เสียงการสนทนาพาทีหลากหลายภาษาทั้งเยอรมัน สเปน อังกฤษ ฝรั่งเศสและอิตาลี ดังไปทั่วบริเวณห้องที่ถูกจัดขึ้นเป็นสถานที่แถลงข่าวภายในสำนักงานสีขาวอันโอ่โถงของศูนย์ปฏิบัติการอวกาศยุโรป เมืองดาร์มตัดช์ ประเทศเยอรมนี ท่ามกลางบุคคลมากมายทั้งนักวิทยาศาสตร์ นักศึกษาและเหล่านักข่าว
ไม่มีใครแม้สักคนสังเกตเห็นเจ้าของร่างสูงเกือบหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซ็นติเมตรในชุดสูทสีดำสนิท ทว่าเรือนผมสีน้ำตาลเข้มประกายทองแดงถูกตัดจนสั้นเกรียนหากก็มิอาจบดบังรัศมีความหล่อเหลาเข้มคมที่ก้าวเข้ามาและหยุดพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชั่วครู่ก่อนบ่ายหน้าไปยังอีกด้านหนึ่งของตึกสำนักงานที่อยู่ห่างออกไปจากสถานที่แออัดไปด้วยผู้คนไม่ไกล เจ้าของร่างสีแทนจัดทั้งสูงใหญ่และบึกบึนไม่รั้งรอจะเปิดประตูห้องเข้าไปด้านในเพื่อพบหญิงวัยสี่สิบปลาย ๆ กำลังนั่งพลิกเอกสารบนเก้าอี้รับแขกอยู่เพียงลำพัง
“แม็กซ์!”
เจ้าของเรือนร่างระหงในชุดสูทสีเข้มตัดเย็บด้วยฝีมือคมเฉียบทุกกระเบียดอุทานเมื่อเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าใครเข้ามาในห้อง เธอรีบวางเอกสารในมือและลุกขึ้นอ้าแขนรับเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ก้าวเข้ามาถึงก็กอดใว้แน่นราวไม่ได้พบกันมาเนิ่นนาน
”แม่ครับ...ผมกลับมาแล้ว”
“โอ! แม็กซ์...นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
คลอเดียซึ่งมีความสูงอยู่แค่ไหล่กว้างนั้นเอียงหน้ามอง ฮอฟมันน์ แม็คเคลน บุตรชายคนเดียวซึ่งเป็นนายทหารอยู่ในกองทัพราชนาวีสหรัฐอย่างพินิจพิจารณา เธอกำลังจะเปิดแถลงข่าวเรื่องการค้นพบแกแล็คซี่ใหม่ ๆ ในฐานะนักดาราศาสตร์หนึ่งในทีมนักวิทยาศาสตร์ของศูนย์ปฏิบัติการอวกาศยุโรปในเวลาอีกไม่ถึงชั่วโมงข้างหน้า แต่การมาของบุตรชายดูจะสำคัญกว่าหน้าที่เสียแล้ว
“ผู้การโธมัสโทรมาหาแม่เมื่อคืนนี้...ลูกแน่ใจแล้วหรือที่ถอนตัวออกจากหน่วยปฏิบัติการสงครามพิเศษของกองทัพ”
คำถามของคนเป็นแม่ทำให้ฮอฟมันน์นิ่งเงียบไปชั่วครู่ นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มเป็นประกายจับจ้องบนดวงหน้างามของผู้อยู่ในอ้อมแขน ก่อนมาที่นี่เขารู้แล้วว่าจะต้องเจอคำถามนี้ ชายหนุ่มจึงเพียงคลี่ยิ้มออกมา
“ยิ่งกว่าแน่ใจครับแม่”
“ทั้ง ๆ ที่ลูกผ่านเข้าไปเป็นหนึ่งในซีลทีมซิกซ์อย่างนั้นหรือ โอ! พระเจ้า...”
