แชร์

บทที่52 เว่ยหนิง

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-12 11:40:54

ครู่หนึ่งองครักษ์หนุ่มก็เดินกลับมาที่โต๊ะโดยมีนายหญิงแห่งสกุลเว่ยและผู้ติดตามเดินตามมา

“ถวายพระพรองค์หญิง ขอพระองค์...”

“ไม่ต้องมากพิธี นั่งเถิด การประมูลจะเริ่มแล้ว” ไม่รอให้เว่ยหนิงได้ถวายพระพรจบนางก็ร้องห้ามเอาไว้พร้อมกับรินสุราไว้ให้ “ข่าวว่าตอนนี้คุณหนูรับช่วงต่อจากนายท่านเว่ยแล้ว ยินดีกับคุณหนู ไม่สิ ยินดีกับนายหญิงเว่ยด้วย”

“ขอบพระทัยเพคะ” เว่ยหนิงยังคงตอบอย่างนอบน้อม แท้จริงแล้วนิสัยใจคอของนางมิใช่คนจะอยู่ในขนบธรรมเนียมนัก แม้ว่าที่ผ่านมาองค์หญิงใหญ่ของแคว้นจะมีหลาย ๆ อย่างที่คล้ายกัน แต่เพราะนางไม่ชื่นชอบการต้องนอบน้อมและอยู่ในกฎจึงไม่คิดจะทำความรู้จักหรือคิดเป็นสหาย แม้ว่าลึก ๆ แล้วนางจะถูกชะตาองค์หญิงผู้นี้มากก็ตาม...ต้องถวายพระพรทุกครั้งก็อึดอัดแย่

“บอกแล้วอย่างไร ว่าไม่ต้องมากพิธี ที่นี่นอกวัง เจ้าไม่ต้องเรียกข้าว่าองค์หญิง คิดว่าข้าเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา ไม่ก็คุณหนูทั่วไปก็พอ”

“องครักษ์ของพระองค์เหล่านี้จะไม่ลาก

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่53 ข่าวแดนไกล

    ตามที่เฉินอันหนิงให้สัญญากับจิวหลิงเอาไว้ว่าจะส่งยอดฝีมือไปให้ นางจึงให้ท่านลุงฟู่คัดเลือกยอดฝีมือในสังกัดทั้งยังมอบหมายหน้าที่ให้เค่อซุนไปเป็นหัวหน้ากองกำลัง นัยหนึ่งก็เพราะจิวหลิงและเค่อซุนพูดคุยกันถูกคอน่าจะเข้าใจกันได้ง่าย อีกนัยหนึ่งก็เพื่อให้เค่อซุนคอยดูแลคนโง่งมให้นางวรยุทธของเขานับว่าล้ำเลิศ ใช่ว่าผู้ใดจะจัดการได้ เค่อซุนไม่อาจเทียบเคียง นางจึงไม่ได้ปรารถนาให้เค่อซุนคุ้มกันเขาจากศัตรู แต่ป้องกันจากสตรีต่างหากจะต้องไม่มีใครมาข้องแวะกับบุรุษของนาง…ไม่รู้ว่าป่านนี้คนโง่งมผู้นั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง แล้วคนของนางจะไปถึงแล้วหรือไม่“กราบทูลองค์หญิง องครักษ์เค่อซินขอเข้าเฝ้าเพคะ” เสียงจากนางกำนัลที่เข้ามารายงานเรียกให้คนที่เผลอขบคิดไปถึงคนห่างไกลได้สติกลับมาอยู่กับปัจจุบัน นางตอบรับในทันทีก่อนที่องครักษ์หนุ่มจะเข้ามาทำความเคารพ“เค่อซินถวายพระพรองค์หญิง” หลังจากโค้งคำนับผู้เป็นนายเป็นที่เรียบร้อย ผู้มีเรื่องมารายงานก็เอ่ยในทันทีโดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายสอบถาม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่54 เซวียนอ๋อง

