มู่หรงยิ่นกล่าวเตือน“ไม่เป็นไร! ใช้วิชาเข็มสองแบบนี้ ค่อนข้างง่ายสำหรับผม”หลินหยางกล่าว“ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณมาก ถ้าไม่ใช่เพราะคุณมาทันเวลา อีกทั้งยังสนับสนุนหลินหยางอย่างเต็มที่ พวกเราคงจะทำผิดพลาดครั้งใหญ่จริงๆ ไม่กล้าคิดถึงผลที่ตามมาเลย พวกเราจะจำบุญคุณครั้งนี้ของคุณไว้แน่นอน”จางซูอวิ๋นถอนหายใจอย่างโล่งอก บนใบหน้าเผยให้เห็นความปลื้มปีติเล็กน้อย และรีบกล่าวขอบคุณมู่หรงยิ่นเธอลองจินตนาการดู ถ้าหากวันนี้มู่หรงยิ่นไม่ปรากฏตัว รักษาตามวิธีของฉีอีซิน เฉาเค่อหมิงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!“คุณนายเฉาเกรงใจแล้ว คนที่ออกแรงคือคุณหลิน ฉันแค่พูดไปตามความจริง อีกทั้งฉันยังเชื่อใจคุณหลินมากก็เท่านั้น”มู่หรงยิ่นไม่ได้เรียกร้องผลงาน แม้เธอมาเยี่ยมเฉาเค่อหมิง เดิมทีอยากให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้ตระกูลเฉาติดค้างหนี้บุญคุณก็จริง!อย่างไรก็ตามเฉาเค่อหมิงคือผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งของเมืองลั่วคนไหนบ้างที่ทำธุรกิจ แล้วไม่อยากกระชับความสัมพันธ์กับเฉาเค่อหมิง“แน่นอนว่าคุณหลินคือคนที่มีพระคุณที่สุด คุณก็ช่วยได้เยอะเหมือนกัน ต่อไปตระกูลมู่หรงของพวกคุณต้องการความช่วยเหลือ
“คุณนายเฉา ผมยังพูดไม่จบ”“เชิญคุณพูด”จางซูอวิ๋น แสดงความไม่พอใจออกมาทางสีหน้า แอบคิดในใจ หรือว่าหนึ่งร้อยล้านยังไม่พอ? ยังอยากเรียกราคาสูงกว่านี้?“ผมรักษาคนขึ้นอยู่กับอารมณ์ ถ้าหากผมยินดีช่วย ไม่เอาแม้แต่แดงเดียวก็ไม่เป็นไร ถ้าหากผมไม่ยินดี ต่อให้เป็นมหาเศรษฐี ข้าราชการขั้นหนึ่ง เสนอราคาสูงแค่ไหน ผมก็ทนเห็นคนตายโดยไม่ช่วยได้”“ที่จริงวันนี้อารมณ์ของผมถือว่าไม่เลว อีกอย่างเห็นแก่หน้าของมู่หรงยิ่น ผมเก็บค่ารักษาแค่หนึ่งร้อย”หลินหยางชูนิ้วชี้ซ้ายพลางกล่าว“เท่าไหร่นะ? หนึ่ง…หนึ่งร้อย?!”จางซูอวิ๋นกับเฉาเยี่ยนหลิงไม่กล้าเชื่อหูของตนเอง“ใช่ แค่หนึ่งร้อย” หลินหยางกล่าวด้วยรอยยิ้มจางซูอวิ๋นรู้สึกละอายใจทันที เธอรู้ดี ด้วยทักษะการแพทย์ที่เลิศล้ำของหลินหยาง ไม่จำเป็นต้องเอาใจพวกเขาแม้เฉาเค่อหมิงเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน แต่ไม่มีทางอยู่ในสายตาของบุคคลอย่างหลินหยางแน่นอนดังนั้นเธอก็รู้เช่นกัน หลินหยางเก็บค่ารักษาหนึ่งร้อย เป็นจริงตามที่เขาพูด เพราะอารมณ์ดีและเห็นแก่หน้ามู่หรงยิ่น“ไม่ได้ ไม่ได้! หนึ่งร้อยหยวนน้อยเกินไป อย่างน้อยก็ต้องหนึ่งล้าน หมอเทวดาหลินเป็นคนมีคุณธรรม แต่พ
