“บุษลูกพ่อ” อาคมลูบศีรษะทุยของบุตรสาวก่อนเอียงหน้าจนขมับแนบลงบนหน้าผากของอีกฝ่าย ชีวิตที่เหลืออยู่ของนายดาบวัยใกล้เกษียณก็ดูเหมือนจะเหลือเพียงบุษราคัม ลูกคนเล็กผู้มีอัธยาศัยอ่อนหวานและไม่เคยขัดใจผู้เป็นพ่อซึ่งต่างกันลิบลับกับพี่สาวที่ทั้งเอาแต่ใจ ทะเยอทะยานไม่เคยคิดถึงใครอย่างอัญมณี
“บุษอย่าปิดกั้นตัวเองเรื่องความรักนะลูก พ่อแน่ใจว่าอาจมีใครสักคนที่จริงจังและอยากดูแลสาวน้อยของพ่อ...ปกรณ์ล่ะ เขาไม่พูดอะไรกับลูกบ้างเลยหรือ?”
“ไม่ค่ะ”
“ท่าทางเขาชอบลูกนะ พ่อว่าเขาก็ไม่เลวนักหรอก...ลูกว่าอย่างไร?”
“ไม่มีความเห็นค่ะ”
“อืม...”
“หนูรักพ่อนะคะ”
อาคมไม่กล่าวอะไรต่อนอกจากกอดตอบลูกสาว บุษราคัมอาจไม่เคยขัดความประสงค์บิดา ทว่าเขาเท่านั้นที่รู้ดีว่าภายใต้ท่าทีหวานอ่อนนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าอัคนีที่ไม่หลอมละลายไฟ
000000000
เพียงก้าวแรกที่ย่างเหยียบลงจากเครื่องบินที่บรรทุกผู้โดยสารมาเต็มลำเรือเพื่อมุ่งหน้าสู่ดินแดนในฝันท่ามกลางทะเลแคริบเบียนในเขตมหาสมุทรแอตแลนติก บุษราคัมก็แทบสกัดความตื่นเต้นที่อัดอั้นเอาไว้ไม่ไหวเมื่อมาถึงสนามแนสซอของกรุงแนสซอ (Nassau) เมืองหลวงซึ่งตั้งอยู่บนเกาะนิว โพรวิเดนซ์ หนึ่งในหมู่เกาะมากมายทั้งเล็กใหญ่รวมกันกว่าสองพันเจ็ดร้อยเกาะของเครือรัฐบาฮามาส (Commonwealth of the Bahamas) นักท่องเที่ยวที่เธอเห็นส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรปโดยเฉพาะชาวอเมริกันอาจเป็นเพราะเกาะแก่งอันน่าอัศจรรย์ในบาฮามาสอยู่ห่างจากมลรัฐฟลอริดาของสหรัฐอเมริกามาทางตะวันออกเฉียงใต้แค่แปดสิบกิโลเมตร
บุษราคัมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกเมื่อลากกระเป๋าเดินทางเพียงใบเดียวก้าวออกจากห้องผู้โดยสารและเห็นว่ารอบ ๆ ตัวคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวรวมทั้งคนที่พยายามเมาเสนอบริการทั้งขายทัวร์และรถรับส่งจากสนามบินไปยังโรงแรม หญิงสาวส่ายหน้าและปฏิเสธคนเหล่านั้นกระทั่งมีชายในชุดสูทก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้าสามคน
“สวัสดีครับ คุณบุษราคัม” หนึ่งในนั้นเอ่ยทักเจ้าของใบหน้าหวานที่อยู่ในอาการประหลาดใจ ร่างบางกุมกระเป๋าเดินทางไว้แน่น คนพวกนี้เป็นใคร? จู่ ๆ ก็เข้ามาทักในขณะที่เธอกำลังกวาดสายตามองหาพี่สาว
“คุณบุษราคัม...คุณอัญมณีส่งพวกผมมารับคุณครับ”
“อะไรนะคะ?” หญิงสาวย่นคิ้ว “พี่อิงส่งพวกคุณมารับฉันอย่างนั้นหรือคะ?”
