เธอยืนมองตัวเองในชุดเจ้าสาวขาวสะอาดตาสวยหรูหรา ความจริงแล้ว หากชีวิตเธอเปรียบดั่งนิยายเรื่องหนึ่ง วันนี้มันคงเดินทางมาถึงตอนจบของเรื่อง ทว่าในความเป็นจริง...มันเพิ่งเริ่มต้น การแต่งงานคือความฝันของใครหลายคน ใช่...ถ้าคู่ชีวิตของเราต่างเป็นคนที่เรารักและมีใจให้กัน ต่อให้คนผู้หญิงในชุดเจ้าสาวนี้เป็นพี่สาวเธอ เธอก็อยากให้ณัชชาได้มีโอกาสเลือกชีวิตของตัวเอง ไม่ใช่การถูกจับคลุมถุงชนแบบนี้ "คุณณัชชาคะ งานใกล้เริ่มแล้วค่ะ""อืม" เธอหันไปตอบสั้นๆ กับเจ้าของประโยคเมื่อครู่ พลางแค่นยิ้มกับตัวเองในกระจก นี่เธอต้องเล่นละครรับบทเป็นพี่สาวตัวเองจริงเหรอ? น่าขันสิ้นดีเธอเดินออกมายืนหน้าประตูห้องโถงจัดงาน โดยภายในมีเสียงพิธีคอยดำเนินการอยู่ อยู่ดีๆ ผู้หญิงคนที่เข้ามาหาเธอก่อนหน้านั้นได้วิ่งหน้าตื่นมา"คุณณัชชาคะ เอ่อ...พอดีมีบางอย่างผิดพลาดนิดหน่อย ถ้าประตูเปิดออก คุณณัชชาเดินไปรอบนเวทีก่อนเลยนะคะ""ปกติต้องเดินไปพร้อมเจ้าบ่าวไม่ใช่เหรอ?""ค่ะ แต่ว่าตอนนี้ จะ..เจ้าบ่าวยังไม่มาเลยค่ะ""เหอะ! ไร้ความรับผิดชอบสิ้นดี" เธอแค่นหัวเราะเย้นหยัน เพียงไม่กี่วินาทีต่อจากนั้นประตูไม้บานใหญ่ได้ค่อยๆ ถูกเปิดออก น
ณิชานั่งมองแม็กซ์เวลล์ซึ่งยืนสูบบุหรี่อยู่ระเบียงตรงห้องนอนด้วยอารมณ์คุกรุ่น เมื่อวานเขาเพิ่งทำเรื่องอย่างว่ากับเธอแล้วยังมีหน้ามาร่วมพิธีแต่งงาน หากทุกคนรู้ธาตุแท้ผู้ชายคนนี้ ไม่อยากคิดเลยว่าเขายังกล้าทำหน้าเหมือนทองไม่รู้ร้อนอีกไหม สิ่งหนึ่งที่เธอมั่นใจก็คือ...เธอเกลียดเขาเธอเดินเข้ามาในห้องน้ำ เอื้อมมือขึ้นมาปลดเครื่องประดับทุกชิ้นวางลงเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าลายหินอ่อน รอยสักที่เขาทิ้งเอาไว้บนร่างกาย มองทีไรมันหวนทำให้เธอนึกถึงเรื่องอัปยศที่ผู้ชายคนนั้นกระทำกับเธอไม่ได้แกร๊กเธอหันขวับ เมื่อได้ยินเสียงปลดล็อกประตูห้องน้ำ เจ้าของการกระทำอุกอาจเป็นใครไม่ได้นอกจากแม็กซ์เวลล์ "นายเข้ามาได้ยังไง""กุญแจสำรอง""ไร้มารยาท" "ว่าฉันไร้มารยาทก็ไม่ถูก อย่าลืมสิว่าฉันเป็นเจ้าของบ้าน" เขากอดอกพิงขอบประตูสนทนากับเธอด้วยโทนเสียงเรียบนิ่ง บอกตามตรง เธอเดาอะไรเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแววตาคู่นั้นที่เขามองเธอกำลังคิดอะไรอยู่ หากเป็นผู้หญิงคนอื่นอาจจะมองเขาว่าน่าค้นหา แต่สำหรับเธอคงไม่"นายควรให้เกียรติฉันในฐานะภรรยา ไม่ใช่ไร้มารยาทเหมือนที่กำลังทำอยู่""ใครสน" แม็กซ์เวลล์ตอ