คลอเดียโอบใบหน้าคร้ามเข้มด้วยอุ้งมือทั้งสองขณะรำพึงออกมาอย่างเสียดาย
“หนึ่งในหน่วยซีล...ด่านสุดท้ายของหน่วยรบพิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดของกองทัพสหรัฐ รู้ไหมจ๊ะ แม็กซ์ ว่าลูกทำให้แม่วุ่นวายใจมากกว่าการออกแถลงข่าวเรื่องการค้นพบแกแล็คซี่ใหม่ ๆ ที่อยู่ไกลโพ้นเสียอีก”
“อย่ากังวลเรื่องของผมให้มากเลยครับแม่ ก่อนลาออกจากกองทัพผมคิดและใตร่ตรองอย่างดีแล้วว่า ผมต้องกลับมาดูแล เอ็ม. ซี. เด็กซ์เตอร์ คอร์ป ที่พ่อกำลังปล่อยให้โครงการใหญ่ของนาซ่าต้องหยุดชะงักชะงักลงกลางคัน”
ชายหนุ่มอธิบาย ทว่าเหตุผลนั้นกลับกระทบใจมารดาเข้าอย่างจัง คลอเดียถอนหายใจออกมาแทบจะในทันทีที่เขาพูดจบก่อนผละจากอกของบุตรชายและนั่งลงที่เดิมเพื่อหยิบแก้วไวน์ขึ้นจิบ ฮอฟมันน์ทรุดตัวลงนั่งตามโดยไม่ยอมละสายตาไปจากดวงหน้าแสดงความอัดอั้นตันใจ
มารดาของเขากำลังเครียดจัดและสาเหตุก็มาจากพฤติกรรมของบิดาที่ไม่เคยหยุดความเจ้าชู้ลงได้ คลอเดียเป็นนักดาราศาสตร์ชาวเยอรมันมือหนึ่งของศูนย์ปฏิบัติการอวกาศยุโรป ทั้งเป็นภรรยาของ ไมค์ แม็คเคลน ผู้ก่อตั้งเอ็ม. ซี. เด็กซ์เตอร์ คอร์ป ยักษ์ใหญ่ด้านวิศวกรรมและมีผลงานการวิจัยระบบปฏิบัติการอวกาศในระดับแนวหน้าของสหรัฐ
พ่อของฮอฟมันน์นับเป็นอัจฉริยะทางด้านวิศวกรรมอวกาศ แต่ข้อเสียใหญ่หลวงที่ที่กำลังบั่นทอนชีวิตครอบครัวคือความมักมากในเรื่องผู้หญิง ชายหนุ่มรับรู้มานานแล้วว่าบิดามารดาต่างแยกกันอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้เขาอดรนทนไม่ไหวถึงกับต้องลาออกจากหน่วยปฏิบัติการสงครามพิเศษของกองทัพเรือซึ่งเขาสามารถผ่านการทดสอบเข้าไปเป็นหนึ่งในทีมหน่วยรบฝีมือระดับพระกาฬคือข่าวบนหน้าแทบลอยด์ที่บิดาลุ่มหลงนางแบบสาวไทยถึงขนาดทุ่มเงินมหาศาลให้และทิ้งงานใหญ่ของบริษัทที่กำลังจะบรรลุข้อตกลงกับองค์การนาซ่า
“แม็กซ์...มันอาจยังไม่สายถ้าลูกจะกลับไปเป็น...หนึ่งในซีลทีมซิกซ์”
คลอเดียกล่าวด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ เธอแค่ตั้งความหวังเล็ก ๆ กับลูกชายหัวรั้นซึ่งเขาก็ตอบกลับมาไม่ผิดไปจากที่คาดหมาย
“มันไม่ใช่ความตั้งใจของผมอีกแล้วครับแม่” ฮอฟมันน์ยักไหล่ก่อนแววตาจะแปรเปลี่ยนไปเป็นดุดัน
”ผมตั้งใจจะทำสิ่งที่สำคัญสำหรับ เอ็ม. ซี. เด็กซ์เตอร์ คอร์ป...นั่นคือการกลับมาสะสางปัญหาของบริษัท ไม่ใช่ปล่อยให้มันล่องลอยเท้งเต้งเพราะความไม่รับผิดชอบของพ่อ!”
