับขอบประตูก่อนจะหมดสติแน่นิ่งไป เยว่ซื่อเห็นดังนั้นก็ใจไม่ดีรีบเข้าไปใกล้ก่อนจะยื่นมือไปอังที่จมูกของโจวลี่อิน

เยว่ซื่อผละถอยหลังด้วยความกลัวเมื่อโจวลี่อินไม่หายใจแล้ว เธอยังไม่อยากติดคุกด้วยข้อหาฆ่าคนตายหรอกนะ จะทำอย่างไรดี เยว่ซื่อคิดออกมาด้วยความกลัว

ฝากกดติดตามเรื่องใหม่ด้วยนะคะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80   บทที่ 2 ทะลุมิติมายุค 70

    ร่างบางบนเตียงขยับตัวไปมาก่อนจะลืมตาขึ้น หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบห้องก่อนจะนิ่วหน้าด้วยความแปลกใจ นี่มันไม่ใช่ห้องของเธอนี่ ที่นี่คือที่ไหนกันโจวลี่อินทำงานเป็นพยาบาล ดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด จนตนเองมีอาการป่วยจึงได้หยุดงานรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ก่อนหน้านี้เธอจำได้ว่ากินยาแล้วก็นอนพักผ่อน ทำไมจู่ๆ ถึงได้โผล่มาที่นี่ได้หญิงสาวลุกขึ้นนั่งบนเตียงรู้สึกปวดที่ศีรษะจนต้องยกมือขึ้นไปคล้ำดูถึงได้สัมผัสกับรอยนูนเหมือนโดนอะไรมากระแทก ขณะที่หญิงสาวจะลุกขึ้นก็ต้องทิ้งตัวลงนั่งเหมือนเดิมเมื่อรู้สึกปวดหัวจนต้องยกมือขึ้นมากุม แล้วความทรงจำมากมายก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวสมองของโจวลี่อินหญิงสาวรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าตนเองจะทะลุมิติมาโผล่ที่ยุค 70 มาเข้าร่างหญิงสาวที่มีชื่อแซ่เดียวกับเธอ แถมยังมีแม่สามีใจร้ายที่ผู้หญิงคนนี้ได้แต่งงานกับหลี่เหว่ยก็เพราะว่าวางแผนจับชายหนุ่มทำสามีเพราะเห็นว่าเป็นทหาร หญิงสาวจึงอยากเป็นคุณนายทหารมีเงินใช้สบายไม่ต้องไปทำงาน แต่ที่ไหนได้ก็ต้องกลับมาเจอแม่สามีร้ายกาจไม่เคยให้เงินที่สามีส่งมาให้เธอสักหยวนเดียว"ว้าย...ผะ...ผีหลอก" เยว่ซื่อเข้ามาในห้องเห็นโจวลี่อินนั่ง

    Last Updated : 2025-02-11
  • เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80   บทที่ 3 มาพร้อมมิติ

    โจวลี่อินยืนนิ่งคิดอยู่นานเพราะไม่รู้ว่าจะเอาอะไรให้ลูกสาวกิน ตอนนี้เธอก็ไม่มีเงินที่จะไปซื้ออาหารเพราะก่อนหน้านี้เธอนำเงินเดือนที่ได้จากทำงานไปซื้อเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวจนไม่เหลือเงินติดตัวสักหยวนเดียวถ้าหากว่าเธอทะลุมาแล้วมีมิติเหมือนนิยายที่เคยอ่านก็ดีน่ะสิ ทว่าเพียงแค่คิดถึงมิติเท่านั้นภาพเบื้องหน้าของหญิงสาวก็เปลี่ยนไปจากห้องครัวที่ทรุดโทรมได้กลายเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ไร้ผู้คน ในห้างสรรพสินค้าเต็มไปด้วยอาหารสดอาหารแห้งและยารักษาโรค ทำให้โจวลี่อินดีใจเป็นอย่างมาก หญิงสาวจึงรีบหยิบข้าวกับเนื้อและของที่จะใช้สำหรับทำข้าวผัดออกมาเมื่อกวาดตามองไปรอบห้องก็ยังไม่มีคนออกมาจากห้องหญิงสาวจึงไม่เป็นกังวลว่าจะมีใครมาเห็น จึงรีบหุงข้าวจุดไฟทำข้าวผัดให้กับลูกสาวข้าวผัดส่งกลิ่นหอมไปทั่วทั้งห้องหญิงสาวตักใส่จานก่อนจะนำไปให้ลูกสาวในห้องหลี่อิงอิงที่นอนอยู่พอได้กลิ่นหอมของข้าวผัดก็ลุกขึ้นมานั่งพร้อมกับกลืนน้ำลายด้วยความหิว แม่ทำข้าวผัดมาให้เธอจริงๆ ด้วย ตอนแรกเธอก็พูดไปอย่างนั้นว่าอยากกินข้าวผัดเพราะไม่คิดว่าแม่จะทำให้เธอกิน เพราะทุกครั้งแม่ก็ไม่สนใจว่าเธอจะได้กินข้าวหรือไม่"อิงอิงแม

