Share

บทที่49 มิอาจอยู่ร่วม

last update Last Updated: 2025-01-09 10:20:54

การมีอยู่ของน้องสาวทำให้ฟู่จื่อเหยียนผ่อนคลายลงได้หลายวันมานี้เขายิ้มให้น้องสาวและบรรดาน้องชายบุญธรรมอย่างอ่อนโยน ทว่านั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ติดใจสิ่งใดแม้กับบิดาเขาจะไม่แสดงท่าทีต่อหน้าน้องสาว แต่กับองค์หญิงผู้สูงศักดิ์...เขากลับหลบหน้าไม่ยอมพูดคุย

และ...อีกไม่กี่วันเขาก็จะติดตามจิวหลิงกลับลั่วหยาง

นั่นหมายความว่าต่อให้ความจริงจะเปิดเผยว่าบิดาและน้อง ๆ ยังอยู่แต่เขาก็ยังไม่คิดกลับเมืองหลวง และยังจะกลับไปยังสำนักศึกษาเฟยผิง

ด้วยรู้ว่าจิวหลิงจัดการธุระสำเร็จแล้วและไม่เกินสองวันจะเดินทางกลับลั่วหยางจิตใจขององค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นต้าเฉินก็ไม่อาจสงบลง นางอยากสอบถามว่าเหตุใดเขาจึงไม่กลับไปกับนาง เหตุใดจึงเลือกกลับไปกับจิวหลิง

หรือว่าเขาขุ่นเคืองที่ถูกปิดบังจึงไม่อยากกลับไปด้วยกัน

เมื่อมีความสงสัย ผู้ที่ทำอันใดผ่าเผยมาโดยตลอดจึงไม่คิดรั้งรอ เพราะเขาไม่แม้แต่พบหน้า...มีแต่ต้องบุกไปเจอเท่านั้น

นัยน์ตาคู่หงส์มองไปยังทวนที่วางอยู่บนโต๊ะภายในห้องของสหายวัยเยาว์ในทันทีที่ตัดสินใจบุกรุกถึ

Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่50 กลับสู่ความสงบ

    ครึ่งเดือนต่อมาในที่สุดองค์หญิงอันหนิงและหานอ๋องก็เสด็จกลับถึงวังหลวงพร้อมกับกบฏเฉินจงฉีและองครักษ์ฟู่เสวียนที่ทุกคนคิดว่าตายไปแล้ว ก่อนจากกันจิวหูได้มอบยาถอนพิษไว้ให้บิดาเพื่อใช้ถอนพิษนิทราชั่วนิรันดร์ให้แก่เฉินจงฉีเมื่อต้องเข้าเฝ้าฮ่องเต้ไท่เสียน เมื่อเฉินจงฉีฟื้นคืน จึงเริ่มการตัดสิน เรื่องราวในครั้งนี้สร้างความสะเทือนใจให้ฮ่องเต้ไท่เสียนเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่อาจจะปล่อยงูพิษเอาไว้ได้คำตัดสินจึงเป็นการประทานเหล้าพิษให้เฉินจงฉีและเนรเทศผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไปยังดินแดนแร้งแค้นทางตอนใต้ มารดาของเฉินซูเหมยต้องโทษหลอกลวงเบื้องสูงถูกส่งเข้าตำหนักเย็น ส่วนตัวเฉินซูเหมยแม้จะรู้แก่ใจว่าชาติที่แล้วทำอันใดบุตรสาวอันเป็นที่รักของตนไว้บ้างแต่ฮ่องเต้ไท่เสียนก็เห็นแก่ที่เป็นหลานสาวและมีสายเลือดราชวงค์เฉินอีกทั้งยังไม่ได้ทำผิดอย่างโจ่งแจ้งจนมีหลักฐานเอาผิดจึงทำได้เพียงถอดจากการเป็นองค์หญิงห้า ขยับตำแหน่งลำดับพระโอรสธิดากลับมาเป็นเช่นก่อนหน้าที่เฉินซูเหมยจะเข้าวังแต่ก็ไม่ได้ขับไล่ให้ออกไปอยู่นอกวัง แต่กักบริเวณเอาไว้ภายในต

    Last Updated : 2025-01-10
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่51 ที่หอพันเซียน