เช้าวันต่อมาแสงแดดอ่อนๆ สาดส่องผ่านระเบียงห้องนอนเข้ามาตกกระทบกับร่างเปลือยเปล่าที่นอนหลับบนเตียง ณิชาส่งเสียงในลำคอเบาๆ ก่อนจะเปิดเปลือกตาออก ความรู้สึกเมื่อตื่นนอนขึ้นมาแล้วสัมผัสได้ก็คือความเจ็บตรงช่วงล่างและอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเธอฝืนความเจ็บปวดดึงศีรษะขึ้นจากหมอนใบใหญ่ นั่งพิงหัวเตียงด้วยความรู้สึกว่างเปล่า น้ำตาเริ่มไหลรินหยดลงผิวหน้าแก้มเพียงแค่นึกถึงเหตุการณ์แสนเลวร้ายเมื่อคืน แกร๊กสายตาเบือนมองเสียงปลดล็อกประตูห้องน้ำ พบว่าเป็นแม็กซ์เวลล์ในสภาพพันผ้าขนหนูผืนเดียวรอบเอวสอบ ใบหน้าเขายังคงเรียบเฉยไร้อารมณ์เช่นเคย เธอกำผ้าห่มแน่นเพื่อระบายความรู้สึกแค้นใจ "มองฉันด้วยสายตาแบบนั้น คงอยากเอาคืนฉันใจจะขาดล่ะสิ" มาเฟียหนุ่มพูดจากระแนะกระแหนใส่ณิชา นั่นยิ่งทำให้โทสะภายในใจหญิงสาวประทุรุนแรงขึ้นกว่าเดิมปึก!เธอปาหมอนใบใหญ่หมายให้โดนหน้าแม็กซ์เวลล์ ทว่าเขากลับปัดออกอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาดำขลับเริ่มฉายความน่ากลัวออกมา ก่อนจะก้าวขาขึ้นไปบนเตียงนอน เลื่อนมือขึ้นมาบีบคางเรียวเล็กจนแทบละเอียดคามือ"อื้อ!""เมื่อคืนยังไม่เข็ดใช่ไหม?""ปล่อยฉันนะแม็กซ์เวลล์!" เธอพยายามแกะมือแม็กซ์เวลล์ซึ่
เธอเดินตามแม็กซ์เวลล์เข้ามาในบริษัทยักษ์ใหญ่ใจกลางเมือง โดยมีชายชุดดำจำนวนหนึ่งคอยประกบหลังเพื่อรักษาความปลอดภัย เคยได้ยินชื่อบริษัทเขา แต่ไม่เคยได้มาเยือนสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ย่ำก้าวเข้ามาภายในถูกตกแต่งสวยหรู พนักงานยิ้มแย้มดูเป็นมิตร ไม่แปลกใจเลยทำไมบริษัทเขาถึงเป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ นักลงทุนหลายคนต่างอยากร่วมทำธุรกิจกับแม็กซ์เวลล์ นั่งอยู่เฉยๆ ไม่ต้องพยายามอะไรมากมาย ก็มีเหล่านักลงทุนติดต่อมาหาด้วยตัวเอง"สวัสดีค่ะคุณณัชชา ยินดีต้อนรับสู่บริษัทเอ็มซีกรุ๊ปนะคะ" พนักงานคนหนึ่งเข้ามาทักทาย ระหว่างกำลังยืนรอลิฟต์ เธอส่งยิ้มให้เจ้าของใบหน้าเป็นมิตรสองคน ไม่ทันได้เริ่มต้นสนทนาด้วย ประตูลิฟต์ก็ถูกเปิดออก ทำให้เธอต้องรีบก้าวเท้าตามแม็กซ์เวลล์เข้าไป"เธอไม่ควรทำตัวสนิทกับพนักงานให้มาก""ทำไม""เพราะเธอเป็นเจ้านายพวกเขา""แล้วยังไง ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้ อีกอย่าง ถ้าอยากได้ใจพวกเขา นายก็ควรให้ใจกับพวกเขาก่อน" แม็กซ์เวลล์หันหน้ามามองณิชาโดยไม่พูดตอบโต้อะไร ทิ้งให้ประโยคนั้นของเธอตัดบทสนทนาลง ไม่นานนักประตูลิฟต์ก็เปิดออกเมื่อถึงชั้นเป้าหมาย"ถามจริงๆ เถอะ นายให้ฉันมาบริษั
หลังจากได้ฟังณิชาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น แม็กซ์เวลล์บอกวินซ์เรียกพนักงานกลุ่มนั้นมาหา การที่พนักงานจับกลุ่มนินทาภรรยาของเขา เท่ากับหยามหน้าและไม่ให้เกียรติเขาซึ่งเป็นเจ้านายสายตาคมเข้มจ้องมองพนักงานสี่คนซึ่งยืนก้มหน้า ความเงียบของแม็กซ์เวลล์พลอยทำให้ภายในห้องทำงานเต็มไปด้วยความอึดอัดและตึงเครียด ณิชานั่งมองแม็กซ์เวลล์สลับพนักงานสี่คน เธอรู้ดีว่าจุดจบของคนกลุ่มนี้คืออะไร...