ฉีอีซินกล่าวอย่างประหม่า“ผมทำร้ายลูกชายของคุณ คุณไม่แก้แค้นให้เขาเหรอ?” หลินหยางกล่าวถาม“ลูกสุนัขไม่รู้ความ ล่วงเกินคุณ มันเกิดจากการกระทำของเขา ผมกลับไปแล้วจะสั่งสอนเขาอย่างดีแน่นอนครับ” ฉีอีซินกล่าวด้วยสีหน้า ถ่อมตน“เรื่องรับคุณเป็นลูกศิษย์เลิกคิดไปได้เลย แต่ว่าถ้าหากคุณสามารถรักษาประชาชนให้มากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายด้านยาลงบ้าง จากนั้นหาพวกสมุนไพรบางส่วนที่ผมต้องการ ผมสามารถชี้แนะคุณในด้านทักษะการแพทย์นิดหน่อย”หลินหยางต้องการสมุนไพรจำนวนมากในการฝึกยุทธ์ อาศัยเขาไปซื้อเอง มันยุ่งยากเกินไป ฉีอีซินต้องมีลู่ทางในการหาสมุนไพรแน่นอน ให้เขาไปจัดการ มันง่ายกว่าเยอะโดยเฉพาะสมุนไพรหายากอย่างหญ้าน้ำลายมังกร หาซื้อยากมาก หญ้าน้ำลายมังกรหนึ่งต้นไม่พอใช้แน่นอน“ขอบคุณหมอเทวดาหลิน ผมจะทำตามที่คุณบอกแน่นอน แล้วก็คุณต้องการสมุนไพรอะไร ทำรายการมาได้เลย ผมจะไปรวบรวมเอง”ฉีอีซินยิ้มหน้าบานทันที สามารถได้รับการชี้แนะจากหลินหยาง เขาก็พึงพอใจมากแล้วเวลาครึ่งชั่วโมงผ่านไปเร็วมาก หลินหยางเข้าไปอีกครั้ง เขาดึงเข็มเงินออกเฉาเค่อหมิง อาเจียนเอาเลือดสีดำที่ส่งกลิ่นเหม็นออกมากองใหญ่ทันทีหลังจากสารพ
มู่หรงยิ่นหยิกแก้มมู่หรงหว่านเอ๋อร์หนึ่งที“ฉันล้อเล่น ดูสิ ทำเอาเธอประหม่าซะ ความรู้สึกที่ฉันมีต่อคุณหลินคือความเคารพ”“จะให้ฉันไม่ประหม่าได้เหรอ? ถ้าพี่ชอบเขา ฉันสู้ไม่ไหวแน่นอน” มู่หรงหว่านเอ๋อร์กล่าว“เธอนี่นะ สู้ๆ ก็แล้วกัน! เขาเพอร์เฟกต์ขนาดนั้น คนที่รู้สึกชื่นชมเขาจากใจมีเยอะมาก”มู่หรงยิ่นกล่าวเตือน“วางใจเถอะพี่ ฉันจะสู้ๆ แน่นอน”มู่หรงยิ่นกับมู่หรงหว่านเอ๋อร์เดินไปยังลานจอดรถหมายเลขสองส่วนหลินหยางเดินไปถึงลานจอดรถหมายเลขหนึ่ง มีรถคันหนึ่งแล่นเข้ามาด้วยความเร็ว พุ่งชนเขาจากด้านหลังหลินหยางรู้สึกถึงอันตราย กระโดดตีลังกากลางอากาศฉับพลัน ตกลงบนหลังคารถอีกคันที่จอดอยู่ข้างๆ อย่างมั่นคงรถเอสยูวีสีดำที่พุ่งชนเขาหยุดลง ประตูรถถูกเปิดออก ฉีเทียนหมิงที่ขากะเผลกกระโดดลงมาจากบนรถ“ไอ้สารเลว แกอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย”ฉีเทียนหมิงด่าทออย่างโกรธแค้น“ระวังคำพูดของคุณหน่อย ไม่อย่างนั้นอีกเดี๋ยวพ่อของคุณตบปากคุณฉีกแน่” หลินหยางกล่าว“ฉันต่างหากที่เป็นพ่อแก! อีกเดี๋ยวฉันก็จะให้แกคุกเข่าลงพื้นเรียกพ่อ อ้อนวอนพ่อแกไว้ชีวิตสุนัขของแก”ฉีเทียนหมิงกล่าวด้วยความโกรธหลินหยางส่ายศีรษะ