    บุรุษหนุ่มส่ายหน้ากับตัวเองอีกครั้งก่อนจะบอกเล่า “ข้าไปเมืองจิ้งหลวนมา”“ที่แท้เจ้าไปหาช่องทางการค้ากับชาวโพ้นทะเล” แค่น้องชายบอกว่าไปที่ใดมา นางก็คาดเดาได้ น้องรองผู้นี้เสนอเรื่องการค้ากับชาวโพ้นทะเลที่มีของแปลกใหม่มาขายขึ้นมาในที่ประชุม การที่เขาหายไปและจุดหมายคือเมืองจิ้งหลวนที่เป็นเมืองท่าติดทะเล ย่อมเป็นไปได้ว่าเขาจะไปติดต่อกับชาวโพ้นทะเล“ใช่ ข้าไปหาช่องทางทำการค้ากับคนเหล่านั้น”“แล้วเป็นอย่างไร”“ข้ามองหาคนที่มีตาสีฟ้า ตามที่ท่านเคยบอกเล่า แล้วก็พูดภาษาที่ท่านสอนกับเขา แล้วเราคุยกันรู้เรื่อง” เฉินชิงเซวียนพูดแล้วก็ยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงตอนที่ตนหาผู้ที่จะเจรจาการค้าด้วย ภาษาประหลาดที่พี่สาวสั่งสอนได้นำมาใช้ในตอนนั้น และเป็นเรื่องน่าทึ่งที่คนผู้นั้นพูดภาษาประหลาดนั้นตอบโต้กับเขาได้เฉินอันหนิงยิ้มตามน้องชายคนรองในทันที ตาคู่หวานมีประกายยินดีเป็นอย่างยิ่ง ตอนแรกที่รู้ว่าชีวิตของนางเป็นแค่ส่วนหนึ่งของนิยายที่มีน้องชายคนที่สามเป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   เกริ่นนำ

    นัยน์ตาโศกทอดมองประตูตำหนักที่เปิดกว้างออกหลังจากที่ถูกปิดตายมานานนับเดือนก่อนจะเบือนหน้าหนียามที่บุรุษในชุดสีเหลืองอร่ามลายมังกรก้าวผ่านประตูนั้นมาพร้อมกับสตรีอาภรณ์สีแดงชาดประดับลายมังกร คนทั้งคู่ก็คือฮ่องเต้และฮองเฮาองค์ปัจจุบันแห่งแคว้นเฉินทว่าสำหรับเฉินอันหนิงองค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นเฉินแล้วคนทั้งคู่เป็นเพียงแค่ชายโฉด หญิงชั่วที่ปล้นบัลลังก์ของผู้อื่นเท่านั้น“ยังจองหองได้อีกเช่นนั้นหรือพี่หญิงของข้า” น้ำเสียงเย้ยหยันมากกว่าจะเป็นมิตรส่งมาก่อนที่ฮองเฮาผู้สูงศักดิ์อย่างเฉินซูเหมยจะกรีดกรายเข้ามาใกล้พี่สาวต่างมารดาที่สถานะยามนี้คืออดีตองค์หญิงแห่งราชวงค์ก่อนสายตาวาวโรจน์จ้องเขม็งไม่ปกปิดความอาฆาตแค้นพร้อม ๆ กับร้องตวาดเสียงดังลั่น “ออกไปให้ห่างจากข้า นังอสรพิษ”ยามที่น้องสาวต่างมารดาเข้ามาใกล้เฉินอันหนิงให้รู้สึกสะอิดสะเอียดจนแทบจะอาเจียน ยิ่งภาพเหตุการณ์นองเลือดที่ผ่านพ้นมาไม่นานผุดขึ้นมาในหัวนางก็ยิ่งเคียดแค้นคนตรงหน้านังงูพิษผู้นี้กับสามีชั่วข้าของมันร่วมมือกันสังหารได้กระทั่งพี่น้องสายเลือดเดียวกัน วางยาสังหารได้กระทั่งบิดา ฆ่าล้างตระกูลขุนนางไปนับสิบโดยไม่รู้สึกรู้สา นางมิใช่คน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-27
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่1 หวนคืนวันวาน

    ความอบอุ่นอันคุ้นเคยปลุกให้เฉินอันหนิงรู้สึกตัวตื่น นางลืมตาขึ้นอย่างมึนงงก่อนจะหลับตาลงอีกครั้งเพราะความหนักอึ้งที่เปลือกตา นี่คือโลกหลังความตายเช่นนั้นหรือ ไยดูคุ้นเคยยิ่ง…“เจ้าก้อนแป้งขี้เซาจะให้พ่อรออีกนานเพียงใดกัน” สุรเสียงอันคุ้นเคยและเต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นดังขึ้นจากใกล้ ๆ เรียกให้นางต้องลืมตาขึ้นอีกครั้งนั่นเสียงของเสด็จพ่อมิใช่หรือ…ไม่เพียงแค่เสียงแต่บุรุษผู้สูงศักดิ์ที่นางรักยิ่งกว่าผู้ใดยังมาอยู่ตรงหน้านางอีกด้วย ดวงตาของนางร้อนผ่าว เฉินอันหนิงแทบไม่อยากเชื่อสายตาว่าเสด็จพ่อในยามยังหนุ่มจะยิ้มอ่อนโยนอยู่เบื้องหน้านาง“เสด็จพ่อ อะ” ความปิติยินดีที่ได้พบบิดาอีกครั้งชะงักกึกยามที่เอื้อนเอ่ยเรียกออกไปทว่าเสียงที่ได้ยินกลับแปลกประหลาด“เป็นอันใดไปเจ้าก้อนแป้งน้อย ฝันร้ายหรือ เหตุใดจึงร้องไห้เล่า” เฉินไท่เสียน ฮ่องเต้แห่งแคว้นเฉินเอ่ยถามพร้อมกับยื่นพระหัตถ์อบอุ่นมาลูบศีรษะเล็ก ๆ ของธิดาองค์โตเป็นการปลอบประโลมยามที่เห็นหยดน้ำตาเม็ดโตกำลังจะไหลอาบแก้มยามพระหัตถ์คุ้นเคยของพระบิดายื่นมาสัมผัสเฉินอันหนิงทั้งสับสนและอบอุ่นในคราเดียวกัน นี่คือความอบอุ่นที่นางคุ้นเคยอย่างแน่นอย ห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-27
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่2 ต้องมิใช่