ถูกไล่ออก นั่นแหละคือสิ่งที่แม็กซ์เวลล์จะทำ ตอนแรกที่ตัดสินใจยอมบอกเขา เพราะคิดว่าเขาคงไม่สนใจ แต่ที่ไหนได้กลับไม่ใช่ เขาบอกว่าการที่พนักงานกลุ่มนี้นินทาเธอ เท่ากับหยามหน้าและไม่ให้เกียรติเขาซึ่งอยู่ในฐานะสามี"วินซ์ เอาใบลาออกมาให้สี่คนนี้เขียน" "ครับนาย""ยะ...อย่าไล่พวกเราออกเลยนะคะท่านประธาน พวกเราสัญญาว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก""ใช่ค่ะ ได้โปรดอย่าไล่พวกเราออกเลยนะคะ พวกเราสำนึกผิดแล้วจริงๆ""ก่อนทำไม่คิด พอตอนนี้คิดได้ ไม่สายไปหน่อยเหรอ หืม?" มาเฟียหนุ่มกอดอกเอ่ยถามแล้วเอนตัวพิงพนักโซฟาพลางตวัดไขว้ห้างกัน "พวกเราคิดน้อยเรื่องนี้เกินไป พวกเราขอโทษค่ะ ครั้งหน้าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ได้โป
@ร้านอาหารแห่งหนึ่ง"สวัสดีค่ะท่านประธาน เชิญทางนี้เลยค่ะ" ผู้จัดการร้านอาหารออกมาต้อนรับแม็กซ์เวลล์และณิชาด้วยตัวเอง เอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร ก่อนจะเดินนำทั้งสองคนมายังโต๊ะอาหารณิชายื่นเมนูอาหารคืนให้พนักงาน มองแม็กซ์เวลล์อย่างพิจารณา เคยได้ยินข่าวว่าเขากำลังเรียนมหาลัยอยู่ปีสุดท้าย แต่ทำไมถึงกลับกลายเป็นนักธุรกิจไปได้ "อยากถามอะไร" เขาดึงสายตามามองณิชา ที่เอาแต่นั่งจ้องมองเขามาสองนาน"นายไม่ได้เรียนมหาลัยแล้วเหรอ""ลาออกมานานแล้ว" เขาประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะไม่อยากทำสองอย่างพร้อมกันเลยเลือกออกมาดูแลธุรกิจตัวเอง ทางครอบครัวไม่ได้ว่า แต่กลับสนับสนุนและคอยซัพพอร์ต ได้ยินมาว่านายประสบความสำเร็จตั้งแต่เรียนไฮสคูลที่ต่างประเทศ จริงเหรอ?""อืม""แล้วนายเคยมีแฟนมาก่อนรึเปล่า" "มีแต่เมีย" แม็กซ์เวลล์ตอบกลับเสียงเรียบ ทำใบหน้าร้อนสวยหวานของณิชาร้อนฉ่าขึ้นมา ทว่ากลับต้องรีบดึงสติตัวเองกลับคืน เพราะคนที่แม็กซ์เวลล์หมายถึงคือพี่สาวเธอ"ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"เขาพยักหน้าให้เธอ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาอ่านแชตกลุ่มไลน์ของตัวเองและเพื่อนสนิท ช่วงนี้ค่อนข้างยุ่งเลยไม่ค่อยมีเวล
วันต่อมาณิชาเดินถือถาดอาหารเช้ามายังมุมสระว่ายน้ำของบ้านตามคำสั่งแม็กซ์เวลล์ เธอวางถาดอาหารลงโต๊ะแล้วมองไปยังเขาซึ่งกำลังว่ายน้ำอยู่ ไม่นานนักร่างหนาก็โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ สองมือเสยผมเปียกปอนไปข้างหลัง ก่อนจะเบือนใบหน้ามาทางเธอในเวลาต่อมาท่อนบนเปลือยเปล่า แน่นขนัดไปด้วยมัดกล้ามเนื้อไร้ไขมันส่วนเกิน หยาดน้ำเกาะแพรวพราวช่วยเพิ่มเสน่ห์และดึงดูดเพศตรงข้ามได้ดีไม่น้อย เธอเผลอชื่นชมหุ่นอันเพอร์เฟกต์ของแม็กซ์เวลล์ในใจ ก่อนจะดึงสติตัวเองกลับคืน"มากินข้าวสิ"มาเฟียหนุ่มเดินขึ้นจากสระว่ายน้ำ หยิบเสื้อคลุมสีขาวมาสวมใส่แล้วหย่อนสะโพกลงนั่ง สิ่งแรกที่เขาหยิบไปก็คือ...