แชร์

บทที่43 พี่ใหญ่

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-03 10:30:17

“คุยเรียบร้อยแล้วหรือ” เป็นจิวหลิงที่เห็นนางเป็นผู้แรกเมื่อนางก้าวออกมา เฉินอันหนิงก้าวเข้าไปหาพวกเขาที่ยังคงยืนอยู่ด้วยกันมิได้แยกกันไปไหน แม้แต่เฉินซีหานและองครักษ์ของนางก็ยังอยู่

“เรียบร้อยแล้ว”

“จิวหลิง...อาจารย์ของท่านรู้เรื่องที่ผู้อื่นไม่อาจรู้หรือ?” แม้จะรู้ดีว่าเรื่องบางเรื่องก็ตอบยาก แต่สุดท้ายนางก็ยังสอบถามจิวหลิงออกไปตามที่ไต้ซือเหว่ยเสิ่นชี้ทาง “เขาหยั่งรู้ฟ้าดินเช่นนั้นหรือ?”

“จะเรียกว่าหยั่งรู้ฟ้าดินก็คงได้ อาจารย์ของข้าเพียงแค่มองหน้าก็รู้ถึงอดีตและอนาคตของผู้คน” จิวหลิงตอบอย่างไม่ปิดบัง รู้ ที่หมายถึงรู้อดีตและอนาคตของผู้คนอื่นที่ไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องและมีวาสนาต่อกันดั่งเช่นพวกเขา อาจารย์รู้เรื่องราวของผู้คน แต่ไม่อาจบอกได้เกี่ยวกับอนาคตและอดีตของพวกเขาศิษย์พี่น้องรวมถึงบิดาและมารดาของท่านเอง แต่ก็ยังเรียกว่าหยั่งรู้กระมัง

“เหตุใดจึงรู้”

“จะว่าอย่างไรดี...สืบทอดมาจากทางสายเลือดน่ะ ข้าเองก็ไม่อาจอธิบายได้” เขาตอบเท่านั้นก่อนจะโบ้ยไปให้ศิษ

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่44 ช่างโง่งม

    การพูดคุยไม่อาจเนิ่นนานเมื่อเฉินอันหนิงก้าวเดินมาพร้อมกับเค่อซาน ใบหน้าขององค์หญิงผู้สูงศักดิ์ไร้อารมณ์จนน่าประหลาด เค่อซุนหันกลับมาสนใจนายของตนในทันที“เกิดอันใดขึ้นอาซาน?”“หานอ๋องกับท่านจิวหลิงน่ะสิพี่ซุน ผู้หนึ่งกวนโทสะอีกผู้หนึ่งก็หลงกลจนเกิดโทสะ ลับฝีปากกันอยู่ด้านโน่นแหน่ะ” เค่อซานบอกเล่าเท่านั้นก็เป็นอันเข้าใจ เท่าที่สัมผัสได้ไม่มีผู้ใดไม่รู้ว่าจิวหลิงเป็นคนชอบกวนโทสะผู้อื่น แม้แต่องค์หญิงเองก็ถูกก่อกวนตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเจอและหากจะมีผู้ใดเข้าใจถ่องแท้ที่สุดย่อมต้องเป็นจิวหูที่รู้จักพี่ใหญ่ของตนดีที่สุดบุรุษหน้ากากพรั่งพรูลมหายใจเล็กน้อยก่อนจะก้าวเดิน ไม่ได้มีคำชักชวนหรือแม้แต่คำกล่าวใด ๆ ทว่าเฉินอันหนิงกลับก้าวเดินตามพร้อมกับส่งสัญญาณให้องครักษ์ทั้งสามเว้นระยะห่างออกไปสตรีสูงศักดิ์จับจ้องมองตามแผ่นหลังแข็งแกร่งที่คล้ายคุ้นเคยขณะที่ก้าวเดินตาม นัยน์ตาคู่หงส์เต็มไปด้วยความสงสัยที่ไม่รู้ว่าเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ และต้องการจะหาคำตอบนั้นให้ได้ยิ่งมอง นางก็ยิ่งคิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่45 หลี่อ๋อง