    แม้จะเป็นเรื่องมหัศจรรย์เกินกว่าจะเชื่อ และสับสนว่าเป็นจริงหรือไม่ แต่สุดท้ายเฉินอันหนิงก็ยึดเอาความคิดนี้เป็นเหตุผลอธิบายทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนางหวนกลับมาแล้ว… หวนกลับมาในวันวานที่ยังคงสงบสุขนอกจากเสด็จแม่ที่จากไปเพราะอาการเจ็บป่วย ทุกคนยังคงอยู่และเกมชิงอำนาจก็ยังมิได้เริ่ม…มีเพียงการช่วงชิงความโปรดปรานเพื่อตำแหน่งฮองเฮาที่ว่างอยู่เท่านั้นดีล่ะ ในเมื่อได้หวนกลับมาในวันคืนเก่า นางจะไม่ยอมให้เหตุการณ์มันเป็นเช่นเดิมอีกไม่มีวัน!!!นางขอเอาชีวิตใหม่เป็นเดิมพัน !“อะแฮ่ม” ปล่อยให้เงียบกันอยู่ไม่นานเฉินไท่เสียนฮ่องเต้ก็กระแอมขึ้นหลังจากที่เถียงไม่ออกมาครู่ใหญ่ บุรุษสูงศักดิ์กว่าคนทั้งแผ่นดินหันมาหาธิดาองค์โตก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนโยน “พ่อยอมรับว่าพ่อผิด เจ้าก้อนแป้งยกโทษให้พ่อได้หรือไม่ พ่อสัญญาว่าจะไม่ทำผิดต่อเจ้าอีก”เจ้าก้อนแป้งของโอรสสวรรค์ลอบสูดหายใจหนัก ๆ ทันทีที่คิดได้ว่าตนควรทำสิ่งใด นางเชิดหน้าบ่ายหนีพร้อมทั้งยกมือกอดอกอย่างเอาแต่ใจก่อนจะเอ่ยอย่างแสนงอน “หนิงเอ๋อร์ไม่ยกโทษให้เสด็จพ่อหรอกเพคะ เสด็จพ่อรักน้องคนใหม่มากกว่าหนิงเอ๋อร์”“โธ่ เจ้าก้อนแป้ง พ่อจะไปรักผู้ใดมากกว่าเจ้าได้”“แ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-27
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่3  พี่เหยียน

    ฮ่องเต้ไท่เสียนใช้เวลากับองค์หญิงใหญ่อีกเล็กน้อยและออกจากตำหนักไปเมื่อถึงเวลาประชุมเช้า พระองค์ยังต้องไปจัดการกับฎีกาอีกหลายฉบับ ไหนจะขุนนางพูดมากนั่นอีก เกิดเป็นโอรสสวรรค์นี่ช่างยากเย็นยิ่ง จะใช้เวลากับบุตรสาวทั้งวันก็มิได้“ถวายพระพรฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่น ๆ ปี” เสียงฉะฉานทว่ายังมิเข็มแข็งหนักแน่นอย่างบุรุษโตเต็มวัยดังขึ้นหลังจากที่โอรสสวรรค์ออกมานอกตำหนักขององค์หญิงได้ไม่ไกล สายตาคู่คมกริบทอดมองเจ้าหนูน้อยที่สูงกว่าเจ้าก้อนแป้งของตนไม่มากที่คุกเข่าทำความเคารพก่อนจะส่งสัญญาณให้ลุกขึ้น“มาหาเจ้าก้อนแป้งสินะ”“พะย่ะค่ะ” เด็กชายวัยแปดหนาวตอบรับอย่างไม่หลบตา โอรสสวรรค์จ้องมองท่าทีนั้นพลางพยักหน้าอย่างพอพระทัย แม้จะเป็นเพียงเด็กแต่กลับมิได้มีท่าทีเกรงกลัวต่อสิ่งใด ซ้ำท่าทียังองอาจและฉายแววเก่งกล้ามิใช่น้อย บิดาเป็นเช่นไรบุตรก็เป็นเช่นนั้น…ไม่เสียแรงที่เขาให้มาเป็นเพื่อนเล่นอยู่ข้างกายเจ้าก้อนแป้ง“เจ้าก้อนแป้งเพิ่งหายไข้ ระวังอย่าให้นางต้องลมนาน ๆ ด้วยเล่า”“กระหม่อมจะระวังพะย่ะค่ะ” ฟู่จื่อเหยียน บุตรชายของฟู่เสวียนหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรผู้ได้รับหน้าที่คอยเป็นเพื่อนเล่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-27
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่4 ที่แท้ก็...