    Last Updated : 2025-02-11
  • เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80   บทที่ 4 ใครเสแสร้งเก่งกว่ากัน

    ภายในห้องน้ำขนาดไม่ใหญ่มาก ร่างบางของโจวลี่อินกำลังถูสบู่ขัดเหงื่อไคลออกจากร่างกายแต่แล้วก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นทำเอาหญิงสาวหยุดชะงักมือขัดตัว ก่อนจะเอ่ยถามออกไปด้วยความหงุดหงิดที่โดนรบกวนระหว่างอาบน้ำ เพราะตอนอาบน้ำเป็นช่วงเวลาที่เธอผ่อนคลายเป็นที่สุดปังๆๆ"ใครกัน""เมื่อไรจะเสร็จสักที ฉันก็อยากอาบน้ำเหมือนกันนะ" หนิงเหมยที่เพิ่งตื่นเดินออกมาจากห้องนอน จะไปเข้าห้องน้ำพอเห็นว่าประตูปิดอยู่ก็ยกมือขึ้นเคาะประตูอย่างแรงราวกับไม่กลัวว่ามันจะพัง ยิ่งได้ยินเสียงว่าคนข้างในคือโจวลี่อินก็พูดออกมาอย่างไม่เกรงใจ หนิงเหมยเป็นสะใภ้ใหญ่ของบ้านจึงรู้สึกว่าตนเองอยู่เหนือกว่าโจวลี่อินที่เป็นสะใภ้เล็ก อีกอย่างโจวลี่อินก็ได้แต่งเข้ามาในสกุลเพราะใช้วิธีต่ำช้าจับน้องสามีของเธอ จึงทำให้หนิงเหมยยิ่งดูแคลนหญิงสาวเป็นอย่างมาก"ตอนนี้ฉันยังอาบน้ำไม่เสร็จ มาทีหลังก็ต้องรอสิ ไม่ใช่มาเคาะเร่งอย่างคนไม่มีมารยาทอย่างนี้" โจวลี่อินเอ่ยต่อว่าออกมาเสียงดังก่อนจะอาบน้ำต่อไม่สนใจหนิงเหมยอีกต่อไปผ่านไปซักพักโจวลี่อินอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เปิดประตูออกมา เห็นหนิงเหมยยืนอยู่หน้าห้องน้ำด้วยสีหน้าบึ้งตึง หญิงสาวไ

    Last Updated : 2025-02-11
  • เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80   บทที่ 5 ความลำเอียงของแม่สามี

    หลังจากที่ทำอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่นานหลี่กุ้ยสามีของเยว่ซื่อก็กลับมาก่อน ชายวัยกลางคนรูปร่างไม่สูงมากนัก ผิดกับลูกชายทั้งสองคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่ หลี่กุ้ยเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นที่ทุกคนกำลังนั่งกันอยู่ เยว่ซื่อรีบลุกขึ้นไปหาสามีด้วยรอยยิ้ม"ทำงานเหนื่อยไหมคะสามี" โจวลี่อินเห็นแล้วอยากจะหัวเราะลั่น ช่างทำตัวเป็นผู้หญิงมารยาซะจริงๆ เลือกปฏิบัติกับคนอย่างเห็นได้ชัด กับคนที่ไม่ชอบเยว่ซื่อเอาแต่ขึ้นเสียงใส่ด้วยใบหน้าบึ้งตึงราวกับนางมารร้าย แต่กลับสามีของตนเองนั้นแม่สามีของเธอก็แสดงท่าทางราวกับผู้หญิงนิสัยแสนดี ช่างเหมือนกับสะใภ้ใหญ่เสียจริงๆ เธอไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทั้งสองคนถึงเข้ากันได้ดี"วันนี้ก็เหนื่อยนิดหน่อย แล้วนี่อาหยวนกับหลานยังๆ ไม่กลับมากันหรือ" หลี่กุ้ยเอ่ยบอกก่อนจะถามหาลูกชายคนโตกับหลานทั้งสองคน"น่าจะใกล้กลับมาแล้ว สามีไปอาบน้ำเตรียมตัวมากินข้าวเถอะ" เยว่ซื่อเอ่ยขึ้น หลี่กุ้ยนั่นก็เหมือนกับเยว่ซื่อที่รักหลานลำเอียง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรทั้งสองคนถึงได้ไม่ชอบหลี่อิงอิง อาจจะเป็นเพราะไม่ชอบแม่ของเด็กก็เลยพาลให้เกลียดหลานคนเล็กไปด้วย บางวันหลี่กุ้ยจะมีขนมติดไม้ติดมือมาฝา

    Last Updated : 2025-03-08
  • เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80   บทที่ 6 แม่สามีที่ร้ายกาจ

