แชร์

บทที่ 3

หญิงสาวยิ้มกว้างอวดฟันขาวเยบเป็นระเบียบขณะอีกฝ่ายชะโงกหน้าดูของที่เธอกุมไว้ในมือ

“ข่าวดีอะไรกันที่ทำให้บุษมีความสุขได้ขนาดนี้”

ปกรณ์ หนุ่มหล่อวัยยี่สิบแปดซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงเชฟระดับมิชลินของ เคป พาราไดส์ โรงแรมระดับห้าดาวริมหาดพัทยาออกอาการใคร่รู้เมื่อ บุษราคัม สาวสวยพนักงานต้อนรับบอกเขาเช่นนั้น

“พี่อิงส่งจดหมายมาค่ะ แถมมีตั๋วเครื่องบินให้บุษไปหาเขาด้วย”

“อะไรนะ! พี่อิงของบุษน่ะหรือ ส่งตั๋วเครื่องบินมาให้”

เจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มย่นคิ้วเมื่ออีกฝ่ายบอกข่าวดีของเธอ หากช่างเป็นเรื่องน่าแปลกประหลาดสำหรับเขายิ่งนัก ปกรณ์รู้จักบุษราคัม สาววัยยี่สิบสี่ปีรูปร่างบอบบางและมีใบหน้าสวยหวานตั้งแต่เธอมาทำงานในตำแหน่งพนักงานประชาสัมพันธ์ของเคป พาราไดส์

เขาไม่เพียงรู้จักหญิงสาวแค่ผิวเผิน แต่รู้ว่าเธอเป็นลูกของนายดาบตำรวจที่ประสบอุบัติเหตุสูญเสียขาไปข้างหนึ่งขณะปฏิบัติหน้าที่และมีพี่สาวแสนสวยเป็นนางแบบระดับอินเตอร์ทว่าไม่เคยเหลียวแลหรือให้ความช่วยเหลือครอบครัวที่มีเพียงบิดาและน้องสาวที่เมืองไทย อัญมณี เดินทางไปทำงานอยู่ต่างประเทศเป็นเวลาเกือบสองปีซึ่งการส่งข่าวมาในคราวนี้จะไม่ทำให้เขาแปลกใจอย่างไรไหว

“ปกรณ์ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ ไม่เชื่อหรือว่าพี่อิงส่งข่าวมาจริง ๆ “

“ไม่ใช่ไม่เชื่อ แค่เห็นว่าพี่อิงของบุษไม่ติดต่อกลับมานานแล้ว”

“พี่อิงคงคิดถึงบุษแต่ไม่มีเวลาปลีกตัวเพราะงานยุ่ง แค่ส่งจดหมายมาบุษก็ดีใจมากแล้ว นี่ส่งตั๋วเครื่องบินมาให้บุษด้วย ถ้าพ่อรู้คงดีใจมาก”

“ตั๋วเครื่องบินไปอเมริกาหรือ?”

ปกรณ์ถามทว่าหญิงสาวกลับยื่นเอกสารในมือให้

“หืม...ไหนว่าพี่สาวบุษไปเป็นนางแบบอยู่ที่นิวยอร์คล่ะ นี่มันตั๋วไปบาฮามาสนี่”

“ใช่ค่ะ ตั๋วเครื่องบินไปบาฮามาส พี่อิงบอกว่าช่วงนี้รับงานอยู่ที่นั่น บุษตื่นเต้นจังเลยเพราะเคยได้ยินมาว่าบาฮามาสเป็นหมู่เกาะที่สวยมาก”

“บุษจะไปหาพี่สาวจริง ๆ หรือนี่”

ชายหนุ่มพินิจใบหน้ารูปไข่ที่ริมฝีปากบางจิ้มลิ้มอมยิ้มเอาไว้ช่วยขับเลือดฝาดบนแกมใสและปลายจมูกโด่งสีชมพูเรื่อ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนทอประกายงดงามใต้คิ้วโก่งรับกับหน้าผากมนเกลี้ยงเกลา บุษราคัมไม่ได้มีเพียงความสวยแต่เธอเป็นผู้หญิงที่มีบุคลิกภาพดึงดูดหัวใจด้วยท่าทีอันสดใสของสาววัยสะพรั่ง

“วันนี้บุษจะรีบกลับบ้านค่ะ ปกรณ์ บุษจะบอกข่าวดีกับคุณพ่อ ท่านคงมีความสุขมาก ๆ เลย”

ปกรณ์ก้มลงมองตั๋วเครื่องบินอีกครั้งซึ่งวันเดินทางตรงกับมะรืนนับจากวันนี้

“บุษจะไปนานไหม?”