    ฟู่จื่อเหยียนนั่งรอองค์หญิงตัวน้อยเงียบ ๆ โดนมิได้พูดจาใด ๆ โดยนิสัยใจคอแล้วคุณชายตระกูลฟู่นับว่าพูดน้อยและสุขุมกว่าเด็กชายในวัยเดียวกัน การที่คุณชายฟู่นั่งเงียบอยู่จึงมิใช่เรื่องชวนให้ประหลาดใจ ผู้ใดบ้างในตำหนักอันหนิงแห่งนี้มิทราบว่าแม้จะเป็นคุณชายที่สุขุมเช่นนี้หากแต่ยามอยู่ต่อหน้าองค์หญิงกลับอ่อนโยนและห่วงใยองค์หญิงใหญ่เป็นอย่างยิ่ง“พี่เหยียน”“อย่าวิ่งสิพะย่ะค่ะ เดี๋ยวจะทรงหกล้ม” เสียงนั้นอ่อนโยนแต่ก็แฝงความดุเล็กน้อย คล้ายกับยามที่เสด็จพ่อดุนาง องค์หญิงตัวน้อยยิ้มให้พร้อมกับบอกอย่างมั่นใจ“หนิงเอ๋อร์ไม่ล้มหรอก ไม่อย่างแน่นอน”“ทรงมั่นใจเกินไป”“คิกคิก ท่านห่วงเกินไปแล้ว หนิงเอ๋อร์ไม่ล้มหรอก” ไม่ตรัสเปล่า องค์หญิงตัวน้อยยังทรงวิ่งไปรอบ ๆ ตัวเขาอย่างนึกสนุก“โธ่”“พี่เหยียนก็มาวิ่งด้วยกันสิ มา” นิ้วเล็ก ๆ เอื้อมมาจับแขนแข็งแรงก่อนจะออกแรงให้เขาวิ่งด้วย คล้ายกับทุก ๆ วัน ราวกับเด็กไร้เดียงสาวที่ในหัวมีเพียงเรื่องการเที่ยวเล่น กินและนอน ฟู่จื่อเหยียนแม้จะห่วงพระวรกายองค์หญิงน้อยทว่าก็มิได้ขัดใจคนเพิ่งหายไข้ ยอมวิ่งเล่นเป็นเพื่อนองค์หญิงโดยไม่อิดออดองค์หญิงเพิ่งหายไข้ มิควรขัดใจ..

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-27
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่5 ไม่อาจขัดขืนชะตา

    เฉินอันหนิงล้มตัวลงนอนอีกครั้งด้วยความหงุดหงิดลึก ๆ ไยความทรงจำไม่กลับมาตั้งแต่ชาติที่แล้วเล่า จะให้นางสู้ชีวิตแต่ชีวิตสู้กลับกี่ชาติกัน!มาตอนนี้ให้นางจำได้เพื่ออะไรกัน...องค์หญิงน้อยแต่ภายในผ่านร้อนผ่าวหนาวมาแล้วถึงสองชีวิตบ่นกับตนในใจอีกหลายคำก่อนจะหลับไปอีกครั้งนางฝันอีกแล้ว หากแต่มิใช่ฝันถึงตนเองที่เป็นคะนิ้ง หรือฝันบอกเหตุดั่งเช่นในชาติที่แล้ว หากแต่เป็นเหตุการณ์ต่อจากเนื้อหาในนิยายที่อ่านค้างไว้ก่อนจะไปประชุมในฝัน...เหตุการณ์หลังจากที่องค์หญิงใหญ่ทรงสิ้นพระชนม์ไปแล้วบุรุษอาภรณ์สีดำสนิทผู้หนึ่งโอบประคองร่างไร้ลมหายใจของนางเอาไว้ ลูบไล้ใบหน้าอย่างอ่อนโยน หากแต่นางมิอาจรู้สึกใด ๆ ได้อีก“ท่านบอกว่าโตขึ้นจะแต่งให้ข้า เหตุใดจึงไม่รอข้าเล่าองค์หญิง” น้ำเสียงเจือความเจ็บปวดเอ่ยตัดพ้อกับร่างไร้ลมหายใจพร้อมกับกอดเอาไว้แน่นองค์ชายสามเฉินอี้หลงข่มน้ำตาเอาไว้มิให้หลั่งรินออกมาพลางมองด้วยความฉงน มิรู้เลยว่าเหตุใดชายผู้นี้จึงได้ผลักเขาออกและโอบกอดร่างพี่สาวของเขาเอาไว้อย่างหวงแหนเช่นนั้น ทว่าเขาเองก็มิอาจให้เป็นเช่นนี้ได้จึงกลั้นใจเอ่ยขึ้น “สหาย ข้าขอพี่สาวข้าคืนเถิด ข้าอยากให้นางได้ไปอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-27