“แม็กซ์...ลูกน่าจะรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างไปไกลเกินกว่าจะกู่มันกลับมาได้อีก”
“แต่ไม่ใช่สำหรับผม”
ร่างสูงดึงมือเรียวบางของมารดามากอบกุมไว้ก่อนยกขึ้นแนบริมฝีปากหนาได้รูปแผ่วเบา
“ผมเป็นทหารนะครับแม่ ทหารไม่เคยรู้จักคำว่าย่อท้อและสิ้นหวัง เราเรียนรู้ที่จะอดทนและทำยังไงถึงจะอยู่กับสถานการณ์ที่เลวร้ายชนิดที่คนธรรมดาทั่วไปต้านทานไม่ไหวได้”
“แม็กซ์...แม่คงห้ามลูกไม่ได้แล้วซีนะ” คลอเดียยิ้มแห้งแล้ง แต่แล้วก็ทำหน้าราวกับนึกอะไรได้“แล้วนี่...ลูกจะอยู่กับแม่ที่เยอรมันสักพักใช่ไหมจ๊ะ”“ผมคงต้องรีบกลับวันนี้ครับ เพราะให้คนเตรียมเครื่องบินไว้แล้ว”“ลูกจะกลับไปอยู่กับพ่อที่อเมริกา...อย่างนั้นหรือ?”ฮอฟมันน์ส่ายหน้าน้อย ๆ โดยที่มารดาไม่ทันสังเกตเห็นอะไรบางอย่างฉายวาบขึ้นมาบนดวงตาคู่นั้น“ผมจะกลับไปอยู่ที่บาฮามาสสักพัก ที่เกาะไดโอนีของผมไงครับแม่”“โอ!” คลอเดียขมวดคิ้วมุ่นเมื่อรู้ความคิดบุตรชาย “แม่ไม่ชอบไดโอนีของลูกเลย ที่เกาะนั่นอันตรายจะตายไป”เธอกำลังบ่นถึงเกาะเล็ก ๆ ซึ่งอยู่เลยหมู่เกาะบาฮามาสเข้าไปในเขตทะเลลึกของมหาสมุทรแอตแลนติก ฮอฟมันน์ซื้อเกาะที่อยู่ห่างไกลผู้คนเอาไว้และเรียกมันว่า ไดโอนี ตามชื่อดาวเคราะห์ซึ่งเป็นหนึ่งในดวงจันทร์บริวารของดาวเสาร์ เธอไม่เคยย่างกรายเข้าไปเพราะรอบ ๆ อาณาบริเวณเกาะมีน้ำวนในหลุมสีน้ำเงินใต้สมุทร (Ocean Blue Hole) ซุกซ่อนอยู่ในที่ใดสักแห่งหนึ่ง ทว่าสถานที่ยิ่งมีภยันตรายมากเท่าไหร่ก็ดูเหมือนว่าบุตรชายหัวขบถของเธอจะยิ่งโปรดปราณมันมากเท่านั้น“แม่ไม่เคยได้ยินหรือครับว่า ที่ยิ่งอันตรายก็ยิ่งปลอดภัย
หญิงสาวยิ้มกว้างอวดฟันขาวเยบเป็นระเบียบขณะอีกฝ่ายชะโงกหน้าดูของที่เธอกุมไว้ในมือ“ข่าวดีอะไรกันที่ทำให้บุษมีความสุขได้ขนาดนี้”ปกรณ์ หนุ่มหล่อวัยยี่สิบแปดซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงเชฟระดับมิชลินของ เคป พาราไดส์ โรงแรมระดับห้าดาวริมหาดพัทยาออกอาการใคร่รู้เมื่อ บุษราคัม สาวสวยพนักงานต้อนรับบอกเขาเช่นนั้น“พี่อิงส่งจดหมายมาค่ะ แถมมีตั๋วเครื่องบินให้บุษไปหาเขาด้วย”“อะไรนะ! พี่อิงของบุษน่ะหรือ ส่งตั๋วเครื่องบินมาให้”เจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มย่นคิ้วเมื่ออีกฝ่ายบอกข่าวดีของเธอ หากช่างเป็นเรื่องน่าแปลกประหลาดสำหรับเขายิ่งนัก ปกรณ์รู้จักบุษราคัม สาววัยยี่สิบสี่ปีรูปร่างบอบบางและมีใบหน้าสวยหวานตั้งแต่เธอมาทำงานในตำแหน่งพนักงานประชาสัมพันธ์ของเคป พาราไดส์เขาไม่เพียงรู้จักหญิงสาวแค่ผิวเผิน แต่รู้ว่าเธอเป็นลูกของนายดาบตำรวจที่ประสบอุบัติเหตุสูญเสียขาไปข้างหนึ่งขณะปฏิบัติหน้าที่และมีพี่สาวแสนสวยเป็นนางแบบระดับอินเตอร์ทว่าไม่เคยเหลียวแลหรือให้ความช่วยเหลือครอบครัวที่มีเพียงบิดาและน้องสาวที่เมืองไทย อัญมณี เดินทางไปทำงานอยู่ต่างประเทศเป็นเวลาเกือบสองปีซึ่งการส่งข่าวมาในคราวนี้จะไม่ทำให้เขาแปลกใจอย่างไร