    “เจ้ายอมเรียกข้าว่าพี่แล้ว?” ผู้ถูกเรียกขานว่าพี่จิวทั้งที่ไม่ได้เป็นฝ่ายเอ่ยปากให้เรียกก่อนเอ่ยถาม สีหน้าแสดงออกชัดเจนถึงความเอ็นดูและยินดีที่อีกฝ่ายยินยอมเรียกเฉินอันหนิงที่ไม่มีพี่ชาย ใช่ว่าจะไร้เยื่อใยกับคนตรงหน้าไปเสียทุกเรื่อง นางเองก็อยากมีพี่ชายเช่นกัน ไม่มีเหตุอันใดต้องปฏิเสธ “พี่จิวหลิง ข้ายอมเป็นน้องสาวท่าน ทั้งยังจะมอบยอดฝีมือให้ท่านอีกสิบห้าคนเพื่อช่วยเหลืองานของท่าน วันหน้าเฉินและไห่ถือเป็นพันธมิตร”“เจ้าปูทางให้น้องชายผู้ใด หานอ๋อง?” อดีตซื่อจื่อสอบถามพลางเลิกคิ้ว ไม่ได้รู้สึกไม่ดีที่อีกฝ่ายยอมเป็นน้องสาวก็เพื่อเป็นพันธมิตรในอนาคต เพียงแต่เขาไม่รู้ว่านางปูทางให้น้องชายคนใด ข่าวว่าราชวงค์ต้าเฉินมีองค์ชายอยู่หลายองค์ หรือคนที่เขาเพิ่งกวนโทสะมาคือคนที่นางเลือกเป็นเช่นนั้นเขากลับไปขอโทษดีหรือไม่ อนาคตจะได้เป็นพันธมิตรอย่างราบรื่นทว่าองค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นเฉินกลับส่ายหน้า “ไม่ เขาอยากเป็นแม่ทัพ มิใช่ฮ่องเต้”“แล้วผู้ใดจะได้เป็นฮ่องเต้?&

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่46 ออกเดินทาง

    แม้ภายในใจเฉินอันหนิงจะรู้สึกอึดอัดกับหลี่อ๋องแต่ก็ยังรักษาท่าที พูดคุยราวกับไม่มีสิ่งใดในใจก่อนจะแยกย้ายกันในที่สุด นางอ้างว่าต้องลงเขาไปเดินตลาดกับน้องชายเพื่อซื้อของเตรียมสำหรับเดินทางในเช้าวันพรุ่ง หลี่อ๋องจึงอวยพรให้นางเดินทางปลอดภัยแล้วขอตัวไปไหว้พระ“พี่ใหญ่ เหตุใดท่านบอกเสด็จอาว่าจะไปพรุ่งนี้?” เฉินซีหานสอบถามพี่สาวทันทีที่คณะของตนแยกลงเขามาแล้ว ตามกำหนดการเดิมพี่สาวจะรอให้เขาปราบโจรเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงจะเดินทางไปด้วยกันมิใช่หรือ“พี่เปลี่ยนใจแล้ว พี่จะออกเดินทางพรุ่งนี้” นางตอบเพียงเท่านั้นก่อนจะชักชวนให้น้องชายเดินเล่นในตลาดด้วยกันราวกับไม่มีเรื่องอันใดให้กังวลใจเฉินซีหานไม่ซักไซ้หรือสงสัยใด ๆ ผู้เป็นพี่ เสด็จพี่ใหญ่ของตนจะอยากไปเมื่อใดก็ย่อมไม่มีผู้ใดขัดใจนางได้อยู่แล้ว และเขาก็ไม่ได้คิดจะขัดใจ นางเดินทางต่อไม่ได้ติดตามเขาไปรังโจรย่อมเป็นสิ่งที่ดี“ว่าแต่พวกเขาจะไปกับท่านหรือไม่?” พวกเขาที่หมายถึงจิวหลิงและจิวหูที่เดินตามพวกเขามาอย่างเงียบเชียบ ไม่ไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่47 ไม่สนุก