“พ่อ พ่อทำอะไร? ตบผมทำไม!”ฉีเทียนหมิงกุมหน้า เขาก็งงงวยเช่นกัน“ไอ้บัดซบ ฉันจะตบแกนั่นแหละ”ฉีอีซินพูดจบ กระชากเสื้อของฉีเทียนหมิง ลากเขาไปที่ตรงหน้าหลินหยาง“คุกเข่า!”“พ่อ พ่อบ้าไปแล้วเหรอ?” ฉีเทียนหมิงกล่าวอย่างหัวเสียเพี๊ยะ!โดนไปอีกหนึ่งฝ่ามือแรงๆ ตบจนฉีเทียนหมิงหมุนอยู่ตรงที่เดิมหนึ่งรอบ มีเลือดไหลออกจากจมูกและปาก“ฉันบอกให้แกคุกเข่า!” ฉีอีซินตวาดด้วยความโกรธฉีเทียนหมิงมองเห็นดาวแล้ว เขาอดกลั้นความเจ็บปวดคุกเข่าลง “ขอโทษครับคุณหลิน ลูกสุนัขไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ คุณได้โปรดอย่าถือสา ละเว้นเขาสักครั้ง ต่อไปผมจะสั่งสอนอย่างเข้มงวดแน่นอน”ฉีอีซินพูดจบ ก็ถีบฉีเทียนหมิงอีกหนึ่งที แล้วด่าทอ “จะนั่งบื้ออยู่ตรงนั้นทำไม? ยังไม่รีบขอโทษคุณหลินอีก!”ฉีเทียนหมิงก็ไม่ใช่คนโง่เช่นกัน ด้วยเส้นสายของพ่อเขา ยังต้องเกรงกลัวหลินหยางเช่นนี้ เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าหลินหยางไม่ใช่คนที่เขาสามารถล่วงเกินได้“คุณหลิน ขอ…ขอโทษครับ ผมผิดไปแล้ว ได้โปรดคุณเป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง ละเว้นผมเถอะ”เติ้งจินขุยที่อยู่ข้างๆ กระอักกระอ่วนทันที และเข้าใจได้ในพริบตา เด็กหนุ่มตรงหน้าคนนี้มีภูมิหลังที่น่ากล
หลินหยางทำตามสูตรยาหล่อกาย อันดับแรกต้มสมุนไพรเป็นยาน้ำ หลังจากนั้นใส่น้ำร้อนลงในอ่างอาบน้ำจนเต็ม แล้วใส่ยาน้ำหล่อกายลงไปอีกทีน้ำในอ่างอาบน้ำกลายเป็นสีแดงเหมือนกับเลือดทันที มีไอร้อนและกลิ่นสมุนไพรที่เข้มข้นลอยอบอวลหลินหยางถอดเสื้อผ้าจนเปลือย เข้าไปนั่งในอ่างอาบน้ำ เริ่มโคจรวิชาของมังกรคชสารสะเทือนฟ้าหลังจากโคจรวิชา รูขุมขนทั่วร่างของหลินหยางค่อยๆ ขยาย ดูดซับฤทธิ์ยาในยาน้ำ “ซี๊ด!”ยาน้ำแทรกซึมเข้าสู่รูขุมขน หลินหยางสูดลมเย็นเข้าปอดทันทีความเจ็บปวดที่เหมือนถูกเข็มทิ่มแทงส่งตรงมาจากทุกรูขุมขน คอยกระตุ้นเส้นประสาททุกเส้นความรู้สึกเจ็บแบบนี้ คนทั่วไปแบกรับไม่ไหว จะกระโดดออกจากอ่างอาบน้ำทันทีแต่ในสองปีมานี้ หลินหยางถูกฉินเยียนหรานทุบตี ทารุณกรรมมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือความสามารถในการควบคุมตัวเองล้วนแข็งแกร่งเป็นพิเศษ ความอดทนก็อยู่เหนือคนทั่วไปเขาอาศัยความสามารถในการควบคุมตัวเอง ฝืนอดทนต่อความเจ็บปวดที่เหมือนถูกเข็มทิ่มแทงทั่วร่างที่ถูกส่งมาจากทุกรูขุมขน ขับเคลื่อนวิชาทำการโคจรเวียนอย่างต่อเนื่องเมื่อการโคจรของวิชาเร็วขึ้น ความเจ็บปวดที่เหมือนถูกเข็มทิ่มแทงยิ่งเพ