กาแฟดำ "แล้วของเธอล่ะ""ฉันยังไม่ค่อยหิว...อ๊ะ!" เธอร้องอุทานเสียงหลง เมื่อถูกเขารั้งเอวบางให้ลงมานั่งบนตัก "นะ...นายคิดจะทำอะไร""กินข้าว""บอกแล้วไงว่าไม่ค่อยหิว" โครก~ทันทีที่พูดจบ ท้องเจ้ากรรมก็ดันร้องโครกครากขึ้นมาอย่างรู้งาน "กินข้าว""ก็บอกว่า...""หรือจะให้ป้อนเอง?" ณิชาหันขวับมองแม็กซ์เวลล์อย่างไม่พอใจเท่าไร เขาเลื่อนมือไปจับส้อมจิ้มไส้กรอกรมควัน ก่อนจะจ่อมายังปากเธอ"ฉันกินเอง" เธอแย่งส้อมที่จิ้มไส้กรอกรมควันจากแม็กซ์เ
"อื้อ! จะไปไหน~" แม็กซ์เวลล์วางณิชาลงเตียงนอน แต่ทว่าเธอกลับคว้าแขนเขาเอาไว้ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหย่อนยาน"อาบน้ำ""ไม่ให้ไป" ณิชาดึงเขาลงมานั่ง "เมาแล้วก็นอน""ใครเมา? ฉันไม่ได้เมาสักหน่อย" พูดจบก็ผลุนผลันลุกขึ้น นั่งมองแม็กซ์เวลล์ด้วยใบหน้าหงิกงอ ก่อนจะฟาดกำปั้นลงแผงอกแกร่งของมาเฟียหนุ่มหนึ่งที "คนนิสัยไม่ดี ให้อยู่สนุกต่อกับเพื่อนอีกนิดนึงก็ไม่ได้""เธอเมามากแล้ว""ก็บอกว่าไม่ได้เมาไง" "สภาพตอนนี้ยืนได้โดยไม่เซก็ดีเท่าไรแล้ว""งั้นนายคอยดูนะว่าฉันเมาหรือไม่เมา" เธอเหวี่ยงขาทั้งสองลงจากเตียงนอน ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืนให้แม็กซ์เวลล์ดู เมื่อตัวเองยืนได้โดยไม่เซ ก็เริ่มพูดอวดอีกฝ่ายทันที "เห็นไหมว่าฉันยืนตรง เชื่อรึยังว่าไม่ได้...อ๊ะ!"จังหวะที่ณิชาเดินเข้ามาหาแม็กซ์เวลล์ หมายจะใช้มือจับหน้าเขา แต่ดันขาอ่อนเซล้มใส่เขาเสียอย่างนั้น ทำให้ริมฝีปากสีระเรื่อสัมผัสลงปากมาเฟียหนุ่ม ณิชารีบผลุนผลันออกจากตัวสามี ทว่ากลับถูกเขาล็อกเอวบางเอาไว้"เมาขนาดนี้ยังบอกว่าตัวเองไม่ได้เมาอีก""ปล่อยฉันนะ""เธอล้มมาใส่ฉันเอง""มันเป็นอุบัติเหตุ""เมาก็ยอมรับหน่อย" "ตัวนายนุ่มจัง คืนนี้ขอนอนบนตัวนายแทนที่น
หลายวันต่อมา"อื้อ...ทำอะไรของพี่เนี่ย" ชายหนุ่มที่กำลังนอนหลับอยู่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย เมื่อโดนคนตัวเล็กเข้ามาปลุกโดยวิธีการจุ๊บแก้มซ้ำหลายๆ รอบ เธอมักเข้ามาปลุกเขาแบบนี้ทุกเช้า"ตื่นเร็วเช้าแล้ว" "ขอนอนต่ออีกห้านาทีนะ ผมเพลียมากเลย" คนฟังทำหน้านิ่ว ทุกครั้งที่เข้ามาปลุก เจเลอร์มักพูดแบบนี้เสมอและห้านาทีสำหรับเขาก็ไม่เคยมีอยู่จริง "ถ้านายไม่ตื่นฉันจะแอบหนีกลับไปกินข้าวที่คอนโดฉันนะ" ในเมื่อปลุกดีๆ ไม่ยอมตื่น ก็ต้องงัดไม้นี้ออกมาใช้ เจเลอร์เริ่มปรือตาขึ้นมาอย่างยากลำบากเมื่อคนรักขู่ตัวเองด้วยวิธีแบบนี้เหมือนทุกครั้ง "ทำไมชอบเอาเรื่องนี้มาขู่อยู่เรื่อยเลย""จะสิบโมงแล้ว ขืนให้นายนอนต่อไม่รู้ว่าเที่ยงจะตื่นไหม""ก็คนมันง่วงนิ""เมื่อคืนนายบอกว่าจะทำแค่รอบเดียวแต่นี่ปาไปตีสอง