    บรรยากาศภายในหอพันเซียนเป็นไปอย่างคึกคัก และคึกคักมากเป็นพิเศษอันเนื่องมาจากในค่ำคืนนี้มีชายงามและสาวงานจัดประมูลค่ำคืนแรก ทั้งยังเป็นดาวเด่นของหอด้วยกันทั้งคู่ทั้งด้านบนและด้านล่างของหอพันเซียน เต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาที่มาจับจองพื้นที่เพื่อเฝ้ารอดูดาวเด่นของหอแห่งนี้เพราะสัญญาเอาไว้กับบุรุษผู้เป็นดาวเด่นองค์หญิงแห่งแคว้นจึงมาจับจองโต๊ะที่ที่มองเห็นได้ถนัดตาตั้งแต่บ่าย เพราะฟู่เสวียนได้คืนฐานะกลับไปอยู่อารักขาโอรสสวรรค์แล้วที่แห่งนี้จึงไม่มีบุรุษสวมหน้ากากอีก...มีเพียงหัวหน้าองครักษ์ฟู่ที่ติดตามองค์หญิงมาเท่านั้น“ที่นี่ไม่ว่ามาเมื่อใดก็คึกคักเสียจริง”“ไม่มีที่ใดในเมืองหลวงจะครึกครื้นเท่าหอพันเซียนอีกแล้วพะย่ะค่ะองค์หญิง” ฟู่เสวียนพูดแล้วก็คล้ายจะมีความขบขันที่ไม่แสดงออก หอพันเซียนคึกคักเช่นนี้เป็นประจำ หากกล่าวว่าเป็นที่รวมความครึกครื้นก็ว่าได้ ทั้งครึกครื้น ทั้งวุ่นวาย“แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าพวกนี้ก็ไม่ได้มีพิษมีภัยกับผู้ใด” เจ้าพวกนี้สำหรับเขาก็คือเหล่าสาวงามและชายงามในหอแห่งนี้ ที่แม้บางคร

    Last Updated : 2025-01-11
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่52 เว่ยหนิง

    ครู่หนึ่งองครักษ์หนุ่มก็เดินกลับมาที่โต๊ะโดยมีนายหญิงแห่งสกุลเว่ยและผู้ติดตามเดินตามมา“ถวายพระพรองค์หญิง ขอพระองค์...”“ไม่ต้องมากพิธี นั่งเถิด การประมูลจะเริ่มแล้ว” ไม่รอให้เว่ยหนิงได้ถวายพระพรจบนางก็ร้องห้ามเอาไว้พร้อมกับรินสุราไว้ให้ “ข่าวว่าตอนนี้คุณหนูรับช่วงต่อจากนายท่านเว่ยแล้ว ยินดีกับคุณหนู ไม่สิ ยินดีกับนายหญิงเว่ยด้วย”“ขอบพระทัยเพคะ” เว่ยหนิงยังคงตอบอย่างนอบน้อม แท้จริงแล้วนิสัยใจคอของนางมิใช่คนจะอยู่ในขนบธรรมเนียมนัก แม้ว่าที่ผ่านมาองค์หญิงใหญ่ของแคว้นจะมีหลาย ๆ อย่างที่คล้ายกัน แต่เพราะนางไม่ชื่นชอบการต้องนอบน้อมและอยู่ในกฎจึงไม่คิดจะทำความรู้จักหรือคิดเป็นสหาย แม้ว่าลึก ๆ แล้วนางจะถูกชะตาองค์หญิงผู้นี้มากก็ตาม...ต้องถวายพระพรทุกครั้งก็อึดอัดแย่“บอกแล้วอย่างไร ว่าไม่ต้องมากพิธี ที่นี่นอกวัง เจ้าไม่ต้องเรียกข้าว่าองค์หญิง คิดว่าข้าเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา ไม่ก็คุณหนูทั่วไปก็พอ”“องครักษ์ของพระองค์เหล่านี้จะไม่ลาก

    Last Updated : 2025-01-12
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่53 ข่าวแดนไกล