    เมื่อถึงเวลาของอาหารเย็นทุกคนจึงนั่งพร้อมหน้ากันที่โต๊ะกินข้าว วันนี้บนโต๊ะอาหารมีหมั่นโถวกับน้ำแกงกระดูกหมู กลิ่นของน้ำแกงหอมไปทั้งห้อง ทำเอาหลายคนพากันกลืนน้ำลายลงคอด้วยความหิว ทุกคนลงมือทานอาหารโดยการหยิบหมั่นโถวมาคนละลูกก่อนจะกัดกินกับน้ำแกง"กินเยอะๆ นะอาหลินอาชิง ย่าตั้งใจซื้อกระดูกหมูมาให้หลานๆ เลยนะ" เยว่ซื่อเอ่ยบอกพร้อมกับตักกระดูกหมูใส่ถ้วยให้หลี่หลินกับหลี่ชิง หลี่อิงอิงได้แต่มองตามด้วยดวงตาละห้อย ทำไมคุณย่าถึงไม่ตักกระดูกหมูให้เธอบ้าง เธอก็อยากให้คุณย่าเอาใจเหมือนกันนะ"หลินหลินชอบกินกระดูกหมู คุณย่าใจดีที่สุดเลยค่ะ" หลี่หลินเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มก่อนจะหยิบกระดูกหมูขึ้นมากิน คุณย่าใจดีกับเธอและพี่ชายของเธอมาก ก็อย่างที่แม่เคยบอกว่าถ้าอยากให้คุณย่ารักมากๆ ต้องรู้จักทำตัวน่ารักพูดชื่นชมคุณย่าให้มาก แล้วพวกเธอกับพี่จะได้แต่ของดีๆ ไม่เหมือนกับอิงอิงที่ไม่มีใครรัก แม่บอกว่าอิงอิงมีแม่เป็นผู้หญิงไม่ดี แถมพ่อก็ไม่รัก ทางที่ดีอย่าไปเล่นกับอิงอิงจะดีกว่า"อิงอิง เดี๋ยวแม่ตักกระดูกหมูให้นะ" โจวลี่อินเอ่ยบอกกับลูกสาวพร้อมกับยื่นมือจะไปตักกระดูกหมูในถ้วยแต่แล้วก็โดนหนิงเหมยตัดหน้าโดยการตั

    Last Updated : 2025-03-09
  • เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80   บทที่ 7 ความวุ่นวายของบ้าน

    โจวลี่อินพาลูกสาวเข้ามาในห้อง ก่อนจะเข้านอนก็เอ่ยบอกให้หลี่อิงอิงไปล้างหน้าแปรงฟัน เด็กน้อยก็ว่าง่ายเตรียมแปรงสีฟันแล้วเดินออกไปเข้าห้องน้ำทันทีหลังจากหลี่อิงอิงแปรงฟันเสร็จก็เดินเข้ามาในห้อง โจวลี่อินจึงออกไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนจะกลับเข้าห้องมาเห็นลูกสาวกำลังนอนอยู่บนเตียง ก่อนจะแอบมองมาที่เธอบ่อยๆ ทำเอาโจวลี่อินรู้สึกแปลกใจ"อิงอิงป็นอะไรไปหรือ""อิงอิงอยากให้แม่เล่านิทานให้ฟังค่ะ" ก่อนหน้านี้หลี่อิงอิงเคยขอให้แม่เล่านิทานให้ฟัง โจวลี่อินก็ตะคอกเสียงใส่ไม่ยอมเล่าให้ฟังแถมยังหยิกเธอเสียจนเนื้อเขียว หลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยขอให้แม่เล่าให้ฟังอีกเลยเพราะกลัวว่าจะโดนทำร้ายอีก แต่ว่าตอนนี้แม่ของเธอใจดีแล้ว ขอให้เล่านิทานให้ฟังคงจะไม่เป็นไร"เอาไว้แม่ซื้อหนังสือนิทานมาแล้วจะเล่าให้ฟังนะจ๊ะ" โจวลี่อินเล่านิทานเป็นเสียที่ไหนกันละ เอาไว้วันหน้าเธอจะไปซื้อหนังสือนิทานมาให้ลูกสาวก็แล้วกัน"ได้ค่ะ" หลี่อิงอิงรับคำอย่างว่าง่าย ถึงแม้เด็กน้อยจะอายุเพียงแค่สามขวบครึ่งแต่ก็เป็นเด็กที่รู้ความเป็นอย่างมาก ช่างเป็นเด็กที่น่ารักเสียจริงๆ ทำไมคนบ้านนี้ถึงจิตใจมืดบอด รังแกได้แม้กระทั่งหลานของตนเองได้ลงคอ ถึ

    Last Updated : 2025-03-09
  • เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80   บทที่ 8 เตรียมตัวไปทำงาน