บทล่าสุด

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่54 เซวียนอ๋อง

    บุรุษหนุ่มส่ายหน้ากับตัวเองอีกครั้งก่อนจะบอกเล่า “ข้าไปเมืองจิ้งหลวนมา”“ที่แท้เจ้าไปหาช่องทางการค้ากับชาวโพ้นทะเล” แค่น้องชายบอกว่าไปที่ใดมา นางก็คาดเดาได้ น้องรองผู้นี้เสนอเรื่องการค้ากับชาวโพ้นทะเลที่มีของแปลกใหม่มาขายขึ้นมาในที่ประชุม การที่เขาหายไปและจุดหมายคือเมืองจิ้งหลวนที่เป็นเมืองท่าติดทะเล ย่อมเป็นไปได้ว่าเขาจะไปติดต่อกับชาวโพ้นทะเล“ใช่ ข้าไปหาช่องทางทำการค้ากับคนเหล่านั้น”“แล้วเป็นอย่างไร”“ข้ามองหาคนที่มีตาสีฟ้า ตามที่ท่านเคยบอกเล่า แล้วก็พูดภาษาที่ท่านสอนกับเขา แล้วเราคุยกันรู้เรื่อง” เฉินชิงเซวียนพูดแล้วก็ยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงตอนที่ตนหาผู้ที่จะเจรจาการค้าด้วย ภาษาประหลาดที่พี่สาวสั่งสอนได้นำมาใช้ในตอนนั้น และเป็นเรื่องน่าทึ่งที่คนผู้นั้นพูดภาษาประหลาดนั้นตอบโต้กับเขาได้เฉินอันหนิงยิ้มตามน้องชายคนรองในทันที ตาคู่หวานมีประกายยินดีเป็นอย่างยิ่ง ตอนแรกที่รู้ว่าชีวิตของนางเป็นแค่ส่วนหนึ่งของนิยายที่มีน้องชายคนที่สามเป

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่53 ข่าวแดนไกล

    ตามที่เฉินอันหนิงให้สัญญากับจิวหลิงเอาไว้ว่าจะส่งยอดฝีมือไปให้ นางจึงให้ท่านลุงฟู่คัดเลือกยอดฝีมือในสังกัดทั้งยังมอบหมายหน้าที่ให้เค่อซุนไปเป็นหัวหน้ากองกำลัง นัยหนึ่งก็เพราะจิวหลิงและเค่อซุนพูดคุยกันถูกคอน่าจะเข้าใจกันได้ง่าย อีกนัยหนึ่งก็เพื่อให้เค่อซุนคอยดูแลคนโง่งมให้นางวรยุทธของเขานับว่าล้ำเลิศ ใช่ว่าผู้ใดจะจัดการได้ เค่อซุนไม่อาจเทียบเคียง นางจึงไม่ได้ปรารถนาให้เค่อซุนคุ้มกันเขาจากศัตรู แต่ป้องกันจากสตรีต่างหากจะต้องไม่มีใครมาข้องแวะกับบุรุษของนาง…ไม่รู้ว่าป่านนี้คนโง่งมผู้นั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง แล้วคนของนางจะไปถึงแล้วหรือไม่“กราบทูลองค์หญิง องครักษ์เค่อซินขอเข้าเฝ้าเพคะ” เสียงจากนางกำนัลที่เข้ามารายงานเรียกให้คนที่เผลอขบคิดไปถึงคนห่างไกลได้สติกลับมาอยู่กับปัจจุบัน นางตอบรับในทันทีก่อนที่องครักษ์หนุ่มจะเข้ามาทำความเคารพ“เค่อซินถวายพระพรองค์หญิง” หลังจากโค้งคำนับผู้เป็นนายเป็นที่เรียบร้อย ผู้มีเรื่องมารายงานก็เอ่ยในทันทีโดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายสอบถาม

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่52 เว่ยหนิง

    ครู่หนึ่งองครักษ์หนุ่มก็เดินกลับมาที่โต๊ะโดยมีนายหญิงแห่งสกุลเว่ยและผู้ติดตามเดินตามมา“ถวายพระพรองค์หญิง ขอพระองค์...”“ไม่ต้องมากพิธี นั่งเถิด การประมูลจะเริ่มแล้ว” ไม่รอให้เว่ยหนิงได้ถวายพระพรจบนางก็ร้องห้ามเอาไว้พร้อมกับรินสุราไว้ให้ “ข่าวว่าตอนนี้คุณหนูรับช่วงต่อจากนายท่านเว่ยแล้ว ยินดีกับคุณหนู ไม่สิ ยินดีกับนายหญิงเว่ยด้วย”“ขอบพระทัยเพคะ” เว่ยหนิงยังคงตอบอย่างนอบน้อม แท้จริงแล้วนิสัยใจคอของนางมิใช่คนจะอยู่ในขนบธรรมเนียมนัก แม้ว่าที่ผ่านมาองค์หญิงใหญ่ของแคว้นจะมีหลาย ๆ อย่างที่คล้ายกัน แต่เพราะนางไม่ชื่นชอบการต้องนอบน้อมและอยู่ในกฎจึงไม่คิดจะทำความรู้จักหรือคิดเป็นสหาย แม้ว่าลึก ๆ แล้วนางจะถูกชะตาองค์หญิงผู้นี้มากก็ตาม...ต้องถวายพระพรทุกครั้งก็อึดอัดแย่“บอกแล้วอย่างไร ว่าไม่ต้องมากพิธี ที่นี่นอกวัง เจ้าไม่ต้องเรียกข้าว่าองค์หญิง คิดว่าข้าเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา ไม่ก็คุณหนูทั่วไปก็พอ”“องครักษ์ของพระองค์เหล่านี้จะไม่ลาก

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่51 ที่หอพันเซียน

    บรรยากาศภายในหอพันเซียนเป็นไปอย่างคึกคัก และคึกคักมากเป็นพิเศษอันเนื่องมาจากในค่ำคืนนี้มีชายงามและสาวงานจัดประมูลค่ำคืนแรก ทั้งยังเป็นดาวเด่นของหอด้วยกันทั้งคู่ทั้งด้านบนและด้านล่างของหอพันเซียน เต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาที่มาจับจองพื้นที่เพื่อเฝ้ารอดูดาวเด่นของหอแห่งนี้เพราะสัญญาเอาไว้กับบุรุษผู้เป็นดาวเด่นองค์หญิงแห่งแคว้นจึงมาจับจองโต๊ะที่ที่มองเห็นได้ถนัดตาตั้งแต่บ่าย เพราะฟู่เสวียนได้คืนฐานะกลับไปอยู่อารักขาโอรสสวรรค์แล้วที่แห่งนี้จึงไม่มีบุรุษสวมหน้ากากอีก...มีเพียงหัวหน้าองครักษ์ฟู่ที่ติดตามองค์หญิงมาเท่านั้น“ที่นี่ไม่ว่ามาเมื่อใดก็คึกคักเสียจริง”“ไม่มีที่ใดในเมืองหลวงจะครึกครื้นเท่าหอพันเซียนอีกแล้วพะย่ะค่ะองค์หญิง” ฟู่เสวียนพูดแล้วก็คล้ายจะมีความขบขันที่ไม่แสดงออก หอพันเซียนคึกคักเช่นนี้เป็นประจำ หากกล่าวว่าเป็นที่รวมความครึกครื้นก็ว่าได้ ทั้งครึกครื้น ทั้งวุ่นวาย“แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าพวกนี้ก็ไม่ได้มีพิษมีภัยกับผู้ใด” เจ้าพวกนี้สำหรับเขาก็คือเหล่าสาวงามและชายงามในหอแห่งนี้ ที่แม้บางคร