    ตามที่เฉินอันหนิงให้สัญญากับจิวหลิงเอาไว้ว่าจะส่งยอดฝีมือไปให้ นางจึงให้ท่านลุงฟู่คัดเลือกยอดฝีมือในสังกัดทั้งยังมอบหมายหน้าที่ให้เค่อซุนไปเป็นหัวหน้ากองกำลัง นัยหนึ่งก็เพราะจิวหลิงและเค่อซุนพูดคุยกันถูกคอน่าจะเข้าใจกันได้ง่าย อีกนัยหนึ่งก็เพื่อให้เค่อซุนคอยดูแลคนโง่งมให้นางวรยุทธของเขานับว่าล้ำเลิศ ใช่ว่าผู้ใดจะจัดการได้ เค่อซุนไม่อาจเทียบเคียง นางจึงไม่ได้ปรารถนาให้เค่อซุนคุ้มกันเขาจากศัตรู แต่ป้องกันจากสตรีต่างหากจะต้องไม่มีใครมาข้องแวะกับบุรุษของนาง…ไม่รู้ว่าป่านนี้คนโง่งมผู้นั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง แล้วคนของนางจะไปถึงแล้วหรือไม่“กราบทูลองค์หญิง องครักษ์เค่อซินขอเข้าเฝ้าเพคะ” เสียงจากนางกำนัลที่เข้ามารายงานเรียกให้คนที่เผลอขบคิดไปถึงคนห่างไกลได้สติกลับมาอยู่กับปัจจุบัน นางตอบรับในทันทีก่อนที่องครักษ์หนุ่มจะเข้ามาทำความเคารพ“เค่อซินถวายพระพรองค์หญิง” หลังจากโค้งคำนับผู้เป็นนายเป็นที่เรียบร้อย ผู้มีเรื่องมารายงานก็เอ่ยในทันทีโดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายสอบถาม

    Last Updated : 2025-01-13
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่54 เซวียนอ๋อง

    บุรุษหนุ่มส่ายหน้ากับตัวเองอีกครั้งก่อนจะบอกเล่า “ข้าไปเมืองจิ้งหลวนมา”“ที่แท้เจ้าไปหาช่องทางการค้ากับชาวโพ้นทะเล” แค่น้องชายบอกว่าไปที่ใดมา นางก็คาดเดาได้ น้องรองผู้นี้เสนอเรื่องการค้ากับชาวโพ้นทะเลที่มีของแปลกใหม่มาขายขึ้นมาในที่ประชุม การที่เขาหายไปและจุดหมายคือเมืองจิ้งหลวนที่เป็นเมืองท่าติดทะเล ย่อมเป็นไปได้ว่าเขาจะไปติดต่อกับชาวโพ้นทะเล“ใช่ ข้าไปหาช่องทางทำการค้ากับคนเหล่านั้น”“แล้วเป็นอย่างไร”“ข้ามองหาคนที่มีตาสีฟ้า ตามที่ท่านเคยบอกเล่า แล้วก็พูดภาษาที่ท่านสอนกับเขา แล้วเราคุยกันรู้เรื่อง” เฉินชิงเซวียนพูดแล้วก็ยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงตอนที่ตนหาผู้ที่จะเจรจาการค้าด้วย ภาษาประหลาดที่พี่สาวสั่งสอนได้นำมาใช้ในตอนนั้น และเป็นเรื่องน่าทึ่งที่คนผู้นั้นพูดภาษาประหลาดนั้นตอบโต้กับเขาได้เฉินอันหนิงยิ้มตามน้องชายคนรองในทันที ตาคู่หวานมีประกายยินดีเป็นอย่างยิ่ง ตอนแรกที่รู้ว่าชีวิตของนางเป็นแค่ส่วนหนึ่งของนิยายที่มีน้องชายคนที่สามเป

    Last Updated : 2025-01-14
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่55 ไม่ยอม

    เสียงตะโกนเรียกอย่างพร้อมเพรียงของน้องชายคนที่สาม น้องชายคนที่สี่รวมถึงน้องชายคนที่แปดที่ตอนนี้เลื่อนกลับมาเป็นน้องชายคนที่เจ็ดเพราะเฉินซูเหมยถูกถอดออกจากลำดับโอรสธิดาทำเอาผู้คนภายในหอซุนฉีถึงกับสะดุ้งตกใจ และหันมามองท่าทีกระหือดกระหอบของบุรุษรูปงามที่ก้าวเข้ามาภายในหอซุยฉีอย่างสนใจเฉินอันหนิงเลิกคิ้วมองก่อนจะกวักมือให้พวกเขารีบมานั่ง อย่าได้รบกวนผู้คนจนเป็นจุดสนใจ ลูกเจี๊ยบทั้งสามทำตามอย่างว่าง่าย เพียงครู่ก็มานั่งกันเต็มโต๊ะตาคู่หงส์มองไปที่น้องชายคนที่เจ็ดที่น้อยครั้งจะออกจากจวนเป็นคนแรก เฉิงอ๋อง เฉินซีเฉิง เป็นบุรุษผู้อยู่กับธรรมชาติมากกว่าผู้คน ตั้งแต่มีจวนเป็นของตัวเองเมื่อครึ่งปีก่อนก็ขลุกอยู่กับการปลูกต้นไม้ และจัดสวน นอกจากตอนที่นึกครึ้มไปหานางหรือมีการรวมตัวที่ตำหนักอันหนิงแล้วแทบไม่มีผู้ใดได้เห็นหน้านางไม่ได้ให้เค่อซินส่งคนไปเรียก เพราะรู้ดีว่าเฉินซีเฉิงจะไม่ออกนอกจวนเด็ดขาด แต่กลับผิดคาด เจ้าลูกเจี๊ยบตัวนี้ก็ออกจากจวนมาเพราะได้ข่าวสารว่าอีกสองปีนางจะออกเรือนเจ้าพวกนี้เป็นอะไรมากไปหรื