    ปลายกระบี่ที่หมายจะพิฆาตยังคงพุ่งตรง ทว่าทันใดนั้นบางสิ่งบางอย่างก็พุ่งเข้ามาขัดขวางเอาไว้ เป็นทวนสงบใจที่พุ่งมาปัดกระบี่จนตกพื้น ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ในชุดสีดำสนิทราวกับเงาดำจะใช้วิชาตัวเบามาหยุดยืนขวางหน้าปิดบังร่างของเฉินซีหานเอาไว้มือข้างหนึ่งถือทวนวงเดือนรูปทรงแปลกตาเอาไว้อย่างมั่นคง สายตาคมกริบภายใต้หน้ากากจ้องมองคนเบื้องหน้าอย่างจริงจัง “อยากได้หัวของเขา ถามทวนของข้าก่อนเป็นไร”“เจ้า?” เฉินจงฉีตกใจจนเบิกตากว้างเมื่อได้เห็นว่าศิษย์อีกคนของสำนักเฟยผิงที่เลื่องชื่อมาอยู่ตรงหน้าทั้งที่คนของตนรายงานว่าไม่ได้กลับไปที่พักเมื่อเย็นวาน“พี่ใหญ่ ท่านจะเล่นบทคนไร้ประโยชน์อีกนานหรือไม่ ประเดี๋ยวหานอ๋องก็ตายพอดี” จิวหูส่งเสียงเข้มบอกคนที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น เพียงชั่วพริบตาบุรุษรูปงามก็ลุกขึ้นมาทอดถอนใจ“เฮ้อ ไม่สนุกแม้แต่นิด” จิวหลิงพึมพำก่อนจะโปรยผงสมุนไพรให้กระจายบนฟ้า และควบคุมให้ครอบคลุมทหารทุกคนที่ถูกสมุนไพรพิษ ชั่วพริบตาที่ผงร่วงหล่นลงมาและทุกคนสูดหายใจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่48 เป็นท่านจริง ๆ

    เมื่อจัดการคนร้ายได้สำเร็จ บรรดาองครักษ์แซ่เค่อก็ควบคุมตัวกลุ่มของเฉินจงฉีรุดหน้ากลับไปขังที่คุกในเมืองก่อน ส่วนสองพ่อลูกก็ก้าวเดินไปหาผู้ที่นั่งพักรออยู่ จิวหูไม่อาจจะเชื่อได้ว่าการที่ได้พบบิดานั้นคือความจริง เขาจึงก้าวไปหาศิษย์พี่ใหญ่ของตนซะก่อนทว่าเมื่อเดินเข้าไปผู้ที่โผมาหาเข้ากลับเป็นองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ นางเดินมาหยุดตรงหน้าเขาด้วยใบหน้าปริ่มจะร้องไห้ก่อนจะเอื้อมมือสั่นเทามาจับหน้ากากของเขาและถอดออกอย่างเบามือ“ข้าคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นท่าน พี่เหยียน” เพียงเห็นใบหน้าที่ซ่อนอยู่นางก็รับรู้ได้ในทันทีว่าใช่ ความสงสัยที่มีมาตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้เป็นไปตามที่นางคิดไม่มีผิด และ...ฝันของนางก็ไม่ผิดเช่นกัน“ไม่เสียแรงที่ข้าดั้นด้นมาทั้งที่ความฝันไม่ได้เห็นใบหน้าของท่านด้วยซ้ำ ข้ารู้อยู่แล้วว่าต้องเจอท่านที่นี่”ครั้งหนึ่งนางเคยคิดว่าได้พบหน้าสหายวัยเยาว์อีกครั้งนางก็คงไม่รู้สึกอันใดมาก คงจะคล้ายกับตอนที่ได้เจอตัวปลอมในชาติก่อน ทว่าในเวลานี้กลับไม่ใช่ กระบอกตาทั้งสองร้อนผ่าว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่49 มิอาจอยู่ร่วม

    การมีอยู่ของน้องสาวทำให้ฟู่จื่อเหยียนผ่อนคลายลงได้หลายวันมานี้เขายิ้มให้น้องสาวและบรรดาน้องชายบุญธรรมอย่างอ่อนโยน ทว่านั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ติดใจสิ่งใดแม้กับบิดาเขาจะไม่แสดงท่าทีต่อหน้าน้องสาว แต่กับองค์หญิงผู้สูงศักดิ์...เขากลับหลบหน้าไม่ยอมพูดคุยและ...อีกไม่กี่วันเขาก็จะติดตามจิวหลิงกลับลั่วหยางนั่นหมายความว่าต่อให้ความจริงจะเปิดเผยว่าบิดาและน้อง ๆ ยังอยู่แต่เขาก็ยังไม่คิดกลับเมืองหลวง และยังจะกลับไปยังสำนักศึกษาเฟยผิงด้วยรู้ว่าจิวหลิงจัดการธุระสำเร็จแล้วและไม่เกินสองวันจะเดินทางกลับลั่วหยางจิตใจขององค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นต้าเฉินก็ไม่อาจสงบลง นางอยากสอบถามว่าเหตุใดเขาจึงไม่กลับไปกับนาง เหตุใดจึงเลือกกลับไปกับจิวหลิงหรือว่าเขาขุ่นเคืองที่ถูกปิดบังจึงไม่อยากกลับไปด้วยกันเมื่อมีความสงสัย ผู้ที่ทำอันใดผ่าเผยมาโดยตลอดจึงไม่คิดรั้งรอ เพราะเขาไม่แม้แต่พบหน้า...มีแต่ต้องบุกไปเจอเท่านั้นนัยน์ตาคู่หงส์มองไปยังทวนที่วางอยู่บนโต๊ะภายในห้องของสหายวัยเยาว์ในทันทีที่ตัดสินใจบุกรุกถึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-09
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่50 กลับสู่ความสงบ