“ฉินโม่หนง หลิวเฉิงจื้อ คืนนี้ผมก็มีเซอร์ไพรส์ให้พวกคุณเหมือนกัน”มุมปากหลินหยางเผยอขึ้นเผยให้เห็นรอยยิ้มเสี้ยวหนึ่ง เขาก็เฝ้ารองานเลี้ยงของคืนนี้เช่นกันหลินหยางขับรถมาถึงโรงแรมจิ่วติ่งอินเตอร์เนชันแนลที่ใหญ่ที่สุดของเมืองลั่วโรงแรมจิ่วติ่งอินเตอร์เนชันแนลเป็นโรงแรมที่อยู่ภายใต้ชื่อของเจี้ยนเซิ่ง กรุ๊ป ตระกูลมู่หรง ได้รับการตกแต่งไว้อย่างดีแล้วลานจอดรถของโรงแรม รถหรูมากมายจอดเรียงราย บุคคลที่มีหน้ามีตาทั้งเมืองลั่ว โดยส่วนใหญ่จะมาร่วมอวยพรด้วยตนเองหลินหยางจอดรถเสร็จก็เดินไปที่ห้องลิฟต์ บังเอิญเจอหลิ่วฟู่อวี่กับอวี๋ผิงแม่ของเธอก็กำลังรอลิฟต์พอดี“ทำไมนายก็อยู่ที่นี่ด้วย?”หลิ่วฟู่อวี่กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์อวี๋ผิงกวาดมองเขาด้วยสายตาเรียบเฉยแวบหนึ่ง ดูถูกที่จะคุยกับหลินหยาง ราวกับว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน“เกี่ยวอะไรกับเธอ?”หลินหยางก็กล่าวอย่างไม่เกรงใจเช่นกัน“ดูเหมือนผู้หญิงที่รับเลี้ยงนายจะพานายมาสินะ? สถานที่หรูแบบนี้ และงานเลี้ยงวันเกิดที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ ไม่ใช่สถานที่ที่แมงดาที่ถูกรับเลี้ยงอย่างนายจะมาได้นะ”หลิวฟู่อวี่ก็มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของตระกูลมู่หรงครั้งแรกเช่
“เสี่ยวหยาง ฉันเสียใจมากจริงๆ ตอนนั้นฉันไม่ควรตอบตกลงถอนหมั้น นายก็คงไม่ตกต่ำจนติดการพนัน หรือกระทั่งติดยาเสพติด เป็นฉันที่ทำร้ายนาย”หลิวเฉิงจิ้อกล่าวด้วยสีหน้าเสียใจ“คุณมันหน้าซื่อใจคดจริงๆ ตอนนั้นเป็นคุณที่กลับคำพูด จะยกเลิกการหมั้นให้ได้ไม่ใช่เหรอ?”หลินหยางยิ้มอย่างเย็นชา“ฉันจะยกเลิกการหมั้นได้ยังไง! ฉินโม่หนงเป็นคนพูดเรื่องนี้” หลิวเฉิงจื้อกล่าว“หืม? คุณพูดว่าอะไรนะ?”หลินหยางขมวดคิ้วกล่าว“ไม่นานหลังจากที่พ่อแม่นายตาย ฉินโม่หนงก็เป็นฝ่ายมาหาฉัน บอกว่าจะยกเลิกการหมั้น ฉันไม่เห็นด้วย เธอบอกว่านี่เป็นความปรารถนาสุดท้ายก่อนตายของพ่อนาย และให้นายยอมรับเธอเป็นแม่บุญธรรม ยิ่งกว่านั้นให้แต่งงานกับฉินเยียนหรานลูกสาวของเธอ”“ฉินโม่หนงยังบอกว่านายก็เห็นด้วยกับการยกเลิกการหมั้น ไม่ยอมแต่งงานกับเสียวอวี่ ฉันคิดว่าในเมื่อเป็นความปรารถนาสุดท้ายของพี่หลิน ก็เลยตอบตกลง”ฟังหลิวเฉิงจื้อพูดจบ หลินหยางขมวดคิ้ว เริ่มพิจารณาคำพูดของหลิวเฉิงจื้อว่าจริงหรือเท็จตอนนั้นฉินโม่หนงบอกเขาว่า หลิวเฉิงจื้อถอนหมั้น ยืนกรานที่จะยกเลิกสัญญาแต่งงานตอนนี้สิ่งที่ออกจากปากของหลิวเฉิงจื้อ กลับเป็นนิทาน
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ
เจียงรั่วหานหัวใจตึงเครียดขึ้นมาทันที เป็นห่วงชายชู้ของตนเอง ครั้งนี้หลินหยางตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ!อย่างไรเสียใช้ยศตำแหน่งข่มเหงคนอื่น!ซ่งหว่านอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ถอนหายใจในใจเช่นกัน ต่อให้ตำแหน่งของหลินหยางที่เมืองลั่วสูงกว่านี้แล้วจะยังไงต่อหน้าผู้มีอิทธิพลอย่างหวังเทียนเหิง ก็ทำได้แค่เพียงอดกลั้นเท่านั้น!“จะตรวจสอบงั้นก็ได้ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย”หลี่หรูเยว่สีหน้าไม่สุขุม แต่กลับไม่กล้าให้หลินหยางมีข้อหาขัดขวางทางการติดตัว“กฎหมาย?” หวังเทียนเหิงยิ้มเยาะ กล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโส “คำพูดของฉัน ก็คือกฎหมาย! มีปัญหา? เข้าไปในห้องกับฉันค่อย ๆ คุยกัน ถ้าทำให้ฉันพอใจได้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะปล่อยแกไปสักครั้ง!”เขาทำตัวอวดดีกำเริบเสิบสาน! ถึงอย่างไรเหยียนฮ่าวก็ได้แทรกแซงคดีนี้ด้วยตนเองแล้ว ถ้าอยากจะจับหลินหยางให้อยู่หมัด! ต้องมีหลักฐานแน่ชัด ทำให้หลินหยางดิ้นไม่หลุดตลอดไป!ส่วนการหลับนอนกับปรมาจารย์ระดับแปดคนหนึ่ง นั่นก็เป็นเพียงเรื่องของผลพลอยได้เท่านั้น!เขาจ้องมองสำรวจรูปร่างที่สวยงามประณีตของหลี่หรูเยว่ด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว มีความร้อนกลุ่มหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นในท้องน้อยข
แต่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสช่วงจังหวะชุลมุน ลงมือกับจ้าวเจิ้งฮ่าว!“นายพลจ้าววางใจ”สีหน้าเฉิงคั่วหนักใจ ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งในฐานะที่เขาเป็นปรมาจารย์ระดับห้า ประกอบกับมีนักรบทหารองครักษ์ชาวตงอิ๋งที่มีระดับมานะสร้างกลุ่มหนึ่งคอยช่วยเหลือ ก็มากพอที่จะจับตัวปรมาจารย์หนึ่งในนั้นได้“แม่งเอ๊ย ในเมื่อพวกแกทั้งหมดยอมเป็นสุนัขรับใช้ของหลินหยาง ถ้าอย่างนั้นก็ไปตายให้หมด! คิดว่าปรมาจารย์ระดับเก้าของฉันมีไว้ประดับเหรอไงวะ!?”จ้าวเจี้ยนชิงดวงตาแดงก่ำด้วยความริษยา ตนเป็นผู้บังคับบัญชาของเมืองลั่วมานานหลายปี ยังไม่มีลูกน้องที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หลินหยางเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็มีปรมาจารย์ระดับหกถึงสี่คนเป็นสุนัขรับใช้?!หลินหยางยิ่งใช้ชีวิตดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะสับหลินหยางให้แหลกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!แต่ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกขั้นสุดกลุ่มหนึ่งลอยมา!“จ้าวเจี้ยนชิง แกอยากตายใช่ไหม?”ในเวลานี้ หลี่หรูเยว่ยืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ ในมือของเธอใช้โซ่เหล็ก จูงม๋อจื่อที่เหมือนกับเป็นสัตว์ร้าย จ้องมองเขาด้วยความเย็นชาจ้าวเจี้ยนชิงรูม่านตาหดทันที กล่าวอย