    Last Updated : 2025-01-15
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่56 คุณหนูสกุลฟ่าน

    “คนเยอะเช่นนี้อึดอัดเสียจริง”เป็นเฉินซีเฉิงที่เอ่ยขึ้นในขณะที่พี่สาวร่ำร้องอยู่ในใจที่น้องชายไม่มีผู้ใดสนใจสตรีรูปงาม ทว่าไม่ใช่แค่เขาที่รู้สึกเช่นนั้น“นั่นสิ อึดอัดจริง ๆ ยืนกันเต็มไปหมด” เฉินชิงเซวียนเองก็รู้สึกเช่นกัน โอรสพระองค์รองมีสีหน้าเบื่อหน่ายอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาต่างก็ทิ้งคนไว้ด้านล่างเพราะอยากจะนั่งกับพี่สาวอย่างอิสระ ไม่ต้องให้ผู้ใดมองมาอย่างหวั่นเกรง แต่ดูโต๊ะข้าง ๆ สิ ผู้ติดตามแทบจะเต็มพื้นที่เช่นนั้น น่าอึดอัดยิ่งโต๊ะไม่ได้ห่างนัก คุณหนูทั้งสองได้ยินอย่างชัดเจน และเหมือนจะรู้ตัวโดยไม่ต้องมีผู้ใดบอก สตรีชุดชมพูอ่อนจ้องเขม็งมาทันที แต่ไม่ได้พูดสิ่งใด อันเนื่องมาจากผู้ติดตามพูดแทนเป็นที่เรียบร้อย“บังอาจ! พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรเอ่ยเช่นนี้ให้คุณหนูของท่านแม่ทัพฟ่านได้ยิน ไม่อยากอยู่แล้วใช่หรือไม่”“พวกเจ้ามากกว่ากระมังที่ไม่อยากอยู่” เฉินซีหานสวนกลับพร้อมกับจ้องอย่างดุดัน สาเหตุที่เขารีบพูดก็เพราะไม่ต้องการให้พี่ชายคนรองที่ดูจะ

    Last Updated : 2025-01-16
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่57 รองแม่ทัพหรง

    เฉินอันหนิงมองสองพี่น้องที่ตัวสั่นเป็นลูกนกก่อนจะยิ้มขำ ดูเอาเถิดท่าทีในตอนนี้แตกต่างจนน่าใจหาย “เอาเถิด พวกเจ้าลุกขึ้นได้ ข้ามิได้ขุ่นเคืองอันใด แต่สิ่งที่ข้าบอกพวกเจ้าไป อย่าได้ลืมเล่า”“พวกเราจะจดจำและทำตามเพคะ”“เช่นนั้นก็ไปนั่งเถิด ตามสบาย”“ขอบพระทัยองค์หญิง” สองคุณหนูแห่งตระกุลฟ่านโน้มตัวคารวะเชื้อพระวงค์ทั้งสี่ก่อนจะกลับไปนั่งที่เดิม และอยู่กันอย่างเงียบเชียบเฉินอันหนิงเลิกให้ความสนใจคุณหนูทั้งสอง หันกลับมามองน้อง ๆ ของตน “เสร็จจากที่นี่ พวกเจ้าไปทำธุระเป็นเพื่อนข้าหน่อย”“มิใช่จะไปร่ำสุราหรือ”“ธุระ” นางแย้งทว่าสายตาของน้องชายก็เหมือนจะไม่เชื่อ พี่สาวผู้มีน้องชายฉลาดรู้ทันส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะเอ่ย “ก็ไปคุยธุระด้วย ร่ำสุราด้วย จะเป็นไรไป”จะเป็นอันใดได้เล่า นอกจากโอรสสวรรค์ ผู้เดียวที่ใครก็ไม่กล้าต่อกรก็คือองค์หญิงใหญ่ ต่อให้นางทำเรื่องร้ายแรง ก็ไม่มีใครว่าอันใดอยู