    ครึ่งเดือนต่อมาในที่สุดองค์หญิงอันหนิงและหานอ๋องก็เสด็จกลับถึงวังหลวงพร้อมกับกบฏเฉินจงฉีและองครักษ์ฟู่เสวียนที่ทุกคนคิดว่าตายไปแล้ว ก่อนจากกันจิวหูได้มอบยาถอนพิษไว้ให้บิดาเพื่อใช้ถอนพิษนิทราชั่วนิรันดร์ให้แก่เฉินจงฉีเมื่อต้องเข้าเฝ้าฮ่องเต้ไท่เสียน เมื่อเฉินจงฉีฟื้นคืน จึงเริ่มการตัดสิน เรื่องราวในครั้งนี้สร้างความสะเทือนใจให้ฮ่องเต้ไท่เสียนเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่อาจจะปล่อยงูพิษเอาไว้ได้คำตัดสินจึงเป็นการประทานเหล้าพิษให้เฉินจงฉีและเนรเทศผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไปยังดินแดนแร้งแค้นทางตอนใต้ มารดาของเฉินซูเหมยต้องโทษหลอกลวงเบื้องสูงถูกส่งเข้าตำหนักเย็น ส่วนตัวเฉินซูเหมยแม้จะรู้แก่ใจว่าชาติที่แล้วทำอันใดบุตรสาวอันเป็นที่รักของตนไว้บ้างแต่ฮ่องเต้ไท่เสียนก็เห็นแก่ที่เป็นหลานสาวและมีสายเลือดราชวงค์เฉินอีกทั้งยังไม่ได้ทำผิดอย่างโจ่งแจ้งจนมีหลักฐานเอาผิดจึงทำได้เพียงถอดจากการเป็นองค์หญิงห้า ขยับตำแหน่งลำดับพระโอรสธิดากลับมาเป็นเช่นก่อนหน้าที่เฉินซูเหมยจะเข้าวังแต่ก็ไม่ได้ขับไล่ให้ออกไปอยู่นอกวัง แต่กักบริเวณเอาไว้ภายในต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-10
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่51 ที่หอพันเซียน

    บรรยากาศภายในหอพันเซียนเป็นไปอย่างคึกคัก และคึกคักมากเป็นพิเศษอันเนื่องมาจากในค่ำคืนนี้มีชายงามและสาวงานจัดประมูลค่ำคืนแรก ทั้งยังเป็นดาวเด่นของหอด้วยกันทั้งคู่ทั้งด้านบนและด้านล่างของหอพันเซียน เต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาที่มาจับจองพื้นที่เพื่อเฝ้ารอดูดาวเด่นของหอแห่งนี้เพราะสัญญาเอาไว้กับบุรุษผู้เป็นดาวเด่นองค์หญิงแห่งแคว้นจึงมาจับจองโต๊ะที่ที่มองเห็นได้ถนัดตาตั้งแต่บ่าย เพราะฟู่เสวียนได้คืนฐานะกลับไปอยู่อารักขาโอรสสวรรค์แล้วที่แห่งนี้จึงไม่มีบุรุษสวมหน้ากากอีก...มีเพียงหัวหน้าองครักษ์ฟู่ที่ติดตามองค์หญิงมาเท่านั้น“ที่นี่ไม่ว่ามาเมื่อใดก็คึกคักเสียจริง”“ไม่มีที่ใดในเมืองหลวงจะครึกครื้นเท่าหอพันเซียนอีกแล้วพะย่ะค่ะองค์หญิง” ฟู่เสวียนพูดแล้วก็คล้ายจะมีความขบขันที่ไม่แสดงออก หอพันเซียนคึกคักเช่นนี้เป็นประจำ หากกล่าวว่าเป็นที่รวมความครึกครื้นก็ว่าได้ ทั้งครึกครื้น ทั้งวุ่นวาย“แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าพวกนี้ก็ไม่ได้มีพิษมีภัยกับผู้ใด” เจ้าพวกนี้สำหรับเขาก็คือเหล่าสาวงามและชายงามในหอแห่งนี้ ที่แม้บางคร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-11