ก็แค่ปรมาจารย์ระดับหกคนหนึ่งเท่านั้น เขาไม่สนใจอยู่แล้วแต่ปรมาจารย์ระดับหกคนหนึ่งไม่คิดเลยว่าจะมาเป็นยามให้หลินหยาง เขาไม่สามารถเข้าใจได้!แม้ว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์ระดับเก้าก็ยังไม่เคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้!จ้าวเจิ้งฮ่าวและคนอื่น ๆ ต่างก็อ้าปากค้างอย่างตกตะลึงสถานการณ์ตรงราวกับเป็นภาพลวงตาเลยทีเดียว!ไอ้หมอนี่หัวสมองมีปัญหาเหรอไง? ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้เป็นปรมาจารย์ระดับหก แต่กลับมาเป็นยามให้คนที่มีระดับเจ็ดอย่างหลินหยาง?!“นับว่าแกพอมีความสามารถอยู่บ้าง แต่การรับใช้คนที่กำลังจะตาย เป็นการทำให้ตัวเองเสื่อมถอยแท้ ๆ เลย!”จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “หลินหยางทำลายการค้าระหว่างกองทัพกับชาวตงอิ๋ง ฉันมาเพื่อค้นหาหลักฐาน”“ตอนนี้ฉันให้โอกาสแกกลับตัวกลับใจหนึ่งครั้ง สวามิภักดิ์ต่อฉัน! ไม่อย่างนั้น จะถือว่าแกขัดขวางการสอบสวน! ฝ่าฝืนกฎหมายระดับประเทศ! ฉันจะประหารชีวิตแกทันที”เขามีความคิดที่จะชักจูงคนคนนี้ถึงอย่างไรปรมาจารย์ระดับหกในเมืองลั่วก็นับว่าเป็นยอดฝีมือ ฆ่าไปก็น่าเสียดายแต่ทว่าอาต้ากลับกล่าวเสียงเย็นชา “รับเลี้ยงฉัน? แกคู่ควรเหรอ! ไสหัวไป!”“แกคิดให้ดี ๆ กล้าขัดขวาง
เจียงรั่วหานกล่าวโต้เถียงด้วยสีหน้าแดงก่ำแต่นี่ก็คือเรื่องจริงถึงอย่างไรตนก็ไม่ได้ขึ้นเตียงกับหลินหยาง แต่ทว่าทำในรถ...“ไม่ต้องรีบ นั่งลงคุยกัน...” ซ่งหว่านอวี๋ท่าทางสบาย ๆ พูดจาปลอบโยนอย่างมีเลศนัย “เป็นเพราะพี่กลัวเธอถูกหลินหยางหลอกเอา หลินหยางนั่นบังคับให้พี่ทำเรื่องแบบนั้น เขาไม่ใช่คนดีอะไร!”“พี่หว่านอวี๋พี่ไม่เข้าใจเขา!”เจียงรั่วหานกลับวางแก้วกาแฟลง รีบพูดขึ้นว่า “อันที่จริงหลินหยางเป็นคนดีคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่เขาทำแบบนั้นกับพี่ อัน อันที่จริงเป็นเพราะจ้าวเจิ้งฮ่าวเป็นต้นเหตุ!”“ฉันบอกเขาแล้ว ว่าต่อไปห้ามแตะต้องพี่อีก!”ไม่แตะต้องฉัน?ฉันต้องการให้เธอช่วยเหลือเรื่องนี้เหรอ?เธอกินอิ่มแล้วไม่กะจะไม่เหลือไว้ให้ฉันกินสักคำเลยเหรอไง!ซ่งหว่านอวี๋สีหน้าดูแย่เล็กน้อย เธอกินอาหารทะเลมื้อหรูจนเคยชินแล้ว จะกินอาหารจืดชืดลงได้ยังไงอีก?“พี่หว่านอวี๋ ต่อไปฉันคงต้องอาศัยพี่คอยเป็นที่กำบังให้ฉันแล้ว ครอบครัวนี้ ฉันทนอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแม้แต่วันเดียวแล้ว!”เจียงรั่วหานยังหันหน้าไปมองซ่งหว่านอวี๋ด้วยท่าทางขอร้อง“เรื่องเล็กน้อย...”ซ่งหว่านอวี๋กล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ไม่ว่าจะพู