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่50 กลับสู่ความสงบ

    ครึ่งเดือนต่อมาในที่สุดองค์หญิงอันหนิงและหานอ๋องก็เสด็จกลับถึงวังหลวงพร้อมกับกบฏเฉินจงฉีและองครักษ์ฟู่เสวียนที่ทุกคนคิดว่าตายไปแล้ว ก่อนจากกันจิวหูได้มอบยาถอนพิษไว้ให้บิดาเพื่อใช้ถอนพิษนิทราชั่วนิรันดร์ให้แก่เฉินจงฉีเมื่อต้องเข้าเฝ้าฮ่องเต้ไท่เสียน เมื่อเฉินจงฉีฟื้นคืน จึงเริ่มการตัดสิน เรื่องราวในครั้งนี้สร้างความสะเทือนใจให้ฮ่องเต้ไท่เสียนเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่อาจจะปล่อยงูพิษเอาไว้ได้คำตัดสินจึงเป็นการประทานเหล้าพิษให้เฉินจงฉีและเนรเทศผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไปยังดินแดนแร้งแค้นทางตอนใต้ มารดาของเฉินซูเหมยต้องโทษหลอกลวงเบื้องสูงถูกส่งเข้าตำหนักเย็น ส่วนตัวเฉินซูเหมยแม้จะรู้แก่ใจว่าชาติที่แล้วทำอันใดบุตรสาวอันเป็นที่รักของตนไว้บ้างแต่ฮ่องเต้ไท่เสียนก็เห็นแก่ที่เป็นหลานสาวและมีสายเลือดราชวงค์เฉินอีกทั้งยังไม่ได้ทำผิดอย่างโจ่งแจ้งจนมีหลักฐานเอาผิดจึงทำได้เพียงถอดจากการเป็นองค์หญิงห้า ขยับตำแหน่งลำดับพระโอรสธิดากลับมาเป็นเช่นก่อนหน้าที่เฉินซูเหมยจะเข้าวังแต่ก็ไม่ได้ขับไล่ให้ออกไปอยู่นอกวัง แต่กักบริเวณเอาไว้ภายในต

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่49 มิอาจอยู่ร่วม

    การมีอยู่ของน้องสาวทำให้ฟู่จื่อเหยียนผ่อนคลายลงได้หลายวันมานี้เขายิ้มให้น้องสาวและบรรดาน้องชายบุญธรรมอย่างอ่อนโยน ทว่านั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ติดใจสิ่งใดแม้กับบิดาเขาจะไม่แสดงท่าทีต่อหน้าน้องสาว แต่กับองค์หญิงผู้สูงศักดิ์...เขากลับหลบหน้าไม่ยอมพูดคุยและ...อีกไม่กี่วันเขาก็จะติดตามจิวหลิงกลับลั่วหยางนั่นหมายความว่าต่อให้ความจริงจะเปิดเผยว่าบิดาและน้อง ๆ ยังอยู่แต่เขาก็ยังไม่คิดกลับเมืองหลวง และยังจะกลับไปยังสำนักศึกษาเฟยผิงด้วยรู้ว่าจิวหลิงจัดการธุระสำเร็จแล้วและไม่เกินสองวันจะเดินทางกลับลั่วหยางจิตใจขององค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นต้าเฉินก็ไม่อาจสงบลง นางอยากสอบถามว่าเหตุใดเขาจึงไม่กลับไปกับนาง เหตุใดจึงเลือกกลับไปกับจิวหลิงหรือว่าเขาขุ่นเคืองที่ถูกปิดบังจึงไม่อยากกลับไปด้วยกันเมื่อมีความสงสัย ผู้ที่ทำอันใดผ่าเผยมาโดยตลอดจึงไม่คิดรั้งรอ เพราะเขาไม่แม้แต่พบหน้า...มีแต่ต้องบุกไปเจอเท่านั้นนัยน์ตาคู่หงส์มองไปยังทวนที่วางอยู่บนโต๊ะภายในห้องของสหายวัยเยาว์ในทันทีที่ตัดสินใจบุกรุกถึ

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่48 เป็นท่านจริง ๆ

    เมื่อจัดการคนร้ายได้สำเร็จ บรรดาองครักษ์แซ่เค่อก็ควบคุมตัวกลุ่มของเฉินจงฉีรุดหน้ากลับไปขังที่คุกในเมืองก่อน ส่วนสองพ่อลูกก็ก้าวเดินไปหาผู้ที่นั่งพักรออยู่ จิวหูไม่อาจจะเชื่อได้ว่าการที่ได้พบบิดานั้นคือความจริง เขาจึงก้าวไปหาศิษย์พี่ใหญ่ของตนซะก่อนทว่าเมื่อเดินเข้าไปผู้ที่โผมาหาเข้ากลับเป็นองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ นางเดินมาหยุดตรงหน้าเขาด้วยใบหน้าปริ่มจะร้องไห้ก่อนจะเอื้อมมือสั่นเทามาจับหน้ากากของเขาและถอดออกอย่างเบามือ“ข้าคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นท่าน พี่เหยียน” เพียงเห็นใบหน้าที่ซ่อนอยู่นางก็รับรู้ได้ในทันทีว่าใช่ ความสงสัยที่มีมาตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้เป็นไปตามที่นางคิดไม่มีผิด และ...ฝันของนางก็ไม่ผิดเช่นกัน“ไม่เสียแรงที่ข้าดั้นด้นมาทั้งที่ความฝันไม่ได้เห็นใบหน้าของท่านด้วยซ้ำ ข้ารู้อยู่แล้วว่าต้องเจอท่านที่นี่”ครั้งหนึ่งนางเคยคิดว่าได้พบหน้าสหายวัยเยาว์อีกครั้งนางก็คงไม่รู้สึกอันใดมาก คงจะคล้ายกับตอนที่ได้เจอตัวปลอมในชาติก่อน ทว่าในเวลานี้กลับไม่ใช่ กระบอกตาทั้งสองร้อนผ่าว