บทล่าสุด

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่81 มิได้สนใจ

    “อยากเห็นศิษย์คนที่สามหรือไม่”เฉินอันหนิงยังคงตกอยู่ในห้วงความคิด จิวหลินก็เอ่ยถามขึ้น ประโยคคำถามนั้นเขาถามองค์หญิงเก้า แต่ก็สะกิดใจผู้เป็นพี่สาวเช่นนางเช่นกัน คนผู้นั้นหรือ?ผู้ใดจะไปอยากเห็นเล่า...“อยากเจ้าค่ะ” เฉินลี่หลินตอบพร้อมกับมองไปรอบ ๆ เผื่อว่าจะได้พบเจอกับศิษย์คนที่สามคนนั้น...ที่ทำให้พี่สาวของนางไร้รอยยิ้มถึงดวงตามาตลอดสองปีจิวหลินไม่รู้ความนัยของความอยากเจอนั้น บุรุษหนุ่มจึงชี้ลงไปด้านล่างซึ่งคนที่เอ่ยถึงกำลังยืนอยู่ ไม่รู้ว่าโชคชะตาเล่นตลกหรืออย่างไร เจ้าบ้านั่นจึงมาปรากฎตัวอยู่แถวนี้ทั้งที่ชวนมารอองค์หญิงแห่งต้าเฉินที่นี่ด้วยกันฝ่ายนั้นกลับปฏิเสธและอ้างว่ามีงานต้องทำ “นั่นไง เขาอยู่ตรงนั้น”เฉินลี่หลินมองตามพร้อมกับสะกิดพี่สาวเมื่อได้เห็นใบหน้าของผู้ถูกเอ่ยถึง ซึ่งคล้ายกับท่านลุงฟู่เอามาก ๆ “นั่นน่ะหรือคุณชายใหญ่ฟู่ คล้ายท่านลุงฟู่จริง ๆ ด้วยพี่ใหญ่”“เจ้าก็เคยเจอเขาตอนเด็กแล้ว ตื่นเต้นอันใด” นางส่งเ

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่80 พบเจออีกครั้ง

    การเดินเที่ยวชมเมืองของบุคคลอย่างกู้หลุนกงจู่ที่มีฉายาว่าเป็นองค์หญิงเจ้าสำราญจะไปที่ใดได้ นอกเสียจากหอสุราขึ้นชื่อของเมืองไห่ฉิน ชั้นบนสุดของหอสุราเซียงซีคือที่ที่เฉินอันหนิงเลือกมานั่งดื่มกับน้องสาว ภายใต้ท่าทีคล้ายกับสตรีเสเพลสองพี่น้องนั้น สายตาของทั้งคู่ก็สำรวจผู้คนที่สัญจรไปมาอยู่เช่นกัน...นัยน์ตาหงส์ทอดมองถนนเบื้องล่างที่เมื่อครู่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนแต่ยามนี้ถูกกลุ่มทหารไล่ต้อนให้หลีกจากทางด้วยความไม่ชอบใจ ท่าทีของทหารเหล่านั้นจะเรียกว่าหยาบคายก็ว่าได้ ไม่เพียงแค่ใช้เสียงข่มขู่ แต่ยังลงไม้ลงมือกับชาวบ้านเสียอีก...ช่างป่าเถื่อนเสียจริง“ไม่รู้เป็นขบวนเสด็จจากแคว้นไหนนะเจ้าคะ ถึงได้ป่าเถื่อนเช่นนี้” ไม่เพียงแค่เฉินอันหนิงที่รู้สึกไม่ชอบใจ เฉินลี่หลินเองก็เช่นกัน หากกลุ่มทหารเหล่านั้นเป็นคนของแคว้นไห่ก็แล้วไปเถิด อีกหน่อยฮ่องเต้องค์ใหม่จะต้องจัดการอย่างแน่นอน แต่นี่ไม่ใช่ ทหารเหล่านี้มากับขบวนเสด็จของแคว้นใดสักแห่งที่มาร่วมงานพิธีทั้งที่เป็นอาคันตุกะ แต่กลับทำตัวหยาบคายเช่นนี้ ราวกับว่าเป็นแคว้นให