    Last Updated : 2025-01-17

Latest chapter

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่81 มิได้สนใจ

    “อยากเห็นศิษย์คนที่สามหรือไม่”เฉินอันหนิงยังคงตกอยู่ในห้วงความคิด จิวหลินก็เอ่ยถามขึ้น ประโยคคำถามนั้นเขาถามองค์หญิงเก้า แต่ก็สะกิดใจผู้เป็นพี่สาวเช่นนางเช่นกัน คนผู้นั้นหรือ?ผู้ใดจะไปอยากเห็นเล่า...“อยากเจ้าค่ะ” เฉินลี่หลินตอบพร้อมกับมองไปรอบ ๆ เผื่อว่าจะได้พบเจอกับศิษย์คนที่สามคนนั้น...ที่ทำให้พี่สาวของนางไร้รอยยิ้มถึงดวงตามาตลอดสองปีจิวหลินไม่รู้ความนัยของความอยากเจอนั้น บุรุษหนุ่มจึงชี้ลงไปด้านล่างซึ่งคนที่เอ่ยถึงกำลังยืนอยู่ ไม่รู้ว่าโชคชะตาเล่นตลกหรืออย่างไร เจ้าบ้านั่นจึงมาปรากฎตัวอยู่แถวนี้ทั้งที่ชวนมารอองค์หญิงแห่งต้าเฉินที่นี่ด้วยกันฝ่ายนั้นกลับปฏิเสธและอ้างว่ามีงานต้องทำ “นั่นไง เขาอยู่ตรงนั้น”เฉินลี่หลินมองตามพร้อมกับสะกิดพี่สาวเมื่อได้เห็นใบหน้าของผู้ถูกเอ่ยถึง ซึ่งคล้ายกับท่านลุงฟู่เอามาก ๆ “นั่นน่ะหรือคุณชายใหญ่ฟู่ คล้ายท่านลุงฟู่จริง ๆ ด้วยพี่ใหญ่”“เจ้าก็เคยเจอเขาตอนเด็กแล้ว ตื่นเต้นอันใด” นางส่งเ

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่80 พบเจออีกครั้ง

    การเดินเที่ยวชมเมืองของบุคคลอย่างกู้หลุนกงจู่ที่มีฉายาว่าเป็นองค์หญิงเจ้าสำราญจะไปที่ใดได้ นอกเสียจากหอสุราขึ้นชื่อของเมืองไห่ฉิน ชั้นบนสุดของหอสุราเซียงซีคือที่ที่เฉินอันหนิงเลือกมานั่งดื่มกับน้องสาว ภายใต้ท่าทีคล้ายกับสตรีเสเพลสองพี่น้องนั้น สายตาของทั้งคู่ก็สำรวจผู้คนที่สัญจรไปมาอยู่เช่นกัน...นัยน์ตาหงส์ทอดมองถนนเบื้องล่างที่เมื่อครู่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนแต่ยามนี้ถูกกลุ่มทหารไล่ต้อนให้หลีกจากทางด้วยความไม่ชอบใจ ท่าทีของทหารเหล่านั้นจะเรียกว่าหยาบคายก็ว่าได้ ไม่เพียงแค่ใช้เสียงข่มขู่ แต่ยังลงไม้ลงมือกับชาวบ้านเสียอีก...ช่างป่าเถื่อนเสียจริง“ไม่รู้เป็นขบวนเสด็จจากแคว้นไหนนะเจ้าคะ ถึงได้ป่าเถื่อนเช่นนี้” ไม่เพียงแค่เฉินอันหนิงที่รู้สึกไม่ชอบใจ เฉินลี่หลินเองก็เช่นกัน หากกลุ่มทหารเหล่านั้นเป็นคนของแคว้นไห่ก็แล้วไปเถิด อีกหน่อยฮ่องเต้องค์ใหม่จะต้องจัดการอย่างแน่นอน แต่นี่ไม่ใช่ ทหารเหล่านี้มากับขบวนเสด็จของแคว้นใดสักแห่งที่มาร่วมงานพิธีทั้งที่เป็นอาคันตุกะ แต่กลับทำตัวหยาบคายเช่นนี้ ราวกับว่าเป็นแคว้นให