ฉินเจิ้งคุนกลับส่งสัญญาณมือให้เงียบเอาไว้“เรื่องพวกนี้ห้ามเอาไปพูดข้างนอกส่งเดช! การต่อสู้ของบุคคลใหญ่โตไม่ใช่สิ่งที่พวกเราวิจารณ์ได้!”เขากล่าวเตือนด้วยท่าทีขึงขังถึงแม้ว่าตระกูลฉินจะมีชื่อเสียงโด่งดังในหนานโจว แต่ในสายตาของตระกูลใหญ่ที่ล้ำลึกจนไม่อาจคาดเดาของซานโจวบนพวกนั้น วงศ์ตระกูลบ้านนอกอย่างตระกูลฉิน ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึงการต่อสู้ระดับนั้น เพียงแค่ควันหลง ก็มากพอที่จะทำให้ทั้งตระกูลฉินตายไร้ที่ฝังศพแล้ว!ฉินอี๋หลิงรีบหุบปากทันทีเช่นกันไม่กล้าส่งเสียงดัง เพราะหวาดกลัวว่าคนบนฟ้า!“หลินไร้ศัตรูแอบรายงานแต่ละวงศ์ตระกูลใหญ่แห่งหนานโจวอย่างลับ ๆ ให้ช่วยเขาตามหาหลานชายของเขา ถ้าหากใครหาเจอ เขาก็จะยอมรับคำขอร้องของคนนั้นหนึ่งข้อ” ฉินเจิ้งคุนค่อย ๆ พูด“จริงเหรอคะ?”ฉินอี๋หลิงสีหน้าตื่นเต้นดีใจ หัวใจไฟลุกโชนถึงแม้ว่าวงศ์ตระกูลของหลินไร้ศัตรูจะล่มสลายไปแล้ว แต่ก็ยังไม่สิ้นอำนาจโดยสมบูรณ์!คำมั่นสัญญาของเขาหนึ่งข้อ สามารถตัดสินว่าใครจะได้ครอบครองตำแหน่งหัวหน้าตระกูลฉิน!“มีเบาะแสของหลานชายคนนั้นของเขาแล้วเหรอยัง!”เธอรีบกล่าวถาม“ง่ายแบบนั้นซะที่ไหน...”ฉินเจิ้งคุนส่ายหน้
ตนในตอนนี้ ต่อสู้ข้ามสามระดับชั้นก็ไม่เป็นปัญหา มีลูกน้องไม่กี่คน ตนก็ไม่ต้องโดนรุมโจมตีอีกบ่อย ๆมีสิทธิ์แสร้งทำเป็นเก่ง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องทำแต่ทว่าหลี่หรูเยว่กับปรมาจารย์ทั้งสี่คนมีความปรับตัวให้เข้ากับสไตล์แบบนี้ไม่ค่อยได้เท่าไหร่หลูอ้าวตงว่าอวดดีมากพอแล้ว แต่เมื่อเทียบกับหลินหยาง นั่นก็เป็นแค่เรื่องจิ๊บจ๊อยเท่านั้น...“ไปกันเถอะ กลับไปที่บ้านให้ฉันรักษาอาการบาดเจ็บให้พวกแกก่อน อีกเดี๋ยวไปกับฉันฆ่าคนของจ้าวเจี้ยนชิงให้เรียบ”หลินหยางเดินลงจากภูเขาแต่หลี่หรูเยว่และคนอื่น ๆ อีกห้าคนกลับสบตากันแวบหนึ่ง เห็นสีหน้าตกใจจากนัยน์ตาของอีกฝ่ายหลินหยางพูดจาสบาย ๆ มาก ราวกับว่าในสายตาของเขา การฆ่าหัวหน้ากองทหารรักษาการณ์ ง่ายเหมือนกับซื้อผักพวกเขากลับไม่ทันได้คิดมาก รีบตามหลินหยางลงจากเขา คอยตามปรนนิบัติ...อีกด้านหนึ่งภายในห้องหนังสือสไตล์โบราณแห่งหนึ่งฉินเจิ้งคุนกระแทกโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ พูดด้วยความโมโห “ไอ้สารเลวนี่อวดดีมาก! แม้แต่สายโทรศัพท์ของฉันกล้าตัดทิ้ง!”ฉินอี๋หลิงที่อยู่ด้านข้างสีหน้าดูแย่เช่นกัน บทสนทนาเมื่อครู่นี้เธอได้ยินหมดแล้วหลินหยางไม่ให้เกียรติเลยแม้แต