บุษราคัมหน้าตื่นขณะชะเง้อมองข้ามไหล่ชายต่างชาติร่างสูงเพื่อหวังได้เห็นคนที่เธออยากพบ
“ใช่ครับ...คุณอัญมณีไม่ว่างก็เลยส่งพวกผมมารับคุณบุษราคัม เชิญทางนี้เถอะครับ”
ชายผู้นั้นผายมือไปยังรถเก๋งคันใหญ่ซึ่งจอดห่างไปไม่ไกลในขณะที่อีกคนเข้าไปหยิบกระเป๋าจากมือหญิงสาวด้วยท่าทีอันสุภาพ
”ตอนนี้คุณอัญมณีติดถ่ายแบบอยู่ที่อีกเกาะหนึ่ง เราต้องนั่งเครื่องบินเล็กไปที่เกาะนั้นครับ”
ชายร่างสูงคนเดิมกล่าวก่อนเดินนำหน้าออกไปในขณะที่หญิงสาวรู้สึกฉงนเล็กน้อยก่อนตัดสินใจก้าวตามไปโดยมีชายอีกสองคนช่วยหิ้วสัมภาระเดินตามหลัง อัญมณีคงงานยุ่งจริง ๆ ...บุษราคัมยังนิ่งนึก แต่แล้วความสนเท่ห์กลับถูกแทนที่ด้วยภาพอันน่าตื่นใจเมื่อตลอดระยะทางจากสนามบินผ่านเข้าไปในตัวเมืองหลวงของบาฮามาสเต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องทั้งรูปแบบเก่าสมัยอาณานิคมและรูปแบบใหม่ ๆ สีสันลานตา
เธออดที่จะอิจฉาพี่สาวไม่ได้ นี่แหละหนาที่เขาเรียกว่ามีรูปเป็นทรัพย์ ความสวยของอัญมณีทำให้เธอมีโอกาสได้ท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ หญิงสาวก็อยากไปในสถานที่อันหลากหลาย ทว่าก็ยังทำไม่ได้เพราะเป็นห่วงพ่อเกรงไม่มีใครดูแล ร่างบอบบางก้มลงมองแหวนเกลี้ยงทองเหลืองที่ส่องประกายยามต้องแสงแดดบนนิ้วนางข้างซ้าย...บิดาคงดีใจที่เธอเดินทางมาหาพี่สาวในคราวนี้
“เชิญครับ...คุณบุษราคัม เราจะนั่งเครื่องบินเล็กไปที่เกาะไดโอนีครับ”
เสียงของชายร่างสูงใหญ่ปลุกภวังค์หญิงสาวที่กำลังนิ่งนึกเรื่องที่เมืองไทยจนแทบไม่รู้ตัวว่ารถเก๋งซึ่งเธอนั่งบนเบาะด้านหลังจอดลงตอนไหน บุษราคัมตามชายในชุดสูทเหล่านั้นไปขึ้นเครื่องบินเล็กที่ลานจอดซึ่งมองไปรอบ ๆ เห็นน้ำทะเลสีฟ้าครามโอบล้อมรันเวย์ที่ทอดยาวไปไกลลิบ
คนเหล่านี้คงเป็นบอดี้การ์ดของอัญมณี ก็ในเมื่อพี่สาวของเธอเป็นนางแบบก็คงจ้างคนมาคอยติดตามดูแลให้ความปลอดภัย กระทั่งเมื่อเครื่องบินเริ่มทะยานขึ้นจากรันเวย์ บุษราคัมจึงหยุดคิดเรื่องราวของตัวเองอีกครั้งเพื่อให้ความสนใจกับทัศนียภาพของหมู่เกาะมากมายที่วางตัวอยู่ท่ามกลางน้ำสีฟ้าสลับน้ำเงินครามของทะเลแคริบเบียนในเขตมหาสมุทรแอตแลนติก
“เกาะนั่นอยู่อีกไกลไหมคะ?”