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่79 ฟู่จื่อหลิง

    “เค่อซุน ถวายพระพรกู้หลุนอันหนิงกงจู่ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ พันปี พัน ๆ ปี” น้ำเสียงนอบน้อมแฝงไปด้วยความเคารพและหนักแน่นดังขึ้นพร้อม ๆ กับที่ร่างกายสูงใหญ่คุกเข่าลงตรงหน้าของกู้หลุนกงจู่แห่งแคว้นะเฉินเฉินอันหนิงมองใบหน้าคุ้มเคยที่ไม่ได้พบเจอถึงสองปีเต็มของเค่อซุนที่มาเข้าเฝ้าทันทีที่คณะทูตจากแคว้นเฉินถูกพามายังที่พำนักรับรองอาคันตุกะก่อนจะคลี่ยิ้มให้ “ลุกขึ้นเถิด...ฟู่จื่อหลิง”“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ” เค่อซุนหรือที่ตอนนี้จะต้องเป็นฟู่จื่อหลิง คุณชายสามแห่งสกุลฟู่ทำตามอย่างว่าง่ายก่อนจะหันไปสอบถามน้องชาย “พี่รองไม่ได้มาหรือเจ้าสี่”“พี่สะใภ้ใกล้คลอดแล้ว องค์หญิงจึงไม่ให้เขาตามเสด็จ ตอนนี้คงคลอดแล้วกระมัง”“เช่นนี้กลับไป ข้าก็ได้อุ้มก้อนน้อยเลยนะสิ” ผู้ได้รับหน้าที่ให้เป็นหัวหน้าของกลุ่มยอดฝีมือที่ถูกส่งมาให้แก่จิวหลิงที่ต้องห่างจากพี่น้องมานับสองปียกยิ้มทันทีเมื่อคิดถึงหลานคนแรกของบ้าน เสร็จภารกิจก็ได้เวลาที่เขาจะได้กลับบ้าน มิคาดกลับไปหนนี้เขาจะได้อุ้มหลานโดยไม่ต้องรอ...พี่

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่ 78 สหายร่วมทาง

    สองเดือนต่อมาการเดินทางจากต้าเฉินถึงต้าไห่ใช้เวลาทั้งสิ้นหกสิบห้าวัน เป็นหกสิบห้าวันที่จะกล่าวว่าราบรื่นก็ราบรื่น แต่จะกล่าวว่าทุลักทุเลเล็กน้อยก็ว่าได้เช่นกันสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ...“แม่นางเสียน” น้ำเสียงหยาดเยิ้มที่เอ่ยเรียกฉุดให้เฉินอันหนิงที่เผลอขบคิดถึงการเดินทางนับสองเดือนที่ผ่านมาได้สติและหันสายตาไปมองนี่อย่างไรเล่าผู้ที่ทำให้การเดินทางของพวกนางทุลักทุเลมาเล็กน้อยแทนที่จะราบรื่นน่ะ“แม่นางหลัน มีอันใดหรือ” นางสอบถามอีกฝ่ายพร้อมกับลอบสังเกตท่าทีอีกฝ่ายไปด้วย หลันซิ่วอิงคือสตรีที่นางพบเจอระหว่างทางจากแคว้นลั่วหยางมายังแคว้นไห่ ในตอนที่เจออีกฝ่าย หลันซิ่งอิงกำลังประสบปัญหาเพราะถูกกลุ่มนักฆ่าตามไล่ล่าเพราะไม่อาจเมินเฉยต่อคนต้องการความช่วยเหลือ นางจึงให้เฉินซีหานเข้าไปช่วยเหลือสตรีตรงหน้าเองไว้ ทั้งยังให้นางร่วมเดินทางมาด้วยเมื่อได้รู้ว่ามีจุดหมายปลายทางเป็นแคว้นไห่เช่นกันลำพังหลันซิ่วอิง ไม่ได้ทำให้การเดินทางของนางและคณะมีปัญหา