    ช่วงเช้าของวันใหม่แสงแดดลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้องทำให้เกิดความสว่างขึ้นมาเล็กน้อย โจวลี่อินลุกขึ้นก่อนจะเตรียมผ้าไปอาบน้ำ ร่างบางยื่นมือไปเปิดประตูแล้วเดินตรงไปที่ห้องน้ำ โจวลี่อินต้องรีบตื่นก่อนใครเพราะกลัวว่าตื่นสายแล้วจะต้องมาแย่งเข้าห้องน้ำกับคนอื่นหญิงสาวใช้เวลาอาบน้ำไม่นานก็เปิดประตูออกมา ได้ยินเสียงกุกกักอยู่ทางห้องครัว คงจะเป็นเยว่ซื่อที่ตื่นลุกขึ้นมาทำอาหารโจวลี่อินเดินเข้าไปในครัวเพราะอยากจะทำอาหารให้กับลูกสาว พอเข้าไปก็เห็นแม่สามีกำลังต้มโจ๊กอยู่ หญิงสาวจึงเดินเข้าไปที่ตู้กับข้าว หวังจะหยิบไข่มาทำข้าวผัดให้กับหลี่อิงอิง แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงตวาดของเยว่ซื่อดังลั่นห้องครัว"นั่นแกจะทำอะไร" เยว่ซื่อเห็นสะใภ้คนเล็กเข้ามาในห้องครัวแล้วแต่ก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจ พอเห็นว่าอีกฝ่ายเดินไปที่ตู้แถมยังจะเปิดตู้ที่เก็บพวกอาหารเอาไว้ก็ทำให้เกิดความโมโหขึ้นมาทันที"ฉันจะเอาไข่มาทำข้าวผัดให้กับเด็กๆ ค่ะ" โจวลี่อินเอ่ยบอกอย่างใจเย็น เธอไม่ใช่คนที่โกรธผู้ใหญ่แล้วจะไปลงกับเด็ก ถึงแม้จะไม่ชอบหนิงเหมยกับเยว่ซื่อแค่ไหนแต่ก็จะทำข้าวผัดเผื่อหลานๆ ทั้งสองคนด้วย"ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันทำให้

    Last Updated : 2025-03-09
  • เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80   บทที่ 9 หาเรื่องชวนทะเลาะ

    เมื่อมาถึงโรงงานโจวลี่อินก็เดินเข้าไปที่แผนกเย็บรองเท้า ภายในห้องมีจักรตั้งอยู่หลายโต๊ะ ตอนนี้มีพนักงานนั่งอยู่ประจำตำแหน่งไม่กี่คนเพราะยังไม่ถึงเวลาเข้างาน โจวลี่อินเดินไปนั่งที่โต๊ะของตนเอง ไม่นานก็มีหญิงสาวรูปร่างอวบเดินเข้ามาหาเธอที่โต๊ะ เท่าที่จำได้ผู้หญิงคนนี้มีชื่อว่าจางซิน จางซินเป็นหญิงสาวที่มีนิสัยโผงผาง โจวลี่คิดคนเก่าแกล้งทำดีด้วยเพราะอยากคบหญิงสาวเอาไว้เป็นเพื่อน เพราะจางซินคอยทำหน้าที่เป็นลูกน้องของโจวลี่อินมาตลอด ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรกับใครจางซินก็พร้อมที่จะออกหน้าให้กับโจวลี่อินเสมอ"ลี่อินทำไมวันนี้ถึงได้มาทำงานเช้าขนาดนี้ล่ะ" จางซินเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีวันไหนเลยที่โจวลี่อินจะมาเช้า ถ้าหากไม่มาสายก็มาตอนได้เวลาเข้างานแล้วทำเอาหัวหน้าเรียกไปตักเตือนอยู่หลายครั้งจนเกือบจะโดนไล่ออกจากงาน"ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากลองมาทำงานเช้าดูบ้างก็เท่านั้นเอง" โจวลี่อินตอบพร้อมกับหยิบรองเท้าเตรียมจะเอามาเย็บแต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงของหนิงเหมยดังขึ้น"ถ้าหากว่ามาสายอีกครั้งเดียวก็คงได้โดนไล่ออกน่ะสิ ถึงต้องรีบมาเช้าขนาดนี้" หลายคนที่อยู่ในห้องต่างพากันหั

    Last Updated : 2025-03-09

Latest chapter

  • เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80   บทที่ 30 ครอบครัวที่สมบูรณ์ (จบบริบูรณ์)