กว่าจะได้นอนจริงๆ ก็เกือบตีสาม ไม่แปลกหรอกที่นายจะง่วง"เธอเริ่มบ่นให้เจเลอร์ เมื่อคืนบทรักของเขาลากยาวมาถึงตีสอง กว่าจะทำความสะอาดร่างกายแล้วนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยระหว่างหลับก็ปาไปเกือบตีสามแล้วพอเช้ามาทำเป็นบ่นว่าง่วงนอน"ไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันแล้วมากินข้าว อาหารที่ฉันสั่งไปมาส่งแล้ว""รับทราบครับคุณเม
สามวันต่อมา"รู้สึกยังไงบ้างที่มีผู้ชายโพสต์รูปลงไอจี" ณิชาที่กำลังเดินคล้องแขนดรีมเลือกซื้อของบนห้างสรรพสินค้าเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม "เดี๋ยวเขาก็ลบออกไปเองแหละ""การที่ผู้ชายทำแบบนี้ฉันว่ามันชัดเจนแล้วนะว่าเจเลอร์อะ เขาคิดเหมือนกันกับแก""แต่ว่าเขาไม่เคยพูดว่ารู้สึกยังไงกับฉัน" เธอพูดตัดพ้อออกมา"เมื่อก่อนเฮียแม็กซ์ก็เป็นเหมือนเจเลอร์ เขาไม่เคยพูดว่ารู้สึกยังไงกับฉัน คนรอบข้างฉันบอกว่า เฮียแม็กซ์เป็นประเภทที่การกระทำชัดเจนกว่าคำพูด นานเหมือนกันกว่าเขาจะยอมสารภาพว่าคิดยังไงกับฉัน""ฉันไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าเจเลอร์จะคิดเหมือนกันกับฉัน" แม้การกระทำเขาจะชัดเจน แต่เธอก็ยังอยากได้ยินคำๆ นั้นจากปากของเขาเพื่อยืนยันว่าเขาคิดแบบเดียวกันกับเธอจริงๆแค่การกระทำมันวัดไม่ได้หรอกว่าเขาจะรักเธอ"ตอนแรกฉันก็คิดเหมือนกับเธอ ไม่อยากเข้าข้างตัวเองเหมือนกัน แต่เชื่อเถอะว่าสักวันเธอจะใจอ่อนให้เจเลอร์โดยไม่รู้ตัว" ณิชาพูดแล้วอมยิ้มกริ่ม ตอนแรกที่ดรีมเล่าเรื่องเจเลอร์มาหลอกเธอโกรธมาก แต่พอได้ฟังดรีมเล่าจนจบเธอก็อดคิดไม่ได้ว่าเจเลอร์อาจจะมีใจให้ดรีมจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่ลงทุนโพสต์รูปเพื่อนสนิทเธอลงอินสต
เช้าวันต่อมาแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอนสี่เหลี่ยมหรูกระทบเข้ากับเจ้าของใบหน้าสวยหวานที่กำลังนอนหลับปุ๋ยบนเตียง เปลือกตาสีขาวค่อยๆ ปรือขึ้นมาอย่างยากลำบากเพราะมีแสงแดดกำลังแยงตา เธอดึงตัวเองขึ้นจากหมอนใบใหญ่พลางมองไปรอบห้องนอน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่คือคอนโดของเจเลอร์ แล้วเธอก็นอนที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้าเธอเลิกคิ้วขึ้นสูงเมื่อสายตาสะดุดเข้ากับแขนเสื้อเชิ้ต พอก้มมองสำรวจตัวเองถึงรู้ว่าเธอไม่ได้สวมชุดราตรีที่ใส่ไปร่วมงานการกุศลเมื่อคืน แกร๊ก"ตื่นแล้วเหรอ""อืม" เธอตอบสั้นๆ ในลำคอ"พี่ไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วกินข้าวสิ ผมทำข้าวต้มไว้ให้""นายทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ""ทำเป็นบางอย่าง ถ้าวันไหนไม่มีของในตู้เย็นหรือขี้เกียจทำก็ลงไปซื้อข้างล่างมากิน""เมื่อคืนนายเป็นคนเปลี่ยนชุดให้ฉันเหรอ""ใช่ ผมกลัวว่าพี่จะนอนไม่สบายตัวเลยเปลี่ยนให้"พอรู้ว่าเขาเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ใบหน้าก็เริ่มร้อนเห่อขึ้นมา เธอไม่พูดอะไรต่อจากนั้น เหวี่ยงเท้าทั้งสองลงสัมผัสพื้นเย็นเฉียบก่อนจะเดินไปยังห้องน้ำ หญิงสาวใช้เวลาล้างหน้าและแปรงฟันไม่ถึงสิบนาทีก็เสร็จ ร่างบางเดินออกมาจากห้องนอน สายตาจ้องมองเจเ
เธอปลีกตัวจากเจเลอร์มาเข้าห้องน้ำเพราะไม่ว่าจะเดินไปทางไหนเขาก็เอาแต่เดินตามราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปไหน หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จเธอก้าวออกมาล้างมือ ก่อนจะหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดมือแล้วทิ้งลงถังขยะจังหวะกำลังเดินออกไปเป็นต้องชะงัก เมื่อพิตต้า อดีตแฟนเก่าของเจเลอร์ได้เดินเข้ามาในห้องน้ำพอดี เธอและพิตต้ามองหน้ากัน แววตาอีกฝ่ายแสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบเธอ"เดี๋ยวสิ" เสียงของพิตต้าทำให้ดรีมที่กำลังก้าวออกไปชะงักเท้าทั้งสองข้าง "...." เธอหมุนตัวกลับมาหาพิตต้าโดยไม่พูดอะไรกลับอีกฝ่าย"เธอเป็นอะไรกับเจเลอร์" "ไม่ได้เป็นอะไรกัน""ใส่สร้อยประจำตระกูลเขาบนคอขนาดนั้น แน่ใจเหรอว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน" พิตต้าพูดแล้วปรายสายตามองสร้อยประจำตระกูลที่คล้องบนคอของดรีม ขนาดเธอเป็นแฟนคนแรกของเจเลอร์ยังไม่เคยได้แตะต้อง ผิดกับดรีม"เขาให้ฉันใส่เอง""ถอดมันออกซะ" "ทำไมฉันต้องทำตามที่เธอบอกด้วย หรือกำลังใช้สิทธิ์ของอดีตแฟนเก่าสั่งฉัน""แค่เขายอมให้เธอใส่สร้อยนั่น อย่าคิดว่าเขาจะรักเธอ""ต่อให้เขาไม่รักฉัน อีกไม่นานฉันกับเขาก็ต้องแต่งงานกันอยู่ดี ให้ส่งบัตรเชิญไปให้ไหม?""หมายความว่ายังไง" พิตต้าถอดสีหน้าเมื่อได้ยิ
เธอกลับมาคอนโดด้วยสภาพไม่ค่อยสู้ดีเท่าไร ร่างบางทรุดฮวบนั่งลงเตียงนอนราวคนหมดแรง ภาพเหตุการณ์ที่ผ่านมาก่อนหน้านั้นลอยวนในหัวถึงตอนนี้จนพลอยทำให้รู้สึกเจ็บแปลบที่ก้อนเนื้อข้างซ้าย'ตลอดเวลาที่ผ่านมา...นายเคยรักฉันบ้างไหม''ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมคิดอะไรกับพี่'เป็นเธอสินะที่คิดเองมาโดยตลอดว่าเจเลอร์จะมีใจให้ เธอคิดเข้าข้างตัวเองทั้งนั้น ไม่น่าคาดหวังอะไรจากเขาเลย ยิ่งคาดหวังมาก...ยิ่งผิดหวังมากเธอเลื่อนมือขึ้นมาปาดน้ำตาที่ไหลกลิ้งลงมาบนแก้มออก เรื่องที่ทำให้เธอเสียใจมากที่สุดไม่ใช่เรื่องโดนปฏิเสธ แต่เป็นเรื่องที่เขาเข้าหาเธอเพื่อหวังล่าแต้มเก็บคะแนน แล้วเขาก็ทำสำเร็จ ไม่โทษเขาหรอก เพราะเธอมันโง่เองที่ดูเจเลอร์ไม่ออกครืด ครืด~เสียงโทรศัพท์ช่วยฉุดรั้งเธอออกจากภวังค์ความคิด พอเห็นว่าเป็นมีนาโทรมาจึงรีบจัดการกับความรู้สึกแล้วปัดหน้าจอเพื่อรับสาย"ว่าไงมีนา"(แกอยู่ไหน กลับแล้วเหรอ?)"อืม ใช่ ฉันรู้สึกปวดหัวนิดหน่อยเลยกลับมาพัก"(พวกฉันก็นึกว่าแกหายไปไหน)"ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกก่อน"(ไม่เป็นไร กินยาแล้วพักผ่อนเถอะ ฉันขอไปสนุกต่อก่อน)เธอวางสายลงจากมีนาแล้วพาตัวเองเดินเข้าไปอาบน้ำเพื่อเตรี