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่79 ฟู่จื่อหลิง

    “เค่อซุน ถวายพระพรกู้หลุนอันหนิงกงจู่ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ พันปี พัน ๆ ปี” น้ำเสียงนอบน้อมแฝงไปด้วยความเคารพและหนักแน่นดังขึ้นพร้อม ๆ กับที่ร่างกายสูงใหญ่คุกเข่าลงตรงหน้าของกู้หลุนกงจู่แห่งแคว้นะเฉินเฉินอันหนิงมองใบหน้าคุ้มเคยที่ไม่ได้พบเจอถึงสองปีเต็มของเค่อซุนที่มาเข้าเฝ้าทันทีที่คณะทูตจากแคว้นเฉินถูกพามายังที่พำนักรับรองอาคันตุกะก่อนจะคลี่ยิ้มให้ “ลุกขึ้นเถิด...ฟู่จื่อหลิง”“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ” เค่อซุนหรือที่ตอนนี้จะต้องเป็นฟู่จื่อหลิง คุณชายสามแห่งสกุลฟู่ทำตามอย่างว่าง่ายก่อนจะหันไปสอบถามน้องชาย “พี่รองไม่ได้มาหรือเจ้าสี่”“พี่สะใภ้ใกล้คลอดแล้ว องค์หญิงจึงไม่ให้เขาตามเสด็จ ตอนนี้คงคลอดแล้วกระมัง”“เช่นนี้กลับไป ข้าก็ได้อุ้มก้อนน้อยเลยนะสิ” ผู้ได้รับหน้าที่ให้เป็นหัวหน้าของกลุ่มยอดฝีมือที่ถูกส่งมาให้แก่จิวหลิงที่ต้องห่างจากพี่น้องมานับสองปียกยิ้มทันทีเมื่อคิดถึงหลานคนแรกของบ้าน เสร็จภารกิจก็ได้เวลาที่เขาจะได้กลับบ้าน มิคาดกลับไปหนนี้เขาจะได้อุ้มหลานโดยไม่ต้องรอ...พี่

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่ 78 สหายร่วมทาง

    สองเดือนต่อมาการเดินทางจากต้าเฉินถึงต้าไห่ใช้เวลาทั้งสิ้นหกสิบห้าวัน เป็นหกสิบห้าวันที่จะกล่าวว่าราบรื่นก็ราบรื่น แต่จะกล่าวว่าทุลักทุเลเล็กน้อยก็ว่าได้เช่นกันสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ...“แม่นางเสียน” น้ำเสียงหยาดเยิ้มที่เอ่ยเรียกฉุดให้เฉินอันหนิงที่เผลอขบคิดถึงการเดินทางนับสองเดือนที่ผ่านมาได้สติและหันสายตาไปมองนี่อย่างไรเล่าผู้ที่ทำให้การเดินทางของพวกนางทุลักทุเลมาเล็กน้อยแทนที่จะราบรื่นน่ะ“แม่นางหลัน มีอันใดหรือ” นางสอบถามอีกฝ่ายพร้อมกับลอบสังเกตท่าทีอีกฝ่ายไปด้วย หลันซิ่วอิงคือสตรีที่นางพบเจอระหว่างทางจากแคว้นลั่วหยางมายังแคว้นไห่ ในตอนที่เจออีกฝ่าย หลันซิ่งอิงกำลังประสบปัญหาเพราะถูกกลุ่มนักฆ่าตามไล่ล่าเพราะไม่อาจเมินเฉยต่อคนต้องการความช่วยเหลือ นางจึงให้เฉินซีหานเข้าไปช่วยเหลือสตรีตรงหน้าเองไว้ ทั้งยังให้นางร่วมเดินทางมาด้วยเมื่อได้รู้ว่ามีจุดหมายปลายทางเป็นแคว้นไห่เช่นกันลำพังหลันซิ่วอิง ไม่ได้ทำให้การเดินทางของนางและคณะมีปัญหา