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่47 ไม่สนุก

    ปลายกระบี่ที่หมายจะพิฆาตยังคงพุ่งตรง ทว่าทันใดนั้นบางสิ่งบางอย่างก็พุ่งเข้ามาขัดขวางเอาไว้ เป็นทวนสงบใจที่พุ่งมาปัดกระบี่จนตกพื้น ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ในชุดสีดำสนิทราวกับเงาดำจะใช้วิชาตัวเบามาหยุดยืนขวางหน้าปิดบังร่างของเฉินซีหานเอาไว้มือข้างหนึ่งถือทวนวงเดือนรูปทรงแปลกตาเอาไว้อย่างมั่นคง สายตาคมกริบภายใต้หน้ากากจ้องมองคนเบื้องหน้าอย่างจริงจัง “อยากได้หัวของเขา ถามทวนของข้าก่อนเป็นไร”“เจ้า?” เฉินจงฉีตกใจจนเบิกตากว้างเมื่อได้เห็นว่าศิษย์อีกคนของสำนักเฟยผิงที่เลื่องชื่อมาอยู่ตรงหน้าทั้งที่คนของตนรายงานว่าไม่ได้กลับไปที่พักเมื่อเย็นวาน“พี่ใหญ่ ท่านจะเล่นบทคนไร้ประโยชน์อีกนานหรือไม่ ประเดี๋ยวหานอ๋องก็ตายพอดี” จิวหูส่งเสียงเข้มบอกคนที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น เพียงชั่วพริบตาบุรุษรูปงามก็ลุกขึ้นมาทอดถอนใจ“เฮ้อ ไม่สนุกแม้แต่นิด” จิวหลิงพึมพำก่อนจะโปรยผงสมุนไพรให้กระจายบนฟ้า และควบคุมให้ครอบคลุมทหารทุกคนที่ถูกสมุนไพรพิษ ชั่วพริบตาที่ผงร่วงหล่นลงมาและทุกคนสูดหายใจ

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่46 ออกเดินทาง

    แม้ภายในใจเฉินอันหนิงจะรู้สึกอึดอัดกับหลี่อ๋องแต่ก็ยังรักษาท่าที พูดคุยราวกับไม่มีสิ่งใดในใจก่อนจะแยกย้ายกันในที่สุด นางอ้างว่าต้องลงเขาไปเดินตลาดกับน้องชายเพื่อซื้อของเตรียมสำหรับเดินทางในเช้าวันพรุ่ง หลี่อ๋องจึงอวยพรให้นางเดินทางปลอดภัยแล้วขอตัวไปไหว้พระ“พี่ใหญ่ เหตุใดท่านบอกเสด็จอาว่าจะไปพรุ่งนี้?” เฉินซีหานสอบถามพี่สาวทันทีที่คณะของตนแยกลงเขามาแล้ว ตามกำหนดการเดิมพี่สาวจะรอให้เขาปราบโจรเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงจะเดินทางไปด้วยกันมิใช่หรือ“พี่เปลี่ยนใจแล้ว พี่จะออกเดินทางพรุ่งนี้” นางตอบเพียงเท่านั้นก่อนจะชักชวนให้น้องชายเดินเล่นในตลาดด้วยกันราวกับไม่มีเรื่องอันใดให้กังวลใจเฉินซีหานไม่ซักไซ้หรือสงสัยใด ๆ ผู้เป็นพี่ เสด็จพี่ใหญ่ของตนจะอยากไปเมื่อใดก็ย่อมไม่มีผู้ใดขัดใจนางได้อยู่แล้ว และเขาก็ไม่ได้คิดจะขัดใจ นางเดินทางต่อไม่ได้ติดตามเขาไปรังโจรย่อมเป็นสิ่งที่ดี“ว่าแต่พวกเขาจะไปกับท่านหรือไม่?” พวกเขาที่หมายถึงจิวหลิงและจิวหูที่เดินตามพวกเขามาอย่างเงียบเชียบ ไม่ไ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status