“บุษลูกพ่อ” อาคมลูบศีรษะทุยของบุตรสาวก่อนเอียงหน้าจนขมับแนบลงบนหน้าผากของอีกฝ่าย ชีวิตที่เหลืออยู่ของนายดาบวัยใกล้เกษียณก็ดูเหมือนจะเหลือเพียงบุษราคัม ลูกคนเล็กผู้มีอัธยาศัยอ่อนหวานและไม่เคยขัดใจผู้เป็นพ่อซึ่งต่างกันลิบลับกับพี่สาวที่ทั้งเอาแต่ใจ ทะเยอทะยานไม่เคยคิดถึงใครอย่างอัญมณี“บุษอย่าปิดกั้นตัวเองเรื่องความรักนะลูก พ่อแน่ใจว่าอาจมีใครสักคนที่จริงจังและอยากดูแลสาวน้อยของพ่อ...ปกรณ์ล่ะ เขาไม่พูดอะไรกับลูกบ้างเลยหรือ?”“ไม่ค่ะ”“ท่าทางเขาชอบลูกนะ พ่อว่าเขาก็ไม่เลวนักหรอก...ลูกว่าอย่างไร?”“ไม่มีความเห็นค่ะ”“อืม...”“หนูรักพ่อนะคะ”อาคมไม่กล่าวอะไรต่อนอกจากกอดตอบลูกสาว บุษราคัมอาจไม่เคยขัดความประสงค์บิดา ทว่าเขาเท่านั้นที่รู้ดีว่าภายใต้ท่าทีหวานอ่อนนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าอัคนีที่ไม่หลอมละลายไฟ000000000เพียงก้าวแรกที่ย่างเหยียบลงจากเครื่องบินที่บรรทุกผู้โดยสารมาเต็มลำเรือเพื่อมุ่งหน้าสู่ดินแดนในฝันท่ามกลางทะเลแคริบเบียนในเขตมหาสมุทรแอตแลนติก บุษราคัมก็แทบสกัดความตื่นเต้นที่อัดอั้นเอาไว้ไม่ไหวเมื่อมาถึงสนามแนสซอของกรุงแนสซอ (Nassau) เมืองหลวงซึ่งตั้งอยู่บนเกาะนิว โพรวิเดนซ์ หนึ่งในหม
บุษราคัมร้องถามซึ่งก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า“มันเป็นถ้ำใต้น้ำนอกชายฝั่งครับ เราเรียกว่าหลุมสีน้ำเงินใต้สมุทร มันเป็นพื้นที่ส่วนขยายของทะเลที่ได้รับอิทธิพลของกระแสน้ำขึ้นน้ำลงรุนแรง ตอนน้ำทะเลหนุนสูงมันจะดูดน้ำหลายล้านลิตรลงไปอย่างกับท่อน้ำทิ้งในอ่างยักษ์เลยล่ะครับ...สวยงามและอันตรายสุด ๆ “เรียวปากจิ้มลิ้มบนหน้าหวานอ้าค้าง ในที่อันสวยงามแท้จริงแอบซ่อนความน่าสะพรึงไว้เช่นนี้เอง ก่อนจะได้คิดเรื่องอะไรต่อไปก็รู้สึกว่าเครื่องบินเล็กที่เธอโดยสารมากำลังร่อนลงสู่เบื้องล่างและได้ยินเสียงชายผู้นั้นหลังจากที่เขาปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัว“เชิญครับ...คุณบุษราคัม เรามาถึงเกาะนี้แล้ว ไดโอนีที่แสนสวย”บุษราคัมก้าวลงจากเครื่องบินเล็กและจรดปลายเท้าในรองเท้าส้นแบนลงบนผืนทรายขาวเนียน ณ ที่แห่งนั้น...เกาะไดโอนีอันสงบเงียบ ยินเพียงเสียงลมทะเลหอบคลื่นเล่นล้อชายฝั่งและลมชายหาดพัดเข้ามาปะทะใบหน้าสวยหวานสีระเรื่อยามแดดอาบไล้ สถานที่ซึ่งหญิงสาวเคยใฝ่ฝันถึงทอดตัวอยู่ใต้เงาของเธอในตอนนี้แล้ว“พี่อิงล่ะคะ...พี่อิงอยู่ที่ไหน?”เจ้าของร่างแน่งน้อยเอ่ยถามขณะเกลี่ยปอยผมที่โดนลมพัดมาปรกผิวแก้ม ทว่าชายในชุดสูทไม่ตอบ เขาเ