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่77 ไม่

    ได้เห็นดรุณีน้อยชอบใจ เฉินอันหนิงก็พลอยยิ้มไปด้วย สำหรับนางฟู่จื่อเหยาเป็นดั่งน้องสาวผู้หนึ่ง อาจจะตั้งแต่ตอนที่อุ้มครั้งแรกเมื่อครั้งยังเป็นเด็กทารกนั่นล่ะ ที่นางเห็นเด็กน้อยอาภัพมารดาผู้นี้เป็นน้องสาวและปรารถนาให้ยิ้มอยู่เสมอ แต่บางครั้งน้องสาวผู้นี้ก็ถามในสิ่งที่ไม่ควรถามอยู่เช่นกัน...“พี่สาว...พี่สาวจะไปหาพี่ใหญ่หรือไม่เจ้าคะ” ดั่งเช่นตอนนี้ที่อยู่ด้วยกันเพียงลำพังที่คอกม้าจนสามารถพูดคำสามัญได้ น้องสาวผู้นี้ ถึงนางจะมองเป็นน้องสาวอย่างไร แต่สุดท้ายก็เป็นน้องสาวของคนผู้นั้นอยู่ดี“ไม่ เหตุใดข้าต้องไปหาคนอย่างเขา” นางตอบโดยไม่หันกลับไปมองน้องสาวบุญธรรมผ่านมาสองปี ความขุ่นเคืองในใจมิได้ลดน้อยลง ความรู้สึกอื่นก็เช่นกัน แต่จะทำอย่างไรได้เล่า แม้บุปผามีใจ หากสายน้ำไร้รัก ก็ย่อมต้องปล่อยให้ผ่านไป...นางมิใช่คนที่จะไปบังคับข่มเหงผู้ใดและเมื่อพูดไปแล้วว่าไม่สนใจ ก็ย่อมไม่เก็บเรื่องของเขามาใส่ใจอีกป่านนี้บุรุษผู้นั้นคงมีฮูหยินไปแล้วกระมัง นางจะไปหาเขาทำไมกั

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่76 ราชสาร์นต้าไห่

    นางใช้เวลาไม่นานก็มาปรากฏตัวหน้าห้องทรงพระอักษรเป็นที่เรียบร้อย ใบหน้างามล่มเมืองปั้นให้ดูปกติที่สุดก่อนจะเผยยิ้มส่งให้บิดาในทันทีที่ก้าวเข้ามาภายในห้อง“เสด็จพ่อ”“แคว้นไห่ส่งราชสาร์นเชิญมา” ไม่รอให้พระธิดาองค์โตสอบถามใด ๆ ฮ่องเต้ไท่เสียนก็บอกเล่าสาเหตุที่เรียกให้มาหาในทันทีพร้อมกับยื่นพระราชสาร์นให้ “ต้าไห่เปลี่ยนฮ่องเต้แล้ว”คำบอกเล่ามิใช่เรื่องน่าตกใจอันใด ฮ่องเต้ไท่เสียนเองก็มิได้แปลกใจใด ๆ อันเนื่องมาจากบุตรสาวได้บอกเล่าให้ฟังมาก่อนแล้วเฉินอันหนิงกวาดสายตาอ่านตัวอักษรในราชสาร์นที่แสนคุ้นเคยก่อนจะระบายยิ้ม จิวหลิงเขียนราชสาร์นฉบับนี้ด้วยตัวเองไม่ผิดแน่และในราชสาร์นก็บอกเล่าว่าตนได้จัดการอดีตฮ่องเต้ทรราชเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดี จึงส่งสาร์นฉบับนี้มาเฉินไท่เสียนฮ่องเต้ เชื้อพระวงค์และคณะทูตจากต้าเฉินมาร่วมในงานพระราชพิธีเถลิงราชสมบัติที่จะจัดขึ้นในอีกสองเดือนข้างหน้าอีกทั้งยังทิ้งข้อความลับไว้ในพระราชสาร์น กำชับให

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่75 เปลี่ยนแปลง

    เฉินอันหนิงมองท่าทีของสหายด้วยรอยยิ้ม ย้อนคิดไปถึงเมื่อหนึ่งปีก่อนขึ้นมา ตอนที่ผู้คนได้รู้ว่าเหลยเซียนหนิงถอนหมั้นกับเสียนฟู่ถังแล้วก็เป็นวันที่มีงานมงคลของเสียนฟู่ถังกับฟ่านซูเซียน โชคดีที่ตอนนั้นแม่ทัพเหลยได้รับราชโองการให้ไปคุมการสร้างเขื่อนที่เมืองถงอันทางตอนใต้ เหล่าแม่สื่อจึงยังไม่มีโอกาสเข้ามาพูดคุยทว่าหนึ่งปีก่อนแม่ทัพเหลยจิ้งเสร็จสิ้นภารกิจกลับมายังจวนในเมืองหลวง นับจากนั้นเหล่าแม่สื่อก็มายังจวนแม่ทัพบูรพาไม่หวาดไม่ไหว แม้แต่หรงฮองเฮาก็มีท่าทีอยากจะได้สหายของบุตรสาวมาเป็นพระชายารัชทายาท ด้วยไม่อยากแต่งเข้าราชวงค์ และไม่อยากเกี่ยวดองกับขุนนางที่จ้องแต่จะหาผลประโยชน์จากตำแหน่งของผู้เป็นพี่ชาย เหลยเซียนหนิงจึงต้องสร้างเรื่อง...และเรื่องที่เหลยเซียนหนิงสร้างก็คือการจัดฉากเล่นงานองครักษ์ของสหายเช่นนาง ไม่รู้ว่าสหายผู้นี้ไปทำเช่นไรเค่อซินจึงได้ยอมให้ท่านลุงฟู่ส่งแม่สื่อไปพูดคุย ทว่าท่าทีของทั้งคู่ไม่ได้มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้องเหลยเซียนหนิงบอกกับนางและเว่ยหนิงว่าการแต่งงานครั้งนี้นางได้ตกลงกับเค่อซินแล้ว