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่77 ไม่

    ได้เห็นดรุณีน้อยชอบใจ เฉินอันหนิงก็พลอยยิ้มไปด้วย สำหรับนางฟู่จื่อเหยาเป็นดั่งน้องสาวผู้หนึ่ง อาจจะตั้งแต่ตอนที่อุ้มครั้งแรกเมื่อครั้งยังเป็นเด็กทารกนั่นล่ะ ที่นางเห็นเด็กน้อยอาภัพมารดาผู้นี้เป็นน้องสาวและปรารถนาให้ยิ้มอยู่เสมอ แต่บางครั้งน้องสาวผู้นี้ก็ถามในสิ่งที่ไม่ควรถามอยู่เช่นกัน...“พี่สาว...พี่สาวจะไปหาพี่ใหญ่หรือไม่เจ้าคะ” ดั่งเช่นตอนนี้ที่อยู่ด้วยกันเพียงลำพังที่คอกม้าจนสามารถพูดคำสามัญได้ น้องสาวผู้นี้ ถึงนางจะมองเป็นน้องสาวอย่างไร แต่สุดท้ายก็เป็นน้องสาวของคนผู้นั้นอยู่ดี“ไม่ เหตุใดข้าต้องไปหาคนอย่างเขา” นางตอบโดยไม่หันกลับไปมองน้องสาวบุญธรรมผ่านมาสองปี ความขุ่นเคืองในใจมิได้ลดน้อยลง ความรู้สึกอื่นก็เช่นกัน แต่จะทำอย่างไรได้เล่า แม้บุปผามีใจ หากสายน้ำไร้รัก ก็ย่อมต้องปล่อยให้ผ่านไป...นางมิใช่คนที่จะไปบังคับข่มเหงผู้ใดและเมื่อพูดไปแล้วว่าไม่สนใจ ก็ย่อมไม่เก็บเรื่องของเขามาใส่ใจอีกป่านนี้บุรุษผู้นั้นคงมีฮูหยินไปแล้วกระมัง นางจะไปหาเขาทำไมกั

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่76 ราชสาร์นต้าไห่

    นางใช้เวลาไม่นานก็มาปรากฏตัวหน้าห้องทรงพระอักษรเป็นที่เรียบร้อย ใบหน้างามล่มเมืองปั้นให้ดูปกติที่สุดก่อนจะเผยยิ้มส่งให้บิดาในทันทีที่ก้าวเข้ามาภายในห้อง“เสด็จพ่อ”“แคว้นไห่ส่งราชสาร์นเชิญมา” ไม่รอให้พระธิดาองค์โตสอบถามใด ๆ ฮ่องเต้ไท่เสียนก็บอกเล่าสาเหตุที่เรียกให้มาหาในทันทีพร้อมกับยื่นพระราชสาร์นให้ “ต้าไห่เปลี่ยนฮ่องเต้แล้ว”คำบอกเล่ามิใช่เรื่องน่าตกใจอันใด ฮ่องเต้ไท่เสียนเองก็มิได้แปลกใจใด ๆ อันเนื่องมาจากบุตรสาวได้บอกเล่าให้ฟังมาก่อนแล้วเฉินอันหนิงกวาดสายตาอ่านตัวอักษรในราชสาร์นที่แสนคุ้นเคยก่อนจะระบายยิ้ม จิวหลิงเขียนราชสาร์นฉบับนี้ด้วยตัวเองไม่ผิดแน่และในราชสาร์นก็บอกเล่าว่าตนได้จัดการอดีตฮ่องเต้ทรราชเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดี จึงส่งสาร์นฉบับนี้มาเฉินไท่เสียนฮ่องเต้ เชื้อพระวงค์และคณะทูตจากต้าเฉินมาร่วมในงานพระราชพิธีเถลิงราชสมบัติที่จะจัดขึ้นในอีกสองเดือนข้างหน้าอีกทั้งยังทิ้งข้อความลับไว้ในพระราชสาร์น กำชับให

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่75 เปลี่ยนแปลง

    เฉินอันหนิงมองท่าทีของสหายด้วยรอยยิ้ม ย้อนคิดไปถึงเมื่อหนึ่งปีก่อนขึ้นมา ตอนที่ผู้คนได้รู้ว่าเหลยเซียนหนิงถอนหมั้นกับเสียนฟู่ถังแล้วก็เป็นวันที่มีงานมงคลของเสียนฟู่ถังกับฟ่านซูเซียน โชคดีที่ตอนนั้นแม่ทัพเหลยได้รับราชโองการให้ไปคุมการสร้างเขื่อนที่เมืองถงอันทางตอนใต้ เหล่าแม่สื่อจึงยังไม่มีโอกาสเข้ามาพูดคุยทว่าหนึ่งปีก่อนแม่ทัพเหลยจิ้งเสร็จสิ้นภารกิจกลับมายังจวนในเมืองหลวง นับจากนั้นเหล่าแม่สื่อก็มายังจวนแม่ทัพบูรพาไม่หวาดไม่ไหว แม้แต่หรงฮองเฮาก็มีท่าทีอยากจะได้สหายของบุตรสาวมาเป็นพระชายารัชทายาท ด้วยไม่อยากแต่งเข้าราชวงค์ และไม่อยากเกี่ยวดองกับขุนนางที่จ้องแต่จะหาผลประโยชน์จากตำแหน่งของผู้เป็นพี่ชาย เหลยเซียนหนิงจึงต้องสร้างเรื่อง...และเรื่องที่เหลยเซียนหนิงสร้างก็คือการจัดฉากเล่นงานองครักษ์ของสหายเช่นนาง ไม่รู้ว่าสหายผู้นี้ไปทำเช่นไรเค่อซินจึงได้ยอมให้ท่านลุงฟู่ส่งแม่สื่อไปพูดคุย ทว่าท่าทีของทั้งคู่ไม่ได้มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้องเหลยเซียนหนิงบอกกับนางและเว่ยหนิงว่าการแต่งงานครั้งนี้นางได้ตกลงกับเค่อซินแล้ว