    เวลาผ่านไปโจวลี่อินได้ทำการเช่าร้านหน้าโรงเรียนเพื่อเปิดขายบะหมี่ แรกๆ ยังไม่ค่อยมีลูกค้าสักเท่าไร แต่หญิงสาวก็ไม่ท้อจนปัจจุบันมีลูกค้ามากมายจนหญิงสาวทำไม่ทันจึงต้องจ้างคนงานมาช่วย ร้านบะหมี่ของโจวลี่อินเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นเรื่อยๆ วัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารหญิงสาวก็เอาออกมาจากมิติ ทำให้มีรายได้เป็นกอบเป็นกำหญิงสาวจึงตัดสินใจให้สามีเป็นคนทำเรื่องซื้อบ้านก่อนจะย้ายออกจากบ้านเช่า หลี่อิงอิงดีใจมากที่ได้อยู่บ้านหลังใหญ่แล้วมีห้องนอนส่วนตัวตอนนี้ขาของหลี่เหว่ยหายดีแล้ว ชายหนุ่มช่วยงานหญิงสาวในร้าน ถึงแม้ทางกองทัพจะอยากให้ชายหนุ่มกลับไปทำงานให้ แต่หลี่เหว่ยก็ปฏิเสธเพราะอยากอยู่ใกล้ชิดกับภรรยาและลูกสาวมากกว่าเมื่อปิดร้านบะหมี่เรียบร้อยแล้วโจวลี่อินกับหลี่เหว่ยก็ไปรับลูกสาวที่โรงเรียน ตอนนี้หลี่อิงอิงโตขึ้นมากแล้ว เมื่อเห็นพ่อกับแม่มารอรับก็รีบวิ่งมาหาทันที ทั้งสามเดินไปรอรถประจำทาง ระหว่างรอหลี่อิงอิงก็เล่าเรื่องในโรงเรียนไม่หยุดจนกระทั่งรถมาจอดตรงหน้าหลี่อิงอิงถึงได้หยุดพูด ทั้งสามคนขึ้นไปหาที่นั่ง ก่อนที่โจวลี่อินจะเอ่ยบอกกับลูกสาวว่าวันนี้จะพาไปกินข้าวข้างนอกบ้าน หลี่อิงอิงได้ยินก็ดีใจเป็นอ

  • เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80   บทที่ 29 ความสุข

    หลี่เหว่ยขึ้นไปบนเตียงแล้วจับเขาเรียวแยกออกจากกันเผยให้เห็นดอกไม้งามที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวาน มือหนาจับแก่นกายขนาดใหญ่ไปจ่อกลางร่องก่อนจะลากขึ้นลงทำเอาโจวลี่อินส่งเสียงครางออกมา ปลายหยักชุ่มไปด้วยน้ำหวานชายหนุ่มก็ไม่รอช้าที่จะดันแก่นกายเข้าไปในโพรงสวาท ด้วยความคับแน่นทำเอาโจวลี่อินรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกหลี่เหว่ยครางอยู่ในลำคอด้วยความทรมานเมื่อแก่นกายโดนตอดรัดอย่างหนัก ชายหนุ่มจึงตัดสินใจยกสะโพกขึ้นก่อนจะกระแทกกลับลงไปอย่างแรงทำให้แก่นกายจมหายเข้าไปในกายสาวจนมิดลำนิ้วร้อนสัมผัสกับเกสรดอกไม้ที่กำลังบวมเป่ง หลี่เหว่ยออกแรงเขี่ยไปมาเบาๆ ก่อนจะขยี้ ทำเอาโจวลี่อินดิ้นพล่านไปมาด้วยความเสียวซ่าน สะโพกสอบขยับขึ้นลงจากช้าเป็นเร็วขึ้นแก่นกายผลุบเข้าออกกลางกายสาวจนกลีบสวาทยับยู่ยี่ไปตามแรงกระแทกชายหนุ่มก้มใบหน้าลงไปแลบลิ้นออกมาไล้เลียที่ปลายถันก่อนจะอ้าปากดูดดึงเข้าไปในอุ้งปากส่วนสะโพกสอบก็ขยับขึ้นลงทำเอาหญิงสาวเสียวสะท้านไปทั้งตัวโจวลี่อินแอ่นสะโพกขึ้นสู้แรงกระแทกของชายหนุ่มด้วยความรัญจวน มันช่างดีเหลือเกิน แขนเรียวยื่นไปกอดรัดร่างหนาเอาไว้แน่น ยิ่งชายหนุ่มสร้างความเสียวให้มากเท่าไรเล็บคมก

  • เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80   บทที่ 28 ได้ใกล้ชิดกันอย่างแท้จริง