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่74 สองปีต่อมา

    สองปีต่อมาสิ่งที่ผ่านไปรวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์ก็คือวันเวลา เผลอเพียงชั่วพริบตาก็ผ่านไปหนึ่งก้านธูป และเปลี่ยนเป็นหนึ่งชั่วยาม หนึ่งวัน หนึ่งเดือน จนกระทั่งล่วงเลยไปหนึ่งปี สองปีอย่างรวดเร็วและแสนสั้นสองปี...หากจะกล่าวว่ายาวนาน มันก็ยาวนานแต่หากจะบอกว่าช่างแสนสั้น มันก็ผ่านไปรวดเร็วระยะเวลาสองปีมานี้สำหรับเฉินอันหนิงแล้วทั้งมิได้เนิ่นนาน และมิได้รวดเร็ว อาจจะเพราะนางมิได้เฝ้ารอผู้ใดจึงไม่ได้รู้สึกว่ามันทั้งยาวนานและเนิ่นนาน และอาจจะเพราะนางใช้เวลาไปกับการพัฒนาแคว้นและทำการค้า วันเวลาของนางจึงเป็นเช่นนี้ แต่กว่าจะรู้ตัวอีกที...รอบข้างก็มีความเปลี่ยนแปลงไปมากแล้วแคว้นต้าเฉินในตอนนี้นับได้ว่าเป็นแคว้นที่ร่ำรวย ราษฏรมีกินมีใช้ นักเดินทางและพ่อค้าคหบดีต่างแคว้นก็พลุกพล่านทำให้การใช้จ่ายภายในแคว้นเป็นไปได้ด้วยดีกิจการของนางที่ร่วมกับเว่ยหนิงและนายท่านแห่งหอเทียนหลินก็เป็นไปได้ดี ไม่ว่าจะเป็นตลาดย่านการค้าที่นางกว้านซื้อที่ดินมาสร้างให้เหมือนกับห้างสรรพสินค้าในยุคอนาคต ที่เป็นแหล

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่73 ลาก่อนแม่นางเฉิน

    งานสถาปนาแคว้นนับเป็นงานเฉลิมฉลองใหญ่ ชาวบ้านต่างประดับประดาบ้านช่องและจัดงานเทศกาลเฉลิมฉลอง ประโคมดนตรีเป็นเวลาถึงเจ็ดวัน ภายในพระราชวังก็มีการเฉลิมฉลองใหญ่ต้อนรับอาคันตุกะที่มาร่วมแสดงความยินดีเช่นกัน แต่ก็จัดเพียงแค่หนึ่งวันเท่านั้น ส่วนในวันที่เหลือหากอาคันตุกะจากต่างแคว้นประสงค์จะอยู่ต่อเพื่อท่องเที่ยวก็สามารถพักยังที่รับรองที่จัดเอาไว้ให้ได้ต่อเมื่อเทศกาลการเฉลิมฉลองจบลงผู้คนก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ภายในพระราชวังเองก็กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติเช่นกัน แต่ก็ใช่ว่าจะสงบสุข ผู้คนต่างให้คามสนใจท่าทีของจวนสกุลเจียง หลังจากที่ได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในวังที่เล็ดลอดออกมาสกุลมู่ไม่นับว่าตกต่ำ แม่ทัพฟ่านรุ่งเรืองเช่นไร รองแม่ทัพและเหล่านายกองก็ย่อมรุ่งเรืองตามไปด้วย สกุลเจียงคิดจะทำเช่นไรย่อมต้องดูสีหน้าสกุลมู่ให้มากเหล่าขุนนางย่อมรับรู้สถานการณ์ของสกุลเจียงมากกว่าชาวบ้าน ใต้เท้าเจียงผู้เป็นบิดาของเจียงเหิงอยู่ใต้บารมีของสกุลเถียน สนับสนุนเถียนเจาอี๋มาโดยตลอด เมื่อเถียนเจาอี๋ถูกส่งเข้าตำหนักเย็นสกุลเจียงก็พลอยต

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status