ภายในรถหรูของเจเลอร์ถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ ดรีมลอบมองคนข้างกายเป็นระยะด้วยความเป็นห่วง เธอเข้าใจเขาดีว่าการเผชิญหน้ากับอดีตที่แสนเจ็บปวดนั้นมันรู้สึกยังไง เธอเลือกที่จะไม่พูดอะไรจนกว่าอารมณ์ของเจเลอร์จะกลับมาคงที่เหมือนเดิมเธอดึงสายตาจากวิวนอกกระจกมามองเจเลอร์ ซึ่งเลื่อนมือมาจับมือเธอไปกุมไว้บนตักเขา เธอมองต่ำมายังมือที่ประสานกันเป็นหนึ่งพร้อมหัวใจที่ไหววูบ"ขอจับมือได้ไหม""อืม นายโอเคขึ้นแล้วใช่ไหม""ทำไมผมต้องไม่โอเคด้วย" เขาถามกลับพร้อมเบือนใบหน้าไปมองดรีม ก่อนจะดึงสายตากลับไปมองถนนแล้วเอ่ยอีกประโยค "พี่เป็นห่วงผมเหรอ""ใครบอกว่าฉันเป็นห่วงนาย""แววตาพี่มันฟ้องผมแบบนั้น""ก็แค่แววตาที่ใช้มอง จะอะไรนักหนา" "หึ เป็นห่วงก็แค่ยอมรับมาตรงๆ ไม่เห็นต้องโกหกเลย" เธอไม่ตอบอะไรเจเลอร์กลับ เอื้อมมือที่เหลืออีกข้างไปเปิดเพลงฟัง อย่างน้อยอาจทำให้คนข้างๆ ผ่อนคลายลงจากเรื่องก่อนหน้านี้"พี่รู้รึยังว่างานแต่งงานของเราถูกเลื่อนเข้ามาแล้วนะ""อะไรนะ?" "ตอนพี่กำลังซื้อของ พ่อผมโทรมาบอกว่าจะเลื่อนงานแต่งเข้ามา""เมื่อไหร่""อีกสองเดือน""ไหนตอนแรกว่าบอกปีหน้าไง""ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน พวกท่านคงคิ
วันต่อมาดรีมปรือดวงตาขึ้นมาอย่างยากลำบากหลังจากนอนหลับมาหลายชั่วโมง เธอมองข้างกายที่ว่างเปล่า ก่อนจะค่อยๆ ดึงตัวเองขึ้นแล้วมองหาเจเลอร์ เวลาบนผนังห้องบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว"หรือจะตื่นแล้ว" เธอพึมพำออกมาคนเดียว จากนั้นเหวี่ยงขาทั้งสองลงสัมผัสพื้นเย็นแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวดวงตากลมโตมองสะท้อนตัวเองผ่านกระจกตรงหน้า เธออยู่ในชุดของเจเลอร์และรอยต่างๆ บนคอก็เป็นฝีมือเขาทั้งนั้น หลังจากทำอะไรเสร็จเรียบร้อยเตรียมเดินออกมา ประตูห้องน้ำก็ได้ถูกเปิดโดยเจเลอร์แกร๊ก"อยู่นี่เองนึกว่าหายไปไหน""มีอะไรเหรอ?"เจเลอร์ยิ้มแล้วเดินเข้ามาหาดรีมที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า เขาใช้สองมือยันขอบเคาน์เตอร์เพื่อขังหญิงสาวไว้ในอ้อมแขน"ผมนึกว่าพี่แอบหนีกลับไปแล้ว""ฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ" "ถึงว่าทำไมตัวพี่หอมจัง" "ฉันว่านายเริ่มเหมือนโรคจิตเข้าไปทุกวันแล้วนะ""หึ" เจเลอร์ระบายยิ้ม ก่อนจะเลื่อนมือมาเชยคางมนขึ้นให้สบตา จากนั้นค่อยๆ โน้มใบหน้าลงไปหาแล้วใช้ริมฝีปากสัมผัสลงหน้าผากบาง เคลื่อนมาหอมแก้มทั้งสองข้าง และจบลงที่ริมฝีปากสีระเรื่อ "ทำไมพี่น่ารักขนาดนี้""อารมณ์ไหนมาชมก