หรือไม่ก็โทรศัพท์ไปหยอกหลูอ้าวตงอีกสักที?ไม่มีอะไรทำก็ไปยั่วโมโหหลูอ้าวตงสักหน่อย ได้กลายเป็นความเคยชินของหลินหยางไปแล้วแต่ทว่าทันทีที่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กลับมีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามาเบอร์โทรศัพท์นั่นคือ...ฉินเจิ้งคุน?หลินหยางมีความประหลาดใจเล็กน้อย จะว่าไป ฉินเจิ้งคุนควรจะส่งคนมาไล่ฆ่าตนถึงจะถูกอย่างไรเสียสิ่งของที่ไม่ได้มาครอบครองก็ต้องทำลายทิ้ง ถึงจะเหมาะสมกับสไตล์ของตระกูลใหญ่อย่างพวกเขาผลปรากฏว่าการตามล่าของตระกูลฉินที่รอคอยมาไม่ถึงสักที...เขารับสายแล้วพูดว่า “ผมคิดว่าคุณตายไปแล้วเสียอีกนะ...”“ไอ้บ้า!”ทันทีที่ฉินเจิ้งคุนต่อสายติดก็ได้ยินประโยคนี้ โมโหจนสะอึกทันที “คนที่ใกล้ตายอย่างแกยังจะกล้าพูดจาเหลวไหล! ตอนนี้แกได้ถูกหลูอ้าวตงตามฆ่าเหมือนกับหนูท่อที่น่ารังเกียจแล้วละมั้ง!”“ถ้าอย่างนั้นคงต้องทำให้คุณต้องผิดหวังแล้ว...”หลินหยางเหลือบตามองลูกน้องที่เพิ่งรับเอาไว้เมื่อสักครู่นี้แวบหนึ่ง หลูอ้าวตงทั้งส่งสมุนไพรทั้งส่งผู้หญิงมาให้ โดนตนจัดการจนรู้สึกไม่ค่อยสบายขึ้นมาอยู่หน่อย ๆ เสียแล้วแต่ทว่าฉินเจิ้งคุนกลับไม่เชื่อ กล่าวเสียงเย้ยหยัน “เลิกพูดจาไร้สาระ ต
เขาหยิบยาพิษสี่เม็ดออกมาจากในกระเป๋าเฉียนคุน โยนให้พวกเขา“ยาพิษนี้มีแค่ฉันเท่านั้นที่ถอนได้ ถ้าหากพวกแกกล้าทรยศ จะต้องตายอย่างน่าเวทนามากแน่อย่างแน่นอน”ปรมาจารย์ทั้งสี่เข้าใจว่าหลินหยางไม่เชื่อใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ยาพิษนี้ไม่กินก็ต้องกิน จากนั้นก็กลืนยาพิษลงไปโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยเมื่อทั้งสี่คนกลืนยาพิษลงไปแล้ว หลินหยางถึงได้ไปช่วยรักษาม๋อจื่อภายใต้การจับตามองอย่างประหม่าของหลี่หรูเยว่หลินหยางใช้เข็มวาสนาฝืนลิขิต ม๋อจื่อค่อนข้างไม่ธรรมดา รากฐานกระดูกแข็งแรงมากมาตั้งแต่กำเนิด มุมมองของหลินหยาง เหมาะที่จะเดินเส้นทางเทพวรยุทธ์มากแต่น่าเสียดายที่ถังฮ่าวหรานความคิดตื้นเขิน ใช้วิชาแปลงอสูรสวรรค์ฝึกฝนเขาจนกลายเป็นคนไร้ประโยชน์หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ม๋อจื่อก็ฟื้นขึ้นมา ทันทีที่ลืมตาดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ท่าทางดุร้าย“ม๋อเอ๋อร์ฟื้นแล้ว!”หลี่หรูเยว่ดีใจเป็นอย่างยิ่งขึ้นมาทันที หันหน้าไปมองหลินหยางพูดด้วยความซาบซึ้งใจ “ขอบพระคุณนายท่าน!”ก่อนหน้านี้ม๋อจื่อดูเหมือนคนกำลังใกล้ตาย เวลาแค่เพียงครู่เดียวหลินหยางก็รักษาเขาจนหายดีแล้วนับว่าเธอนับถือฝีมือการรักษาของหลินหยางอย่างถ