“คงสักอาทิตย์กระมังคะ...บุษจะลางานนาน ๆ ไม่ได้ ปกรณ์ก็รู้”

บุษราคัมดึงตั๋วเครื่องบินจากมืออีกฝ่ายที่มองเธอด้วยแววตาอันลึกซึ้ง ปกรณ์เพียงยิ้มให้ทั้งที่ในใจอยากบอกอะไรหลายอย่าง

“เดินทางโดยสวัสดิภาพนะบุษ ไปถึงที่นั่นแล้วโทรมาหาผมบ้าง”

“ค่ะ ปกรณ์...บุษไปแค่สัปดาห์เดียวเองนะคะ ไม่ได้ไปเป็นเดือน แต่ เอ...ไม่แน่นะคะ บุษอาจจะติดใจอยู่ที่นั่นนาน ๆ ก็ได้”

หญิงสาวกระเซ้าต่อีกฝ่ายหน้าเจื่อนขณะมองเธอเก็บของกระจุกกระจิกใส่กระเป๋าก่อนร่างบางจะพลิกนาฬิกาข้อมือดูเวลากลับบ้าน

“บุษ...เอ้อ...”

“คะ...ปกรณ์มีอะไรหรือเปล่า?” บุษราคัมเอียงหน้ามองชายหนุ่มที่อ้ำอึ้งก่อนพูด

“อย่าลืมซื้อของมาฝากผมด้วยล่ะ”

“ค่ะ...เชฟ...บุษไปนะคะ”

ร่างบอบบางขยับลุกขึ้นและสะพายกระเป๋าเดินออกไปจากล็อบบี้โดยไม่ได้หันกลับมามองปกรณ์ที่ถอนหายใจกับความขัดเขินเพราะไม่กล้าเผยความนัยว่ารู้สึกอย่างไรกับประชาสัมพันธ์สาวแสนสวย

อาคมชะโงกหน้าเข้าไปในห้องที่ประตูเปิดอ้าไว้ก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นบุตรสาวคนเล็กกำลังจัดเสื้อผ้าลงกระเป๋าเดินทางอย่างขะมักเขม้น ชายวัยห้าสิบหกพาร่างที่ค้ำด้วยขาปลอมข้างหนึ่งเข้าไปและทรุดกายลงนั่งข้างบุษราคัมบนเก้าอี้ตัวยาว

“บุษ...จะเดินทางพรุ่งนี้แล้วสินะลูก ท่าทางตื่นเต้นเชียว”

นายดาบตำรวจวัยใกล้เกษียณยกมือหนาใหญ่ขึ้นลูบเรือนผมยาวสลวยสีน้ำตาลประกายของบุตรสาวที่หันมายิ้มอย่างมีความสุข

“ค่ะ พ่อ...บุษตื่นเต้นที่จะได้พบพี่อิง ถ้าไปถึงบาฮามาสบุษจะบอกพี่อิงว่าคุณพ่อคิดถึงนะคะ”

บุษราคัมกล่าวสีหน้าเปื้อนยิ้มทว่าบิดากลับถอนใจยาว

“เขาจะคิดถึงพ่อหรือเปล่าก็ไม่รู้ อิงไปอยู่เมืองนอกเกือบสองปีแล้วแต่ไม่เคยติดต่อกลับมาเลย”

“พี่อิงคงยุ่ง ๆ ค่ะคุณพ่อ อย่าคิดมากเลยนะคะ ถ้าเป็นไปได้บุษจะชวนพี่อิงกลับมาเยี่ยมคุณพ่อค่ะ”

หญิงสาวปลอบประโลมบุพการีที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว ทั้งที่รู้นิสัยดื้อรั้นและเย่อหยิ่งจนเกือบจะเรียกได้ว่าลืมตัวของอัญมณีแต่เธอก็ไม่อยากซ้ำเติมความรู้สึกให้บิดาต้องเจ็บช้ำ

“บุษ”

“อะไรคะ คุณพ่อ” บุษราคัมก้มลงมองอะไรบางอย่างที่อาคมวางมันไว้บนฝ่ามือบาง”

“แหวนทองเหลือง...สลักชื่อของพ่อไว้ข้างใน ลูกสวมมันไว้นะ เวลาเดินทางไกลจะได้รู้สึกเหมือนมีพ่ออยู่ข้าง ๆ “

บุษราคัมจ้องมองสิ่งที่บิดาให้ มันเป็นแหวนเกลี้ยงส่องประกายสีเหลืองด้าน ๆ ก่อนหยิบสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้ายได้พอดี อากัปกิริยาของหญิงสาวทำเอาคนเป็นพ่อยิ้มกริ่ม

“อะไรกันบุษ สวมนิ้วนี้เดี๋ยวก็มีคนคิดว่าลูกถูกตีตราจองเสียแล้ว”

“บุษก็ตั้งใจให้เป็นอย่างที่คุณพ่อคิดนั่นล่ะค่ะ บางทีมีผู้ชายอ้างตัวว่าเป็นเสี่ยจะขอเลี้ยงดูลูกสาวคุณพ่อ หนูจะได้บอกเขาอย่างไรล่ะคะว่าหนูมีคู่หมายแล้ว”

“คิดอะไรแปลก ๆ นะเด็กคนนี้ เดี๋ยวพอไม่มีหนุ่ม ๆ มาวอแวแล้วจะเสียใจ”

“ช่างปะไรคะคุณพ่อ...คุณพ่อขา” บุษราคัมออดอ้อนอีกครั้งด้วยการสอดแขนกอดเอวหนาของชายวัยกลางคน

“บุษยังไม่รีบร้อนหรอกนะคะเพราะอยากอยู่ดูแลคุณพ่อไปอีกนาน ๆ “

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status