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่74 สองปีต่อมา

    สองปีต่อมาสิ่งที่ผ่านไปรวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์ก็คือวันเวลา เผลอเพียงชั่วพริบตาก็ผ่านไปหนึ่งก้านธูป และเปลี่ยนเป็นหนึ่งชั่วยาม หนึ่งวัน หนึ่งเดือน จนกระทั่งล่วงเลยไปหนึ่งปี สองปีอย่างรวดเร็วและแสนสั้นสองปี...หากจะกล่าวว่ายาวนาน มันก็ยาวนานแต่หากจะบอกว่าช่างแสนสั้น มันก็ผ่านไปรวดเร็วระยะเวลาสองปีมานี้สำหรับเฉินอันหนิงแล้วทั้งมิได้เนิ่นนาน และมิได้รวดเร็ว อาจจะเพราะนางมิได้เฝ้ารอผู้ใดจึงไม่ได้รู้สึกว่ามันทั้งยาวนานและเนิ่นนาน และอาจจะเพราะนางใช้เวลาไปกับการพัฒนาแคว้นและทำการค้า วันเวลาของนางจึงเป็นเช่นนี้ แต่กว่าจะรู้ตัวอีกที...รอบข้างก็มีความเปลี่ยนแปลงไปมากแล้วแคว้นต้าเฉินในตอนนี้นับได้ว่าเป็นแคว้นที่ร่ำรวย ราษฏรมีกินมีใช้ นักเดินทางและพ่อค้าคหบดีต่างแคว้นก็พลุกพล่านทำให้การใช้จ่ายภายในแคว้นเป็นไปได้ด้วยดีกิจการของนางที่ร่วมกับเว่ยหนิงและนายท่านแห่งหอเทียนหลินก็เป็นไปได้ดี ไม่ว่าจะเป็นตลาดย่านการค้าที่นางกว้านซื้อที่ดินมาสร้างให้เหมือนกับห้างสรรพสินค้าในยุคอนาคต ที่เป็นแหล

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่73 ลาก่อนแม่นางเฉิน

    งานสถาปนาแคว้นนับเป็นงานเฉลิมฉลองใหญ่ ชาวบ้านต่างประดับประดาบ้านช่องและจัดงานเทศกาลเฉลิมฉลอง ประโคมดนตรีเป็นเวลาถึงเจ็ดวัน ภายในพระราชวังก็มีการเฉลิมฉลองใหญ่ต้อนรับอาคันตุกะที่มาร่วมแสดงความยินดีเช่นกัน แต่ก็จัดเพียงแค่หนึ่งวันเท่านั้น ส่วนในวันที่เหลือหากอาคันตุกะจากต่างแคว้นประสงค์จะอยู่ต่อเพื่อท่องเที่ยวก็สามารถพักยังที่รับรองที่จัดเอาไว้ให้ได้ต่อเมื่อเทศกาลการเฉลิมฉลองจบลงผู้คนก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ภายในพระราชวังเองก็กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติเช่นกัน แต่ก็ใช่ว่าจะสงบสุข ผู้คนต่างให้คามสนใจท่าทีของจวนสกุลเจียง หลังจากที่ได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในวังที่เล็ดลอดออกมาสกุลมู่ไม่นับว่าตกต่ำ แม่ทัพฟ่านรุ่งเรืองเช่นไร รองแม่ทัพและเหล่านายกองก็ย่อมรุ่งเรืองตามไปด้วย สกุลเจียงคิดจะทำเช่นไรย่อมต้องดูสีหน้าสกุลมู่ให้มากเหล่าขุนนางย่อมรับรู้สถานการณ์ของสกุลเจียงมากกว่าชาวบ้าน ใต้เท้าเจียงผู้เป็นบิดาของเจียงเหิงอยู่ใต้บารมีของสกุลเถียน สนับสนุนเถียนเจาอี๋มาโดยตลอด เมื่อเถียนเจาอี๋ถูกส่งเข้าตำหนักเย็นสกุลเจียงก็พลอยต

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status