เจ้าของร่างแน่งน้อยเอ่ยถามชายในชุดสูทซึ่งนั่งสงบนิ่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามภายในห้องโดยสารอันหรูหราของเครื่องบินที่มีแต่เธอและชายทั้งสามหลังเวลาผ่านไปได้ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง
“ไม่ไกลหรอกครับ...เรากำลังเข้าไปใกล้เกาะไดโอนีแล้วล่ะครับ”
เขาตอบด้วยท่าทีสุภาพขณะบุษราคัมชะโงกหน้ามองทัศนียภาพเบื้องล่างซึ่งเธอเห็นว่าเกาะแก่งเริ่มบางตาและน้ำทะเลเป็นสีน้ำเงินเข้มบ่งบอกว่าเครื่องบินกำลังทะยานผ่านเข้าสู่เขตน้ำลึก แต่แล้วหญิงสาวก็ให้ยิ่งประหลาดใจเมื่อตาคู่สวยเหลือบไปเห็นวังน้ำขนาดใหญ่ที่ใจกลางดำมืดทะมึน
“เอ๊ะ! นั่นมันอะไรหรือคะ...เหมือนหลุมน้ำในทะเล”
บุษราคัมร้องถามซึ่งก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า“มันเป็นถ้ำใต้น้ำนอกชายฝั่งครับ เราเรียกว่าหลุมสีน้ำเงินใต้สมุทร มันเป็นพื้นที่ส่วนขยายของทะเลที่ได้รับอิทธิพลของกระแสน้ำขึ้นน้ำลงรุนแรง ตอนน้ำทะเลหนุนสูงมันจะดูดน้ำหลายล้านลิตรลงไปอย่างกับท่อน้ำทิ้งในอ่างยักษ์เลยล่ะครับ...สวยงามและอันตรายสุด ๆ “เรียวปากจิ้มลิ้มบนหน้าหวานอ้าค้าง ในที่อันสวยงามแท้จริงแอบซ่อนความน่าสะพรึงไว้เช่นนี้เอง ก่อนจะได้คิดเรื่องอะไรต่อไปก็รู้สึกว่าเครื่องบินเล็กที่เธอโดยสารมากำลังร่อนลงสู่เบื้องล่างและได้ยินเสียงชายผู้นั้นหลังจากที่เขาปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัว“เชิญครับ...คุณบุษราคัม เรามาถึงเกาะนี้แล้ว ไดโอนีที่แสนสวย”บุษราคัมก้าวลงจากเครื่องบินเล็กและจรดปลายเท้าในรองเท้าส้นแบนลงบนผืนทรายขาวเนียน ณ ที่แห่งนั้น...เกาะไดโอนีอันสงบเงียบ ยินเพียงเสียงลมทะเลหอบคลื่นเล่นล้อชายฝั่งและลมชายหาดพัดเข้ามาปะทะใบหน้าสวยหวานสีระเรื่อยามแดดอาบไล้ สถานที่ซึ่งหญิงสาวเคยใฝ่ฝันถึงทอดตัวอยู่ใต้เงาของเธอในตอนนี้แล้ว“พี่อิงล่ะคะ...พี่อิงอยู่ที่ไหน?”เจ้าของร่างแน่งน้อยเอ่ยถามขณะเกลี่ยปอยผมที่โดนลมพัดมาปรกผิวแก้ม ทว่าชายในชุดสูทไม่ตอบ เขาเ
เสียงการสนทนาพาทีหลากหลายภาษาทั้งเยอรมัน สเปน อังกฤษ ฝรั่งเศสและอิตาลี ดังไปทั่วบริเวณห้องที่ถูกจัดขึ้นเป็นสถานที่แถลงข่าวภายในสำนักงานสีขาวอันโอ่โถงของศูนย์ปฏิบัติการอวกาศยุโรป เมืองดาร์มตัดช์ ประเทศเยอรมนี ท่ามกลางบุคคลมากมายทั้งนักวิทยาศาสตร์ นักศึกษาและเหล่านักข่าวไม่มีใครแม้สักคนสังเกตเห็นเจ้าของร่างสูงเกือบหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซ็นติเมตรในชุดสูทสีดำสนิท ทว่าเรือนผมสีน้ำตาลเข้มประกายทองแดงถูกตัดจนสั้นเกรียนหากก็มิอาจบดบังรัศมีความหล่อเหลาเข้มคมที่ก้าวเข้ามาและหยุดพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชั่วครู่ก่อนบ่ายหน้าไปยังอีกด้านหนึ่งของตึกสำนักงานที่อยู่ห่างออกไปจากสถานที่แออัดไปด้วยผู้คนไม่ไกล เจ้าของร่างสีแทนจัดทั้งสูงใหญ่และบึกบึนไม่รั้งรอจะเปิดประตูห้องเข้าไปด้านในเพื่อพบหญิงวัยสี่สิบปลาย