เจเลอร์เอาแต่นั่งมองหญิงสาวตรงหน้าทานอาหารเงียบๆ โดยไม่พูดจาอะไร ความเงียบของเขาพลอยทำให้ดรีมรู้สึกอึดอัดและเสียความเป็นตัวเองในเวลาเดียวกัน เธอเงยหน้าขึ้นมองเจเลอร์ แล้วเอ่ยถาม"นายมีอะไรรึเปล่า ทำไมถึงเอาแต่มองหน้าฉัน""แค่คิดไม่ถึงว่าคนที่ผมต้องแต่งงานด้วย จะเป็นพี่""ฉันเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน""ผมอิ่มแล้ว เรากลับกันเถอะ""แต่ว่านายยังไม่ได้กินสักคำเลย" "เพราะผมรอกินพี่อยู่ไง" คำตอบของเจเลอร์ทำให้ดรีมชะงัก หัวใจดวงเล็กพันกระตุก เธอสบตากับเขา นัยน์ตาสีดำของเขาไม่ต่างจากเสือร้ายที่กำลังเฝ้ามองเหยื่อเพื่อรอตะครุบชายหนุ่มรุ่นน้องดึงตัวเองขึ้นจากเก้าอี้ เข้ามาดึงตัวหญิงสาวขึ้นแล้วเดินออกจากห้องอาหาร ดรีมพยายามแกะมือเจเลอร์ที่พันธนาการข้อมือตัวเองออก ทว่ากลับไม่เป็นผล"เจเลอร์ ปล่อยฉันนะ""กลับกับผม""ไม่เป็นไร ฉันมีคนขับรถอยู่""บอกเขาว่าผมจะเป็นส่ง" "แต่...""คืนนี้พี่ต้องโดนลงโทษ" เขาพูดโดยไม่สบตากับดรีม สองเท้าตวัดเดินมายังลานจอดรถของโรงแรมแล้วพบเข้ากับคนขับรถของดรีม "เดี๋ยวฉันไปส่งเธอเอง""ได้ครับ" คนขับรถของดรีมตอบรับเจเลอร์ไปอย่างง่ายดาย เจเลอร์พาดรีมมายังรถหรูราคาแพงของตน ท
หลายชั่วโมงต่อมาแก่นกายขนาดใหญ่กระตุกหงึกหงักภายในร่องรักคับแคบ น้ำเชื้อจากชายหนุ่มพุ่งกระจายใส่เครื่องป้องกันทุกหยาดหยดพร้อมเสียงครางหนักแน่น เจเลอร์เลื่อนมือมาถอนแก่นกายออก เนื้อตัวเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อจากการร่วมรักกับหญิงสาวดรีมนอนหายใจหอบเหนื่อย บทรักที่บรรเลงมาหลายชั่วโมงทำให้เธอหมดแรง ผิดกับเจเลอร์ เขายังดูปกติ ราวกับร่างกายทำจากเหล็ก "อ๊ะ! นะ...นายจะพาฉันไปไหน" เอ่ยถามด้วยความตกใจ อยู่ดีๆ เจเลอร์ก็ช้อนร่างเธอในท่าเจ้าสาว"พาไปล้างตัว""ไม่ต้อง เดี๋ยวฉัน...""อย่าดื้อ" เสียงเข้มปรามกลับมา ทำให้ดรีมนิ่งลง ดวงตากลมโตช้อนมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลา ไม่อยากเชื่อเลยว่าหลายชั่วโมงที่ผ่านมาเธอจะยอมให้เจเลอร์เป็นผู้ชายคนแรกของเธอ พอยาปลุกเซ็กซ์หมดฤทธิ์ กลับรู้สึกเขินอายและวางตัวกับเขาไม่ถูกเสียอย่างนั้นเจเลอร์วางเธอลงในอ่างอาบน้ำหรู โดยเขาเองก็เข้ามานั่งซ้อนข้างหลัง หัวใจเธอเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อก้นตัวเองสัมผัสกับสิ่งนั้นของเขา "อันที่จริงฉันทำเองก็ได้นะ""ผมเห็นพี่เหนื่อย เลยอยากอาบน้ำให้""....""ผมทำแรงไปไหม" คำถามของเจเลอร์ ทำให้ดรีมไปต่อไม่ถูก ใบหน้าขาวเนียนค่อยๆ แดงระเรื่อขึ้นมาด้วย