    ผ่านไปหลายเดือน เช้าวันนี้โจวลี่อินตื่นขึ้นมาแต่เช้าปลุกลูกสาวให้ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน วันนี้เป็นเปิดเรียนวันแรก หลี่อิงอิงที่ตื่นเต้นจะได้ไปโรงเรียนก็รีบลุกขึ้นอาบน้ำ โจวลี่อินช่วยลูกสาวแต่งตังเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ไปทำอาหารเช้าหลังจากทำอาหารเสร็จก็ยกไปวางบนโต๊ะก่อนจะเรียกสามีกับลูกสาวมากินข้าว สองพ่อลูกพากันเดินมานั่งที่เก้าอี้ โจวลี่อินจึงตักข้าวใส่ถ้วยให้กับทั้งสองคนก่อนจะตักให้ตัวเองหลังจากกินข้าวกันเสร็จเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็เก็บถ้วยบนโต๊ะไปล้างก่อนจะเปลี่ยนชุดเตรียมพาลูกสาวไปส่งโรงเรียนทั้งสามคนเดินออกจากบ้านไปรอรถประจำทาง ไม่นานรถก็มาจอดตรงหน้า ทั้งสามคนจึงเดินขึ้นรถก่อนจะหาที่นั่ง รถแล่นเข้าสู่ท้องถนน หลี่อิงอิงที่ตื่นเต้นเป็นพิเศษพูดกับพ่อแม่ด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วไม่นานก็มาถึงโรงเรียนที่ก่อนหน้านี้หลี่เหว่ยกับโจวลี่อินพาลูกสาวมาสมัครเรียน ลงจากรถเรียบร้อยแล้วโจวลี่อินก็จูงมือลูกสาวไปหน้าโรงเรียนที่มีครูผู้หญิงมายืนต้อนรับเด็กนักเรียนหลี่อิงอิงทำความเคารพคุณครูก่อนจะเดินเข้าโรงเรียนด้วยความตื่นเต้น โจวอินจึงฝากฝังให้ครูช่วยดูแลลูกสาว คุณครูก็รับปากว่าจะดูและหลี่อิงอ

  • เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80   บทที่ 27 ความแตกแยกของบ้านหลี่

    หลังจากส่งของถึงมือของเพื่อนหลี่เหว่ย ฝ่ายนั้นก็พอใจกับสินค้ามาก จึงทำการส่งเงินมาจ่ายค่าของ ครั้งนี้โจวลี่อินได้เงินมาเยอะพอสมควรจึงชวนสามีกับลูกสาวไปกินข้าวข้างนอกบ้าน ทั้งสามคนกำลังเตรียมตัวก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากหน้าบ้านพร้อมกับเสียงเคาะประตูตอนแรกโจวลี่อินจะไปดู แต่หลี่เหว่ยอาสาจะไปดูแทน พอเปิดประตูออกไปก็เห็นเยว่ซื่อยืนร้องไห้ดวงตาแดงก่ำอยู่หน้าบ้าน"อาเหว่ย ต้องช่วยพี่ชายของลูกนะ" เยว่ซื่อเอ่ยบอกหลี่เหว่ยด้วยน้ำเสียงสะอื้น"คุณจะมาที่นี่อีกทำไม ผมบอกแล้วว่าห้ามมาข้องเกี่ยวกันอีก" หลี่เหว่ยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เตรียมจะปิดประตูห้องแต่เยว่ซื่อก็รีบเอามือดันประตูไว้ไม่ยอมให้ชายหนุ่มปิด"อย่าใจร้ายกับแม่กับพี่ชายของลูกมากนักเลย ตอนนี้อาหยวนกำลังลำบาก โดนนังตัวดีอย่างหนิงเหมยแจ้งทางการว่าอาหยวนมีชู้ แถมนังนั่นยังจ้างนักสืบหาหลักฐานมาด้วย ทางการเลยให้อาหยวนหย่ากับนังนั่นพร้อมจ่ายค่าเลี้ยงดู แต่ตอนนี้อาหยวนไม่มีเงินเลย ลูกต้องมีเงินเก็บอยู่แล้วใช่ไหม เอามาให้อาหยวนจ่ายค่าเสียหายก่อนได้ไหม" เยว่ซื่อพูดเสียยืดยาว สรุปก็คืออยากจะได้เงินของหลี่เหว่ยเพื่อไปให้หลี่หยวน โจวลี่อินที

  • เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80   บทที่ 26 ครอบครัวตัวดี

    หลังจากกินข้าวเช้าเรียบร้อยแล้วโจวลี่อินก็ออกไปข้างนอก หญิงสาวไปในที่ลับตาคนก่อนจะหยิบของออกมาจากมิติมากมายตามรายการที่เพื่อนของหลี่เหว่ยสั่งเอาไว้ พอเอาออกมาเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็ว่าจ้างคนให้แบกของไปส่งที่สถานีรถไฟ รออีกฝ่ายได้รับของหลังจากนั้นก็จะส่งเงินมาจ่ายค่าของโจวลี่อินทำธุระเสร็จแล้วก็ขึ้นรถประจำทางกลับบ้าน ไม่นานรถก็มาถึง หญิงสาวเดินลงจากรถก็ต้องชะงักเมื่อเจอเข้ากลับหนิงเหมย โจวลี่อินทำเป็นมองไม่เห็น กำลังจะเดินผ่านหนิงเหมยไป แต่อีกฝ่ายก็ร้องเรียกพร้อมกับเข้าไปจับแขนเรียวเอาไว้"เธอมาที่นี่ทำไม" โจวลี่อินเอ่ยถามเสียงแข็งก่อนจะสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุมของหนิงเหมย"คือว่าฉันอยากจะมาขอยืมเงินน่ะ" หนิงเหมยเอ่ยบอกถึงความต้องการของตนเองออกไปทันที ความจริงแล้วเธอก็ไม่อยากจะทำแบบนี้ แต่เพราะไม่มีทางออกจริงๆ ก็เลยต้องบากหน้ามาขอยืมเงินจากโจวลี่อิน"ฉันไม่มีเงินมากถึงขนาดให้ใครยืมหรอก กลับไปซะเถอะ" โจวลี่อินบอกปัดอย่างไร้เยื่อใย เรื่องอะไรเธอจะต้องให้คนที่เกลียดเธอยืมเงินด้วย"แต่ว่าฉันจำเป็นจริงๆ นะ ถ้าหากว่าไม่ได้เงินกลับไปฉันต้องตายแน่ๆ" ก่อนหน้านี้เธอโดนไล่ออกจากงานเพราะทำงานผ

  • เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80   บทที่ 25 การหอมกันครั้งแรกของสามีภรรยา

    หลี่เหว่ยเห็นภรรยาต้องไปขายของที่ตลาดมืดทุกวันก็รู้สึกสงสาร วันนี้ชายหนุ่มจึงออกจากบ้านเพื่อไปใช้โทรศัพท์ที่ศูนย์บริการ ชายหนุ่มโทรหาเพื่อนสนิทที่กองทัพ ตอนแรกว่าจะขอความช่วยเหลือแต่พอได้ยินว่ากองทัพกำลังขาดแคลนอาหาร ชายหนุ่มจึงคิดว่าเป็นโอกาสดีที่เขาจะหาเงินได้จากเรื่องนี้ หลี่เหว่ยจึงลองเสนอความคิดของตนเองให้เพื่อนฟังว่าเขานั้นจะหาทางส่งเสบียงอาหารไปให้แต่ของที่หายากอาจจะมีราคาแพงนิดหน่อย เพื่อนชายหนุ่มได้ฟังก็ดีใจมากบอกเพียงว่าถ้ามีอาหารส่งมาให้เขาก็พร้อมที่จะจ่ายหลี่เหว่ยจึงบอกกับเพื่อนว่าจะโทรไปแจ้งความคืบหน้าอีกทีเมื่อหาเสบียงอาหารได้ หลังวางสายจากเพื่อนชายหนุ่มก็เดินไปรอรถประจำทาง ระหว่างยืนรอรถอยู่นั้นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาหา"ใช่พี่เหว่ยไหมคะ" หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจว่าจะใช่คนที่ตนเองรู้จักหรือไม่ เพราะเธอก็ไม่ได้เจออีกฝ่ายมานานแล้วหลี่เหว่ยมองคนตรงหน้าก่อนจะพยายามนึกว่าเคยรู้จักหญิงสาวมาก่อนไหม แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก ชายหนุ่มจึงตอบรับว่าตนเองนั้นคือหลี่เหว่ยก่อนจะเอ่ยถามกลับว่าหญิงสาวเป็นใคร"ฉันถิงถิงไงคะ เคยเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนของพี่เหว่ย" หญิงสาวเอ่ยแนะ

  • เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80   บทที่ 24 ตามถึงบ้าน

    พอทั้งสามคนกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว โจวลี่อินก็พาสามีกับลูกสาวไปร้านขายเสื้อผ้า หญิงสาวเลือกชุดให้สองพ่อลูกคนละชุดก่อนจะจ่ายเงินพร้อมกับคูปอง หลังจากนั้นก็ขึ้นรถประจำทางกลับบ้านพอมาถึงหน้าบ้านชายหนุ่มก็ไขกุญแจก่อนจะเปิดประตูบ้าน ทั้งสามคนเดินเข้าไปในห้อง โจวลี่อินก็เอ่ยปากให้ลูกสาวไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน หลี่อิงอิงก็ว่าง่ายเดินถือชุดเข้าห้องอาบน้ำทันทีพอหลี่อิงอิงอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลี่เหว่ยก็ให้ภรรยาเป็นคนอาบน้ำก่อน โจวลี่อินก็ไม่อิดออดรีบเข้าไปอาบน้ำเพราะสามีจะได้อาบเป็นคนต่อไปแล้วก็เป็นเหมือนเช่นทุกวันที่คนเป็นแม่จะนอนอ่านนิทานให้ลูกสาวฟัง พอหลี่อิงอิงหลับแล้วโจวลี่อินก็หลับตาลง เธอรู้สึกอีกแล้วว่ากำลังโดนชายหนุ่มกอด แต่ครั้งนี้เธอกลับรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก มันช่างมีความสุขเหลือเกินเช้าวันต่อมา โจวลี่อินที่ทำกับข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ยกถ้วยมาวางบนโต๊ะ เตรียมจะเดินไปเรียกสามีกับลูกสาวมากินข้าวก็ได้ยินเสียงเคาะประตูบ้านดังขึ้นโจวลี่อินรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากเพราะเธอเพิ่งมาอยู่ที่นี่ ใครกันนะที่มาเคาะประตูบ้านหรือว่าจะเป็นป้าหวัง หญิงสาวคิดจบก็เดินไปเปิดประตูห้อง พอ

  • เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80   บทที่ 23 ไปกินข้าวที่ร้านอาหาร

    เช้าวันต่อมาโจวลี่อินก็ตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้าก่อนจะเรียกสามีกับลูกมากินข้าว หลังจากอิ่มหญิงสาวก็เดินทางไปขายของที่ตลาดมืด ก่อนเข้าตลาดหญิงสาวก็ไปยังจุดที่ไม่มีคนก่อนจะเข้าไปในมิติเอาของออกมาแล้วเดินเข้าไปในตลาดมืดวันนี้เพียงโจวลี่อินเดินเข้าไปป้าเฉินก็ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร หญิงสาวจึงปูผ้าก่อนจะนำของในตะกร้ามาวาง"วันนี้มีของมาขายเยอะเลยนะนังหนู" ป้าเฉินมองดูของที่วางอยู่ตรงหน้าของโจวลี่อินก่อนจะเอ่ยขึ้น ถ้าหากว่ามีของมาขายเยอะทุกวันแบบนี้ จะต้องได้เงินเป็นกอบเป็นกำแน่ๆ เพราะของที่ขายในตลาดมืดต่างมีราคาสูงกว่าข้างนอก"ฉันอยากรีบเก็บเงินให้ได้เยอะๆ น่ะค่ะ ก็เลยรับของมาเยอะ ไม่รู้ว่าวันนี้จะขายหมดไหม" โจวลี่อินเอ่ยขึ้น เธอคงมาขายของในตลาดมืดอีกไม่นาน เพราะนี่ก็ใกล้ถึงปี 1976 แล้วที่จะเปิดประเทศให้ประชาชนทั่วไปสามารถค้าขายได้ หลังจากนั้นเธอจะนำเงินที่ได้จากขายของไปลงทุนเปิดร้านค้า"มีใครบ้างไม่อยากได้เนื้อหมูกับผักสวยๆ แถมราคายังถูกกว่าร้านอื่นอีก นังหนูต้องขายหมดแผงเป็นแน่" ป้าเฉินเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม ราคาเนื้อหมูกับพวกผลไม้ของนังหนูนี่ถึงแม้ราคาจะแพงกว่าข้างนอกแต่ก็ถูกกว่าร้านอื่นใตตลาดมืด

  • เซ็ทนิยายทะลุมิติ ยุค 70-80   บทที่ 22 นับเงินอย่างมีความสุข

    โจวลี่อินเดินเลือกซื้อขนมไปฝากหลี่อิงอิงเรียบร้อยแล้วก็ออกจากตลาดมืดไปยืนรอรถประจำทาง ไม่นานรถประจำทางก็เคลื่อนมาจอดตรงหน้า หญิงสาวจึงเดินขึ้นไปหาที่นั่ง วันนี้บนรถผู้คนไม่ถึงกับเยอะมาก ยังมีที่นั่งว่างอยู่ ร่างบางจึงเดินเข้าไปนั่ง รถแล่นเข้าสู่ท้องถนนไม่นานก็มาถึงบ้าน หญิงสาวลงจากรถก่อนจะเดินเข้าไปในอพาร์ทเม้นท์ ระหว่างทางเดินกลับห้องก็เห็นเด็กน้อยกับหญิงวัยกลางคนยืนอยู่"เพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่เหรอหนู ป้าไม่เคยเห็นหนูมาก่อนเลย" ป้าหวังเอ่ยถามด้วยความสงสัยเพราะไม่เคยเห็นหญิงสาวตรงหน้ามาก่อน แล้วอีกอย่างเธอก็ได้ข่าวว่าเพิ่งมีคนมาเช่าบ้าน โจวลี่อินยิ้มตอบก่อนจะเอ่ยบอกว่าตนเองนั้นเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ มือบางหยิบขนมส่งให้กับเด็กน้อยที่ป้าหวังจูงมืออยู่ด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเอ่ยปากขอตัวเข้าบ้านทันทีที่โจวลี่อินเปิดประตูเข้าไปในบ้าน หลี่อิงอิงที่กำลังนั่งเล่นอยู่กับบิดาก็รีบวิ่งเข้ามาหาคนเป็นแม่ด้วยความดีใจ โจวลี่อินยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะหยิบขนมออกมาให้ลูกสาว หลี่อิงอิงดีใจเป็นอย่างมากที่ได้ขนม เด็กน้อยจึงรีบวิ่งเอาไปอวดพ่อทันที หลี่เหว่ยเอ่ยบอกไม่ให้ลูกสาวกินขนมเยอะจนเกินไปเพราะกลัวว่าจะอิ่ม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status