ๆ กำลังนั่งพลิกเอกสารบนเก้าอี้รับแขกอยู่เพียงลำพัง“แม็กซ์!” เจ้าของเรือนร่างระหงในชุดสูทสีเข้มตัดเย็บด้วยฝีมือคมเฉียบทุกกระเบียดอุทานเมื่อเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าใครเข้ามาในห้อง เธอรีบวางเอกสารในมือและลุกขึ้นอ้าแขนรับเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ก้าวเข้ามาถึงก็กอดใว้แน่นราวไม่ได้พบกันมาเนิ่นนาน”แม่ค
“แม็กซ์...แม่คงห้ามลูกไม่ได้แล้วซีนะ” คลอเดียยิ้มแห้งแล้ง แต่แล้วก็ทำหน้าราวกับนึกอะไรได้“แล้วนี่...ลูกจะอยู่กับแม่ที่เยอรมันสักพักใช่ไหมจ๊ะ”“ผมคงต้องรีบกลับวันนี้ครับ เพราะให้คนเตรียมเครื่องบินไว้แล้ว”“ลูกจะกลับไปอยู่กับพ่อที่อเมริกา...อย่างนั้นหรือ?”ฮอฟมันน์ส่ายหน้าน้อย ๆ โดยที่มารดาไม่ทันสังเกตเห็นอะไรบางอย่างฉายวาบขึ้นมาบนดวงตาคู่นั้น“ผมจะกลับไปอยู่ที่บาฮามาสสักพัก ที่เกาะไดโอนีของผมไงครับแม่”“โอ!” คลอเดียขมวดคิ้วมุ่นเมื่อรู้ความคิดบุตรชาย “แม่ไม่ชอบไดโอนีของลูกเลย ที่เกาะนั่นอันตรายจะตายไป”เธอกำลังบ่นถึงเกาะเล็ก ๆ ซึ่งอยู่เลยหมู่เกาะบาฮามาสเข้าไปในเขตทะเลลึกของมหาสมุทรแอตแลนติก ฮอฟมันน์ซื้อเกาะที่อยู่ห่างไกลผู้คนเอาไว้และเรียกมันว่า ไดโอนี ตามชื่อดาวเคราะห์ซึ่งเป็นหนึ่งในดวงจันทร์บริวารของดาวเสาร์ เธอไม่เคยย่างกรายเข้าไปเพราะรอบ ๆ อาณาบริเวณเกาะมีน้ำวนในหลุมสีน้ำเงินใต้สมุทร (Ocean Blue Hole) ซุกซ่อนอยู่ในที่ใดสักแห่งหนึ่ง ทว่าสถานที่ยิ่งมีภยันตรายมากเท่าไหร่ก็ดูเหมือนว่าบุตรชายหัวขบถของเธอจะยิ่งโปรดปราณมันมากเท่านั้น“แม่ไม่เคยได้ยินหรือครับว่า ที่ยิ่งอันตรายก็ยิ่งปลอดภัย
หญิงสาวยิ้มกว้างอวดฟันขาวเยบเป็นระเบียบขณะอีกฝ่ายชะโงกหน้าดูของที่เธอกุมไว้ในมือ“ข่าวดีอะไรกันที่ทำให้บุษมีความสุขได้ขนาดนี้”ปกรณ์ หนุ่มหล่อวัยยี่สิบแปดซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงเชฟระดับมิชลินของ เคป พาราไดส์ โรงแรมระดับห้าดาวริมหาดพัทยาออกอาการใคร่รู้เมื่อ บุษราคัม สาวสวยพนักงานต้อนรับบอกเขาเช่นนั้น“พี่อิงส่งจดหมายมาค่ะ แถมมีตั๋วเครื่องบินให้บุษไปหาเขาด้วย”“อะไรนะ! พี่อิงของบุษน่ะหรือ ส่งตั๋วเครื่องบินมาให้”เจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มย่นคิ้วเมื่ออีกฝ่ายบอกข่าวดีของเธอ หากช่างเป็นเรื่องน่าแปลกประหลาดสำหรับเขายิ่งนัก ปกรณ์รู้จักบุษราคัม สาววัยยี่สิบสี่ปีรูปร่างบอบบางและมีใบหน้าสวยหวานตั้งแต่เธอมาทำงานในตำแหน่งพนักงานประชาสัมพันธ์ของเคป พาราไดส์เขาไม่เพียงรู้จักหญิงสาวแค่ผิวเผิน แต่รู้ว่าเธอเป็นลูกของนายดาบตำรวจที่ประสบอุบัติเหตุสูญเสียขาไปข้างหนึ่งขณะปฏิบัติหน้าที่และมีพี่สาวแสนสวยเป็นนางแบบระดับอินเตอร์ทว่าไม่เคยเหลียวแลหรือให้ความช่วยเหลือครอบครัวที่มีเพียงบิดาและน้องสาวที่เมืองไทย อัญมณี เดินทางไปทำงานอยู่ต่างประเทศเป็นเวลาเกือบสองปีซึ่งการส่งข่าวมาในคราวนี้จะไม่ทำให้เขาแปลกใจอย่างไร